ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 807 พูดไม่ลืมหูลืมตา

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย Chapter บทที่ 807 พูดไม่ลืมหูลืมตา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 807 พูดไม่ลืมหูลืมตา

บทที่ 807 พูดไม่ลืมหูลืมตา

บางทีตอนนี้อาจเป็นตัวตนที่แท้จริงของหลิวชิงซาน!

ท่านอาจะทนคนไม่มีมารยาทแบบนี้ได้อย่างไร!

เมื่อกู้เสี่ยวหวานนึกถึงผู้เป็นอา หัวใจของนางก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา

เมื่อมองไปที่หลิวชิงซานดวงตาก็ยิ่งเย็นยะเยือกลง

ฉินเย่จือคอยอยู่ข้าง ๆ นั่งเงียบ ๆ ฟังสิ่งที่ทั้งสองคนคุยกัน

หลิวชิงซานดูเหมือนจะไม่เห็นดวงตาที่เย็นชาของกู้เสี่ยวหวาน หลังจากกินน่องไก่ เขาก็เลียน้ำมันที่มืออย่างลืมตัวละพูดจาประจบประแจง “สาวน้อยเสี่ยวหวาน น่องไก่ย่างนี้อร่อยจริง ๆ ดีจริง ๆ เลยที่มันมาเป็นคู่ ถ้าเช่นนั้นที่เหลือข้าก็กินเลยแล้วกัน!”

ไม่รอให้กู้เสี่ยวหวานได้พูด ขาไก่อีกน่องก็ได้เข้าไปในปากของเขา แล้วเขาก็เริ่มแทะมัน

ไก่หนึ่งตัวมีแค่สองน่อง ตั้งแต่หลิวชิงซานมาที่นี่ กู้เสี่ยวอี้ก็ไม่ได้กินน่องไก่เลย ครั้งนี้กินไก่อีกครั้ง ส่วนที่ดีที่สุดอย่างน่องไก่ก็ได้เข้าไปอยู่ในท้องของหลิวชิงซานเสียแล้ว

เมื่อกินปลา ส่วนเนื้อที่นุ่มที่สุดอย่างท้องปลาก็ตกอยู่ในท้องของเขา

เขาแค่สนใจว่าตัวเองอยากกินอะไร แต่ไม่เคยสนใจความรู้สึกของคนอื่นเลย

คนเช่นนี้ กู้เสี่ยวหวานไม่ต้องการพบเขาอีก แต่เนื่องจากเรื่องแยกกันอยู่ของผู้เป็นอา นางยังต้องการให้คนผู้นี้พยักหน้าเห็นด้วย ไม่เช่นนั้นนางคงจะโยนเขาออกจากบ้านไปแล้ว

ในที่สุด หลิวชิงซานก็กินไก่ทั้งสองน่องเสร็จก็เรอด้วยความพึงพอใจ

ตั้งแต่มาถึงบ้านของกู้เสี่ยวหวาน อะไรก็อร่อยไปหมด ที่อยู่อาศัยก็ดี

แค่ไม่มีเหล้า!

ถ้าบ้านหลังนี้เป็นของข้าในอนาคต ข้าจะซื้อเหล้ากินทุกวัน อยากกินเท่าไรก็กิน แต่ตอนนี้ปล่อยให้พวกนางกระโดดโลดเต้นไปก่อนเถอะ!

“ท่านอาเขย ปีใหม่ก็ผ่านไปแล้ว ท่านเองก็อยู่บ้านข้ามาสักพัก หลังจากนี้วางแผนอย่างไรหรือ? เมื่อกู้เสี่ยวหวานเห็นเขากินเสร็จก็เปิดปากถามด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ

สายตาคมกริบราวกับมีด หลิวชิงซานเงยหน้าขึ้นมอง เห็นความเย็นชาในดวงตาของกู้เสี่ยวหวาน เขารู้สึกวิตกกังวลเล็กน้อย หากแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งท่าทีหยิ่งผยอง

“เสี่ยวหวานเจ้าพูดอะไรน่ะ? ไม่ชอบให้ข้าอยู่ในบ้านของเจ้าโดยเปล่าประโยชน์หรือ?” หลิวชิงซานพูดอย่างไม่พอใจ

“ใช่ ข้าไม่ชอบ ท่านมีมือมีเท้า ยังอยู่ในช่วงที่ยังหนุ่มยังแน่น การใช้เวลาทั้งวันกิน ๆ นอน ๆ อยู่ที่นี่ไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเลย!” กู้เสี่ยวหวานพูดอย่างไม่เกรงใจ

เมื่อได้ยินว่านางตำหนิเขา ใบหน้าของหลิวชิงซานก็ดำมืดเหมือนก้นหม้อทันที เขากำลังจะด่าออกมา แต่สีหน้าและสายตาของเขาก็เปลี่ยนไปแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย “ข้าเกียจคร้านที่ไหนกัน นี่ข้าก็เข้าไปในเมืองเพื่อดูว่าพอจะมีงานอะไรให้ข้าทำได้บ้าง!”

“แล้วท่านหาได้หรือยัง?” ถ้าหลี่ฝานไม่ได้มาบอกกู้เสี่ยวหวานว่า หลิวชิงซานอยู่ในเมืองก็ไปแต่โรงเหล้าและบ่อนการพนัน นางคงถูกบุคคลนี้หลอกแล้ว

“หาเจอแล้ว หาเจอแล้ว แค่… เอ่อ…” จากที่หลิวชิงซานดูมีท่าทีดีใจในตอนแรก จากนั้นก็ถอนหายใจมีท่าทางเขินอาย

กู้เสี่ยวหวานกะพริบตา ทันใดนั้นก็เข้าใจสิ่งที่เขากำลังจะพูด “ท่านไม่มีเงิน?”

หลิวชิงซานกำลังคิดว่าเขาควรจะพูดอย่างไรเมื่อกู้เสี่ยวหวานเปิดประเด็นขึ้นมา ดวงตาของหลิวชิงซานเป็นประกายทันที “ใช่ ไม่ผิด ข้าแค่ไม่มีเงิน! ข้าคิดจินตนาการอยากทำเหมือนร้านเก่า แต่ทั้งเนื้อทั้งตัวข้าไม่มีเงินเลย! เห้อ ข้าก็ได้แต่คิด” หลิวชิงซานถอนหายใจ ดูเสียดายมาก!

“ก่อนหน้านี้ท่านทำอะไร?”

“เมื่อก่อนน่ะหรือ ข้าเปิดร้าน!” หลิวชิงซานกลอกตาพูดโกหก

“ขายอะไรหรือ?”

“ขายทุกอย่าง ทั้งอาหาร เนื้อสัตว์ ขนสัตว์ ขายทุกอย่าง!” หลิวชิงซานแสร้งทำเป็นมีประสบการณ์มาก ดาวบนฟ้า ปลาในน้ำ สัตว์แปลก ๆ ร้านของเขามีหมด!

เมื่อเห็นความจริงที่เขาพูด ถ้าไม่รู้ว่าหลิวชิงซานคนนี้เอาแต่พึ่งพากู้ฟางสี่จากการซ่อมเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม จะเชื่อจริง ๆ ว่าหลิวชิงซานเขาเป็นคนดี

กู้เสี่ยวหวานเห็นว่าเขาคุยโวเกี่ยวกับอะไรบนฟ้าบนสวรรค์ นางเยาะเย้ยและถามราวกับนางอยากรู้ “ท่านสุดยอดมาก! ไม่รู้ว่าก่อนนี้ข้าวที่ร้านท่านหนึ่งจิน ราคากี่ตำลึงหรือ?”

“อันนี้…” หลิวชิงซานคิดไม่ถึงว่ากู้เสี่ยวหวานจะถามตนในเรื่องที่เฉพาะเจาะจงเช่นนี้ เขาไม่สามารถตอบได้ จากนั้นได้ยินกู้เสี่ยวหวานถามต่อไปว่า “ท่านเพิ่งบอกว่าที่ร้านมีหน่อไม้แห้งด้วยหรือ? ของสิ่งนี้แปลกมาก ไม่เคยได้ยินมาก่อน อร่อยหรือไม่ แล้วกินอย่างไร?”

หลิวชิงซานไม่รู้อะไรเลย ถึงแม้ว่าเขาจะเคยกินหน่อไม้ แต่เขาไม่เคยจัดการกับมันด้วยตนเอง

เขาหลบตาเล็กน้อย แต่เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วเขาคิดว่ากู้เสี่ยวหวานอาจจะไม่รู้ ดังนั้นจึงโกหก “เด็กโง่ หน่อไม้แห้งโยนใส่หม้อแล้วก็ต้มได้เลย!”

กู้เสี่ยวหวานกระพริบตาพร้อมกับยิ้มเยาะ “งั้นหรือ? แต่ข้าได้ยินมาว่าหน่อไม้แห้งต้องแช่สามวันสามคืนก่อนที่จะต้มได้! ถ้านำไปต้มเลยจะแข็งเหมือนไม้แห้ง”

เมื่อได้ยินสิ่งที่กู้เสี่ยวหวานพูด หลิวชิงซานก็รีบเปลี่ยนคำพูดของเขา “ใช่ ๆ ข้าหมายความว่าอย่างนั้นแหละ! หน่อไม้เหล่านี้แห้ง ถ้าเจ้าไม่แช่ไว้ก่อน เจ้าจะไม่สามารถกัดมันได้! นอกจากนี้เมื่อหน่อไม้แห้งพร้อมแล้วเอามาย่าง มันจะมีกลิ่นหอมมาก”

“ท่านอยากเปิดร้านแบบไหน?”

“ฮิ ๆ ข้าอยากเปิดร้านขายของชำ” หลิวชิงซานเห็นว่าคำถามของนางมีรายละเอียดเช่นนี้ ก็คิดไปว่ากู้เสี่ยวหวานต้องการให้เงินเขา จากใบหน้าที่เหี่ยวย่นของเขาก็บานเป็นดอกไม้ทันที!

“ให้ข้าหนึ่งร้อยตำลึงเพื่อเช่าร้านและสั่งสินค้า แม้ว่ามันจะไม่เพียงพอ แต่ก็ยังสามารถเปิดร้านได้!” หลิวชิงซานกล่าวต่อเหมือนว่าเขาเห็นเงินหนึ่งร้อยตำลึงกวักมือเรียกเขาแล้ว

“ท่านนี่เหมือนสิงโตอ้าปากจริง ๆ! ขอเงินข้าทันทันทีที่เปิดปาก!” กู้เสี่ยวหวานเย้ยหยัน

หลิวชิงซานกลัวว่ากู้เสี่ยวหวานจะไม่ให้เงิน ดังนั้นเขาจึงรีบทำหน้าขมขื่น จากนั้นดูเหมือนจะนึกถึงกู้ฟางสี่แล้วกล่าวด้วยความรัก “เสี่ยวหวาน ข้าไม่ได้หาเงินเพื่อตัวเอง ข้าหาเงินเพื่ออาของเจ้า! แต่ก่อนนี้อาของเจ้าไม่เคยลำบาก แต่เมื่อสูญเสียกิจการไปจึงได้เดือดร้อนเช่นนี้! ตัวข้าเองน่ะไม่เท่าไรหรอก แต่ข้าแค่อยากจะรีบหาเงิน เพื่อที่จะให้อาของเจ้ามีความสุขเร็วขึ้น!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด