Reincarnation Of The Strongest Sword God 2577

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2577 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2577 ความแตกต่างของเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ และความมั่งคั่งที่น่ากลัว

ขณะที่โคล่าและไฟเออร์แดนซ์พุ่งผ่านป่าอันเงียบสงบ พวกเขาก็ทำให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นไปทั่ว

วิญญาณเร่ร่อนกลุ่มเล็กๆรีบบินเข้ามาหาผู้เล่นเหล่านี้อย่างรวดเร็ว และมอนสเตอร์เหล่านี้นั้นก็เคลื่อนที่ได้เร็วมากจนแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญทั่วไปก็ยังไม่มีโอกาสจะหลบหนีได้เลย

อย่างไรก็ตามการถูกล้อมกรอบนั้นแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีอยู่จริงเลยสำหรับโคล่าและแท๊งเกอร์คนอื่นๆของสภาสิบแปดปีก เพราะท้ายที่สุดพวกเขาเป็นเหมือนกับรถถังที่ตะลุยผ่านทุกสิ่งเข้าไป และพวกเขาก็จัดการสิ่งใดที่มาขวางทางของพวกเขาด้วยโล่ของตัวเอง ไม่มีวิญญาณเร่ร่อนตัวไหนสามารถจะหยุดการรุกคืบของพวกเขาได้ ในขณะเดียวกันไฟเออร์แดนซ์ และผู้เล่นสายความเร็วคนอื่นๆก็หลบหลีกวิญญาณเร่ร่อนได้อย่างสบายๆ โดยที่ไม่มีตัวไหนสามารถจะจับพวกเขาได้

พลังแห่งความตายที่วิญญาณเร่รอนแผ่ออกมานั้นดูเหมือนจะไม่มีผลใดๆกับโคล่า ไฟเออร์แดนซ์ และเพื่อนร่วมทางของพวกเขาเลย ดูเหมือนว่าจะมีบาเรียที่มองไม่เห็นบางอย่างคอยปกป้องพวกเขาจากพลังสึกกร่อนของพลังแห่งความตาย

ในเวลาไม่นาน โคล่าและคนอื่นๆก็ได้ลากมอนสเตอร์กว่าหกร้อยตัวเข้าหาสมาชิกในทีมที่เหลือ

[วิญญาณเร่ร่อน] (อันเดธ ลอร์ดบอสขั้นสูง)
เลเวล 115
HP 45,000,000/45,000,000

[วิญญาณเร่ร่อนขั้นสูง] (อันเดธ ลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่)
เลเวล 116
HP 120,000,000/120,000,000

[วิญญาณบ้าคลั่ง] (อันเดธ แกรนลอร์ด)
เลเวล 116
HP 400,000,000/400,000,000

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณเร่ร่อนมากกว่าสี่ร้อยตัว วิญญาณเร่ร่อนขั้นสูงมากกว่าหนึ่งร้อยตัว และวิญญาณบ้าคลั่งอีกหกตัว ทุกในทีมก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้าน

ไม่เหมือนกับมอนสเตอร์ทั่วไป วิญญาณเหล่านี้ล้วนเคยเป็นนักรบที่ทำหน้าที่ปกป้อเมืองพิษมาก่อน และแม้จะตายไปแล้ว พวกเขาก็ยังคงใช้สกิลเหมือนกับตอนที่พวกเขายังมีชีวิตได้อยู่ และเมื่อวิญญาณเร่ร่อนขั้นสูงหลายร้อยตัวรวมตัวกัน พวกนี้ก็สามารถที่จะเปิดใช้งานวงเวทย์การต่อสู้ได้ด้วย และแม้ว่าวงเวทย์นี้จะไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่มันก็ช่วยเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่และความเร็วในการตอบสนองของ
มอนสเตอร์เหล่านี้ได้ และชั้นของมานาจางๆก็ปรากฎขึ้นรอบๆมอนสเตอร์เหล่านี้เช่นกัน ซึ่งมันก็ช่วยเพิ่มพลังป้องกันให้พวกมัน และช่วยเพิ่มพลังของสกิลกับเวทย์ให้พวกมันเช่นกัน

อย่างไรก็ตามทั้งทีมก็ต้องเต็มไปด้วยความประหลาดใจมากขึ้น เมื่อพบว่าวิญญาณเร่ร่อนเหล่านี้ไม่ได้ใช้กลยุทธ์การรวมตัวกันตามแบบมอนสเตอร์ทั่วไป แต่พวกมันกับเลือกจะเคลื่อนไหวในรูปแบบที่เหมาะสมแบบเป็นกองกำลังแทน วิญญาณเร่ร่อนที่มีโล่และอาวุธระยะประชิดนั้นจะเคลื่อนตัวมาด้านหน้าของกลุ่ม ในขณะที่พวกใช้ธนูและคทาก็จะยืนอยู่ในแนวหลัง โดยกองกำลังขนาดเล็กนี้ค่อยๆเคลื่อนที่อย่างเป็นระบบและระเบียบ

“นี่คือดินแดนลับเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบงั้นหรอ ?” บลูเรนโบว์นั้นตกตะลึงมากๆ เมื่อเธอมองไปยังมอนสเตอร์ที่ดาหน้าเข้ามากันเหมือนกองทัพที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี

แม้ว่าเธอจะรู้ว่าดินแดนลับเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยนั้นจะมีความพิเศษ แต่นี่มันก็ทำให้เธออดจะประหลาดใจไม่ได้ เมื่อเธอได้ประสบกับมันด้วยตัวเอง มอนสเตอร์เหล่านี้นั้นจัดเป็นความท้าทายที่ยากมากอยู่แล้ว เนื่องจากค่าสถานะของพวกมันสูงกว่าผู้เล่นในเลเวล และขั้นเดียวกัน แถมพวกมันยังมี HP และพลังป้องกันมากกว่า และตอนนี้พวกมันก็สามารถต่อสู้ได้ในรูปแบบกองทัพ NPC ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ซึ่งนี่มันก็ช่วยเพิ่มพลังการต่อสู้ของพวกมันขึ้นอย่างมาก

หากทีมของพวกเขาไม่ได้มีข้อได้เปรียบเชิงตัวเลข ทีมของพวกเขาก็ไม่ควรจะมีโอกาสชนะได้เลย

แม้แต่เฮลรัชก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เมื่อได้เห็นกองกำลังที่เข้ามา

โดยปกติเหล่าผู้เชี่ยวชาญของกองกำลังนรกนั้นไม่ได้มีปัญหาใดๆเลยในการต่อสู้กับมอนสเตอร์เหล่านี้แบบตัวต่อตัว แม้แต่วิญญาณบ้าคลั่งที่เป็นมอนสเตอร์ระดับแกรนลอร์ดก็ยังไม่ได้มีปัญหาสำหรับกองกำลังนรกที่จะฆ่ามันลงให้ได้ แต่ตอนนี้มอนสเตอร์เหล่านี้นั้นกับมีวงเวทย์การต่อสู้เป็นของตัวเอง ซึ่งวงเวทย์การต่อสู้เหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางกายภาพของวิญญาณเร่ร่อนเท่านั้น แต่มันยังช่วยลดจุดอ่อนที่พวกมันมีลงไปอย่างมาก และนี่ก็ยังไม่นับรวมข้อได้เปรียบอื่นๆของพวกมันในฐานะมอนสเตอร์อีก ดังนั้นตอนนี้แม้ว่ากองกำลังนรกจะเริ่มการต่อสู้กับมอนสเตอร์เหล่านี้ด้วยอาวุธและอุปกรณ์ชั้นยอดครบมือ พวกเขาก็จะยังคงรับมือกับกองกำลังมอนสเตอร์แบบนี้ได้อย่างยากลำบากอยู่ดี

มีเพียงซือเฟิงเท่านั้นที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับมอนสเตอร์ที่น่ากลัวเหล่านี้

เพราะท้ายที่สุดเขารู้ดีว่านี่คือพลังการต่อสู้ที่แท้จริงของมอนสเตอร์ใน God domain และมอนสเตอร์ทุกตัวก่อนเลเวลหนึ่งร้อยสิบห้านั้นก็ล้วนเป็นอุปสรรคที่มีไว้เพื่อทำให้ผู้เล่นคุ้นเคยกับเกมเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้เล่นใกล้มาถึงเกณฑ์เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ มอนสเตอร์จะไม่ได้มีไว้เพื่อรองรับผู้เล่นอีกต่อไป แต่ผู้เล่นจะต้องปรับตัวให้และรับมือกับมอนสเตอร์ใน God domain เหล่านี้เอง มอนสเตอร์จะเริ่มมีพฤติกรรมเหมือนสิ่งมีชีวิตโดยมีลักษณะที่เฉพาะเจาะจงของมันเอง และหากผู้เล่นไม่สามารถใช้ประโยชน์จากลักษณะเฉพาะเหล่านี้ได้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดก็ยังอาจตกอยู่ในอันตรายได้ในการต่อสู้กับมอนสเตอร์เหล่านี้แบบตัวต่อตัว

นี่คือเหตุผลว่าทำไมดินแดนลับ เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ และดันเจี้ยนในเลเวลนี้จึงจัดเป็นแหล่งขุมทรัพย์ที่แท้จริงสำหรับผู้เล่นขั้นสาม และมันยังมีมรดกโบราณ รวมถึงหนังสือสกิลและเวทย์แทบทุกประเภทดรอป

เมื่อกองกำลังของอันเดธเข้ามาใกล้ ผู้เล่นของดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้ก็ได้เข้าสู่สถานะเตรียมพร้อมต่อสู้ทันที แม้จะแอบมีกังวลบ้างก็ตาม ในขณะเดียวกันซือเฟิงก็ได้จ่ายคริสตัสเวทย์มนต์ห้าพันชิ้นเพื่อเปิดใช้งานสกิลโลกจิ๋วของแหวนแห่งกอสเปล

หลังจากนั้นผลของโลกจิ๋วก็ทำให้กองกำลังอันเดธนั้นมีค่าสถานะพื้นฐานลดลงอย่างรวดเร็ว แถมความเร็วในการตอบสนองและความแข็งแกร่งของร่างกายของพวกมันก็ลดลงด้วยเช่นกัน

ผู้เล่นสายความมืดในทีมที่ได้เห็นฉากนี้ต่างตกตะลึง พวกเขาเคยได้เห็นพลังของแหวนแห่งกอสเปลมาแล้ว แต่เมื่อได้เห็นตอนนี้ พวกเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะตกใจเหมือนกับครั้งแรกที่ได้เห็น

เมื่อครู่ที่ผ่านมา ความรู้สึกของพวกเขาได้เตือนพวกเขาว่าอันเดธเหล่านี้เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากๆ แต่ตอนนี้อันเดธเหล่านี้กับให้ความรู้สึกว่าจะเอาชนะได้ง่ายมากๆ

พวกเขานั้นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณที่ตอนนี้ซือเฟิงยืนอยู่ข้างพวกเขา ไม่ใช่ด้านตรงข้ามของพวกเขา

“เอาล่ะโจมตีได้ !!! รีบจบการต่อสู้นี้ให้ไวที่สุด !!!” ซือเฟิงรีบตะโกนออกคำสั่ง เมื่อเขาตระหนักว่าสมาชิกในทีมส่วนใหญ่ของเขายังเต็มไปด้วยความตกตะลึงและงุนงง

แม้ว่าแหวนแห่งกอสเปลจะเป็นเครื่องมือที่น่าทึ่ง แต่การใช้มันแต่ละครั้งก็มีราคาแพงมากอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะท้ายที่สุดแล้วค่าใช้จ่ายในการใช้โลกจิ๋วเป็นเวลาสิบนาทีนั้นมันมีมูลค่าเป็นคริสตัลเวทย์มนต์ถึงห้าพันชิ้นเลยทีเดียว

เมื่อได้ยินคำสั่งของซือเฟิง ทุกคนก็เริ่มหายจากอาการที่พวกเขาเป็นอยู่ หลังจากนั้นพวกเขาก็ทำการเปิดใช้งานสกิลและเวทย์ที่พวกเขามีโจมตีเข้าใส่กองกำลังอันเดธที่กำลังเข้ามาทันที ตอนนี้พวกเขามีข้อได้เปรียบในเรื่องค่าสถานะพื้นฐานแล้ว ดังนั้นวิธีที่เร็วที่สุดที่จะจัดการกับกองกำลังอันเดธเหล่านี้ก็คือการโจมตีและเผชิญหน้ากับพวกมันตรงๆเลย

ตู้ม … ตู้ม … ตู้ม …

เมื่อการโจมตีระลอกแรกจากสกิลและเวทย์ขั้นสามโดนเข้าที่ตัวเป้าหมายและพื้นที่ใกล้เคียงนั้น มันก็ทำให้ป่าใกล้เคียงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และการโจมตีทั้งหมดนี้มันก็ทำให้ภูมิประเทศรอบบริเวณเปลี่ยนไป

หลังจากผ่านไปสิบนาที กองกำลังอันเดธมากกว่าแปดสิบเปอเซ็ต์ก็ตายลง และวพกที่ยังเหลือรอดอยู่นั้นก็เหลือ HP เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และแม้จะไม่มีผลจากโลกจิ๋วช่วยแล้ว แต่ทีมก็สามารถจะอาศัยความได้เปรียบในด้านจำนวนจัดการกับมอนสเตอร์ที่เหลือได้สบายๆ และในระหว่างการต่อสู้ ทุกคนในทีมก็ได้สัมผัสถึงความรู้สึกในการเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่แท้จริงที่ระบบหลักของ God domain ออกแบบไว้

ระบบหลักของ God domain นั้นไม่ได้จำกัดอะไรมอนสเตอร์เหล่านี้ไว้เลยแม้แต่น้อย และพวกมันก็สามารถจะควบคุมพลังแห่งความตายได้ในระดับที่ไม่น่าเชื่อ และหากผู้เล่นไม่ได้เรียนรู้ถึงการปรับใช้มานาของตนเลย พลังสึกกร่อนของพลังแห่งความตายก็จะส่งผลต่อร่างกายของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

โดยปกติกระบวนการเรียนรู้แบบนี้มันจะอันตรายมากอย่างไม่น่าเชื่อ และหากผู้เล่นล้มเหลวในการป้องกันพลังนี้พวกเขาก็จะเป็นอัมพาตชั่วคราว และการตายในทันทีมันก็จะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย เมื่อเจอกับกรณีนี้ แต่โชคดีที่ทีมของพวกเขามีข้อได้เปรียบด้านจำนวนอย่างมาก และมอนสเตอร์เหล่านี้ก็อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขาน้อยมาก และมันก็ง่ายสำหรับพวกเขาที่จะจัดการ

แถมผู้เล่นในทีมทุกคนที่ซือเฟิงนำมานั้นยังเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่มีพรสวรรค์ และมาตราฐานการต่อสู้เหนือกว่าผู้เล่นทั่วไป และแม้ว่าพวกเขาจะได้รับประสบการณ์การต่อสู้แบบนี้เพียงช่วงสั้นๆ แต่มันก็ช่วยให้พวกเขาได้รับความเข้าใจใหม่ๆเกี่ยวกับการควบคุมมานาและร่างมานาของพวกเขาอย่างมาก

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ทั้งทีมตกตะลึงมากที่สุดก็คือ EXP ที่พวกเขาได้รับจากกองกำลังอันเดธเหล่านี้ ซึ่งมันทำให้แม้แต่เฮลรัช บลูเรนโบว์ และผู้อาวุโสโกลด์ก็ยังตกตะลึง

ขณะเดียวกันผู้เล่นบางคนก็มีเลเวลเพิ่มขึ้นจากหนึ่งร้อยเจ็ดไปเป็นหนึ่งร้อยแปดเลยด้วยซ้ำ ความเร็วในการเก็บเลเวลของพวกเขาที่นี่นั้นเร็วกว่าโลกภายนอกอย่างน้อยสิบเท่าเลย

ยิ่งไปกว่านั้นมอนสเตอร์เหล่านี้ยังได้ดรอปไอเทมไว้มากมาย

มันมีไอเทมจำนวนมากกระจัดกระจายไปทั่วสนามรบ !!

อัตราการดรอปของมอนสเตอร์เหล่านี้นั้นมีมากกว่ามอนสเตอร์ในโลกภายนอกสองเท่าหรือสูงกว่านั้นด้วยซ้ำ โดยเฉพาะกับอาวุธและอุปกรณ์ และแม้แต่อุปกรณ์ที่อ่อนแอที่สุดที่ดรอปก็ยังเป็นระดับเหล็กลึกลับ เลเวลหนึ่งร้อยสิบห้า แถมมันยังมีอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบห้า หกชิ้นดรอปมาด้วย ….

ในขณะเดียวกันผู้เล่นสายความมืดหลายคนก็มีดวงตาแดงก่ำ เมื่อได้เห็นไอเทมเหล่านี้ ….

สำหรับพวกเขา พวกเขาอาจจะพอละความสนใจจากอุปกรณ์ระดับเหล็กลึกลับ เลเวลหนึ่งร้อยสิบห้าได้ แค่มันทำไม่ได้จริงๆกับอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบห้า ซึ่งตอนนี้จัดว่าล้ำค่าอย่างไม่น่าเชื่อ …. เพราะท้ายที่สุดแล้วถ้าพวกเขาติดตั้งเจ็มสโตนลดเลเวลลงไปสักหน่อย และทำให้ตัวเองสามารถสวมใส่ได้ มันจะดีกว่าอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบอยู่เล็กน้อยด้วยซ้ำ ….

ตอนนี้มหาอำนาจต่างๆยังคงค้นหาอุปกรณ์ระดับสูงเลเวลหนึ่งร้อยห้า และหนึ่งร้อยสิบกันอย่างบ้าคลั่งอยู่เลย เนื่องมาจากอัตราการดรอปที่ต่ำมากของพวกมัน

อย่างไรก็ตามตอนนี้ หลังจากต่อสู้ที่นี่ไม่ถึงสิบห้านาที พวกเขากับได้รับอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบห้ามาแล้วหกชิ้น หากพวกเขาล่าที่นี่ทั้งวัน กำไรที่พวกเขาทำได้จะมหาศาลแน่นอน ….

ในขณะที่สมาชิกของดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้กำลังมองไปยังสภาสิบแปดปีกอย่างอิจฉาในเรื่องไอเทมที่ดรอปมากมาย ไฟเออร์แดนซ์ผู้ซึ่งรับผิดชอบในการเก็บรวบรวมไอเทมก็วิ่งเข้ามาหาซือเฟิงอย่างตื่นเต้น

“หัวหน้ากิล มันดรอปด้วย !!!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reincarnation Of The Strongest Sword God 2577

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2577 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2576 การสำรวจดินแดนลับ

เมื่อซือเฟิงระบุความตั้งใจว่าเขาจะเดินทางไปยังดินแดนลับ เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ ทั้งบลูเรนโบว์และผู้อาวุโสโกลด์ต่างก็พูดไม่ออก

มหาอำนาจต่างๆนั้นยังไม่เคยเข้าสู่ดันเจี้ยนเลเวลหนึ่งร้อยสิบ ขนาดหนึ่งร้อยคนเลยด้วยซ้ำ ในความเป็นจริงพวกเขายังแทบไม่มีผู้เล่นที่ไปถึงเลเวลหนึ่งร้อยสิบกันเลยด้วยซ้ำ และแม้ว่าดินแดนลับจะไม่เหมือนกับดันเจี้ยน แต่ก็ต้องบอกเลยว่ามันอันตรายกว่ามาก แม้แต่ในดินแดนลับที่ปลอดภัยที่สุด มันก็ยังสามารถเทียบได้กับดันเจี้ยน
ขนาดใหญ่พิเศษแบบทีม โหมดยาก และตอนนี้แม้แต่มหาอำนาจต่างๆก็ยังไม่กล้าจะเข้าไปสำรวจดินแดนลับเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบด้วย

แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับพุดถึงการทำแบบนี้ขึ้นมาอย่างสบายๆราวกับว่าเขากำลังจะไปเยี่ยมชมตลาดท้องถิ่น ….

ครู่หนึ่งบลูเรนโบว์และผู้อาวุโสโกลนั้นสงสัยด้วยซ้ำว่าพวกเขาเล่นเกมเดียวกันกับซือเฟิงรึปล่าว

“อะไร ? มีปัญหาอะไรงั้นหรอ ?” ซือเฟิงถามอย่างสงสัย เมื่อเขาเห็นสีหน้าตกตะลึงของตัวแทนทั้งสองกิล

“ไม่ เอ่อ …. ไม่มีอะไรมากหรอกก็แค่ฉันกังวลน่ะ เรากำลังพูดถึงดินแดนลับ เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบกัน ฉันกลัวว่าด้วยเลเวลและอุปกรณ์ในปัจจุบันของเรา …” ผู้อาวุโสโกลด์กล่าวอย่างเป็นห่วง

การเข้าสู่ดินแดนลับเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะท้ายที่สุดแล้วแม้แต่ผู้เล่นขั้นหนึ่งก็สามารถเข้าไปได้ ปัญหาคือว่าพวกเขาจะสามารถออกจากดินแดนลับทั้งๆที่ยังมีชีวิตได้ไหมต่างหาก

มันไม่เหมือนกับดันเจี้ยน ความยากของดินแดนลับ และจำนวนของมอนสเตอร์ภายในนั้นมันไม่ได้ตายตัว แต่เป็นแบบสุ่ม และหากคนๆหนึ่งโชคดีทีมหนึ่งร้อยคนก็เพียงพอจะอยู่รอดได้ แต่ถ้าไม่โชคดี พวกเขาก็อาจต้องการทีมผู้เล่นตั้งแต่หนึ่งพันถึงห้าพันคนเลย …..

นี่คือสาเหตุที่การสำรวจดินแดนลับนั้นทำได้ยากกว่าการบุกโจมตีดันเจี้ยนแบบทีมในเลเวลเดียวกันมากๆ โดยปกติกิลจะต้องระดมสมาชิกจำนวนมากเพื่อบุกเข้าสู่ดินแดนลับ แต่หลังจากเลเวลหนึ่งร้อยเป็นต้นมา มันก็มีเพียงผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเท่านั้นที่มีโอกาสจะรอดชีวิต ผู้เชี่ยวชาญขั้นสองจะเป็นได้แค่ภาระเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งคือกิลไม่สามารถจะใช้กำลังพลทั้งหมดที่มีได้ พวกเขาทำได้แค่พึ่งพาผู้เชี่ยวชาญขั้นสามจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น

นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้กิลขนาดใหญ่ต่างๆรวมไปถึงมหาอำนาจจำนวนมากเลือกจะยังไม่สำรวจดินแดนลับเลเวลหนึ่งร้อยหรือมากกว่า แม้ว่าพวกเขาจะข้ามเกณฑ์เลเวลหนึ่งร้อยกันมาแล้วก็ตาม

“ผ่อนคลายน่า ตามใดที่ทุกคนทำตามคำสั่งของฉันอย่างเคร่งครัด มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ” ซือเฟิงพูดอย่างสบายๆ

ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา เมืองพิษนั้นมีชื่อเสียงในเรื่องความอันตรายอย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่ามหาอำนาจต่างๆในชีวิตที่ผ่านมาของเขาจะส่งทีมผู้เชี่ยวชาญขั้นสามไปหลายพันคน แต่พวกเขาก็ยังล้มเหลวในการบุกโจมตี มหาอำนาจต่างๆได้พิชิตดินแดนลับแห่งนี้ได้ก็หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญของพวกเขาเริ่มจะมาถึงขั้นสี่กันแล้ว

อย่างไรก็ตามซือเฟิงไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเข้ายึดเมืองพิษ เขาต้องการเพียงแค่ชิ้นส่วนของดาบโซโลมอนที่ซ่อนอยู่ภายในเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขายังมีอาวุธเวทย์มนต์อย่าง Abyssal Blade ที่อยู่ในระดับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนาน และแหวนแห่งกอสเปลอยู่ด้วย ซึ่งแหวนนี้จะมีประโยชน์อย่างมากในเรื่องนี้แน่นอน เพราะเมื่อเขากลายเป็นปรมาจารย์นักเวทย์ขั้นกลางแล้ว เขาก็พบว่าเขาสามารถขยายเอฟเฟคของแหวนแห่งกอสเปลจนมีผลกับมอนสเตอร์ขั้นสี่ได้ ซึ่งนี่มันจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เขาในการได้รับชิ้นส่วนดาบอย่างมาก

ตอนนี้เขาขาดแค่เพียงจำนวนคนเท่านั้น ….

โดยทั่วไปแล้วมันจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามอย่างน้อยหนึ่งพันคนจึงจะสามารถรับประกันความปลอดภัยในการบุกโจมตีดินแดนลับเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยได้ในระดับหนึ่ง แต่ถึงแม้จะรวมผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม สามร้อยคนของกองกำลังนรกไปแล้ว เขาก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเพียงแค่ห้าร้อยคนเท่านั้นอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเขา ซึ่งมันก็เสี่ยงมากเกินไปที่จะพาทีมเล็กๆแค่นี้เข้าไปยังดินแดนลับ เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ อย่างไรก็ตามหากรวมผู้เชี่ยวชาญของดาร์ครัปโซดี้ และ เดียตี้โซไซตี้เข้าไปอีกมากกว่าสองร้อยคนนี้ เขาก็จะมีโอกาสมากขึ้นมากในการได้รับชิ้นส่วนดาบโซโลมอน

อย่างไรก็ตามแม้จะได้รับคำยืนยันจากซือเฟิงแล้ว บลูเรนโบว์กับผู้อาวุโสโกลด์ก็ยังค่อนข้างไม่สบายใจอยู่ดี แต่เนื่องจากพวกเขาได้เซ็นสัญญากับซือเฟิงไปแล้ว พวกเขาจึงไม่สามารถจะกลับคำพูดของพวกเขาได้โดยไม่มีเหตุผลที่ดี

จากนั้นตัวแทนทั้งสองก็ได้ติดต่อกิลของพวกเขาเพื่อให้ทำการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมาอย่างลับๆ ในขณะเดียวกันซือเฟิงก็ได้เรียกรวมตัวผู้เชี่ยวชาญของสภาสิบแปดปีก และกองกำลังนรก

ในโลกแห่งความมืด ข่าวการเป็นพันธมิตรระหว่างสภาสิบแปดปีก กับดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว และความสับสนวุ่นวายก็เริ่มเกิดขึ้นไปทั่ว เมื่อบรรดาผู้เล่นอิสระของโลกแห่งความมืดได้รู้ว่าสมาชิกของกิลทั้งสองจะสามารถใช้ประตูเทเลพอร์ตได้ฟรี ซึ่งมันก็ทำให้หลายคนเริ่มมาสมัครเข้ากิลทั้งสอง

“ผู้อาวุโสฮาร์ท เวิร์ลโดมิเนชั่นได้ทำตามคำแนะนำของหัวใจปีศาจในการเป็นหัวหอกเข้าโจมตีสภาสิบแปดปีก แต่ถึงกระนั้นตอนนี้ชื่อเสียงของกิลก็ตกต่ำลงอย่างมาก แถมยังกลายเป็นความอัปยศและความน่าอับอายของโลกแห่งความมืด เพื่อให้เรื่องแย่ลง ตอนนี้ดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้ ก็ได้รับความนิยมอย่างไม่น่าเชื่อจากผู้เล่นอิสระ หลังจากได้ร่วมมือกับสภาสิบแปดปีก หากคุณยังไม่สามารถเสนออะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้กับเวิร์ลโดมิเนชั่นของเราได้ เราก็คงจะต้องทำแบบเดียวกันกับทั้ง
สองกิล” ดอร์นโดมิแน้นซ์กล่าวกับฟิวเรียสฮาร์ทซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามของเขาในห้องรับรองอย่างเย็นชา

“โปรดมั่นใจได้เลยหัวหน้ากิลดอร์น เราเป็นคนเชิญให้เวิร์ลโดมิเนชั่นมาเข้าร่วมสถานการ์นี้ ดังนั้นเราจะไม่ปล่อยให้กิลของคุณต้องทนทุกข์กับมันแน่นอน แล้วก็ไม่ใช่ว่าคุณต้องการจะแก้แค้นสภาสิบแปดปีกงั้นหรอ ? หัวหน้ากิลดอร์น” ฟิวเรียสฮาร์ทถาม “สภาสิบแปดปีกไม่เพียงแต่จะครอบครองเมืองป่าหินที่เป็นที่นิยม แต่กิลยังควบคุมประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยเรื่องนี้เอง มันทำให้มหาอำนาจต่างๆเริ่มจะรู้สึกไม่พอใจในการพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วของสภาสิบแปดปีกแล้ว”

“ฉันต้องการสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่คำสัญญาที่ว่างเปล่า !!!” ดอร์นโดมิแน้นซ์คำรามพลางกลอกตา เขาเข้าใจตรรกะของฟิวเรียสฮาร์ท แต่ปัญหาคือตอนนี้ไม่มีใครสามารถจะทำอะไรกับสภาสิบแปดปีกได้

“เราได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจต่างๆมาอย่างลับๆ นอกจากนี้เรายังได้ยืมอาวุธและอุปกรณ์จำนวนมากมาด้วย หากเวิร์ลโดมิเนชั่นยินดีที่จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับเรา เราจะให้คุณยืมเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยห้า ห้าสิบเซ็ท และเซ็ทอุปกรณ์ระดับดาร์คโกล เลเวลหนึ่งร้อยห้าอีกสิบเซ็ทเป็นเวลาสิบวันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย” ฟิวเรียสฮาร์ทกล่าวพลางยิ้มอย่างใจเย็น “คิดว่ายังไงล่ะ ? แม้แต่มหาอำนาจต่างๆก็ยังหาอุปกรณ์พวกนี้มาได้อย่างยากลำบาก แต่เวิร์ลโดมิเนชั่นกับสามารถจะยืมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ หากเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับเรา ซึ่งด้วยเซ็ทเหล่านี้กิลของคุณจะสามารถโจมตีดันเจี้ยนเลเวลหนึ่งร้อยได้สบายๆ เพื่อรับเอาอาวุธและอุปกรณ์ชั้นยอดมาเป็นของตัวเอง นอกจากนี้เมื่อเรายึดหอคอยเทพโบราณได้แล้ว เวิร์ดโดมิเนชั่นยังจะได้รับส่วนแบ่งห้าเปอเซ็นต์ของหอคอยด้วย มันนับเป็นข้อเสนอที่ดีกว่าที่ดาร์ครัปโซดี้และเดียตี้โซไซตี้ได้จากสภาสิบแปดปีกอีก คุณไม่คิดงั้นหรอ ?”

“หื้ม ? นี่คุณสามารถรับเอาเซ็ทอุปกรณ์ระดับนี้มาได้มากมายเลยงั้นหรอ ?” ข้อเสนอของฟิวเรียสฮาร์ททำให้ดอร์นโดมิแน้นซ์ประหลาดใจ

เขาไม่นึกเลยว่าหัวใจปีศาจและมหาอำนาจต่างๆในโลกภายนอกจะไม่พอใจสภาสิบแปดปีกมากขนาดนี้จนลงทุนทำแบบนี้

“ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หัวหน้ากิลดอร์น แค่เซ็นสัญญาแล้วเราจะส่งมอบเซ็ทอุปกรณ์ให้ทันที” ฟิวเรียสฮาร์ทกล่าวกระตุ้นพลางหัวเราะเบาๆ

“ดีล !! ฉันยอมรับข้อเสนอของคุณ !!” ดอร์นโดมิแน้นซ์กล่าว

“ดีมาก !!! ฉันจะรีบติดต่อรองหัวหน้ากิลทันที และคุณจะได้รับเซ็ทอุปกรณ์ตามข้อตกลงในครึ่งวัน” ฟิวเรียสฮาร์ทกล่าวโดยไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อยกับท่าทีขงดอร์นโดมิแน้นซ์ เพราะมันจะมีเพียงแต่คนโง่เท่านั้นที่จะปฎิเสธข้อเสนอนี้

หลังจากเซ็นสัญญากันเรียบร้อย ฟิวเรียสฮาร์ทก็ออกจากสถานที่พักกิลของเวิร์ลโดมิเนชั่นกลับไปยังเมืองปีศาจ

“ทุกอย่างเรียบร้อยไหม ?” เฟรมมิ่งไลท์เงยหน้าขึ้นถาม เมื่อเห็นว่าฟิวเรียสฮาร์ทเดินเข้ามาในห้องทำงานของเขา

“เรียบร้อย มหาอำนาจต่างๆของโลกแห่งความมืดได้ตกลงที่จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับเรา เราสามารถจะโจมตีหอคอยเทพโบราณได้ทุกเมื่อ …” ฟิวเรียสฮาร์ทรายงาน

“ดี !” เฟรมมิ่งไลท์พยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขายิ้มและพูดต่อว่า “สภาสิบแปดปีกจะต้องคิดว่าฉันทำอะไรไม่ถูกแน่นอน เมื่อกิลได้เข้าควบคุมประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดได้ แต่น่าเสียดายที่สภาสิบแปดปีกไม่รู้เลยว่าการกระทำของตัวเองนั้นได้สร้างความโกรธแค้นและเกลียดชังขึ้นมากขนาดไหน”

สภาสิบแปดปีกนั้นไม่มีภูมิหลังใดๆ แต่ตอนนี้กิลกับนั่งอยู่บนภูเขาแห่งความมั่งคั่งและทรัพยากร ซึ่งมันอาจกล่าวได้ว่ากิลได้ผูกขาดทรัพยากรทั้งหมดของโลกแห่งความมืด ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้ว มหาอำนาจต่างๆจึงจะไม่ยอมปล่อยให้เป็นแบบนี้แน่นอน

ดังนั้นโดยที่ไม่ต้องกระทำการใดๆ ตอนนี้มหาอำนาจต่างๆและบริษัทมากมายจึงเข้ามาหาเขาด้วยตัวเอง โดยประกาศความตั้งใจที่จะจัดหาทรัพยากรทุกประเภทให้เพื่อแลกกับการลากสภาสิบแปดปีกลงมาจากภูเขาแห่งความมั่งคั่งและทรัพยากรนี้

ซึ่งตราบใดที่หัวใจปีศาจยึดหอคอยเทพโบราณได้ กิลก็จะสามารถผลักดันให้สภาสิบแปดปีกเข้าสู่ยุคมืดได้

หากสภาสิบแปดปีกยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเชื่อฟังในตอนแรกกิลก็จะสูญเสียแค่ป่าใบไม้ผลิเท่านั้น แต่ตอนนี้กิลจะต้องสูญเสียทุกอย่าง และท้ายที่สุดแล้วจากข้อมูลที่เขาได้รับมา กองอัศวินของสภาสิบแปดปีกนั้นก็ถูกจำกัดให้อยู่ได้แค่ในป่าใบไม้ผลิเท่านั้นด้วย

อีกด้านหนึ่ง ซือเฟิงก็ได้เดินทางมาที่เมืองพิษพร้อมกับสมาชิกกองกำลังหลัก
ของดาร์ครัปโซดี้และเดียตี้โซไซตี้

ในขณะที่ผู้เล่นสายความมืดเหล่านี้ก้าวเข้าสู่ดินแดนลับ ตัวของพวกเขาก็สั่นสะท้าน มันมีหมอกสีดำปกคลุมผืนดินอยู่ และพวกเขาก็รู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังเดินอยู่บนก้อนเมฆ เมื่อพวกเขาก้าวเข้าไปในนั้น แถมพวกเขายังรู้สึกหนาวและหิวอย่างกระทันหัน อีกทั้งประสาทสัมผัสทั้งห้าของพวกเขาและความเร็วในการตอบสนองนั้นมันก็อ่อนแอลงอย่างชัดเจน ที่นี่พวกเขาจะแสดงพลังการต่อสู้ตามปกติที่พวกเขามีได้ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามหมอกสีดำนี้ไม่ได้เป็นส่วนที่เลวร้ายที่สุด ส่วนที่เลวร้ายที่สุดจริงๆคือเหล่ามอนสเตอร์ที่มีเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยสิบห้าในป่ารอบๆเมืองพิษที่พวกเขากำลังเดินทางผ่าน และแม้แต่ที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกนี้ก็ยังเป็นลอร์ดบอสขั้นสูง ขณะที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่และแกรนลอร์ด โดยพวกนี้นั้นคือวิญญาณเร่ร่อน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสมาชิกของกองทัพปกป้องเมืองพิษก่อนที่จะถูกหมอกสีดำกลืนกินไป และยิ่งพวกเขาเข้าใกล้มอนสเตอร์เหล่านี้มากเท่าไหร่ พลังสึกกร่อนในพื้นที่ก็ยิ่งส่งผลต่อพวกเขามากเท่านั้น

แน่นอนเลยว่ามันมีมอนสเตอร์มากมายที่นี่ ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน เมื่อเขามองไปยังวิญญาณเร่ร่อนที่อยู่ใกล้ๆ เพราะตอนนี้ดินแดนลับแห่งนี้ไม่เพียงแต่จะมีมอนสเตอร์มากกว่าในชีวิตที่ผ่านมาของเขา แต่พลังแห่งความตายที่นี่มันก็ยังหนาแน่นขึ้นเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามมันก็เพียงพอที่จะยับยั้งเขาจากการสำรวจที่นี่

ซือเฟิงได้หันไปหาโคล่าและคนอื่นๆก่อนจะกล่าวว่า “เริ่มล่อพวกมอนสเตอร์กันได้แล้ว แต่อย่าให้มากเกินไป สักห้าหรือหกร้อยตัวต่อรอบก็เพียงพอแล้ว …”

คำสั่งของซือเฟิงนั้นทำให้สมาชิกของดาร์ครัปโซดี้และเดียตี้โซไซตี้พูดไม่ออก

พวกเขาแน่ใจว่าพวกเขาจะได้ตายแน่นอนด้วยซ้ำ หากต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่นี่หนึ่งร้อยตัวพร้อมกัน ไม่ต้องพูดถึงห้าร้อยตัวเลย เพราะท้ายที่สุดในแผนที่นี้มันมีพลังแห่งความตายอยู่หนาแน่นเกินไป และมอนสเตอร์ทั้งหมดที่นี่ก็ล้วนมีเลเวลหนึ่งร้อยสิบห้าหรือสูงกว่า ดังนั้นการพยายามต่อสู้กับพวกมันห้าถึงหกร้อยตัวพร้อมกันจะเป็นการฆ่าตัวตายแน่นอน !!!

“รับทราบ”

อย่างไรก็ตามโคล่า ไฟเออร์แดนซ์และคนอื่นๆก็ไม่ได้สะทกสะท้านใดๆกับคำสั่งของซือเฟิง พวกเขารีบพุ่งเข้าไปในป่าด้านหน้า และเริ่มล่อกับดึงดูดค่าความโกรธของวิญญาณเร่ร่อนกันทันที ….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+