ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 420 สาบานเพื่อความอยู่รอด

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย Chapter บทที่ 420 สาบานเพื่อความอยู่รอด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 420 สาบานเพื่อความอยู่รอด

บทที่ 420 สาบานเพื่อความอยู่รอด

ถูหมิ่นอยากจะหนีออกไปจากกู้เสี่ยวหวานให้เร็วที่สุด กู้เสี่ยวหวานในตอนนี้เป็นเหมือนปีศาจจากขุมนรก เขากลัวจริง ๆ ว่าลิ้นของตนเองจะถูกแม่นางผู้นี้ตัดขาด

เมื่อคู่สามีภรรยากุ้ยได้ยินถูหมิ่นบอกว่าเขาไม่ต้องการเงินหนึ่งร้อยตำลึงเงินอีกแล้ว แม้แต่ดวงตาของกุ้ยชุนเจียวก็สว่างขึ้น ขณะที่กู้เสี่ยวหวานยืนใกล้ ๆ ก็ไม่พลาดความประหลาดใจในสายตาของพวกเขา

ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานล้ำลึก

พวกเขายังไม่เข้าใจว่าทำไมตนเองต้องการลิ้นของถูหมิ่น

ฉินเย่จือเห็นว่าสามีภรรยากุ้ยไม่เห็นด้วยที่จะตัดลิ้นของถูหมิ่น ใบหน้าของเขาก็มืดลง ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดี แต่พวกเขากลับไม่ต้องการให้ทำเช่นนั้น หากในอนาคต ถูหมิ่นกลับคำพูดและเปิดเผยเรื่องของกุ้ยชุนเจียวออกมา เกรงว่าพวกเขาคงจะต้องเสียใจไปจนตาย

อย่างไรก็ตาม นั่นก็เป็นทางเลือกของคู่สามีภรรยากุ้ยและกุ้ยชุนเจียว พวกเขาทั้งหมดเลือกที่จะไม่ตัดลิ้นถูหมิ่น และกู้เสี่ยวหวานก็จะไม่ทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ถูหมิ่นกำอยู่ในมือก็ไม่ใช่เรื่องของนาง

ถูหมิ่นเป็นคนฉลาด เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่กล่าวอะไรออกมา เขาจึงมองไปที่คู่สามีภรรยากุ้ยและกุ้ยชุนเจียวที่ไม่กล่าวอะไรสักคำ ในใจก็รู้สึกว่ามีเรื่องบางอย่าง นอกจากนี้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับแม่นางผู้นี้ ตราบใดที่กุ้ยชุนเจียวและคู่สามีภรรยากุ้ยไม่ต้องการลิ้นของเขา แม่นางผู้นี้ก็ไม่กล้าทำอะไรกับตนเอง

ถูหมิ่นกล่าวอีกครั้งทันที “ท่านลุง ท่านป้า เจียวเอ๋อร์ ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่พูดเด็ดขาด หากข้ากล้าที่จะเปิดเผยเพียงครึ่งคำ ขอให้ข้าตายอยู่ข้างถนนในถิ่นทุรกันดารและปล่อยให้ศพของข้าถูกสุนัขกัดกินเข้าไปและถูกนกจิกจนไม่เหลือซาก!”

ช่างเป็นคำสาบานที่เลวร้ายอะไรเช่นนี้! ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานจมลงมากยิ่งขึ้น

เมื่อคู่สามีภรรยากุ้ยและกุ้ยชุนเจียวเห็นว่าถูหมิ่นสาบานอย่างหนักแน่น พวกเขามองหน้ากันและรู้สึกโล่งใจ

ตอนนี้ถูหมิ่นไม่ต้องการเงินหนึ่งร้อยตำลึงเงินอีกต่อไป และเขาก็สาบานด้วยชีวิตของเขาว่าจะไม่ปริปากเอ่ยอะไรทั้งนั้น เช่นนั้นก็ปล่อยเขาไปเถอะ!

คู่สามีภรรยากุ้ยมองหน้ากัน และกุ้ยสวิ้นเหอกล่าวว่า “สาวน้อยเสี่ยวหวาน ปล่อยเขาไปเถอะ!”

“พวกท่านแน่ใจหรือว่าต้องการปล่อยเขาไป?” กู้เสี่ยวหวานกล่าวอย่างว่างเปล่า ถามความคิดเห็นของพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย

“เจียวเอ๋อร์ ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องกังวล ข้ารักเจ้า ข้าทนไม่ได้ที่จะเห็นเจ้าถูกทำร้ายแม้สักนิด! ไม่ต้องกังวลไป!”

“ปล่อย ปล่อยเขาไปเถอะ!” หลังจากที่กุ้ยชุนเจียวกล่าวออกมาแล้ว นางก็จากไปโดยไม่หันกลับมามอง เมื่อเห็นว่าลูกสาวของนางเดินจากไปแล้ว กุ้ยซื่อก็รีบไล่ตามนางไปทันที ในขณะนี้มีเพียงกุ้ยสวิ้นเหอ กู้เสี่ยวหวาน และฉินเย่จือ กำลังมองดูถูหมิ่นที่นอนอยู่บนพื้น

สีหน้าของกู้เสี่ยวหวานมืดมืดมน และดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไร นางโบกมืออย่างช่วยไม่ได้และกล่าวว่า “เราไปกันเถอะ!”

เราที่ว่าหมายถึงนางและฉินเย่จืออย่างเป็นธรรมชาติ

เมื่อฉินเย่จือเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานจากไปโดยไม่หันกลับมามอง ฉินเย่จือก็ปล่อยถูหมิ่นทันที และตามกู้เสี่ยวหวานออกไป

เมื่อปราศจากการเหยียบย่ำที่หลังโดยฉินเย่จือ ถูหมิ่นก็รู้สึกราวกับว่าเขาได้เกิดใหม่หลังจากภัยพิบัติ และร่างกายของเขาก็รู้สึกโล่งขึ้น แม้ว่ามันจะยังเจ็บปวดอยู่ แต่ก็ดีกว่าก่อนหน้านี้มาก อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องนอนบนพื้น

ถูหมิ่นลุกขึ้นจากพื้นด้วยความยากลำบากราวกับว่ามีรูอยู่ด้านหลังของเขา มันปวดร้าวจนเขาต้องกัดฟันเอาไว้

กู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือเดินไปไกลแล้ว กุ้ยสวิ้นเหอรอให้ถูหมิ่นลุกขึ้นและให้คำเตือน จากนั้นถูหมิ่นก็รีบยิ้มและกล่าวว่าแน่นอน จากนั้นก็เห็นกุ้ยสวิ้นเหอก็จากไป

กุ้ยสวิ้นเหอ ไม่เห็นมัน และในขณะที่เขาหันกลับมา รอยยิ้มบนใบหน้าของถูหมิ่นก็หายไปในทันที แทนที่ด้วยความบ้าคลั่งและความเข้มงวด

“หึ… มาดูกัน!” กล่าวจบ ถูหมิ่นก็เดินกะเผลกออกไป

คู่สามีภรรยากุ้ยไม่ได้คาดหวังว่าความอ่อนโยนของพวกเขาในวันนี้ จะทำให้เกือบจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นในอนาคต และผู้กระทำผิดคือถูหมิ่น

คู่สามีภรรยากุ้ยจะต้องเสียใจไปจนตาย ถ้าถูหมิ่นจบลงในเวลานี้ ใครจะรู้ เด็กกำพร้าที่ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีพี่น้อง ที่ทำร้ายผู้คนมามากมาย ใครรู้ว่าใครเป็นคนฆ่าเขากัน

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต

กู้เสี่ยวหวานก้าวเดินอย่างรวดเร็ว หลังจากวันที่วุ่นวาย นางแค่ต้องการหาโรงเตี๊ยมที่ดีเพื่อพักผ่อนในยามค่ำคืน

ฉินเย่จือรีบก้าวเพื่อไล่ตามกู้เสี่ยวหวานให้ทัน และหลังจากที่ตามทัน เขาก็เดินเคียงข้างไปกับกู้เสี่ยวหวาน

ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันระหว่างทาง แต่ฉินเย่จือรู้สึกได้ถึงการสูญเสียและการทำอะไรไม่ถูกของกู้เสี่ยวหวานในขณะนี้

ถูหมิ่นผู้นี้ไม่ใช่คนที่จะรักษาสัญญา

คนประเภทนี้ เกรงว่าจะสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อเงิน เช่นการลักพาตัวและหลอกลวงเหล่าเด็กสาว ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้ วันนี้เนื่องจากการข่มขู่ของกู้เสี่ยวหวาน เขาไม่ได้ไปยุ่มย่ามกับกุ้ยชุนเจียว และสาบานด้วยชีวิตของเขาว่าเขาจะไม่ทำอะไรกับกุ้ยชุนเจียวอีก

อย่างไรก็ตาม คนประเภทนี้สัญญาได้ง่ายเพียงใด เขาก็จะผิดสัญญาได้ง่ายเพียงนั้น ยิ่งกว่านั้น คนผู้นี้มีความผิดติดตัว ถ้าเขาเชื่อในสิ่งที่เขาพูด เกรงว่าน้ำในแม่น้ำนี้คงจะไหลย้อนกลับ

กู้เสี่ยวหวานมองคนอย่างถูหมิ่นออก คงจะเป็นการดีกว่าที่จะให้เขาได้รับโทษ

เมื่อครู่นี้ กู้เสี่ยวหวานได้บอกคู่สามีภรรยากุ้ยอย่างชัดเจนว่า ถูหมิ่นอาจจะกลับมาอีกในอนาคต แต่คู่สามีภรรยากุ้ยและกุ้ยชุนเจียวก็ไม่เปลี่ยนใจ และพวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขารู้ความหมายของกู้เสี่ยวหวานอย่างชัดเจนหรือไม่ และยังเชื่อว่าถูหมิ่นจะไม่ผิดสัญญาจากการสาบานที่หนักแน่น

นี่คือธรรมชาติของมนุษย์ หลังจากที่คนอื่นคว้าตัวเจ้าและจะทำลายชื่อเสียงของเจ้าแล้ว ถ้าเจ้าปล่อยเขาไปง่าย ๆ ในที่สุดเจ้าก็จะเป็นคนเดียวที่จะเจ็บปวด

เรื่องในคืนนี้ กู้เสี่ยวหวานแค่เสนอความเป็นไปได้ที่จะลงโทษถูหมิ่น มันมีหลายวิธี ตัดลิ้นของเขา หลังจากนั้นปล่อยให้กุ้ยสวิ้นเหอยืนยันว่าถูหมิ่นเข้าไปในบ้านของเขาและต้องการลอบทำความผิดในบ้านของกุ้ยสวิ้นเหอ แต่ถูกเขามาพบทันเวลา เขาโกรธมาก จากนั้นจึงตัดลิ้นของถูหมิ่น

การบุกรุกเข้าไปในบ้านส่วนตัวของคนอื่นแบบนี้ก็เป็นอาชญากรรมได้เช่นกัน การที่กุ้ยสวิ้นเหอตัดลิ้นของเขา แม้จะทำให้เขาอยู่ในคุกเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่การใช้ชีวิตอยู่ในคุกจะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคตเป็นระยะเวลาหนึ่ง และทำให้ถูหมิ่นพูดไม่ได้ไปตลอดชีวิตก็จะไม่มีความยุ่งยากอีกต่อไป

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

จริง ๆ แล้วคนแบบนี้ไม่น่าปล่อยไปเลยนะคะ น่าจะตัดลิ้มมันไปให้จบ ๆ

ไหหม่า (海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *