Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ 86 ล่าหรือถูกล่า 5

Now you are reading Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ Chapter 86 ล่าหรือถูกล่า 5 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 86 ล่าหรือถูกล่า 5

ถังเส้หยางและคังเสวี่ยขึ้นไปที่หอพักชั้นบน

ปัง

“มีใครอยู่ข้างในนั้นไหม?” ถังเส้หยางพังประตูและตะโกนลั่น ประตูพังทลายด้วยขวานศึกของเขา และเขาก็ทําแบบนี้กับห้องทุกห้องที่เขาเจอ

คังเสวี่ยมองไปที่ชายคนนั้นอย่างแปลกใจ เขาบอกเธอว่าพวกเขากําลังตามหาผู้รอดชีวิตเพิ่ม และเขาก็บอกเธอว่ามันยังเหลือผู้รอดชีวิตอีก 10 คน

อย่างไรก็ตาม ในความคิดเธอ หากมันมีคนมาตามหาเธอแบบนี้ เธอก็คงจะไม่ยอมออกมาเช่นกัน

หลังจากตรวจสอบห้องทั้งหมดบนชั้น 7, 8 และ 9 แล้ว พวกเขาก็ยังไม่พบสิ่งมีชีวิตเลยแม้แต่ตัวเดียว มันไม่มีแม้แต่ซอมบี้สักตัว

ด้วยเหตุผลบางอย่าง สิ่งนี้ก็ทําให้เธอลดความระมัดระวังลง พวกเขาเดินลงไปพร้อมกันในขณะที่เธอเดินตามชายคนนั้นไปอย่างเงียบๆ เมื่อพวกเขามาถึงบันไดชั้น 7 และกําลังจะลงไปที่ชั้น 6 ชายคนนั้นก็ยื่นมือออกไปเพื่อหยุดเธอ

“ได้ยินอะไรไหม?” เธอได้ยินผู้ชายคนนั้นถามเธอ คังเสวี่ยขมวดคิ้วในขณะที่เธอพยายามฟังเสียงที่ชายคนนั้นพูดถึง น่าเสียดายที่เธอไม่ได้ยินในสิ่งที่ตั้งเส้าหยางได้ยิน

“เข้าไปในห้องกันเถอะ พวกมันกําลังมา!” ถังเส้าหยางได้ยินเสียงพวกมันกําลังมา แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันมีกันกี่ตัว เนื่องจากเขามองไม่เห็นด้วยตา ดังนั้เนขาจึงต้องสั่งให้เธอซ่อน เขาไม่สามารถแยกประสาทสัมผัสของเขา ในขณะที่เขาเผชิญหน้ากับศัตรูได้

คังเสวี่ยลังเลในขณะที่เธอกําเดียวในมือแน่นขึ้น เธอต้องการที่จะต่อสู้ไปพร้อมๆกับถังเส้าหยาง แต่ชายคนนั้นก็มองเธออย่างจริงจัง ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงเข้าไปในห้องที่ใกล้ที่สุด เธอเข้าไปในห้องและตรงไปที่ห้องน้ํา

คังเสวี่ยไม่ได้ปิดประตูห้องน้ํา เธอทิ้งช่องว่างไว้เล็กน้อยเพื่อฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นข้างนอก

แบม!

ทันใดนั้นผนังห้องน้ําก็สั่นสะเทือน แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เธอก็นึกภาพออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น

“คิกค์!”

หลังจากนั้น เสียงโหยหวนแปลกๆก็ดังขึ้นจากภายนอก ไม่ถึงสองนาทีต่อมา เธอก็ได้ยินเสียงของชายคนนั้นอีกครั้ง “เรียบร้อย ออกมาได้แล้ว!”

เธอเปิดประตูและรีบออกไป พื้นและผนังในห้องถูกทําลาย มันมีศพอยู่ใต้เท้าของเขา แน่นอนว่านี่คือซากศพของพวกมอนสเตอร์ และมันก็ถูกผ่าออก เมื่อเธอมองไปที่กำแพงที่ถูกทําลาย ร่างของมอนสเตอร์ก็ห้อยอยู่ตรงนั้นโดยที่หัวของมันติดอยู่กับกําแพง ในมือของเขา ผู้ชายคนนั้นก็กําลังถือหัวสัตว์ประหลาดและร่างกายของสัตว์ประหลาดตัวเล็กอยู่อีกข้างหนึ่ง ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะดึงหัวออกจากตัวของมันด้วยสองมือของเขา

ถังเส้าหยางหันกลับมา ใบหน้าครึ่งหนึ่งเต็มไปด้วยเลือด เขาหยิบเดสทรอยเยอร์ขึ้นมาจากพื้นและกวักมือให้หญิงสาวขยับ “ไปกันเถอะ!”

เมื่อมองไปที่ใบหน้าของชายคนนั้นและรูปลักษณ์ที่เต็มไปด้วยเลือด คังเสวี่ยก็สะดุ้งเล็กน้อย หากชายคนนี้ไม่เคยช่วยชีวิตเธอถึงสองครั้ง เธอก็คงจะไม่กล้าเข้าไปใกล์
เขา

หลังจากนั้น ทั้งสองก็ลงไปสํารวจห้องต่อ พวกเขาใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าจะตรวจสอบห้องทั้งหมดเสร็จ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่พบผู้รอดชีวิตที่พวกเขาต้องการ

ในขณะเดียวกันทางฝั่งของโรงพยาบาล โม่เหวินก็กําลังวิ่งไปอีกด้านหนึ่งของโรงพยาบาล หลังจากเสียสละหยางเผิงไป เขาก็ได้มาถึงอีกด้านหนึ่งของชั้นสี่ได้สําเร็จ

ในเวลาเดียวกัน ประตูฉุกเฉินก็เปิดออก ว่านจึงยก้าวออกมาจากบันไดฉุกเฉินโดยมีเด็กผู้หญิงสามคนตามเธอมาด้วยดวงตาของโม่เหวินเบิกกว้าง เขาโบกมือและร้องขอความช่วยเหลือในทันที “ช่วยด้วย ช่วยด้วย!”

ว่านจึงได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ มือของเธอเคลื่อนไปที่ด้ามดาบ เธอพร้อมสําหรับการต่อสู้ แต่สิ่งที่เธอเห็นก็คือชายคนหนึ่งที่วิ่งตรงมาทางพวกเธอโดยที่ไม่มีใครตามเขามา

“หยานเฉิงและคนอื่นๆอยู่ที่ไหน” เนื่องจากพวกเธออยู่ที่ชั้นสี่ ดังนั้นเธอจึงเดาว่าชายคนนั้นจะต้องมาจากทีมของหยานเฉิง

“มอนสเตอร์! มอนสเตอร์ล่องหนก่าลังไล่ล่าพวกเรา!” โม่เหวินชี้นิ้วไปทางด้านหลังขณะที่เขาซ่อนตัวอยู่ข้างหลังหญิงสาว การแสดงออกที่น่ากลัวของเขาทําให้สาวๆตื่นตระหนก จากนั้นพวกเธอก็เตรียมพร้อมรบในทันที

หลี่อันเรียกหมีจันทร์เสี้ยวของเธอออกมาในทันที การกระทําของเธอทําให้โม่เหวินตกใจและหวาดกลัว มันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคลาสของเธอ และสําหรับเด็กหญิงอีกสามคนที่เหลือ พวกเธอก็รู้เรื่องคลาสของเธอแล้วและพวกเธอก็ไม่ได้แปลกใจกับการปรากฏตัวของหมี

ในตอนนี้ หมีจันทร์เสี้ยวสูงสามในสี่ของความสูงของหลี่อัน เธอไม่ได้อยู่เฉยหลังจากที่ได้รับคลาส [ ซัมมอนเนอร์ ] มา เธอได้ทําการเพิ่มเลเวลสัตว์อัญเชิญของเธอ ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

ว่านจึงจ้องมองไปที่โถงทางเดินที่มืดสลัวและเงียบสงบ เธอจ้องไปที่โถงทางเดินและจดจ่อทุกอย่างบนโถงทางเดินที่ว่างเปล่านี้ ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเธอก็กระตุก “สองตัวกาลังใกล้เข้ามา!” เธอกระซิบกับคนอื่นๆ “สามตัส มันมีสามตัวกำลังมาจากด้านบน!” เธอเตือนพวกเขาและชักดาบสั้นสองเล่มออกมา

[ เรนเจอร์ ] คลาสของว่านจึงยี่คือ [ เรนเจอร์ ] มันเป็นคลาสที่มีประสาทสัมผัสเฉียบแหลมมาก ในโถงทางเดินที่เงียบสงบและมืดมิดนี้ เธอก็สามารถบอกการเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย

ผู้ตันตันยกดาบของเธอขึ้น ดาบของเธอใหญ่กว่าดาบธรรมดา แต่มันก็เล็กกว่าเมื่อเทียบกับดาบใหญ่ ไต่เหวินเฉียนยกโลสี่เหลี่ยมในมือซ้ายขึ้นและถือดาบในมืออีกข้างหนึ่ง หลี่อันเองก็บรรจุกระสุนหน้าไม้เล็กที่แขนขวา เธอเล็งมันไปที่ด้านบนทั้งสาม คนเชื่อใจว่านจึงยอย่างสมบูรณ์

“หลอน! ยิงได้!” ว่านจึงยี่เหลือบมองไปที่หญิงสาว เธอสังเกตเห็นว่าหญิงสาวก่าลังเล็งไปที่ใด ดังนั้นเธอจึงสั่งให้หลี่อันยิ่ง

ฟื้ว! ปิ้ว! ปิ้ว!

ลูกศรสามลูกยิงออกไปไล่เลี่ยกัน พวกมันพุ่งออกมาจากหน้าไม้ขนาดเล็ก มันดูเหมือนว่าลูกศรจะกาลังยิงไปที่อากาศที่ว่างเปล่า แต่แล้วลูกศรก็เด้งกลับมาเมื่อหัวของลูกศรกระทบกับบางสิ่งในอากาศ

ในเวลาเดียวกัน ดาร์คก็อบลินตัวหนึ่งก็โผล่ขึ้นมากลางอากาศ ก็อบลินใช้เคียว เพื่อป้องกันลูกศร และนั่นก็ส่งผลให้มันหลุดออกจากการอาพราง อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีเคียวมรณะอยู่อีกสองตัว

“ไต่เหวินเฉียน! หนึ่งตัวด้านบนเธอและ …” ว่านจึงยี่ขว้างดาบสั้นของเธอขึ้นไปในอากาศเหนือหัวฝูตันตัน “ผู้ต้นตัน เตรียมพร้อมที่จะฆ่า!”

เคลิ้ง!

ดาบพุ่งออกไปจนกระทั่งมันส่งเสียงโลหะกระทบกัน ก็อบลินตัวที่สองแสดงตัวออกมาขณะที่ถูกบังคับให้ป้องกันดาบสั้นที่พุ่งเข้ามา อย่างไรก็ตาม ก็อบลินตัวที่สามก็โจมตีไต่เหวินเฉียนได้สําเร็จ แต่โชคดีที่ว่านจึงยี่เตือนเธอไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นเคียวจึงโจมตีโดนโล่สี่เหลี่ยมเท่านั้น

เคลังง!

ปลายใบมีดเคียวกระทบกับโล่ และดาร์คก็อบลินตัวที่สามก็ปรากฏตัวขึ้น

ด้วยดาบสั้นที่เหลืออยู่ของเธอ ว่านจึงยี่ก็รีบวิ่งไปที่ก็อบลินตัวแรก เธอเชื่อมั่นในตัวทีมของเธอและปล่อยให้พวกเธอจัดการตัวที่เหลือกันเอง

ผู้ตันตันเองก็ทําตามว่านจึงยอย่างรวดเร็ว เธอก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ในขณะที่มือทั้งสองข้างของเธอจับดาบ เธอฟันดาบขึ้น

พลังทําลายอันแข็งแกร่งจากดาบได้เหวี่ยงไปที่ดาร์คก็อบลิน จากนั้นเธอก็ฆ่าดาร์คก็อบลินตัวนั้นได้สําเร็จ

ในเวลาเดียวกัน หมีจันทร์เสี้ยวก็ได้พุ่งไปทางไต่เหวินเฉียน มันกระโดดขึ้นไปในอากาศและใช้อุ้งเท้าอันใหญ่ของมันตะปปไปที่ดาร์คก็อบลินอย่างแรง

แบ่มมม!

“คิกค์!”

ไต่เหวินเฉียนดึงโล่ของเธอกลมา จากนั้นเธอก็อาศัยโอกาสที่ก็อบลินตัวนั้น โดนตบในการแทงดาบออกไปที่หัวของมัน เมื่อเป็นแบบนี้ ทีมของเธอก็สามารถจัดการดาร์คก็อบลินไปได้ทั้งหมด 2 จาก 3 ตัวแล้ว

ว่านจึงยี่เสียเปรียบเพราะดาบของเธอสั้นกว่าเคียว เธอไม่สามารถเข้าถึงตัวสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กได้ด้วยดาบของเธอ

แต่ก็ต้องขอบคุณคําสั่งของเธอ ก็อบลินสองตัวแรกจึงตายลงไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นทุกคนก็พุ่งเข้าไปช่วยเหลือว่านจึงยี่

“หมอบลง พี่จึงยี่!” หลี่อันตะโกนออกมา

ว่านจึงยี่คิดว่าหลี่อันจะสนับสนุนเธอด้วยหน้าไม้ ดังนั้นเธอจึงก้มหมอบลง แต่แล้วสิ่งที่พุ่งผ่านเธอไปก็ไม่ใช่ลูกศร แต่มันคือเงาร่างใหญ่ มีจันทร์เสี้ยวกาลังกระโจนเข้าหาดาร์คก็อบลิน

แบ่มมม!

ด้วยอุ้งเท้าทั้งสองข้างที่ตะปปไปที่ไหล่ของดาร์คก็อบลิน สิ่งมีชีวิตตัวเล็กจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์ และในเวลานี้ ผู้ตันตันก็มาถึง เธอฟันดาบของเธอไปที่คอของดาร์คก็อบลิน

เฉือน!

หัวถูกแยกออกจากร่างกาย ดาร์คก็อบลินทั้งสามตัวถูกฆ่าตายในระยะเวลาอันสั้น ทีมของว่านจึงยีนั้นมีการทํางานเป็นทีมที่ดีมากและพวกเธอก็สามารถจัดการกับเคียวมรณะได้ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม หมีร่างใหญ่ก็ดูไม่ค่อยพอใจ

หลี่อันตั้งชื่อให้มันว่า มูน หมีร่างใหญ่หันศีรษะไปทางฝูตันตันและคารามอย่างโกรธเคืองใส่เธอ “กรรร!”

“เธอขโมยเหยื่อของฉัน!” นั่นคือสิ่งที่มูนพยายามจะสื่อ

“อ๊ะ ขอโทษนะ” ผู้ตันตันพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เธอพยายามกลั้นหัวเราะ

มูนเดินลงมาจากศพและเดินเข้าไปหาผู้ตันตัน

“หลื่นา หมีเธอคลั่งแล้ว!” ผู้ตันตันวิ่งหนีไปหลบด้านหลังของหล่อน จากนั้นเธอก็แลบลิ้นใส่หมีร่างใหญ่

“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร” หลี่อันลูบหลังหมีร่างใหญ่ จากนั้นมูนก็สงบลง

ว่านจึงยี่ไม่ได้สนใจปัญหาของคนกับหมี เธอเดินเข้าไปหาคนขี้ขลาดที่เอาแต่ซ่อนตัว “หยานเฉิงและคนอื่นๆอยู่ที่ไหน?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ 86 ล่าหรือถูกล่า 5

Now you are reading Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ Chapter 86 ล่าหรือถูกล่า 5 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 86 ล่าหรือถูกล่า 5

ถังเส้หยางและคังเสวี่ยขึ้นไปที่หอพักชั้นบน

ปัง

“มีใครอยู่ข้างในนั้นไหม?” ถังเส้หยางพังประตูและตะโกนลั่น ประตูพังทลายด้วยขวานศึกของเขา และเขาก็ทําแบบนี้กับห้องทุกห้องที่เขาเจอ

คังเสวี่ยมองไปที่ชายคนนั้นอย่างแปลกใจ เขาบอกเธอว่าพวกเขากําลังตามหาผู้รอดชีวิตเพิ่ม และเขาก็บอกเธอว่ามันยังเหลือผู้รอดชีวิตอีก 10 คน

อย่างไรก็ตาม ในความคิดเธอ หากมันมีคนมาตามหาเธอแบบนี้ เธอก็คงจะไม่ยอมออกมาเช่นกัน

หลังจากตรวจสอบห้องทั้งหมดบนชั้น 7, 8 และ 9 แล้ว พวกเขาก็ยังไม่พบสิ่งมีชีวิตเลยแม้แต่ตัวเดียว มันไม่มีแม้แต่ซอมบี้สักตัว

ด้วยเหตุผลบางอย่าง สิ่งนี้ก็ทําให้เธอลดความระมัดระวังลง พวกเขาเดินลงไปพร้อมกันในขณะที่เธอเดินตามชายคนนั้นไปอย่างเงียบๆ เมื่อพวกเขามาถึงบันไดชั้น 7 และกําลังจะลงไปที่ชั้น 6 ชายคนนั้นก็ยื่นมือออกไปเพื่อหยุดเธอ

“ได้ยินอะไรไหม?” เธอได้ยินผู้ชายคนนั้นถามเธอ คังเสวี่ยขมวดคิ้วในขณะที่เธอพยายามฟังเสียงที่ชายคนนั้นพูดถึง น่าเสียดายที่เธอไม่ได้ยินในสิ่งที่ตั้งเส้าหยางได้ยิน

“เข้าไปในห้องกันเถอะ พวกมันกําลังมา!” ถังเส้าหยางได้ยินเสียงพวกมันกําลังมา แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันมีกันกี่ตัว เนื่องจากเขามองไม่เห็นด้วยตา ดังนั้เนขาจึงต้องสั่งให้เธอซ่อน เขาไม่สามารถแยกประสาทสัมผัสของเขา ในขณะที่เขาเผชิญหน้ากับศัตรูได้

คังเสวี่ยลังเลในขณะที่เธอกําเดียวในมือแน่นขึ้น เธอต้องการที่จะต่อสู้ไปพร้อมๆกับถังเส้าหยาง แต่ชายคนนั้นก็มองเธออย่างจริงจัง ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงเข้าไปในห้องที่ใกล้ที่สุด เธอเข้าไปในห้องและตรงไปที่ห้องน้ํา

คังเสวี่ยไม่ได้ปิดประตูห้องน้ํา เธอทิ้งช่องว่างไว้เล็กน้อยเพื่อฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นข้างนอก

แบม!

ทันใดนั้นผนังห้องน้ําก็สั่นสะเทือน แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เธอก็นึกภาพออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น

“คิกค์!”

หลังจากนั้น เสียงโหยหวนแปลกๆก็ดังขึ้นจากภายนอก ไม่ถึงสองนาทีต่อมา เธอก็ได้ยินเสียงของชายคนนั้นอีกครั้ง “เรียบร้อย ออกมาได้แล้ว!”

เธอเปิดประตูและรีบออกไป พื้นและผนังในห้องถูกทําลาย มันมีศพอยู่ใต้เท้าของเขา แน่นอนว่านี่คือซากศพของพวกมอนสเตอร์ และมันก็ถูกผ่าออก เมื่อเธอมองไปที่กำแพงที่ถูกทําลาย ร่างของมอนสเตอร์ก็ห้อยอยู่ตรงนั้นโดยที่หัวของมันติดอยู่กับกําแพง ในมือของเขา ผู้ชายคนนั้นก็กําลังถือหัวสัตว์ประหลาดและร่างกายของสัตว์ประหลาดตัวเล็กอยู่อีกข้างหนึ่ง ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะดึงหัวออกจากตัวของมันด้วยสองมือของเขา

ถังเส้าหยางหันกลับมา ใบหน้าครึ่งหนึ่งเต็มไปด้วยเลือด เขาหยิบเดสทรอยเยอร์ขึ้นมาจากพื้นและกวักมือให้หญิงสาวขยับ “ไปกันเถอะ!”

เมื่อมองไปที่ใบหน้าของชายคนนั้นและรูปลักษณ์ที่เต็มไปด้วยเลือด คังเสวี่ยก็สะดุ้งเล็กน้อย หากชายคนนี้ไม่เคยช่วยชีวิตเธอถึงสองครั้ง เธอก็คงจะไม่กล้าเข้าไปใกล์
เขา

หลังจากนั้น ทั้งสองก็ลงไปสํารวจห้องต่อ พวกเขาใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าจะตรวจสอบห้องทั้งหมดเสร็จ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่พบผู้รอดชีวิตที่พวกเขาต้องการ

ในขณะเดียวกันทางฝั่งของโรงพยาบาล โม่เหวินก็กําลังวิ่งไปอีกด้านหนึ่งของโรงพยาบาล หลังจากเสียสละหยางเผิงไป เขาก็ได้มาถึงอีกด้านหนึ่งของชั้นสี่ได้สําเร็จ

ในเวลาเดียวกัน ประตูฉุกเฉินก็เปิดออก ว่านจึงยก้าวออกมาจากบันไดฉุกเฉินโดยมีเด็กผู้หญิงสามคนตามเธอมาด้วยดวงตาของโม่เหวินเบิกกว้าง เขาโบกมือและร้องขอความช่วยเหลือในทันที “ช่วยด้วย ช่วยด้วย!”

ว่านจึงได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ มือของเธอเคลื่อนไปที่ด้ามดาบ เธอพร้อมสําหรับการต่อสู้ แต่สิ่งที่เธอเห็นก็คือชายคนหนึ่งที่วิ่งตรงมาทางพวกเธอโดยที่ไม่มีใครตามเขามา

“หยานเฉิงและคนอื่นๆอยู่ที่ไหน” เนื่องจากพวกเธออยู่ที่ชั้นสี่ ดังนั้นเธอจึงเดาว่าชายคนนั้นจะต้องมาจากทีมของหยานเฉิง

“มอนสเตอร์! มอนสเตอร์ล่องหนก่าลังไล่ล่าพวกเรา!” โม่เหวินชี้นิ้วไปทางด้านหลังขณะที่เขาซ่อนตัวอยู่ข้างหลังหญิงสาว การแสดงออกที่น่ากลัวของเขาทําให้สาวๆตื่นตระหนก จากนั้นพวกเธอก็เตรียมพร้อมรบในทันที

หลี่อันเรียกหมีจันทร์เสี้ยวของเธอออกมาในทันที การกระทําของเธอทําให้โม่เหวินตกใจและหวาดกลัว มันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคลาสของเธอ และสําหรับเด็กหญิงอีกสามคนที่เหลือ พวกเธอก็รู้เรื่องคลาสของเธอแล้วและพวกเธอก็ไม่ได้แปลกใจกับการปรากฏตัวของหมี

ในตอนนี้ หมีจันทร์เสี้ยวสูงสามในสี่ของความสูงของหลี่อัน เธอไม่ได้อยู่เฉยหลังจากที่ได้รับคลาส [ ซัมมอนเนอร์ ] มา เธอได้ทําการเพิ่มเลเวลสัตว์อัญเชิญของเธอ ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

ว่านจึงจ้องมองไปที่โถงทางเดินที่มืดสลัวและเงียบสงบ เธอจ้องไปที่โถงทางเดินและจดจ่อทุกอย่างบนโถงทางเดินที่ว่างเปล่านี้ ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเธอก็กระตุก “สองตัวกาลังใกล้เข้ามา!” เธอกระซิบกับคนอื่นๆ “สามตัส มันมีสามตัวกำลังมาจากด้านบน!” เธอเตือนพวกเขาและชักดาบสั้นสองเล่มออกมา

[ เรนเจอร์ ] คลาสของว่านจึงยี่คือ [ เรนเจอร์ ] มันเป็นคลาสที่มีประสาทสัมผัสเฉียบแหลมมาก ในโถงทางเดินที่เงียบสงบและมืดมิดนี้ เธอก็สามารถบอกการเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย

ผู้ตันตันยกดาบของเธอขึ้น ดาบของเธอใหญ่กว่าดาบธรรมดา แต่มันก็เล็กกว่าเมื่อเทียบกับดาบใหญ่ ไต่เหวินเฉียนยกโลสี่เหลี่ยมในมือซ้ายขึ้นและถือดาบในมืออีกข้างหนึ่ง หลี่อันเองก็บรรจุกระสุนหน้าไม้เล็กที่แขนขวา เธอเล็งมันไปที่ด้านบนทั้งสาม คนเชื่อใจว่านจึงยอย่างสมบูรณ์

“หลอน! ยิงได้!” ว่านจึงยี่เหลือบมองไปที่หญิงสาว เธอสังเกตเห็นว่าหญิงสาวก่าลังเล็งไปที่ใด ดังนั้นเธอจึงสั่งให้หลี่อันยิ่ง

ฟื้ว! ปิ้ว! ปิ้ว!

ลูกศรสามลูกยิงออกไปไล่เลี่ยกัน พวกมันพุ่งออกมาจากหน้าไม้ขนาดเล็ก มันดูเหมือนว่าลูกศรจะกาลังยิงไปที่อากาศที่ว่างเปล่า แต่แล้วลูกศรก็เด้งกลับมาเมื่อหัวของลูกศรกระทบกับบางสิ่งในอากาศ

ในเวลาเดียวกัน ดาร์คก็อบลินตัวหนึ่งก็โผล่ขึ้นมากลางอากาศ ก็อบลินใช้เคียว เพื่อป้องกันลูกศร และนั่นก็ส่งผลให้มันหลุดออกจากการอาพราง อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีเคียวมรณะอยู่อีกสองตัว

“ไต่เหวินเฉียน! หนึ่งตัวด้านบนเธอและ …” ว่านจึงยี่ขว้างดาบสั้นของเธอขึ้นไปในอากาศเหนือหัวฝูตันตัน “ผู้ต้นตัน เตรียมพร้อมที่จะฆ่า!”

เคลิ้ง!

ดาบพุ่งออกไปจนกระทั่งมันส่งเสียงโลหะกระทบกัน ก็อบลินตัวที่สองแสดงตัวออกมาขณะที่ถูกบังคับให้ป้องกันดาบสั้นที่พุ่งเข้ามา อย่างไรก็ตาม ก็อบลินตัวที่สามก็โจมตีไต่เหวินเฉียนได้สําเร็จ แต่โชคดีที่ว่านจึงยี่เตือนเธอไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นเคียวจึงโจมตีโดนโล่สี่เหลี่ยมเท่านั้น

เคลังง!

ปลายใบมีดเคียวกระทบกับโล่ และดาร์คก็อบลินตัวที่สามก็ปรากฏตัวขึ้น

ด้วยดาบสั้นที่เหลืออยู่ของเธอ ว่านจึงยี่ก็รีบวิ่งไปที่ก็อบลินตัวแรก เธอเชื่อมั่นในตัวทีมของเธอและปล่อยให้พวกเธอจัดการตัวที่เหลือกันเอง

ผู้ตันตันเองก็ทําตามว่านจึงยอย่างรวดเร็ว เธอก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ในขณะที่มือทั้งสองข้างของเธอจับดาบ เธอฟันดาบขึ้น

พลังทําลายอันแข็งแกร่งจากดาบได้เหวี่ยงไปที่ดาร์คก็อบลิน จากนั้นเธอก็ฆ่าดาร์คก็อบลินตัวนั้นได้สําเร็จ

ในเวลาเดียวกัน หมีจันทร์เสี้ยวก็ได้พุ่งไปทางไต่เหวินเฉียน มันกระโดดขึ้นไปในอากาศและใช้อุ้งเท้าอันใหญ่ของมันตะปปไปที่ดาร์คก็อบลินอย่างแรง

แบ่มมม!

“คิกค์!”

ไต่เหวินเฉียนดึงโล่ของเธอกลมา จากนั้นเธอก็อาศัยโอกาสที่ก็อบลินตัวนั้น โดนตบในการแทงดาบออกไปที่หัวของมัน เมื่อเป็นแบบนี้ ทีมของเธอก็สามารถจัดการดาร์คก็อบลินไปได้ทั้งหมด 2 จาก 3 ตัวแล้ว

ว่านจึงยี่เสียเปรียบเพราะดาบของเธอสั้นกว่าเคียว เธอไม่สามารถเข้าถึงตัวสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กได้ด้วยดาบของเธอ

แต่ก็ต้องขอบคุณคําสั่งของเธอ ก็อบลินสองตัวแรกจึงตายลงไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นทุกคนก็พุ่งเข้าไปช่วยเหลือว่านจึงยี่

“หมอบลง พี่จึงยี่!” หลี่อันตะโกนออกมา

ว่านจึงยี่คิดว่าหลี่อันจะสนับสนุนเธอด้วยหน้าไม้ ดังนั้นเธอจึงก้มหมอบลง แต่แล้วสิ่งที่พุ่งผ่านเธอไปก็ไม่ใช่ลูกศร แต่มันคือเงาร่างใหญ่ มีจันทร์เสี้ยวกาลังกระโจนเข้าหาดาร์คก็อบลิน

แบ่มมม!

ด้วยอุ้งเท้าทั้งสองข้างที่ตะปปไปที่ไหล่ของดาร์คก็อบลิน สิ่งมีชีวิตตัวเล็กจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์ และในเวลานี้ ผู้ตันตันก็มาถึง เธอฟันดาบของเธอไปที่คอของดาร์คก็อบลิน

เฉือน!

หัวถูกแยกออกจากร่างกาย ดาร์คก็อบลินทั้งสามตัวถูกฆ่าตายในระยะเวลาอันสั้น ทีมของว่านจึงยีนั้นมีการทํางานเป็นทีมที่ดีมากและพวกเธอก็สามารถจัดการกับเคียวมรณะได้ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม หมีร่างใหญ่ก็ดูไม่ค่อยพอใจ

หลี่อันตั้งชื่อให้มันว่า มูน หมีร่างใหญ่หันศีรษะไปทางฝูตันตันและคารามอย่างโกรธเคืองใส่เธอ “กรรร!”

“เธอขโมยเหยื่อของฉัน!” นั่นคือสิ่งที่มูนพยายามจะสื่อ

“อ๊ะ ขอโทษนะ” ผู้ตันตันพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เธอพยายามกลั้นหัวเราะ

มูนเดินลงมาจากศพและเดินเข้าไปหาผู้ตันตัน

“หลื่นา หมีเธอคลั่งแล้ว!” ผู้ตันตันวิ่งหนีไปหลบด้านหลังของหล่อน จากนั้นเธอก็แลบลิ้นใส่หมีร่างใหญ่

“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร” หลี่อันลูบหลังหมีร่างใหญ่ จากนั้นมูนก็สงบลง

ว่านจึงยี่ไม่ได้สนใจปัญหาของคนกับหมี เธอเดินเข้าไปหาคนขี้ขลาดที่เอาแต่ซ่อนตัว “หยานเฉิงและคนอื่นๆอยู่ที่ไหน?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+