Reincarnation Of The Strongest Sword God 2832

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2832 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2832 คลังกิลสภาสิบแปดปีกที่น่ากลัว

เมืองสกายสปริง สถานที่พักกิลสภาสิบแปดปีก :

“บอส คุณคิดยังไงถึงพาพวกเรามาเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกเนี่ย ? และดูแล้วสภาสิบแปดปีกก็ไม่ได้ทรงพลังอย่างที่ฉันคิดเลยแม้แต่นิดเดียว !!!” ซัมมอนเนอร์ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดกล่าวบ่น ขณะที่เขามองไปยังผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่มีตราแกนหลักของสภาสิบแปดปีดติดอยู่ที่หน้าอก ที่ยืนเฝ้าอยู่บริเวณประตูหน้าสถานที่พักกิลด้วยความไม่ยอมรับ “เท่าที่ฉันเห็นอาวุธและอุปกรณ์ของแกนหลักของสภาสิบแปดปีกเทียบกับสมาชิกระดับสูงของทีมนักผจญภัยหมาป่าแดงของเราไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงการจะนำมาเทียบกับพวกบริหารระดับสูงของทีมนักผจญภัยเราเลย”

ณ จุดนี้ที่สถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีก เท่าที่เขาสังเกตเห็นนั้น ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามส่วนใหญ่ของสภาสิบแปดปีกจะสวมใส่แค่อุปกรณ์ระดับเหล็กลึกลับ เลเวลหนึ่งร้อยสิบเท่านั้น ขณะที่มันก็มีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สวมใส่อุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ

ในทางตรงกันข้าม สมาชิกทีมนักผจญภัยหมาป่าแดงของพวกเขาที่มีจำนวนหลายร้อยคนนั้น แม้แต่อุปกรณ์ที่แย่ที่สุดของพวกเขา พวกเขาก็ยังสวมใส่อุปกรณ์ระดับเหล็กลึกลับเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ ขณะที่อาวุธที่แย่ที่สุดที่สมาชิกในหมู่พวกเขาใช้ก็ยังอยู่ในระดับลึกลับขั้นเงินเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบด้วย

ขณะที่ผู้บัญชาการของพวกเขานั้นก็สวมใส่เซ็ทอุปกรณ์ระดับดาร์คโกล เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบครบเซ็ท แถมผู้บัญชาการของพวกเขายังมีไอเทมระดับอีปิคอีกสองชิ้น โดยหนึ่งในนั้นเป็นอาวุธด้วย ซึ่งนี่มันก็ทำให้ผู้บัญชาการของพวกเขานั้นแข็งแกร่งกว่าผู้เชี่ยวชาญทั่วไปมาก

“มันเป็นเรื่องปกติ สภาสิบแปดปีก และพันธมิตรของพวกเขาอย่างจักรพรรดคริมสัน กับอันยีลดิ้งโซลนั้นพึ่งจะผ่านสงครามครั้งใหญ่กับมหาอำนาจจำนวนมากมา ฉันได้ยินว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามหนึ่งคนของสภาสิบแปดปีกโดยเฉลี่ยนั้นตายไปสองถึงสามครั้งในสงครามครั้งนี้ ขณะที่บางคนก็ตายไปห้าถึงหกครั้ง ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่มาตราฐานอาวุธกับอุปกรณ์ของพวกเขาจะลดลง” ผู้บัญชาการทีมนักผจญภัยหมาป่าแดง ซึ่งเป็นหญิงสาวที่งดงามที่มีผมยาวประหม่า และสวมชุดเกราะสีแดงเพลิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เธอจะกล่าวต่อว่า “และที่เรามาเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกก็ไม่ใช่เพื่อเรื่องนี้นะ …. เป้าหมายของเราคือการได้เข้าไปเก็บเลเวลในหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ และการได้เข้าไปฝึกในป้อมปราการเคลื่อนที่ต่างหาก”

ปัจจุบันมาตราฐานอาวุธและอุปกรณ์ของกองกำลังต่างๆแทบจะเท่ากัน และพูดกันตามตรงอาวุธกับอุปกรณ์ที่ดีจะมาเทียบกับเรื่องที่จะทำให้ผู้เล่นมีสิททำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ได้สำเร็จมากขึ้นได้อย่างไร ?

และพูดกันตามตรงแล้วเรื่องของขั้นสี่นี่แหละเป็นเรื่องที่เธอโหยหามากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เธอได้เห็นการต่อสู้ในเมืองสกายสปริง ซึ่งมันทำให้เธอเข้าใจอย่างชัดเจนเลยว่าขั้นสามนั้นเป็นเพียงมดเท่านั้นต่อหน้าขั้นสี่ เธอนั้นเคยคิดว่าตัวเองเป็นผู้เล่นอันดับต้นๆของอาณาจักรทวินทาวเวอร์ แต่หลังจากได้เห็นทุกอย่างนี้ เธอก็ได้รู้เลยว่าความคิดของเธอมันน่าหัวเราะแค่ไหน

อย่างไรก็ตามมันยากมากๆที่จะเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่ได้ โดยไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้นหาดินแดนมรดก หรือการฝึกให้บรรลุเงื่อนไขเพื่อเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่ ทุกอย่างนั้นล้วนทำได้อย่างยากลำบากมากจริงๆ และตอนนี้วิธีที่เร็วที่สุดที่จะทำให้เธอเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่ได้สำเร็จก็คือการเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีก ….

ซึ่งเมื่อได้ยินคำพูดของผู้บัญชาการของพวกเขา ผู้เล่นในทีมนักผจญภัยหมาป่าแดงส่วนใหญ่พยักหน้าเห็นด้วย และดวงตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความโหยหามากๆ

ปัจจุบันมันเป็นที่รู้กันดีจากข้อมูลในฟอรั่มทางการว่า ป้อมปราการเคลื่อนที่นั้นมันมีสภาพแวดล้อมที่มีมานาหนาแน่นมากๆ และภายในนั้นการรับรู้องค์ประกอบธาตุเวทย์มนต์ของผู้เล่นก็จะชัดเจนกว่าในโลกภายนอกมาก ซึ่งนี่มันจะช่วยให้พวกเขาพัฒนาทักษะในหลายด้านของพวกเขาได้อย่างรวดเร็วขึ้นมาก กุญแจสำคัญของเรื่องนี้คือการที่พวกเขาจะได้ส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับการรับรู้องค์ประกอบธาตุเวทย์มนต์และมานาภายในนั้น

เนื่องจากตอนนี้มันมีผู้เล่นเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่มากขึ้นแล้วใน God domain ฉะนั้นข้อมูล และวิธีการในการจะเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่มันจึงได้เริ่มถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ซึ่งนั่นก็คือการต้องเลือกเรียนรู้สกิลหรือเวทย์มรดกขั้นสี่ที่ดินแดนมรดกขั้นสี่กำหนดมาให้ ให้สำเร็จด้วยอัตราความสำเร็จตามกำหนด และต้องทำให้ได้ภายในเวลาที่กำหนดด้วย ซึ่งการมีความเข้าใจที่สูงมากเกี่ยวกับการรับรู้องค์ประกอบธาตุเวทย์มนต์ และมานานั้น มันก็จะช่วยเรื่องนี้ได้มากทีเดียว

ไม่งั้นแม้ว่าผู้เล่นคนหนึ่งจะค้นพบดินแดนมรดกขั้นสี่ จนไปถึงขั้นค้นพบมรดกขั้นสี่เรียบร้อย แต่พวกเขาก็จะไม่สามารถเลื่อนขั้นได้แน่นอน

ขณะที่สมาชิกทุกคนของทีมนักผจญภัยหมาป่าแดงกำลังพูดคุยกัน มันก็เกิดเสียงดังขึ้นในสถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีก ซึ่งนี่มันก็ทำให้ทุกคนรู้สึกสงสัยเล็กน้อย

“ฉันจำได้ว่าตรงนั้นมันเป็นคลังกิลของสภาสิบแปดปีกนี่นา …” ซัมมอนเนอร์ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดมองไปยังทิศทางของคลังกิลที่อยู่ในล๊อบบี้ด้วยความประหลาดใจ “หรือว่าคลังกิลของสภาสิบแปดปีกจะว่างเปล่างั้นหรอ ?”

“ไม่ใช่แน่นอน เพราะพวกเขาดูตื่นเต้น และมีความสุขมากๆ ….” อดีตผู้บัญชาการหญิงแห่งทีมนักผจญภัยหมาป่าแดง ซึ่งตอนนี้ได้เข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกแล้วกล่าวพลางส่ายหัว

อย่างไรก็ตามหลังจากที่เธอพูดจบนั้น เธอก็ได้ยินเสียงที่เดือดพล่าน และเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดังมาจากระยะไกลอย่างชัดเจน

“อึก !! นี่กิลของเรายิ่งใหญ่ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?! อาวุธและอุปกรณ์ต่างๆตั้งแต่ระดับทองแดงไปจนถึงระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบจำนวนมากถูกนำมาให้แลกเปลี่ยนในคลังกิลเนี่ยนะ ?! ฉันได้ยินมาว่าในคลังกิลของมหาอำนาจอื่นๆนั้น อย่างดีที่สุดมันก็มีแค่อาวุธกับอุปกรณ์ระดับทองแดงไปจนถึงระดับอีปิคที่ใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบให้แลกเปลี่ยนเท่านั้น นี่กิลของเราทำผิดพลาดอะไรรึ
ปล่าว ?”

“ไม่น่าจะใช่นะ ในคลังกิลตอนนี้มันมีอาวุธและอุปกรณ์แบบนี้มากกว่าหกพันชิ้นเลยนะ แถมส่วนใหญ่ยังเป็นอาวุธและอุปกรณ์ระดับเหล็กลึกลับขึ้นไปด้วย ซึ่งนี่มันก็ทำให้เราแทบจะไม่ต้องกังวลเรื่องอาวุธกับอุปกรณ์ใดๆเลย เมื่อเราไปถึงเลเวลหนึ่งร้อย
สามสิบ”

ที่ด้านหน้าเค้าเตอร์ที่ทำหน้าที่จัดการเรื่องคลังกิลของสภาสิบแปดปีกตอนนี้นั้น ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ของสภาสิบแปดปีก พวกเขาก็ล้วนตื่นเต้นมากๆ

ใน God domain สำหรับผู้เล่นนั้นไม่มีสิ่งอื่นใดที่จะเหนือไปกว่าอาวุธและอุปกรณ์แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาวุธและอุปกรณ์ชั้นยอดซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เล่นทุกคนล้วนปรา
รถนา
แต่ในตอนนี้สภาสิบแปดปีกกับนำอาวุธและอุปกรณ์หลายพันชิ้นที่ใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบออกมาให้แลกเปลี่ยนในคลังกิล แถมหลายร้อยชิ้นยังเป็นอาวุธกับอุปกรณ์ระดับอีปิคด้วย ….

ในระยะนี้ของเกมตราบใดที่ได้รับอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคที่ใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบมา กิลมักจะสงวนไว้ให้กับพวกผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือเก่งกาจกว่านั้น ไม่ก็พวกผู้บริหารระดับสูงของกิลทั้งหมด สมาชิกทั่วไปนั้นจะไม่มีสิทแตะต้องเลย

แน่นอนว่ามันก็เป็นเรื่องยากมากเช่นกันที่จะแลกเปลี่ยนอาวุธกับอุปกรณ์ระดับอีปิคที่ใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบที่มีในคลังกิลของสภาสิบแปดปีก โดยจะต้องเป็นสมาชิกระดับสูงขึ้นไปจึงจะสามารถแลกเปลี่ยนได้ และราคานั้นมันก็ไม่ได้ถูกเลย ซึ่งแม้แต่ไอเทมชิ้นที่แย่ที่สุดนั้นก็ยังต้องใช้คะแนนกิลถึงสามล้านแต้มแลกเปลี่ยน ซึ่งหากวัดการตามราคาการแลกเปลี่ยนคะแนนกิล มันก็จะมีราคาที่หกพันเหรียญทองเลย

อุปกรณ์ระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบที่มีราคาหกพันเหรียญทองในตอนนี้นั้นมันก็นับว่าแพงมาก

อย่างไรก็ตามอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคที่ใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบนั้นมันก็หายากมากๆ และส่วนใหญ่มันก็จะมีแต่ในบรรดากิลชั้นสูงขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งตอนนี้การที่สภาสิบแปดปีกยินดีจะนำมันออกมาไว้ให้สมาชิกระดับสูงของตัวเองแลกเปลี่ยนในคลังกิลนั้น มันจึงจัดว่าเป็นประโยชน์สำหรับสมาชิกเหล่านี้แน่นอน

ซัมมอนเนอร์ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดที่บ่นตอนแรกนั้นก็พูดไม่ออกเช่นกัน เมื่อเขาได้ตรวจสอบไอเทมทั้งหมดที่มีในคลังกิล

“บอส ดูเหมือนว่าสภาสิบแปดปีกจะทรงพลังมากกว่าที่ฉันคิดแหะ พวกเขากระทั่งนำอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคที่ใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบหลายร้อยชิ้นออกมาให้แลกเปลี่ยนโดยตรงด้วย แถมในหมู่อาวุธกับอุปกรณ์เหล่านี้มันยังมีแบบที่เป็น
เซ็ทด้วย หากคุณได้ใส่มันสักเซ็ท คุณจะแข็งแกร่งขึ้นมากๆแน่นอนบอส !!!”

ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงท่าทีของซัมมอนเนอร์ผู้นี้เลย แม้แต่อดีตผู้บัญชาการของเขาเองก็ยังเต็มไปด้วยท่าทีตื่นเต้นมากๆ

อาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบนั้นจัดว่าหาได้ยากมากๆ และแม้แต่มหาอำนาจต่างๆในปัจจุบันก็มีพวกมันแค่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ซึ่งด้วยอาวุธและอุปกรณ์แบบนี้มันก็จะทำให้ผู้สวมใส่มันกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสามอันดับต้นๆได้อย่างง่ายดายเลย

“เยว่ซี่ ไปแจ้งคนในกลุ่มของเราทั้งหมด จากนี้ไปให้หาวิธีรับเอาคะแนนกิลมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราต้องได้รับอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคพวกนี้มาจำนวนหนึ่งให้เร็วที่สุด ถ้าเรามัวแต่ชักช้า ฉันกลัวว่าทีมนักผจญภัยทีมอื่นจะชิงแย่งตัดหน้าเราไปทั้งหมด !!!” อดีตผู้บัญชาการหญิงกล่าวกับซัมมอนเนอร์ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ด

“โอเค !! ฉันจะรีบไปแจ้งพวกเขาทันที !!!” ซัมมอนเนอร์ขั้นสามที่ชื่อเย่วซี่เองก็ตระหนักถึงเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว และเขาก็รีบติดต่อไปยังสมาชิกคนอื่นๆที่เข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกอย่างรวดเร็ว

ซึ่งแน่นอนว่าทีมนักผจญภัยหมาป่าแดงนั้นไม่ใช่แค่พวกเดียวที่มีความคิดแบบนี้ ทีมนักผจญภัยอื่นๆที่เข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกก็มีความคิดเดียวกัน เพราะท้ายที่สุดแม้ว่าหากเทียบกันเป็นค่าเงินเหรียญทอง มันจะแพงกว่าอาวุธและอุปกรณ์ทั่วไป แต่หากพวกเขาทำเควสต่างๆจนได้รับคะแนนสะสมกิลมาพอแลกเปลี่ยน ยังไงซะมันก็ยังคงจัดว่าคุ้มค่าอยู่ดี

ขณะเดียวในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมานั้น ซือเฟิงก็ได้อัดอาวุธและอุปกรณ์เข้าสู่คลังกิลเพิ่มเติมไปอีกมากกว่าหมื่นชิ้น โดยแบ่งเป็นอาวุธและอุปกรณ์ระดับทองแดงไปจนถึงอีปิค เลเวลหนึ่งร้อยสิบถึงหนึ่งร้อยยี่สิบด้วย

“หัวหน้ากิล วิธีการที่หัวหน้าใช้มันช่างสุดยอดจริงๆ !!! ด้วยอาวุธและอุปกรณ์พวกนี้ที่หัวหน้ามอบให้มา มันก็จะพอให้เราดำเนินงานตามปกติต่อไปได้อีกพักใหญ่ๆเลย !!” ไฟเออร์แดนซ์กล่าวขณะที่เธอตรวจสอบอาวุธและอุปกรณ์ในคลังกิลทั้งหมด

“นี่มันพึ่งเริ่มเท่านั้น …” ซือเฟิงที่วีดีโอคอลคุยกับไฟเออร์แดนซ์กล่าวพลางหัวเราะเบาๆ “ไปแจ้งให้ทุกคนในกิลทราบว่า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปสภาสิบแปดปีกจะเลิกจำกัดกิจกรรมของกิลให้อยู่แค่ในเมืองกิล และหอคอยแห่งพันธสัญญาลับแล้ว คนสามารถจะเริ่มเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระอีกครั้ง !!!”

“หื้ม ?” ไฟเออร์แดนซ์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำสั่งของซือเฟิง

ในปัจจุบันกองกำลัง NPC ต่างๆนั้นบ้าคลั่งมากๆ และแม้แต่คนของมหาอำนาจต่างๆก็ยังถูกฆ่าและปล้นในแผนที่ล่าเกือบทุกแผนที่

ในตอนแรกสภาสิบแปดปีกได้เลือกจะหลีกเลี่ยงที่จะพัฒนาในแผนที่ต่างๆ และมาซุ่มพัฒนาตัวเองในหอคอยแห่งพันธสัญญาลับเพื่อหลบจากเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม
หากซือเฟิงออกคำสั่งแบบนี้ มันจะเพิ่มอัตราการบริโภคอาวุธและอุปกรณ์ของกิลแน่นอน

“ได้ยินไม่ผิดหรอก ไปแจ้งทุกคนตามนั้น เพราะตอนนี้เราตามหลังมหาอำนาจอื่นๆอย่างมากแล้วในแง่ของดันเจี้ยน และทรัพยากรในแผนที่ล่าต่างๆ เราจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ มันถึงเวลาที่เราจะต้องกลับออกไปอีกครั้งแล้ว !!!” ซือเฟิง
กล่าวพลางพยักหน้า

“ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะไปจัดการทันที” ไฟเออร์แดนซ์กล่าว หลังจากครุ่นคิดเรื่องนี้แล้ว เธอก็เห็นด้วยกับซือเฟิง เพราะพวกเขาไม่สามารถจะหลบจากเรื่องนี้ไปได้ตลอดจริงๆ

เมื่อไฟเออร์แดนซ์วางสายและรีบไปทำตามคำสั่งของซือเฟิง ซือเฟิงก็ได้เริ่มการติดตั้งกระจกแห่งโลกกับเมืองสภาสิบแปดปีก

ระบบ : คุณต้องการจะผูกมัดกระจกแห่งโลกไว้กับเมืองสภาสิบแปดปีกหรือไม่ ?

“ผูกมัด !!!” ซือเฟิงกล่าวโดยไม่ลังเล

ระบบ : กระจกแห่งโลกได้ถูกมัดไว้แล้ว

ระบบ : ขอแสดงความยินดีด้วย !! เมืองสภาสิบแปดปีกผ่านเกณฑ์ทั้งหมด และพร้อมจะอัพเกรดเป็นเมืองหลักแล้ว คุณต้องการจะอัพเกรดเมืองสภาสิบแปดปีกเลยไหม ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด