ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 934 มาอาศัยใบบุญ

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย Chapter บทที่ 934 มาอาศัยใบบุญ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 934 มาอาศัยใบบุญ

บทที่ 934 มาอาศัยใบบุญ

เฉาซินเหลียนคิดแผนการขึ้นในใจ

กู้ฟางสี่เป็นคนทำงานหนัก ถ้าสามารถหลอกล่อให้นางกลับบ้านได้ ทีนี้ก็จะมีคนค่อยทำความสะอาดบ้านให้นาง

แต่ที่บ้านไม่มีอาหารหรือเงินแล้ว และกู้ฟางสี่คงไม่สามารถทนเห็นหลานสาวและหลานชายตนเองอดตายได้ ถึงเวลานั้นค่อยส่งนางมาขอเงินจากกู้เสี่ยวหวานก็ย่อมได้

หลังจากพูดจบ เฉาซินเหลียนก็เตรียมรุดขึ้นได้เพื่อดึงตัวกู้ฟางสี่ไว้

กู้ฟางสี่เกลียดพี่สะใภ้คนนี้แทบตาย

ถ้าไม่ใช่เพราะเฉาซินเหลียนคนนี้ที่กำลังมองหาเงินในตอนนั้น นางคงไม่ต้องแต่งงานกับอันธพาลอย่างหลิวชิงซาน

กู้ฟางสี่เบี่ยงกายหลบด้วยความขยะแขยง และผลักอีกฝ่ายเบา ๆ ทำให้เฉาซินเหลียนเสียการทรงตัว นางโซเซไปทางกู้ถิงถิง เด็กหญิงที่ไม่ทันระวังและไม่อาจรับแรงปะทะที่ถาโถมเข้ามาได้ ร่างกายของนางซวนเซก่อนจะหงายหลังล้มลงก้นจ่ำเบ้า จากนั้นก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด

เมื่อเฉาซินเหลียนเห็นลูกสาวล้มลง หยาดน้ำตาก็ร่วงหล่นลงมาอีกครั้ง นางทรุดตัวนั่งลงบนพื้นร้องไห้คร่ำครวญ และตีอกชกหัวตนเอง “กู้ฉวนโซ่ว คนไร้มโนธรรมไม่สนใจสามแม่ลูกอย่างพวกเราก็ไม่เป็นไร ลูกสาวของตระกูลกู้ที่แต่งงานออกไปยังทุบตีเราอีก เรายังจะมีประโยชน์อะไรในตระกูลกู้ หากข้ากับลูกตายไปก็คงจะจบเรื่องแล้ว”

ทักษะการแสดงของเฉาซินเหลียนนั้นเรียกได้ว่ายอดเยี่ยม ถ้านางไม่ได้รางวัลก็นับว่าแปลกแล้ว

กู้ฟางสี่หน้าแดงก่ำเมื่อได้ยินว่าสิ่งที่นางพูดนั้นไม่น่าฟัง เมื่อครู่นางไม่ได้หมายความตามนั้น จริง ๆ

เมื่อครู่นางเพียงผลักเฉาซินเหลียนเบา ๆ เท่านั้น แต่นางไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าคนที่ได้รับผลกระทบจะเป็นกู้ถิงถิง

กู้ฟางสี่แซ่กู้ และกู้ถิงถิงก็แซ่กู้เช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่นางยังอาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่าของตระกูลกู้ กู้ถิงถิงคนนี้ก็เป็นคนที่นางเฝ้าดูการเติบโต

เมื่อกู้ถิงถิงยังเด็ก เฉาซินเหลียนชอบออกไปเดินเล่นตามท้องถนน นางจึงโยนเด็กผู้หญิงคนนี้ให้พี่สามของนาง แต่พี่สามเป็นผู้ชายเขาจะเลี้ยงเด็กเป็นได้อย่างไร

นอกจากนี้ พี่สามคนนี้ก็ชอบเที่ยวเล่น เมื่อเห็นพี่สะใภ้สามออกจากบ้าน หลังจากนั้นก็ออกจากบ้านไปทันทีเช่นกัน

เด็กน้อยถูกทิ้งให้อยู่ที่บ้านโดยไม่มีใครดูแล ดังนั้นกู้ฟางสี่จึงปล่อยให้หลานสาวร้องไห้และอยู่คนเดียวไม่ได้

ในเวลานั้น กู้ฟางสี่จึงเป็นคนดูแลกู้ถิงถิง คอยเปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนอาหาร และเมื่อโตขึ้นก็สอนให้นางเดิน ต่อมาเด็กน้อยก็เริ่มรู้ความมากขึ้น และรู้ว่ากู้ฟางสี่ดีต่อตัวเอง แทนที่จะสนิทสนมกับแม่ของตัวเองเอง แต่กู้ถิงถิงกลับสนิทกับกู้ฟางสี่แทน

เฉาซินเหลียนที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร เมื่อลูกโตแล้วเดินได้ และเริ่มเข้าห้องน้ำเองได้ ไม่ว่านางจะไปที่ไหนก็ตามก็จะพาลูกไปด้วยทุกที่

ดังนั้นเฉาซินเหลียนจึงพากู้ถิงถิงไปตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ แต่ความรู้สึกของกู้ฟางสี่ที่มีต่อกู้ถิงถิงก็ไม่ได้เปลี่ยนไปตลอดหลายปีที่ผ่านมา

แต่กู้ถิงถิงต่างออกไป เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนนางยังเด็กมาก แน่นอนว่าตอนนี้นางจึงจำอะไรไม่ได้แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับท่านอาคนนี้ที่แต่งงานออกไปเมื่อสามสี่ปีที่แล้ว นางจึงไม่เหลือความรู้สึกดี ๆ ให้อีกฝ่ายอีกต่อไป

กู้ถิงถิงถูกผลักจนล้มลง และหลังจากร้องไห้ก็มองไปที่กู้ฟางสี่อย่างดุดัน

นางมองไปที่กู้ฟางสี่อย่างไม่สบอารมณ์ ร่างกายของนางสั่นสะท้าน เด็กคนนี้เกลียดชังกู้ฟางสี่มากแค่ไหน กู้ถิงถิงมองนางแบบนี้ได้อย่างไร?

กู้ฟางสี่ใจอ่อนและก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อช่วยประคองหลานสาวขึ้น แต่กู้ถิงถิงปัดมือที่ยื่นออกมาของกู้ฟางสี่ทิ้งแล้วตวาดเสียงดัง “ไปให้พ้น!”

กู้ฟางสี่ตะลึงงันกับเสียงคำรามของเด็กหญิง นางได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น มือไม้อ่อนแรงและพูดสิ่งใดไม่ออก

“พวกท่านมีเงิน และยังไม่ให้ยอมให้ข้าใช้อีก ข้าหิวจะตายอยู่แล้ว” ทันใดนั้น กู้ซุ่นสีที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้น

เขาหมายความว่าเงินที่กู้เสี่ยวหวานหามาด้วยความยากลำบากจะต้องให้เขาใช้ด้วยอย่างนั้นหรือ?

เหตุผลนี้มันคืออะไร?

กู้ซุ่นสีไม่ใช่ลูกชายของกู้เสี่ยวหวาน

เวลานี้สีหน้าของกู้เสี่ยวหวานไม่ค่อยดีนัก

และนางกำลังจะสอนบทเรียนที่ดีให้กับกู้ซุ่นสีว่า อย่าพูดเรื่องไร้สาระเพียงเพราะเขาเป็นเด็ก

แต่ในเวลานี้ จู่ ๆ เฉาซินเหลียนก็รีบลุกขึ้นและต้องการจะกระชากตัวกู้ฟางสี่ แต่อาโม่ผู้ซึ่งมีสายตาว่องไวและมือเร็ว ดึงกู้ฟางสี่หลบจากการโจมตีของเฉาซินเหลียนด้วยความรวดเร็ว

การที่เฉาซินเหลียนแสร้งทำเป็นโศกเศร้า แน่นอนว่าการกระทำนี้มันเกินจริงและเป็นเพียงการเสแสร้ง แต่เนื่องจากใช้แรงมากเกินไปจึงทำให้นางล้มลงกับพื้นอีกครั้ง

ในขณะนี้ กู้เสี่ยวหวานล้มเลิกความคิดที่ว่านางจะรับกู้ถิงถิงและกู้ซุ่นสีเข้ามา

เฉาซินเหลียนล้มลงกับพื้น นางร้องโอดโอยอยู่นานและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้

ดูเหมือนว่าการล้มเมื่อครู่จะไม่เบานัก แต่เมื่อนางร้องขอก็ไม่ผู้ใดสนใจ

ทุกคนมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน และรอให้กู้เสี่ยวหวานเอ่ยปาก

ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานบูดบึ้งและนิ่งเงียบอยู่นาน

กู้ถิงถิงและกู้ซุ่นสีไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อพวกเขาเห็นมารดาล้มลงกับพื้น พวกเขาก็เอาแต่ยืนเฉย ๆ และไม่ได้ยื่นมือออกไปเพื่อช่วยประคองเฉาซินเหลียนขึ้นมาจากพื้นเลย

ความเฉยเมยและความโหดเหี้ยมในดวงตาคู่นั้นดูเหมือนจะปลุกกู้เสี่ยวหวานให้ตื่นขึ้นในทันที

กู้เสี่ยวหวานมองไปที่เด็กทั้งสอง

ไม่ได้เจอกันมาสองปีแล้ว และเด็กทั้งสองก็สูงขึ้นไม่น้อย แต่พวกเขาผอมลงกว่าเดิมเพราะร่างกายขาดสารอาหารจึงดูผอมโซ

ไม่รู้ว่าเฉาซินเหลียนสอนพวกเขาอย่างไรในช่วงที่ผ่านมา กู้ถิงถิงและกู้ซุ่นสีที่เคยมีพฤติกรรมค่อนข้างดี ตอนนี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปและไม่มีร่องรอยของความประพฤติดีอยู่เลยแม้แต่น้อย

เหลือเพียงความเฉยเมยและความโหดเหี้ยม

กู้เสี่ยวหวานไม่รู้ว่าทำไม แต่ก็มีความไม่คุ้นเคยกับเด็กสองคนนี้ในใจ

กู้เสี่ยวหวานไม่จำเป็นต้องกังวล แต่มีบางสิ่งที่ต้องเตรียมการล่วงหน้า

เมื่อมองไปที่เด็กทั้งสอง นางก็ผุดแผนขึ้นอยู่ในใจ

จากนั้นก็กระซิบกับกู้ฟางสี่ และกู้ฟางสี่ก็พยักหน้าเข้าใจ แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าตกใจ

เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานยืนยันเรื่องนี้ กู้ฟางสี่ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกลับเข้าไปในบ้าน และเมื่อออกมาอีกครั้งก็มอบถุงเงินให้กู้เสี่ยวหวาน

——————————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด