Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 110 ครั้งสุดท้ายและครั้งแรก

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 110 ครั้งสุดท้ายและครั้งแรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลูเซียนยื่นมือไปทักทาย “ยินดีที่ได้รู้จักขอรับ มาร์คัส”

เมื่อยื่นมือไปจับมือลูเซียนทักทาย มาร์คัสยิ้มหยิ่งผยองอยู่ในที “เช่นกันลูเซียน ข้าได้ยินชื่อเจ้าตั้งแต่ข้าอยู่ที่ ‘ชาค’ ตอนข้าเพิ่งมาถึงอัลโต้ เมื่อสองสามวันก่อน ข้าว่าจะไปหาท่านอยู่ แต่อาจารย์วิกเตอร์ขอร้องไม่ให้ไปกวนเจ้าระหว่างเตรียมตัวแสดงดนตรี ‘ครั้งแรก’”

มาร์คัสจงใจเน้นเป็นพิเศษกับคำว่า ‘ครั้งแรก’ เขาคิดว่าลูเซียนยังไม่ควรได้รับความเคารพในฐานะนักดนตรีจนกว่า ‘การแสดงดนตรีครั้งแรก’ จะประสบความสำเร็จ

“อาจารย์วิกเตอร์เอ่ยชื่อท่านบ่อยๆ ขอรับ บอกว่าท่านเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ที่โดดเด่นที่สุด” ลูเซียนยังคงรักษาความสุภาพ “ถ้าพูดถึงการแสดงดนตรี ข้ายังห่างไกลจากท่านมาก”

“ใช่… ถือเป็นเกียรติสูงสุดที่ได้รับเชิญจากประเทศต่างๆ มากมาย” มาร์คัสยิ้มกว้างเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ที่เขาภาคภูมิใจเป็นนักหนา เขานั่งลงข้างลูเซียนและเริ่มสาธยายประสบการณ์การแสดงดนตรีของเขาในประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงแนวอารมณ์ปรารถนาใน ‘อาณาจักรซีราคิวส์’ เพลงที่เน้นความเคร่งครัดอนุรักษ์นิยมของ ‘จักรวรรดิไฮลซ์ศักดิ์สิทธิ์’ และเพลงแห่งความห้าวหาญของ ‘อาณาจักรชาค’

ลูเซียนไม่รังเกียจที่จะได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประเทศต่างๆ เขาพยักหน้าตามและถามคำถามสองสามข้อเป็นครั้งคราวตอนมาร์คัสเล่าเรื่อง

มาร์คัสเองก็ไม่หยุดพูดจนกระทั่งการแสดงดนตรีกำลังจะเริ่มขึ้น ในความคิดของเขา มาร์คัสมองลูเซียนว่าเป็นคนสบายๆ ไม่ได้หยิ่งยโสเหมือนที่เขาคิดไว้

ความไม่เป็นมิตรของมาร์คัสไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่มีที่มาที่ไป แรกๆ เขารู้สึกยินดีมากที่อาจารย์ของเขา อาจารย์วิกเตอร์ ค้นพบเด็กหนุ่มผู้มากพรสวรรค์ เขาภูมิใจที่ศิษย์ร่วมสำนักประสบความสำเร็จไล่หลังเขา จนกระทั่งข่าวลูเซียนถูกพูดถึงไปทั่ว ‘ชาค’ ราวกับเกล็ดหิมะที่ร่วงหล่นทั่วอาณาจักร แม้กระทั่งขุนนางชนชั้นสูงใน ‘ชาค’ ก็พูดถึงเด็กหนุ่มผู้นี้และเปรียบเทียบเขากับลูเซียน และตรงนี้เองที่มาร์คัสรู้สึกว่าความสำเร็จของเขากลายเป็นศูนย์ เมื่อเทียบกับความสำเร็จของลูเซียน ทั้งๆ ที่ลูเซียนยังไม่มีการแสดงดนตรีของตัวเอง!

ผู้ชมปรบมือแสดงความชื่นชมคริสโตเฟอร์กันเกรียวกราวทันทีที่เขาก้าวขึ้นมาบนเวที ด้วยเครื่องแต่งกายสีดำ คริสโตเฟอร์ดูกระชุ่มกระชวยและน่าเกรงขามทีเดียวในคืนนี้

นั่นคงจะเป็นการแสดงดนตรี ‘ครั้งสุดท้าย’ ของคริสโตเฟอร์ในเส้นทางอาชีพดนตรีของเขา การแสดงดนตรีครั้งสุดท้ายของ ‘ประธานสมาคมนักดนตรีแห่งนครอัลโต้’ นักดนตรีที่น่าเลื่อมใสและยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีป ‘ตำนานดนตรีที่ยังมีชีวิต’

“ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี” คริสโตเฟอร์หันมาทางผู้ชม “ขอแสดงความขอบคุณที่มากันพร้อมหน้า”

ยืดหลังตรง ลูเซียนตั้งใจฟัง

“ข้าอุทิศชีวิตให้กับดนตรีมาห้าสิบเก้าปี จนตอนนี้อายุปาเข้าไปเจ็ดสิบปี” คริสโตเฟอร์กล่าวอย่างตื้นตันใจ “ข้ายังยืนอยู่ตรงนี้ได้ เพราะการสนับสนุนของพวกท่าน เพราะแรงกระตุ้นจากคนรุ่นใหม่ เรา ในฐานะมนุษย์ปุถุชน เราแก่ชราแล้วก็หมดลมหายใจ แต่ดนตรีไม่มีวันตาย!”

คริสโตเฟอร์หันหลังไปและชูไม้บาตองขึ้น

ซิมโฟนีสามเพลงแรกเป็นเพลงที่โด่งดังที่สุดของคริสโตเฟอร์ เพลงแรกประณีตแต่เดือดพล่าน อีกเพลงสง่างามและสูงส่ง และเพลงที่สามดูดดื่มและนุ่มนวล ท่วงทำนองที่ชวนให้หลงใหลและคุ้นหูจับใจผู้ฟังทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ภายในหรือภายนอกโรงละครซาล์มฮอล

ความสำเร็จของคริสโตเฟอร์ในเส้นทางสายดนตรีเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ดนตรี ซาบซึ้งไปตามดนตรี ความทรงจำครั้งเก่าของผู้ฟังหวนคืนกลับมา

ทุกช่วงที่หยุดพัก ผู้ชมจะปรบมือกึกก้องประหนึ่งไม่เคยปรบมือมาก่อน ราวกับทุกทวีปกำลังปรบมือสรรเสริญนักดนตรีอาวุโสผู้น่าเลื่อมใสผู้นี้

หลังจากซิมโฟนีเพลงที่สาม คริสโตเฟอร์ดูท่าทางเหนื่อย “ลำดับต่อไป ขอเชิญรับฟังเปียโนโซนาตาโดยซิลเวีย ศิษย์เอกของข้า ส่วนข้าขอตัวไปเตรียมซิมโฟนีเพลงต่อไป”

ในการแสดงดนตรีครั้งสุดท้าย คริสโตเฟอร์ก็ยังอยากจะสนับสนุนลูกศิษย์คนนี้ และเขารู้ว่าเขาต้องพักก่อนซิมโฟนีเพลงต่อไปจะบรรเลง

“นี่แหละ ‘ตำนานดนตรีที่ยังมีลมหายใจ’! การแสดงดนตรีของท่านกระแทกใจข้าจริงๆ!” ปิโอลาพูดด้วยความตื่นเต้นเกินบรรยายอยู่ที่จัตุรัสกลาง

“ข้ารู้…” ชารอนพยักหน้าเห็นด้วยอย่างจริงจัง “ข้าโชคดีจริงๆ ที่ได้มาที่นี่ ได้ฟังดนตรีของท่านคริสโตเฟอร์”

ซิลเวียเดินขึ้นมาบนเวทีราวกับนางฟ้าในชุดสีขาว

ลูเซียนหลับตาตั้งใจฟังบทบรรเลงของซิลเวีย โดยรวมแล้ว เพลงของนางออกมาดีทีเดียว พัฒนาการของซิลเวียประทับใจลูเซียนมาก แต่เขารู้ว่านางยังสามารถยกระดับ ‘การพรมนิ้ว’ บนเปียโนและความเข้าใจกลวิธีลูกเล่นอีกมากมายของเปียโน เครื่องดนตรีใหม่ชิ้นนี้ได้อีก

เพลงเดี่ยวโซนาตากว่าสิบนาทีก็ได้รับเสียงปรบมือกึกก้องเช่นกัน ซิลเวียจับกระโปรงยกขึ้นเล็กน้อยและย่อเข่าแสดงความขอบคุณผู้ชม นางรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย

ขณะที่ลูเซียนปรบมือให้ซิลเวีย เขารู้สึกว่ามีคนกำลังมองเขาอยู่ นาตาซานั่นเอง ตาสีม่วงงดงามของนางเปล่งประกายขณะนางยิ้ม

นางพยักหน้าให้ลูเซียน และลูเซียนรู้ว่านางกำลังขอบคุณเขาที่แนะนำกลวิธีการเล่นเปียโนและการประพันธ์เพลงโซนาตาใหม่ให้กับซิลเวีย

หลังจากนั้น คริสโตเฟอร์ก็กลับขึ้นมาทันที สะกดความสนใจของทุกคนอีกครั้ง ทุกคนรู้ดีว่ากำลังจะได้ฟังซิมโฟนีเพลงสุดท้าย

ขณะคริสโตเฟอร์กำลังชูไม้บาตองขึ้นโบก โน้ตสองตัวแรกสะกดผู้ฟังทุกคนให้ตกอยู่ในภวังค์

คริสโตเฟอร์พาทุกคนเข้าสู่ ‘สมรภูมิสงคราม’

เสียงแตรเป่า ธงโบกสะบัด เหล่าทหารหาญโห่ร้องเข้าปะทะราวกับราชสีห์เข้าโรมรันศัตรู เลือดในกายผู้ฟังเดือดพล่านด้วยความมุ่งมั่นและความปรารถนาในการรบ ภายใต้การนำของวีรบุรุษผู้เกรียงไกร บาทหลวงและอัศวินรบเคียงบ่าเคียงไหล่ พิชิตศัตรูราวกับสายน้ำที่เชี่ยวกราก เหล่าทหารบั่นคอยักษ์และทะลายป้อมปราการของนักเวทชั่วช้าสามานย์ เพื่อปกป้องมาตุภูมิ เหล่าผู้กล้าสังหารปีศาจผู้รุกรานมาทำลายโลก

กระบวนต่อไปยิ่งมีท่วงทำนองที่เคร่งครัด ราวกับกองทัพกำลังไว้อาลัยวีรบุรุษ แต่ความหวังก็มาพร้อมกับความโศก แม้ปณิธานอันยิ่งใหญ่ก็ตามมาด้วยความเศร้า หลังจากนั้น กระบวนเพลงที่เร้าใจและลึกซึ้งก็เปลี่ยนท่วงทำนองดนตรี ในนามของความยุติธรรมและแสงสว่าง ทหารปาดน้ำตาและเดินทัพต่อไปด้วยแรงผลักดันที่มิอาจต้านทานได้

ทั้งโรงละครซาล์มฮอลเงียบกริบอยู่พักใหญ่ หลังจากซิมโฟนีเพลงนี้บรรเลงจบ แล้วก็ตามด้วยเสียงปรบมือดังสนั่นหวั่นไหวของผู้ชมผู้ฟัง

ไม่ใช่เพียงการปรบมือชื่นชมซิมโฟนีเพลงนี้เท่านั้น แต่เป็นการสรรเสริญจิตวิญญาณอันสูงส่งของคริสโตเฟอร์ในความสร้างสรรค์และความเพียรในวัยเจ็ดสิบปีของเขา! เห็นได้ชัดว่าซิมโฟนีเพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ‘ซิมโฟนีแห่งชะตาชีวิต’ ของลูเซียน น่าประหลาดใจที่นักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่จะเรียนรู้จากนักดนตรีรุ่นใหม่และยกระดับศักยภาพของตัวเองเข้าสู่มิติใหม่ แม้ในวัยบั้นปลายชีวิต

“ปรมาจารย์ ท่านคริสโตเฟอร์ ปรมาจารย์!” ปิโอลาตื้นตันเกินว่าจะพูดให้เต็มประโยค

“ใช่… ใช่!” เพื่อนๆ ของปิโอลาตอบ เสียงทุกคนฟังดูสั่นเครือ

แกรนด์ดยุก เจ้าหญิง เจ้าชายจากอาณาจักรซีราคิวส์ เคานต์เวอร์ดี้ และผู้คนทั้งโรงละครซาล์มฮอลลุกขึ้นยืน ปรบมือแสดงความเคารพสูงสุดต่อนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้

“ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ข้าขอจบการแสดงดนตรี ‘ครั้งสุดท้าย’ ไว้แต่เพียงเท่านั้น” คริสโตเฟอร์ค้อมศีรษะให้กับผู้ชมด้วยความซาบซึ้ง “พรุ่งนี้ นักดนตรีหนุ่มพรสวรรค์ของเรา ลูเซียน อีวานส์ จะแสดงดนตรี ‘ครั้งแรก’ ของเขาที่นี่ ณ โรงละครซาล์มฮอล ‘การแสดงดนตรีครั้งสุดท้าย และการแสดงดนตรีครั้งแรก’…พระเจ้ากำลังตรัสกับเราว่า… ‘ดนตรีไม่มีวันตาย!’”

“ดนตรีไม่มีวันตาย!” ผู้ชมพูดตามคริสโตเฟอร์และพูดซ้ำๆ คำของเขา และคนทั้งหลายก็หันมามองลูเซียน

ลูเซียนโค้งคำนับนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ด้วยความเคารพอย่างสูง

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด