ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 425 พวกเจ้าอย่ารังแกนาง

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย Chapter บทที่ 425 พวกเจ้าอย่ารังแกนาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 425 พวกเจ้าอย่ารังแกนาง

บทที่ 425 พวกเจ้าอย่ารังแกนาง

“ทำไมอาจารย์ถึงมาที่หมู่บ้านอู๋ซีกัน? หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเอ่ยถามอย่างเคารพ “อาจารย์ไม่ได้ไปที่เจียงโจวแล้วหรอกหรือ?”

“ใช่แล้ว ข้าไปกับลูกของข้า!” อาจารย์ถานกล่าวอย่างตื่นเต้น “ข้าเพิ่งกลับมาเยี่ยมญาติ ข้าอายุมากแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่จะไม่ไหว ข้าจึงใช้โอกาสที่ข้ายังไหวกลับมาเยี่ยมญาติ! ไม่คาดคิดเลยว่าจะบังเอิญไปเจอเถ้าแก่หลี่ เขามาบอกว่ามีเด็กสาวช่วยชีวิตลูกชายคนเล็กของเขาเอาไว้ เพราะเด็กสาวได้รับบาดเจ็บและหมดสติ นางจึงสลบไปหนึ่งวันกับคืนหนึ่ง!”

อาจารย์ถานอายุมากแล้ว กล่าวเพียงไม่กี่คำก็เหนื่อยเล็กน้อย หลังจากหยุดหายใจสักครู่ เขาก็กล่าวต่อว่า “เมื่อคืนนี้ เด็กสาวผู้นั้นฟื้นขึ้นและเอ่ยถามถึงครอบครัวของนาง ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้ว!” อาจารย์ถานกล่าว “จากนั้น เถ้าแก่หลี่ก็มาพบข้าและบอกว่าเด็กสาวผู้นี้ไม่ได้กลับบ้านมาสองวันสองคืนแล้ว หากเขาส่งเด็กสาวผู้นี้กลับมาเงียบ ๆ เกรงว่ามันจะเป็นการทำร้ายชื่อเสียงของเด็กสาวผู้นี้ ดังนั้นเขาจึงมาหาข้า และขอร้องให้ข้ามาส่งเด็กสาวผู้นี้ด้วยตนเอง”

“คนที่อาจารย์พูดถึง คือลูกสาวคนโตของตระกูลกุ้ยอย่างนั้นหรือ?” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเข้าใจทันที

ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ข่าวการหายตัวไปของกุ้ยชุนเจียวได้สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วหมู่บ้าน หลังอาหารเย็น ทุกคนคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางผู้นี้

แม้แต่ภรรยาของตนก็กล่าวก่อนนอนอยู่หลายครั้ง

หนึ่งคือกุ้ยชุนเจียวถูกลักพาตัวโดยพวกค้ามนุษย์ และอีกอย่างคือกุ้ยชุนเจียวหนีไปกับคนอื่น

ต่างคนต่างพูด เจ้าก็พูด ข้าก็พูด แต่ละคนพูดต่างกันออกไป แต่สิ่งเดียวที่เหมือนกันคือ ชื่อเสียงของกุ้ยชุนเจียวถูกทำลายจนหมดแล้ว แม้ว่านางจะกลับมา เกรงว่าว่าร่างกายของนางคงจะไม่บริสุทธิ์เสียแล้ว ถ้าในอนาคตอยากจะแต่งงานก็คงจะไม่สามารถแต่งงานได้อย่างแน่นอน

เดิมทีคนในหมู่บ้านชอบคุยเรื่องคนอื่น เมื่อได้ยินว่าร่างกายของเด็กสาวไม่บริสุทธิ์แล้ว ต่างก็พูดกันมากขึ้นไปอีก

ชั่วขณะหนึ่งทั้งหมู่บ้านก็คึกคัก ไม่ว่าจะไปที่ใด สามคำที่ได้ยินมากที่สุดก็คือ กุ้ยชุนเจียว

ผู้คนรอบ ๆ มาที่นี่ราวกับกำลังดูการแสดงดี ๆ พอได้ยินว่ากุ้ยชุนเจียวกลับมา ต่างคนต่างวิ่งแซงกัน พวกเขาวิ่งเร็วกว่ากระต่าย หลังจากนั้นไม่นาน บริเวณโดยรอบก็แน่นขนัดไปด้วยผู้คนจนแม้แต่น้ำก็ไหลออกมาไม่ได้*[1] เกรงว่าจะพากันมาทั้งหมู่บ้าน

เดิมทีทุกคนต่างรีบมาเพื่อดูการแสดงที่ดีของกุ้ยชุนเจียว แต่ไม่ได้คาดคิดว่าสิ่งต่าง ๆ จะพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ!

“ใช่แล้ว!” หลี่ฝานกล่าวด้วยท่าทางขอบคุณ เขาเดินไปหากุ้ยชุนเจียวและกล่าวอย่างจริงใจว่า “แม่นาง ขอบคุณสำหรับความกรุณาและคุณธรรมของเจ้า หลี่ผู้นี้จะไม่มีวันลืมมันไปชั่วชีวิต!”

กุ้ยชุนเจียว เป็นเด็กสาวที่หน้าบางและนางไม่เคยทำสิ่งนั้นมาก่อน เมื่อเห็นหลี่ฝานขอบคุณตนเองอย่างจริงจัง ใบหน้าของนางก็แดงเพราะรู้สึกอับอาย

กุ้ยชุนเจียวหน้าแดงและรู้สึกอับอายทันที กุ้ยซื่อที่อยู่ด้านข้างจึงกล่าวอย่างรวดเร็วด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไร ถ้าเด็กคนใดพบเหตุการณ์นั้น พวกเขาก็จะช่วยอยู่แล้ว!”

กุ้ยซื่อตอบกลับอย่างสวยงาม

กู้เสี่ยวหวานมองดูจากด้านข้าง วันนี้ต้องขอบคุณหลี่ฝานมากจริง ๆ

เจ้าของร้านจิ่นฝูได้ขอบคุณเด็กสาวด้วยตนเอง ยิ่งกว่านั้น สิ่งนี้ไม่เป็นความจริงเลย หลี่ฝานทำได้สมจริงเช่นนี้ ช่างเป็นเรื่องที่เสียสละเสียจริง

หัวใจของกู้เสี่ยวหวานเต็มไปด้วยความกตัญญู คิดในใจว่านางต้องตอบแทนหลี่ฝานในสักวันหนึ่ง

“ใช่แล้ว นี่ไม่ใช่เจ้าของร้านจิ่นฝูในเมืองหรอกหรือ? ” หนึ่งในนั้นที่เคยเจอหลี่ฟานกล่าว

“จริงสิ! ว้าว กุ้ยชุนเจียวช่างโชคดีอะไรอย่างนี้ ที่แท้นางก็ช่วยลูกชายคนเล็กของเถ้าแก่หลี่เอาไว้”

“ใช่แล้ว พวกเจ้าดูเสื้อผ้าที่กุ้ยชุนเจียวสวมอยู่สิ ดูเหมือนว่าจะเป็นผ้าทอที่ดีที่สุด!”

“เจ้าเคยเห็นผ้าทออย่างนั้นหรือ?” คนข้าง ๆ กล่าวอย่างดูถูกเหยียดหยาม

“ไม่เคยใส่ แล้วจะเคยเห็นได้อย่างไรเล่า! คนรวยในเมืองก็ใส่เสื้อผ้าเช่นนี้ไม่ใช่หรือ!”

“พวกเจ้าลองมองไปที่ปิ่นบนศีรษะของนางสิ หึ ๆ มันคือสินค้าที่มีคุณภาพสูง!”

“ใช่แล้ว คราวนี้ตระกูลกุ้ยโชคดีมาก”

ทุกคนรอบตัวต่างพากันพูด ทุกสายตาเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยากุ้ยชุนเจียว หัวข้อของทุกคนตั้งแต่การหายตัวไปของกุ้ยชุนเจียว ไปจนถึงความโชคดีของกุ้ยชุนเจียว

“ปรากฏว่าที่ไม่ได้พบชุนเจียวมาสองสามวันแล้ว เป็นเพราะนางได้รับบาดเจ็บ” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงกล่าวขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าเขาเป็นเจ้าของร้านจิ่นฝู เขาก็ยุ่งอยู่กับการทักทาย “ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าในช่วงนี้ที่สาวน้อยชุนเจียวไม่กลับมา เดิมทีเป็นเพราะนางได้ช่วยครอบครัวของท่านไว้”

“ใช่แล้ว!” หลี่ฝานรีบโค้งมือและขอบคุณ “ชุนเจียวเป็นเด็กดีที่ช่วยลูกของข้าไว้ ความเมตตานี้ ข้าจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต”

เขามองไปที่กุ้ยชุนเจียวด้วยสายตาที่ซาบซึ้ง อย่างไรก็ตามความรู้สึกนั้นไม่มีความอบอุ่นอยู่เลยสักนิด

เพื่อให้ละครเรื่องนี้ได้สำเร็จ กุ้ยซื่อก็เข้าสู่การร่วมด้วย “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เถ้าแก่หลี่ ข้าต่างหากที่ต้องขอบคุณเถ้าแก่หลี่ที่ดูแลชุนเจียวอย่างดีในไม่กี่วันที่ผ่านมา การที่ชุนเจียวได้ช่วยลูกเถ้าแก่ไว้ นั่นเป็นโชคของชุนเจียวแล้ว”

กุ้ยซื่อรีบตอบด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มบนใบหน้านั้นดูเหมือนจะพอใจมากกับสิ่งที่กุ้ยชุนเจียวทำ

เมื่อกุ้ยตงเหมยเห็นพ่อและแม่ของนางกลับมา นางก็ออกมาและเมื่อเห็นกุ้ยชุนเจียวยืนอยู่ข้างหน้าตนเองในชุดที่หรูหรา นางก็อิจฉา “ท่านพี่ เสื้อผ้าของท่านพี่งดงามมาก!”

นางไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่ากุ้ยชุนเจียวสบายดีหรือไม่ หรือถามว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหนจนหมดสติ

กุ้ยชุนเจียวกลัวว่าตงเหมยจะทำให้ชุดของนางเสียหาย ดังนั้นนางจึงรีบถอยหลังไปสองสามก้าว

กู้เสี่ยวหวานที่อยู่ข้าง ๆ และเห็นความอิจฉาในสายตาของกุ้ยตงเหมย

“ตงเหมย นี่คือเสื้อผ้าที่เถ้าแก่ซื้อมา เมื่อถึงเวลาก็ต้องนำไปคืนเถ้าแก่หลี่!” กุ้ยชุนเจียวกล่าวด้วยเสียงต่ำ

กุ้ยตงเหมยมุ่ยปากและกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “เสียดายหรือ เถ้าแก่หลี่ได้มอบมันให้ท่านแล้ว มีเหตุผลอะไรที่จะต้องคืนมันไปด้วยเล่า?”

กุ้ยชุนเจียวไม่ได้กล่าวอะไรและก้มศีรษะลง โดยไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่!

นี่เป็นทุกขลาภของกุ้ยชุนเจียว จากเด็กสาวที่เสื่อมเสียชื่อเสียง กลับกลายเป็นผู้มีบุญคุณของครอบครัวหลี่ฝาน ทุกคนมีความอิจฉาริษยาในสายตา โดยเฉพาะเด็กสาวบางคนในวัยเดียวกับกุ้ยชุนเจียว ทุกคนเบ้ปากแล้วกล่าวว่า “ท่านแม่ ตอนนั้นเราน่าจะไปในเมือง ท่านดูสิว่าชุนเจียวโชคดีเพียงใด ถ้าข้าไป บางทีข้าอาจจะเป็นผู้มีบุญคุณของครอบครัวเถ้าแก่หลี่แทนก็ได้!”

*[1] หมายถึง แออัดหรือล้อมรอบแน่นมาก

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *