Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 28 ก้าวแรก (1)

Now you are reading Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล Chapter 28 ก้าวแรก (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 28 ก้าวแรก (1)

ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ลุคกลับมาจากปราสาทราชาปีศาจ

หลังจากเสร็จสิ้นการสวดมนต์ตอนเช้า นักบวชมารอนก็ได้รับคำเชิญจากหัวหน้าพ่อบ้านฮานส์ให้ไปพบกับเขาที่คฤหาสน์

…..

“ท่านเรียกหาข้าเหรอ?”

ขณะที่นักบวชมารอนถาม ฮานส์ที่กำลังตกอยู่ในห้วงภะวงความคิดก็ตื่นขึ้น

“เข้ามาก่อนสิ รับชาหน่อยไหม?”

“ไม่เป็นไร ข้าแค่อยากรู้ว่าทำไมท่านถึงเรียกข้ามา?”

เมื่อเห็นมารอนถามด้วยความสงสัย ฮานส์ก็เริ่มอธิบายว่าทำไมเขาถึงเรียกมารอนมา

“ข้าคิดว่านายน้อยในช่วงนี้นั้นดูแปลกๆไป”

“อ๋อใช่ ข้าก็คิดเหมือนกันตั้งแต่เห็นท่าทีของเขาหลังจากฟื้นขึ้นมา”

จู่ๆเขาก็ขโมยรูปปั้นของบรรพบุรุษไปเพื่อใชแป็นทุนในการพนันหรืออวดทักษะการพนันในเมืองลาเมอร์บ้างละ

นอกจากนี้หลังจากเยี่ยมชมปราสาทราชาปีศาจเสร็จ ลุคก็ขอให้พวกเขาตามหาศิลาเวทมนตร์ที่สูญเสียความมีชีวิตชีวาไปเป็นจำนวนมาก

เมื่อคนรับใช้คนหนึ่งพบว่ามันแปลกๆ เขาก็ได้ถามถึงเหตุผลของนายน้อย แต่ลุคก็ไม่ได้ตอบอะไรชัดเจนมาก เขาบอกเพียงแค่มันถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ในการฝึก

นอกจากนี้คำสั่งที่ลุคให้กับพวกเขาเมื่อวันก่อนก็น่าตกใจมากเช่นกัน

“ขายภาพบรรพบุรุษของข้าออกจากคฤหาสน์ทั้งหมด”

“ท่านพูดว่าอะไรนะ!”

เมื่อได้ยินคำสั่งของลุค คนรับใช้ต่างก็กระโดดออกจากที่นั่งด้วยความตกใจ และคนที่ตอบโต้รุนแรงที่สุดคือหัวหน้าพ่อบ้านฮานส์

ก่อนที่จะมาเป็นพ่อบ้าน เขาได้คอยเลี้ยงดูนายน้อยของเขาตั้งแต่เกิดจนถึงวันสุดท้ายในชีวิตของนายน้อยของเขา

นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจต่อต้านคำสั่งของลุคอย่างแน่วแน่

“ท่านคิดอะไรอยู่กันแน่ ครั้งล่าสุดท่านก็พึ่งขายรูปปั้นของบรรพบุรุษไป มาตอนนี้ท่านยังต้องการจะขายรูปภาพบรรพบุรุษของท่านอีก”

“ถ้าข้าได้เงิน ข้าก็ไม่ลังเลที่จะทำ”

“นายน้อย!”

เสียงตะโกนที่น่ากลัวของฮานส์ดังก้องในห้องประชุมราวกับเสียงคำรามของมังกร

เขาขยับเข้าหาลุคพร้อมกับกำหมัดแน่นราวกับจะระเบิดออกได้ทุกวินาที

อย่างไรก็ตามลุคก็ไม่ได้เปลี่ยนความคิดหรือการแสดงออกของเขาแต่อย่างใด แม้จะเห็นปฏิกิริยาของฮานส์แล้วก็ตาม

ตรงกันข้ามเขาถามคำถามอื่น

“เจ้านายเก่าของเจ้าสำคัญกว่าการคงอยู่ของตระกูลและที่ดินแห่งนี้อย่างนั้นหรอ?”

“ทั้งคู่สำคัญมาก!”

“จริงหรอ? นี่คือสิ่งที่ข้าคิด ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะต้องดูแลสิ่งต่างๆของบรรพบุรุษของข้าอีกต่อไป บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วกว่า 500 ปีไม่ได้มีประโยชน์อะไรสำหรับเราอีกแล้ว”

“ไอ้เด็กสารเลว! เจ้ากล้าพูดอย่างนี้ได้ยังไง!”

ด้วยระดับความโกรธแค้นฮานส์ได้รับสั่งสมมานาน เขาได้ลืมที่จะพูดกับลุคอย่างให้เกียรติ เขาเกือบที่จะที่จะใช้หมัดทั้งสองของเขาซัดไปที่ลุค

แต่ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม ปฏิกิริยาบนใบหน้าของลุคก็ยังคงเย็นชาอยู่เหมือนเดิม

“เป็นเพราะมีคนรับใช้เช่นเจ้าไง ตระกูลนี้ถึงยังคงเป็นแบบนี้ และนั่นคือทั้งหมด”

“เจ้าพูดว่าอะไรนะ”

“ลองคิดดูสักครั้ง เจ้าคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ตลอดเวลา 500 ปี? ไม่ใช่ว่าทุกคนเอาแต่พยายามพึ่งใบบุญของบรรพบุรุษรึยังไง?!”

“นั่น นั่นมัน…”

ฮานส์อยากจะโต้เถียงกลับไป แต่มันก็ไม่มีอะไรที่เขาจะสามารถพูดออกไปได้

แม้ว่าเขาจะไม่อยากยอมรับข้อเท็จจริงที่ลุคพูด แต่ลึกๆแล้วเขาก็รู้ว่ามันถูกต้องตามที่ลุคได้กล่าวไป

“ข้ารู้ดีว่าในอดีตบรรพบุรุษของข้าทุกรุ่นพยายามที่จะฟื้นคืนชื่อเสียงของตระกูลเรากลับมานี้ แต่นั่นคือทั้งหมดที่พวกเขาทำได้ แทนที่จะพยายามแสดงทักษะและความสามารถของพวกเขาเอง พวกเขากลับพยายามที่จะหากินกับการใช้ชื่อเสียงของบรรพบุรุษ”

รูปปั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์นั้นและภาพบุคคลก็ครอบงำคฤหาสน์ด้วยเหตุผลนั้น

พวกเขาหวังว่าลูกหลานคนต่อไปจะเติบโตขึ้นเมื่อมองภาพบุคคลและกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งเหมือนบรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าผิดหวังมาก

เมื่อเทียบกับบรรพบุรุษผู้เป็นหนึ่งในชายที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวีป ลูกหลานของเขานั้นนอกจากจะตายเร็วแล้วยังมีความสามารถต่ำเตี้ยเรี่ยดินจนน่าผิดหวัง

ไม่เพียงแค่นั้น …

“พวกเขาบางคนยังต้องเสียชีวิตโดยเปล่าประโยชน์ในสงคราม เนื่องจากความกดดันที่เกิดมาเพื่อบรรพบุรุษเช่นนี้ มันไม่ใช่แค่คนหรือสองคนเท่านั้นที่พยายามพัฒนาความสามารถที่พวกเขาไม่เคยมีและต้องตายไป”

“นั่นอาจเป็นเพราะคำสาปของปีศาจ…”

เมื่อมีคนยกข้ออ้างขึ้นมา การแสดงออกบนใบหน้าของลุคก็บิดเบี้ยวไปและเขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นว่า

“นี่คือแหละปัญหา! ถ้าสิ่งที่ดีเกิดขึ้นก็ขอบคุณบรรพบุรุษแต่พอเรื่องร้ายเกิดขึ้นก็โทษปีศาจ พวกเจ้าไม่เคยคิดที่จะหันกลับมามองดูตัวเองกันเลย ทำไมพวกถึงต้องเอาแต่โทษคนอื่นเสมอ”

“…”

“ข้าเองก็เคยทำอย่างที่ข้าได้กล่าวไป แต่ตลอดเวลาช่วงเวลานั้นข้าเหมือนกับกำลังเดินสู่หนทางแห่งความตาย มันเป็นทางเดินที่ผิด แม้ว่าพวกเขาจะเป็นบรรพบุรุษของข้าก็ตาม แต่ข้าก็ต้องการที่จะเป็นตัวของข้าเอง!”

ไม่มีใครพูดอะไรกับลุคอีก

โรเจอร์และคนรับใช้อีกสองสามคนที่รู้ความจริงเกี่ยวกับตระกูลรากันต์ต่างก็พยักหน้าอย่างเงียบ ๆ

แม้แต่คนที่ดื้อรั้นที่สุดอย่างฮานส์ก็ไม่สามารถที่จะทนได้อีกต่อไปและเลือกที่จะก้าวถอยหลังออกมา

“งั้นต่อจากนี้…ท่านมีแผนที่จะทำอะไรต่อ”

เมื่อได้ยินคำถามของฮานส์ ลุคก็ชักดาบของเขาออกจากฝัก

“ข้าจะสร้างทักษะของตัวเองด้วยพรสวรรค์ของตัวเองและข้าก็จะปกครองและเป็นผู้นำของตระกูลนี้ด้วยวิจารณญาณของข้า!”

กวาง!

และเพื่อยืนยันให้คำพูดของเขามีน้ำหนักมากขึ้น ลุคจึงวางดาบขแงเขาลงไปที่โต๊ะ

“คราวนี้ข้าจะทำให้มันชัดเจนมากสำหรับพวกเจ้า ข้าจะเป็นมากกว่าสิ่งที่บรรพบุรุษของข้าเคยเป็น ดังนั้นอย่าคิดล้อเลียนข้าเพราะมันไร้ประโยชน์ที่จะเอาข้าไปเปรียบเทียบกับบรรพบุรุษ”

ในที่สุดการประชุมที่บ้าคลั่งก็สิ้นสุดลง

ในทันใดนั้นอนุสาวรีย์ของบรรพบุรุษที่อยู่ในคฤหาสน์ก็ถูกรื้อถอน แล้วนำไปวางไว้ในโกดัง

เสมียนที่บันทึกรายละเอียดการประชุมได้ทำการบันทึกทุกอย่างอย่างละเอียด

ลูกหลานของตระกูลรากันต์จะจดจำวันนี้ในฐานะ “วันแห่งหายนะ”

เมื่อฮานส์นึกถึงการประชุมอันแสนดุเดือดที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อน เขาก็ถอนหายใจออกมา

“ข้ารู้สึกดีใจจริงๆที่นายน้อยมีปณิธานที่สว่างไสวกว่าผู้ใดที่ข้าเคยพบมา แต่มันก็มีจุดที่น่าสงสัยอยู่เล็กน้อย”

“และท่านหมายถึงอะไร…?”

“ข้าสงสัยว่าคำสาปของราชาปีศาจหรือวิญญาณจะส่งผลร้ายต่อเขาเมื่อตอนที่เขาหมดสติไปรึเปล่า”

มีข่าวลือมานานกว่า 500 ปี ว่าสายเลือดของรากันต์นั้นถูกสาปโดยราชาปีศาจเซย์มอน

แม้ฮานส์จะไม่เคยเชื่อคำพูดเหล่านั้นอย่างสมบูรณ์ แต่เขาก็รู้ดีว่ามันมีบางอย่างผิดพลาดเสมอสำหรับลูกหลานของรากันต์

“อา! หากเป็นเรื่องที่น่ากังวลเช่นนี้ ท่านก็ไม่จำเป็นต้องคิดมาก จริงๆแล้วข้าเองก็รู้สึกเหมือนกันว่านายน้อยนั้นดูไม่ปกติ แต่หลังจากที่ข้าตรวจสอบดูใกล้ๆแล้ว ข้าก็ไม่พบพลังชั่วร้ายใดๆเลย”

“จริงหรอ? งั้นข้าก็โล่งใจแล้ว”

ฮานส์ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินคำพูดของมารอน เขาไม่ต้องการด่วนสรุปโดยที่ไม่รู้ความจริงอะไรด้วยเหตุนี้เขาจึงถามมารอน

“แล้ววันก่อนเกิดอะไรขึ้นกับการสอบสวน”

“ท่านกำลังพูดถึงกิกันท์ที่มีการระเบิดของเครื่องยนต์หลักใช่หรือไม่”

ฮานส์เคยบอกกับมารอนครั้งหนึ่งเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่น่าสงสัยที่เกิดขึ้นกับนายน้อยของพวกเขา

โดยปกติแล้วเครื่องยนต์หลักของกิกันท์จะติดตั้งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยไว้สองถึงสามเท่าซึ่งบ่งชี้ว่าโอกาสที่มันจะระเบิดนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่หายาก

ความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือการบำรุงรักษาที่ไม่ดีพอหรืออาจเป็นเพราะคนขับเหนื่อยล้าเกินไปจนทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการควบคุมมานา

“ในกรณีของนายน้อยของเรานั้น เขาพึ่งขึ้นขับไปได้เพียง 5 นาทีเท่านั้นก่อนที่เครื่องยนต์ของกิกันท์มันจะระเบิด แทนที่จะเป็นความผิดพลาดของคนขับ มันมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาที่เครื่องยนต์มากกว่า”

“แม้ว่าข้าจะไม่แน่ใจนัก แต่ข้าก็ค่อนข้างสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ และข้าก็พบสิ่งแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง”

“มันคืออะไร?”

มารอนกลืนน้ำลายและถาม

“ส่วนหนึ่งของเครื่องยนต์หลักได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างแนบเนียน”

“ถ้าอย่างนั้นมันเป็นการพยายามลอบสังหารนายน้อยอย่างนั้นหรอ?”

มารอนถามด้วยความตกใจ

“ใช่”

ฮานส์สันนิฐานว่าหัวหน้าภาคสนามคนหนึ่งอาจจะเป็นผู้ร้าย

แต่ทันทีที่เขาคิดได้ บุคคลคนนั้นก็ได้หายตัวไปสองสามวัน และต่อมาฮานส์ก็ได้รับแจ้งว่าเขาถูกพบในสภาพเป็นศพในที่ดินใกล้เคียงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

“ถ้าอย่างนั้นใครมันเป็นคนทำกัน!”

“ข้าคิดว่าคนที่พยายามจะลอบสังหารนายน้อยคงคิดที่จะฆ่ามันเพื่อปิดปาก เพราะฉะนั้นในตอนนี้เราจึงยังไม่มีเบาะแสอื่นใดให้ค้นหา”

“ชิ นี่มันแย่จริงๆ”

ใครกันที่กล้าพอจะสังหารผู้สืบทอดแห่งรากันต์?

ตระกูลรากันต์นั้นไม่เคยได้รับความไม่พอใจจากตระกูลใด และพวกเขาก็ไม่ได้มีทรัพยากรอะไรที่จะทำให้ผู้อื่นเกิดความอิจฉาได้

ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร ฮานส์ก็สาบานว่าจะหาตัวผู้กระทำผิดและลงโทษมันให้ได้

“ถ้าอย่างนั้นจะ อีกนานแค่ไหนกัน…?”

มารอนเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง

…..

ฟิลิปกำลังเดินควบคู่ไปกับพ่อมดทั้งสาม

ด้วยคำสั่งของลุค เหล่าพ่อมดจึงต้องทำงานหนักโดยที่ไม่สามารถโต้เถียงอะไรได้

“ข้าไม่เข้าใจ นายน้อยไม่ได้จ้างพวกเขาเข้าทำงานนี่ แล้วพวกเขาจะมาทำงานให้ที่นี่ทำไมกัน”

จอมเวทเหล็กไหลนั้นไม่เหมือนกับอัศวิน

การอยู่เบื้องหลังไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็นทหารจริงๆ

“ข้าได้ยินมาจากฟิลิปว่าพวกเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในการเดิมพันกับนายน้อย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องมาทำงานให้กับนายน้อยของพวกเราฟรีๆ”

“เดิมพัน? เดิมพันอะไรกัน”

“ข้าไม่ได้รู้ถึงรายละเอียดใดๆ แต่อาจเป็นการพนัน”

ฮานส์พูดด้วยท่าทางไม่พอใจ

เขาคิดว่าพ่อมดเหล่านี้นั้นเป็นนักพนันที่โง่เขลาที่พนันอิสระของตัวเองและสูญเสียมันไปในที่สุด

เขามองว่าพวกพ่อมดคงจะพยายามปล้นนายน้อยของเขา แต่พลาดท่าเสียทีซะเอง

“อะฮ่าฮ่า! เพราะการพนัน…พวกเขาช่างเป็นพี่น้องที่โง่เขลาซะจริงที่ต้องมาลำบากขนาดนี้เพราะการพนัน”

“ถ้ารู้อย่างนั้นแล้ว เราก็ไม่ควรเอาตัวเข้าไปเสี่งกับการพนันเลย”

ไม่ว่าเขาต้องการจะจ่ายหนี้สักเท่าไหร่ แต่ฮานส์ก็ไม่พอใจที่จะต้องเห็นนายน้อยของเขาเล่นการพนัน พวกพ่อมดที่หกำลังทำงานหนักเหล่านั้นเป็นตัวอย่างที่ดีที่จะยกตัวอย่าง

นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฮานส์เป็นกังวลกับลุคมากขนาดนี้…

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 28 ก้าวแรก (1)

Now you are reading Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล Chapter 28 ก้าวแรก (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 28 ก้าวแรก (1)

ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ลุคกลับมาจากปราสาทราชาปีศาจ

หลังจากเสร็จสิ้นการสวดมนต์ตอนเช้า นักบวชมารอนก็ได้รับคำเชิญจากหัวหน้าพ่อบ้านฮานส์ให้ไปพบกับเขาที่คฤหาสน์

…..

“ท่านเรียกหาข้าเหรอ?”

ขณะที่นักบวชมารอนถาม ฮานส์ที่กำลังตกอยู่ในห้วงภะวงความคิดก็ตื่นขึ้น

“เข้ามาก่อนสิ รับชาหน่อยไหม?”

“ไม่เป็นไร ข้าแค่อยากรู้ว่าทำไมท่านถึงเรียกข้ามา?”

เมื่อเห็นมารอนถามด้วยความสงสัย ฮานส์ก็เริ่มอธิบายว่าทำไมเขาถึงเรียกมารอนมา

“ข้าคิดว่านายน้อยในช่วงนี้นั้นดูแปลกๆไป”

“อ๋อใช่ ข้าก็คิดเหมือนกันตั้งแต่เห็นท่าทีของเขาหลังจากฟื้นขึ้นมา”

จู่ๆเขาก็ขโมยรูปปั้นของบรรพบุรุษไปเพื่อใชแป็นทุนในการพนันหรืออวดทักษะการพนันในเมืองลาเมอร์บ้างละ

นอกจากนี้หลังจากเยี่ยมชมปราสาทราชาปีศาจเสร็จ ลุคก็ขอให้พวกเขาตามหาศิลาเวทมนตร์ที่สูญเสียความมีชีวิตชีวาไปเป็นจำนวนมาก

เมื่อคนรับใช้คนหนึ่งพบว่ามันแปลกๆ เขาก็ได้ถามถึงเหตุผลของนายน้อย แต่ลุคก็ไม่ได้ตอบอะไรชัดเจนมาก เขาบอกเพียงแค่มันถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ในการฝึก

นอกจากนี้คำสั่งที่ลุคให้กับพวกเขาเมื่อวันก่อนก็น่าตกใจมากเช่นกัน

“ขายภาพบรรพบุรุษของข้าออกจากคฤหาสน์ทั้งหมด”

“ท่านพูดว่าอะไรนะ!”

เมื่อได้ยินคำสั่งของลุค คนรับใช้ต่างก็กระโดดออกจากที่นั่งด้วยความตกใจ และคนที่ตอบโต้รุนแรงที่สุดคือหัวหน้าพ่อบ้านฮานส์

ก่อนที่จะมาเป็นพ่อบ้าน เขาได้คอยเลี้ยงดูนายน้อยของเขาตั้งแต่เกิดจนถึงวันสุดท้ายในชีวิตของนายน้อยของเขา

นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจต่อต้านคำสั่งของลุคอย่างแน่วแน่

“ท่านคิดอะไรอยู่กันแน่ ครั้งล่าสุดท่านก็พึ่งขายรูปปั้นของบรรพบุรุษไป มาตอนนี้ท่านยังต้องการจะขายรูปภาพบรรพบุรุษของท่านอีก”

“ถ้าข้าได้เงิน ข้าก็ไม่ลังเลที่จะทำ”

“นายน้อย!”

เสียงตะโกนที่น่ากลัวของฮานส์ดังก้องในห้องประชุมราวกับเสียงคำรามของมังกร

เขาขยับเข้าหาลุคพร้อมกับกำหมัดแน่นราวกับจะระเบิดออกได้ทุกวินาที

อย่างไรก็ตามลุคก็ไม่ได้เปลี่ยนความคิดหรือการแสดงออกของเขาแต่อย่างใด แม้จะเห็นปฏิกิริยาของฮานส์แล้วก็ตาม

ตรงกันข้ามเขาถามคำถามอื่น

“เจ้านายเก่าของเจ้าสำคัญกว่าการคงอยู่ของตระกูลและที่ดินแห่งนี้อย่างนั้นหรอ?”

“ทั้งคู่สำคัญมาก!”

“จริงหรอ? นี่คือสิ่งที่ข้าคิด ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะต้องดูแลสิ่งต่างๆของบรรพบุรุษของข้าอีกต่อไป บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วกว่า 500 ปีไม่ได้มีประโยชน์อะไรสำหรับเราอีกแล้ว”

“ไอ้เด็กสารเลว! เจ้ากล้าพูดอย่างนี้ได้ยังไง!”

ด้วยระดับความโกรธแค้นฮานส์ได้รับสั่งสมมานาน เขาได้ลืมที่จะพูดกับลุคอย่างให้เกียรติ เขาเกือบที่จะที่จะใช้หมัดทั้งสองของเขาซัดไปที่ลุค

แต่ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม ปฏิกิริยาบนใบหน้าของลุคก็ยังคงเย็นชาอยู่เหมือนเดิม

“เป็นเพราะมีคนรับใช้เช่นเจ้าไง ตระกูลนี้ถึงยังคงเป็นแบบนี้ และนั่นคือทั้งหมด”

“เจ้าพูดว่าอะไรนะ”

“ลองคิดดูสักครั้ง เจ้าคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ตลอดเวลา 500 ปี? ไม่ใช่ว่าทุกคนเอาแต่พยายามพึ่งใบบุญของบรรพบุรุษรึยังไง?!”

“นั่น นั่นมัน…”

ฮานส์อยากจะโต้เถียงกลับไป แต่มันก็ไม่มีอะไรที่เขาจะสามารถพูดออกไปได้

แม้ว่าเขาจะไม่อยากยอมรับข้อเท็จจริงที่ลุคพูด แต่ลึกๆแล้วเขาก็รู้ว่ามันถูกต้องตามที่ลุคได้กล่าวไป

“ข้ารู้ดีว่าในอดีตบรรพบุรุษของข้าทุกรุ่นพยายามที่จะฟื้นคืนชื่อเสียงของตระกูลเรากลับมานี้ แต่นั่นคือทั้งหมดที่พวกเขาทำได้ แทนที่จะพยายามแสดงทักษะและความสามารถของพวกเขาเอง พวกเขากลับพยายามที่จะหากินกับการใช้ชื่อเสียงของบรรพบุรุษ”

รูปปั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์นั้นและภาพบุคคลก็ครอบงำคฤหาสน์ด้วยเหตุผลนั้น

พวกเขาหวังว่าลูกหลานคนต่อไปจะเติบโตขึ้นเมื่อมองภาพบุคคลและกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งเหมือนบรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าผิดหวังมาก

เมื่อเทียบกับบรรพบุรุษผู้เป็นหนึ่งในชายที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวีป ลูกหลานของเขานั้นนอกจากจะตายเร็วแล้วยังมีความสามารถต่ำเตี้ยเรี่ยดินจนน่าผิดหวัง

ไม่เพียงแค่นั้น …

“พวกเขาบางคนยังต้องเสียชีวิตโดยเปล่าประโยชน์ในสงคราม เนื่องจากความกดดันที่เกิดมาเพื่อบรรพบุรุษเช่นนี้ มันไม่ใช่แค่คนหรือสองคนเท่านั้นที่พยายามพัฒนาความสามารถที่พวกเขาไม่เคยมีและต้องตายไป”

“นั่นอาจเป็นเพราะคำสาปของปีศาจ…”

เมื่อมีคนยกข้ออ้างขึ้นมา การแสดงออกบนใบหน้าของลุคก็บิดเบี้ยวไปและเขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นว่า

“นี่คือแหละปัญหา! ถ้าสิ่งที่ดีเกิดขึ้นก็ขอบคุณบรรพบุรุษแต่พอเรื่องร้ายเกิดขึ้นก็โทษปีศาจ พวกเจ้าไม่เคยคิดที่จะหันกลับมามองดูตัวเองกันเลย ทำไมพวกถึงต้องเอาแต่โทษคนอื่นเสมอ”

“…”

“ข้าเองก็เคยทำอย่างที่ข้าได้กล่าวไป แต่ตลอดเวลาช่วงเวลานั้นข้าเหมือนกับกำลังเดินสู่หนทางแห่งความตาย มันเป็นทางเดินที่ผิด แม้ว่าพวกเขาจะเป็นบรรพบุรุษของข้าก็ตาม แต่ข้าก็ต้องการที่จะเป็นตัวของข้าเอง!”

ไม่มีใครพูดอะไรกับลุคอีก

โรเจอร์และคนรับใช้อีกสองสามคนที่รู้ความจริงเกี่ยวกับตระกูลรากันต์ต่างก็พยักหน้าอย่างเงียบ ๆ

แม้แต่คนที่ดื้อรั้นที่สุดอย่างฮานส์ก็ไม่สามารถที่จะทนได้อีกต่อไปและเลือกที่จะก้าวถอยหลังออกมา

“งั้นต่อจากนี้…ท่านมีแผนที่จะทำอะไรต่อ”

เมื่อได้ยินคำถามของฮานส์ ลุคก็ชักดาบของเขาออกจากฝัก

“ข้าจะสร้างทักษะของตัวเองด้วยพรสวรรค์ของตัวเองและข้าก็จะปกครองและเป็นผู้นำของตระกูลนี้ด้วยวิจารณญาณของข้า!”

กวาง!

และเพื่อยืนยันให้คำพูดของเขามีน้ำหนักมากขึ้น ลุคจึงวางดาบขแงเขาลงไปที่โต๊ะ

“คราวนี้ข้าจะทำให้มันชัดเจนมากสำหรับพวกเจ้า ข้าจะเป็นมากกว่าสิ่งที่บรรพบุรุษของข้าเคยเป็น ดังนั้นอย่าคิดล้อเลียนข้าเพราะมันไร้ประโยชน์ที่จะเอาข้าไปเปรียบเทียบกับบรรพบุรุษ”

ในที่สุดการประชุมที่บ้าคลั่งก็สิ้นสุดลง

ในทันใดนั้นอนุสาวรีย์ของบรรพบุรุษที่อยู่ในคฤหาสน์ก็ถูกรื้อถอน แล้วนำไปวางไว้ในโกดัง

เสมียนที่บันทึกรายละเอียดการประชุมได้ทำการบันทึกทุกอย่างอย่างละเอียด

ลูกหลานของตระกูลรากันต์จะจดจำวันนี้ในฐานะ “วันแห่งหายนะ”

เมื่อฮานส์นึกถึงการประชุมอันแสนดุเดือดที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อน เขาก็ถอนหายใจออกมา

“ข้ารู้สึกดีใจจริงๆที่นายน้อยมีปณิธานที่สว่างไสวกว่าผู้ใดที่ข้าเคยพบมา แต่มันก็มีจุดที่น่าสงสัยอยู่เล็กน้อย”

“และท่านหมายถึงอะไร…?”

“ข้าสงสัยว่าคำสาปของราชาปีศาจหรือวิญญาณจะส่งผลร้ายต่อเขาเมื่อตอนที่เขาหมดสติไปรึเปล่า”

มีข่าวลือมานานกว่า 500 ปี ว่าสายเลือดของรากันต์นั้นถูกสาปโดยราชาปีศาจเซย์มอน

แม้ฮานส์จะไม่เคยเชื่อคำพูดเหล่านั้นอย่างสมบูรณ์ แต่เขาก็รู้ดีว่ามันมีบางอย่างผิดพลาดเสมอสำหรับลูกหลานของรากันต์

“อา! หากเป็นเรื่องที่น่ากังวลเช่นนี้ ท่านก็ไม่จำเป็นต้องคิดมาก จริงๆแล้วข้าเองก็รู้สึกเหมือนกันว่านายน้อยนั้นดูไม่ปกติ แต่หลังจากที่ข้าตรวจสอบดูใกล้ๆแล้ว ข้าก็ไม่พบพลังชั่วร้ายใดๆเลย”

“จริงหรอ? งั้นข้าก็โล่งใจแล้ว”

ฮานส์ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินคำพูดของมารอน เขาไม่ต้องการด่วนสรุปโดยที่ไม่รู้ความจริงอะไรด้วยเหตุนี้เขาจึงถามมารอน

“แล้ววันก่อนเกิดอะไรขึ้นกับการสอบสวน”

“ท่านกำลังพูดถึงกิกันท์ที่มีการระเบิดของเครื่องยนต์หลักใช่หรือไม่”

ฮานส์เคยบอกกับมารอนครั้งหนึ่งเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่น่าสงสัยที่เกิดขึ้นกับนายน้อยของพวกเขา

โดยปกติแล้วเครื่องยนต์หลักของกิกันท์จะติดตั้งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยไว้สองถึงสามเท่าซึ่งบ่งชี้ว่าโอกาสที่มันจะระเบิดนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่หายาก

ความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือการบำรุงรักษาที่ไม่ดีพอหรืออาจเป็นเพราะคนขับเหนื่อยล้าเกินไปจนทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการควบคุมมานา

“ในกรณีของนายน้อยของเรานั้น เขาพึ่งขึ้นขับไปได้เพียง 5 นาทีเท่านั้นก่อนที่เครื่องยนต์ของกิกันท์มันจะระเบิด แทนที่จะเป็นความผิดพลาดของคนขับ มันมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาที่เครื่องยนต์มากกว่า”

“แม้ว่าข้าจะไม่แน่ใจนัก แต่ข้าก็ค่อนข้างสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ และข้าก็พบสิ่งแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง”

“มันคืออะไร?”

มารอนกลืนน้ำลายและถาม

“ส่วนหนึ่งของเครื่องยนต์หลักได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างแนบเนียน”

“ถ้าอย่างนั้นมันเป็นการพยายามลอบสังหารนายน้อยอย่างนั้นหรอ?”

มารอนถามด้วยความตกใจ

“ใช่”

ฮานส์สันนิฐานว่าหัวหน้าภาคสนามคนหนึ่งอาจจะเป็นผู้ร้าย

แต่ทันทีที่เขาคิดได้ บุคคลคนนั้นก็ได้หายตัวไปสองสามวัน และต่อมาฮานส์ก็ได้รับแจ้งว่าเขาถูกพบในสภาพเป็นศพในที่ดินใกล้เคียงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

“ถ้าอย่างนั้นใครมันเป็นคนทำกัน!”

“ข้าคิดว่าคนที่พยายามจะลอบสังหารนายน้อยคงคิดที่จะฆ่ามันเพื่อปิดปาก เพราะฉะนั้นในตอนนี้เราจึงยังไม่มีเบาะแสอื่นใดให้ค้นหา”

“ชิ นี่มันแย่จริงๆ”

ใครกันที่กล้าพอจะสังหารผู้สืบทอดแห่งรากันต์?

ตระกูลรากันต์นั้นไม่เคยได้รับความไม่พอใจจากตระกูลใด และพวกเขาก็ไม่ได้มีทรัพยากรอะไรที่จะทำให้ผู้อื่นเกิดความอิจฉาได้

ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร ฮานส์ก็สาบานว่าจะหาตัวผู้กระทำผิดและลงโทษมันให้ได้

“ถ้าอย่างนั้นจะ อีกนานแค่ไหนกัน…?”

มารอนเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง

…..

ฟิลิปกำลังเดินควบคู่ไปกับพ่อมดทั้งสาม

ด้วยคำสั่งของลุค เหล่าพ่อมดจึงต้องทำงานหนักโดยที่ไม่สามารถโต้เถียงอะไรได้

“ข้าไม่เข้าใจ นายน้อยไม่ได้จ้างพวกเขาเข้าทำงานนี่ แล้วพวกเขาจะมาทำงานให้ที่นี่ทำไมกัน”

จอมเวทเหล็กไหลนั้นไม่เหมือนกับอัศวิน

การอยู่เบื้องหลังไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็นทหารจริงๆ

“ข้าได้ยินมาจากฟิลิปว่าพวกเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในการเดิมพันกับนายน้อย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องมาทำงานให้กับนายน้อยของพวกเราฟรีๆ”

“เดิมพัน? เดิมพันอะไรกัน”

“ข้าไม่ได้รู้ถึงรายละเอียดใดๆ แต่อาจเป็นการพนัน”

ฮานส์พูดด้วยท่าทางไม่พอใจ

เขาคิดว่าพ่อมดเหล่านี้นั้นเป็นนักพนันที่โง่เขลาที่พนันอิสระของตัวเองและสูญเสียมันไปในที่สุด

เขามองว่าพวกพ่อมดคงจะพยายามปล้นนายน้อยของเขา แต่พลาดท่าเสียทีซะเอง

“อะฮ่าฮ่า! เพราะการพนัน…พวกเขาช่างเป็นพี่น้องที่โง่เขลาซะจริงที่ต้องมาลำบากขนาดนี้เพราะการพนัน”

“ถ้ารู้อย่างนั้นแล้ว เราก็ไม่ควรเอาตัวเข้าไปเสี่งกับการพนันเลย”

ไม่ว่าเขาต้องการจะจ่ายหนี้สักเท่าไหร่ แต่ฮานส์ก็ไม่พอใจที่จะต้องเห็นนายน้อยของเขาเล่นการพนัน พวกพ่อมดที่หกำลังทำงานหนักเหล่านั้นเป็นตัวอย่างที่ดีที่จะยกตัวอย่าง

นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฮานส์เป็นกังวลกับลุคมากขนาดนี้…

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+