Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 181 การเริ่มต้นใหม่

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 181 การเริ่มต้นใหม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หัวใจของฌากส์เต้นเร็วมาก เขาได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง

สิบวินาทีต่อมา ไหล่ของฌากส์ก็ห่อเหี่ยวราวกับลูกโป่งถูกปล่อยลม

“ทำไม… เจ้าต้องการให้ข้าทำแบบนี้” ฌากส์พูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าว

ความรู้สึกของเขาถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งคือความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ต่อความรักและอีกส่วนหนึ่งก็รู้สึกผิดอย่างร้ายกาจ

“มันง่ายมาก ท่านแค่ต้องลงนามสัญญาเวทมนตร์กับข้า” ลูเซียนยังคงยิ้มอยู่บนใบหน้า “ข้อแรกท่านต้องสัญญาว่าท่านจะไม่บอกใครว่าเราเป็นใคร ข้อสองท่านจะไม่บอกใครว่าบนเรือมีบางอย่างที่ผิดปกติ ข้อสามเมื่อท่านกลับไปที่ เมืองสเติร์ก ท่านจะต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับด้วย”

ขณะที่ฌากส์กำลังฟังลูเซียนพูดแต่สายตากลับมองลงไปที่พื้น

“ในทางกลับกัน ข้าสัญญาว่าจะให้ท่านดื่มยาวิเศษที่สามารถปลุกพรของท่านได้ หรือที่นักเวทอย่างพวกเราเรียกว่า ‘พลังโลหิต’ ถ้าในอีกสามปีต่อจากนี้ความพยายามของท่านล้มเหลว แม้ว่าในสามปีนี้ท่านจะไม่ได้พบข้าในโฮล์ม แต่สภาแห่งเวทมนตร์จะรักษาคำพูดเสมอ ทอมสามารถเป็นตัวแทนของสภาได้”

เพื่อที่จะทำให้ฌากส์รู้สึกดีขึ้น ลูเซียนก็พูดเสริมว่า “นอกจากนี้ตราบใดที่ชีวิตของเราไม่ได้ถูกคุกคาม เราก็จะไม่ทำร้ายท่านและเพื่อนของท่านบนเรือลำนี้”

“ข้าได้ยินแล้วและข้าจะทำตามที่เจ้าพูด” ฌากส์เงยหน้าขึ้นและจ้องมองเข้าไปในดวงตาของลูเซียน “เจ้ารู้จักความอ่อนแอของข้า”

เมื่อเขาพูดจบ เขาก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

“ยินดีกับการเลือกที่ถูกต้องของท่าน ข้าเห็นอนาคตที่สดใสของท่านแล้ว” ลูเซียนกล่าว จากนั้นเขาก็หยิบม้วนกระดาษปากกาขนนก และหมึกขวดเล็กออกมาจากกระเป๋าของเขา และเริ่มเขียนสัญญาอย่างรวดเร็ว พร้อมวาดลวดลายลึกลับลงบนกระดาษ

สายตาของลูเซียนไม่ได้มองไปที่กระดาษ แต่กลับจ้องมองไปที่ฌากส์ ส่วนมือซ้ายของเขาก็กำหมัดไว้ในกรณีที่ฌากส์จะเปลี่ยนความคิด

ฌากส์ไม่ได้รังเกียจความรอบคอบของลูเซียน เขาพูดกับลูเซียนและพูดกับตัวเองว่า “อนาคตของข้า คงจะเป็นอนาคตที่มืดมิดแน่นอน ในท้ายที่สุดข้าได้ทรยศต่อความเชื่อของอัศวิน และข้าคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะปลุกพรได้ด้วยตัวเอง ใครๆ ก็รู้ว่าพลังเวทมนตร์ของน้ำยานั้นมีจำกัด แต่ข้าจะทำต่อไปเพื่อเชลีย์”

“ดีสำหรับท่านแน่นอน ท่านฌากส์ ท่านช่างเป็นคนรักที่ดีจริงๆ” ลูเซียนยิ้ม “ตามที่ข้ารู้ความเชื่อของอัศวินไม่มีในกฎสากลและ ‘ความเชื่อ’ ต่อตัวเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ด้วยความเชื่อบางอย่างที่สามารถมุ่งเน้นไปที่ฌานสมาธิและจดจ่อกับการฝึกฝนอัศวินของเขาหรือเธอ หากศรัทธาของท่านคือปกป้องท่านเชลีย์และเพื่อปกป้องความรักของท่าน ดังนั้นสิ่งที่ท่านกำลังทำอยู่ก็คือการไม่ทำลายความเชื่อของท่าน”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฌากส์ก็รู้สึกประหลาดใจมาก “ความเข้าใจของเจ้า… แตกต่างจากที่อาจารย์บอกข้ามาก แต่ทฤษฎีของเจ้าก็สมเหตุสมผลสำหรับข้า”

ในความเป็นจริงลูเซียนได้ยินเรื่องนี้มาจากนาตาซา เขาพยายามที่จะทำให้คำตอบของเขาดูคลุมเครือ “อืม… ข้ารู้ว่าอัศวินหลวง… อาจจะมียาใหม่ๆ ออกมาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ที่ซึ่งจะช่วยให้อัศวินพัฒนาพลังของพวกเขาได้ดีขึ้น ใช่ไหม”

จากนั้นลูเซียนก็ลงนามชื่อในสัญญา

คำพูดของลูเซียนทำให้ฌากส์รู้สึกสบายใจ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของฌากส์ “ข้าได้ยินมาว่า ศาสนจักรเป็นเจ้าของยาชนิดหนึ่งซึ่งใช้ได้กับขุนนางชั้นสูงเท่านั้น ยานี้สามารถเปลี่ยนคนธรรมดาให้เป็นอัศวินระดับสองได้เลย และข้าก็ได้ยินมาว่าดยุคแกรนด์ ดยุคไวโอเล็ตก็ใช้ยานี้ เดี๋ยวก่อน… ชื่อของเจ้าคือ ลูเซียน อีวานส์ หรือ? ช่างน่าสนใจ นักดนตรีที่เชลีย์ชื่นชอบก็ชื่อ ลูเซียน อีวานส์”

“ข้าก็รู้จักผู้ชายคนนั้นเช่นกัน” ลูเซียนตอบอย่างสบายๆ “เห็นได้ชัดว่าถึงแม้เราจะใช้ชื่อเดียวกัน แต่เราก็ต่างกันมาก”

“แตกต่างกันมาก ข้าจะพูด… ตรงข้ามต่างหาก…” ฌากส์ยักไหล่ เขาไม่เคยพยายามเชื่อมโยงระหว่างนักดนตรีกับนักเวทที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา อย่างแรกชื่อ ลูเซียน อีวานส์ ก็ไม่ใช่ชื่อที่แปลกและข้อสองนักดนตรีชื่อดังก็ยังเป็นนักเวทด้วย มันเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการเกินไป

“ข้าเห็นด้วยกับท่าน” ลูเซียนกล่าวตามตรง เขาแอบหันไปรอบๆ เพื่อดูว่าทอมรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับชื่อของเขาหรือไม่

แต่ชัดเจนแล้วว่าทอมยังคงจ้องมองไปที่มือซ้ายของลูเซียนอย่างระมัดระวัง ขณะเฝ้ารอสัญญาณจากเขา

ลูเซียน รู้ว่าถ้ากราเนิร์ฟอยู่ที่นี่พร้อมกับเบาะแสทั้งหมดที่เขามีอยู่ เขาอาจเป็นคนเดียวที่สามารถบอกความจริงได้

“อีวานส์ ข้าลงชื่อได้ตรงไหน” ฌากส์ถาม

“ที่นี่” ลูเซียนชี้ไปที่มุมหนึ่งของสนธิสัญญา

หลังจากที่ฌากส์ลงนามในสนธิสัญญาแล้ว เขาก็ถือสนธิสัญญาไว้ในมือของเขา ลูเซียนก็คลุมกระดาษด้วยพลังวิญญาณของเขา

คลื่นเล็กๆ ของเวทมนตร์ปรากฏขึ้น จากนั้นคลื่นพลังก็กลายเป็นเปลวไฟสีฟ้าอ่อนและเผากระดาษเป็นเถ้าถ่าน

ทันทีที่สนธิสัญญาหายไปลูเซียนก็รู้สึกว่ามีอะไรเกิดขึ้นในจิตวิญญาณ ‘สัญญาเวทมนตร์มีผลบังคับใช้’ และฌากส์ก็ดูสับสนเป็นครั้งที่สอง

“ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฝ่าฝืนข้อตกลงนี้ ผู้ที่ฝ่าฝืนสัญญาจะต้องทนทุกข์ทรมานจากไฟที่เผาจิตใจของเขาและวิญญาณของเขาก็จะถูกทำลาย” ลูเซียนจับมือกับฌากส์ราวกับว่าพวกเขากำลังฉลองความสำเร็จบางอย่างอยู่ “ตอนนี้เราทุกคนพร้อมแล้ว และจะปล่อยให้ท่านอยู่คนเดียวเพื่อตรวจสอบวงแหวนศักดิ์สิทธิ์”

ฌากส์ขัดคำพูดของลูเซียน “อีวานส์ ข้าต้องบอกว่าเจ้าเป็นปีศาจตัวจริง และเป็นปีศาจที่ล่อลวงได้เก่งมาก เมื่อตอนที่ข้าฝึกเป็นอัศวิน ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะยอมแพ้ให้กับข้อเสนอของปีศาจ”

จากนั้นเขาก็เดินผ่านลูเซียนไปเพื่อตรวจสอบแผ่นไม้ที่อยู่ใกล้กับหน้าต่าง

ลูเซียนและทอมยืนอยู่ตรงนั้นคอยดูฌากส์เดินไปรอบๆ

“ถ้าฌากส์ตัดสินใจที่จะหาวิธีที่จะทำลายสัญญา เจ้าจะทำอย่างไร? เจ้ารู้ไหมว่ามีพลังอันศักดิ์สิทธิ์บางอย่างที่สามารถผนึกพลังเวทมนตร์ได้” ทอมกล่าว

ทอมรู้ว่าสัญญาเวทมนตร์นั้นไม่สามารถทำลายได้จริงตามที่กล่าวอ้าง ตัวอย่างเช่น ถ้าลูเซียนกลายเป็นนักเวทระดับสูง วิญญาณที่แข็งแกร่งของเขาก็จะสามารถจัดการกับความเสียหายจากเปลวไฟได้

“สัญญาเวทมนตร์เป็นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น” ลูเซียนตอบด้วยน้ำเสียงที่เบามาก “ทันทีที่เขาตัดสินใจลงนามสัญญากับข้า ข้าก็รู้ว่าเขาจะไม่ทำลายคำพูดของเขา เพราะหัวใจของเขาเลือกที่จะทำตามความปรารถนาเรียบร้อยแล้ว แน่นอนมันยังคงมีความเสี่ยง แต่ข้าก็ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า”

“น่าสนใจ” ทอมยิ้มและพยักหน้า “สภาจะให้ยาหลังจากที่เจ้าได้ป้องกันนักเวทฝึกหัดจำนวนมาก”

หลังจากนั้นไม่นานภายใต้ “การกำกับดูแล” ของลูเซียน ทอม และฌากส์ ก็ได้ตรวจสอบห้องโดยสารที่เหลือและไม่ได้สนใจนักเวทฝึกหัดจำนวนมากที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องโดยสารบางส่วน

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ฌากส์ออกจากชั้นนี้ไป มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ในที่สุดลูเซียนก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

ห้องของไวเคานต์

เครื่องเคลือบดินเผาที่ผลิตในโคเล็ทก็ถูกโยนลงบนพรมอย่างรุนแรง ทันใดนั้นมันก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ

“ไอ้โง่! ไอ้โง่ไร้ประโยชน์! หินถูกปล้นและคนของเราเกือบจะถูก!” ไวเคานต์ไรต์ตะโกนด้วยความโกรธ

ที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาคือ กราเนิร์ฟและทอมที่กำลังก้มศีรษะลงต่ำ

ไวเคานต์เดินกลับไปกลับมาในห้องของเขา “บอกข้าว่าพวกเมอร์ล็อกสกปรกเหล่านี้รู้ได้อย่างไรว่า ‘หินคลื่น’ อยู่บนเรือของเรา! พวกเขารู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังส่ง ‘หินคลื่น’ กราเนิร์ฟ ทอม มันเป็นความรับผิดชอบของเจ้าทั้งสองคนที่จะต้องตอบให้ได้!”

แม้ว่าไวเคานต์จะเป็นเจ้าของหนึ่งในสิบของทรัพย์สินทั้งหมดในเมืองสเติร์ก แต่มันก็ยังเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่

“ขอรับ ใต้เท้า” ทั้ง กราเนิร์ฟ และทอมต่างก็ไม่กล้ายกศีรษะขึ้น

จากนั้นใบหน้าของไวเคานต์ก็เย็นชาและมืดมนมากขึ้น “หาโอกาสและฆ่าอัศวินที่ชื่อ ฌากส์ ปล่อยให้คนอื่นทำตามข้อตกลง มีแค่นักเวทและทอมเท่านั้นที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำ”

“ขอรับ” กราเนิร์ฟคำนับและพยักหน้า

“รอก่อน… ลืมมันเสียเถอะ” ไวเคานต์กลับไปที่โซฟา เขาดูค่อนข้างเหนื่อยล้า “ข้าไม่ต้องการทำร้ายเชลีย์ เจ้าทั้งคู่ทำงานแรกให้เสร็จก่อน”

อีกหนึ่งเดือนต่อมาแม้ว่าอากาศจะหนาวเย็นลง แต่เรือก็ไม่เคยประสบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่อีกเลยหลังจากการโจมตีของนักเวทเมอร์ล็อก

ในที่สุดเรือก็ข้ามช่องแคบมรสุมมาถึงที่ท่าเรือที่ชื่อแพทเรย์ในโฮล์ม

ที่ชั้นล่างของเรือ ลูเซียน ทอม และนักเวทฝึกหัดรู้สึกตื่นเต้นมาก แม้แต่ลูเซียนในฐานะผู้มีประสบการณ์ก็ยังไม่สามารถระงับความสุขและความตื่นเต้นในหัวใจของเขาได้

ลูเซียนมองว่าวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแห่งเวทมนตร์ที่แท้จริงของเขา

เมื่อนึกถึงข้อความที่เขาพบในกระเป๋าของนักเวทเมอร์ล็อก ลูเซียนไม่ได้คิดมากนัก เขาไม่อนุญาตให้ตัวเองโลภเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนที่เขาไม่มีข้อมูลเพียงพอ

“อีวานส์ เจ้าและนักเวทฝึกหัดไปซ่อนตัวอยู่ในลังไม้  ต้องอยู่เงียบๆ ระหว่างที่พวกเขากำลังตรวจสอบ เพียงแค่ซ่อนตัวอยู่ในนั้นและอย่าตกใจ” ทอมพูดขณะที่เขาชี้ไปที่ลังไม้ยาว

ลูเซียนพยักหน้าและเดินเข้าไปในลังเป็นคนแรก เมื่อเขาล้มตัวลงนอนไม้กระดานก็ปิดคลุมเขา

ทอมกับลูกเรือของเขาวางสินค้าบนกระดานและตอกปิดผนึกลังด้วยตะปูเหล็ก

ลูเซียนรู้สึกว่าเขาถูกฝังอยู่ในโลงศพ

หลังจากอยู่ในความมืดเป็นเวลานาน ลูเซียนก็สงสัยว่าเขาถูกลืมหรือไม่ จากนั้นเขาก็ได้ยินว่ามีคนง่วนอยู่กับลังเพื่อตรวจสอบสินค้าข้างใน

ลูเซียนยังคงสงบนิ่งตามคำสั่งของทอมแม้ว่าเข้าจะตื่นตัวมากก็ตาม

“ไม่มีปัญหา”

นั่นเป็นเสียงของฌากส์

ลังถูกปิดผนึกอีกครั้ง และลูเซียนรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนระลอกใหญ่ หลังจากนั้นครู่หนึ่งลังของลูเซียนก็ถูกวางไว้บนพื้นที่เปียกและเย็น

อีกไม่นานลังก็จะเปิดออกอีกครั้ง สินค้าข้างบนถูกนำออกและฝากระดานที่ปิดอยู่ก็ถูกนำออกด้วยเช่นกัน

แสงอาทิตย์ส่องกระทบเข้ามาจนทำให้ลูเซียนต้องหยีตาลง

ชายหนุ่มคนหนึ่งในเสื้อเชิ้ตสีขาวสวมทับด้วยเสื้อกั๊กสีน้ำตาลเข้มและแจ็คเก็ตยาวสีดำยืนอยู่ด้านหน้าลังไม้ ใบหน้าของชายหนุ่มคนนี้มีรอยยิ้มขนาดใหญ่ภายใต้หมวกทรงสูงของเขา

“ยินดีต้อนรับสู่โฮล์ม สหายของข้า”

ลูเซียนก็ยิ้มเช่นเดียวกันเขารู้ว่าชีวิตใหม่ของเขาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 181 การเริ่มต้นใหม่

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 181 การเริ่มต้นใหม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หัวใจของฌากส์เต้นเร็วมาก เขาได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง

สิบวินาทีต่อมา ไหล่ของฌากส์ก็ห่อเหี่ยวราวกับลูกโป่งถูกปล่อยลม

“ทำไม… เจ้าต้องการให้ข้าทำแบบนี้” ฌากส์พูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าว

ความรู้สึกของเขาถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งคือความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ต่อความรักและอีกส่วนหนึ่งก็รู้สึกผิดอย่างร้ายกาจ

“มันง่ายมาก ท่านแค่ต้องลงนามสัญญาเวทมนตร์กับข้า” ลูเซียนยังคงยิ้มอยู่บนใบหน้า “ข้อแรกท่านต้องสัญญาว่าท่านจะไม่บอกใครว่าเราเป็นใคร ข้อสองท่านจะไม่บอกใครว่าบนเรือมีบางอย่างที่ผิดปกติ ข้อสามเมื่อท่านกลับไปที่ เมืองสเติร์ก ท่านจะต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับด้วย”

ขณะที่ฌากส์กำลังฟังลูเซียนพูดแต่สายตากลับมองลงไปที่พื้น

“ในทางกลับกัน ข้าสัญญาว่าจะให้ท่านดื่มยาวิเศษที่สามารถปลุกพรของท่านได้ หรือที่นักเวทอย่างพวกเราเรียกว่า ‘พลังโลหิต’ ถ้าในอีกสามปีต่อจากนี้ความพยายามของท่านล้มเหลว แม้ว่าในสามปีนี้ท่านจะไม่ได้พบข้าในโฮล์ม แต่สภาแห่งเวทมนตร์จะรักษาคำพูดเสมอ ทอมสามารถเป็นตัวแทนของสภาได้”

เพื่อที่จะทำให้ฌากส์รู้สึกดีขึ้น ลูเซียนก็พูดเสริมว่า “นอกจากนี้ตราบใดที่ชีวิตของเราไม่ได้ถูกคุกคาม เราก็จะไม่ทำร้ายท่านและเพื่อนของท่านบนเรือลำนี้”

“ข้าได้ยินแล้วและข้าจะทำตามที่เจ้าพูด” ฌากส์เงยหน้าขึ้นและจ้องมองเข้าไปในดวงตาของลูเซียน “เจ้ารู้จักความอ่อนแอของข้า”

เมื่อเขาพูดจบ เขาก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

“ยินดีกับการเลือกที่ถูกต้องของท่าน ข้าเห็นอนาคตที่สดใสของท่านแล้ว” ลูเซียนกล่าว จากนั้นเขาก็หยิบม้วนกระดาษปากกาขนนก และหมึกขวดเล็กออกมาจากกระเป๋าของเขา และเริ่มเขียนสัญญาอย่างรวดเร็ว พร้อมวาดลวดลายลึกลับลงบนกระดาษ

สายตาของลูเซียนไม่ได้มองไปที่กระดาษ แต่กลับจ้องมองไปที่ฌากส์ ส่วนมือซ้ายของเขาก็กำหมัดไว้ในกรณีที่ฌากส์จะเปลี่ยนความคิด

ฌากส์ไม่ได้รังเกียจความรอบคอบของลูเซียน เขาพูดกับลูเซียนและพูดกับตัวเองว่า “อนาคตของข้า คงจะเป็นอนาคตที่มืดมิดแน่นอน ในท้ายที่สุดข้าได้ทรยศต่อความเชื่อของอัศวิน และข้าคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะปลุกพรได้ด้วยตัวเอง ใครๆ ก็รู้ว่าพลังเวทมนตร์ของน้ำยานั้นมีจำกัด แต่ข้าจะทำต่อไปเพื่อเชลีย์”

“ดีสำหรับท่านแน่นอน ท่านฌากส์ ท่านช่างเป็นคนรักที่ดีจริงๆ” ลูเซียนยิ้ม “ตามที่ข้ารู้ความเชื่อของอัศวินไม่มีในกฎสากลและ ‘ความเชื่อ’ ต่อตัวเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ด้วยความเชื่อบางอย่างที่สามารถมุ่งเน้นไปที่ฌานสมาธิและจดจ่อกับการฝึกฝนอัศวินของเขาหรือเธอ หากศรัทธาของท่านคือปกป้องท่านเชลีย์และเพื่อปกป้องความรักของท่าน ดังนั้นสิ่งที่ท่านกำลังทำอยู่ก็คือการไม่ทำลายความเชื่อของท่าน”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฌากส์ก็รู้สึกประหลาดใจมาก “ความเข้าใจของเจ้า… แตกต่างจากที่อาจารย์บอกข้ามาก แต่ทฤษฎีของเจ้าก็สมเหตุสมผลสำหรับข้า”

ในความเป็นจริงลูเซียนได้ยินเรื่องนี้มาจากนาตาซา เขาพยายามที่จะทำให้คำตอบของเขาดูคลุมเครือ “อืม… ข้ารู้ว่าอัศวินหลวง… อาจจะมียาใหม่ๆ ออกมาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ที่ซึ่งจะช่วยให้อัศวินพัฒนาพลังของพวกเขาได้ดีขึ้น ใช่ไหม”

จากนั้นลูเซียนก็ลงนามชื่อในสัญญา

คำพูดของลูเซียนทำให้ฌากส์รู้สึกสบายใจ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของฌากส์ “ข้าได้ยินมาว่า ศาสนจักรเป็นเจ้าของยาชนิดหนึ่งซึ่งใช้ได้กับขุนนางชั้นสูงเท่านั้น ยานี้สามารถเปลี่ยนคนธรรมดาให้เป็นอัศวินระดับสองได้เลย และข้าก็ได้ยินมาว่าดยุคแกรนด์ ดยุคไวโอเล็ตก็ใช้ยานี้ เดี๋ยวก่อน… ชื่อของเจ้าคือ ลูเซียน อีวานส์ หรือ? ช่างน่าสนใจ นักดนตรีที่เชลีย์ชื่นชอบก็ชื่อ ลูเซียน อีวานส์”

“ข้าก็รู้จักผู้ชายคนนั้นเช่นกัน” ลูเซียนตอบอย่างสบายๆ “เห็นได้ชัดว่าถึงแม้เราจะใช้ชื่อเดียวกัน แต่เราก็ต่างกันมาก”

“แตกต่างกันมาก ข้าจะพูด… ตรงข้ามต่างหาก…” ฌากส์ยักไหล่ เขาไม่เคยพยายามเชื่อมโยงระหว่างนักดนตรีกับนักเวทที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา อย่างแรกชื่อ ลูเซียน อีวานส์ ก็ไม่ใช่ชื่อที่แปลกและข้อสองนักดนตรีชื่อดังก็ยังเป็นนักเวทด้วย มันเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการเกินไป

“ข้าเห็นด้วยกับท่าน” ลูเซียนกล่าวตามตรง เขาแอบหันไปรอบๆ เพื่อดูว่าทอมรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับชื่อของเขาหรือไม่

แต่ชัดเจนแล้วว่าทอมยังคงจ้องมองไปที่มือซ้ายของลูเซียนอย่างระมัดระวัง ขณะเฝ้ารอสัญญาณจากเขา

ลูเซียน รู้ว่าถ้ากราเนิร์ฟอยู่ที่นี่พร้อมกับเบาะแสทั้งหมดที่เขามีอยู่ เขาอาจเป็นคนเดียวที่สามารถบอกความจริงได้

“อีวานส์ ข้าลงชื่อได้ตรงไหน” ฌากส์ถาม

“ที่นี่” ลูเซียนชี้ไปที่มุมหนึ่งของสนธิสัญญา

หลังจากที่ฌากส์ลงนามในสนธิสัญญาแล้ว เขาก็ถือสนธิสัญญาไว้ในมือของเขา ลูเซียนก็คลุมกระดาษด้วยพลังวิญญาณของเขา

คลื่นเล็กๆ ของเวทมนตร์ปรากฏขึ้น จากนั้นคลื่นพลังก็กลายเป็นเปลวไฟสีฟ้าอ่อนและเผากระดาษเป็นเถ้าถ่าน

ทันทีที่สนธิสัญญาหายไปลูเซียนก็รู้สึกว่ามีอะไรเกิดขึ้นในจิตวิญญาณ ‘สัญญาเวทมนตร์มีผลบังคับใช้’ และฌากส์ก็ดูสับสนเป็นครั้งที่สอง

“ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฝ่าฝืนข้อตกลงนี้ ผู้ที่ฝ่าฝืนสัญญาจะต้องทนทุกข์ทรมานจากไฟที่เผาจิตใจของเขาและวิญญาณของเขาก็จะถูกทำลาย” ลูเซียนจับมือกับฌากส์ราวกับว่าพวกเขากำลังฉลองความสำเร็จบางอย่างอยู่ “ตอนนี้เราทุกคนพร้อมแล้ว และจะปล่อยให้ท่านอยู่คนเดียวเพื่อตรวจสอบวงแหวนศักดิ์สิทธิ์”

ฌากส์ขัดคำพูดของลูเซียน “อีวานส์ ข้าต้องบอกว่าเจ้าเป็นปีศาจตัวจริง และเป็นปีศาจที่ล่อลวงได้เก่งมาก เมื่อตอนที่ข้าฝึกเป็นอัศวิน ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะยอมแพ้ให้กับข้อเสนอของปีศาจ”

จากนั้นเขาก็เดินผ่านลูเซียนไปเพื่อตรวจสอบแผ่นไม้ที่อยู่ใกล้กับหน้าต่าง

ลูเซียนและทอมยืนอยู่ตรงนั้นคอยดูฌากส์เดินไปรอบๆ

“ถ้าฌากส์ตัดสินใจที่จะหาวิธีที่จะทำลายสัญญา เจ้าจะทำอย่างไร? เจ้ารู้ไหมว่ามีพลังอันศักดิ์สิทธิ์บางอย่างที่สามารถผนึกพลังเวทมนตร์ได้” ทอมกล่าว

ทอมรู้ว่าสัญญาเวทมนตร์นั้นไม่สามารถทำลายได้จริงตามที่กล่าวอ้าง ตัวอย่างเช่น ถ้าลูเซียนกลายเป็นนักเวทระดับสูง วิญญาณที่แข็งแกร่งของเขาก็จะสามารถจัดการกับความเสียหายจากเปลวไฟได้

“สัญญาเวทมนตร์เป็นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น” ลูเซียนตอบด้วยน้ำเสียงที่เบามาก “ทันทีที่เขาตัดสินใจลงนามสัญญากับข้า ข้าก็รู้ว่าเขาจะไม่ทำลายคำพูดของเขา เพราะหัวใจของเขาเลือกที่จะทำตามความปรารถนาเรียบร้อยแล้ว แน่นอนมันยังคงมีความเสี่ยง แต่ข้าก็ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า”

“น่าสนใจ” ทอมยิ้มและพยักหน้า “สภาจะให้ยาหลังจากที่เจ้าได้ป้องกันนักเวทฝึกหัดจำนวนมาก”

หลังจากนั้นไม่นานภายใต้ “การกำกับดูแล” ของลูเซียน ทอม และฌากส์ ก็ได้ตรวจสอบห้องโดยสารที่เหลือและไม่ได้สนใจนักเวทฝึกหัดจำนวนมากที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องโดยสารบางส่วน

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ฌากส์ออกจากชั้นนี้ไป มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ในที่สุดลูเซียนก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

ห้องของไวเคานต์

เครื่องเคลือบดินเผาที่ผลิตในโคเล็ทก็ถูกโยนลงบนพรมอย่างรุนแรง ทันใดนั้นมันก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ

“ไอ้โง่! ไอ้โง่ไร้ประโยชน์! หินถูกปล้นและคนของเราเกือบจะถูก!” ไวเคานต์ไรต์ตะโกนด้วยความโกรธ

ที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาคือ กราเนิร์ฟและทอมที่กำลังก้มศีรษะลงต่ำ

ไวเคานต์เดินกลับไปกลับมาในห้องของเขา “บอกข้าว่าพวกเมอร์ล็อกสกปรกเหล่านี้รู้ได้อย่างไรว่า ‘หินคลื่น’ อยู่บนเรือของเรา! พวกเขารู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังส่ง ‘หินคลื่น’ กราเนิร์ฟ ทอม มันเป็นความรับผิดชอบของเจ้าทั้งสองคนที่จะต้องตอบให้ได้!”

แม้ว่าไวเคานต์จะเป็นเจ้าของหนึ่งในสิบของทรัพย์สินทั้งหมดในเมืองสเติร์ก แต่มันก็ยังเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่

“ขอรับ ใต้เท้า” ทั้ง กราเนิร์ฟ และทอมต่างก็ไม่กล้ายกศีรษะขึ้น

จากนั้นใบหน้าของไวเคานต์ก็เย็นชาและมืดมนมากขึ้น “หาโอกาสและฆ่าอัศวินที่ชื่อ ฌากส์ ปล่อยให้คนอื่นทำตามข้อตกลง มีแค่นักเวทและทอมเท่านั้นที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำ”

“ขอรับ” กราเนิร์ฟคำนับและพยักหน้า

“รอก่อน… ลืมมันเสียเถอะ” ไวเคานต์กลับไปที่โซฟา เขาดูค่อนข้างเหนื่อยล้า “ข้าไม่ต้องการทำร้ายเชลีย์ เจ้าทั้งคู่ทำงานแรกให้เสร็จก่อน”

อีกหนึ่งเดือนต่อมาแม้ว่าอากาศจะหนาวเย็นลง แต่เรือก็ไม่เคยประสบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่อีกเลยหลังจากการโจมตีของนักเวทเมอร์ล็อก

ในที่สุดเรือก็ข้ามช่องแคบมรสุมมาถึงที่ท่าเรือที่ชื่อแพทเรย์ในโฮล์ม

ที่ชั้นล่างของเรือ ลูเซียน ทอม และนักเวทฝึกหัดรู้สึกตื่นเต้นมาก แม้แต่ลูเซียนในฐานะผู้มีประสบการณ์ก็ยังไม่สามารถระงับความสุขและความตื่นเต้นในหัวใจของเขาได้

ลูเซียนมองว่าวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแห่งเวทมนตร์ที่แท้จริงของเขา

เมื่อนึกถึงข้อความที่เขาพบในกระเป๋าของนักเวทเมอร์ล็อก ลูเซียนไม่ได้คิดมากนัก เขาไม่อนุญาตให้ตัวเองโลภเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนที่เขาไม่มีข้อมูลเพียงพอ

“อีวานส์ เจ้าและนักเวทฝึกหัดไปซ่อนตัวอยู่ในลังไม้  ต้องอยู่เงียบๆ ระหว่างที่พวกเขากำลังตรวจสอบ เพียงแค่ซ่อนตัวอยู่ในนั้นและอย่าตกใจ” ทอมพูดขณะที่เขาชี้ไปที่ลังไม้ยาว

ลูเซียนพยักหน้าและเดินเข้าไปในลังเป็นคนแรก เมื่อเขาล้มตัวลงนอนไม้กระดานก็ปิดคลุมเขา

ทอมกับลูกเรือของเขาวางสินค้าบนกระดานและตอกปิดผนึกลังด้วยตะปูเหล็ก

ลูเซียนรู้สึกว่าเขาถูกฝังอยู่ในโลงศพ

หลังจากอยู่ในความมืดเป็นเวลานาน ลูเซียนก็สงสัยว่าเขาถูกลืมหรือไม่ จากนั้นเขาก็ได้ยินว่ามีคนง่วนอยู่กับลังเพื่อตรวจสอบสินค้าข้างใน

ลูเซียนยังคงสงบนิ่งตามคำสั่งของทอมแม้ว่าเข้าจะตื่นตัวมากก็ตาม

“ไม่มีปัญหา”

นั่นเป็นเสียงของฌากส์

ลังถูกปิดผนึกอีกครั้ง และลูเซียนรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนระลอกใหญ่ หลังจากนั้นครู่หนึ่งลังของลูเซียนก็ถูกวางไว้บนพื้นที่เปียกและเย็น

อีกไม่นานลังก็จะเปิดออกอีกครั้ง สินค้าข้างบนถูกนำออกและฝากระดานที่ปิดอยู่ก็ถูกนำออกด้วยเช่นกัน

แสงอาทิตย์ส่องกระทบเข้ามาจนทำให้ลูเซียนต้องหยีตาลง

ชายหนุ่มคนหนึ่งในเสื้อเชิ้ตสีขาวสวมทับด้วยเสื้อกั๊กสีน้ำตาลเข้มและแจ็คเก็ตยาวสีดำยืนอยู่ด้านหน้าลังไม้ ใบหน้าของชายหนุ่มคนนี้มีรอยยิ้มขนาดใหญ่ภายใต้หมวกทรงสูงของเขา

“ยินดีต้อนรับสู่โฮล์ม สหายของข้า”

ลูเซียนก็ยิ้มเช่นเดียวกันเขารู้ว่าชีวิตใหม่ของเขาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+