Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 237 สองฝั่งของดินแดน

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 237 สองฝั่งของดินแดน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดอกไม้สีสันสดใสเต้นพริ้วไหวอยู่กลางสายลม นั่นยิ่งทำให้อาคารสีขาวอมชมพูฝั่งนี้ดูมีชีวิตชีวา ภายในคฤหาสน์หลังนี้ เต็มไปด้วยแท่นทดลองที่มีรูปแบบอันซับซ้อนสลักไว้บนแท่นภายในห้องทดลองอันใหญ่โตซึ่งถูกลงกลอนอยู่ อุปกรณ์ทั้งขวดแก้ว ตะเกียงเผาปฏิกิริยา และหลอดที่เชื่อมต่อกันวางอยู่บนแท่นทดลองเหล่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับอุปกรณ์ห้องทดลองธรรมดาๆ ที่ลูเซียนเคยเห็นในโลกใบเดิม อุปกรณ์บนแท่นทดลองเหล่านี้ดูพิสดารมาก เนื่องจากตัวอักษรเวทมนตร์โบราณบนอุปกรณ์แต่ละชิ้นที่ยากจะเข้าใจ

เขาเปลี่ยนชุดมาใส่เสื้อคลุมทดลองทรงยาวจากที่สวมเสื้อนอกสีดำ เพื่อให้เขาสามารถขยับตัวได้อย่างอิสระภายในห้องภายในห้อง ลูเซียนเพ่งฌานสมาธิไปที่วงเวทต่างๆ ที่สามารถจำลองรูปแบบอาคมส่วนต่างๆ ได้ มวลเงาสีแดงทรงกลมมวลหนึ่งปรากฏขึ้นในความมืด และค่อยๆ เสถียรหลังจากรวมตัวกับรูปแบบเวท  แม้ว่าจะเป็นเงาที่ดูเลือนลาง เขาก็สามารถเห็นว่ามีสิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายหนูที่ส่วนต่างๆ ของตัวมีสีต่างกัน เนื่องจากความต่างของอุณหภูมิ

ลูเซียนคลายพลังวงเวทด้วยท่าทีพึงพอใจปรากฏบนใบหน้า แล้วเขาก็ผิวปากและเปิดโคมไฟทรงโค้งในห้องทดลอง บ้านหลังเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือที่สร้างด้วยอิฐและแผ่นไม้ก็ปรากฏขึ้นบนแท่นทดลอง ขณะที่ทั้งห้องสว่างไสว ภายในบ้านหลังนั้น มีหนูกินเหล็กตัวหนึ่งที่ถูกดัดแปลงสายพันธุ์ ซึ่งถูกจับได้เร็วๆ นี้

‘ในที่สุด “เนตรอินฟาเรดลูเซียน” ก็สำเร็จ แต่ดูเหมือนประสิทธิภาพจะอ่อนกว่าที่ฉันคิดไว้  น่าเสียดายจัง เป็นแค่เวทมนตร์ระดับสองเอง แต่ฉันก็ใช้มันตรวจสอบบรรยากาศโดยรอบได้’ ลูเซียนคุ้นเคยกับหลักการของเทคโนโลยีการถ่ายภาพความร้อนด้วยอินฟราเรด แต่เขายังมีปัญหาในการประยุกต์ใช้หลักการนี้กับรูปแบบ อักษรโบราณ และการร่ายคาถาของโครงสร้างเวทมนตร์ เขาใช้เวลาหลายเดือนในการศึกษาความรู้พื้นฐานใน ‘สภาเวทมนตร์’ จนตอนนี้เขาสามารถสร้างเวทมนตร์ขึ้นเองจริงๆ อย่างเป็นทางการ เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาสร้างได้เพียงเวทมนตร์ระดับฝึกหัดเท่านั้น

ลูเซียนปิดโคมไฟทรงโค้ง ก่อนจะบันทึกรูปแบบเวทมนตร์ที่เขาสร้างขึ้นในสมอง

เสียงร่ายเวทมนตร์ที่ซับซ้อนและต้องอาศัยการห่อลิ้นดังสะท้อนอยู่ในความมืดอย่างช้าๆ ขณะที่ผงที่เป็นประกายของหินสุริยันร่วงจากมือลูเซียน พลังวิญญาณของเขาสั่นไหวและปรับเปลี่ยนขณะที่เขาร่ายคาถา สร้างแกนกลางของรูปแบบอาคมภายใต้การควบคุมของลูเซียนอย่างรวดเร็ว

ลูกตาข้างซ้ายของลูเซียนเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีแดง สะท้อนภาพหนูกินเหล็กภายในกรงขัง แต่ยังไม่สามารถเห็นการเรียงซ้อนของภาพชั้นต่างๆ

ลูเซียนหันหน้าไปทางหน้าต่างซึ่งมีผ้าม่านสีดำปิดอยู่ เขามองออกไปข้างนอกด้วยตาซ้ายสีแดง ได้เห็นนก ‘สีแดง’ บินผ่าน

ลูเซียนเปิดไฟในห้องทดลองอีกครั้ง หลังจากแน่ใจว่าเวทมนตร์ระบดับสองบทนี้ใช้งานได้ดี สีแดงค่อยๆ ตาซ้ายของเขา และเขาก็สามารถสร้างรูปแบบเวทในวิญญาณ เมื่อเข้าสู่ฌานสมาธิในคืนนี้

อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของวิญญาณนักเวทมีจำกัด นักเวทจึงสามารถสร้างรูปแบบเวทมนตร์ในแต่ละระดับชั้นได้อย่างจำกัด พวกเขาต้องเลือกใช้เวทมนตร์อย่างสมเหตุสมผล ตัวอย่างเช่น เวทมนตร์สนับสนุนไม่จำเป็นต้องสร้างรูปแบบไว้ในวิญญาณ แต่ลูกศิษย์สามารถร่ายคาถาด้วยคำพูด ด้วยท่าทาง หรือด้วยอุปกรณ์เวทมนตร์ เมื่อคราวจำเป็น

สภาเวทมนตร์มีตำรับตำรามากมาย เช่น ‘กลวิธีการจับคู่เวทมนตร์’ ซึ่งอธิบายถึงความรู้เกี่ยวกับสาขาเฉพาะศาสตร์ด้านนี้

 แม้ว่าเวทมนตร์ ‘เนตรอินฟาเรดลูเซียน’ เป็นเวทมนตร์สนับสนุน แต่มีความเป็นไปได้มากว่าลูเซียนจะต้องร่ายเวทมนตร์นี้ หากถูกมือสังหารซุ่มโจมตี ที่สำคัญ เขาจะต้องร่ายคาถาให้เร็วขึ้นในสถานการณ์นั้น เพื่อที่เขาจะได้สามารถแกะรอยมือสังหารได้ง่ายขึ้น

ลูเซียนนั่งพักครู่ใหญ่และเปิดสมุดบันทึกเวทมนตร์ของเขา หยุดอยู่ที่รูปโครงสร้างเวทมนตร์ที่ดูซับซ้อนยุ่งเหยิง หลับตาลงและเริ่มเข้าฌานสมาธิ

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งเทวลิขิตถูกล้อมรอบไปด้วยธาตุลม ไฟ และน้ำ ธาตุต่างๆ เหล่านี้เป็นธาตุซึ่งประกอบอยู่ในสภาพแวดล้อมฌานสมาธิของลูเซียน

ในสภาพแวดล้อมฌานสมาธิ ธาตุสีสันต่างๆ เคลื่อนไหวตามเส้นทางเฉพาะหลากหลายรูปแบบ ดูประหนึ่ง หิ่งห้อยเรืองแสงบิวฉวัดเฉวียนอยู่ในท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ไร้ขอบเขต บางครั้ง สายธาตุก็รวมเข้ากันแล้วก็แยกจากกัน เป็นภาพบรรยากาศที่ดูลึกลับและอยากจะเข้าใจ และแสดงถึงความลับและกฎเกณฑ์ของธาตุเหล่านั้น

ลูเซียนหยิบปากกาขนนกขึ้นมาและเริ่มวาดเส้นทางที่เขาสัมผัสได้ระหว่างกระบวนการ หลังออกจากฌานสมาธิ เส้นทางทาสเหล่านั้นกลายเป็นรูปแบบเวทมนตร์และอักษรโบราณอย่างรวดเร็ว

ลูเซียนหยุดวาดเส้นทางเมื่อรูปแบบเวทมนตร์เกือบสมบูรณ์ รูปแบบนี้ถูกสร้างด้วยเส้นตรง เส้นโค้ง และพื้นผิวโค้ง แต่เขาก็ยังสับสน เขาติดอยู่ในปัญหาซึ่งรบกวนใจเขามาตลอด ตั้งแต่เริ่มศึกษาเวทมนตร์

‘ทำไมรูปแบบเวทมนตร์และตัวอักษรโบราณพวกนี้ถึงเป็นสัญลักษณ์แทนโครงสร้างเวทมนตร์? ทำไมฉันสามารถร่ายเวทมนตร์ หลังจากรูปแบบเวทมนตร์รวมเป็นหนึ่งเดียวกับพลังวิญญาณ? ทำไมรูปแบบเวทมนตร์ถึงปรากฏขึ้น หลังจากที่ฉันทำตารางธาตุเสร็จ และสภาพแวดล้อมฌานสมาธิสะท้อนกลับโลกแห่งความเป็นจริง? เค ลาซาร์ และร็อคต่างก็ยอมรับในกฎเกณฑ์ของตารางธาตุและบรรจุธาตุต่างๆ เข้าในสภาพแวดล้อมฌานสมาธิ แต่ไม่มีของใครที่สะท้อนถึงโลกความเป็นจริงเลยสักคน หลังจากที่ฉันสอบถามกับพวกเขา…’

‘อะไรคือกฎเกณฑ์ธรรมชาติของเวทมนตร์?’

ลูเซียนวางปากกาขนนกลงหลังจากจดคำถามและบันทึกคำถามเหล่านั้นลงในสมุดบันทึกเวทมนตร์ของห้องสมุดห้วงจิต เขาเริ่มวางแผนถึงเวทมนตร์ระดับสามที่กำลังจะลงมือสร้าง

‘เวทมนตร์บทนี้จะอาศัยหลักเกณฑ์ของธาตุพื้นฐาน โดยจะเกี่ยวข้องกับการควบคุมและการเปลี่ยนแปลงอิเล็กตรอน และการส่งอีเล็กตรอนกลับสู่ตำแหน่งตั้งต้น สามารถใช้ในการแยกองค์ประกอบทางเคมี เช่น ผลผลิตแร่แปรธาตุ อุปกรณ์เวทมนตร์ ชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ และเวทมนตร์บางบท ยิ่งสถานะองค์ประกอบพื้นฐานสั่นคลอนมากเท่าไร ก็จะสามารถแยกธาตุได้ง่ายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการควบคุมอิเล็กตรอนจะเพิ่มขึ้นเมื่อเมื่อนักเวทพัฒนาระดับขึ้น เวทมนตร์คล้ายๆ กับเวทมนตร์ฉบับอนุบาลของ ‘เวทแยกธาตุ’ ซึ่งเป็นอาคมชั้นตำนานจากแฮททาเวย์ ‘ เจ้าแห่งธาตุ’

ลูเซียนได้อ่านข้อมูลสำคัญหลายอย่าง หลังจากเข้าร่วมองค์กร ‘เจตจํานงแห่งธาตุ’ และรวมถึงข้อมูลที่นำเสนอความสามารถ สถานะ และวัสดุที่ต้องใช้ในพิธีกรรมขั้นสูงของระดับชั้นตำนานสองระดับของจอมเวท ซึ่งก็คือ ‘เจ้าแห่งธาตุ’ และ ‘ผู้บุกเบิก’ นอกจากนี้ ก็มีการอธิบายถึงความสามารถของเวทมนตร์ระดับชั้นตำนานที่มาพร้อมกับระดับของจอมเวท

‘ดูเหมือนฉันจะสามารถสร้างเวทมนตร์ระดับสามสำเร็จก่อนขึ้นเป็นนักเวทชั้นกลางเสียอีก ถ้าฉันพัฒนาถึงขั้นต่อไปสำเร็จ รูปแบบเวทมนตร์ทั้งสองที่ฉันจะสร้างก็มีเวทมนตร์บทนี้กับเวทลอยตัว แล้วฉันจะตั้งชื่อว่าอะไรดี? ‘แยกธาตุลูเซียน?’ ‘ควบคุมธาตุลูเซียน?’ ฟังดูไม่ได้เรื่อง ไม่ก็ซ้ำๆ’ ลูเซียนคิดอยู่พักใหญ่และนึกถึงชื่อเจ๋งๆ ที่ฟลอเรนเซียตั้งให้เขา ‘เอาล่ะ ฉันจะเรียกมันว่า “ลำดับธาตุ!”’

เวทมนตร์ระดับสามที่มีชื่อคล้ายๆ กับเวทมนตร์ระดับเก้าและชั้นตำนาน ลูเซียนรู้สึกยินดีในความรู้สึกผิดนี้ เหมือนเป็นอาคมแบบฉบับของเขา เหมือนกับเวทหัตถ์กวัดแกว่งศาสตราจารย์

ลูเซียนสงบสติอารมณ์ลงหลังจากความตื่นเต้น และเมื่อเขากำลังจะเริ่มการทดลองเวทมนตร์ต่อ เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขาใช้วัสดุเวทมนตร์ไปเกือบหมดแล้ว ทำเอาเขาผิดหวังไม่น้อย

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ลูเซียนซื้อน้ำยา ‘กลีเซอรีนขาว’ ‘ไข่มุกเงิน’ และ ‘โอ๊ค’ เพื่อช่วยให้เขาพัฒนาการฌานสมาธิกับสายฝนธาตุได้ง่ายขึ้น  น้ำยาเวทมนตร์ทั้งสามชนิดจะแสดงผลดีเยี่ยมกับนักเวทชั้นต้น ขณะที่ น้ำยา ‘กลีเซอรีนขาว’ และ ‘ไข่มุกเงิน’ จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณและวิญญาณ ส่วนน้ำยา ‘โอ๊ค’ และ ‘น้ำอมฤตฟลอเรนเซีย’ จะช่วยในการปรับพื้นฐานให้มั่นคงขึ้น ทักษะเวทมนตร์ของลูเซียนพัฒนาเพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าเหลือเชื่อด้วยความช่วยเหลือจากอุปกรณ์เหล่านี้

อย่างไรก็ตาม น้ำยาเวทมนตร์ที่มีประสิทธิภาพขนาดนี้ก็มีราคาแพง น้ำยากลีเซอรีนขาวราคาสิบคะแนนอาร์คานาต่อขวด น้ำยาไข่มุกเงินราคายี่สิบคะแนนอาร์คานาต่อขวด และน้ำยาโอ๊คราคาแปดคะแนนอาร์คานาต่อขวด เขาต้องซื้อน้ำยาทั้งสามชนิดๆ ละสามขวดทุกเดือน

ลูเซียนจะได้รับคะแนนอาร์คานาสี่สิบห้าคะแนนจาก ‘สภาเวทมนตร์’ ทุกเดือน หลังจากขึ้นเป็นจอมเวทระดับสี่และนักเวทระดับสอง แต่เขาก็ต้องใช้คะแนนอาร์คานาส่วนที่เขาสะสมไว้ในอดีต นอกจากนี้ เขายังซื้ออุปกรณ์ต่างๆ สำหรับการฝึกเวทมนตร์ การวิเคราะห์เวทมนตร์ การศึกษาการเล่นแร่แปรธาตุ การปรุงยาวิเศษ และการทดลองเวทมนตร์อีกด้วย ในกรณีของการทดลองเวทมนตร์ วัสดุที่จำเป็นต้องใช้ล้วนมีราคาสูงลิบ และเขาก็ต้องใช้วัสดุเวทมนตร์ชั้นสูง เช่น หินสุริยันต์ ก่อนการสร้าง ‘เนตรอินฟาเรดลูเซียน’ ในวิญญาณ ลูเซียนมีคะแนนอาร์คานากว่าสองพันหกร้อยเจ็ดสิบคะแนน ในช่วงห้าเดือนที่ผ่านมา แต่ตอนนี้เขามีคะแนนเหลือเพียงหนึ่งพันหนึ่งร้อยสิบคะแนน

‘กว่าจะได้คะแนนอาร์คานามาเลือดตาแทบกระเด็น แต่ไม่มีอุปกรณ์พรุ่งนี้ ฉันก็ทำอะไรไม่ได้’ ลูเซียนมองขวดแก้วที่ว่างเปล่าซึ่งก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยวัสดุเวทมนตร์แล้วถอนหายใจ ลาซาร์เคยได้ยินเขาพูดอะไรทำนองนี้มาแล้วเมื่อหลายวันก่อน และเขาก็อิจฉาอยู่ในที นั่นแทบเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับนักเวทระดับสองธรรมดาๆ ที่จะใช้น้ำยาเวทมนตร์และอุปกรณ์ต่างๆ เหมือนลูเซียน นักเวทพวกนั้นต้องใช้คะแนนอาร์คานาราวห้าสิบคะแนน หากต้องการก้าวหน้า แต่ก็หาได้เพียงสิบห้าคะแนนต่อเดือนภายใต้สถานการณ์ปกติ

ในความรู้สึกของลาซาร์ ลูเซียนใช้ชีวิตเหมือนกับเป็นนักเวทระดับสี่หรือห้า นั่นเป็นสาเหตุที่เขาใช้คะแนนอาร์คานามากมาย นอกจากนี้ ลาซาร์ก็ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักเวทระดับสี่จะใช้คะแนนมากมายขนาดนี้

ลูเซียนสงบสติอารมณ์ลงและเริ่มทำความสะอาดห้องทดลอง

เขายิ้มและส่ายหน้า ‘ถ้าไม่เจ็บ ก็ไม่เข้าใจ ฉันจะลองพัฒนาสู่นักเวทระดับสาม และกลายเป็นนักเวทชั้นกลางก่อนที่จะใช้คะแนนอาร์คานาหมด ฉันจะต้องบินได้บนท้องฟ้าโดยใช้พลังอำนาจจิตของฉันเอง’

‘เอาล่ะ ฉันต้องไปที่หอคอยเวทมนตร์ของศูนย์บัญชาการ และฝ่ายเจตจำนงแห่งธาตุเมืองอัลลิน เพื่อซื้อวัสดุกับน้ำยาอีกแล้ว เรื่องดีๆ ก็คือฉันจะได้ส่วนลด 20% ในฐานะจอมเวทระดับสี่ แค่นี้ก็รู้สึกดีแล้ว…’

‘30 กรกฎาคม อีกแล้วสินะ’

ณ นครแห่งเพลงสวด ที่ชั้นล่างของอารามหลวงในนครอัลโต้

นาตาชาสวมชุดผ้าลินินทรงยาวและไม่ได้สวมรองเท้า ผมสีม่วงยาวสลวยของนางปรกลงบนบ่า ดวงตาสีม่วงเงินของนางดูลึกลาวกับทะเลที่ไร้จุดสิ้นสุด ดูเหมือนกับอันตรายกำลังซ่อนตัวอยู่ภายใต้พื้นทะเลอันสงบสุข นาตาชาไม่ได้ออกจากอารามแผ่นนี้มามากกว่าหนึ่งปีแล้ว และนางก็สามารถเยียวยาผลกระทบจากพลังที่พุ่งพรวดอย่างรุนแรงจากพลังในสายเลือดของนาง นางกำลังเข้าใกล้การเป็นอัศวินระดับเจ็ดมากขึ้นทุกทีๆ โดยไม่มีปัญหา

ห้องๆ นั้นมืด แต่สายตาของนาตาชากับสามารถมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน นางนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นกำลังอ่านจดหมายที่มาจากสถานที่อันแสนไกล

‘ฮ่าๆ คนอะไรชอบยืนอยู่กลางเวทีและสร้างปัญหาให้ทุกที่ไม่ว่าจะไปที่ไหน ดีใจจังที่เขาไปถึงอัลลินอย่างปลอดภัย’ จดหมายจากโฮล์มใช้เวลาครึ่งปีกว่าจะเดินทางมาถึง แต่นาตาชาก็ได้รู้ว่านักเวทอัจฉริยะที่ชื่อ ลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์ เป็นผู้สังเคราะห์คาร์บาไมด์ จากหน่วยสืบราชการลับของ ‘ศาสนจักร’ และ ‘สาธารณรัฐ’ เมื่อหลายเดือนก่อน การค้นพบที่ทำให้ศาสนจักรต้องนิยามแนวคิดรังสรรค์นิยมขึ้นใหม่

ศาสนจักรทุ่มความสำคัญให้กับการรับมือกับเฟลิเปและไม่ได้ให้ความสนใจกับนักเวทอัจฉริยะพรุ่งนี้มากนัก แม้ว่านาตาชาจะเดาได้ว่านั่นคือ ‘ลูเซียน’ แต่นางก็เป็นกังวลจนกระทั่งจดหมายที่ระบุด้วยรหัสพิเศษเดินทางมาถึง นอกจากนี้ นางยังเริ่มวางแผนให้กับจอห์น เพื่อที่ศาสนจักรจะไม่ทำอะไรครอบครัวของจอห์น  หลังจากพบว่าแท้จริงแล้วลูเซียนคือใคร

นาตาชากัดริมฝีปากด้วยฟันที่ขาวสะอาดและคุยกับตัวเองด้วยอารมณ์ที่ผสมปนเปกัน ‘เจ้าคือต้นเหตุที่ทำให้ศาสนจักรยอมแก้ไขพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรือ?’

อันที่จริง นาตาชาเป็นผู้มีศรัทธาในพระเจ้าอย่างแรงกล้า ยังเชื่อในแนวคิด ‘รังสรรค์นิยม’ อย่างมากในอดีต และต้องเผชิญกับความเป็นทุกข์ เมื่อสิ่งที่ยังเชื่อถูกพิสูจน์ว่าผิด

นางมีพลังวิญญาณอันแข็งกล้า นั่นช่วยนางไว้ได้เมื่ออ่านจดหมายจบ อากัปกิริยาของนาตาชาค่อนข้างผ่อนคลาย เนื่องจากนางก็สนใจในเหตุการณ์ที่ถูกเปิดเผยระหว่างการเดินทางของลูเซียน เรื่องนี้สนุกยิ่งกว่าละครโอเปร่าหรือนิทานที่เหล่ากวีเล่าขาน

หน้าตาแปลกใจเล็กน้อย ขณะที่นางอ่านจดหมาย “เขาได้รับรางวัล ‘มงกุฎแห่งโฮล์ม’ ด้วยหรือนี่?” นางพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความสูงใหญ่และก็มีสีหน้าอ่อนโยนลง ขณะที่นางคิดถึงแม่ของนาง

นาตาชาหัวเราะเบาๆ หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง ‘เขาศึกษาอาร์คานาศาสตร์มานานแค่ไหนกันเชียว? ทำไมเขาได้รางวัล? อย่าบอกนะว่าเขามีพรสวรรค์ในอาร์คานายิ่งกว่าดนตรีเสียอีก’

‘แต่ว่า เขาไร้พรสวรรค์ในการคุยกับสาวๆ แน่นอน ฮ่าๆ เขายังตัวคนเดียวสินะ ข้าน่าจะสอนวิธีรับมือกับผู้หญิงให้เขาเสียหน่อย อืม ลูเซียนจะได้ทำงานกับเอลฟ์และดรูอิดหรือเปล่า? ดนตรีแห่งธรรมชาติของเอลฟ์จะสร้างแรงบันดาลใจให้เขาได้ไหม? ไรน์? ไม่ได้ยินข่าวจากเขานานแล้ว…’

‘ข้าส่งจดหมายถึงเขาเมื่อเดือนก่อน แต่ข้าไม่รู้เลยว่าเขาจะได้รับจดหมายเมื่อไหร่’

ห้องมืดๆ ห้องนั้นยังเงียบงัน แต่บรรยากาศภายในช่างสว่างไสว

…………………………………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 237 สองฝั่งของดินแดน

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 237 สองฝั่งของดินแดน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดอกไม้สีสันสดใสเต้นพริ้วไหวอยู่กลางสายลม นั่นยิ่งทำให้อาคารสีขาวอมชมพูฝั่งนี้ดูมีชีวิตชีวา ภายในคฤหาสน์หลังนี้ เต็มไปด้วยแท่นทดลองที่มีรูปแบบอันซับซ้อนสลักไว้บนแท่นภายในห้องทดลองอันใหญ่โตซึ่งถูกลงกลอนอยู่ อุปกรณ์ทั้งขวดแก้ว ตะเกียงเผาปฏิกิริยา และหลอดที่เชื่อมต่อกันวางอยู่บนแท่นทดลองเหล่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับอุปกรณ์ห้องทดลองธรรมดาๆ ที่ลูเซียนเคยเห็นในโลกใบเดิม อุปกรณ์บนแท่นทดลองเหล่านี้ดูพิสดารมาก เนื่องจากตัวอักษรเวทมนตร์โบราณบนอุปกรณ์แต่ละชิ้นที่ยากจะเข้าใจ

เขาเปลี่ยนชุดมาใส่เสื้อคลุมทดลองทรงยาวจากที่สวมเสื้อนอกสีดำ เพื่อให้เขาสามารถขยับตัวได้อย่างอิสระภายในห้องภายในห้อง ลูเซียนเพ่งฌานสมาธิไปที่วงเวทต่างๆ ที่สามารถจำลองรูปแบบอาคมส่วนต่างๆ ได้ มวลเงาสีแดงทรงกลมมวลหนึ่งปรากฏขึ้นในความมืด และค่อยๆ เสถียรหลังจากรวมตัวกับรูปแบบเวท  แม้ว่าจะเป็นเงาที่ดูเลือนลาง เขาก็สามารถเห็นว่ามีสิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายหนูที่ส่วนต่างๆ ของตัวมีสีต่างกัน เนื่องจากความต่างของอุณหภูมิ

ลูเซียนคลายพลังวงเวทด้วยท่าทีพึงพอใจปรากฏบนใบหน้า แล้วเขาก็ผิวปากและเปิดโคมไฟทรงโค้งในห้องทดลอง บ้านหลังเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือที่สร้างด้วยอิฐและแผ่นไม้ก็ปรากฏขึ้นบนแท่นทดลอง ขณะที่ทั้งห้องสว่างไสว ภายในบ้านหลังนั้น มีหนูกินเหล็กตัวหนึ่งที่ถูกดัดแปลงสายพันธุ์ ซึ่งถูกจับได้เร็วๆ นี้

‘ในที่สุด “เนตรอินฟาเรดลูเซียน” ก็สำเร็จ แต่ดูเหมือนประสิทธิภาพจะอ่อนกว่าที่ฉันคิดไว้  น่าเสียดายจัง เป็นแค่เวทมนตร์ระดับสองเอง แต่ฉันก็ใช้มันตรวจสอบบรรยากาศโดยรอบได้’ ลูเซียนคุ้นเคยกับหลักการของเทคโนโลยีการถ่ายภาพความร้อนด้วยอินฟราเรด แต่เขายังมีปัญหาในการประยุกต์ใช้หลักการนี้กับรูปแบบ อักษรโบราณ และการร่ายคาถาของโครงสร้างเวทมนตร์ เขาใช้เวลาหลายเดือนในการศึกษาความรู้พื้นฐานใน ‘สภาเวทมนตร์’ จนตอนนี้เขาสามารถสร้างเวทมนตร์ขึ้นเองจริงๆ อย่างเป็นทางการ เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาสร้างได้เพียงเวทมนตร์ระดับฝึกหัดเท่านั้น

ลูเซียนปิดโคมไฟทรงโค้ง ก่อนจะบันทึกรูปแบบเวทมนตร์ที่เขาสร้างขึ้นในสมอง

เสียงร่ายเวทมนตร์ที่ซับซ้อนและต้องอาศัยการห่อลิ้นดังสะท้อนอยู่ในความมืดอย่างช้าๆ ขณะที่ผงที่เป็นประกายของหินสุริยันร่วงจากมือลูเซียน พลังวิญญาณของเขาสั่นไหวและปรับเปลี่ยนขณะที่เขาร่ายคาถา สร้างแกนกลางของรูปแบบอาคมภายใต้การควบคุมของลูเซียนอย่างรวดเร็ว

ลูกตาข้างซ้ายของลูเซียนเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีแดง สะท้อนภาพหนูกินเหล็กภายในกรงขัง แต่ยังไม่สามารถเห็นการเรียงซ้อนของภาพชั้นต่างๆ

ลูเซียนหันหน้าไปทางหน้าต่างซึ่งมีผ้าม่านสีดำปิดอยู่ เขามองออกไปข้างนอกด้วยตาซ้ายสีแดง ได้เห็นนก ‘สีแดง’ บินผ่าน

ลูเซียนเปิดไฟในห้องทดลองอีกครั้ง หลังจากแน่ใจว่าเวทมนตร์ระบดับสองบทนี้ใช้งานได้ดี สีแดงค่อยๆ ตาซ้ายของเขา และเขาก็สามารถสร้างรูปแบบเวทในวิญญาณ เมื่อเข้าสู่ฌานสมาธิในคืนนี้

อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของวิญญาณนักเวทมีจำกัด นักเวทจึงสามารถสร้างรูปแบบเวทมนตร์ในแต่ละระดับชั้นได้อย่างจำกัด พวกเขาต้องเลือกใช้เวทมนตร์อย่างสมเหตุสมผล ตัวอย่างเช่น เวทมนตร์สนับสนุนไม่จำเป็นต้องสร้างรูปแบบไว้ในวิญญาณ แต่ลูกศิษย์สามารถร่ายคาถาด้วยคำพูด ด้วยท่าทาง หรือด้วยอุปกรณ์เวทมนตร์ เมื่อคราวจำเป็น

สภาเวทมนตร์มีตำรับตำรามากมาย เช่น ‘กลวิธีการจับคู่เวทมนตร์’ ซึ่งอธิบายถึงความรู้เกี่ยวกับสาขาเฉพาะศาสตร์ด้านนี้

 แม้ว่าเวทมนตร์ ‘เนตรอินฟาเรดลูเซียน’ เป็นเวทมนตร์สนับสนุน แต่มีความเป็นไปได้มากว่าลูเซียนจะต้องร่ายเวทมนตร์นี้ หากถูกมือสังหารซุ่มโจมตี ที่สำคัญ เขาจะต้องร่ายคาถาให้เร็วขึ้นในสถานการณ์นั้น เพื่อที่เขาจะได้สามารถแกะรอยมือสังหารได้ง่ายขึ้น

ลูเซียนนั่งพักครู่ใหญ่และเปิดสมุดบันทึกเวทมนตร์ของเขา หยุดอยู่ที่รูปโครงสร้างเวทมนตร์ที่ดูซับซ้อนยุ่งเหยิง หลับตาลงและเริ่มเข้าฌานสมาธิ

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งเทวลิขิตถูกล้อมรอบไปด้วยธาตุลม ไฟ และน้ำ ธาตุต่างๆ เหล่านี้เป็นธาตุซึ่งประกอบอยู่ในสภาพแวดล้อมฌานสมาธิของลูเซียน

ในสภาพแวดล้อมฌานสมาธิ ธาตุสีสันต่างๆ เคลื่อนไหวตามเส้นทางเฉพาะหลากหลายรูปแบบ ดูประหนึ่ง หิ่งห้อยเรืองแสงบิวฉวัดเฉวียนอยู่ในท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ไร้ขอบเขต บางครั้ง สายธาตุก็รวมเข้ากันแล้วก็แยกจากกัน เป็นภาพบรรยากาศที่ดูลึกลับและอยากจะเข้าใจ และแสดงถึงความลับและกฎเกณฑ์ของธาตุเหล่านั้น

ลูเซียนหยิบปากกาขนนกขึ้นมาและเริ่มวาดเส้นทางที่เขาสัมผัสได้ระหว่างกระบวนการ หลังออกจากฌานสมาธิ เส้นทางทาสเหล่านั้นกลายเป็นรูปแบบเวทมนตร์และอักษรโบราณอย่างรวดเร็ว

ลูเซียนหยุดวาดเส้นทางเมื่อรูปแบบเวทมนตร์เกือบสมบูรณ์ รูปแบบนี้ถูกสร้างด้วยเส้นตรง เส้นโค้ง และพื้นผิวโค้ง แต่เขาก็ยังสับสน เขาติดอยู่ในปัญหาซึ่งรบกวนใจเขามาตลอด ตั้งแต่เริ่มศึกษาเวทมนตร์

‘ทำไมรูปแบบเวทมนตร์และตัวอักษรโบราณพวกนี้ถึงเป็นสัญลักษณ์แทนโครงสร้างเวทมนตร์? ทำไมฉันสามารถร่ายเวทมนตร์ หลังจากรูปแบบเวทมนตร์รวมเป็นหนึ่งเดียวกับพลังวิญญาณ? ทำไมรูปแบบเวทมนตร์ถึงปรากฏขึ้น หลังจากที่ฉันทำตารางธาตุเสร็จ และสภาพแวดล้อมฌานสมาธิสะท้อนกลับโลกแห่งความเป็นจริง? เค ลาซาร์ และร็อคต่างก็ยอมรับในกฎเกณฑ์ของตารางธาตุและบรรจุธาตุต่างๆ เข้าในสภาพแวดล้อมฌานสมาธิ แต่ไม่มีของใครที่สะท้อนถึงโลกความเป็นจริงเลยสักคน หลังจากที่ฉันสอบถามกับพวกเขา…’

‘อะไรคือกฎเกณฑ์ธรรมชาติของเวทมนตร์?’

ลูเซียนวางปากกาขนนกลงหลังจากจดคำถามและบันทึกคำถามเหล่านั้นลงในสมุดบันทึกเวทมนตร์ของห้องสมุดห้วงจิต เขาเริ่มวางแผนถึงเวทมนตร์ระดับสามที่กำลังจะลงมือสร้าง

‘เวทมนตร์บทนี้จะอาศัยหลักเกณฑ์ของธาตุพื้นฐาน โดยจะเกี่ยวข้องกับการควบคุมและการเปลี่ยนแปลงอิเล็กตรอน และการส่งอีเล็กตรอนกลับสู่ตำแหน่งตั้งต้น สามารถใช้ในการแยกองค์ประกอบทางเคมี เช่น ผลผลิตแร่แปรธาตุ อุปกรณ์เวทมนตร์ ชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ และเวทมนตร์บางบท ยิ่งสถานะองค์ประกอบพื้นฐานสั่นคลอนมากเท่าไร ก็จะสามารถแยกธาตุได้ง่ายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการควบคุมอิเล็กตรอนจะเพิ่มขึ้นเมื่อเมื่อนักเวทพัฒนาระดับขึ้น เวทมนตร์คล้ายๆ กับเวทมนตร์ฉบับอนุบาลของ ‘เวทแยกธาตุ’ ซึ่งเป็นอาคมชั้นตำนานจากแฮททาเวย์ ‘ เจ้าแห่งธาตุ’

ลูเซียนได้อ่านข้อมูลสำคัญหลายอย่าง หลังจากเข้าร่วมองค์กร ‘เจตจํานงแห่งธาตุ’ และรวมถึงข้อมูลที่นำเสนอความสามารถ สถานะ และวัสดุที่ต้องใช้ในพิธีกรรมขั้นสูงของระดับชั้นตำนานสองระดับของจอมเวท ซึ่งก็คือ ‘เจ้าแห่งธาตุ’ และ ‘ผู้บุกเบิก’ นอกจากนี้ ก็มีการอธิบายถึงความสามารถของเวทมนตร์ระดับชั้นตำนานที่มาพร้อมกับระดับของจอมเวท

‘ดูเหมือนฉันจะสามารถสร้างเวทมนตร์ระดับสามสำเร็จก่อนขึ้นเป็นนักเวทชั้นกลางเสียอีก ถ้าฉันพัฒนาถึงขั้นต่อไปสำเร็จ รูปแบบเวทมนตร์ทั้งสองที่ฉันจะสร้างก็มีเวทมนตร์บทนี้กับเวทลอยตัว แล้วฉันจะตั้งชื่อว่าอะไรดี? ‘แยกธาตุลูเซียน?’ ‘ควบคุมธาตุลูเซียน?’ ฟังดูไม่ได้เรื่อง ไม่ก็ซ้ำๆ’ ลูเซียนคิดอยู่พักใหญ่และนึกถึงชื่อเจ๋งๆ ที่ฟลอเรนเซียตั้งให้เขา ‘เอาล่ะ ฉันจะเรียกมันว่า “ลำดับธาตุ!”’

เวทมนตร์ระดับสามที่มีชื่อคล้ายๆ กับเวทมนตร์ระดับเก้าและชั้นตำนาน ลูเซียนรู้สึกยินดีในความรู้สึกผิดนี้ เหมือนเป็นอาคมแบบฉบับของเขา เหมือนกับเวทหัตถ์กวัดแกว่งศาสตราจารย์

ลูเซียนสงบสติอารมณ์ลงหลังจากความตื่นเต้น และเมื่อเขากำลังจะเริ่มการทดลองเวทมนตร์ต่อ เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขาใช้วัสดุเวทมนตร์ไปเกือบหมดแล้ว ทำเอาเขาผิดหวังไม่น้อย

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ลูเซียนซื้อน้ำยา ‘กลีเซอรีนขาว’ ‘ไข่มุกเงิน’ และ ‘โอ๊ค’ เพื่อช่วยให้เขาพัฒนาการฌานสมาธิกับสายฝนธาตุได้ง่ายขึ้น  น้ำยาเวทมนตร์ทั้งสามชนิดจะแสดงผลดีเยี่ยมกับนักเวทชั้นต้น ขณะที่ น้ำยา ‘กลีเซอรีนขาว’ และ ‘ไข่มุกเงิน’ จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณและวิญญาณ ส่วนน้ำยา ‘โอ๊ค’ และ ‘น้ำอมฤตฟลอเรนเซีย’ จะช่วยในการปรับพื้นฐานให้มั่นคงขึ้น ทักษะเวทมนตร์ของลูเซียนพัฒนาเพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าเหลือเชื่อด้วยความช่วยเหลือจากอุปกรณ์เหล่านี้

อย่างไรก็ตาม น้ำยาเวทมนตร์ที่มีประสิทธิภาพขนาดนี้ก็มีราคาแพง น้ำยากลีเซอรีนขาวราคาสิบคะแนนอาร์คานาต่อขวด น้ำยาไข่มุกเงินราคายี่สิบคะแนนอาร์คานาต่อขวด และน้ำยาโอ๊คราคาแปดคะแนนอาร์คานาต่อขวด เขาต้องซื้อน้ำยาทั้งสามชนิดๆ ละสามขวดทุกเดือน

ลูเซียนจะได้รับคะแนนอาร์คานาสี่สิบห้าคะแนนจาก ‘สภาเวทมนตร์’ ทุกเดือน หลังจากขึ้นเป็นจอมเวทระดับสี่และนักเวทระดับสอง แต่เขาก็ต้องใช้คะแนนอาร์คานาส่วนที่เขาสะสมไว้ในอดีต นอกจากนี้ เขายังซื้ออุปกรณ์ต่างๆ สำหรับการฝึกเวทมนตร์ การวิเคราะห์เวทมนตร์ การศึกษาการเล่นแร่แปรธาตุ การปรุงยาวิเศษ และการทดลองเวทมนตร์อีกด้วย ในกรณีของการทดลองเวทมนตร์ วัสดุที่จำเป็นต้องใช้ล้วนมีราคาสูงลิบ และเขาก็ต้องใช้วัสดุเวทมนตร์ชั้นสูง เช่น หินสุริยันต์ ก่อนการสร้าง ‘เนตรอินฟาเรดลูเซียน’ ในวิญญาณ ลูเซียนมีคะแนนอาร์คานากว่าสองพันหกร้อยเจ็ดสิบคะแนน ในช่วงห้าเดือนที่ผ่านมา แต่ตอนนี้เขามีคะแนนเหลือเพียงหนึ่งพันหนึ่งร้อยสิบคะแนน

‘กว่าจะได้คะแนนอาร์คานามาเลือดตาแทบกระเด็น แต่ไม่มีอุปกรณ์พรุ่งนี้ ฉันก็ทำอะไรไม่ได้’ ลูเซียนมองขวดแก้วที่ว่างเปล่าซึ่งก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยวัสดุเวทมนตร์แล้วถอนหายใจ ลาซาร์เคยได้ยินเขาพูดอะไรทำนองนี้มาแล้วเมื่อหลายวันก่อน และเขาก็อิจฉาอยู่ในที นั่นแทบเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับนักเวทระดับสองธรรมดาๆ ที่จะใช้น้ำยาเวทมนตร์และอุปกรณ์ต่างๆ เหมือนลูเซียน นักเวทพวกนั้นต้องใช้คะแนนอาร์คานาราวห้าสิบคะแนน หากต้องการก้าวหน้า แต่ก็หาได้เพียงสิบห้าคะแนนต่อเดือนภายใต้สถานการณ์ปกติ

ในความรู้สึกของลาซาร์ ลูเซียนใช้ชีวิตเหมือนกับเป็นนักเวทระดับสี่หรือห้า นั่นเป็นสาเหตุที่เขาใช้คะแนนอาร์คานามากมาย นอกจากนี้ ลาซาร์ก็ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักเวทระดับสี่จะใช้คะแนนมากมายขนาดนี้

ลูเซียนสงบสติอารมณ์ลงและเริ่มทำความสะอาดห้องทดลอง

เขายิ้มและส่ายหน้า ‘ถ้าไม่เจ็บ ก็ไม่เข้าใจ ฉันจะลองพัฒนาสู่นักเวทระดับสาม และกลายเป็นนักเวทชั้นกลางก่อนที่จะใช้คะแนนอาร์คานาหมด ฉันจะต้องบินได้บนท้องฟ้าโดยใช้พลังอำนาจจิตของฉันเอง’

‘เอาล่ะ ฉันต้องไปที่หอคอยเวทมนตร์ของศูนย์บัญชาการ และฝ่ายเจตจำนงแห่งธาตุเมืองอัลลิน เพื่อซื้อวัสดุกับน้ำยาอีกแล้ว เรื่องดีๆ ก็คือฉันจะได้ส่วนลด 20% ในฐานะจอมเวทระดับสี่ แค่นี้ก็รู้สึกดีแล้ว…’

‘30 กรกฎาคม อีกแล้วสินะ’

ณ นครแห่งเพลงสวด ที่ชั้นล่างของอารามหลวงในนครอัลโต้

นาตาชาสวมชุดผ้าลินินทรงยาวและไม่ได้สวมรองเท้า ผมสีม่วงยาวสลวยของนางปรกลงบนบ่า ดวงตาสีม่วงเงินของนางดูลึกลาวกับทะเลที่ไร้จุดสิ้นสุด ดูเหมือนกับอันตรายกำลังซ่อนตัวอยู่ภายใต้พื้นทะเลอันสงบสุข นาตาชาไม่ได้ออกจากอารามแผ่นนี้มามากกว่าหนึ่งปีแล้ว และนางก็สามารถเยียวยาผลกระทบจากพลังที่พุ่งพรวดอย่างรุนแรงจากพลังในสายเลือดของนาง นางกำลังเข้าใกล้การเป็นอัศวินระดับเจ็ดมากขึ้นทุกทีๆ โดยไม่มีปัญหา

ห้องๆ นั้นมืด แต่สายตาของนาตาชากับสามารถมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน นางนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นกำลังอ่านจดหมายที่มาจากสถานที่อันแสนไกล

‘ฮ่าๆ คนอะไรชอบยืนอยู่กลางเวทีและสร้างปัญหาให้ทุกที่ไม่ว่าจะไปที่ไหน ดีใจจังที่เขาไปถึงอัลลินอย่างปลอดภัย’ จดหมายจากโฮล์มใช้เวลาครึ่งปีกว่าจะเดินทางมาถึง แต่นาตาชาก็ได้รู้ว่านักเวทอัจฉริยะที่ชื่อ ลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์ เป็นผู้สังเคราะห์คาร์บาไมด์ จากหน่วยสืบราชการลับของ ‘ศาสนจักร’ และ ‘สาธารณรัฐ’ เมื่อหลายเดือนก่อน การค้นพบที่ทำให้ศาสนจักรต้องนิยามแนวคิดรังสรรค์นิยมขึ้นใหม่

ศาสนจักรทุ่มความสำคัญให้กับการรับมือกับเฟลิเปและไม่ได้ให้ความสนใจกับนักเวทอัจฉริยะพรุ่งนี้มากนัก แม้ว่านาตาชาจะเดาได้ว่านั่นคือ ‘ลูเซียน’ แต่นางก็เป็นกังวลจนกระทั่งจดหมายที่ระบุด้วยรหัสพิเศษเดินทางมาถึง นอกจากนี้ นางยังเริ่มวางแผนให้กับจอห์น เพื่อที่ศาสนจักรจะไม่ทำอะไรครอบครัวของจอห์น  หลังจากพบว่าแท้จริงแล้วลูเซียนคือใคร

นาตาชากัดริมฝีปากด้วยฟันที่ขาวสะอาดและคุยกับตัวเองด้วยอารมณ์ที่ผสมปนเปกัน ‘เจ้าคือต้นเหตุที่ทำให้ศาสนจักรยอมแก้ไขพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรือ?’

อันที่จริง นาตาชาเป็นผู้มีศรัทธาในพระเจ้าอย่างแรงกล้า ยังเชื่อในแนวคิด ‘รังสรรค์นิยม’ อย่างมากในอดีต และต้องเผชิญกับความเป็นทุกข์ เมื่อสิ่งที่ยังเชื่อถูกพิสูจน์ว่าผิด

นางมีพลังวิญญาณอันแข็งกล้า นั่นช่วยนางไว้ได้เมื่ออ่านจดหมายจบ อากัปกิริยาของนาตาชาค่อนข้างผ่อนคลาย เนื่องจากนางก็สนใจในเหตุการณ์ที่ถูกเปิดเผยระหว่างการเดินทางของลูเซียน เรื่องนี้สนุกยิ่งกว่าละครโอเปร่าหรือนิทานที่เหล่ากวีเล่าขาน

หน้าตาแปลกใจเล็กน้อย ขณะที่นางอ่านจดหมาย “เขาได้รับรางวัล ‘มงกุฎแห่งโฮล์ม’ ด้วยหรือนี่?” นางพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความสูงใหญ่และก็มีสีหน้าอ่อนโยนลง ขณะที่นางคิดถึงแม่ของนาง

นาตาชาหัวเราะเบาๆ หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง ‘เขาศึกษาอาร์คานาศาสตร์มานานแค่ไหนกันเชียว? ทำไมเขาได้รางวัล? อย่าบอกนะว่าเขามีพรสวรรค์ในอาร์คานายิ่งกว่าดนตรีเสียอีก’

‘แต่ว่า เขาไร้พรสวรรค์ในการคุยกับสาวๆ แน่นอน ฮ่าๆ เขายังตัวคนเดียวสินะ ข้าน่าจะสอนวิธีรับมือกับผู้หญิงให้เขาเสียหน่อย อืม ลูเซียนจะได้ทำงานกับเอลฟ์และดรูอิดหรือเปล่า? ดนตรีแห่งธรรมชาติของเอลฟ์จะสร้างแรงบันดาลใจให้เขาได้ไหม? ไรน์? ไม่ได้ยินข่าวจากเขานานแล้ว…’

‘ข้าส่งจดหมายถึงเขาเมื่อเดือนก่อน แต่ข้าไม่รู้เลยว่าเขาจะได้รับจดหมายเมื่อไหร่’

ห้องมืดๆ ห้องนั้นยังเงียบงัน แต่บรรยากาศภายในช่างสว่างไสว

…………………………………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+