Reincarnation Of The Strongest Sword God 2449

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2449 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทีมที่น่ากลัวของซือเฟิง

เนื่องจากแม๊คอาฟรี่นั้นได้บอกว่าซือเฟิงเป็นสัตว์ประหลาดที่แท้จริง ทุกคนจึงเริ่มหันไปมองยังนักดาบด้วยมุมมองที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเหล่าสมาชิกของเผ่าศักสิทธิ์ที่พวกเขานั้นไม่ได้แผ่เจตตนาฆ่าฟันออกมาอีกต่อไป

ตอนนี้พวกเขาทำเพียงแค่จ้องมองไปยังซือเฟิงด้วยความหวาดกลัวเท่านั้น

ไม่มีสมาชิกคนใดของหอการค้าอาซูแปลกใจกับเรื่องนี้เลย และพวกเขาก็ไม่ได้เยาะเย้ยสมาชิกของเผ่าศักสิทธิ์ว่าเป็นคนขี้ขลาด เพราะพวกเขาเองก็รู้ดีว่าสัตว์ประหลาดที่แท้จริงขั้นสามนั้นทรงพลังมากขนาดไหน สัตว์ประหลาดที่แท้จริงนั้นสามารถจะยืนอยู่บนเวทีที่เท่าเทียมกับมหาอำนาจต่างๆของ God domain ได้เลย โดยเฉพาะเมื่อกล่าวถึงอำนาจในฐานะปัจเจกบุคคล เพราะพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดที่มีอยู่ใน God domain ตอนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

ความแตกต่างระหว่างผู้เชี่ยวชาญขั้นสามกับสัตว์ประหลาดที่แท้จริงนั้นมันยิ่งใหญ่มากจริงๆโดยเฉพาะกับเรื่องของพลังดิบและเทคนิค ….

สำหรับผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม สัตว์ประหลาดที่แท้จริงเหล่านี้ก็เปรียบได้ดั่ง ฮีโร่ใน NPC ของเผ่ามนุษย์ ซึ่งความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นไปไกลเกินสามัญสำนึกปกติมาก และคนทั่วไปก็ไม่สามารถจะเทียบได้เลย

ไซเร้นวอร์นเดอร์ได้สร้างมิตรภาพกับผู้เชี่ยวชาญแบบนี้ขึ้นมาได้จริงๆงั้นหรอ ? ดูเหมือนว่าฉันจะต้องไปคุยกับเพื่อนเก่าสักหน่อยแล้ว

ขณะที่ผู้อาวุโสที่เป็นราชันเบอเซิกเกอร์ของหอการค้าอาซูเฝ้าดูการแสดงของซือเฟิงจากกระจกเวทย์มนต์ ความประทับใจที่เขามีต่อไซเร้นวอร์นเดอร์นั้นก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

แม้ว่าปัจจุบันตระกูลหลงจะมีสิทในการปกครองหอการค้าอาซู แต่ทรัพยากรส่วนใหญ่ของหอการค้าก็ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลผู้ถือหุ้นต่างๆของหอการค้า ซึ่งตระกูลเหล่านี้นั้นก็มีความแข็งแกร่งมากพอๆกัน และก็ไม่มีใครยอมรับอำนาจปกครองของใครอย่างเต็มที่สักคน ดังนั้นเพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีอำนาจมากขึ้น พวกเขาจึงมักจะพยายามโน้มน้าวผู้อาวุโสของหอการค้าที่ไม่ได้อยู่ในเครือเช่นเขา และเป็นกำลังรบหลักของหอการค้าให้สนับสนุนพวกเขา

โดยธรรมชาติแล้วสิ่งนี้ทำให้ผู้อาวุโสของหอการค้าอย่างพวกเขานั้นมีตัวเลือกมากมาย

โดยทั่วไปแล้วผู้อาวุโส ราชันเบอเซิกเกอร์คนนี้ก็ยังรักษาท่าทีที่เป็นกลางในหอการค้าอยู่เช่นกัน ขณะที่เพื่อนสนิทของบางส่วนนั้นได้ทำการเลือกข้างไปแล้ว และหนึ่งในนั้นก็เลือกที่จะปฎิเสธการสนับสนุนตระกูลหลง และเลือกจะขัดทุกกอย่างที่ตระกูลหลงต้องการ

ก่อนวันนี้เขาไม่เคยสนใจมาก่อนเลยว่าเพื่อนคนนั้นจะทำอะไร เพราะท้ายที่สุดแล้วสิทในการเข้าปกครองหอการค้าอาซูของตระกูลหลงนั้น มันก็จัดว่าไม่มั่นคงอย่างมาก อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาได้ค้นพบว่า ไซเร้นวอร์นเดอร์ ซึ่งเป็นทายาทของตระกูลหลงนั้นมีความสัมพันธ์กับสัตว์ประหลาดที่แท้จริง ดังนั้นเพื่อนของเขาจึงจำเป็นจะต้องพิจารณาคำสั่งของตระกูลหลงอย่างรอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับไซเร้นวอร์นเดอร์

การจะฆ่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามนั้นเป็นงานที่ง่ายดายมากๆสำหรับสัตว์ประหลาดที่แท้จริง ผู้เล่นเหล่านี้นั้นไม่ต้องใช้กับดักหรือการซุ่มโจมตีเพื่อฆ่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเลย และหากเพื่อนของเขาไม่ได้รับการปกป้องจากสัตว์ประหลาดที่แท้จริงคนอื่น มันก็จะเป็นการที่เขาขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆหากคิดจะต่อต้านตระกูลหลงในระยะยาว

ในขณะที่ผู้อาวุโสของหอการค้าอาซูผู้นี้กำลังวางแผนอย่างลับๆเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับตระกูลหลง และไซเร้นวอร์นเดอร์ คริมสันวิชก็จ้องมองไปยังซือเฟิง
ด้วยการแสดงออกที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวบนหลังค้างคาวยักษ์ของแม๊คอาฟรี่

“รองผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการต้องเข้าใจอะไรผิดแน่นอนเลย เขาจะเป็นสัตว์ประหลาดที่แท้จริงได้อย่างไร ? ทุกคนนั้นก็ล้วนรู้ตัวตนของสัตว์ประหลาดที่แท้จริงของทวีปด้านตะวันตกทั้งหมด และชายผู้นี้ไม่ตรงกับคำอธิบายใดๆเกี่ยวกับตัวตนของพวกเขาเลย” คริมสันวิชแย้งโดยปฎิเสธที่จะเชื่อคำพูดของแม๊คอาฟรี่ และเธอก็กล่าวต่ออย่างมั่นใจว่า “เขาจะต้องดื่มโพชั่นบางชนิดเข้าไปแน่นอนก่อนมาที่นี่ ความแข็งแกร่งของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างสูงมากๆ แต่อย่างไรก็ตามผลของโพชั่นแบบนี้ก็มักจะอยู่ได้ไม่นาน หากเราลากการต่อสู้ให้ยาวออกไป เขาก็น่าจะเปิดเผยจุดอ่อนของเขาออกมาเอง”

เธอนั้นปฎิเสธโดยสัญชาตญาณว่าซือเฟิงเป็นสัตว์ประหลาดที่แท้จริง เพราะใน God domain นั้น ตัวตนระดับนี้มีไม่มากนัก และส่วนใหญ่ก็มาจากซุเปอร์กิล ขณะที่ส่วนที่เหลือก็มาจากกิลชั้นยอดระดับต้นๆ

อย่างไรก็ตามเธอไม่เคยเห็นตราสัญลักษณ์กิลของซือเฟิงมาก่อนเลย ดังนั้นเขาจะเป็นสัตว์ประหลาดที่แท้จริงได้ยังไง ?

“ไม่ ไม่มีทาง ฉันคิดว่ายังไงเขาก็ไม่ได้ดื่มโพชั่น โพชั่นที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้เล่นได้แบบนี้นั้น มันมักจะทำให้มานาโดยรอบของผู้เล่นไม่เสถียร ไม่ว่าเขาจะควบคุมมานาได้ดีเพียงใด มันก็ไม่มีทางที่เขาจะควบคุมมานาแบบนี้ให้สงบได้ ซึ่งฉันแน่ใจมากว่าฉันไม่เห็นสัญญาณของมานาที่ไม่เสถียรเลย เพราะฉันได้ตรวจสอบเขาโดยใช้ดวงตามานาของฉันไปแล้ว ในความเป็นจริงมานาที่เขาแผ่ออกมานั้น มันหนาแน่นกว่าของเธอด้วยซ้ำ …” แม๊คอาฟรี่กล่าวพลางส่ายหัว และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความกลัวอย่างมาก เมื่อจ้องมองไปยังซือเฟิง

“มันจะเป็นไปได้ยังไง ? ร่างมานาของคริมสันนั้นอยู่ในระดับทอง ขั้นสูงสุด ด้วยอัตราความสำเร็จถึงเก้าสิบเจ็ดเปอเซ็นต์ และด้วยการได้รับการเพิ่มพลังจากสายเลือดปีศาจไฟ ดังนั้นมันจึงมีเพีงแค่หัวหน้ากิลและเหล่าผู้อาวุโสเท่านั้นที่จะมีมานาหนาแน่นกว่าเธอ แล้วชายคนนั้นจะเหนือกว่าคริมสันได้ยังไง ?” แรนเจอร์ขั้นสามข้างๆคริมสันวิชกล่าวขึ้น ร่างมานาของคริมสันวิชนั้นเป็นหนึ่งในร่างมานาที่ดีที่สุดใน God domain ตอนนี้แล้ว และการเทียบกับเธอได้นั้มันก็จัดว่าน่าประทับใจมากแล้ว ขณะที่การจะขึ้นไปเหนือกว่าเธอนั้น มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

“ฉันเองก็สงสัยว่าฉันมองผิดไปหรือปล่าว แต่ฉันได้ตรวจสอบเขาด้วยดวงตามานาซ้ำหลายร้อยแล้ว และผลลัพธ์ที่ออกมามันก็เหมือนกันหมด ยิ่งไปกว่านั้นช่องว่างระหว่างเขากับคริมสันยังชัดเจนมากๆ” แม๊คอาฟรี่กล่าวยืนยันด้วยรอยยิ้มขมขื่น

จากสิ่งที่เขาสามารถบอกได้นั้นคือมานาที่แผ่ออกมาจากตัวของซือเฟิงนั้นมันหนาแน่นกว่าที่แผ่ออกมาจากตัวของคริมสันวิชราวสองเท่าเลยทีเดียว

แม้ว่าแม๊คอาฟรี่ไม่เต็มใจที่จะยอมรับเรื่องนี้ แต่ดวงตามานาของเขาก็ไม่เคยโกและทำงานล้มเหลว …..

ร่างมานาที่แข็งแกร่งนั้นไม่สามารถจะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของใครคนใดคนหนึ่งได้ แต่ใครก็ตามที่สามารถสร้างร่างมานาได้แข็งแกร่งเท่ากับซือเฟิงนั้นก็จะไม่อ่อนแอเลย เพราะการสร้างร่างมานานั้นเป็นงานที่ยากมากๆ และหากไม่มีความแข็งแกร่งมากเพียงพอ มันก็จะเป็นไปไม่ได้เลย

อีกทั้งมันก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่แม๊คอาฟรี่ไม่ได้เปิดเผยให้คนของเขารู้ …. จากผู้เล่นเก้าคนที่มาพร้อมกับซือเฟิงบนหลังของอินทรีสายฟ้า สามคนนั้นมีร่างมานาที่เทียบเท่ากับคริมสันวิช และมีคนหนึ่งที่มีร่างมานาแข็งแกร่งกว่าคริมสันวิชด้วย นอกเหนือจากซือเฟิง

แม้แต่เผ่าศักสิทธิ์ก็ไม่สามารถจะรวบรวมตัวตนระดับนี้มาได้ง่ายๆเลย

“รองผู้บัญชาการ งั้นเราจะทำยังไงกันดี ? เราไม่สามารถจะยอมขอโทษและมอบค่าชดเชยให้เขาได้ใช่ไหม ?” แรนเจอร์ขั้นสามกล่าวถาม

พวกเขานั้นเป็นสมาชิกของเผ่าศักสิทธิ์ ซึ่งเป็นกิลชั้นยอดระดับต้นๆที่ใกล้จะกลายเป็นซุเปอร์กิล หากพวกเขาเอ่ยคำว่าขอโทษและยอมจ่ายค่าชดเชยให้กับใครบางคน ชื่อเสียงกิลของพวกเขาจะตกลงไปแน่นอน

“ดูเหมือนว่าเราจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องสู้กับเขาด้วยทุกสิ่งที่มี เตรียมใช้ม้วนคัมภีร์อัญเชิญฮีโร่ขั้นสี่ ..” แม๊คอาฟรี่กล่าวหลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆ

“หัวหน้ากิลนั้นได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะทำให้เหล่าผู้อาวุโสยอมมอบสิ่งนี้ให้กับเรานะรองผู้บัญชาการ … หากใช้มันตอนนี้ …” คริมสันวิชเริ่มเต็มไปด้วยความกังวล เมื่อได้ยินคำสั่งของแม๊คอาฟรี่

ม้วนคัมภีร์อัญเชิญฮีโร่ขั้นสี่นั้นเผ่าศักสิทธิ์มีอยู่ในครอบครองแค่เพียงม้วนเดียว และหัวหน้ากิลก็จะไม่มีทางดิ้นรนเพื่อให้เหล่าผู้อาวุโสยอมมอบสิ่งนี้ให้กับพวกเขาเลย ถ้าพวกเขาไม่มั่นใจว่าตัวเองจะสามารถยึดเส้นเลือดแร่เงินปีศาจของหอการค้าอาซูได้ มันจัดเป็นไพ่ไม้ตายของพวกเขาที่สามารถจะใช้ทำลายหรือปกป้องเมืองได้เลย การใช้มันกับทีมของซือเฟิงจะเป็นการสิ้นเปลืองมากๆ

“เราไม่มีทางเลือกอื่น” แม๊คอาฟรี่กล่าวด้วยความหงุดหงิด เขาเองก็ไม่ต้องการจะใช้ม้วนคัมภีร์อัญเชิญฮีโร่ขั้นสี่เช่นกัน แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น “เมื่อเราใช้ม้วนคัมภีร์อัญเชิญนี้ พวกเขาจะหนีไปแน่นอน และเราจะสามารถใช้โอกาสนี้ถอยได้”

เมื่อแม๊คอาฟรี่พูดจบเขาก็กัดฟันและหยิบม้วนคัมภีร์อัญเชิญฮีโร่ขั้นสี่ออกมา และในขณะที่เขาหยิบม้วนคัมภีร์นี้ออกมานั้น ความหนาแน่นของมานารอบตัวเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

“คุณต้องการจะต่ออีกงั้นหรอ ?” ซือเฟิงจ้องมองไปยังม้วนคัมภีร์ในมือของแม๊คอาฟรี่อย่างแข็งกร้าว เขาไม่สามารถจะบอกได้ว่ามันคือม้วนคัมภีร์ประเภทใด แต่สัญชาตญาณของเขาก็บอกเลยว่ามันเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่อันตรายซะยิ่งกว่ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายที่มีเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยซะอีก

อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกกลัวมัน เพราะตอนนี้เขามีคริสตัลเวทย์มนต์อยู่ในมือมากมาย หากเรื่องไปถึงขั้นที่แย่ที่สุดเขาก็สามารถจะใช้หนังสือฮีโร่ อัญเชิญฮีโร่ขั้นสี่ออกมาปกป้องเขาได้

ในขณะที่ทุกคนกำลังรอให้การต่อสู้บนท้องฟ้าระเบิดขึ้นอีกครั้ง เสียงที่ทุ้มกังวานก็พูดขึ้นมา

“อาฟรี่ ปล่อยปัญหานี้ไปเถอะ และชดเชยให้กับชายคนนี้ด้วยอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลมากกว่าหนึ่งร้อย หนึ่งร้อยชิ้นตามที่เขาต้องการ !!!”

ทันใดนั้นวงเวทย์เทเลพอร์ตก็ปรากฎขึ้นในอากาศ ทันใดนั้น Pterosaur (ไดโนเสาร์มีปีก บินได้ ไปเสิร์ชเอาเองถ้าอยากเห็นรูปร่าง) สองหัวก็โผล่ออกมา

Pterosaur สองหัวนี้มีขนาดตัวที่มหึมามากๆ และมีขนาดใหญ่กว่าอินทรีสายฟ้าด้วยซ้ำ

ขณะเดียวกันชายชราในชุดเสื้อคลุมสีขาวดูสะอาดตาก็ยืนอยู่บนหลังของ Pterosaur และแม้จะมีรูปลักษณ์ที่ดูสูงอายุ แต่ออร่าที่เขาแผ่ออกมามันก็ให้ความรู้สึกที่น่าเกรงขามราวกับภูเขาเลย และออร่าของเขานี้มันก็ทำให้ผู้คนโดยรอบหยุดชะงักได้เลย

“นักบุญแห่งแสง อดอล์ฟ ?!”

“ผู้อาวุโสสูงสุด ?”

ทั้งสมาชิกของเผ่าศักสิทธิ์และสมาชิกของหอการค้าอาซูต่างก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง เมื่อได้เห็นชายชราผู้นี้ ขณะที่กลุ่มของแม๊คอาฟรี่กำลังจะพูดขึ้น ชายชราผู้นี้ก็ได้แผ่แรงกดดันที่รุนแรงออกมาปิดปากพวกเขาไปทันที และมันก็ทำให้พวกเขายอมมอบอุปกรณ์ระดับไฟน์โกลเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อย หนึ่งร้อยชิ้นให้กับทีมของซือเฟิงอย่างเชื่อฟังทันที

สถานการณ์นี้มันก็ทำให้ซือเฟิงตกตะลึงอย่างถึงที่สุดเช่นกัน เขาไม่คาดคิดเลยว่าเผ่าศักสิทธิ์จะทำการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแบบนี้

เพราะท้ายที่สุดตอนนี้พวกเขากำลังพูดถึงอุปกรณ์ระดับไฟน์โกลเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อย หนึ่งร้อยชิ้น ซึ่งด้วยอุปกรณ์มากขนาดนี้นั้น พวกเขาจะสามารถสร้างทีมยี่สิบคนที่ทรงพลังอย่างมากขึ้นมาได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นการจะซื้อพวกมันจำนวนมากขนาดนี้ในตลาดนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้เลย และคนๆหนึ่งสามารถจะจัดซื้อจำนวนมากขนาดนี้ได้ก็ด้วยการติดต่อกับกิลขนาดใหญ่ต่างๆเท่านั้น

“ตอนนี้ก็ถือว่าทุกอย่างจบลงแล้ว และมิตรภาพก็ได้เกิดขึ้นแล้ว คุณสนใจจะไปเยี่ยมชมเมืองสิงโตเงินของเผ่าศักสิทธิ์ที่จักรวรรดิจันทราสีเงินไหม ?” อดอล์ฟกล่าวถามซือเฟิงอย่างสุภาพ

“สนใจสิ และฉันก็รู้สึกยินดีอย่างมากเลยทีเดียว …” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า

เขานั้นไม่ได้อยากจะมีปัญหากับเผ่าศักสิทธิ์ในระยะยาวอยู่แล้ว และเนื่องจากกิลเต็มใจที่จะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเพื่อแสดงความเคารพต่อเขา ดังนั้นเขาก็จะไม่ทำตัวกักขฬะ ยิ่งไปกว่านั้นเป้าหมายหลักของการมาทวีปด้านตะวันตกของเขาในครั้งนี้ก็คือมาเยี่ยมชมเมืองของ NPC ต่างๆ และทำความเข้าใจกับสถานการณ์ของทวีปด้านตะวันตก และหากอดอล์ฟเต็มใจที่จะนำทางเขาไป เขาก็จะไม่ปฎิเสธข้อเสนอที่ยอดเยี่ยมแบบนี้

“โปรดตามฉันมา …” อดอล์ฟพูดก่อนที่จะนำทีมของซือเฟิงไปยังเมือง NPC ที่ใกล้ที่สุด และทิ้งสมาชิกคนอื่นๆของเผ่าศักสิทธิ์ไว้ด้านหลัง

สมาชิกของหอการค้าอาซูเองก็ต่างก็คิดตามสถานการณ์นี้ไม่ทันเช่นกัน

“มันเกิดอะไรขึ้น ?”

“พวกเขาเป็นใครกัน ?”

เมื่อครู่นี้ ซือเฟิงได้ทำการสังหารหมู่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสองของเผ่าศักสิทธิ์ไปหลายร้อยคน แต่ไม่เพียงแต่เผ่าศักสิทธิ์นั้นจะชดเชยให้กับซือเฟิงด้วยความเต็มใจด้วยอุปกรณ์ระดับไฟน์โกลเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อย หนึ่งร้อยชิ้น แต่อดอล์ฟ หนึ่งในผู้อาวุโสสูงสุดของกิลยังได้มาเชิญซือเฟิงให้ไปยังสำนักงานใหญ่หลักของเผ่าศักสิทธิ์เป็นการส่วนตัว ซึ่งแม้แต่หัวหน้ากิลของมหาอำนาจก็ยังไม่ได้รับการปฎิบัติแบบนี้เลย

สถานการณ์นี้นั้นก็ทำให้แม๊คอาฟรี่และคนของเขานั้นสับสนมากๆ และก็ไม่ต้องพูดถึงหยานเซี่ยวเฉียนเลย กับสมาชิกคนอื่นๆของหอการค้าอาซูเลย แม้ว่าซืเฟิงจะเป็นสัตว์ประหลาดที่แท้จริง แต่มันก็ต้องใช้ความพยายามเพื่อทำให้เขาพอใจมากขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด