ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 645 เซี่ยเหอซื่อ

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย Chapter บทที่ 645 เซี่ยเหอซื่อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 645 เซี่ยเหอซื่อ

บทที่ 645 เซี่ยเหอซื่อ

เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้พูดอะไร หลี่ฝานก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ใต้เท้า ตราบใดที่คนผู้นี้ปรากฏขึ้น บางทีนางอาจพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้าได้! เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านต้องการยืนยันว่าข้าฆ่าคน? หรือท่านต้องการกล่าวหาข้าในคดีนี้!”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ฝาน ลวี่เทาก็เงยหน้าขึ้นทันที

หลี่ฝานกำลังมองเขาด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าที่หล่อเหลานั้น หากแต่รอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตาของเขานั้นดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ยิ้ม

ลวี่เทารู้สึกราวกับมีกลองเล็ก ๆ ในใจของเขา

ครั้นกวาดสายตามองรอบด้าน พลันพบว่าผู้คนกำลังมองมาที่ตนด้วยความสงสัย ก่อนจะตวัดสายตามองไปข้างนอกอีกครั้ง เขารู้อยู่แก่ใจว่าหากไม่อนุญาตให้หญิงชราเข้ามาที่นี่ในวันนี้ เกรงว่าหลี่ฝานจะไม่เชื่อฟัง และเขากลัวว่าจะถูกคนเหล่านี้วิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน

เดิมทีชื่อเสียงของเขาในเมืองหลิวเจียนี้ไม่ค่อยดีนัก หลังจากนั้นปีหรือสองปี เบื้องบนจะทำการประเมินการทำงานของขุนนางเช่นเขา หนึ่งในนั้นคือความคิดเห็นของสาธารณชน เขาเสียชื่อเสียงไปแล้วเพราะการกระทำของลูกพี่ลูกน้อง และเขาไม่สามารถรุกรานหลี่ฝานได้เพียงเพื่อหญิงม่ายผู้นี้

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ลวี่เทาก็คิดถึงท่าทางของเหมียวซื่ออีกครั้ง จิตใจของเขานั้นครุ่นคิดหมกหมุ่น ไม่รู้ว่าแม่ม่ายผู้นี้จะเป็นอย่างไรเมื่อมาอยู่ภายใต้เรือนร่างของเขา

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ส่วนล่างของลวี่เทาก็คับแน่น แต่โชคดีที่มันอยู่ใต้โต๊ะและไม่มีใครสังเกตเห็น

เมื่อเห็นว่าเสียงรอบข้างเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ ลวี่เทาก็เคาะโต๊ะอีกครั้ง เสียงพลันเงียบลงทันที “นำโจทก์เข้ามา…”

“นำตัวโจทก์เข้ามา…” เจ้าหน้าที่เหล่านั้นถ่ายทอดคำสั่งของลวี่เทา จากนั้นเมื่อผู้ชมที่แออัดอยู่ข้างนอก จึงแหวกทางให้พวกเขาโดยธรรมชาติ เอียงคอและมองออกไปข้างนอกอย่างสงสัย

ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินกะโผกกะเผกเดินเข้ามา

ทุกคนต่างใคร่สงสัย และคาดเดาถึงตัวตนของหญิงคนนี้

นางดูไม่คุ้นหน้าคร่าตา เหมือนจะไม่เคยพบเจอมาก่อน!

หลี่ฝานก็อยากรู้อยากเห็นเช่นกัน ไม่รู้ว่าหญิงตรงหน้าคือผู้ใด

ผู้หญิงคนนั้นเดินโซเซเข้ามาในโรงศาลแล้วคุกเข่าลง บางทีนางอาจไม่เคยเห็นสถานการณ์เช่นนี้มาก่อนจึงดูหวาดระแวง

“คนที่คุกเข่าอยู่เป็นใคร?” ลวี่เทาเห็นว่านางเป็นหญิงชราที่ไม่เคยเห็นโลกมาก่อน ดูเหมือนนางจะอยู่ในวัยหกสิบปีและคงจะทำงานอยู่ตลอด ใบหน้าของนางจึงหมองคล้ำและดูเป็นทุกข์ การเจอทั้งลมทั้งแดดตลอดหลายปีทำให้ดูแก่เกินวัย

และเสื้อผ้าบนร่างกายนี้เต็มไปด้วยรอยปะชุน เกรงว่าคงมีเฉพาะแขนเสื้อด้านซ้ายเท่านั้นที่ยังคงดีอยู่ ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วตั้งแต่ซักเสื้อผ้าครั้งสุดท้าย เสื้อผ้าทั้งตัววาววับและสกปรก

หญิงชราตัวสั่นด้วยความตกใจและรีบก้มลง น้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย “ข้าน้อย… ข้าน้อยคือเซี่ยเหอซื่อ…” นางเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก

เซี่ยเหอซื่อ? ทุกคนมองหน้ากัน ข้ามองเจ้า เจ้ามองข้า

แซ่เซี่ย นั่นควรจะเป็นตระกูลเซี่ยในเมืองถู่ถังที่อยู่ห่างจากที่นี่ไปวันเดียวไม่ใช่หรือ?

หญิงชราผู้นี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!

“เจ้าคือใคร?”

“ข้าน้อย… ข้าน้อยคือ… แม่ยายของเหมียวเอ้อร์เจ้าค่ะ!”

“ไร้สาระ ข้าจะมีแม่เช่นเจ้าได้อย่างไร!” เมื่อเหมียวซื่อเห็นว่านางผู้นั้นบอกว่าเป็นแม่ของตนจึงรีบโต้กลับ

หลังจากได้ฟัง หลี่ฝานก็เดาอะไรบางอย่างและพูดด้วยรอยยิ้ม “เหมียวซื่อ เจ้าต้องการให้ข้าเตือนสติเจ้าอีกครั้งหรือไม่ว่าเจ้าเป็นภรรยาคนที่สองของเหมียวเอ้อร์!”

หลังจากที่ทุกคนได้ยินก็เข้าใจ

ใช่แล้ว ใช่แล้ว!

ภรรยาที่มีบุตรยากของเหมียวเอ้อร์มาจากหมู่บ้านเซี่ยเจียในเมืองถู่ถัง!

เมื่อเหมียวซื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวทันที จากนั้นนางก็กลับมารู้สึกตัว และหลังจากมองไปที่หญิงชราผู้นั้นก็ถอยกลับไปสองสามก้าวราวกับว่าเห็นผี

สีหน้าของนางดูหวาดกลัว!

หลังจากที่ได้เห็น หลี่ฝานก็คาดเดาอะไรมากมายในใจ เมื่อมองไปที่เด็กสองคนข้างเหมียวซื่อ โดยเฉพาะลูกคนโต เขาก็เต็มไปด้วยความอยากรู้

“เจ้า… เจ้ามาทำอะไรที่นี่? ” เหมียวซื่อตัวสั่น มองไปที่ผู้หญิงที่อ้างว่าเป็นแม่ของเซี่ยชิวเฉ่า และเอ่ยถามอย่างกังวล

แต่เมื่อหญิงชราผู้นั้นได้ยินคำพูดของเหมียวซื่อ นางก็ตอบอย่างเศร้าสร้อยและนั่งลงบนพื้น ร้องไห้เสียงดัง “ใต้เท้า ท่านต้องตัดสินแทนชิวเฉ่าของข้า! นางตายอย่างไม่ยุติธรรม นางตายอย่างไม่ยุติธรรม!”

ทุกคนต่างตกตะลึง เซี่ยชิวเฉ่าผู้นี้ตายไปสามถึงสี่ปีแล้ว ทำไมหญิงชราถึงบอกว่านางตายอย่างไม่ยุติธรรมในเวลานี้กัน?

ฝูงชนต่างซุบซิบด้วยความสงสัย

ความโกลาหลอีกครั้งในห้องโถง ประกอบกับเสียงร้องไห้ที่น่าสงสารของเซี่ยเหอซื่อ ลวี่เทารู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกเสมอว่ามีบางเบี่ยงเบนไปจากการควบคุมของเขา

ลวี่เทารู้สึกโกรธเล็กน้อยและจ้องมองไปยังผู้คนที่อยู่ตรงหน้า ผู้คนที่เฝ้าดูต่างเงียบและไม่กล้าพูดอะไร แต่พวกเขาก็อยากรู้อยากเห็นมาก

หญิงชราที่นั่งกลางห้อโถงร้องไห้เสียงดัง “ชิวเฉ่าของข้าแต่งงานกับครอบครัวเหมียวมาเจ็ดปีแล้ว มันเป็นเรื่องยากกว่าจะตั้งครรภ์ได้ แต่นางกลับตายไปพร้อมกับเด็กในครรภ์! ชิวเฉ่าที่น่าสงสารของข้า ชิวเฉ่าที่น่าสงสาร!”

“หึ นั่นเป็นเพราะลูกสาวของเจ้าอายุสั้นน่ะสิ!” เหมียวซื่อพูดอย่างชั่วร้าย

หญิงชราผู้นั้นคงกลัวเหมียวซื่อเล็กน้อย นางสะดุ้งสองครั้งและหยุดร้องไห้อย่างกะทันหัน นางมองไปรอบ ๆ และเห็นว่าทุกคนมองมาอย่างเฉยเมย หญิงชราจึงคิดถึงตอนก่อนที่นางจะมาที่นี่ มีคนสอนนางว่า ตราบใดที่นางพูดตามคำพูดของเขา เขาจะให้ความยุติธรรมกับลูกสาวของนางอย่างแน่นอน

เขายังบอกด้วยว่าในตอนนั้น ลูกสาวของนางไม่ได้เสียชีวิตเพราะการคลอดบุตร แต่เพราะมีคนทำชั่ว!

หญิงชราเป็นกังวลเรื่องการตายของลูกสาวมาหลายปีแล้ว คราวนี้เมื่อได้ยินใครคนหนึ่งพูดว่าการตายของลูกสาวไม่ใช่การตายปกติ หญิงชราก็เริ่มกังวลและสาบานว่าจะแสวงหาความยุติธรรมให้ชิวเฉ่า นางไม่สามารถปล่อยให้ลูกสาวและหลานสาวตายไปเช่นนั้นได้

“ใต้เท้า ได้โปรดช่วยข้าด้วยเถิด!” หญิงชราคุกเข่าลงพร้อมกับหยุดร้องไห้ ตามที่คนผู้นั้นสอน และพูดทุกอย่างอย่างชัดเจน

“ใต้เท้า ชิวเฉ่าของข้าแต่งงานกับเหมียวเอ้อร์เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว นางขยันหมั่นเพียรและทำหน้าที่ของภรรยาอย่างดีมาโดยตลอด จนถึงปีที่สองของการแต่งงาน นางถึงตั้งครรภ์”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *