ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 405 เรื่องฉาวโฉ่ของชุนเจียว

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย Chapter บทที่ 405 เรื่องฉาวโฉ่ของชุนเจียว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 405 เรื่องฉาวโฉ่ของชุนเจียว

บทที่ 405 เรื่องฉาวโฉ่ของชุนเจียว

“ข้าก็ไม่อยากพูดเช่นนั้น!” กุ้ยสวิ้นเหอมองเข้าไปในดวงตาของกุ้ยซื่อด้วยความโกรธ ราวกับว่าไฟที่คุกกรุ่นกำลังจะแผดเผากุ้ยซื่อ “ชุนเจียวเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็หวังดีกับนางไม่ใช่หรือ? ข้าไม่ด่าว่านาง แต่คนอื่นเล่า? คราวนี้ตงเหมยบอกเรื่องชุนเจียวไปหมดแล้ว ข้าเกรงว่าครั้งนี้ทุกคนในหมู่บ้านคงจะรู้ว่าชุนเจียวหายไป แล้วใครจะกล้ามาแต่งงานกับนาง? แล้วชุนเจียวจะไปแต่งงานกับใครได้อีก?”

“ดังนั้นนอกจากพ่อค้าคนนั้น นางก็ไม่สามารถแต่งงานกับใครได้อีกแล้ว นั่นคือเหตุผลที่เขาพยายามพาชุนเจียวของเราออกไปใช่หรือไม่?” กุ้ยซื่อร้องไห้ออกมา “ชุนเจียวผู้น่าสงสารของข้า เหตุใดเจ้าถึงโง่งมเช่นนี้…”

เส้นเลือดที่หน้าผากของกุ้ยสวิ้นเหอนูนปูดขึ้นมา เมื่อเห็นกุ้ยซื่อร้องไห้คร่ำครวญ เขาไม่ได้ไปข้างหน้าเพื่อปลอบใจ และเขารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง

เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือนั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ คิดเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเพิ่งพูดไป เมื่อพวกเขาได้ยินมันก็น่าจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น กุ้ยสวิ้นเหอจึงอธิบายเรื่องทั้งหมดคร่าว ๆ

กู้เสี่ยวหวานจำได้ว่าตอนที่กุ้ยซื่อมาที่บ้านของนางเพื่อสร้างปัญหา กู้หนิงผิงเคยพูดลวก ๆ เกี่ยวกับกุ้ยชุนเจียวและเด็กหนุ่มที่ริมแม่น้ำ กู้เสี่ยวยหวานก็ตระหนักได้ว่าในเวลานั้นกุ้ยซื่อก็คงจะรู้เรื่องนี้แล้ว

เมื่อตอนที่กู้หนิงผิงบอกตนเอง กู้เสี่ยวหวานก็คิดว่ากู้หนิงผิงอาจเข้าใจผิด เมื่อวานที่ได้ยินกุ้ยตงเหมยข่มขู่กุ้ยซื่อและกุ้ยชุนเจียวว่าจะพูดเรื่องนั้นออกมา ปรากฏว่าสิ่งที่นางกำลังพูดถึงคือเรื่องของกุ้ยชุนเจียวและพ่อค้าคนนั้น

พ่อค้าคนนั้นมาที่หมู่บ้านอู๋ซีเมื่อปีที่แล้ว เขาเดินไปตามถนนและตรอกในหมู่บ้านเป็นเวลาหลายวัน ขายของราคาถูก เช่น ผ้าเช็ดหน้า ดอกไม้ และผ้าไหมต่าง ๆ

พวกมันเป็นของใช้ชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่เด็กหญิงชอบ

ปกติแล้วกุ้ยชุนเจียวและกุ้ยตงเหมยจะได้รับเงินสองสามเหรียญจากกุ้ยซื่อ เมื่อพวกนางเห็นพ่อค้าที่มาจากภายนอก และสิ่งที่เขาขายก็เป็นสิ่งที่หายากที่พวกนางไม่มี พวกนางจึงวิ่งออกไปหาพ่อค้าคนนั้นเป็นระยะ ๆ ไปยืนอยู่นานและมีความผิดปกติไป

พ่อค้าคนนั้นอายุสิบแปดในปีนี้ เป็นวัยที่แข็งแรงและกระฉับกระเฉง เมื่อเห็นกุ้ยชุนเจียว เขาก็เริ่มมีความรู้สึกบางอย่าง นางเป็นเด็กสาวที่น่าเอ็นดู ครั้นเห็นนางมาซื้อของจากเขาอยู่เสมอ ในใจจึงรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขมาก ไป ๆ มา ๆ ทั้งสองก็คุ้นเคยกัน

พ่อค้าคนนั้นมักจะให้สิ่งของกับกุ้ยชุนเจียวเป็นครั้งคราว

พ่อค้าอายุน้อยและหล่อเหลา และเขาก็มอบสิ่งของให้กับกุ้บชุนเจียว ในใจของนางจึงมีความสุขยิ่งขึ้น นางไม่ปฏิเสธและยอมรับทุกอย่าง ไป ๆ มา ๆ สองคนนี้ก็มีความสัมพันธ์บางอย่างต่อกัน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ กู้เสี่ยวหวานก็เดาะลิ้นอย่างลับ ๆ กุ้ยชุนเจียวเพิ่งอายุสิบกว่าปี นางจึงเริ่มต้นความสัมพันธ์ แต่นี่มันเร็วเกินไป ในชีวิตก่อนหน้าของนาง เด็กที่อายุเท่านี้ยังอยู่ชั้นประถมเอง

กุ้ยซื่อมีลูกสาวสองคน ซึ่งเปรียบเสมือนไข่มุกและสมบัติล้ำค่า ดังนั้นจึงหวังรอที่จะแต่งงานกับผู้ชายที่ร่ำรวยในอนาคต จะได้ไม่ต้องเป็นผู้หญิงชนบทในหมู่บ้านแบบนาง อะไรก็ตามที่อร่อย สนุก ตราบใดที่กุ้ยซื่อพึงพอใจ นางก็จะมอบให้กุ้ยชุนเจียวและกุ้ยตงเหมยอย่างไม่มีเงื่อนไข ลูกสาวสองคนที่ตนเองเป็นคนเลี้ยงดูมา จะอยากให้แต่งงานไปกับพ่อค้าได้อย่างไร?

กุ้ยซื่อพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเอาชนะยวนยางคู่นี้ และต้องการให้พ่อค้าผู้นั้นออกไป แต่พ่อค้าผู้นั้นปฏิเสธ และในท้ายที่สุดเขายังบอกว่า เขาต้องการอยู่กับกุ้ยชุนเจียวไปตลอดชีวิตที่เหลือของเขา

เขายังบอกกุ้ยชุนเจียวว่า เขาตกหลุมรักนาง และจะไม่มีวันตกหลุมรักผู้หญิงคนอื่นได้อีกในชีวิตนี้ ถ้ากุ้ยชุนเจียวไม่ชอบเขา ในชีวิตนี้เขาจะอยู่คนเดียวไปจนแก่และเฝ้าดูกุ้ยชุนเจียวจากระยะไกลไปตลอดชีวิต แค่เห็นนางมีความสุข เขาก็พึงพอใจ

กุ้ยซื่อคร่ำครวญและเล่าเรื่องของพ่อค้ากับกุ้ยชุนเจียวตั้งแต่ต้นจนจบ ตอนนี้กุ้ยซื่อไม่มีอะไรจะปิดบังอีกต่อไป มันเหมือนกับการเทถั่วออกจากไม้ไผ่ ดังนั้นสิ่งที่พ่อค้าพูดนั้นไร้ค่า

กู้เสี่ยวหวานฟังสิ่งที่กุ้ยซื่อพูดเกี่ยวกับพ่อค้าคนนั้น และหลังจากฟัง คิ้วของนางก็เลิกขึ้น คนผู้นี้ช่างเก่งเรื่องการพูดจาหวาน ๆ เสียจริง ไม่น่าแปลกใจที่กุ้ยชุนเจียวจะตกหลุมรักตั้งแต่เริ่มจนไม่สามารถต้านทานได้เลย

กุ้ยซื่อกล่าวว่าเมื่อกุ้ยชุนเจียวเห็นว่าคนรักหลงใหลนางมาก นางก็รู้สึกประทับใจมากขึ้น

กุ้ยซื่อทั้งดุด่าและทุบตี แต่ดูเหมือนกุ้ยชุนเจียวจะมีจิตใจที่แน่วแน่กับพ่อค้าผู้นั้น กุ้ยซื่อหมดหนทาง เพราะนางกลัวว่าสิ่งต่าง ๆ จะแย่ลง ดังนั้นนางจึงต้องเป็นคนยอมแพ้

แต่กุ้ยซื่อจะเต็มใจให้ลูกสาวคนโตของนางแต่งงานกับพ่อค้าที่เดินไปตามถนนได้อย่างไร นางจึงขอให้พ่อค้าแสดงไพ่ตายออกมา โดยบอกว่ากุ้ยชุนเจียวจะแต่งงานไม่ได้จนกว่าจะพ่อค้าเปิดร้านในเมืองเพื่อเป็นของขวัญสินสอดทองหมั้นในปีนี้

ไม่เช่นนั้น นางจะให้กุ้ยชุนเจียวเลิกคบหากับเขา

พ่อค้าคนนั้นรีบตกลงอย่างรวดเร็ว

ด้วยสีหน้าที่จริงใจต่อหน้ากุ้ยชุนเจียว เขาบอกว่าจะออกไปหาอะไรทำทันที และเขาจะต้องเปิดร้านหลังวันปีใหม่

เมื่อได้ยินเช่นนี้ กุ้ยสวิ้นเหอก็ยิ้มเยาะอย่างเย็นชา “เจ้ากำลังสับสน เจ้าไม่ลองมองดูตนเองดูเล่าว่า เจ้ามีข้อเรียกร้องที่ไร้เหตุผลเช่นไร ชายหนุ่มผู้นั้นดูเหมือนไก่อ่อน เจ้าขอให้เขาเปิดร้าน คราวนี้เป็นอย่างไรเล่า ร้านก็ไม่ได้เปิด คนก็ยังหายไปอีก”

“ในเมื่อเจ้ารู้ว่าเขาเป็นพวกไก่อ่อน แล้วทำไมไม่บอกข้า! เจ้าไม่สนใจอะไรนอกจากการเก็บฟืนทุกวัน แล้วเจ้ารู้อะไรอีก ลูกสาวสองคนก็ไม่เคยมาสนใจ!” เมื่อกุ้ยซื่อได้ยินว่ากุ้ยสวิ้นเหอกำลังตำหนิตนเอง นางก็รีบแก้ต่างทันที ดูเหมือนว่าในครอบครัวนี้หัวใจของกุ้ยซื่อนั้นแตกสลายไปเสียแล้ว

เมื่อกุ้ยสวิ้นเหอเห็นกุ้ยซื่อกล่าวหาว่าเขาเพิกเฉยต่อลูกสาว ผมของเขาเกือบจะตั้งชันขึ้นด้วยความโกรธ “ข้าไม่สนใจลูกอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นข้าสนใจอะไรกันล่ะ? เมื่อไรก็ตามที่ข้าพูดคำบางคำที่เจ้าไม่อยากได้ยิน เจ้าก็จะพาลูกสาวสองคนกลับไปบ้านพ่อแม่ เช่นนั้นข้ายังจะพูดอะไรได้อีก?” กุ้ยสวิ้นเหอถอนหายใจ ใบหน้าเฒ่าเต็มไปด้วยความผันผวน*[1] และหมดหนทาง

เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาถอนหายใจยาว จากนั้นเห็นกู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือทั้งคู่มองมาที่เขา เขาก็อายเล็กน้อยและกล่าว “สาวน้อยเสี่ยวหวาน เรื่องอื้อฉาวที่บ้านของข้าคงเหมือนเรื่องตลกสำหรับเจ้าสินะ”

กู้เสี่ยวหวานส่ายศีรษะ นางสามารถเข้าใจความคิดของกุ้ยซื่อและกุ้ยสวิ้นเหอได้ในขณะนี้ เมื่อเห็นท่าทางที่เศร้าโศกของพวกเขา ไม่ว่ากุ้ยซื่อจะโหดร้ายต่อนางเพียงใด แต่ในเวลานี้ นางเป็นเพียงแม่ที่เจ็บปวดจากการที่ลูกสาวของนางหายตัวไป

*[1] การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *