Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 76 แผนการของจักรพรรดิ 1

Now you are reading Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล Chapter 76 แผนการของจักรพรรดิ 1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 76 แผนการของจักรพรรดิ 1

ขณะที่ลุคออกไปจากที่ดินว่างเปล่า กลุ่มชายสวมหน้ากากก็เดินข้ามกําแพงปราสาทราชาปีศาจ

กลุ่มชายสวมหน้ากากต่างก็อยู่ในชุดหนังรักดรูปซึ่งแสดงให้เห็นถึงรูปร่างอันพร้อมบาง

พวกเขาเข้าไปในปราสาทพร้อมกับจุดธูปในมือ

“ฮับ! ทําไมจู่ๆข้าถึงรู้สึกเวียนหัวขึ้นมานะ”

“นั่นสิ ข้าก็ด้วย..”

ในทันทีที่ควันของยานอนหลับกระจายออกไป เหล่าผู้ลี้ภัยชาวโวลก้าที่ลาดตระเวนอยู่ต่างก็ล้มตัวลงไป

และผู้ที่ล้มลงไปก็กําลังลอยเข้าสู่ห้วงนิทรา

“ฮับ! นี่คือ…!

เจ้าหญิงตกอยู่ในอันตราย!”

ทหารบางคนที่เคยทํางานให้กับเจ้าหญิงในอดีต ต่างก็รู้สึกได้ถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเจ้าหญิง พวกเขาพยายามที่จะลุกขึ้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามแค่ไหน พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะล้มลงไป

หลังจากที่กลุ่มชายสวมหน้ากากปิดปากผู้อยู่อาศัยเสร็จ พวกเขาก็เริ่มการค้นหาปราสาทอย่างจริงจัง

จากนั้นไม่นาน พวกมันก็พบเจ้าหญิงเรย์นย่าที่กําลังพักอยู่ในห้องห้องหนึ่ง

“ท่านเอลคาสเซิลผู้ยิ่งใหญ่ พระแม่ของโลกเบลีซ! โปรดตรวจสอบให้แน่ใจ ว่าลอร์ดลุคจะไม่หลงทาง…”

เรย์น่ามองไปที่ท้องฟ้ายามค่ําคืนจากหน้าต่างของเธอและกําลังอธิษฐาน

ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เธอมาที่รากันต์ เธอก็มักจะอธิษฐานเผื่อลุคเสมอๆ

เธอหวังว่าเขาจะไม่ตกอยู่ในอันตรายใดๆ และหวังว่าประชาชนของเธอเองก็จะได้พบกับความสงบสุขอีกครั้ง

แน่นอนว่าเธอไม่รู้ว่าเทพเจ้าและเทพธิ ดาจะดูแลเขาหรือไม่

แต่เธอก็ไม่เคยละเว้นที่จะอธิษฐาน เพื่อเขาเลยสักวัน

ใช่แล้ว ในขณะที่เธอกําลังสวดมนต์อธิษฐานอยู่ ควันของยานอนหลับก็ได้ลอยเข้าสู่จมูกของเธอ

“อะ กลิ่นนี้…?”

เรย์น่าที่กําลังจะมองไปที่ประตู เนื่องจากได้กลิ่นอะไรบางอย่างก็หลับไปโดยไม่รู้สาเหตุ

เมื่อเธอล้มลงไป กลุ่มชายสวมหน้ากากก็เริ่มเข้ามาในห้อง

หนึ่งในนั้นหยิบกระดาษจากมือของเขาออกมาและเปิดมัน

บนกระดาษนั้นมีใบหน้าของเจ้าหญิงเรย์น่าอยู่ในนั้น

“ผู้หญิงคนนนี้แหละ”

“ถ้าอย่างนั้นเราก็พาตัวนางวไปกันเลย”

เรย์น่าที่หลับอยู่ก็ถูกหามออกจากห้องและปราสาท

ชิค! ชิค?

เสียงฝีเท้าของพวกเขาเคลื่อนที่ผ่านป่าและทุ่งนาทั้งหมดไป ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นเร็วมาก

การเคลื่อนไหวของพวกเขาเพียงก้าวเดียวนั้นก็ยาวออกไปหลายเมตร มันเหมือนกับตอนที่กวางกําลังวิ่ง

ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าพวกเขาจะวิ่งตลอดทั้งคืน แต่พวกเขาก็ดูเหมือนจะไม่เหนื่อยเลย

หลังจากวิ่งไปทางเหนือเป็นเวลาสองวัน พวกเขาก็หยุดพักที่หุบเขา และนี่ก็นับเป็นการหยุดพักครั้งแรกนับตั้งแต่พวกเขาออกเดินทางมา

“เจ้าหญิงยังหลับอยู่หรือเปล่า”

“ไม่น่านะ มันเกือบจะได้เวลาที่เธอจะต้องตื่นแล้ว”

เรย์น่าคร่ําครวญขณะที่เธอตื่นขึ้นมา

เมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอก็มองไปที่กลุ่มชายสวมหน้ากากที่กําลังมองลงมาที่เธอ เธอรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก แต่ก็พยายามรักษาความสงบไว้

โดยปกติแลเวหากเป็นผู้หญิงธรรมดาที่ถูกจับมาก็มักจะกรีดร้องและตะโกนอย่างบ้าคลั่งไปแล้ว

“เคานต์โมนาร์ชเป็นคสั่งให้พวกเจ้าทําสิ่งนี้ในใช่หรือไม่?”

“นี่ท่านคิดว่าเราจะรับคําสั่งจากขุนนางชั้นต่ําแบบนั้นหรอ?”
เรย์น่าส่ายหัวเมื่อได้รับคําตอบที่ไม่คาดคิดจากชายสวมหน้ากาก

“แล้วพวกเจ้าเป็นใครกัน? ข้าไม่ได้มีใจกับมัน แต่ข้าก็ไม่เคยไปมีความบาดหมางกับใครมาก่อน”

เธอนั้นถูกเรียกว่าเป็น “นักบุญแห่งลาเมอร์

ประชาชนและขนนางเกือบทุกคนต่างก็ชอบเธอ ยกเว้นก็แต่เคานต์โมนาร์ช

“ข้าบอกท่านไม่ได้”

“แล้เจ้าจะพาข้าไปที่ไหน”

“นั้นข้าก็บอกท่านไม่ได้เหมือนกัน”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะฆ่าข้าไหม?”

“ไม่ เราจะไม่ฆ่าท่าน แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าท่านจะได้รับการปฏิบัติอย่างไรต่อไป”

ท่าทีของชายสวมหน้ากากนั้นเย็นชาและดุดัน

แต่มันไม่มีความมุ่งร้ายใดๆในคําพูดของพวกเขา

เรย์น่ารู้สึกอับอายที่เธอไม่สามารถหลบหนีไปได้ และเธอก็ไม่รู้เหตุผลว่าทําไมเธอถึงถูกลักพาตัว

“กินสิ”

เมื่อน้ําตาเธอใกล้จะไหล ชายสวมหน้ากากคนหนึ่งก็ยื่นจานพร้อมที่มีขนมปังแห้งและผลไม้ให้เธอ

เขาคลายเชือกเล็กน้อยเพื่อให้เธอกินมันด้วยตัวเอง

“ข้าไม่ต้องการ”

“งั้นก็อดไป”

เขาวางจานไว้ตรงนั้น และทําให้คนอื่นๆเริ่มหิว

แต่มันมีบางอย่างแปลกๆ

คนอื่นๆต่างก็กินแค่พวกสมุนไพร,ผลไม้และถั่ว

“แม้จะไม่ใช่เอลฟ์ แต่เราก็จําเป็นต้องเติมเต็มความหิวโหย…!”

เรย์น่าที่เฝ้าดูพวกเขาอยู่ ดูค่อนข้างประหลาดใจ และเธอก็ตะโกนใส่พวกเขา ขณะที่ชี้นิ้วของเธอออกไป

“เจ้า เจ้าไม่ใช่มนุษย์!”

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นเอลฟ์หรือไม่ ก็ดาร์กเอลฟ์ ไม่สิ พวกเขาจะต้องเป็น ดาร์กเอลฟ์แน่นอน เพราะพวกเขามีผมสีดํา

“ทําไมดาร์กเอลฟ์ถึงได้…?”

เมื่อเธอค้นพบตัวตนของพวกเขา คําถามของเธอก็ลึกซึ้งขึ้น นั่นเป็นเพราะเธอไม่มีการติดต่อกับพวกแฟรี่

ในขณะที่เธอยังคงสงสัย ชายสวม หน้ากากที่พึ่งทานอาหารเสร็จ ก็ลุกขึ้น และเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง

ในแต่ละวันพวกเขาเดินลัดเลาะไป ตามเส้นทางที่ถูกทิ้งร้างบนภูเขาและในป่าไม้ เมื่อตกเวลากลางคืน พวกเขาก็จะข้ามทุ่งและที่ราบ เพื่อการเคลื่อนไหวที่เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

พวกเขามุ่งหน้าเดินทางไปตลอดเวลา

“ไม่นะ สาธารณรัฐโวลก้าอย่างนั้นหรอ?”

ถัดจากจักรวรรดิบาร็อคไปทางตอนเหนือก็คือสาธารณรัฐโวลก้า

เรย์น่าพูดออกมาดังๆ เพื่อยืนยันว่าดาร์กเอลฟ์ที่เย็นชาต่อเธอนั้นจะกระตุกกับคําพูดของเธอหรือไม่

เธอพูดถูกเกี่ยวกับสาธารณรัฐโวลก้า

ซิลเวีย หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับของโวลก้าได้สั่งให้พวกเขานําตัวเจ้า หญิงเรย์น่ามา

เป็นผลให้พวกเขาต้องไปที่รากันต์ที่ห่างไกลออกไป

“ไม่ ข้าไม่ต้องการ! วางข้าลง! ข้ายังตายไม่ได้!”

เรย์น่าที่รู้ว่าปลายทางคือสาธารณรัฐโวลก้า ก็คิดว่าพวกเขาต้องการเอาชีวิตเธออย่าแน่นอน ดังนั้นเธอจึงพยายามที่จะดิ้นรน

มีข่าวลือว่าสาธารณรัฐโวลก้าลักพาตัวราชวงศ์เก่าของประเทศโวลก้า และสังหารพวกเขาหลังจากการทรมานอย่างโหดร้าย
เรย์น่าเพิ่งเริ่มต้นที่จะตั้งถิ่นฐานกับผู้ลี้ภัยของเธอ เธอมีความสุขกับชีวิตกับ ผู้คนของเธอ ดังนั้นเธอจึงยังไม่อยากตาย

“ท่านกําลังจะทําให้ตัวเองเตจ็บปวดนะ หุบปาก!”

เมื่อได้ยินคําพูดของชายสวมหน้ากากอีกคน หนึ่งในพวกเขาก็ดึงผ้าสีดําออกจากมือ

คราวนี้พวกเขาพยายามจะใช้มันในการปิดปากเจ้าหญิงเรย์น่า

“เอามือออกไป ถ้าเจ้าสัมผัสเธอด้วยมือที่สกปรกของเจ้า ข้าก็จะทําให้เจ้า ได้ตายสมใจปราถนาเอง ไม่สิ เจ้าจะไม่มีทางตายแม้ว่าเจ้าจะขอร้องให้ข้าฆ่าเจ้าก็ตาม

เสียงของชายคนหนึ่งดังมาจากฟากฟ้า

เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลุค!…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 76 แผนการของจักรพรรดิ 1

Now you are reading Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล Chapter 76 แผนการของจักรพรรดิ 1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 76 แผนการของจักรพรรดิ 1

ขณะที่ลุคออกไปจากที่ดินว่างเปล่า กลุ่มชายสวมหน้ากากก็เดินข้ามกําแพงปราสาทราชาปีศาจ

กลุ่มชายสวมหน้ากากต่างก็อยู่ในชุดหนังรักดรูปซึ่งแสดงให้เห็นถึงรูปร่างอันพร้อมบาง

พวกเขาเข้าไปในปราสาทพร้อมกับจุดธูปในมือ

“ฮับ! ทําไมจู่ๆข้าถึงรู้สึกเวียนหัวขึ้นมานะ”

“นั่นสิ ข้าก็ด้วย..”

ในทันทีที่ควันของยานอนหลับกระจายออกไป เหล่าผู้ลี้ภัยชาวโวลก้าที่ลาดตระเวนอยู่ต่างก็ล้มตัวลงไป

และผู้ที่ล้มลงไปก็กําลังลอยเข้าสู่ห้วงนิทรา

“ฮับ! นี่คือ…!

เจ้าหญิงตกอยู่ในอันตราย!”

ทหารบางคนที่เคยทํางานให้กับเจ้าหญิงในอดีต ต่างก็รู้สึกได้ถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเจ้าหญิง พวกเขาพยายามที่จะลุกขึ้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามแค่ไหน พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะล้มลงไป

หลังจากที่กลุ่มชายสวมหน้ากากปิดปากผู้อยู่อาศัยเสร็จ พวกเขาก็เริ่มการค้นหาปราสาทอย่างจริงจัง

จากนั้นไม่นาน พวกมันก็พบเจ้าหญิงเรย์นย่าที่กําลังพักอยู่ในห้องห้องหนึ่ง

“ท่านเอลคาสเซิลผู้ยิ่งใหญ่ พระแม่ของโลกเบลีซ! โปรดตรวจสอบให้แน่ใจ ว่าลอร์ดลุคจะไม่หลงทาง…”

เรย์น่ามองไปที่ท้องฟ้ายามค่ําคืนจากหน้าต่างของเธอและกําลังอธิษฐาน

ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เธอมาที่รากันต์ เธอก็มักจะอธิษฐานเผื่อลุคเสมอๆ

เธอหวังว่าเขาจะไม่ตกอยู่ในอันตรายใดๆ และหวังว่าประชาชนของเธอเองก็จะได้พบกับความสงบสุขอีกครั้ง

แน่นอนว่าเธอไม่รู้ว่าเทพเจ้าและเทพธิ ดาจะดูแลเขาหรือไม่

แต่เธอก็ไม่เคยละเว้นที่จะอธิษฐาน เพื่อเขาเลยสักวัน

ใช่แล้ว ในขณะที่เธอกําลังสวดมนต์อธิษฐานอยู่ ควันของยานอนหลับก็ได้ลอยเข้าสู่จมูกของเธอ

“อะ กลิ่นนี้…?”

เรย์น่าที่กําลังจะมองไปที่ประตู เนื่องจากได้กลิ่นอะไรบางอย่างก็หลับไปโดยไม่รู้สาเหตุ

เมื่อเธอล้มลงไป กลุ่มชายสวมหน้ากากก็เริ่มเข้ามาในห้อง

หนึ่งในนั้นหยิบกระดาษจากมือของเขาออกมาและเปิดมัน

บนกระดาษนั้นมีใบหน้าของเจ้าหญิงเรย์น่าอยู่ในนั้น

“ผู้หญิงคนนนี้แหละ”

“ถ้าอย่างนั้นเราก็พาตัวนางวไปกันเลย”

เรย์น่าที่หลับอยู่ก็ถูกหามออกจากห้องและปราสาท

ชิค! ชิค?

เสียงฝีเท้าของพวกเขาเคลื่อนที่ผ่านป่าและทุ่งนาทั้งหมดไป ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นเร็วมาก

การเคลื่อนไหวของพวกเขาเพียงก้าวเดียวนั้นก็ยาวออกไปหลายเมตร มันเหมือนกับตอนที่กวางกําลังวิ่ง

ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าพวกเขาจะวิ่งตลอดทั้งคืน แต่พวกเขาก็ดูเหมือนจะไม่เหนื่อยเลย

หลังจากวิ่งไปทางเหนือเป็นเวลาสองวัน พวกเขาก็หยุดพักที่หุบเขา และนี่ก็นับเป็นการหยุดพักครั้งแรกนับตั้งแต่พวกเขาออกเดินทางมา

“เจ้าหญิงยังหลับอยู่หรือเปล่า”

“ไม่น่านะ มันเกือบจะได้เวลาที่เธอจะต้องตื่นแล้ว”

เรย์น่าคร่ําครวญขณะที่เธอตื่นขึ้นมา

เมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอก็มองไปที่กลุ่มชายสวมหน้ากากที่กําลังมองลงมาที่เธอ เธอรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก แต่ก็พยายามรักษาความสงบไว้

โดยปกติแลเวหากเป็นผู้หญิงธรรมดาที่ถูกจับมาก็มักจะกรีดร้องและตะโกนอย่างบ้าคลั่งไปแล้ว

“เคานต์โมนาร์ชเป็นคสั่งให้พวกเจ้าทําสิ่งนี้ในใช่หรือไม่?”

“นี่ท่านคิดว่าเราจะรับคําสั่งจากขุนนางชั้นต่ําแบบนั้นหรอ?”
เรย์น่าส่ายหัวเมื่อได้รับคําตอบที่ไม่คาดคิดจากชายสวมหน้ากาก

“แล้วพวกเจ้าเป็นใครกัน? ข้าไม่ได้มีใจกับมัน แต่ข้าก็ไม่เคยไปมีความบาดหมางกับใครมาก่อน”

เธอนั้นถูกเรียกว่าเป็น “นักบุญแห่งลาเมอร์

ประชาชนและขนนางเกือบทุกคนต่างก็ชอบเธอ ยกเว้นก็แต่เคานต์โมนาร์ช

“ข้าบอกท่านไม่ได้”

“แล้เจ้าจะพาข้าไปที่ไหน”

“นั้นข้าก็บอกท่านไม่ได้เหมือนกัน”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะฆ่าข้าไหม?”

“ไม่ เราจะไม่ฆ่าท่าน แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าท่านจะได้รับการปฏิบัติอย่างไรต่อไป”

ท่าทีของชายสวมหน้ากากนั้นเย็นชาและดุดัน

แต่มันไม่มีความมุ่งร้ายใดๆในคําพูดของพวกเขา

เรย์น่ารู้สึกอับอายที่เธอไม่สามารถหลบหนีไปได้ และเธอก็ไม่รู้เหตุผลว่าทําไมเธอถึงถูกลักพาตัว

“กินสิ”

เมื่อน้ําตาเธอใกล้จะไหล ชายสวมหน้ากากคนหนึ่งก็ยื่นจานพร้อมที่มีขนมปังแห้งและผลไม้ให้เธอ

เขาคลายเชือกเล็กน้อยเพื่อให้เธอกินมันด้วยตัวเอง

“ข้าไม่ต้องการ”

“งั้นก็อดไป”

เขาวางจานไว้ตรงนั้น และทําให้คนอื่นๆเริ่มหิว

แต่มันมีบางอย่างแปลกๆ

คนอื่นๆต่างก็กินแค่พวกสมุนไพร,ผลไม้และถั่ว

“แม้จะไม่ใช่เอลฟ์ แต่เราก็จําเป็นต้องเติมเต็มความหิวโหย…!”

เรย์น่าที่เฝ้าดูพวกเขาอยู่ ดูค่อนข้างประหลาดใจ และเธอก็ตะโกนใส่พวกเขา ขณะที่ชี้นิ้วของเธอออกไป

“เจ้า เจ้าไม่ใช่มนุษย์!”

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นเอลฟ์หรือไม่ ก็ดาร์กเอลฟ์ ไม่สิ พวกเขาจะต้องเป็น ดาร์กเอลฟ์แน่นอน เพราะพวกเขามีผมสีดํา

“ทําไมดาร์กเอลฟ์ถึงได้…?”

เมื่อเธอค้นพบตัวตนของพวกเขา คําถามของเธอก็ลึกซึ้งขึ้น นั่นเป็นเพราะเธอไม่มีการติดต่อกับพวกแฟรี่

ในขณะที่เธอยังคงสงสัย ชายสวม หน้ากากที่พึ่งทานอาหารเสร็จ ก็ลุกขึ้น และเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง

ในแต่ละวันพวกเขาเดินลัดเลาะไป ตามเส้นทางที่ถูกทิ้งร้างบนภูเขาและในป่าไม้ เมื่อตกเวลากลางคืน พวกเขาก็จะข้ามทุ่งและที่ราบ เพื่อการเคลื่อนไหวที่เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

พวกเขามุ่งหน้าเดินทางไปตลอดเวลา

“ไม่นะ สาธารณรัฐโวลก้าอย่างนั้นหรอ?”

ถัดจากจักรวรรดิบาร็อคไปทางตอนเหนือก็คือสาธารณรัฐโวลก้า

เรย์น่าพูดออกมาดังๆ เพื่อยืนยันว่าดาร์กเอลฟ์ที่เย็นชาต่อเธอนั้นจะกระตุกกับคําพูดของเธอหรือไม่

เธอพูดถูกเกี่ยวกับสาธารณรัฐโวลก้า

ซิลเวีย หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับของโวลก้าได้สั่งให้พวกเขานําตัวเจ้า หญิงเรย์น่ามา

เป็นผลให้พวกเขาต้องไปที่รากันต์ที่ห่างไกลออกไป

“ไม่ ข้าไม่ต้องการ! วางข้าลง! ข้ายังตายไม่ได้!”

เรย์น่าที่รู้ว่าปลายทางคือสาธารณรัฐโวลก้า ก็คิดว่าพวกเขาต้องการเอาชีวิตเธออย่าแน่นอน ดังนั้นเธอจึงพยายามที่จะดิ้นรน

มีข่าวลือว่าสาธารณรัฐโวลก้าลักพาตัวราชวงศ์เก่าของประเทศโวลก้า และสังหารพวกเขาหลังจากการทรมานอย่างโหดร้าย
เรย์น่าเพิ่งเริ่มต้นที่จะตั้งถิ่นฐานกับผู้ลี้ภัยของเธอ เธอมีความสุขกับชีวิตกับ ผู้คนของเธอ ดังนั้นเธอจึงยังไม่อยากตาย

“ท่านกําลังจะทําให้ตัวเองเตจ็บปวดนะ หุบปาก!”

เมื่อได้ยินคําพูดของชายสวมหน้ากากอีกคน หนึ่งในพวกเขาก็ดึงผ้าสีดําออกจากมือ

คราวนี้พวกเขาพยายามจะใช้มันในการปิดปากเจ้าหญิงเรย์น่า

“เอามือออกไป ถ้าเจ้าสัมผัสเธอด้วยมือที่สกปรกของเจ้า ข้าก็จะทําให้เจ้า ได้ตายสมใจปราถนาเอง ไม่สิ เจ้าจะไม่มีทางตายแม้ว่าเจ้าจะขอร้องให้ข้าฆ่าเจ้าก็ตาม

เสียงของชายคนหนึ่งดังมาจากฟากฟ้า

เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลุค!…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+