Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ 81 เริ่มการล่า 2

Now you are reading Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ Chapter 81 เริ่มการล่า 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 81 เริ่มการล่า 2

“ม่าย!!!!” โดยไม่รู้ตัวน้ำตาของคังเสวี่ยก็เอ่อล้นออกมาจากดวงตาขอเธอในขณะที่เธอร้องไห้ออกมาอย่างไม่เต็มใจ ชายผู้นี้เป็นผู้ช่วยชีวิตของเธอแต่ตอนนี้เขาก็ได้ตายไปแล้ว

ถ้าฉันยอมวิ่งตามคนอื่นไป… ถ้าฉัน… เธอเสียใจกับการตัดสินใจที่โง่เขลาของเธอหลังจากดูการต่อสู้ ดังเสวี่ยก็เข้าใจได้ทันทีว่าเธอนั้นเป็นภาระของชายคนนั้นถ้าเธอไม่อยู่ที่นี่บางทีชายคนนั้นก็อาจจะยังไม่ตายอย่างไรก็ตามตอนนี้เขาก็ได้ตายไปแล้ว

“ทําไมนายถึงไม่ปล่อยให้ฉันตายล่ะ? ทําไมนายถึงต้องมาปกป้องฉันด้วย?”นั้นคือสิ่งที่เธอคิดขณะมองดูเคียวที่แทงเข้าไปที่หลังของชายคนนั้น

อย่างไรก็ตาม ในวินาทีถัดมา เสียงที่ฟังดูรําคาญก็ดังขึ้นมาจากทิศทางของชายคนนั้น“ทําไมเธอถึงต้องมาดราม่าขนาดนี้ด้วย ฉันยังสบายดีนังโง่นั่งหงส์อัปลักษณ์!”

ถังเส้าหยางแกว่งแขนขวาไปด้านหลังขณะที่หมุนตัวไปรอบๆจากนั้นดาร์คก็อบลิ นทั้งห้าก็ถูกจับและโยนกระแทกไปทางขวาด้วยแขนขวาของเขาก็อบลินทั้งห้ากอง ซ้อนกันทางด้านซ้าย

[ ขวานคลั่ง ]

เขาเปิดใช้งานสกิลของเขาและขวานทั้งสองก็บินไปยังก๊อบลินที่กองซ้อนกันอยู่ห้าตัว

สาด!

[ ขวานคลั่ง ]ฆ่าก็อบลินได้เพียงแค่สามตัวแรกเท่านั้น ก็อบลินทั้งสามตัวถูกนั่นเป็นสามส่วนด้วยขวาน

จากนั้นถึงเส้หยางก็เคลื่อนไปหยิบขวานศึกขึ้นมา เนื่องจากเขาต่อสู้กับพวกมันในระยะพื้นที่ที่จํากัด ดังนั้นเขาจึงจับไปที่ตรงกลางด้ามขวานศึกเพื่อที่เขาจะได้สามารถใช้เดสทรอยเยอร์ได้อย่างอิสระแม้จะมีพื้นที่จํากัดก็ตาม

เมื่อหยิบมันขึ้นมาได้แล้ว ยังเส้าหยางก็ยกและสับมันลงไปที่ก็อบลินทั้งสองตัวที่เหลืออยู่

กระเด็น!

ก็อบลินผู้น่าสงสารทั้งสองถูกผ่าออกเป็นสองซีก เลือดสาดกระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง พื้นกระเบื้องสีน้ำเงินตอนนี้ได้ถูกปกคลุมไปด้วยเลือดของก็อบลิน

เคียวมรณะเจ็ดจากสิบสองถูกฆ่าตายไปแล้ว ถึงเส้หยางเดินออกจากบันไดจุกเฉินโดยไม่หันกลับมามอง “อยู่ตรงนั้นแหละ นังโงงี่เง่าอัปลักษณ์!”เขาไม่ลืมเตือนหญิงสาวให้ก้าวออกจากบันไดฉุกเฉิน

แม้ว่าจะมีคําว่าโงงี่เง่าและอัปลักษณ์เป็ชื่อ แต่เธอก็มีความสุขอยู่ลึกๆ เมื่อกี้เธอคิดว่าเคียวทั้งห้าจะแทงทะลุแผ่นหลังของเขาไปยังหัวใจของเขาแล้ว แต่ตอนนี้เธอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

เคียวทั้งห้ายังคงห้อยอยู่บนหลังของเขา อย่างไรก็ตาม ใบมีดของเคียวก็เจาะเข้าไปได้เพียงสองนิ้วเท่านั้น

ในขณะนี้ คังเสวี่ยก็ไม่สนใจแล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับชายคนนี้ไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนไปเป็นอะไร มันก็ไม่สําคัญสําหรับเธออีกต่อไปแล้วสิ่งที่สําคัญคือชายคนนั้นลอดภัยดีแม้ว่าเธอจะกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บที่หลังของเขาอยู่ก็ตาม

และเนื่องจากชายคนนั้นบอกให้เธออยู่ข้างหลัง ดังนั้นเธอก็จะเชื่อฟังคําพูดของเขาและอยู่ข้างหลัง

หลังจากฆ่าก็อบลินไปเจ็ดตัว อีกห้าตัวที่เหลือก็ยังไม่แสดงตัว พวกมันซ่อนตัวอยู่ในความมืดถังเส้หยางกําเดสทรอยเยอร์เอาไว้ในมือขณะเดินไปรอบๆโรงอาหาร

สิ่งหนึ่งที่เขาได้เรียนรู้หลังจากกลับเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งก็คือ เขาไม่สามารถมองเห็นพวกก็อบลินได้ด้วยตาของเขา แต่เขาสามารถได้ยินเสียงเล็กน้อยได้เมื่อพวกก็อบลินใช้สกิลของพวกมันสกิลนี้คือสกิลที่ทําให้พวกมันล่องหนและเขาก็คิดว่ามันน่าจะเป็นสกิลที่ได้มาจากคลาสของพวกมัน

เขาจดจ่ออยู่กับการได้ยินมากกว่าการมองเห็น ถังเส้หยางหลับตาลงช้าๆและสิ่งนี้ก็ทําให้เขาประหลาดใจ เขาได้ยินเสียงหายใจของหญิงสาวที่อยู่ข้างหลังเขา

คังเสวี่ยไม่รู้ว่าชายคนนั้นทําอะไรในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศที่เงียบสงบและมืดมิดก็ทําให้การหายใจของเธอถี่ขึ้นเล็กน้อย เธอหายใจออกและสูดอากาศเร็วขึ้นซึ่งเกิดจากความประหม่า

เกมแห่งความอดทน นั่นคือสิ่งที่ตั้งเส้าหยางกําลังท่าอยู่ในตอนนี้ เขาต้องอดทนที่จะฆ่าก็อบลินที่เหลืออยู่

สิบวินาทีผ่านไป…

ยี่สิบวินาทีผ่านไป…

ในวินาทีที่สามสิบ หูของเขาก็กระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินการเคลื่อนไหว

‘สองจากซ้าย หนึ่งจากบน และอีกหนึ่งจากขวา… หนึ่งตัวหายไป…เขานับในใจขณะลืมตาขึ้นพร้อมๆกัน

[ สงครามร่ำไห้ ]

ถังเส้หยางใช้สกิลของเขาเมื่อเขาตรวจพบการเคลื่อนไหว เสียงสิงโตคารามดังสนั่นออกมาจากปากของถังเส้าหยาง เสียงคํารามนี้ทําให้ผนังและพื้นสั่นสะเทือนเล็กน้อย
ในเวลาเดียวกัน ก็อบลินทั้งห้าก็ได้แสดงตัวออกมา หรือไม่บางที่สกิลของพวกมันก็อาจจะถูกยกเลิกโดยผลของ [ สงครามร่าไห้ ] ของถังเส้หยางเขารู้สึกยินดีกับความประหลาดใจนี้และโดยไม่เสียเวลเขาเหวี่ยงเดสทรอยเยอร์ออกไปทางก็อบลินทั้งห้าเมื่อถึงตอนนี้เขาก็ได้รู้ว่ามันยังมีก็อบลินอีกตัวที่อยู่ด้านบนแต่ที่สุดแล้วมันก็อยู่ในระยะของเขาพอดี

ด้วยการเหวี่ยงเดสทรอยเยอร์เพียงครั้งเดียว ถังเส้าหยางก็

สามารถสังหารก็อบลินทั้งห้าตัวลงได้สําเร็จ

[ คุณได้เลเวลอัพแล้ว! ]

[ คุณได้รับคะแนนค่าคุณสมบัติ 2 คะแนน! ]

[ คุณสามารถจัดสรรคะแนนค่าคุณสมบัติได้โดยการเปิดหน้าจอค่าสถานะ! ]

แม้น้ำเสียงของเสียงหุ่นยนต์จะฟังดูเย็นชา แต่มันก็ทําให้ถึงเส้หยางยิ้มออกมาในขณะที่เขาชูมือขึ้น “ใช่แล้ว ที่รัก อัพเลเวล …”

“อ๊ย!”

การแสดงความยินดีหยุดลงกลางคันเมื่อความเจ็บปวดรวดร้าวปรากฎขึ้นที่แผ่นหลังของเขา เขาเพิ่งรู้ว่าเคียวทั้งห้ายังคงห้อยอยู่บนหลังของเขา เขาเอื้อมมือไปที่เคียวและดึงมันออกมาในทันที

“อย่า…!” คังเสวี่ยตะโกนขึ้นอย่างกะทันหัน แต่กระนั้นเธอก็ยังสายเกินไปถึงเส้าหยางได้ดึงพวกมันออกมาจากหลังของเขาแล้ว

“อะไร?” ถึงเส้หยางหันกลับมา

“คุณดึงมันออกมาทําไม?” เธอเข้ามาใกล้ในขณะที่เธอพยายามจะดูแผลที่หลัง

ของเขา

“แน่นอน ฉันต้องดึงมันออกสิ! ก็มันติดอยู่บนหลังของฉันนี่!” เขาไม่เข้าใจว่าทําไมหงส์ขี้เหล่คนนี้จึงพยายามห้ามไม่ให้เขาดึงเคียวออกมันเจ็บปวดเมื่อคุณมีสิ่งเหล่านั้นบนหลังของคุณดังนั้นเพื่อกําจัดความเจ็บปวดนั้นเขาจึงต้องดึงสิ่งเหล่านั้นออกมาจากหลังของเขา

“เราต้องเตรียมอะไรมารักษาบาดแผลและห้ามเลือด” เธอหันความสนใจไปที่หลังของถังเส้าหยาง “ดูสิ มันมีเลือดออกเยอะเลย เราต้องดูแลบาดแผลในตอนนี้ไม่อ่างนั้นคุณก็อาจจะเสียเลือดจนตายก็ได้!”เธอตรวจดูบาดแผลด้วยความห่วงใย

“ไม่เป็นไร! ฉันแข็งแกร่งจะตาย!” ถึงเส้าหยางโบกมืออย่างสบายๆ

“เธอควรไป รวมกลุ่มกับคนอื่นๆนะ หรืออย่างน้อยก็ออกไปจากโรงพยาบาลซะ!”

“การล่าเริ่มต้นขึ้น!

เนื่องจาก [ สงครามร่ำไห้ ] สามารถยกเลิกสกิลหายตัวของเคียวมรณะได้ดังนั้นถังเส้าหยางจึงสามารถฆ่าเคียวมรณะก่อนหน้านี้ได้ และมันก็ทําให้เขาเลเวลอัพขึ้นมาหนึ่งเลเวล ด้วยเหตุนี้เองถึงเส้าหยางจึงคาดว่าหากเขาสามารถฆ่าพวกมันทั้ง 88 ตัวได้มันก็อาจจะทําให้เขาเลเวลอัพขึ้นมาอีกสามเลเวล

[ มินิเกมโหมดปกติ ]

วัตถุประสงค์ :

1. ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตในพื้นที่โรงพยาบาล 31 ผู้รอดชีวิต 2. สังหารเคียวมรณะทั้งหมด (76)

หมายเหตุ: หากบรรลุวัตถุประสงค์ทั้งสองสาเร็จ คุณจะได้รับรางวัลโบนัส!

การล้มเหลว:

1. ผู้รอดชีวิตทั้งหมดตาย 2. ผู้เข้าร่วมทั้งหมดเสียชีวิต

หมายเหตุ: มินิเกมโหมดปกติไม่ได้ให้บทโทษแก่คุณ
รางวัล:

1. หีบสมบัติเลเวล 7 สําหรับผู้เข้าร่วมที่รอดตายแต่ละคน 2. +20 คะแนนสกิล 3. +3 เลเวล 4. 100,000 GC สําหรับผู้เข้าร่วมที่รอดตายแต่ละคนและ 100,000 GC สําหรับสังกัดของคุณหากคุณมีสังกัด 5. รางวัลโบนัสแบบสุ่มหากคุณทําสําเร็จทั้งสองวัตถุประสงค์

ระยะเวลา: ไม่จํากัดเวลา!

จากนั้นเขาก็ตรวจสอบความคืบหน้าของวัตถุประสงค์มันมีเคียวมรณะตายไปแล้ว 12 ตัวดังนั้นมันจึงเหลือเคียวมรณะเพียง 76 ตัวเท่านั้น

“ผู้รอดชีวิตอีก 10 คนและเคียวมรณะ 76 ตัว!”

ในขณะเดียวกันที่ด้านนอกโรงพยาบาล ว่านจึงยี่เข้ารับตําแหน่งแทนถึงเส้าหยางชั่วคราวมันไม่มีใครคัดค้านอะไรเมื่อเห็นว่ามีข้าวจงและฉินซิ่วซ่านสนับสนุนเธอ

“ดูเหมือนว่าเขาจะยังสบายดีนะ!” เสียงคํารามดังมาจากข้างในโรงพยาบาลและเมื่อฟังจากเสียงคําราม เธอก็สามารถบอกได้ว่าที่มาของเสียงครามนั่นก็คือบอสของเธอถังเส้าหยาง ในตอนแรกพวกเขาก็กังวลเรื่องควมปลอดภัยของถังเส้าหยางอย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าเขายังมีแรงตะโกนทุกคนจึงยังเชื่อว่าเขายังสบายดี

“รออีกสิบนาที ถ้าเขาไม่กลับมา เราก็จะกลับเข้าไปในโรงพยาบาล! เราจะเริ่มภารกิจช่วยเหลือผู้รอดชีวิตอีกสิบคน และฆ่าเคียวมรณะทั้งหมด!”จากนั้นว่ายจึงยี่ก็หันไปทางผู้รอดชีวิตที่พวกเขาเพิ่งช่วยไว้“มีใครรู้จักแผนผังของโรงพยาบาลไหม”

ก่อนที่ผู้รอดชีวิตคนใดจะทันได้ตอบเธอ หนึ่งในทีมของเธอก็คัดค้านขึ้นมาว่า “เราจะกลับเข้าไปจริงๆหรอ? มันเหมือนกับการฆ่าตัวตายเลยนะเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบอสยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วในตอนนี้?”

หลังจากนั้นทุกคนก็จับจ้องไปที่ชายคนนั้น เขาเป็นหนึ่งในยี่สิบคนจากกลุ่ม “ทาส” มันมีสองคนเสียชีวิตไปแล้วก่อนหน้านี้และพวกเขาก็ยังต้องการให้เขาเข้าไปในโรงพยาบาลอีกครั้ง? ไม่มีทางเขาไม่ต้องการที่จะเอาชีวิตของเขาเข้าไปเสี่ยงอีกแล้ว

เนื่องจากกลุ่มทาสนั้นไม่เคยมีโอกาสได้ไปสัมผัสกับการโจมตีของฝูงซอมบี้สองฝูงใหญ่ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่เข้าใจว่าการเอาชีวิตไปเสี่ยงที่แท้จริงนั้นเป็นยังไง

“อะไรกัน ฉันผิดหรอ? เราจะฆ่าสิ่งที่เรามองไม่เห็นได้ยังไงกัน?” การเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจนั้นท่าให้ผู้ชายคนนั้นกังวลเขาลุกขึ้นและตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว

“ถ้าแกไม่อยากเข้าไปในโรงพยาบาล งั้นฉันก็จะฟื้นคอของแกด้วยดาบของฉันนี้แหละ!” ฉินซิ่วซ่านที่เงียบอยู่เสมอยืนขึ้นเขาจับไปที่ด้ามดาบในขณะที่เขาพร้อมที่จะชักดาบออกมาเขาดูทจริงจังกับค่าพูดของเขา

จ้าวจงเองก็ยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เขาพร้อมที่จะสนับสนุนฉินชั่วซานเช่นกัน

ผู้ชายคนนั้นถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว เขาถูกคนสองคนข่มขู่จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆในขณะที่เขาพยายามมองหาเพื่อนที่จะช่วยเหลือเขา เขาเชื่อว่ามันจะต้องไม่ใช่แค่เขาคนเดียวแน่ๆที่กลัวสิ่งที่อยู่ในโรงพยาบาลอย่างไรก็ตามทุกคนก็หลบสายตาของเขา มันไม่มีใครเต็มใจที่จะท้าทายคนสําคัญทั้งสามคนของฐาน

ว่านจึงยี่ก้าวเข้ามาในขณะที่เธอป้องกันไม่ให้สองคนนี้บ้าคลั่งและเริ่มการสังหารหมู่ เธอเดินไปหาชายผู้ที่กล่าวคัดค้านการเข้าไปในโรงพยาบาล“ถ้าเราไม่เข้าไปในโรงพยาบาลเราก็จะไม่บรรลุวัตถุประสงค์อย่างงั้นแล้วเราจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไง?” เธอชี้ไปที่ทางเข้าที่ถูกขวางอยู่

“ยิ่งไปกว่านั้น อย่าลืมสถานะของนาย! นายยอมรับมันแล้ว! นายมีหน้าที่แค่ทําตามคําสั่ง! นายเข้าใจไหม” ว่านจึงยี่หยุดอยู่เหนือผู้ชายคนนั้นสิ่งนี้ทําให้เขาไม่กล้าที่จะสบตาเธอ

ชายคนนั้นหลีกเลี่ยงการสบตากับว่านจึงยี่ในขณะที่เขาก้มศีรษะลงเขาไม่กล้าแม้แต่จะตอบคําถามของเธอ

“นายเข้าใจแล้วใช่ไหม?” ว่านจึงยถามซ้ำอีกครั้ง

“เข้าใจแล้วครับ..” ชายคนนั้นพยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง

“ดี!” จากนั้นว่านจึงยก็หันกลับมา เธอเดินกลับไปหาผู้รอดชีวิต “มีใครในพวกคุณที่รู้แผนผังของโรงพยาบาลไหมถ้ารู้ก็โปรดยกมือขึ้น!”

ฉินซัวซานและจาวจงเองก็มองตามสายตาของว่านจึงยี่ ด้วยเหตุผลบางอย่างเหล่าผู้รอดชีวิตที่ถูกข่มขู่โดยสายตาก็ค่อยๆยกมือขึ้นทีละคน

“ดี! ถ้าอย่างนั้นก็บอกเรามาเราจะเริ่มการล่าในอีกสิบนาที!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ 81 เริ่มการล่า 2

Now you are reading Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ Chapter 81 เริ่มการล่า 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 81 เริ่มการล่า 2

“ม่าย!!!!” โดยไม่รู้ตัวน้ำตาของคังเสวี่ยก็เอ่อล้นออกมาจากดวงตาขอเธอในขณะที่เธอร้องไห้ออกมาอย่างไม่เต็มใจ ชายผู้นี้เป็นผู้ช่วยชีวิตของเธอแต่ตอนนี้เขาก็ได้ตายไปแล้ว

ถ้าฉันยอมวิ่งตามคนอื่นไป… ถ้าฉัน… เธอเสียใจกับการตัดสินใจที่โง่เขลาของเธอหลังจากดูการต่อสู้ ดังเสวี่ยก็เข้าใจได้ทันทีว่าเธอนั้นเป็นภาระของชายคนนั้นถ้าเธอไม่อยู่ที่นี่บางทีชายคนนั้นก็อาจจะยังไม่ตายอย่างไรก็ตามตอนนี้เขาก็ได้ตายไปแล้ว

“ทําไมนายถึงไม่ปล่อยให้ฉันตายล่ะ? ทําไมนายถึงต้องมาปกป้องฉันด้วย?”นั้นคือสิ่งที่เธอคิดขณะมองดูเคียวที่แทงเข้าไปที่หลังของชายคนนั้น

อย่างไรก็ตาม ในวินาทีถัดมา เสียงที่ฟังดูรําคาญก็ดังขึ้นมาจากทิศทางของชายคนนั้น“ทําไมเธอถึงต้องมาดราม่าขนาดนี้ด้วย ฉันยังสบายดีนังโง่นั่งหงส์อัปลักษณ์!”

ถังเส้าหยางแกว่งแขนขวาไปด้านหลังขณะที่หมุนตัวไปรอบๆจากนั้นดาร์คก็อบลิ นทั้งห้าก็ถูกจับและโยนกระแทกไปทางขวาด้วยแขนขวาของเขาก็อบลินทั้งห้ากอง ซ้อนกันทางด้านซ้าย

[ ขวานคลั่ง ]

เขาเปิดใช้งานสกิลของเขาและขวานทั้งสองก็บินไปยังก๊อบลินที่กองซ้อนกันอยู่ห้าตัว

สาด!

[ ขวานคลั่ง ]ฆ่าก็อบลินได้เพียงแค่สามตัวแรกเท่านั้น ก็อบลินทั้งสามตัวถูกนั่นเป็นสามส่วนด้วยขวาน

จากนั้นถึงเส้หยางก็เคลื่อนไปหยิบขวานศึกขึ้นมา เนื่องจากเขาต่อสู้กับพวกมันในระยะพื้นที่ที่จํากัด ดังนั้นเขาจึงจับไปที่ตรงกลางด้ามขวานศึกเพื่อที่เขาจะได้สามารถใช้เดสทรอยเยอร์ได้อย่างอิสระแม้จะมีพื้นที่จํากัดก็ตาม

เมื่อหยิบมันขึ้นมาได้แล้ว ยังเส้าหยางก็ยกและสับมันลงไปที่ก็อบลินทั้งสองตัวที่เหลืออยู่

กระเด็น!

ก็อบลินผู้น่าสงสารทั้งสองถูกผ่าออกเป็นสองซีก เลือดสาดกระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง พื้นกระเบื้องสีน้ำเงินตอนนี้ได้ถูกปกคลุมไปด้วยเลือดของก็อบลิน

เคียวมรณะเจ็ดจากสิบสองถูกฆ่าตายไปแล้ว ถึงเส้หยางเดินออกจากบันไดจุกเฉินโดยไม่หันกลับมามอง “อยู่ตรงนั้นแหละ นังโงงี่เง่าอัปลักษณ์!”เขาไม่ลืมเตือนหญิงสาวให้ก้าวออกจากบันไดฉุกเฉิน

แม้ว่าจะมีคําว่าโงงี่เง่าและอัปลักษณ์เป็ชื่อ แต่เธอก็มีความสุขอยู่ลึกๆ เมื่อกี้เธอคิดว่าเคียวทั้งห้าจะแทงทะลุแผ่นหลังของเขาไปยังหัวใจของเขาแล้ว แต่ตอนนี้เธอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

เคียวทั้งห้ายังคงห้อยอยู่บนหลังของเขา อย่างไรก็ตาม ใบมีดของเคียวก็เจาะเข้าไปได้เพียงสองนิ้วเท่านั้น

ในขณะนี้ คังเสวี่ยก็ไม่สนใจแล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับชายคนนี้ไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนไปเป็นอะไร มันก็ไม่สําคัญสําหรับเธออีกต่อไปแล้วสิ่งที่สําคัญคือชายคนนั้นลอดภัยดีแม้ว่าเธอจะกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บที่หลังของเขาอยู่ก็ตาม

และเนื่องจากชายคนนั้นบอกให้เธออยู่ข้างหลัง ดังนั้นเธอก็จะเชื่อฟังคําพูดของเขาและอยู่ข้างหลัง

หลังจากฆ่าก็อบลินไปเจ็ดตัว อีกห้าตัวที่เหลือก็ยังไม่แสดงตัว พวกมันซ่อนตัวอยู่ในความมืดถังเส้หยางกําเดสทรอยเยอร์เอาไว้ในมือขณะเดินไปรอบๆโรงอาหาร

สิ่งหนึ่งที่เขาได้เรียนรู้หลังจากกลับเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งก็คือ เขาไม่สามารถมองเห็นพวกก็อบลินได้ด้วยตาของเขา แต่เขาสามารถได้ยินเสียงเล็กน้อยได้เมื่อพวกก็อบลินใช้สกิลของพวกมันสกิลนี้คือสกิลที่ทําให้พวกมันล่องหนและเขาก็คิดว่ามันน่าจะเป็นสกิลที่ได้มาจากคลาสของพวกมัน

เขาจดจ่ออยู่กับการได้ยินมากกว่าการมองเห็น ถังเส้หยางหลับตาลงช้าๆและสิ่งนี้ก็ทําให้เขาประหลาดใจ เขาได้ยินเสียงหายใจของหญิงสาวที่อยู่ข้างหลังเขา

คังเสวี่ยไม่รู้ว่าชายคนนั้นทําอะไรในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศที่เงียบสงบและมืดมิดก็ทําให้การหายใจของเธอถี่ขึ้นเล็กน้อย เธอหายใจออกและสูดอากาศเร็วขึ้นซึ่งเกิดจากความประหม่า

เกมแห่งความอดทน นั่นคือสิ่งที่ตั้งเส้าหยางกําลังท่าอยู่ในตอนนี้ เขาต้องอดทนที่จะฆ่าก็อบลินที่เหลืออยู่

สิบวินาทีผ่านไป…

ยี่สิบวินาทีผ่านไป…

ในวินาทีที่สามสิบ หูของเขาก็กระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินการเคลื่อนไหว

‘สองจากซ้าย หนึ่งจากบน และอีกหนึ่งจากขวา… หนึ่งตัวหายไป…เขานับในใจขณะลืมตาขึ้นพร้อมๆกัน

[ สงครามร่ำไห้ ]

ถังเส้หยางใช้สกิลของเขาเมื่อเขาตรวจพบการเคลื่อนไหว เสียงสิงโตคารามดังสนั่นออกมาจากปากของถังเส้าหยาง เสียงคํารามนี้ทําให้ผนังและพื้นสั่นสะเทือนเล็กน้อย
ในเวลาเดียวกัน ก็อบลินทั้งห้าก็ได้แสดงตัวออกมา หรือไม่บางที่สกิลของพวกมันก็อาจจะถูกยกเลิกโดยผลของ [ สงครามร่าไห้ ] ของถังเส้หยางเขารู้สึกยินดีกับความประหลาดใจนี้และโดยไม่เสียเวลเขาเหวี่ยงเดสทรอยเยอร์ออกไปทางก็อบลินทั้งห้าเมื่อถึงตอนนี้เขาก็ได้รู้ว่ามันยังมีก็อบลินอีกตัวที่อยู่ด้านบนแต่ที่สุดแล้วมันก็อยู่ในระยะของเขาพอดี

ด้วยการเหวี่ยงเดสทรอยเยอร์เพียงครั้งเดียว ถังเส้าหยางก็

สามารถสังหารก็อบลินทั้งห้าตัวลงได้สําเร็จ

[ คุณได้เลเวลอัพแล้ว! ]

[ คุณได้รับคะแนนค่าคุณสมบัติ 2 คะแนน! ]

[ คุณสามารถจัดสรรคะแนนค่าคุณสมบัติได้โดยการเปิดหน้าจอค่าสถานะ! ]

แม้น้ำเสียงของเสียงหุ่นยนต์จะฟังดูเย็นชา แต่มันก็ทําให้ถึงเส้หยางยิ้มออกมาในขณะที่เขาชูมือขึ้น “ใช่แล้ว ที่รัก อัพเลเวล …”

“อ๊ย!”

การแสดงความยินดีหยุดลงกลางคันเมื่อความเจ็บปวดรวดร้าวปรากฎขึ้นที่แผ่นหลังของเขา เขาเพิ่งรู้ว่าเคียวทั้งห้ายังคงห้อยอยู่บนหลังของเขา เขาเอื้อมมือไปที่เคียวและดึงมันออกมาในทันที

“อย่า…!” คังเสวี่ยตะโกนขึ้นอย่างกะทันหัน แต่กระนั้นเธอก็ยังสายเกินไปถึงเส้าหยางได้ดึงพวกมันออกมาจากหลังของเขาแล้ว

“อะไร?” ถึงเส้หยางหันกลับมา

“คุณดึงมันออกมาทําไม?” เธอเข้ามาใกล้ในขณะที่เธอพยายามจะดูแผลที่หลัง

ของเขา

“แน่นอน ฉันต้องดึงมันออกสิ! ก็มันติดอยู่บนหลังของฉันนี่!” เขาไม่เข้าใจว่าทําไมหงส์ขี้เหล่คนนี้จึงพยายามห้ามไม่ให้เขาดึงเคียวออกมันเจ็บปวดเมื่อคุณมีสิ่งเหล่านั้นบนหลังของคุณดังนั้นเพื่อกําจัดความเจ็บปวดนั้นเขาจึงต้องดึงสิ่งเหล่านั้นออกมาจากหลังของเขา

“เราต้องเตรียมอะไรมารักษาบาดแผลและห้ามเลือด” เธอหันความสนใจไปที่หลังของถังเส้าหยาง “ดูสิ มันมีเลือดออกเยอะเลย เราต้องดูแลบาดแผลในตอนนี้ไม่อ่างนั้นคุณก็อาจจะเสียเลือดจนตายก็ได้!”เธอตรวจดูบาดแผลด้วยความห่วงใย

“ไม่เป็นไร! ฉันแข็งแกร่งจะตาย!” ถึงเส้าหยางโบกมืออย่างสบายๆ

“เธอควรไป รวมกลุ่มกับคนอื่นๆนะ หรืออย่างน้อยก็ออกไปจากโรงพยาบาลซะ!”

“การล่าเริ่มต้นขึ้น!

เนื่องจาก [ สงครามร่ำไห้ ] สามารถยกเลิกสกิลหายตัวของเคียวมรณะได้ดังนั้นถังเส้าหยางจึงสามารถฆ่าเคียวมรณะก่อนหน้านี้ได้ และมันก็ทําให้เขาเลเวลอัพขึ้นมาหนึ่งเลเวล ด้วยเหตุนี้เองถึงเส้าหยางจึงคาดว่าหากเขาสามารถฆ่าพวกมันทั้ง 88 ตัวได้มันก็อาจจะทําให้เขาเลเวลอัพขึ้นมาอีกสามเลเวล

[ มินิเกมโหมดปกติ ]

วัตถุประสงค์ :

1. ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตในพื้นที่โรงพยาบาล 31 ผู้รอดชีวิต 2. สังหารเคียวมรณะทั้งหมด (76)

หมายเหตุ: หากบรรลุวัตถุประสงค์ทั้งสองสาเร็จ คุณจะได้รับรางวัลโบนัส!

การล้มเหลว:

1. ผู้รอดชีวิตทั้งหมดตาย 2. ผู้เข้าร่วมทั้งหมดเสียชีวิต

หมายเหตุ: มินิเกมโหมดปกติไม่ได้ให้บทโทษแก่คุณ
รางวัล:

1. หีบสมบัติเลเวล 7 สําหรับผู้เข้าร่วมที่รอดตายแต่ละคน 2. +20 คะแนนสกิล 3. +3 เลเวล 4. 100,000 GC สําหรับผู้เข้าร่วมที่รอดตายแต่ละคนและ 100,000 GC สําหรับสังกัดของคุณหากคุณมีสังกัด 5. รางวัลโบนัสแบบสุ่มหากคุณทําสําเร็จทั้งสองวัตถุประสงค์

ระยะเวลา: ไม่จํากัดเวลา!

จากนั้นเขาก็ตรวจสอบความคืบหน้าของวัตถุประสงค์มันมีเคียวมรณะตายไปแล้ว 12 ตัวดังนั้นมันจึงเหลือเคียวมรณะเพียง 76 ตัวเท่านั้น

“ผู้รอดชีวิตอีก 10 คนและเคียวมรณะ 76 ตัว!”

ในขณะเดียวกันที่ด้านนอกโรงพยาบาล ว่านจึงยี่เข้ารับตําแหน่งแทนถึงเส้าหยางชั่วคราวมันไม่มีใครคัดค้านอะไรเมื่อเห็นว่ามีข้าวจงและฉินซิ่วซ่านสนับสนุนเธอ

“ดูเหมือนว่าเขาจะยังสบายดีนะ!” เสียงคํารามดังมาจากข้างในโรงพยาบาลและเมื่อฟังจากเสียงคําราม เธอก็สามารถบอกได้ว่าที่มาของเสียงครามนั่นก็คือบอสของเธอถังเส้าหยาง ในตอนแรกพวกเขาก็กังวลเรื่องควมปลอดภัยของถังเส้าหยางอย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าเขายังมีแรงตะโกนทุกคนจึงยังเชื่อว่าเขายังสบายดี

“รออีกสิบนาที ถ้าเขาไม่กลับมา เราก็จะกลับเข้าไปในโรงพยาบาล! เราจะเริ่มภารกิจช่วยเหลือผู้รอดชีวิตอีกสิบคน และฆ่าเคียวมรณะทั้งหมด!”จากนั้นว่ายจึงยี่ก็หันไปทางผู้รอดชีวิตที่พวกเขาเพิ่งช่วยไว้“มีใครรู้จักแผนผังของโรงพยาบาลไหม”

ก่อนที่ผู้รอดชีวิตคนใดจะทันได้ตอบเธอ หนึ่งในทีมของเธอก็คัดค้านขึ้นมาว่า “เราจะกลับเข้าไปจริงๆหรอ? มันเหมือนกับการฆ่าตัวตายเลยนะเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบอสยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วในตอนนี้?”

หลังจากนั้นทุกคนก็จับจ้องไปที่ชายคนนั้น เขาเป็นหนึ่งในยี่สิบคนจากกลุ่ม “ทาส” มันมีสองคนเสียชีวิตไปแล้วก่อนหน้านี้และพวกเขาก็ยังต้องการให้เขาเข้าไปในโรงพยาบาลอีกครั้ง? ไม่มีทางเขาไม่ต้องการที่จะเอาชีวิตของเขาเข้าไปเสี่ยงอีกแล้ว

เนื่องจากกลุ่มทาสนั้นไม่เคยมีโอกาสได้ไปสัมผัสกับการโจมตีของฝูงซอมบี้สองฝูงใหญ่ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่เข้าใจว่าการเอาชีวิตไปเสี่ยงที่แท้จริงนั้นเป็นยังไง

“อะไรกัน ฉันผิดหรอ? เราจะฆ่าสิ่งที่เรามองไม่เห็นได้ยังไงกัน?” การเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจนั้นท่าให้ผู้ชายคนนั้นกังวลเขาลุกขึ้นและตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว

“ถ้าแกไม่อยากเข้าไปในโรงพยาบาล งั้นฉันก็จะฟื้นคอของแกด้วยดาบของฉันนี้แหละ!” ฉินซิ่วซ่านที่เงียบอยู่เสมอยืนขึ้นเขาจับไปที่ด้ามดาบในขณะที่เขาพร้อมที่จะชักดาบออกมาเขาดูทจริงจังกับค่าพูดของเขา

จ้าวจงเองก็ยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เขาพร้อมที่จะสนับสนุนฉินชั่วซานเช่นกัน

ผู้ชายคนนั้นถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว เขาถูกคนสองคนข่มขู่จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆในขณะที่เขาพยายามมองหาเพื่อนที่จะช่วยเหลือเขา เขาเชื่อว่ามันจะต้องไม่ใช่แค่เขาคนเดียวแน่ๆที่กลัวสิ่งที่อยู่ในโรงพยาบาลอย่างไรก็ตามทุกคนก็หลบสายตาของเขา มันไม่มีใครเต็มใจที่จะท้าทายคนสําคัญทั้งสามคนของฐาน

ว่านจึงยี่ก้าวเข้ามาในขณะที่เธอป้องกันไม่ให้สองคนนี้บ้าคลั่งและเริ่มการสังหารหมู่ เธอเดินไปหาชายผู้ที่กล่าวคัดค้านการเข้าไปในโรงพยาบาล“ถ้าเราไม่เข้าไปในโรงพยาบาลเราก็จะไม่บรรลุวัตถุประสงค์อย่างงั้นแล้วเราจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไง?” เธอชี้ไปที่ทางเข้าที่ถูกขวางอยู่

“ยิ่งไปกว่านั้น อย่าลืมสถานะของนาย! นายยอมรับมันแล้ว! นายมีหน้าที่แค่ทําตามคําสั่ง! นายเข้าใจไหม” ว่านจึงยี่หยุดอยู่เหนือผู้ชายคนนั้นสิ่งนี้ทําให้เขาไม่กล้าที่จะสบตาเธอ

ชายคนนั้นหลีกเลี่ยงการสบตากับว่านจึงยี่ในขณะที่เขาก้มศีรษะลงเขาไม่กล้าแม้แต่จะตอบคําถามของเธอ

“นายเข้าใจแล้วใช่ไหม?” ว่านจึงยถามซ้ำอีกครั้ง

“เข้าใจแล้วครับ..” ชายคนนั้นพยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง

“ดี!” จากนั้นว่านจึงยก็หันกลับมา เธอเดินกลับไปหาผู้รอดชีวิต “มีใครในพวกคุณที่รู้แผนผังของโรงพยาบาลไหมถ้ารู้ก็โปรดยกมือขึ้น!”

ฉินซัวซานและจาวจงเองก็มองตามสายตาของว่านจึงยี่ ด้วยเหตุผลบางอย่างเหล่าผู้รอดชีวิตที่ถูกข่มขู่โดยสายตาก็ค่อยๆยกมือขึ้นทีละคน

“ดี! ถ้าอย่างนั้นก็บอกเรามาเราจะเริ่มการล่าในอีกสิบนาที!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+