Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 240 ความประทับใจของเอลฟ์

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 240 ความประทับใจของเอลฟ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองอัลลิน ณ คฤหาสน์บ้านสวนหลังงาม

แม่บ้านสองคนกำลังยกน้ำชาในถ้วยกระเบื้องเคลือบอย่างดีมาให้กลับไอริสทีนและอาร์เซเลียน แม่ทั้งสองคนจะได้รับการอบรมมาอย่างดี แต่ก็ไม่อาจห้ามใจไม่ให้แอบเหลือบมองเอลฟ์ทั้งสองได้ เนื่องจากเขาและนางมีรูปร่างลักษณะงดงามและทรงเสน่ห์ หูยาวๆ ของทั้งสองก็ดูมีเอกลักษณ์มาก

ณ ห้องรับแขก นักเวทฝึกหัดกำลังทำแบบฝึกหัดเรื่องอาร์คานาศาสตร์บนโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ พวกเขาถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกเหนื่อยหน่าย แต่ขณะเดียวกัน เขาก็คอยชำเลืองมองอีวานส์กับเอลฟ์ทั้งสองตน รู้สึกอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แม้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหล่านักเวทฝึกหัดได้เห็นสัตว์ประเสริฐนอกเหนือจากมนุษย์สายพันธุ์อื่น เช่น เอลฟ์ คนแคระ และยักษ์ พวกเขาก็รู้สึกประทับใจกับภายนอกของไอริสทีนและอาร์เซเลียนมาก ซึ่งดูสง่างามและภูมิฐาน

“นั่นคือที่เราเห็นมา ท่านอีวานส์ ท่านคิดเห็นอย่างไรช่วยบอกข้าเถิด?” ไอริสทีนอธิบายรายละเอียดสิ่งที่นางเห็นอยู่รอบข้างโรงงานโดยพูดเกินจริงไปเล็กน้อย ตอนนี้ นางกำลังจ้องหน้าลูเซียน เฝ้ารอคำตอบของเขา

แม้ว่าพวกเขาจะเป็น ‘เอลฟ์ตะวัน’ ซึ่งเป็นเอลฟ์ชั้นสูง แต่นี่ก็เป็นเพียงครั้งที่สองที่เดินทางออกจากป่าสตรู๊ป เมื่อครั้งก่อนพวกเขามาพร้อมกับมัลฟิวเรียน ‘ผู้เฒ่าหลวง’ แต่ครั้งนี้ ไอริสทีนและอาร์เซเลียนต้องการความช่วยเหลือจากลูเซียน ทั้งสองหวังว่าลูเซียน เจ้าของรางวัลมงกุฎแห่งโฮล์ม และผู้เขียนบทความผลผลิตแร่แปรธาตุ จะสามารถช่วยทั้งสองเจรจากับสภาเวทมนต์

“ท่านอีวานส์ ครั้งสุดท้ายที่มาที่นี่ เราไปกันได้ด้วยดี… คือ ข้าหมายถึง… ตอนหลังๆ เราทำงานร่วมกันได้ด้วยดี” อาร์เซเลียนพูดอย่างจริงใจ “ข้ารู้ว่าท่านเป็นมนุษย์ที่ดีคนหนึ่งซึ่งห่วงใยธรรมชาติเป็นอย่างมาก แม้ว่าความจริง ในฐานะมนุษย์ ท่านต้องพูดแทนเผ่าพันธุ์ของตัวเอง แต่ข้าก็รู้ว่าท่านตระหนักถึงความรุนแรงของสิ่งนี้ดี ท่านอีวานส์ ท่านคงไม่อยากเห็นมนุษย์ตายเหมือนปลาพวกนั้น ใช่ไหม? ข้าหวังว่าท่านจะสามารถเสนอต่อสภาเวทมนต์ให้ปิดโรงงานแห่งนั้น และอาจจะมีโรงงานอื่นๆ ด้วย เพื่อปกป้อง ‘พระแม่แห่งสรรพสิ่ง’ ของทุกเผ่าพันธุ์

ลูเซียนจิบน้ำชาและค่อยๆ ตอบคำถาม “ประการแรก ข้าต้องบอกว่า… เราไม่สามารถปิดโรงงานนั้นได้”

“อะไรนะ?” ไอริสทีนและอาร์เซเลียนแสดงออกถึงอาการผิดหวังอย่างชัดเจน

ลูเซียนใช้มือทำท่าทางให้ทั้งสองคนใจเย็นลงก่อนและอธิบายต่อ “หากไม่มีผลผลิตแร่แปรธาตุพวกนั้น มนุษย์ส่วนใหญ่จะต้องอาศัยอยู่ด้วยความแร้นแค้น และพวกเขาจะตายเพราะความยากจน ก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสได้เห็นความเสียหายต่อธรรมชาติเสียอีก และจากมุมมองของนักเวท ข้าก็อยากเห็นพัฒนาการของมนุษย์ เนื่องจากพวกเราต้องใช้เงินในการปลูกผลผลิต ฉะนั้น ไม่ว่าในฐานะมนุษย์หรือนักเวท ข้าก็ไม่เห็นด้วยกับการปิดโรงงาน”

ก่อนที่ไอริสทีนและอาร์เซเลียนจะโกรธเขามากไปกว่านี้ ลูเซียนก็อธิบายต่อ “แต่ แน่นอน เราไม่สามารถปฏิเสธผลเสียหายที่ตามมาจากอุตสาหกรรม เราสามารถออกแบบและจัดตั้งวงเวทใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเพื่อจำกัดปริมาณสารปนเปื้อนและลดผลกระทบต่อธรรมชาติให้น้อยที่สุด เราไม่สามารถปิดโรงงานแร่แปรธาตุทั้งหมด เพียงเพราะผลกระทบ จนมองข้ามคุณค่าของมัน”

หากพูดกันตรงๆ การแก้ปัญหามลภาวะของโลกนี้ง่ายกว่าปัญหาบนโลกใบเดิมมาก อาคมจำพวกธาตุมากมาย เช่น ‘แยกธาตุ’ ‘พายุหมุนพลังธาตุ’ หรือ ‘ลำดับธาตุ’ ซึ่งลูเซียนมีสิทธิพิเศษในการครอบครองอาคมทั้งสาม  สามารถจัดการกับมลภาวะได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ อาคม ‘แยกธาตุ’ และ ‘ลำดับธาตุ’ ยังสามารถแม้กระทั่งนำธาตุบริสุทธิ์ที่ได้กลับมาใช้ใหม่ในการทดลองต่อไป แต่มีสองเหตุผลที่ลูเซียนกำลังคิดอยู่ในหัวตอนนี้ก็คือต้นทุน และข้อเท็จจริงที่ว่าเขาไม่ต้องการเปิดเผยถึงอาคมพิเศษที่เขามีตอนนี้ และนั่นทำให้เขาต้องการออกแบบเวทมนตร์ระดับสี่หรือห้าใหม่ด้วยการผสมผสาน อาคม ‘แยกธาตุ’ และ ‘ลำดับธาตุ’ เข้าด้วยกัน

เมื่อได้ยินดังนั้น ไอริสทีนก็โล่งใจ และรอยยิ้มมันก็ปรากฏบนหน้านาง “ท่านอีวานส์ เรารู้ว่าท่านจะไม่ทำให้เราผิดหวัง เราตกใจมากจริงๆ… ท่านรู้ไหม การเห็นโรงงานนั้น… เราผิดหวังแค่ไหน ท่านอีวานส์ เราไม่ได้ไม่มีเหตุผล ตราบใดที่สภาวางแผนจะเพิ่มปริมาณวงเวท ข้าเชื่อว่าเราจะสามารถร่วมงานกันได้ในอนาคต”

ทั้งไอริสทีนและอาร์เซเลียนได้เรียนรู้มามากมายและโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นจากการร่วมงานกับมนุษย์ ทั้งสองเริ่มเข้าใจความหมายของคำว่าประนีประนอมและการเจรจา รวมถึงความสำคัญของการรักษาความสมดุลระหว่างธรรมชาติและสังคมมนุษย์ แน่นอน การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลมาจากความประทับใจทั้งหมดที่มีต่อนักเวทซึ่งได้พิสูจน์ถึงความยิ่งใหญ่ของพระแม่แห่งสรรพสิ่ง

“ฝ่าบาท เรื่องจริงๆ ซับซ้อนยิ่งกว่านี้ ข้ามั่นใจว่าเราจะเห็นโรงงานขึ้นอีกมากมายในอนาคตอันใกล้ และเราไม่สามารถเพิ่มวงเวทตามจำนวนโรงงานที่สร้างขึ้น สิ่งที่ข้าเป็นกังวลก็คือ พวกที่เป็นเจ้าของโรงงานส่วนใหญ่อาจไม่ฟังข้า เนื่องจากการเพิ่มวงเวทหมายถึงการเพิ่มต้นทุนการผลิต แล้วปัญหาก็จะอยู่เหนือการควบคุม วางแผนจะเสนอต่อสภาว่าทั้งสภาและโฮล์มควรออกกฎหมายและระเบียบบังคับโรงงานให้มีวงเวทมนตร์ทำความสะอาดติดตั้งเข้าตั้งแต่แรก” ลูเซียนอธิบาย และนี่เป็นแผนตั้งแต่ต้นของเขาจริงๆ

อาร์เซเลียนกระโดดขึ้นจากเก้าอี้ยาวและพูดกับลูเซียนด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ท่านอีวานส์ ขอบคุณท่านมาก! ท่านเป็นเพื่อนแท้ของธรรมชาติ เอลฟ์ และดรูอิด! ท่านคิดไปไกลกว่าเรามาก!”

“ท่านอีวานส์ ได้โปรดทำตามที่ท่านพูด และข้ามั่นใจว่าท่านมีอิทธิพลพอที่จะทำเรื่องนี้” ไอริสทีนพูดด้วยความซาบซึ้งและจริงใจ “ถ้าท่านต้องการเรา ได้โปรดอย่าเกรงใจ ถ้าผลออกมาดี เราจะสามารถ…”

ไอริสทีนกำลังจะพูดให้คำสัญญาบางประการ แต่นางก็หยุดไว้แค่นั้น เพราะนางไม่ใช่ผู้มีอำนาจตัดสินใจ

ลูเซียนวางถ้วยน้ำชาลงและยืนขึ้น “ไปคุยกับสมาชิกคณะกรรมการกิจการกันเถอะ”

มีสมาชิกสามคนอยู่ภายใต้ ‘สภาสูงสุด’

คณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานา รับผิดชอบหน้าที่ตรวจสอบบทความวิจัย ประเมินผลอาคม ตัดสินให้คะแนนค่าชื่อเสียง และประเมินวารสาร นักเวทห้าสิบสองคนที่ทำงานให้คณะกรรมการต่างเป็นผู้รอบรู้ในอาร์คานาศาสตร์ และได้รับการเคารพสูงสุดในบรรดาคณะกรรมการทั้งสามชุด สมาชิกคณะกรรมการส่วนใหญ่ไม่ได้ยุ่งมากนัก

คณะกรรมการวิจัยเวทมนตร์  รับผิดชอบหน้าที่การตรวจสอบและการอนุมัติโครงการวิจัยอาร์คานาศาสตร์และเวทมนตร์ บางครั้ง คณะกรรมการจะมีโครงการของตัวเอง รวมถึงการก่อตั้งกลุ่มวิจัยของตัวเอง นอกจากนี้ คณะกรรมการชุดนี้ยังรับผิดชอบการบริหารจัดการห้องทดลองเวทมนตร์และห้องสมุด คณะกรรมการชุดนี้มีสมาชิกเพียงยี่สิบสามคน แต่เนื่องจากสมาชิกคณะกรรมการก็ไม่ได้ยุ่งวุ่นวายมากนัก และส่วนใหญ่เป็นจอมเวทชั้นอาวุโสผู้ไม่ฝักใฝ่ในการต่อสู้หรือการผจญภัย สมาชิกคณะกรรมการบางคนยังทำงานให้กับ ‘คณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานา’

คณะกรรมการกิจการ รับผิดชอบหน้าที่ประจำวันในการบริหารจัดการนักเวท ซึ่งรวมถึงนักเวทฝึกหัด การลงโทษ การป้องกันสภาเวทมนตร์ ข่าวกรอง การบัญญัติกฎระเบียบ และการบริหาร ‘เขตภารกิจ’ และ ‘เขตแลกเปลี่ยน’ หรืออีกความหมายหนึ่ง คณะกรรมการกิจการทำหน้าที่แทน ‘สภาสูงสุด’ และเป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงสุดในบรรดาคณะกรรมการทั้งสามชุด คณะกรรมการชุดนี้แบ่งออกเป็นฝ่ายต่างๆ และแต่ละฝ่ายก็รับผิดชอบงานในหมวดหมู่ของตน มีสมาชิกคณะกรรมการสี่สิบสองคนอยู่ภายในองค์กร และส่วนใหญ่เป็นจอมเวทหรือนักเวทชั้นอาวุโสที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ ซึ่งมีความสามารถในการบริหารจัดการ

สมาชิกหกคนจากสิบคนของคณะกรรมการทั้งสามชุดจะมาจากสมาชิกระดับสูงของกลุ่มเวทมนตร์ทั้งหกกลุ่ม กล่าวคือ เจตจำนงแห่งธาตุ หรือหัตถ์ไร้ชีวา และกลุ่มที่เหลือคือกลุ่มที่ขึ้นกับ ‘สภา’ หรือมีกลุ่มย่อยๆ ของตัวเอง

ณ ชั้นสิบสามของหอคอยเวทมนตร์ ลูเซียน ไอริสทีน และอาร์เซเลียนถูกยามรักษาการณ์โกเลมทองหยุดไว้

“แขกทั้งสาม” โกเลมพูดด้วยเสียงต่ำ “มาที่นี่ มีวัตถุประสงค์อันใด? ต้องการพบสมาชิกคณะกรรมการผู้ใด?”

ชั้นสิบห้าของ ‘หอคอยเวทมนตร์อัลลิน’ เป็นพื้นที่ของคณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานา ชั้นสิบเอ็ดเป็นส่วนของคณะกรรมการวิจัยเวทมนตร์ และพื้นที่ระหว่างชั้นของคณะกรรมการทั้งสองชุดเป็นของ ‘คณะกรรมการกิจการ’ ซึ่งมีเรื่องราวมากมายให้จัดการในแต่ละวัน

“สวัสดีขอรับ เรามาขอพบท่านหญิงฟลอเรนเซีย” ลูเซียนตอบ เขาคุ้นเคยกับคนเพียงสองคนในคณะกรรมการกิจการ อีกคนหนึ่งก็คือ ‘โรเจริโอ’ ซึ่งเขาเคยพบตั้งแต่อยู่ในนครอัลโต้ โรเจริโอมาจาก ‘กลุ่มหัตถ์ไร้ชีวา’ และไม่มีทางที่ลูเซียนจะไปหาเขา ลูเซียนรู้ดีว่าเขาโชคดีแค่ไหนที่โรเจริโอไม่ได้เปิดเผยตัวตนนักดนตรีของเขาที่นี่

โกเลมชี้ไปทางเก้าอี้ยาว “กรุณารอที่นี่ ข้าต้องตรวจสอบว่าท่านหญิงฟลอเรนเซียสะดวกหรือไม่?”

ตอนนั้นเอง ประตูลิฟท์ก็เปิดออก เฟลิเปเดินออกมา เมื่อเขาเห็นลูเซียน เขาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“ท่านเฟลิเป มีเรื่องอันใดให้ข้าช่วยขอรับ?” โกเลมโค้งคำนับเฟลิเป นักเวทท่านอาวุโส ด้วยท่าทางเคารพอย่างสูง

“ข้าอยากพบท่านคาร์โรล” เฟลิเปพยักหน้าเล็กน้อย คาร์โรลเป็นสมาชิกคณะกรรมการกิจการคนที่มาจากกลุ่มหัตถ์ไร้ชีวา

“กรุณาตามมาทางนี้ ขอรับ” โกเลมตอบอย่างสุภาพ

เฟลิเปเหลือบมองไปที่ลูเซียน แล้วเขาก็เดินเอามือล้วงกระเป๋าจากไป

“ท่านอีวานส์ ท่านคิดว่าเราควรติดต่อกลับทรูแมนรีกับท่านผู้เฒ่าหลวงหรือไม่?” ไอริสทีนกระซิบข้างหูลูเซียน สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นทำให้นางได้รู้ว่าลูเซียนไม่ได้มีอิทธิพลมากอย่างที่นางคิด อย่างไรก็ตาม ทั้งไอริสทีนและอาร์เซเลียนต่างก็รู้สึกซาบซึ้งในตัวลูเซียนมากไม่เปลี่ยน

 ลูเซียนไม่ได้ใส่ใจกับคำเสนอแนะของไอริสทีน เขาตอบกลับว่า “ลองดูก่อนเถอะว่าเราทำอะไรได้บ้าง ถ้าไม่ได้ผล คาดคิดว่าท่านมัลฟิวเรียนคงต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง”

การเผชิญหน้ากับ ‘ศาสนจักรฝ่ายเหนือ’ และ ‘ศาสนจักรฝ่ายใต้’ สภาเวทมนตร์เต็มใจอย่างยิ่งในการร่วมมือกับเอลฟ์และดรูอิด แต่ลูเซียนยังไม่มั่นใจว่า ‘สภาสูงสุด’ จะจริงใจแค่ไหน และดรูอิดจะตอบสนองอย่างไร ฉะนั้น เขาจึงอยากลองลงมือด้วยตัวเองก่อน

และการได้รับอนุมัติจากเอลฟ์และดรูอิดก็ถือเป็นส้มหล่นสำหรับลูเซียน

หลังจากผ่านไปสักพัก โกเลมก็กลับออกมา “ท่านหญิงฟลอเรนเซียอยู่ในห้องรับแขกส่วนตัว และนางอยากพบท่านที่ห้อง 1314”

ลูเซียนเองก็ประหลาดใจที่ฟลอเรนเซียอยู่ที่นี่ในวันเสาร์อย่างนี้ เขาหวังว่าเขาจะสามารถโน้มน้าวใจของนางได้ เนื่องจากนางไม่ใช่เพียงหนึ่งในแกนนำของ ‘กลุ่มเจตจํานงแห่งธาตุ’ และ ‘สถาบันเวทมนตร์ราชสำนักโฮล์ม’ เท่านั้น แต่นางยังเป็นภรรยาของ ‘หัตถ์ทำลายล้าง’

อย่างไรก็ตาม จริงๆ แล้ว ลูเซียนไม่มั่นใจเลย เนื่องจากพวกเขาเคยพบกันครั้งเดียวเท่านั้น ลูเซียนเองก็สงสัยว่าจะใช้วิธีไหนทำให้ฟลอเรนเซียเห็นด้วยกับเขา

………………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 240 ความประทับใจของเอลฟ์

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 240 ความประทับใจของเอลฟ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองอัลลิน ณ คฤหาสน์บ้านสวนหลังงาม

แม่บ้านสองคนกำลังยกน้ำชาในถ้วยกระเบื้องเคลือบอย่างดีมาให้กลับไอริสทีนและอาร์เซเลียน แม่ทั้งสองคนจะได้รับการอบรมมาอย่างดี แต่ก็ไม่อาจห้ามใจไม่ให้แอบเหลือบมองเอลฟ์ทั้งสองได้ เนื่องจากเขาและนางมีรูปร่างลักษณะงดงามและทรงเสน่ห์ หูยาวๆ ของทั้งสองก็ดูมีเอกลักษณ์มาก

ณ ห้องรับแขก นักเวทฝึกหัดกำลังทำแบบฝึกหัดเรื่องอาร์คานาศาสตร์บนโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ พวกเขาถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกเหนื่อยหน่าย แต่ขณะเดียวกัน เขาก็คอยชำเลืองมองอีวานส์กับเอลฟ์ทั้งสองตน รู้สึกอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แม้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหล่านักเวทฝึกหัดได้เห็นสัตว์ประเสริฐนอกเหนือจากมนุษย์สายพันธุ์อื่น เช่น เอลฟ์ คนแคระ และยักษ์ พวกเขาก็รู้สึกประทับใจกับภายนอกของไอริสทีนและอาร์เซเลียนมาก ซึ่งดูสง่างามและภูมิฐาน

“นั่นคือที่เราเห็นมา ท่านอีวานส์ ท่านคิดเห็นอย่างไรช่วยบอกข้าเถิด?” ไอริสทีนอธิบายรายละเอียดสิ่งที่นางเห็นอยู่รอบข้างโรงงานโดยพูดเกินจริงไปเล็กน้อย ตอนนี้ นางกำลังจ้องหน้าลูเซียน เฝ้ารอคำตอบของเขา

แม้ว่าพวกเขาจะเป็น ‘เอลฟ์ตะวัน’ ซึ่งเป็นเอลฟ์ชั้นสูง แต่นี่ก็เป็นเพียงครั้งที่สองที่เดินทางออกจากป่าสตรู๊ป เมื่อครั้งก่อนพวกเขามาพร้อมกับมัลฟิวเรียน ‘ผู้เฒ่าหลวง’ แต่ครั้งนี้ ไอริสทีนและอาร์เซเลียนต้องการความช่วยเหลือจากลูเซียน ทั้งสองหวังว่าลูเซียน เจ้าของรางวัลมงกุฎแห่งโฮล์ม และผู้เขียนบทความผลผลิตแร่แปรธาตุ จะสามารถช่วยทั้งสองเจรจากับสภาเวทมนต์

“ท่านอีวานส์ ครั้งสุดท้ายที่มาที่นี่ เราไปกันได้ด้วยดี… คือ ข้าหมายถึง… ตอนหลังๆ เราทำงานร่วมกันได้ด้วยดี” อาร์เซเลียนพูดอย่างจริงใจ “ข้ารู้ว่าท่านเป็นมนุษย์ที่ดีคนหนึ่งซึ่งห่วงใยธรรมชาติเป็นอย่างมาก แม้ว่าความจริง ในฐานะมนุษย์ ท่านต้องพูดแทนเผ่าพันธุ์ของตัวเอง แต่ข้าก็รู้ว่าท่านตระหนักถึงความรุนแรงของสิ่งนี้ดี ท่านอีวานส์ ท่านคงไม่อยากเห็นมนุษย์ตายเหมือนปลาพวกนั้น ใช่ไหม? ข้าหวังว่าท่านจะสามารถเสนอต่อสภาเวทมนต์ให้ปิดโรงงานแห่งนั้น และอาจจะมีโรงงานอื่นๆ ด้วย เพื่อปกป้อง ‘พระแม่แห่งสรรพสิ่ง’ ของทุกเผ่าพันธุ์

ลูเซียนจิบน้ำชาและค่อยๆ ตอบคำถาม “ประการแรก ข้าต้องบอกว่า… เราไม่สามารถปิดโรงงานนั้นได้”

“อะไรนะ?” ไอริสทีนและอาร์เซเลียนแสดงออกถึงอาการผิดหวังอย่างชัดเจน

ลูเซียนใช้มือทำท่าทางให้ทั้งสองคนใจเย็นลงก่อนและอธิบายต่อ “หากไม่มีผลผลิตแร่แปรธาตุพวกนั้น มนุษย์ส่วนใหญ่จะต้องอาศัยอยู่ด้วยความแร้นแค้น และพวกเขาจะตายเพราะความยากจน ก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสได้เห็นความเสียหายต่อธรรมชาติเสียอีก และจากมุมมองของนักเวท ข้าก็อยากเห็นพัฒนาการของมนุษย์ เนื่องจากพวกเราต้องใช้เงินในการปลูกผลผลิต ฉะนั้น ไม่ว่าในฐานะมนุษย์หรือนักเวท ข้าก็ไม่เห็นด้วยกับการปิดโรงงาน”

ก่อนที่ไอริสทีนและอาร์เซเลียนจะโกรธเขามากไปกว่านี้ ลูเซียนก็อธิบายต่อ “แต่ แน่นอน เราไม่สามารถปฏิเสธผลเสียหายที่ตามมาจากอุตสาหกรรม เราสามารถออกแบบและจัดตั้งวงเวทใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเพื่อจำกัดปริมาณสารปนเปื้อนและลดผลกระทบต่อธรรมชาติให้น้อยที่สุด เราไม่สามารถปิดโรงงานแร่แปรธาตุทั้งหมด เพียงเพราะผลกระทบ จนมองข้ามคุณค่าของมัน”

หากพูดกันตรงๆ การแก้ปัญหามลภาวะของโลกนี้ง่ายกว่าปัญหาบนโลกใบเดิมมาก อาคมจำพวกธาตุมากมาย เช่น ‘แยกธาตุ’ ‘พายุหมุนพลังธาตุ’ หรือ ‘ลำดับธาตุ’ ซึ่งลูเซียนมีสิทธิพิเศษในการครอบครองอาคมทั้งสาม  สามารถจัดการกับมลภาวะได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ อาคม ‘แยกธาตุ’ และ ‘ลำดับธาตุ’ ยังสามารถแม้กระทั่งนำธาตุบริสุทธิ์ที่ได้กลับมาใช้ใหม่ในการทดลองต่อไป แต่มีสองเหตุผลที่ลูเซียนกำลังคิดอยู่ในหัวตอนนี้ก็คือต้นทุน และข้อเท็จจริงที่ว่าเขาไม่ต้องการเปิดเผยถึงอาคมพิเศษที่เขามีตอนนี้ และนั่นทำให้เขาต้องการออกแบบเวทมนตร์ระดับสี่หรือห้าใหม่ด้วยการผสมผสาน อาคม ‘แยกธาตุ’ และ ‘ลำดับธาตุ’ เข้าด้วยกัน

เมื่อได้ยินดังนั้น ไอริสทีนก็โล่งใจ และรอยยิ้มมันก็ปรากฏบนหน้านาง “ท่านอีวานส์ เรารู้ว่าท่านจะไม่ทำให้เราผิดหวัง เราตกใจมากจริงๆ… ท่านรู้ไหม การเห็นโรงงานนั้น… เราผิดหวังแค่ไหน ท่านอีวานส์ เราไม่ได้ไม่มีเหตุผล ตราบใดที่สภาวางแผนจะเพิ่มปริมาณวงเวท ข้าเชื่อว่าเราจะสามารถร่วมงานกันได้ในอนาคต”

ทั้งไอริสทีนและอาร์เซเลียนได้เรียนรู้มามากมายและโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นจากการร่วมงานกับมนุษย์ ทั้งสองเริ่มเข้าใจความหมายของคำว่าประนีประนอมและการเจรจา รวมถึงความสำคัญของการรักษาความสมดุลระหว่างธรรมชาติและสังคมมนุษย์ แน่นอน การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลมาจากความประทับใจทั้งหมดที่มีต่อนักเวทซึ่งได้พิสูจน์ถึงความยิ่งใหญ่ของพระแม่แห่งสรรพสิ่ง

“ฝ่าบาท เรื่องจริงๆ ซับซ้อนยิ่งกว่านี้ ข้ามั่นใจว่าเราจะเห็นโรงงานขึ้นอีกมากมายในอนาคตอันใกล้ และเราไม่สามารถเพิ่มวงเวทตามจำนวนโรงงานที่สร้างขึ้น สิ่งที่ข้าเป็นกังวลก็คือ พวกที่เป็นเจ้าของโรงงานส่วนใหญ่อาจไม่ฟังข้า เนื่องจากการเพิ่มวงเวทหมายถึงการเพิ่มต้นทุนการผลิต แล้วปัญหาก็จะอยู่เหนือการควบคุม วางแผนจะเสนอต่อสภาว่าทั้งสภาและโฮล์มควรออกกฎหมายและระเบียบบังคับโรงงานให้มีวงเวทมนตร์ทำความสะอาดติดตั้งเข้าตั้งแต่แรก” ลูเซียนอธิบาย และนี่เป็นแผนตั้งแต่ต้นของเขาจริงๆ

อาร์เซเลียนกระโดดขึ้นจากเก้าอี้ยาวและพูดกับลูเซียนด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ท่านอีวานส์ ขอบคุณท่านมาก! ท่านเป็นเพื่อนแท้ของธรรมชาติ เอลฟ์ และดรูอิด! ท่านคิดไปไกลกว่าเรามาก!”

“ท่านอีวานส์ ได้โปรดทำตามที่ท่านพูด และข้ามั่นใจว่าท่านมีอิทธิพลพอที่จะทำเรื่องนี้” ไอริสทีนพูดด้วยความซาบซึ้งและจริงใจ “ถ้าท่านต้องการเรา ได้โปรดอย่าเกรงใจ ถ้าผลออกมาดี เราจะสามารถ…”

ไอริสทีนกำลังจะพูดให้คำสัญญาบางประการ แต่นางก็หยุดไว้แค่นั้น เพราะนางไม่ใช่ผู้มีอำนาจตัดสินใจ

ลูเซียนวางถ้วยน้ำชาลงและยืนขึ้น “ไปคุยกับสมาชิกคณะกรรมการกิจการกันเถอะ”

มีสมาชิกสามคนอยู่ภายใต้ ‘สภาสูงสุด’

คณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานา รับผิดชอบหน้าที่ตรวจสอบบทความวิจัย ประเมินผลอาคม ตัดสินให้คะแนนค่าชื่อเสียง และประเมินวารสาร นักเวทห้าสิบสองคนที่ทำงานให้คณะกรรมการต่างเป็นผู้รอบรู้ในอาร์คานาศาสตร์ และได้รับการเคารพสูงสุดในบรรดาคณะกรรมการทั้งสามชุด สมาชิกคณะกรรมการส่วนใหญ่ไม่ได้ยุ่งมากนัก

คณะกรรมการวิจัยเวทมนตร์  รับผิดชอบหน้าที่การตรวจสอบและการอนุมัติโครงการวิจัยอาร์คานาศาสตร์และเวทมนตร์ บางครั้ง คณะกรรมการจะมีโครงการของตัวเอง รวมถึงการก่อตั้งกลุ่มวิจัยของตัวเอง นอกจากนี้ คณะกรรมการชุดนี้ยังรับผิดชอบการบริหารจัดการห้องทดลองเวทมนตร์และห้องสมุด คณะกรรมการชุดนี้มีสมาชิกเพียงยี่สิบสามคน แต่เนื่องจากสมาชิกคณะกรรมการก็ไม่ได้ยุ่งวุ่นวายมากนัก และส่วนใหญ่เป็นจอมเวทชั้นอาวุโสผู้ไม่ฝักใฝ่ในการต่อสู้หรือการผจญภัย สมาชิกคณะกรรมการบางคนยังทำงานให้กับ ‘คณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานา’

คณะกรรมการกิจการ รับผิดชอบหน้าที่ประจำวันในการบริหารจัดการนักเวท ซึ่งรวมถึงนักเวทฝึกหัด การลงโทษ การป้องกันสภาเวทมนตร์ ข่าวกรอง การบัญญัติกฎระเบียบ และการบริหาร ‘เขตภารกิจ’ และ ‘เขตแลกเปลี่ยน’ หรืออีกความหมายหนึ่ง คณะกรรมการกิจการทำหน้าที่แทน ‘สภาสูงสุด’ และเป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงสุดในบรรดาคณะกรรมการทั้งสามชุด คณะกรรมการชุดนี้แบ่งออกเป็นฝ่ายต่างๆ และแต่ละฝ่ายก็รับผิดชอบงานในหมวดหมู่ของตน มีสมาชิกคณะกรรมการสี่สิบสองคนอยู่ภายในองค์กร และส่วนใหญ่เป็นจอมเวทหรือนักเวทชั้นอาวุโสที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ ซึ่งมีความสามารถในการบริหารจัดการ

สมาชิกหกคนจากสิบคนของคณะกรรมการทั้งสามชุดจะมาจากสมาชิกระดับสูงของกลุ่มเวทมนตร์ทั้งหกกลุ่ม กล่าวคือ เจตจำนงแห่งธาตุ หรือหัตถ์ไร้ชีวา และกลุ่มที่เหลือคือกลุ่มที่ขึ้นกับ ‘สภา’ หรือมีกลุ่มย่อยๆ ของตัวเอง

ณ ชั้นสิบสามของหอคอยเวทมนตร์ ลูเซียน ไอริสทีน และอาร์เซเลียนถูกยามรักษาการณ์โกเลมทองหยุดไว้

“แขกทั้งสาม” โกเลมพูดด้วยเสียงต่ำ “มาที่นี่ มีวัตถุประสงค์อันใด? ต้องการพบสมาชิกคณะกรรมการผู้ใด?”

ชั้นสิบห้าของ ‘หอคอยเวทมนตร์อัลลิน’ เป็นพื้นที่ของคณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานา ชั้นสิบเอ็ดเป็นส่วนของคณะกรรมการวิจัยเวทมนตร์ และพื้นที่ระหว่างชั้นของคณะกรรมการทั้งสองชุดเป็นของ ‘คณะกรรมการกิจการ’ ซึ่งมีเรื่องราวมากมายให้จัดการในแต่ละวัน

“สวัสดีขอรับ เรามาขอพบท่านหญิงฟลอเรนเซีย” ลูเซียนตอบ เขาคุ้นเคยกับคนเพียงสองคนในคณะกรรมการกิจการ อีกคนหนึ่งก็คือ ‘โรเจริโอ’ ซึ่งเขาเคยพบตั้งแต่อยู่ในนครอัลโต้ โรเจริโอมาจาก ‘กลุ่มหัตถ์ไร้ชีวา’ และไม่มีทางที่ลูเซียนจะไปหาเขา ลูเซียนรู้ดีว่าเขาโชคดีแค่ไหนที่โรเจริโอไม่ได้เปิดเผยตัวตนนักดนตรีของเขาที่นี่

โกเลมชี้ไปทางเก้าอี้ยาว “กรุณารอที่นี่ ข้าต้องตรวจสอบว่าท่านหญิงฟลอเรนเซียสะดวกหรือไม่?”

ตอนนั้นเอง ประตูลิฟท์ก็เปิดออก เฟลิเปเดินออกมา เมื่อเขาเห็นลูเซียน เขาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“ท่านเฟลิเป มีเรื่องอันใดให้ข้าช่วยขอรับ?” โกเลมโค้งคำนับเฟลิเป นักเวทท่านอาวุโส ด้วยท่าทางเคารพอย่างสูง

“ข้าอยากพบท่านคาร์โรล” เฟลิเปพยักหน้าเล็กน้อย คาร์โรลเป็นสมาชิกคณะกรรมการกิจการคนที่มาจากกลุ่มหัตถ์ไร้ชีวา

“กรุณาตามมาทางนี้ ขอรับ” โกเลมตอบอย่างสุภาพ

เฟลิเปเหลือบมองไปที่ลูเซียน แล้วเขาก็เดินเอามือล้วงกระเป๋าจากไป

“ท่านอีวานส์ ท่านคิดว่าเราควรติดต่อกลับทรูแมนรีกับท่านผู้เฒ่าหลวงหรือไม่?” ไอริสทีนกระซิบข้างหูลูเซียน สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นทำให้นางได้รู้ว่าลูเซียนไม่ได้มีอิทธิพลมากอย่างที่นางคิด อย่างไรก็ตาม ทั้งไอริสทีนและอาร์เซเลียนต่างก็รู้สึกซาบซึ้งในตัวลูเซียนมากไม่เปลี่ยน

 ลูเซียนไม่ได้ใส่ใจกับคำเสนอแนะของไอริสทีน เขาตอบกลับว่า “ลองดูก่อนเถอะว่าเราทำอะไรได้บ้าง ถ้าไม่ได้ผล คาดคิดว่าท่านมัลฟิวเรียนคงต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง”

การเผชิญหน้ากับ ‘ศาสนจักรฝ่ายเหนือ’ และ ‘ศาสนจักรฝ่ายใต้’ สภาเวทมนตร์เต็มใจอย่างยิ่งในการร่วมมือกับเอลฟ์และดรูอิด แต่ลูเซียนยังไม่มั่นใจว่า ‘สภาสูงสุด’ จะจริงใจแค่ไหน และดรูอิดจะตอบสนองอย่างไร ฉะนั้น เขาจึงอยากลองลงมือด้วยตัวเองก่อน

และการได้รับอนุมัติจากเอลฟ์และดรูอิดก็ถือเป็นส้มหล่นสำหรับลูเซียน

หลังจากผ่านไปสักพัก โกเลมก็กลับออกมา “ท่านหญิงฟลอเรนเซียอยู่ในห้องรับแขกส่วนตัว และนางอยากพบท่านที่ห้อง 1314”

ลูเซียนเองก็ประหลาดใจที่ฟลอเรนเซียอยู่ที่นี่ในวันเสาร์อย่างนี้ เขาหวังว่าเขาจะสามารถโน้มน้าวใจของนางได้ เนื่องจากนางไม่ใช่เพียงหนึ่งในแกนนำของ ‘กลุ่มเจตจํานงแห่งธาตุ’ และ ‘สถาบันเวทมนตร์ราชสำนักโฮล์ม’ เท่านั้น แต่นางยังเป็นภรรยาของ ‘หัตถ์ทำลายล้าง’

อย่างไรก็ตาม จริงๆ แล้ว ลูเซียนไม่มั่นใจเลย เนื่องจากพวกเขาเคยพบกันครั้งเดียวเท่านั้น ลูเซียนเองก็สงสัยว่าจะใช้วิธีไหนทำให้ฟลอเรนเซียเห็นด้วยกับเขา

………………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+