Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 257 การแนะนำตัว ‘แสนประทับใจ’

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 257 การแนะนำตัว ‘แสนประทับใจ’ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กูซอนพูดซ้ำคำด้วยท่าทีสับสน “ผ่านจักรวรรดิชาชราน?” ลูเซียนหยุดเดินเข้าไปใกล้กูซอน และยืนอยู่ที่ขั้นบันได ซึ่งยังมีพวกองครักษ์นอนกองอยู่บนพื้น ขณะที่มือสองข้างของเขายังล่วงอยู่ในกระเป๋า แขกคนอื่นๆ ที่มาซื้อหาข่าวสารข้อมูลต่างซ่อนตัวอยู่ในซุ้มด้วยความรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ “ใช่ ข้าต้องการเดินทางผ่านดินแดนของจักรวรรดิ และไปยังประเทศต่างๆ ตามรอยพระเจ้าองค์อื่นๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเทือกเขาแห่งความมืด” ลูเซียนพยักหน้า “ข้ามั่นใจว่าท่านรู้ว่าข้าเป็นนักเวท ท่านกูซอน ข้าต้องการคนนำทางที่รู้ลึกถึงภูมิศาสตร์ของประเทศ วัฒนธรรม และมีพลังพอที่จะช่วยให้ข้าไปถึงจุดหมายปลายทางโดยไม่ถูกไล่ล่าจากศาสนจักรฝ่ายเหนือ” จากข้อมูลของแกสตัน ลูเซียนรู้ว่าศาสนจักรเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมช่องแคบสตอร์ม ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจขึ้นรถไฟเวทมนตร์ไปยังเมืองอันโด่งดังทางตอนเหนือที่ชื่อว่า ‘ดีปซีพอร์ต’ ผ่านอาณาจักรโฮล์มและโคเล็ตต์ หลังจากนั้น ลูเซียนใช้เวลาอีกสองเดือนเดินทางผ่านป่าซึ่งเป็นถิ่นของพวกโทรลและออร์ค จนมาถึง ‘อีสต์เฮเวน ’ ในที่สุด ซึ่งป่าบรรพกาลของเมืองตั้งอยู่ใกล้กับ ‘ป้อมปราการอัคคี’ ของจักรวรรดิ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเซกรู ระหว่างนั้น ลูเซียนได้สร้างเวทมนตร์ระดับสามที่สำคัญมากบนหนึ่งขึ้นมา ‘เวทลบล้างเวทมนตร์’ เหตุผลที่ลูเซียนต้องการเดินทางผ่านทางนี้ก็เพราะจักรวรรดิชาชรานมีอาณาเขตติดกับ ‘ราชภัฏไวโอเล็ต’ ทางตะวันตกเฉียงใต้ หลังจากลูเซียนอธิบายด้วยความจริงเพียงครึ่งหนึ่ง กูซอนก็เข้าใจถึงความต้องการของลูเซียนคร่าวๆ เขาสูดลมหายใจลึกสองสามรอบและพยายามเรียกท่าทางความเป็นผู้นำกลับมา “ท่านขอรับ ก็เพราะศาสนจักร ท่านจึงไม่อาจบินข้ามจักรวรรดิได้ แต่ต้องการเดินทางทางบกด้วยความช่วยเหลือจากคนนำทางท้องถิ่น ถูกต้องไหมขอรับ?” “ถูกต้อง ท่านกูซอน” แม้ว่าลูเซียนกำลังยิ้ม จริงๆ แล้วเขาก็อยากบินจากที่นี่ไปยังจุดหมายเสียเลย ซึ่งเขาจะใช้เวลาเพียงสามถึงสี่วันเท่านั้น และจะเร็วกว่าการเดินทางทางบกมากนัก กูซอนเห็นว่าลูเซียนไม่ใช่พวกจอมเวทที่ชั่วร้าย หลังจากหยุดคิดพักหนึ่ง เขาก็ตอบออกมา “ท่านขอรับ ข้าขอแนะนำ ลีโอ เขาเคยเป็นผู้ช่วยคณะลักลอบขนสินค้าเจ้าใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิชาชราน ซึ่งกิจการของพวกเขากินพื้นที่ไกลไปถึงประเทศต่างๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเทือกเขา นั่นรวมถึงราชรัฐไวโอเล็ต แต่ตอนหลังเขามีปัญหากับพวกลักลอบขนสินค้า จนพวกนั้นสังหารครอบครัวของลีโอ ลีโอเป็นคนเดียวที่รอดตายและหนีมาที่นี่ เมืองเซกรู พร้อมกับตำราเวทมนตร์อันมีค่าของเขา ความต้องการแก้แค้นอันแรงกล้าและพลังที่ใกล้เคียงกับระดับอัศวินตัวจริงทำให้เขาอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าจะยากเย็นเพียงไรก็ตาม ตอนนี้ เขารับงานทั้งหมดเพื่อเก็บเงินไว้ซื้อน้ำยาวิเศษโดยหวังว่าจะแข็งแรงขึ้นและแก้แค้นให้สำเร็จ อีกอย่างนะขอรับ ลีโอเชี่ยวชาญในการช่วยปลอมตัวโดยไม่ต้องใช้เวทมนตร์ แล้วเขารู้จักจักรวรรดิแห่งนี้เป็นอย่างดี” ลูเซียนตอบโดยยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า “เขาอาจไม่ใช่คนที่ข้าต้องการตัว ถ้าเราไปถึงจักรวรรดิ แล้วเขาไปเจอกับพวกลักลอบขนสินค้า เขาอาจคุมตัวเองไม่อยู่” “ไม่ต้องห่วงขอรับ ลีโอถือสัตย์ตามธรรมเนียมอัศวิน ตราบใดที่ท่านทั้งสองทำสัญญากัน ข้ามั่นใจว่าเขาจะไม่ผิดคำพูดและจะทำภารกิจอย่างดีที่สุด” กูซอนยืนยัน “นี่อาจเป็นสาเหตุที่เขามีเรื่องกับพวกขนของเถื่อน ท่านขอรับ ลีโอเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของท่าน” ลูเซียนหยุดคิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะพยักหน้า “ข้าขอเจอกับเขาก่อน” “ท่านจะไม่ผิดหวัง” กูซอนพูดต่อ “อีกอย่างหนึ่งคือเขาไม่ค่อยออกมาให้ใครเห็นมากนัก เรารู้แค่ว่า ช่วงนี้ มีคนเห็นเขาบ่อยๆ ที่บาร์เหล้าชื่อ ทารัน” ตอนนั้นเอง กูซอนสังเกตว่าดวงตาของชายหนุ่มทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งอยู่ภายใต้แว่นตาข้างเดียวและตาเปล่าอีกข้างหนึ่ง มีน้ำวนหมุนอย่างรวดเร็วอยู่ภายใน แล้วเขาก็ขาดสติสัมปชัญญะ ลูเซียนร่าย ‘เวทลวงใจคน’ ใส่กูซอนและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับมา หลังจากนั้นเขายังร่าย ‘เวทสะกดจิต’ ใส่กูซอน เพื่อลบความทรงจำส่วนที่สำคัญเกี่ยวกับตัวเขา แม้ว่าลูเซียนจะไม่สามารถเขียนความทรงจำของเป้าหมายขึ้นมาใหม่ และไม่สามารถลบความทรงจำทั้งหมด แต่การลบข้อมูลสำคัญก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพื่อให้กูซอนไม่สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับตัวลูเซียนได้ หากมีใครมาไล่ล่าเขา นอกจากนี้ แม้กระทั่งความทรงจำเกี่ยวกับรูปร่างลักษณะของลูเซียนก็จะไม่ถูกต้อง เนื่องจากลูเซียนปลอมตัวมาอย่างดีก่อนที่จะออกเดินทาง ในฐานะเจ้าของรางวัล ‘มงกุฎแห่งโฮล์ม’ ลูเซียนเองก็ไม่มั่นใจว่าศาสนจักร ไม่ว่าจะฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ รู้จักหน้าตาเขาหรือไม่ เนื่องจากพระคาร์ดินัลและผู้พิทักษ์ราตรีจะสามารถตรวจเจอเวทมนตร์ระดับหนึ่ง ‘เวทแปลงกาย’ ได้ไม่ยาก และเพราะลูเซียนไม่เชี่ยวชาญใน ‘สำนักแปลงกาย’ เขาจึงใช้การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเพื่อปลอมตัว ไม่ว่าพื้นรองเท้าเพิ่มความสูง กระจกตาสีน้ำตาลที่ทำมาจากลูกตาดำของสัตว์เวทเพื่อเปลี่ยนสีตา และแม้กระทั่งหนวดเคราที่ตัดเล็มอย่างดี ประกอบกับแว่นตาข้างเดียว ด้วยเครื่องแต่งกายพวกนี้ ลูเซียนก็ดูโก้หรูทีเดียว หลังจากผ่านไปพักใหญ่ กูซอนก็ค่อยๆ ได้สติกลับมา ราวกับเพิ่งตื่นจากฝันร้าย “พวกอัศวินไปไหน?” กูซอนพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทันทีที่เขาพยายามคิด เขาก็ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ในฐานะผู้นำของกลุ่มขายข่าวกรอง เขาก็ตระหนักได้ถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น มีชายส่งพลังมาที่นี่ และชายผู้นั้นลบความทรงจำของเขา เขาจึงเลิกคิดถึงเรื่องนั้นในทันที เมื่อมองไปยังลูกสมุนที่นอนกองอยู่บนพื้นอย่างหมดสภาพ กูซอนก็รู้สึกโมโหขึ้นมา “ให้ตายเถอะ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ! ลุกขึ้นไปเปลี่ยนกางเกงเหม็นฉี่ของพวกเจ้า! ตามอัศวินพวกนั้นกลับมาด้วย!” … แผ่นป้ายด้านหน้าบาร์เหล้าเขียนว่า ‘บาร์ทารัน ทารันแห่งอีสต์เฮเวน ’ ลูเซียนผลักเปิดประตูและเดินเข้าไปภายในบาร์ ทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้ามา สายตาทุกคู่ในบาร์ก็จับจ้องมาที่เขา แต่เพียงชั่วอึดใจ ในวินาทีต่อมา สายตาเหล่านั้นก็หันกลับไป แล้วเสียงหัวเราะ เสียงสนทนา และสิ่งตะโกนก็ดำเนินต่อไปราวกับไม่เคยหยุด ตอนที่ลูเซียนใช้พลังควบคุมจิตใจของโทนี่ องครักษ์เฝ้ากระท่อมไม้ ต่อหน้าคนอื่นๆ เขาตั้งใจแสดงให้คนอื่นๆ ในอีสต์เฮเวน ได้เห็นถึงพลังของเขา ลูกค้าบางคนในบาร์เหล้าก็รู้ว่าลูเซียนมีพลังแบบไหน ดังนั้น พวกเขาจึงพยายามอยู่ให้ห่างจากลูเซียน เมื่อเห็นดังนั้น คนอื่นที่ไม่รู้จักพลังของลูเซียนต่างก็ต้องระวังตัวเป็นพิเศษไว้ก่อน นี่เป็นวิธีเอาชีวิตรอดในอีสต์เฮเวน แห่งนี้! ผู้มาจากต่างเมืองโดยไม่มีพลังหรือรู้จักคนใหญ่คนโตในเมืองนี้จะมีจุดจบอย่างเดียว คือความตาย ผู้คนส่วนใหญ่ที่นี่ไม่มีใครอยากอยู่ในเมืองนี้ไปตลอดชีวิต พวกเขาหวังเพียงมากอบโกยเงินก่อนจะย้ายออกไป แน่นอน บางคนก็มีความสุขเปี่ยมล้นในเมืองแห่งนี้ พวกเขาชอบความตื่นเต้นและอิสรภาพที่มีในเมืองนี้เป็นอย่างมาก อากัปกิริยาสุขุมและสง่าผ่าเผยของลูเซียนเป็นหลักฐานที่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เหมาะกับที่นี่ ขณะเดินผ่านเก้าอี้ที่ตั้งขวางอยู่ ลูเซียนเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์หน้าบาร์ “สวัสดี ข้ามาตามหาคน” บาร์เทนเดอร์ผมทองตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง ขณะกำลังเช็ดแก้วอยู่ “ท่านต้องสั่งอะไรเสียก่อน” “ขอเลสเซอแก้วหนึ่ง” นี่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรกที่ลูเซียนรู้จักในโลกใบนี้ ในที่สุด ชายหนุ่มผมทองก็เงยหน้าขึ้นมา เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่มีลักษณะท่าทางเอาเรื่องอยู่ที่บ่มเพาะมาจากสถานที่ป่าเถื่อนแห่งนี้ หลังจากส่งเครื่องดื่มสีทองแก้วหนึ่งให้กับลูเซียน เขาก็ถามออกมา “ตามหาใคร?” “ลีโอ” ลูเซียนจ้องไปที่สุราสีทองเหมือนกำลังดื่มด่ำกับงานศิลปะ “ข้ากำลังตามหาลีโอ” “ไม่ใช่ท่านคนเดียวที่ตามหาเขา” บาร์เทนเดอร์ตอบคำถามลูเซียนอย่างกำกวม “ข้าอยากจ้างงานเขา” ลูเซียนจองหน้าบาร์เทนเดอร์ “พวกนั้นก็เหมือนกัน” บาร์เทนเดอร์ตอบด้วยน้ำเสียงไม่แยแส เมื่อได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคน กลุ่มชายสวมเสื้อเกราะท่าทางแข็งแรงหลายคนผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ เสียงเกราะโลหะกระทบกันดังเกรียวกราว หัวหน้าของกลุ่มเป็นชายที่มีอายุอยู่ในช่วงระหว่างสามสิบ  เขาไม่มีลูกตาซ้าย ลากดาบขนาดใหญ่มาตามพื้น เกราะเท้าของเขากระทบพื้นเสียงดัง ชายร่างใหญ่ตัวสูงยาวเดินมาอยู่ตรงหน้าลูเซียน เขาโน้มตัวลงมาใกล้และพูดด้วยน้ำเสียงคุกคาม “ทำไมเจ้าถึงรู้จักลีโอ? เจ้าเจอมันครั้งสุดท้ายเมื่อไร? ข้ากำลังตามหามันให้กับคนใหญ่คนโตในอีสต์เฮเวน นี้ รู้อะไรก็บอกมาให้หมด ถ้าเจ้ายังอยากเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นวันพรุ่งนี้” “ข้าไม่รู้จัก ลีโอ ข้าแค่อยากจ้างเขามาคุ้มครองข้า” ลูเซียนตอบอย่างใจเย็น ในหัวของเขาตอนนี้ เริ่มรู้สึกว่าการตามหาลีโออาจไม่ใช่ความคิดที่ดี เพราะเห็นชัดๆ ว่าลีโอกำลังมีปัญหาบางอย่าง ชายผู้ไม่มีตาซ้ายคนนี้ยังไม่ยอมรามือจากลูเซียน แต่ยังคุกคามเขาต่อ “ใครแนะนำลีโอให้เจ้า! คุ้มครองเจ้าจากอะไร?” ทันทีที่เขาพูดคำสุดท้ายจบ มือซ้ายที่สวมถุงมือของลูเซียนก็ผละออกจากถ้วยเหล้าและคว้าเข้าที่คอหอยของชายคนนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็ว เร็วมาก ชายคนนี้เห็นเพียงเงา ลูเซียนยิ้ม “แม่ของเจ้าคงไม่เคยสอนสินะ ว่าอย่าแส่เรื่องชาวบ้าน?” “เจ้า… ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ถ้าเจ้ายังอยากมีชีวิตรอดออกจากเมือง!! เจ้านายของข้า…” ชายคนนี้ยังไม่หยุดข่มขู่ลูเซียน อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา เขาก็แทบหายใจไม่ออกเพราะลูเซียนออกแรงบีบคอเขามากขึ้น “เจ้ารู้ไหม? ข้าไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดจากเมืองนี้หรือไม่ แต่ถ้าเจ้ายังไม่หยุดพล่าม ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะไม่มีชีวิตรอดจากบาร์นี้ ข้าจะบอกความลับเจ้าอย่างหนึ่ง ข้าก็ใหญ่เหมือนกัน” หน้าของชายคนแดงจัดด้วยความโกรธ แต่เขาก็พูดอะไรไม่ออกสักคำ เมื่อลูกน้องของเขารู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น และกำลังจะชักดาบออกมาเพื่อช่วยลูกพี่ ชายคนหนึ่งในเกราะดำเหมือนกันก็ตะโกนบอกพวกเขามาจากประตูด้านหลังของบาร์ “ลีโออยู่ที่นี่! ในห้องใต้ดินของบาร์!” หน้าของบาร์เทนเดอร์ซีดเผือด ทันทีที่เขากำลังจะวิ่งออกจากด้านหลังเคาน์เตอร์ ก็มีนักดาบคนหนึ่งหยุดเขาไว้ พวกลูกสมุนคนอื่นๆ ต่างวิ่งกรูไปยังด้านหลังบาร์ ราวกับว่าพวกเขาลืมว่าลูกพี่กำลังเจอปัญหาอะไร อีกฝั่งหนึ่งของโถงกลางบาร์ ชายสองคนซึ่งระดับใกล้เคียงกับอัศวินตัวจริงก็กระโดดขึ้นมาจากเก้าอี้และวิ่งไปยังประตูหลัง ลูเซียนรู้สึกขบขัน ปล่อยมือจากคอหอยของชายคนนั้น และส่ายหน้าด้วยความสงสาร “แย่จัง… คนใหญ่คนโตที่เจ้าว่าดูเหมือนจะไม่สนใจเจ้าเลย ถึงข้าจะฆ่าเจ้า เขาก็คงไม่สน ขุนนางคนไหนส่งเจ้ามาที่นี่?” “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นขุนนาง?” ชายร่างใหญ่ตัวสูงยาวถามด้วยความประหลาดใจ ลูเซียนตบเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางเบาๆ แล้วยืนขึ้นจากเก้าอี้ ………………………

กูซอนพูดซ้ำคำด้วยท่าทีสับสน “ผ่านจักรวรรดิชาชราน?”

ลูเซียนหยุดเดินเข้าไปใกล้กูซอน และยืนอยู่ที่ขั้นบันได ซึ่งยังมีพวกองครักษ์นอนกองอยู่บนพื้น ขณะที่มือสองข้างของเขายังล่วงอยู่ในกระเป๋า แขกคนอื่นๆ ที่มาซื้อหาข่าวสารข้อมูลต่างซ่อนตัวอยู่ในซุ้มด้วยความรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ

“ใช่ ข้าต้องการเดินทางผ่านดินแดนของจักรวรรดิ และไปยังประเทศต่างๆ ตามรอยพระเจ้าองค์อื่นๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเทือกเขาแห่งความมืด” ลูเซียนพยักหน้า “ข้ามั่นใจว่าท่านรู้ว่าข้าเป็นนักเวท ท่านกูซอน ข้าต้องการคนนำทางที่รู้ลึกถึงภูมิศาสตร์ของประเทศ วัฒนธรรม และมีพลังพอที่จะช่วยให้ข้าไปถึงจุดหมายปลายทางโดยไม่ถูกไล่ล่าจากศาสนจักรฝ่ายเหนือ”

จากข้อมูลของแกสตัน ลูเซียนรู้ว่าศาสนจักรเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมช่องแคบสตอร์ม ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจขึ้นรถไฟเวทมนตร์ไปยังเมืองอันโด่งดังทางตอนเหนือที่ชื่อว่า ‘ดีปซีพอร์ต’ ผ่านอาณาจักรโฮล์มและโคเล็ตต์ หลังจากนั้น ลูเซียนใช้เวลาอีกสองเดือนเดินทางผ่านป่าซึ่งเป็นถิ่นของพวกโทรลและออร์ค จนมาถึง ‘อีสต์เฮเวน ’ ในที่สุด ซึ่งป่าบรรพกาลของเมืองตั้งอยู่ใกล้กับ ‘ป้อมปราการอัคคี’ ของจักรวรรดิ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเซกรู

ระหว่างนั้น ลูเซียนได้สร้างเวทมนตร์ระดับสามที่สำคัญมากบนหนึ่งขึ้นมา ‘เวทลบล้างเวทมนตร์’

เหตุผลที่ลูเซียนต้องการเดินทางผ่านทางนี้ก็เพราะจักรวรรดิชาชรานมีอาณาเขตติดกับ ‘ราชภัฏไวโอเล็ต’ ทางตะวันตกเฉียงใต้

หลังจากลูเซียนอธิบายด้วยความจริงเพียงครึ่งหนึ่ง กูซอนก็เข้าใจถึงความต้องการของลูเซียนคร่าวๆ เขาสูดลมหายใจลึกสองสามรอบและพยายามเรียกท่าทางความเป็นผู้นำกลับมา “ท่านขอรับ ก็เพราะศาสนจักร ท่านจึงไม่อาจบินข้ามจักรวรรดิได้ แต่ต้องการเดินทางทางบกด้วยความช่วยเหลือจากคนนำทางท้องถิ่น ถูกต้องไหมขอรับ?”

“ถูกต้อง ท่านกูซอน” แม้ว่าลูเซียนกำลังยิ้ม จริงๆ แล้วเขาก็อยากบินจากที่นี่ไปยังจุดหมายเสียเลย ซึ่งเขาจะใช้เวลาเพียงสามถึงสี่วันเท่านั้น และจะเร็วกว่าการเดินทางทางบกมากนัก

กูซอนเห็นว่าลูเซียนไม่ใช่พวกจอมเวทที่ชั่วร้าย หลังจากหยุดคิดพักหนึ่ง เขาก็ตอบออกมา “ท่านขอรับ ข้าขอแนะนำ ลีโอ เขาเคยเป็นผู้ช่วยคณะลักลอบขนสินค้าเจ้าใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิชาชราน ซึ่งกิจการของพวกเขากินพื้นที่ไกลไปถึงประเทศต่างๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเทือกเขา นั่นรวมถึงราชรัฐไวโอเล็ต แต่ตอนหลังเขามีปัญหากับพวกลักลอบขนสินค้า จนพวกนั้นสังหารครอบครัวของลีโอ ลีโอเป็นคนเดียวที่รอดตายและหนีมาที่นี่ เมืองเซกรู พร้อมกับตำราเวทมนตร์อันมีค่าของเขา ความต้องการแก้แค้นอันแรงกล้าและพลังที่ใกล้เคียงกับระดับอัศวินตัวจริงทำให้เขาอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าจะยากเย็นเพียงไรก็ตาม ตอนนี้ เขารับงานทั้งหมดเพื่อเก็บเงินไว้ซื้อน้ำยาวิเศษโดยหวังว่าจะแข็งแรงขึ้นและแก้แค้นให้สำเร็จ อีกอย่างนะขอรับ ลีโอเชี่ยวชาญในการช่วยปลอมตัวโดยไม่ต้องใช้เวทมนตร์ แล้วเขารู้จักจักรวรรดิแห่งนี้เป็นอย่างดี”

ลูเซียนตอบโดยยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า “เขาอาจไม่ใช่คนที่ข้าต้องการตัว ถ้าเราไปถึงจักรวรรดิ แล้วเขาไปเจอกับพวกลักลอบขนสินค้า เขาอาจคุมตัวเองไม่อยู่”

“ไม่ต้องห่วงขอรับ ลีโอถือสัตย์ตามธรรมเนียมอัศวิน ตราบใดที่ท่านทั้งสองทำสัญญากัน ข้ามั่นใจว่าเขาจะไม่ผิดคำพูดและจะทำภารกิจอย่างดีที่สุด” กูซอนยืนยัน “นี่อาจเป็นสาเหตุที่เขามีเรื่องกับพวกขนของเถื่อน ท่านขอรับ ลีโอเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของท่าน”

ลูเซียนหยุดคิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะพยักหน้า “ข้าขอเจอกับเขาก่อน”

“ท่านจะไม่ผิดหวัง” กูซอนพูดต่อ “อีกอย่างหนึ่งคือเขาไม่ค่อยออกมาให้ใครเห็นมากนัก เรารู้แค่ว่า ช่วงนี้ มีคนเห็นเขาบ่อยๆ ที่บาร์เหล้าชื่อ ทารัน”

ตอนนั้นเอง กูซอนสังเกตว่าดวงตาของชายหนุ่มทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งอยู่ภายใต้แว่นตาข้างเดียวและตาเปล่าอีกข้างหนึ่ง มีน้ำวนหมุนอย่างรวดเร็วอยู่ภายใน แล้วเขาก็ขาดสติสัมปชัญญะ

ลูเซียนร่าย ‘เวทลวงใจคน’ ใส่กูซอนและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับมา หลังจากนั้นเขายังร่าย ‘เวทสะกดจิต’ ใส่กูซอน เพื่อลบความทรงจำส่วนที่สำคัญเกี่ยวกับตัวเขา แม้ว่าลูเซียนจะไม่สามารถเขียนความทรงจำของเป้าหมายขึ้นมาใหม่ และไม่สามารถลบความทรงจำทั้งหมด แต่การลบข้อมูลสำคัญก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพื่อให้กูซอนไม่สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับตัวลูเซียนได้ หากมีใครมาไล่ล่าเขา

นอกจากนี้ แม้กระทั่งความทรงจำเกี่ยวกับรูปร่างลักษณะของลูเซียนก็จะไม่ถูกต้อง เนื่องจากลูเซียนปลอมตัวมาอย่างดีก่อนที่จะออกเดินทาง

ในฐานะเจ้าของรางวัล ‘มงกุฎแห่งโฮล์ม’ ลูเซียนเองก็ไม่มั่นใจว่าศาสนจักร ไม่ว่าจะฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ รู้จักหน้าตาเขาหรือไม่ เนื่องจากพระคาร์ดินัลและผู้พิทักษ์ราตรีจะสามารถตรวจเจอเวทมนตร์ระดับหนึ่ง ‘เวทแปลงกาย’ ได้ไม่ยาก และเพราะลูเซียนไม่เชี่ยวชาญใน ‘สำนักแปลงกาย’ เขาจึงใช้การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเพื่อปลอมตัว ไม่ว่าพื้นรองเท้าเพิ่มความสูง กระจกตาสีน้ำตาลที่ทำมาจากลูกตาดำของสัตว์เวทเพื่อเปลี่ยนสีตา และแม้กระทั่งหนวดเคราที่ตัดเล็มอย่างดี ประกอบกับแว่นตาข้างเดียว ด้วยเครื่องแต่งกายพวกนี้ ลูเซียนก็ดูโก้หรูทีเดียว

หลังจากผ่านไปพักใหญ่ กูซอนก็ค่อยๆ ได้สติกลับมา ราวกับเพิ่งตื่นจากฝันร้าย

“พวกอัศวินไปไหน?” กูซอนพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทันทีที่เขาพยายามคิด เขาก็ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ในฐานะผู้นำของกลุ่มขายข่าวกรอง เขาก็ตระหนักได้ถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น มีชายส่งพลังมาที่นี่ และชายผู้นั้นลบความทรงจำของเขา เขาจึงเลิกคิดถึงเรื่องนั้นในทันที

เมื่อมองไปยังลูกสมุนที่นอนกองอยู่บนพื้นอย่างหมดสภาพ กูซอนก็รู้สึกโมโหขึ้นมา “ให้ตายเถอะ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ! ลุกขึ้นไปเปลี่ยนกางเกงเหม็นฉี่ของพวกเจ้า! ตามอัศวินพวกนั้นกลับมาด้วย!”

แผ่นป้ายด้านหน้าบาร์เหล้าเขียนว่า ‘บาร์ทารัน ทารันแห่งอีสต์เฮเวน ’

ลูเซียนผลักเปิดประตูและเดินเข้าไปภายในบาร์ ทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้ามา สายตาทุกคู่ในบาร์ก็จับจ้องมาที่เขา แต่เพียงชั่วอึดใจ ในวินาทีต่อมา สายตาเหล่านั้นก็หันกลับไป แล้วเสียงหัวเราะ เสียงสนทนา และสิ่งตะโกนก็ดำเนินต่อไปราวกับไม่เคยหยุด

ตอนที่ลูเซียนใช้พลังควบคุมจิตใจของโทนี่ องครักษ์เฝ้ากระท่อมไม้ ต่อหน้าคนอื่นๆ เขาตั้งใจแสดงให้คนอื่นๆ ในอีสต์เฮเวน ได้เห็นถึงพลังของเขา ลูกค้าบางคนในบาร์เหล้าก็รู้ว่าลูเซียนมีพลังแบบไหน ดังนั้น พวกเขาจึงพยายามอยู่ให้ห่างจากลูเซียน เมื่อเห็นดังนั้น คนอื่นที่ไม่รู้จักพลังของลูเซียนต่างก็ต้องระวังตัวเป็นพิเศษไว้ก่อน

นี่เป็นวิธีเอาชีวิตรอดในอีสต์เฮเวน แห่งนี้! ผู้มาจากต่างเมืองโดยไม่มีพลังหรือรู้จักคนใหญ่คนโตในเมืองนี้จะมีจุดจบอย่างเดียว คือความตาย

ผู้คนส่วนใหญ่ที่นี่ไม่มีใครอยากอยู่ในเมืองนี้ไปตลอดชีวิต พวกเขาหวังเพียงมากอบโกยเงินก่อนจะย้ายออกไป แน่นอน บางคนก็มีความสุขเปี่ยมล้นในเมืองแห่งนี้ พวกเขาชอบความตื่นเต้นและอิสรภาพที่มีในเมืองนี้เป็นอย่างมาก

อากัปกิริยาสุขุมและสง่าผ่าเผยของลูเซียนเป็นหลักฐานที่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เหมาะกับที่นี่ ขณะเดินผ่านเก้าอี้ที่ตั้งขวางอยู่ ลูเซียนเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์หน้าบาร์ “สวัสดี ข้ามาตามหาคน” บาร์เทนเดอร์ผมทองตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง ขณะกำลังเช็ดแก้วอยู่ “ท่านต้องสั่งอะไรเสียก่อน”

“ขอเลสเซอแก้วหนึ่ง” นี่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรกที่ลูเซียนรู้จักในโลกใบนี้

ในที่สุด ชายหนุ่มผมทองก็เงยหน้าขึ้นมา เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่มีลักษณะท่าทางเอาเรื่องอยู่ที่บ่มเพาะมาจากสถานที่ป่าเถื่อนแห่งนี้

หลังจากส่งเครื่องดื่มสีทองแก้วหนึ่งให้กับลูเซียน เขาก็ถามออกมา “ตามหาใคร?”

“ลีโอ” ลูเซียนจ้องไปที่สุราสีทองเหมือนกำลังดื่มด่ำกับงานศิลปะ “ข้ากำลังตามหาลีโอ”

“ไม่ใช่ท่านคนเดียวที่ตามหาเขา” บาร์เทนเดอร์ตอบคำถามลูเซียนอย่างกำกวม

“ข้าอยากจ้างงานเขา” ลูเซียนจองหน้าบาร์เทนเดอร์

“พวกนั้นก็เหมือนกัน” บาร์เทนเดอร์ตอบด้วยน้ำเสียงไม่แยแส

เมื่อได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคน กลุ่มชายสวมเสื้อเกราะท่าทางแข็งแรงหลายคนผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ เสียงเกราะโลหะกระทบกันดังเกรียวกราว

หัวหน้าของกลุ่มเป็นชายที่มีอายุอยู่ในช่วงระหว่างสามสิบ  เขาไม่มีลูกตาซ้าย

ลากดาบขนาดใหญ่มาตามพื้น เกราะเท้าของเขากระทบพื้นเสียงดัง ชายร่างใหญ่ตัวสูงยาวเดินมาอยู่ตรงหน้าลูเซียน เขาโน้มตัวลงมาใกล้และพูดด้วยน้ำเสียงคุกคาม “ทำไมเจ้าถึงรู้จักลีโอ? เจ้าเจอมันครั้งสุดท้ายเมื่อไร? ข้ากำลังตามหามันให้กับคนใหญ่คนโตในอีสต์เฮเวน นี้ รู้อะไรก็บอกมาให้หมด ถ้าเจ้ายังอยากเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นวันพรุ่งนี้”

“ข้าไม่รู้จัก ลีโอ ข้าแค่อยากจ้างเขามาคุ้มครองข้า” ลูเซียนตอบอย่างใจเย็น ในหัวของเขาตอนนี้ เริ่มรู้สึกว่าการตามหาลีโออาจไม่ใช่ความคิดที่ดี เพราะเห็นชัดๆ ว่าลีโอกำลังมีปัญหาบางอย่าง

ชายผู้ไม่มีตาซ้ายคนนี้ยังไม่ยอมรามือจากลูเซียน แต่ยังคุกคามเขาต่อ “ใครแนะนำลีโอให้เจ้า! คุ้มครองเจ้าจากอะไร?”

ทันทีที่เขาพูดคำสุดท้ายจบ มือซ้ายที่สวมถุงมือของลูเซียนก็ผละออกจากถ้วยเหล้าและคว้าเข้าที่คอหอยของชายคนนี้

เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็ว เร็วมาก ชายคนนี้เห็นเพียงเงา

ลูเซียนยิ้ม “แม่ของเจ้าคงไม่เคยสอนสินะ ว่าอย่าแส่เรื่องชาวบ้าน?”

“เจ้า… ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ถ้าเจ้ายังอยากมีชีวิตรอดออกจากเมือง!! เจ้านายของข้า…” ชายคนนี้ยังไม่หยุดข่มขู่ลูเซียน อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา เขาก็แทบหายใจไม่ออกเพราะลูเซียนออกแรงบีบคอเขามากขึ้น

“เจ้ารู้ไหม? ข้าไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดจากเมืองนี้หรือไม่ แต่ถ้าเจ้ายังไม่หยุดพล่าม ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะไม่มีชีวิตรอดจากบาร์นี้ ข้าจะบอกความลับเจ้าอย่างหนึ่ง ข้าก็ใหญ่เหมือนกัน”

หน้าของชายคนแดงจัดด้วยความโกรธ แต่เขาก็พูดอะไรไม่ออกสักคำ เมื่อลูกน้องของเขารู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น และกำลังจะชักดาบออกมาเพื่อช่วยลูกพี่ ชายคนหนึ่งในเกราะดำเหมือนกันก็ตะโกนบอกพวกเขามาจากประตูด้านหลังของบาร์

“ลีโออยู่ที่นี่! ในห้องใต้ดินของบาร์!”

หน้าของบาร์เทนเดอร์ซีดเผือด ทันทีที่เขากำลังจะวิ่งออกจากด้านหลังเคาน์เตอร์ ก็มีนักดาบคนหนึ่งหยุดเขาไว้ พวกลูกสมุนคนอื่นๆ ต่างวิ่งกรูไปยังด้านหลังบาร์ ราวกับว่าพวกเขาลืมว่าลูกพี่กำลังเจอปัญหาอะไร

อีกฝั่งหนึ่งของโถงกลางบาร์ ชายสองคนซึ่งระดับใกล้เคียงกับอัศวินตัวจริงก็กระโดดขึ้นมาจากเก้าอี้และวิ่งไปยังประตูหลัง

ลูเซียนรู้สึกขบขัน ปล่อยมือจากคอหอยของชายคนนั้น และส่ายหน้าด้วยความสงสาร “แย่จัง… คนใหญ่คนโตที่เจ้าว่าดูเหมือนจะไม่สนใจเจ้าเลย ถึงข้าจะฆ่าเจ้า เขาก็คงไม่สน ขุนนางคนไหนส่งเจ้ามาที่นี่?”

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นขุนนาง?” ชายร่างใหญ่ตัวสูงยาวถามด้วยความประหลาดใจ

ลูเซียนตบเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางเบาๆ แล้วยืนขึ้นจากเก้าอี้

………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 257 การแนะนำตัว ‘แสนประทับใจ’

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 257 การแนะนำตัว ‘แสนประทับใจ’ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กูซอนพูดซ้ำคำด้วยท่าทีสับสน “ผ่านจักรวรรดิชาชราน?” ลูเซียนหยุดเดินเข้าไปใกล้กูซอน และยืนอยู่ที่ขั้นบันได ซึ่งยังมีพวกองครักษ์นอนกองอยู่บนพื้น ขณะที่มือสองข้างของเขายังล่วงอยู่ในกระเป๋า แขกคนอื่นๆ ที่มาซื้อหาข่าวสารข้อมูลต่างซ่อนตัวอยู่ในซุ้มด้วยความรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ “ใช่ ข้าต้องการเดินทางผ่านดินแดนของจักรวรรดิ และไปยังประเทศต่างๆ ตามรอยพระเจ้าองค์อื่นๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเทือกเขาแห่งความมืด” ลูเซียนพยักหน้า “ข้ามั่นใจว่าท่านรู้ว่าข้าเป็นนักเวท ท่านกูซอน ข้าต้องการคนนำทางที่รู้ลึกถึงภูมิศาสตร์ของประเทศ วัฒนธรรม และมีพลังพอที่จะช่วยให้ข้าไปถึงจุดหมายปลายทางโดยไม่ถูกไล่ล่าจากศาสนจักรฝ่ายเหนือ” จากข้อมูลของแกสตัน ลูเซียนรู้ว่าศาสนจักรเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมช่องแคบสตอร์ม ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจขึ้นรถไฟเวทมนตร์ไปยังเมืองอันโด่งดังทางตอนเหนือที่ชื่อว่า ‘ดีปซีพอร์ต’ ผ่านอาณาจักรโฮล์มและโคเล็ตต์ หลังจากนั้น ลูเซียนใช้เวลาอีกสองเดือนเดินทางผ่านป่าซึ่งเป็นถิ่นของพวกโทรลและออร์ค จนมาถึง ‘อีสต์เฮเวน ’ ในที่สุด ซึ่งป่าบรรพกาลของเมืองตั้งอยู่ใกล้กับ ‘ป้อมปราการอัคคี’ ของจักรวรรดิ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเซกรู ระหว่างนั้น ลูเซียนได้สร้างเวทมนตร์ระดับสามที่สำคัญมากบนหนึ่งขึ้นมา ‘เวทลบล้างเวทมนตร์’ เหตุผลที่ลูเซียนต้องการเดินทางผ่านทางนี้ก็เพราะจักรวรรดิชาชรานมีอาณาเขตติดกับ ‘ราชภัฏไวโอเล็ต’ ทางตะวันตกเฉียงใต้ หลังจากลูเซียนอธิบายด้วยความจริงเพียงครึ่งหนึ่ง กูซอนก็เข้าใจถึงความต้องการของลูเซียนคร่าวๆ เขาสูดลมหายใจลึกสองสามรอบและพยายามเรียกท่าทางความเป็นผู้นำกลับมา “ท่านขอรับ ก็เพราะศาสนจักร ท่านจึงไม่อาจบินข้ามจักรวรรดิได้ แต่ต้องการเดินทางทางบกด้วยความช่วยเหลือจากคนนำทางท้องถิ่น ถูกต้องไหมขอรับ?” “ถูกต้อง ท่านกูซอน” แม้ว่าลูเซียนกำลังยิ้ม จริงๆ แล้วเขาก็อยากบินจากที่นี่ไปยังจุดหมายเสียเลย ซึ่งเขาจะใช้เวลาเพียงสามถึงสี่วันเท่านั้น และจะเร็วกว่าการเดินทางทางบกมากนัก กูซอนเห็นว่าลูเซียนไม่ใช่พวกจอมเวทที่ชั่วร้าย หลังจากหยุดคิดพักหนึ่ง เขาก็ตอบออกมา “ท่านขอรับ ข้าขอแนะนำ ลีโอ เขาเคยเป็นผู้ช่วยคณะลักลอบขนสินค้าเจ้าใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิชาชราน ซึ่งกิจการของพวกเขากินพื้นที่ไกลไปถึงประเทศต่างๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเทือกเขา นั่นรวมถึงราชรัฐไวโอเล็ต แต่ตอนหลังเขามีปัญหากับพวกลักลอบขนสินค้า จนพวกนั้นสังหารครอบครัวของลีโอ ลีโอเป็นคนเดียวที่รอดตายและหนีมาที่นี่ เมืองเซกรู พร้อมกับตำราเวทมนตร์อันมีค่าของเขา ความต้องการแก้แค้นอันแรงกล้าและพลังที่ใกล้เคียงกับระดับอัศวินตัวจริงทำให้เขาอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าจะยากเย็นเพียงไรก็ตาม ตอนนี้ เขารับงานทั้งหมดเพื่อเก็บเงินไว้ซื้อน้ำยาวิเศษโดยหวังว่าจะแข็งแรงขึ้นและแก้แค้นให้สำเร็จ อีกอย่างนะขอรับ ลีโอเชี่ยวชาญในการช่วยปลอมตัวโดยไม่ต้องใช้เวทมนตร์ แล้วเขารู้จักจักรวรรดิแห่งนี้เป็นอย่างดี” ลูเซียนตอบโดยยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า “เขาอาจไม่ใช่คนที่ข้าต้องการตัว ถ้าเราไปถึงจักรวรรดิ แล้วเขาไปเจอกับพวกลักลอบขนสินค้า เขาอาจคุมตัวเองไม่อยู่” “ไม่ต้องห่วงขอรับ ลีโอถือสัตย์ตามธรรมเนียมอัศวิน ตราบใดที่ท่านทั้งสองทำสัญญากัน ข้ามั่นใจว่าเขาจะไม่ผิดคำพูดและจะทำภารกิจอย่างดีที่สุด” กูซอนยืนยัน “นี่อาจเป็นสาเหตุที่เขามีเรื่องกับพวกขนของเถื่อน ท่านขอรับ ลีโอเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของท่าน” ลูเซียนหยุดคิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะพยักหน้า “ข้าขอเจอกับเขาก่อน” “ท่านจะไม่ผิดหวัง” กูซอนพูดต่อ “อีกอย่างหนึ่งคือเขาไม่ค่อยออกมาให้ใครเห็นมากนัก เรารู้แค่ว่า ช่วงนี้ มีคนเห็นเขาบ่อยๆ ที่บาร์เหล้าชื่อ ทารัน” ตอนนั้นเอง กูซอนสังเกตว่าดวงตาของชายหนุ่มทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งอยู่ภายใต้แว่นตาข้างเดียวและตาเปล่าอีกข้างหนึ่ง มีน้ำวนหมุนอย่างรวดเร็วอยู่ภายใน แล้วเขาก็ขาดสติสัมปชัญญะ ลูเซียนร่าย ‘เวทลวงใจคน’ ใส่กูซอนและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับมา หลังจากนั้นเขายังร่าย ‘เวทสะกดจิต’ ใส่กูซอน เพื่อลบความทรงจำส่วนที่สำคัญเกี่ยวกับตัวเขา แม้ว่าลูเซียนจะไม่สามารถเขียนความทรงจำของเป้าหมายขึ้นมาใหม่ และไม่สามารถลบความทรงจำทั้งหมด แต่การลบข้อมูลสำคัญก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพื่อให้กูซอนไม่สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับตัวลูเซียนได้ หากมีใครมาไล่ล่าเขา นอกจากนี้ แม้กระทั่งความทรงจำเกี่ยวกับรูปร่างลักษณะของลูเซียนก็จะไม่ถูกต้อง เนื่องจากลูเซียนปลอมตัวมาอย่างดีก่อนที่จะออกเดินทาง ในฐานะเจ้าของรางวัล ‘มงกุฎแห่งโฮล์ม’ ลูเซียนเองก็ไม่มั่นใจว่าศาสนจักร ไม่ว่าจะฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ รู้จักหน้าตาเขาหรือไม่ เนื่องจากพระคาร์ดินัลและผู้พิทักษ์ราตรีจะสามารถตรวจเจอเวทมนตร์ระดับหนึ่ง ‘เวทแปลงกาย’ ได้ไม่ยาก และเพราะลูเซียนไม่เชี่ยวชาญใน ‘สำนักแปลงกาย’ เขาจึงใช้การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเพื่อปลอมตัว ไม่ว่าพื้นรองเท้าเพิ่มความสูง กระจกตาสีน้ำตาลที่ทำมาจากลูกตาดำของสัตว์เวทเพื่อเปลี่ยนสีตา และแม้กระทั่งหนวดเคราที่ตัดเล็มอย่างดี ประกอบกับแว่นตาข้างเดียว ด้วยเครื่องแต่งกายพวกนี้ ลูเซียนก็ดูโก้หรูทีเดียว หลังจากผ่านไปพักใหญ่ กูซอนก็ค่อยๆ ได้สติกลับมา ราวกับเพิ่งตื่นจากฝันร้าย “พวกอัศวินไปไหน?” กูซอนพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทันทีที่เขาพยายามคิด เขาก็ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ในฐานะผู้นำของกลุ่มขายข่าวกรอง เขาก็ตระหนักได้ถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น มีชายส่งพลังมาที่นี่ และชายผู้นั้นลบความทรงจำของเขา เขาจึงเลิกคิดถึงเรื่องนั้นในทันที เมื่อมองไปยังลูกสมุนที่นอนกองอยู่บนพื้นอย่างหมดสภาพ กูซอนก็รู้สึกโมโหขึ้นมา “ให้ตายเถอะ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ! ลุกขึ้นไปเปลี่ยนกางเกงเหม็นฉี่ของพวกเจ้า! ตามอัศวินพวกนั้นกลับมาด้วย!” … แผ่นป้ายด้านหน้าบาร์เหล้าเขียนว่า ‘บาร์ทารัน ทารันแห่งอีสต์เฮเวน ’ ลูเซียนผลักเปิดประตูและเดินเข้าไปภายในบาร์ ทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้ามา สายตาทุกคู่ในบาร์ก็จับจ้องมาที่เขา แต่เพียงชั่วอึดใจ ในวินาทีต่อมา สายตาเหล่านั้นก็หันกลับไป แล้วเสียงหัวเราะ เสียงสนทนา และสิ่งตะโกนก็ดำเนินต่อไปราวกับไม่เคยหยุด ตอนที่ลูเซียนใช้พลังควบคุมจิตใจของโทนี่ องครักษ์เฝ้ากระท่อมไม้ ต่อหน้าคนอื่นๆ เขาตั้งใจแสดงให้คนอื่นๆ ในอีสต์เฮเวน ได้เห็นถึงพลังของเขา ลูกค้าบางคนในบาร์เหล้าก็รู้ว่าลูเซียนมีพลังแบบไหน ดังนั้น พวกเขาจึงพยายามอยู่ให้ห่างจากลูเซียน เมื่อเห็นดังนั้น คนอื่นที่ไม่รู้จักพลังของลูเซียนต่างก็ต้องระวังตัวเป็นพิเศษไว้ก่อน นี่เป็นวิธีเอาชีวิตรอดในอีสต์เฮเวน แห่งนี้! ผู้มาจากต่างเมืองโดยไม่มีพลังหรือรู้จักคนใหญ่คนโตในเมืองนี้จะมีจุดจบอย่างเดียว คือความตาย ผู้คนส่วนใหญ่ที่นี่ไม่มีใครอยากอยู่ในเมืองนี้ไปตลอดชีวิต พวกเขาหวังเพียงมากอบโกยเงินก่อนจะย้ายออกไป แน่นอน บางคนก็มีความสุขเปี่ยมล้นในเมืองแห่งนี้ พวกเขาชอบความตื่นเต้นและอิสรภาพที่มีในเมืองนี้เป็นอย่างมาก อากัปกิริยาสุขุมและสง่าผ่าเผยของลูเซียนเป็นหลักฐานที่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เหมาะกับที่นี่ ขณะเดินผ่านเก้าอี้ที่ตั้งขวางอยู่ ลูเซียนเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์หน้าบาร์ “สวัสดี ข้ามาตามหาคน” บาร์เทนเดอร์ผมทองตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง ขณะกำลังเช็ดแก้วอยู่ “ท่านต้องสั่งอะไรเสียก่อน” “ขอเลสเซอแก้วหนึ่ง” นี่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรกที่ลูเซียนรู้จักในโลกใบนี้ ในที่สุด ชายหนุ่มผมทองก็เงยหน้าขึ้นมา เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่มีลักษณะท่าทางเอาเรื่องอยู่ที่บ่มเพาะมาจากสถานที่ป่าเถื่อนแห่งนี้ หลังจากส่งเครื่องดื่มสีทองแก้วหนึ่งให้กับลูเซียน เขาก็ถามออกมา “ตามหาใคร?” “ลีโอ” ลูเซียนจ้องไปที่สุราสีทองเหมือนกำลังดื่มด่ำกับงานศิลปะ “ข้ากำลังตามหาลีโอ” “ไม่ใช่ท่านคนเดียวที่ตามหาเขา” บาร์เทนเดอร์ตอบคำถามลูเซียนอย่างกำกวม “ข้าอยากจ้างงานเขา” ลูเซียนจองหน้าบาร์เทนเดอร์ “พวกนั้นก็เหมือนกัน” บาร์เทนเดอร์ตอบด้วยน้ำเสียงไม่แยแส เมื่อได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคน กลุ่มชายสวมเสื้อเกราะท่าทางแข็งแรงหลายคนผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ เสียงเกราะโลหะกระทบกันดังเกรียวกราว หัวหน้าของกลุ่มเป็นชายที่มีอายุอยู่ในช่วงระหว่างสามสิบ  เขาไม่มีลูกตาซ้าย ลากดาบขนาดใหญ่มาตามพื้น เกราะเท้าของเขากระทบพื้นเสียงดัง ชายร่างใหญ่ตัวสูงยาวเดินมาอยู่ตรงหน้าลูเซียน เขาโน้มตัวลงมาใกล้และพูดด้วยน้ำเสียงคุกคาม “ทำไมเจ้าถึงรู้จักลีโอ? เจ้าเจอมันครั้งสุดท้ายเมื่อไร? ข้ากำลังตามหามันให้กับคนใหญ่คนโตในอีสต์เฮเวน นี้ รู้อะไรก็บอกมาให้หมด ถ้าเจ้ายังอยากเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นวันพรุ่งนี้” “ข้าไม่รู้จัก ลีโอ ข้าแค่อยากจ้างเขามาคุ้มครองข้า” ลูเซียนตอบอย่างใจเย็น ในหัวของเขาตอนนี้ เริ่มรู้สึกว่าการตามหาลีโออาจไม่ใช่ความคิดที่ดี เพราะเห็นชัดๆ ว่าลีโอกำลังมีปัญหาบางอย่าง ชายผู้ไม่มีตาซ้ายคนนี้ยังไม่ยอมรามือจากลูเซียน แต่ยังคุกคามเขาต่อ “ใครแนะนำลีโอให้เจ้า! คุ้มครองเจ้าจากอะไร?” ทันทีที่เขาพูดคำสุดท้ายจบ มือซ้ายที่สวมถุงมือของลูเซียนก็ผละออกจากถ้วยเหล้าและคว้าเข้าที่คอหอยของชายคนนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็ว เร็วมาก ชายคนนี้เห็นเพียงเงา ลูเซียนยิ้ม “แม่ของเจ้าคงไม่เคยสอนสินะ ว่าอย่าแส่เรื่องชาวบ้าน?” “เจ้า… ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ถ้าเจ้ายังอยากมีชีวิตรอดออกจากเมือง!! เจ้านายของข้า…” ชายคนนี้ยังไม่หยุดข่มขู่ลูเซียน อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา เขาก็แทบหายใจไม่ออกเพราะลูเซียนออกแรงบีบคอเขามากขึ้น “เจ้ารู้ไหม? ข้าไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดจากเมืองนี้หรือไม่ แต่ถ้าเจ้ายังไม่หยุดพล่าม ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะไม่มีชีวิตรอดจากบาร์นี้ ข้าจะบอกความลับเจ้าอย่างหนึ่ง ข้าก็ใหญ่เหมือนกัน” หน้าของชายคนแดงจัดด้วยความโกรธ แต่เขาก็พูดอะไรไม่ออกสักคำ เมื่อลูกน้องของเขารู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น และกำลังจะชักดาบออกมาเพื่อช่วยลูกพี่ ชายคนหนึ่งในเกราะดำเหมือนกันก็ตะโกนบอกพวกเขามาจากประตูด้านหลังของบาร์ “ลีโออยู่ที่นี่! ในห้องใต้ดินของบาร์!” หน้าของบาร์เทนเดอร์ซีดเผือด ทันทีที่เขากำลังจะวิ่งออกจากด้านหลังเคาน์เตอร์ ก็มีนักดาบคนหนึ่งหยุดเขาไว้ พวกลูกสมุนคนอื่นๆ ต่างวิ่งกรูไปยังด้านหลังบาร์ ราวกับว่าพวกเขาลืมว่าลูกพี่กำลังเจอปัญหาอะไร อีกฝั่งหนึ่งของโถงกลางบาร์ ชายสองคนซึ่งระดับใกล้เคียงกับอัศวินตัวจริงก็กระโดดขึ้นมาจากเก้าอี้และวิ่งไปยังประตูหลัง ลูเซียนรู้สึกขบขัน ปล่อยมือจากคอหอยของชายคนนั้น และส่ายหน้าด้วยความสงสาร “แย่จัง… คนใหญ่คนโตที่เจ้าว่าดูเหมือนจะไม่สนใจเจ้าเลย ถึงข้าจะฆ่าเจ้า เขาก็คงไม่สน ขุนนางคนไหนส่งเจ้ามาที่นี่?” “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นขุนนาง?” ชายร่างใหญ่ตัวสูงยาวถามด้วยความประหลาดใจ ลูเซียนตบเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางเบาๆ แล้วยืนขึ้นจากเก้าอี้ ………………………

กูซอนพูดซ้ำคำด้วยท่าทีสับสน “ผ่านจักรวรรดิชาชราน?”

ลูเซียนหยุดเดินเข้าไปใกล้กูซอน และยืนอยู่ที่ขั้นบันได ซึ่งยังมีพวกองครักษ์นอนกองอยู่บนพื้น ขณะที่มือสองข้างของเขายังล่วงอยู่ในกระเป๋า แขกคนอื่นๆ ที่มาซื้อหาข่าวสารข้อมูลต่างซ่อนตัวอยู่ในซุ้มด้วยความรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ

“ใช่ ข้าต้องการเดินทางผ่านดินแดนของจักรวรรดิ และไปยังประเทศต่างๆ ตามรอยพระเจ้าองค์อื่นๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเทือกเขาแห่งความมืด” ลูเซียนพยักหน้า “ข้ามั่นใจว่าท่านรู้ว่าข้าเป็นนักเวท ท่านกูซอน ข้าต้องการคนนำทางที่รู้ลึกถึงภูมิศาสตร์ของประเทศ วัฒนธรรม และมีพลังพอที่จะช่วยให้ข้าไปถึงจุดหมายปลายทางโดยไม่ถูกไล่ล่าจากศาสนจักรฝ่ายเหนือ”

จากข้อมูลของแกสตัน ลูเซียนรู้ว่าศาสนจักรเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมช่องแคบสตอร์ม ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจขึ้นรถไฟเวทมนตร์ไปยังเมืองอันโด่งดังทางตอนเหนือที่ชื่อว่า ‘ดีปซีพอร์ต’ ผ่านอาณาจักรโฮล์มและโคเล็ตต์ หลังจากนั้น ลูเซียนใช้เวลาอีกสองเดือนเดินทางผ่านป่าซึ่งเป็นถิ่นของพวกโทรลและออร์ค จนมาถึง ‘อีสต์เฮเวน ’ ในที่สุด ซึ่งป่าบรรพกาลของเมืองตั้งอยู่ใกล้กับ ‘ป้อมปราการอัคคี’ ของจักรวรรดิ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเซกรู

ระหว่างนั้น ลูเซียนได้สร้างเวทมนตร์ระดับสามที่สำคัญมากบนหนึ่งขึ้นมา ‘เวทลบล้างเวทมนตร์’

เหตุผลที่ลูเซียนต้องการเดินทางผ่านทางนี้ก็เพราะจักรวรรดิชาชรานมีอาณาเขตติดกับ ‘ราชภัฏไวโอเล็ต’ ทางตะวันตกเฉียงใต้

หลังจากลูเซียนอธิบายด้วยความจริงเพียงครึ่งหนึ่ง กูซอนก็เข้าใจถึงความต้องการของลูเซียนคร่าวๆ เขาสูดลมหายใจลึกสองสามรอบและพยายามเรียกท่าทางความเป็นผู้นำกลับมา “ท่านขอรับ ก็เพราะศาสนจักร ท่านจึงไม่อาจบินข้ามจักรวรรดิได้ แต่ต้องการเดินทางทางบกด้วยความช่วยเหลือจากคนนำทางท้องถิ่น ถูกต้องไหมขอรับ?”

“ถูกต้อง ท่านกูซอน” แม้ว่าลูเซียนกำลังยิ้ม จริงๆ แล้วเขาก็อยากบินจากที่นี่ไปยังจุดหมายเสียเลย ซึ่งเขาจะใช้เวลาเพียงสามถึงสี่วันเท่านั้น และจะเร็วกว่าการเดินทางทางบกมากนัก

กูซอนเห็นว่าลูเซียนไม่ใช่พวกจอมเวทที่ชั่วร้าย หลังจากหยุดคิดพักหนึ่ง เขาก็ตอบออกมา “ท่านขอรับ ข้าขอแนะนำ ลีโอ เขาเคยเป็นผู้ช่วยคณะลักลอบขนสินค้าเจ้าใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิชาชราน ซึ่งกิจการของพวกเขากินพื้นที่ไกลไปถึงประเทศต่างๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเทือกเขา นั่นรวมถึงราชรัฐไวโอเล็ต แต่ตอนหลังเขามีปัญหากับพวกลักลอบขนสินค้า จนพวกนั้นสังหารครอบครัวของลีโอ ลีโอเป็นคนเดียวที่รอดตายและหนีมาที่นี่ เมืองเซกรู พร้อมกับตำราเวทมนตร์อันมีค่าของเขา ความต้องการแก้แค้นอันแรงกล้าและพลังที่ใกล้เคียงกับระดับอัศวินตัวจริงทำให้เขาอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าจะยากเย็นเพียงไรก็ตาม ตอนนี้ เขารับงานทั้งหมดเพื่อเก็บเงินไว้ซื้อน้ำยาวิเศษโดยหวังว่าจะแข็งแรงขึ้นและแก้แค้นให้สำเร็จ อีกอย่างนะขอรับ ลีโอเชี่ยวชาญในการช่วยปลอมตัวโดยไม่ต้องใช้เวทมนตร์ แล้วเขารู้จักจักรวรรดิแห่งนี้เป็นอย่างดี”

ลูเซียนตอบโดยยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า “เขาอาจไม่ใช่คนที่ข้าต้องการตัว ถ้าเราไปถึงจักรวรรดิ แล้วเขาไปเจอกับพวกลักลอบขนสินค้า เขาอาจคุมตัวเองไม่อยู่”

“ไม่ต้องห่วงขอรับ ลีโอถือสัตย์ตามธรรมเนียมอัศวิน ตราบใดที่ท่านทั้งสองทำสัญญากัน ข้ามั่นใจว่าเขาจะไม่ผิดคำพูดและจะทำภารกิจอย่างดีที่สุด” กูซอนยืนยัน “นี่อาจเป็นสาเหตุที่เขามีเรื่องกับพวกขนของเถื่อน ท่านขอรับ ลีโอเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของท่าน”

ลูเซียนหยุดคิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะพยักหน้า “ข้าขอเจอกับเขาก่อน”

“ท่านจะไม่ผิดหวัง” กูซอนพูดต่อ “อีกอย่างหนึ่งคือเขาไม่ค่อยออกมาให้ใครเห็นมากนัก เรารู้แค่ว่า ช่วงนี้ มีคนเห็นเขาบ่อยๆ ที่บาร์เหล้าชื่อ ทารัน”

ตอนนั้นเอง กูซอนสังเกตว่าดวงตาของชายหนุ่มทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งอยู่ภายใต้แว่นตาข้างเดียวและตาเปล่าอีกข้างหนึ่ง มีน้ำวนหมุนอย่างรวดเร็วอยู่ภายใน แล้วเขาก็ขาดสติสัมปชัญญะ

ลูเซียนร่าย ‘เวทลวงใจคน’ ใส่กูซอนและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับมา หลังจากนั้นเขายังร่าย ‘เวทสะกดจิต’ ใส่กูซอน เพื่อลบความทรงจำส่วนที่สำคัญเกี่ยวกับตัวเขา แม้ว่าลูเซียนจะไม่สามารถเขียนความทรงจำของเป้าหมายขึ้นมาใหม่ และไม่สามารถลบความทรงจำทั้งหมด แต่การลบข้อมูลสำคัญก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพื่อให้กูซอนไม่สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับตัวลูเซียนได้ หากมีใครมาไล่ล่าเขา

นอกจากนี้ แม้กระทั่งความทรงจำเกี่ยวกับรูปร่างลักษณะของลูเซียนก็จะไม่ถูกต้อง เนื่องจากลูเซียนปลอมตัวมาอย่างดีก่อนที่จะออกเดินทาง

ในฐานะเจ้าของรางวัล ‘มงกุฎแห่งโฮล์ม’ ลูเซียนเองก็ไม่มั่นใจว่าศาสนจักร ไม่ว่าจะฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ รู้จักหน้าตาเขาหรือไม่ เนื่องจากพระคาร์ดินัลและผู้พิทักษ์ราตรีจะสามารถตรวจเจอเวทมนตร์ระดับหนึ่ง ‘เวทแปลงกาย’ ได้ไม่ยาก และเพราะลูเซียนไม่เชี่ยวชาญใน ‘สำนักแปลงกาย’ เขาจึงใช้การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเพื่อปลอมตัว ไม่ว่าพื้นรองเท้าเพิ่มความสูง กระจกตาสีน้ำตาลที่ทำมาจากลูกตาดำของสัตว์เวทเพื่อเปลี่ยนสีตา และแม้กระทั่งหนวดเคราที่ตัดเล็มอย่างดี ประกอบกับแว่นตาข้างเดียว ด้วยเครื่องแต่งกายพวกนี้ ลูเซียนก็ดูโก้หรูทีเดียว

หลังจากผ่านไปพักใหญ่ กูซอนก็ค่อยๆ ได้สติกลับมา ราวกับเพิ่งตื่นจากฝันร้าย

“พวกอัศวินไปไหน?” กูซอนพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทันทีที่เขาพยายามคิด เขาก็ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ในฐานะผู้นำของกลุ่มขายข่าวกรอง เขาก็ตระหนักได้ถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น มีชายส่งพลังมาที่นี่ และชายผู้นั้นลบความทรงจำของเขา เขาจึงเลิกคิดถึงเรื่องนั้นในทันที

เมื่อมองไปยังลูกสมุนที่นอนกองอยู่บนพื้นอย่างหมดสภาพ กูซอนก็รู้สึกโมโหขึ้นมา “ให้ตายเถอะ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ! ลุกขึ้นไปเปลี่ยนกางเกงเหม็นฉี่ของพวกเจ้า! ตามอัศวินพวกนั้นกลับมาด้วย!”

แผ่นป้ายด้านหน้าบาร์เหล้าเขียนว่า ‘บาร์ทารัน ทารันแห่งอีสต์เฮเวน ’

ลูเซียนผลักเปิดประตูและเดินเข้าไปภายในบาร์ ทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้ามา สายตาทุกคู่ในบาร์ก็จับจ้องมาที่เขา แต่เพียงชั่วอึดใจ ในวินาทีต่อมา สายตาเหล่านั้นก็หันกลับไป แล้วเสียงหัวเราะ เสียงสนทนา และสิ่งตะโกนก็ดำเนินต่อไปราวกับไม่เคยหยุด

ตอนที่ลูเซียนใช้พลังควบคุมจิตใจของโทนี่ องครักษ์เฝ้ากระท่อมไม้ ต่อหน้าคนอื่นๆ เขาตั้งใจแสดงให้คนอื่นๆ ในอีสต์เฮเวน ได้เห็นถึงพลังของเขา ลูกค้าบางคนในบาร์เหล้าก็รู้ว่าลูเซียนมีพลังแบบไหน ดังนั้น พวกเขาจึงพยายามอยู่ให้ห่างจากลูเซียน เมื่อเห็นดังนั้น คนอื่นที่ไม่รู้จักพลังของลูเซียนต่างก็ต้องระวังตัวเป็นพิเศษไว้ก่อน

นี่เป็นวิธีเอาชีวิตรอดในอีสต์เฮเวน แห่งนี้! ผู้มาจากต่างเมืองโดยไม่มีพลังหรือรู้จักคนใหญ่คนโตในเมืองนี้จะมีจุดจบอย่างเดียว คือความตาย

ผู้คนส่วนใหญ่ที่นี่ไม่มีใครอยากอยู่ในเมืองนี้ไปตลอดชีวิต พวกเขาหวังเพียงมากอบโกยเงินก่อนจะย้ายออกไป แน่นอน บางคนก็มีความสุขเปี่ยมล้นในเมืองแห่งนี้ พวกเขาชอบความตื่นเต้นและอิสรภาพที่มีในเมืองนี้เป็นอย่างมาก

อากัปกิริยาสุขุมและสง่าผ่าเผยของลูเซียนเป็นหลักฐานที่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เหมาะกับที่นี่ ขณะเดินผ่านเก้าอี้ที่ตั้งขวางอยู่ ลูเซียนเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์หน้าบาร์ “สวัสดี ข้ามาตามหาคน” บาร์เทนเดอร์ผมทองตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง ขณะกำลังเช็ดแก้วอยู่ “ท่านต้องสั่งอะไรเสียก่อน”

“ขอเลสเซอแก้วหนึ่ง” นี่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรกที่ลูเซียนรู้จักในโลกใบนี้

ในที่สุด ชายหนุ่มผมทองก็เงยหน้าขึ้นมา เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่มีลักษณะท่าทางเอาเรื่องอยู่ที่บ่มเพาะมาจากสถานที่ป่าเถื่อนแห่งนี้

หลังจากส่งเครื่องดื่มสีทองแก้วหนึ่งให้กับลูเซียน เขาก็ถามออกมา “ตามหาใคร?”

“ลีโอ” ลูเซียนจ้องไปที่สุราสีทองเหมือนกำลังดื่มด่ำกับงานศิลปะ “ข้ากำลังตามหาลีโอ”

“ไม่ใช่ท่านคนเดียวที่ตามหาเขา” บาร์เทนเดอร์ตอบคำถามลูเซียนอย่างกำกวม

“ข้าอยากจ้างงานเขา” ลูเซียนจองหน้าบาร์เทนเดอร์

“พวกนั้นก็เหมือนกัน” บาร์เทนเดอร์ตอบด้วยน้ำเสียงไม่แยแส

เมื่อได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคน กลุ่มชายสวมเสื้อเกราะท่าทางแข็งแรงหลายคนผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ เสียงเกราะโลหะกระทบกันดังเกรียวกราว

หัวหน้าของกลุ่มเป็นชายที่มีอายุอยู่ในช่วงระหว่างสามสิบ  เขาไม่มีลูกตาซ้าย

ลากดาบขนาดใหญ่มาตามพื้น เกราะเท้าของเขากระทบพื้นเสียงดัง ชายร่างใหญ่ตัวสูงยาวเดินมาอยู่ตรงหน้าลูเซียน เขาโน้มตัวลงมาใกล้และพูดด้วยน้ำเสียงคุกคาม “ทำไมเจ้าถึงรู้จักลีโอ? เจ้าเจอมันครั้งสุดท้ายเมื่อไร? ข้ากำลังตามหามันให้กับคนใหญ่คนโตในอีสต์เฮเวน นี้ รู้อะไรก็บอกมาให้หมด ถ้าเจ้ายังอยากเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นวันพรุ่งนี้”

“ข้าไม่รู้จัก ลีโอ ข้าแค่อยากจ้างเขามาคุ้มครองข้า” ลูเซียนตอบอย่างใจเย็น ในหัวของเขาตอนนี้ เริ่มรู้สึกว่าการตามหาลีโออาจไม่ใช่ความคิดที่ดี เพราะเห็นชัดๆ ว่าลีโอกำลังมีปัญหาบางอย่าง

ชายผู้ไม่มีตาซ้ายคนนี้ยังไม่ยอมรามือจากลูเซียน แต่ยังคุกคามเขาต่อ “ใครแนะนำลีโอให้เจ้า! คุ้มครองเจ้าจากอะไร?”

ทันทีที่เขาพูดคำสุดท้ายจบ มือซ้ายที่สวมถุงมือของลูเซียนก็ผละออกจากถ้วยเหล้าและคว้าเข้าที่คอหอยของชายคนนี้

เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็ว เร็วมาก ชายคนนี้เห็นเพียงเงา

ลูเซียนยิ้ม “แม่ของเจ้าคงไม่เคยสอนสินะ ว่าอย่าแส่เรื่องชาวบ้าน?”

“เจ้า… ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ถ้าเจ้ายังอยากมีชีวิตรอดออกจากเมือง!! เจ้านายของข้า…” ชายคนนี้ยังไม่หยุดข่มขู่ลูเซียน อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา เขาก็แทบหายใจไม่ออกเพราะลูเซียนออกแรงบีบคอเขามากขึ้น

“เจ้ารู้ไหม? ข้าไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดจากเมืองนี้หรือไม่ แต่ถ้าเจ้ายังไม่หยุดพล่าม ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะไม่มีชีวิตรอดจากบาร์นี้ ข้าจะบอกความลับเจ้าอย่างหนึ่ง ข้าก็ใหญ่เหมือนกัน”

หน้าของชายคนแดงจัดด้วยความโกรธ แต่เขาก็พูดอะไรไม่ออกสักคำ เมื่อลูกน้องของเขารู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น และกำลังจะชักดาบออกมาเพื่อช่วยลูกพี่ ชายคนหนึ่งในเกราะดำเหมือนกันก็ตะโกนบอกพวกเขามาจากประตูด้านหลังของบาร์

“ลีโออยู่ที่นี่! ในห้องใต้ดินของบาร์!”

หน้าของบาร์เทนเดอร์ซีดเผือด ทันทีที่เขากำลังจะวิ่งออกจากด้านหลังเคาน์เตอร์ ก็มีนักดาบคนหนึ่งหยุดเขาไว้ พวกลูกสมุนคนอื่นๆ ต่างวิ่งกรูไปยังด้านหลังบาร์ ราวกับว่าพวกเขาลืมว่าลูกพี่กำลังเจอปัญหาอะไร

อีกฝั่งหนึ่งของโถงกลางบาร์ ชายสองคนซึ่งระดับใกล้เคียงกับอัศวินตัวจริงก็กระโดดขึ้นมาจากเก้าอี้และวิ่งไปยังประตูหลัง

ลูเซียนรู้สึกขบขัน ปล่อยมือจากคอหอยของชายคนนั้น และส่ายหน้าด้วยความสงสาร “แย่จัง… คนใหญ่คนโตที่เจ้าว่าดูเหมือนจะไม่สนใจเจ้าเลย ถึงข้าจะฆ่าเจ้า เขาก็คงไม่สน ขุนนางคนไหนส่งเจ้ามาที่นี่?”

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นขุนนาง?” ชายร่างใหญ่ตัวสูงยาวถามด้วยความประหลาดใจ

ลูเซียนตบเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางเบาๆ แล้วยืนขึ้นจากเก้าอี้

………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+