Reincarnation Of The Strongest Sword God 2548

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2548 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

รูปลักษณ์ที่น่าประหลาดใจของโรงแรมอิสระ

เมื่อได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ ซือเฟิงก็สูดหายใจเข้าลึกๆ และเลือกที่จะสร้างโรงแรมอิสระ หลังจากนั้นเขาก็ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบอื่นดังขึ้นอีกครั้ง

ระบบ : โปรดเลือกขนาดของโรงแรมอิสระที่คุณต้องการสร้าง โรงแรมอิสระขนาดเล็กจะมีราคาหนึ่งล้านสองแสนเหรียญทอง โรงแรมอิสระขนาดกลางจะมีราคาหนึ่งล้านห้าแสนเหรียญทอง และโรงแรมอิสระขนาดใหญ่จะมีราคาสองล้านเหรียญทอง

แน่นอนเลยว่ามันแพงมากๆ ซือเฟิงรู้สึกท้อแท้ เมื่อเห็นราคาที่ระบุไว้ แม้ว่าเขาจะรู้สิ่งก่อสร้างขั้นสูงสุดนั้นจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลในการสร้าง แต่เขาก็ยังพบว่ามันยากที่จะยอมรับ เมื่อได้เห็นราคาด้วยตัวเอง

ด้วยเงินหนึ่งล้านสองแสนเหรียญทอง มันจะทำให้เขาสามารถสร้างเมืองกิลทั่วไปสงถึงสามแห่งได้อย่างง่ายดาย มันนับเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลมากๆ แม้แต่กับมหาอำนาจต่างๆ และเงินนี้มันก็มากเพียงพอที่จะทำให้กิลชั้นสูงบรรลุความสำเร็จบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามตอนนี้เงินก้อนนี้กับสามารถใช้สร้างโรงแรมอิสระขนาดเล็กได้เท่านั้น

มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะบอกว่าสิ่งก่อสร้างขั้นสูงสุดนั้นเป็นสิ่งที่มีเพียงมหาอำนาจต่างๆเท่านั้นที่จะสามารถจ่ายเพื่อสร้างมันได้ ขณะที่พวกกิลชั้นสูงหรือต่ำกว่านั้นลงมาต่อให้ได้รับแบบแปลนมา มันก็จะถูกนำมาแค่ตกแต่งเท่านั้น การสร้างขึ้นมาจริงๆมันจะเกินกว่าความสามารถของพวกเขา

อย่างไรก็ตามหลังจากได้เห็นราคาทั้งหมด ซือเฟิงก็เลือกจะสร้างโรงแรมอิสระขนาดใหญ่อย่างไม่ลังเล

เดิมทีเขาวางแผนที่จะสร้างโรงแรมอิสระขนาดเล็กเพื่อจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวคือในการอัพเกรดเมืองป่าหินให้กลายเป็นเมืองกิลขนาดใหญ่ขั้นกลางเท่านั้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาได้รับการเก็บเกี่ยวมากกว่าที่เขาคาดไว้ในตอนแรกจากการขายวัสดุหายากจากทวีปด้านตะวันตก เขาจึงไม่จำเป็นจะต้องขี้เหนียวเรื่องเหรียญทอง เพราะท้ายที่สุดความแตกต่างระหว่างโรงแรมอิสระขนาดเล็ก กับขนาดใหญ่นั้นมีค่อนข้างมาก

แม้ว่าโรงแรมอิสระทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่จะมีฟังชั่นเดียวกัน แต่โรงแรมอิสระขนาดเล็กนั้นก็มีเพียงแค่แปดชั้น ขณะที่ขนาดใหญ่จะมีถึงสามสิบสองชั้น

การเริ่มต้นด้วยโรงแรมอิสระขนาดเล็กและค่อยๆอัพเกรดเป็นขนาดใหญ่นั้นจะมีราคาแพงมากกว่าการสร้างโรงแรมอิสระขนาดใหญ่โดยตรงหลายเท่า ดังนั้นในสถานการณ์ที่มีเงินทุนมากมายแบบนี้ ผู้ที่มีแบบแปลนของมันจึงมักจะเลือกสร้างโรงแรมอิสระขนาดใหญ่ตั้งแต่แรก

ทันทีที่ซือเฟิงเลือกจะสร้างโรงแรมอิสระขนาดใหญ่ เงินสองล้านเหรียญทองก็หายออกไปจากกระเป๋าของเขา ก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นลำแสงสีทองไหลเข้าสู่แบบแปลนโรงแรมอิสระในมือของเขา ในช่วงเวลาต่อมาวงเวทย์การก่อสร้างก็เริ่มปรากฎขึ้นมามากมายบนหน้าหนังสือ และวงเวทย์เหล่านี้ทุกวงล้วนมีความซับซ้อนมากๆ และแม้แต่ที่ง่ายที่สุดในหมู่พวกมันก็ยังเป็นวงเวทย์ขั้นสูง หากคนที่มีมาตราฐานต่ำกว่าปรมาจารย์นักเวทย์ต้องมองมายังวงเวทย์เหล่านี้ พวกเขาจะรู้สึกปวดหัวอย่างมากแน่นอน

โชคดีที่วงเวทย์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะสามารถดึงออกมาจากแบบแปลนและสลักมันลงไปในโครงสร้างได้โดยตรง ไม่อย่างนั้นหากซือเฟิงต้องสร้างวงเวทย์ทั้งหมดที่จำเป็นในการสร้างโรงแรมอิสระขึ้นใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น เขาก็จะไม่สามารถทำได้แน่นอน หากยังไปไม่ถึงระดับของสุดยอดปรมาจารย์นักเวทย์

“เอาล่ะทุกคน เริ่มงานได้ !!!” ซือเฟิงกล่าว หลังจากเห็นวงเวทย์ปรากฎขึ้นในแบบแปลน

ในช่วงเวลาต่อมาสถาปนิกมากกว่าหนึ่งร้อยคนที่ได้รับสำเนาแบบแปลนของโรงแรมอิสระก็เริ่มเคลื่อนไหว สถาปนิกบางคนเริ่มปรับแต่งวัสดุ ในขณะที่บางคนเริ่มแยกชิ้นส่วนวัสดุ การก่อสร้างโรงแรมอิสระนั้นดำเนินไปอย่างราบรื่นภายใต้การควบคุมของซือเฟิง สำหรับซือเฟิงเองเขาก็ได้นำวงเวทย์ออกมาแกะสลักลงไปในส่วนที่ถูกสร้างเสร็จแล้วของโรงแรมอิสระอย่างเมามัน

ในเวลาเดียวกันกับที่ซือเฟิงกำลังสร้างโรงแรมอิสระ ภายในร้านอาหารชั้นสูงแห่งหนึ่งในเมืองชายแดนของจักรวรรดินักบุญทั้งสิบ ….

ขณะนี้ไม่เพียงแต่ร้านอาหารจะถูกจองเต็มแล้ว แต่มันยังมีผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดขั้นสามหลายสิบคนเฝ้าอยู่รอบๆร้าน และออร่าที่น่ากลัวของผู้เล่นเหล่านี้ก็ทำให้ผู้เล่นที่เดินผ่านไปมานั้นไม่กล้าจะเข้าใกล้ร้านอาหารเลย

มันมีผู้เล่นหลายคนนั่งอยู่ในชั้นบนสุดของร้านอาหาร หากพวกระดับสูงของมหาอำนาจต่างๆในจักรวรรดินักบุญทั้งสิบได้เห็นคนเหล่านี้ พวกเขาจะต้องตกใจอย่างมากแน่นอน

นี่เป็นเพราะผู้เล่นที่นั่งอยู่ในห้องนี้ทั้งหมดล้วนเป็นเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ใน God domain ทุกคนล้วนเป็นตัวตนที่สามารถจะเขย่าประเทศๆหนึ่งใน God domain ได้เลยด้วยการตัดสินใจของพวกเขา และในหมู่คนเหล่านี้คนที่มีสถานะสูงสุดก็คือ โคลท์ชาโด้ว รองหัวหน้ากิลของไมโทโลจี้

“รองหัวหน้ากิลไลท์ การเตรียมการด้านของคุณเป็นยังไงบ้าง ? ฉันได้ยินมาว่ากิลของโลกแห่งความมืดอย่างดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้ก็ได้ลงนามในข้อตกลงไม่ยุ่งเกี่ยวกับสภาสิบแปดปีกนี่นา …” ชายสูงอายุ เลเวลหนึ่งร้อยแปด ที่สวมชุดสีขาว และมีตราสัญลักษณ์กิลของแพนธีออนถามขณะมองไปยังชายหนุ่มที่เฉยเมยที่มีหน้าต่อหล่อเหลาที่นั่งข้างๆเขา

“การเตรียมการของเราใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ขณะที่ฝ่ายโลกแห่งความมืดนั้นก็ต้องการเวลาอีกนิดหน่อย แต่ผู้อาวุโสเซ้าธ์โปรดมั่นใจได้เลย ทั้งสองกิลอาจมีอิทธิพลอย่างมากต่อโลกแห่งความมืด แต่จำนวนผู้เล่นของพวกเขาทั้งสองกิลนั้นไม่มีอะไรเลย เมื่อเทียบกับประชากรผู้เชี่ยวชาญของโลกแห่งความมืด นอกจากนี้เรายังได้บรรลุข้อตกลงกับเวิร์ลโดมิเนชั่นที่จะช่วยเติมเชื้อไฟให้กับเราแล้ว และในเวลานั้นตราบใดที่ไม่มีมหาอำนาจกลุ่มใดเข้าช่วยสภาสิบแปดปีกในการปกป้องเมืองป่าหิน เมืองก็จะถูกตีแตกอย่างรวดเร็วแน่นอน” ชายหนุ่มที่หล่อเหลาชื่อเฟรมมิ่งไลท์กล่าวพลางหัวเราะเบาๆ

“คุณวางใจได้เลยในประเด็นนี้ รองหัวหน้ากิลไลท์ สตาร์ลิ้งได้ส่งคำทักทายไปยังกิลขนาดใหญ่ต่างๆที่ปฎิบัติการรอบเมืองป่าหินแล้ว พวกเขาจะไม่เข้าช่วยเหลือสภาสิบแปดปีกในการกำจัดผู้เชี่ยวชาญจากโลกแห่งความมืดแน่นอน” ลู่ชิงหลัวกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เดิมทีลู่ชิงหลัวนั้นรู้สึกปวดหัวมากๆในการคิดหาหนทางกำจัดสภาสิบแปดปีก เพราะนับวันนั้นกิลยิ่งมีแต่จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามซือเฟิงกับกล้าที่จะยั่วยุเผือกร้อนอย่างหัวใจปีศาจ และเนื่องจากเป็นแบบนี้ลู่ชิงหลัวจึงไม่รังเกียจที่จะส่งสภาสิบแปดปีกไปตามทาง

โลกทั้งใบที่เต็มไปด้วยผู้เล่นสายความมืด !!!

แม้แต่ลู่ชิงหลัวเองก็ไม่มีความมั่นใจที่จะต่อสู้กับกองกำลังดังกล่าวได้ แต่ซือเฟิงกับริเริ่มที่จะท้าทายกองกำลังนี้ หัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีกช่างไม่รู้ความหมายของความตายจริงๆ

ตราบใดที่สภาสิบแปดปีกสูญเสียเหมืองทองคำอย่างเมืองป่าหินเมื่อไหร่ ด้วยความแข็งแกร่งทางการเงินของสภาสิบแปดปีก การจะเหยียบสภาสิบแปดปีกให้ตายจะง่ายดั่งหั่นขนมเค้กชิ้นหนึ่ง

“เมื่อถึงเวลา ฉันก็คงต้องขอพึ่งพาทุกคนด้วย สำหรับการกระจายหุ้นของเมืองป่าหินที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง หัวใจปีศาจจะไม่ขอเข้าไปมีส่วนร่วมใดๆ ยิ่งไปกว่านั้นฉันเชื่อว่ากิลผู้ปกครองโลกแห่งความมืดสามกิลก็จะไม่กล้าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้เช่นกัน ทุกคนจะมีอิสระในการตัดสินใจว่าจะทำยังไงกับเมืองป่าหิน ฉันหวังเพียงว่าเราจะจบเรื่องนี้ได้อย่างเร็วที่สุด และหากสภาสิบแปดปีกมุ่งเน้นไปที่การป้องกันเมืองป่าหิน ฉันก็กลัวว่าฝ่ายเราจะเจอปัญหาอยู่นิดหน่อยในการเข้ายึดเมือง” เฟรมมิ่งไลท์กล่าว

“คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้” โคลท์ชาโด้วกล่าวขึ้นมาอย่างกระทันหัน “ฉันได้ทำสัญญากับทีมนักผจญภัยต่างๆของเมืองป่าหินแล้ว ฉันจะทำการซื้อวัสดุของพวกเขาในราคาสูงกว่าตลาดโดยแลกกับหินรูนการต่อสู้ ฉันเชื่อว่าทีมนักผจญภัยของเมืองป่าหินจะไม่ขายวัสดุให้กับสภาสิบแปดปีกอีกต่อไป และหากไม่มีวัสดุของทีมนักผจญภัยเหล่านี้ สภาสิบแปดปีกก็ไม่น่าจะสามารถรักษาการดำเนินงานประจำวันได้ และเมื่อประตูสู่โลกแห่งความมืดถูกเปิดขึ้น สภาสิบแปดปีกก็จะไม่สามารถรวบรวมวัสดุที่จำเป็นของตัวเองได้อีกเลย และพวกเขาก็จะพังลงในเวลาไม่นานแน่นอน”

เมื่อได้ยินคำพูดของโคลท์ชาโด้ว ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงกับความโหดเหี้ยมของเธอ

หินรูนการต่อสู้นั้นเป็นไอเทมพิเศษที่มีแค่เฉพาะในทวีปด้านตะวันตก และมันก็เป็นสิ่งที่มหาอำนาจต่างๆในทวีปด้านตะวันออกนั้นล้วนใฝ่ฝันที่จะได้รับเพื่อจะมาเพิ่มพลังการต่อสู้ให้กับสมาชิกของพวกเขา และถ้าทั้งทีมมีหินรูนการต่อสู้ ผู้เล่นก็จะมีช่วงเวลาที่ง่ายขึ้นมากเลยทีเดียวในการบุกโจมตีดันเจี้ยน และบอสประจำพื้นที่
เนื่องจากประสิทธิภาพของหินรูนการต่อสู้ มหาอำนาจต่างๆในทวีปด้านตะวันออกจึงยินดีจะกว้านซื้อพวกมันในราคาสูงไม่ว่าจะต้องจ่ายด้วยอะไร ซึ่งจริงๆแล้วทีมนักผจญภัยในทวีปด้านตะวันออกไม่ควรมีสิทได้แตะต้องมันด้วยซ้ำ

แต่กระนั้นตอนนี้โคลท์ชาโด้วกับเสนอมันให้กับเหล่าทีมนักผจญภัยของเมืองป่าหิน ซึ่งพวกเขาจะยอมรับข้อเสนอโดยไม่ลังเลแน่นอน และนี่มันก็จะเป็นการโดดเดี่ยวสภาสิบแปดปีกให้ต้องสู่กับโลกแห่งความมืดทั้งโลกด้วยตัวเองอย่างแท้จริง

ด้วยเหตุนี้ตอนนี้เหล่าทีมนักผจญภัยของเมืองป่าหินจึงรวมตัวกันดำเนินการทำการค้ากับไมโทโลจี้อย่างลับๆ โดยพวกเขาไม่ได้เลือกจะขายวัสดุที่พวกเขาได้รับจากป่าใบไม้ผลิให้กับสภาสิบแปดปีกอีกเลย

“สภาสิบแปดปีกนี่ช่างรู้วิธีต่อลมหายใจของตัวเองจริงๆ ทีมนักผจญภัยของเราได้หยุดขายวัสดุให้พวกเขาแล้ว แต่แทนที่พวกเขาจะเพิ่มราคารับซื้อ พวกเขากับเริ่มสร้างสิ่งก่อสร้างใหม่ นี่พวกเขาคิดหรอว่าสิ่งก่อสร้างใหม่แค่แห่งเดียวจะช่วยหยุดการรุกรานจากโลกแห่งความมืดได้จริงๆน่ะ ?”

“บางทีสภาสิบแปดปีกอาจจะพยายามเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทุกอย่างให้มากที่สุดก่อนที่ประตูจะถูกเปิดนะ เพราะเมื่อประตูถูกเปิด ทุกอย่างจะจบลงแน่นอน ….”

ในขณะที่เหล่าผู้เล่นมองไปยังวงเวทย์บาเรียที่ปกคลุมบริที่สร้างโรงแรมอิสระ หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะคาดเดาเกี่ยวกับมัน

สภาสิบแปดปีกแข็งแกร่งมากแล้วยังไงล่ะ ? ยังไงซะความแข็งแกร่งของพวกเขาก็จะนับว่าไร้ประโยชน์อยู่ดีเมื่อต้องต่อสู้กับผู้เล่นทั้งโลก และแม้แต่ซุเปอร์กิลก็ยังจะต้องเป็นแบบเดียวกัน หากไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกับสภาสิบแปดปีก

ในขณะที่ผู้เล่นในเมืองป่าหินกำลังพูดคุยกันอย่างเงียบๆ วงเวทย์บาเรียที่ปกคลุมโรงแรมอิสระอยู่ก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ และเมื่อมันหายไปนั้น มันก็เผยให้เห็นอาคารซึ่งมีความสูงสามสิบสองชั้นบนถนนสายหลักของเมืองป่าหิน และอาคารนี้ก็มีความสูงหนึ่งร้อยห้าสิบเมตร ซึ่งมันสามารถมองเห็นไปได้ทั่วทั้งเมืองเลย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด