ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 596 โกรธแล้ว

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย Chapter บทที่ 596 โกรธแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 596 โกรธแล้ว

บทที่ 596 โกรธแล้ว

นายท่านไม่ได้เป็นเช่นนี้แค่หนึ่งหรือสองครั้ง!

อาโม่มุ่ยปาก และพยายามเงี่ยหูฟังอีกครั้ง

หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานหยิบกริชขึ้นมา ดวงตาของนางก็สว่างขึ้น กริชนี้มีน้ำหนักเบา ไม่หนักเท่ากริชเล่มอื่น ๆ

กู้เสี่ยวหวานดึงกริชออกมา และแสงเย็นวาบเปร่งประกาย

เมื่อมองไปที่กริช ฉินเย่จือรู้สึกปลาบปลื้มเล็กน้อย

ด้วยกริชนี้ เขาจึงสามารถขจัดขวากหนามและป้องกันตนเองได้

ตอนนี้เขามอบกริชให้กู้เสี่ยวหวานที่นำโชคดีมาให้เขานับไม่ถ้วน ให้มันอยู่เคียงข้างนางเพื่อให้นางปลอดภัย

กู้เสี่ยวหวานหมุนกริช ทำให้มันสัมผัสปลายผมของนางแผ่วเบา

ฉินเย่จือขมวดคิ้ว คว้ามือกู้เสี่ยวหวานฉับไวและกระซิบเบา ๆ “หวานเอ๋อร์ ระวัง…”

มันตัดเส้นผมนางได้อย่างง่ายดาย

กู้เสี่ยวหวานอุทานเมื่อมองดูผมของนางที่ร่วงลงบนร่างกายอย่างไม่อยากเชื่อ “กริชนี้คมมาก!”

สามารถตัดผมนางให้ขาดได้!

ใครจะจินตนาการได้ว่ากริชนี้คมแค่ไหน!

“กริชนี้คมจนตัดเหล็กได้ราวกับตัดโคลน เจ้าพกติดตัวไปด้วยและระวังอย่าให้ตัวเองบาดเจ็บ!” ฉินเย่จือเตือนอย่างรอบคอบ

เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินสิ่งนี้ก็ยิ่งตกใจและตกตะลึง “ตัดเหล็กได้ราวกับตัดโคลน?”

คมขนาดนั้นเลยหรือ? เมื่อเห็นท่าทีตกใจของกู้เสี่ยวหวาน ฉินเย่จือก็กล่าวว่า “กริชนี้มีเล่มเดียวในโลก ตัดเหล็กราวได้กับตัดโคลน เจ้าพกติดตัวไว้เผื่อจำเป็น แต่เจ้าต้องจำไว้ว่าจงใช้อย่างระมัดระวัง และอย่าให้มันทำเจ้าบาดเจ็บได้”

เดิมทีฉินเย่จือไม่ต้องการมอบกริชนี้ให้กู้เสี่ยวหวาน หากนางใช้มันโดยไม่ระวังและได้รับบาดเจ็บขึ้นมาจะทำอย่างไร?

หากแต่ก็กลัวว่านางจะพบกับพวกสวะเลวร้ายอีกในอนาคต อย่างน้อยก็สามารถใช้กริชนี้เพื่อป้องกันตัวได้

แม้ว่ากู้เสี่ยวหวานจะมีอาโม่คอยปกป้องนางตลอดเวลา แต่อาโม่ไม่สามารถปรากฏตัวได้ตลอด!

ด้วยกริชนี้เพื่อใช้ปกป้องนาง เขาก็สามารถมั่นใจได้!

“กริชนี้มีค่ามากหรือ?” กู้เสี่ยวหวานเอ่ยถามทันที

เมื่อมองไปที่ฉินเย่จือราวกับจะสำรวจสายตาของเขา!

ฉินเย่จือกล่าวว่ามีเพียงเล่มเดียว

กริชเล่มนี้เป็นของหายาก! แต่เขากลับมอบมันให้นางอย่างง่ายดาย!

ฉินเย่จือพยักหน้าโดยไม่ปิดบัง “ใช่แล้ว! กริชเล่มนี้ข้าพกมันติดตัวมาเจ็ดหรือแปดปีแล้ว และไม่เคยปล่อยให้ห่างกาย! มันเป็นของขวัญวันเกิดจากพ่อของข้าในตอนนั้น!”

กริชราคาแพงเช่นนี้ เดิมทีเป็นของขวัญวันเกิดของเขานี่เอง!

ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานละสายตาจากร่างกายฉินเย่จือและหยุดลงตรงกริชเล่มนี้

กริชเล่มนี้มีค่ามาก!

กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้วแน่น สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ “ข้ารับของมีค่าเช่นนี้ไม่ได้!”

ฉินเย่จือพกมันไว้ตั้งแต่เด็กและพ่อของเขาก็เป็นคนให้มา ของล้ำค่ามากเช่นนี้นางรับไม่ได้จริง ๆ!

“ทำไมล่ะ?” เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานคืนกริชมาให้ตน ฉินเย่จือจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“มันมีค่าเกินไป ข้ารับไม่ได้!” กู้เสี่ยวหวานกล่าวอย่างโกรธเคือง

นางไม่รับรู้ถึงความโกรธในน้ำเสียงของตนเอง

แต่ฉินเย่จือค้นพบมัน

เมื่อเห็นความไม่พอใจบนใบหน้าของกู้เสี่ยวหวาน ฉินเย่จือก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย!

กู้เสี่ยวหวานกำลังทำหน้าบูดบึ้ง

“หวานเอ๋อร์ เป็นอะไรไป?”

ฉินเย่จือเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่มีอะไร ข้ารับของมีค่าเช่นนี้ไว้ไม่ได้!” หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานพูดเบา ๆ นางก็หลับตาลง “เจ้ารีบออกไปเถอะ! ข้าเหนื่อยนิดหน่อย!”

ฉินเย่จือถูกกู้เสี่ยวหวานโยนออกจากบ้านด้วยความงุนงง!

ฉินเย่จือยืนอยู่ที่ประตูและมองดูประตูที่ปิดลงต่อหน้าเขา ในใจรู้สึกอธิบายไม่ถูก!

และกู้เสี่ยวหวานก็เข้านอนอย่างโกรธเคือง!

ในใจทั้งโกรธทั้งอึดอัด!

นางไม่รู้จริง ๆ ว่าตัวตนที่แท้จริงของฉินเย่จือคือใครกันแน่!

เขาช่วยชีวิตนางถึงสามครั้ง และนางพึ่งพาเขาอย่างสมบูรณ์ ไว้วางใจเขาและถือว่าเขาเป็นครอบครัวของนาง!

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาหยิบกริชอันล้ำค่าออกมา กู้เสี่ยวหวานรู้สึกถึงเพียงความโกรธอยู่ในใจ มันสุมอยู่ในอกของนาง ไม่สามารถคายออกมาหรือกลืนมันเข้าไปได้

ประสบการณ์ชีวิตของฉินเย่จือคืออะไร และครอบครัวของเขาทำอะไรมาก่อน?

กู้เสี่ยวหวานไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้เลย!

กู้เสี่ยวหวานคิดเรื่องนี้ กุมศีรษะของนางด้วยความโกรธและนั่งลงบนเตียง จากนั้นนางก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเบา ๆ จากฉินเย่จือ “หวานเอ๋อร์ เปิดประตู…”

กู้เสี่ยวหวานปิดหูของนาง และในที่สุดนางก็ห่อตัวเองด้วยผ้าห่มพยายามแยกตัวจากโลกภายนอก

อย่างไรก็ตาม ยิ่งวุ่นวายใจมากเท่าไร เสียงภายนอกก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น “หวานเอ๋อร์ เปิดประตู เจ้าอยากจะพูดอะไรก็มาพูดต่อหน้า อย่าขังข้าไว้ข้างนอก!” เสียงของฉินเย่จือดังมาจากข้างนอก น้ำเสียงของเขาเศร้าสร้อยมาก

แต่กู้เสี่ยวหวานยังคงเพิกเฉยและปล่อยให้เขากระซิบเบา ๆ ข้างนอก “หวานเอ๋อร์ เปิดประตู มีอะไรก็มาพูดกันต่อหน้า…”

“…”

“หวานเอ๋อร์…”

“…”

กู้เสี่ยวหวานรู้สึกแปลก ๆ แต่นางไม่สามารถบอกได้!

“หวานเอ๋อร์ หวานเอ๋อร์…”

เสียงกระตือลือร้นดังขึ้นจากข้างนอก คราวนี้กู้เสี่ยวหวานเงี่ยหูฟัง และในที่สุดนางก็รู้ว่าเสียงประหลาดเช่นนี้มาจากไหน

โดยไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ กู้เสี่ยวหวานกระโดดลงจากเตียงโดยไม่สนใจที่จะสวมรองเท้าและวิ่งไปเปิดประตู

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากข้างใน หัวใจของฉินเย่จือเต้นระรัว จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าด กู้เสี่ยวหวานเปิดประตูจากด้านในอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางเขินอาย “ใครใช้ให้เจ้าเรียกข้าเช่นนั้น!”

หวานเอ๋อร์ หวานเอ๋อร์ เขาจะเรียกชื่อที่สนิทสนมเช่นนี้ได้อย่างไร

นางได้ยินก็รู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย

ในอดีต พ่อแม่ของนางยังไม่เคยเรียกเช่นนั้นมาก่อนเลย

ในวันธรรมดา เมื่ออารมณ์ดี เขาจะเรียกนางว่าเสี่ยวหวาน และเมื่ออารมณ์ไม่ดีเขาจะเรียกทั้งชื่อและแซ่ของนาง และที่แย่กว่านั้น เขายังเรียกนางว่าสาวน้อยตัวเหม็น

กู้เสี่ยวหวานเคยชินกับการถูกคนอื่นปฏิบัติอย่างรุนแรง แต่เมื่อนางได้ยินว่าคนอื่นเรียกนางอย่างสนิทสนมเป็นครั้งแรกก็รู้สึกไม่ชินกับมัน

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *