Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 177 หินคลื่น

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 177 หินคลื่น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สุดปลายทางเดินอีกฝั่งหนึ่ง อสูรกายคัวโทนเมอร์ล็อกกำลังตะโกนและกรีดร้องตอนที่พวกมันเข้ามาในห้องใต้ท้องเรือ และน้ำทะเลก็ท่วมเข้ามาไม่หยุด

ลูเซียนรู้สึกว่าหายใจลำบากขึ้น เมื่ออากาศภายในเต็มไปด้วยความชื้นสูง

นักเวทฝึกหัดบางคนล้มลงกับพื้นไปแล้ว ตอนนี้ พวกเขากำลังนั่งร้องไห้อยู่บนพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำทะเล บางคนตัวสั่นไปทั้งตัวด้วยความกลัว ทุกคนรู้สึกเหมือนที่ลูเซียนรู้สึกตอนเขาลงไปในท่อระบายน้ำครั้งแรก และเผชิญหน้ากับพวกหนูตาแดงก่ำ ไม่มีทางที่พวกเขาจะสงบสติอารมณ์ให้ใจเย็นอยู่ได้

แผนการมากมายผุดขึ้นในหหัวของลูเซียน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าลูเซียนต้องการปกป้องตัวเองและนักเวทฝึกหัดคนอื่น พร้อมทั้งต้องซ่อนตัวจากบาทหลวงและอัศวินบนเรือขนาดไหน แต่ชัดเจนว่าไม่มีทางเป็นไปได้

ตรงทางแยกของทางเดินใต้ท้องเรือ คัวโทนแยกกำลังออกเป็นสองกลุ่ม ส่วนใหญ่ตามเมอร์ล็อกร่างใหญ่สามตนและวิ่งไปยังโกดังเก็บสินค้าหลักใต้ท้องเรือ ส่วนพวกที่เหลือตามเดินผู้นำของพวกมันมาทางลูเซียนและนักเวทฝึกหัด

ขณะที่พวกมันลากสามง่ามและพุ่งตรงมาหาลูเซียนและหนุ่มสาวนักเวทฝึกหัดอย่างเร็ว ลูเซียนมีความคิดมากมายผุดขึ้นในหัว

‘ดูเหมือนเป้าหมายของพวกมันคือสินค้า?’

‘บางทีน่าจะมีอะไรที่พวกคัวโทนสนใจ? เพราะงั้นมันถึงโจมตีเรือสินค้า?’

‘ถ้านั่นเป็นเป้าหมายของมันจริงๆ พวกเมอร์ล็อกส่วนใหญ่ต้องลงมาชั้นนี้ หรือไม่ไปที่ห้องกัปตัน หรือห้องไวเคานต์…’

ว่าแล้วลูเซียนก็มั่นใจมากขึ้น ‘เรายังพอมีหวัง!’

ลูเซียนหันกลับไปและวิ่งไปยังห้องของตัวเอง ขณะที่เขาวิ่ง ลูเซียนย่อเข่าและกระโดดสูงขึ้นกลางอากาศด้วยแรงจากเคลื่อนที่ หมัดขวาของเขาชกทะลุเพดานไม้อย่างจัง

“เปรี้ยง!”

หลังจากแผ่นไม้ร่วงลงพื้น ก็มีรูขนาดใหญ่บนเพดานเตี้ยๆ นั้น

“พวกเจ้า ปีนขึ้นไปในรูนี้ ซ่อนตัวใกล้กับห้องลูกเรือ!” ลูเซียนบอกกับเหล่านักเวทฝึกหัดที่ตื่นตะลึง

แม้น้ำเสียงของเขาเคร่งเครียด แต่ลูเซียนไม่ได้ตื่นตระหนก

ตั้งแต่ทอมทิ้งให้พวกเขาอยู่ข้างล่างนี่ ลูเซียนค่อนข้างมั่นใจว่าคนที่อยู่ชั้นข้างบนน่าจะเป็นคนที่ทอมไว้ใจ มิฉะนั้นเสียงของพวกนักเวทฝึกหัดจะทำให้โดนจับตัวได้โดยง่าย

หากเป้าหมายของคัวโทนไม่ใช่การสังหาร แต่เป็นการปล้น การซ่อนตัวในห้องลูกเรือน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี และพวกเขาก็สามารถซ่อนตัวจากบาทหลวงและอัศวินได้ด้วย

ลูเซียนดึงดาบ ‘อะเลิร์ต’ ออกมา และวิ่งไปยังห้องใต้ท้องเรือเพื่อหยุดพวกเมอร์ล็อก ถ่วงเวลาให้พวกนักเวทฝึกหัดรีบขึ้นไป

“แอนนิค ออยมอส… เจ้าสองคนดูแลเพื่อนๆ ด้วย อย่าแตกตื่น” ในวินาทีสุดท้าย ลูเซียนสั่งการกับนักเวทฝึกหัดอย่างเด็ดขาดโดยไม่มองกลับหลัง

เขาต้องสังหารพวกคัวโทน มิฉะนั้นพวกมันจะตามนักเวทฝึกหัดขึ้นไปชั้นบนได้

“ขอรับ ท่านอีวานส์” นักเวทฝึกหัดทั้งสองคนตอบพร้อมกัน แม้ว่าออยมอสค่อนข้างตื่นกลัว เขาพยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ขณะที่แอนนิคซึ่งได้รับการฝึกจากลูเซียนมาสักระยะ เดินตามรอยความสงบนิ่งของลูเซียนและเริ่มคิดว่าหาวิธีขึ้นไปยังชั้นบนผ่านรูบนเพดาน

นักเวทฝึกหัดทั้งสองคนมองหน้ากันและคิดแผนออกมาเหมือนกัน “ใช้เปล… กับ ‘เวทมือนักเวท’ แล้วก็ร่ายเวทเพิ่มความว่องไวและการทรงตัว…”

แล้วออยมอสก็เริ่มเก็บเปลมารวมกันอย่างรวดเร็ว และแคทรีน สปรินต์ เลย์เรีย และไฮดี้ต่างช่วยเขาอีกแรง หรือไม่ก็ช่วยปลอบใจนักเวทฝึกหัดคนอื่นๆ

ในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ นักเวทฝึกหัดรวมพลังกันได้ภายใต้การนำของลูเซียน

ภายนอกห้องใต้ท้องเรือ เมื่อลูเซียนซึ่งกำลังถือดาบอัศวินด้วยมือทั้งสองข้าง กำลังจะอยู่ตรงหน้าคัวโทน ทันใดนั้นก็มีคลื่นสีเขียวพุ่งออกจากตัวเขา

คลื่นสีเขียวก็เข้าถึงตัวคัวโทนอย่างรวดเร็ว และพวกมันส่วนใหญ่ความเร็วลดลงทันทีที่สัมผัสกับคลื่น เสียการทรงตัวและสลบลงกับพื้น แม้แต่หัวหน้าเมอร์ล็อกก็ไม่พ้นพลังจากคลื่นสีเขียวนั้น ในวินาทีต่อมา มันก็รู้สึกหมดแรงและง่วงนอน

อย่างไรก็ตาม อาคมระดับหนึ่ง ‘เวทนิทรา’ ไม่ได้มีพลังรุนแรงพอที่จะทำให้ตัวใหญ่หลับลงได้ และตอนนั้นเอง เวทนี้ได้ผลเฉพาะกับคนี่ยังไม่ถึงระดับอัศวินตัวจริง

ทางเดินทั้งหมดเงียบลงทีละนิดๆ เหลือเพียงลูเซียน หัวหน้าคัวโทนและเหล่าเมอร์ล็อกที่กำลังหลับใหลอยู่บนพื้นท้องเรือ

เมื่อหัวหน้าเมอร์ล็อกรู้ตัวว่ากำลังเผชิญหน้ากับมนุษย์ที่เป็นนักเวทตัวจริง แทนที่จะเป็นอัศวินแม้ว่าเข้าจะใช้ดาบ มันก็ร่ายคาถาของพวกมัน ‘วงแหวนน้ำ’

หัวหน้าเมอร์ล็อกรวบรวมสติกลับมาได้เมื่อมีวงแหวนคลื่นอยู่รอบตัว ลูเซียนรู้สึกว่าหายใจยากลำบากยิ่งกว่าเดิม ราวกับเข้ากำลังจมอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากอากาศเต็มไปด้วยความชื้นสูงอย่างรวดเร็ว จนลูเซียนรู้สึกว่าเข้ากำลังสูดเอาเม็ดน้ำทะเลเข้าจมูกเข้าปอด

อย่างไรก็ตาม ลูเซียนไม่ตื่นตระหนก เขากลั้นหายใจและปล่อยพลังคมดาบน้ำแข็งใส่เมอร์ล็อกสามเล่ม

แม้ว่าหัวหน้าเมอร์ล็อกดูเหมือนมีพลังไม่ต่างจากอัศวินระดับธรรมดา ลูเซียนก็เรียกใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ เนื่องจากเขาต้องการจัดการอสูรกายพวกนี้โดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม พลังจาก ‘กำไลเชือกอัคคี’ รุนแรงเกินไปสำหรับลูเซียนที่จะใช้ตอนนี้

ขณะเดียวกัน ลูเซียนกระโจนหลับไปอีกทางเพื่อหลบสามง่ามที่เมอร์ล็อกตัวนั้นซัดเข้าใส่

ทันทีที่ลูเซียนตั้งหลักยืนได้มั่นคงแล้ว เขาร่ายคาถาเรียกใช้รูปแบบเวทมนตร์ในวิญญาณของเขา

เม็ดน้ำในอากาศไม่สามารถทำอะไรลูเซียนได้อีกต่อไป เนื่องจากเขามีเกราะบางๆ ที่มองไม่เห็นหุ้มทั้งร่าง ซึ่งป้องกันไม่ให้น้ำเข้าถึงตัวเขา

เวทมนตร์ระดับหนึ่ง ‘เวททานทนธาตุ’

แม้ว่าเวทมนตร์ไม่ได้ผลดีนัก เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีจากธาตุโดยตรง แต่ก็ยังค่อนข้างมีประโยชน์เมื่อจัดการกับสภาพแวดล้อมที่ธาตุไม่สมดุล เช่น พื้นใต้ท้องเรือลำนี้ซึ่งถูกควบคุมด้วย ‘วงแหวนคลื่น’

อากาศเย็นยะเยือกจาก ‘เวทดาบน้ำแข็งพาล์เมรา’ ทำให้คลื่นรอบตัวเมอร์ล็อกกลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งช่วยกักตัวมันไว้ภายใน และมันก็บาดเจ็บสาหัสจากคมดาบน้ำแข็งทั้งสาม

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีเลือดสีน้ำเงินเข้มไหลออกมากจาหัว หน้าอก และแขน แผลของมันเยียวยาตัวเองด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ชัด

พลังเยียวยาของคัวโทนไม่เป็นรองโทรลล์ แต่แขนขาของมันไม่สามารถงอกได้ใหม่เหมือนกับโทรลล์

ตอนนั้น แสงที่คมกริบพุ่งไปยังพอของหัวหน้าเมอร์ล็อก ในวินาทีต่อมา หัวของมันก็ร่วงลงบนพื้นเรือ

นั่นเป็น ‘ดาบอะเลิร์ต’ ดาบอัศวินของลูเซียน ที่ฟันซ้ำเข้าแผลบริเวณคอที่เกิดจากคมดาบน้ำแข็ง

ทันทีที่ถูก ‘เวทนิทรา’ เล่นงาน คัวโทนก็ตกเป็นรองในการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักเวทที่หัวหน้าเมอร์ล็อกเผชิญหน้ามีอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เหนือกว่าคัวโทนส่วนใหญ่

แน่นอน ข้อแตกต่างก็คือระดับอุปกรณ์เวทมนตร์ของลูเซียน แทนที่จะเป็นอุปกรณ์ของเขาเอง ลูเซียนยังคงสวมรองเท้าธรรมดาซึ่งได้รับความเสียหายง่ายๆ เสมอ จากความเร็วของเขา และนอกจากนี้ เขายังไม่มีเสื้อคลุมเวท หรือแม้แต่ไม้เท้าซึ่งเป็นสัญลักษณ์พื้นฐานของนักเวท

ลูเซียนกระโดดไปข้างหน้าเพียงไม่กี่ก้าวก็มาอยู่ข้างหลังเมอร์ล็อก เมื่อเขากำลังจะร่ายคาถาอื่น เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างในห้องโกดังสินค้าหลัก

ความรู้สึกเหมือนคลื่นพลังรุนแรงในมหาสมุทร

‘ไม่มีใครอยู่โกดังสินค้าหลัก ความรู้สึกนี้ไม่ได้มาจากการต่อสู้ บางที… อาจเป็นสิ่งที่คัวโทนกำลังตามหา…’ ลูเซียนคิดกับตัวเองแบบเร็วๆ

ความรู้สึกแปลกๆ แต่ก็คุ้นเคย ลูเซียนรู้สึกว่าเขาเคยอ่านเจออะไรแบบนี้ในหนังสือสักเล่ม

“หิน… คลื่น…” ลูเซียนพึมพำ “หินคลื่น!”

หินคลื่นเป็นวัตถุเวทมนตร์ชนิดหนึ่งที่แม้ไม่ได้หายาก แต่ก็มีค่ามาก ซึ่งลูเซียนเคยอ่านเจอในหนังสือ ‘ภาพประกอบวัตถุเกี่ยวกับเวทมนตร์ทั่วไป’ สามารถใช้ในการสร้างอุปกรณ์และอาวุธเวทมนตร์ที่สูงกว่าระดับสาม เพื่อบรรจุพลังเวทมนตร์ลงในอุปกรณ์ต่างๆ เช่น การหายใจในน้ำ การทำลายธาตุน้ำ และการร่ายคาถา เช่น ‘พายุ’ และ ‘พายุน้ำแข็ง’

นอกจากนี้ ‘หินคลื่น’ คุณภาพดีที่สุดสามารถใช้การการสร้างอุปกรณ์ที่ทรงพลังรุนแรง และสามารถใช้กับยาวิเศษต่างๆ เพื่อพัฒนาการเติบโตของสัตว์น้ำนานาชนิด

ลูเซียนเดาว่า เนื่องจากพลังที่เขาสัมผัสได้นั้นรุนแรง จึงน่าจะมี ‘หินคลื่น’ จำนวนมากบนเรือ หรือเป็นหินคลื่นคุณภาพสูง ซึ่งน่าจะมีค่าอย่างน้อยหลายหมื่นธาเล

ตามที่ลูเซียนคิด เนื่องจาก ‘หินคลื่น’ เป็นวัตถุเวทมนตร์ชนิดหนึ่ง เป็นไปได้ว่ามันจะถูกส่งไปยังเมืองอัลลิน แต่เราไม่รู้ว่านี่เป็นการลักลอบขนส่งภายใต้การจัดการของเกรนนิวฟ์หรือไม่ หรือเป็นการอนุญาตของศาสนจักร และหากไม่ใช่ทั้งสองทาง กองเรือจะมีปัญหาแน่นอนในการขนส่งวัตถุเวทมนตร์จำนวนมากขนาดนี้ และถือเป็นความเสี่ยงสูงมากที่ลูเซียนจะถูกพบตัว ทอมและนักเวทฝึกหัดคนอื่นก็เช่นกัน เนื่องจากศาสนจักรจะต้องตรวจสอบเรือโดยละเอียดแน่นอน

อีกเรื่องหนึ่งที่ลูเซียนมั่นใจคือคนที่จะลงมาที่นี่คนแรกน่าจะเป็นทอมกับลูกเรือที่เขาไว้ใจ

ขณะเขากำลังคิด ลูเซียนยังไม่ได้หยุดร่ายคาถา เขาบริกรรมอาคมที่ซับซ้อนและแปลกๆ แล้วก็ผลักมือทั้งสองไปข้างหน้า

กระแสลมรุนแรงที่มองไม่เห็นถูกเรียกมา แล้วพวกเมอร์ล็อกที่กำลังหลับและร่างของหัวหน้าคัวโทนก็ถูกพัดกลับสู่มหาสมุทรอีกครั้ง

เวทมนตร์ระดับหนึ่ง ‘คลื่นกระแทก’

ลูเซียนยังไม่ได้สร้างรูปแบบเวทมนตร์ของ ‘คลื่นกระแทก’ ในวิญญาณของเขา ดังนั้น เขาจึงจำเป็นต่อร่ายคาถาออกมา

ตอนนั้นเอง นักเวทฝึกหัดมทั้งหมดก็ขึ้นไปถึงชั้นบนและซ่อนตัวในห้องของลูกเรือใกล้ๆ เรียบร้อยแล้ว

หลังจากลูเซียนเก็บกวาดหลักฐานการต่อสู้อย่างรวดเร็ว และกำลังงจะขึ้นไปชั้นบนเช่นกัน ใจของเขาพลันหล่นไปอยู่ตาตุ่มเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงอันตราย

กำไลที่ลูเซียนสวมเปล่งแสงสีแดงและเพลิงถูกเรียกมาคุ้มครองตัวลูเซียน

หลังจากนั้น มวลน้ำขนาดเท่าศีรษะคนก็พุ่งเพลิงรอบตัวลูเซียน น้ำและไฟหายไปพร้อมๆ กัน

ตรงทางแยกทางเดินใต้ท้องเรือ เมอร์ล็อกอีกตัวซึ่งเกล็ดเปล่งแสงสีแดงกำลังจ้องลูเซียนตาเขม็งอย่างเยือกเย็น

ต่างจากเมอร์ล็อกที่ถือสามง่าม เมอร์ล็อกตัวนี้กำลังถือไม้เท้าปะการังสีสันฉูดฉาด

ฟ้าร้องหยุดคำรามไปชั่วขณะ ลูเซียนได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ จำนวนมากบนดาดฟ้าเรือ

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 177 หินคลื่น

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 177 หินคลื่น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สุดปลายทางเดินอีกฝั่งหนึ่ง อสูรกายคัวโทนเมอร์ล็อกกำลังตะโกนและกรีดร้องตอนที่พวกมันเข้ามาในห้องใต้ท้องเรือ และน้ำทะเลก็ท่วมเข้ามาไม่หยุด

ลูเซียนรู้สึกว่าหายใจลำบากขึ้น เมื่ออากาศภายในเต็มไปด้วยความชื้นสูง

นักเวทฝึกหัดบางคนล้มลงกับพื้นไปแล้ว ตอนนี้ พวกเขากำลังนั่งร้องไห้อยู่บนพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำทะเล บางคนตัวสั่นไปทั้งตัวด้วยความกลัว ทุกคนรู้สึกเหมือนที่ลูเซียนรู้สึกตอนเขาลงไปในท่อระบายน้ำครั้งแรก และเผชิญหน้ากับพวกหนูตาแดงก่ำ ไม่มีทางที่พวกเขาจะสงบสติอารมณ์ให้ใจเย็นอยู่ได้

แผนการมากมายผุดขึ้นในหหัวของลูเซียน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าลูเซียนต้องการปกป้องตัวเองและนักเวทฝึกหัดคนอื่น พร้อมทั้งต้องซ่อนตัวจากบาทหลวงและอัศวินบนเรือขนาดไหน แต่ชัดเจนว่าไม่มีทางเป็นไปได้

ตรงทางแยกของทางเดินใต้ท้องเรือ คัวโทนแยกกำลังออกเป็นสองกลุ่ม ส่วนใหญ่ตามเมอร์ล็อกร่างใหญ่สามตนและวิ่งไปยังโกดังเก็บสินค้าหลักใต้ท้องเรือ ส่วนพวกที่เหลือตามเดินผู้นำของพวกมันมาทางลูเซียนและนักเวทฝึกหัด

ขณะที่พวกมันลากสามง่ามและพุ่งตรงมาหาลูเซียนและหนุ่มสาวนักเวทฝึกหัดอย่างเร็ว ลูเซียนมีความคิดมากมายผุดขึ้นในหัว

‘ดูเหมือนเป้าหมายของพวกมันคือสินค้า?’

‘บางทีน่าจะมีอะไรที่พวกคัวโทนสนใจ? เพราะงั้นมันถึงโจมตีเรือสินค้า?’

‘ถ้านั่นเป็นเป้าหมายของมันจริงๆ พวกเมอร์ล็อกส่วนใหญ่ต้องลงมาชั้นนี้ หรือไม่ไปที่ห้องกัปตัน หรือห้องไวเคานต์…’

ว่าแล้วลูเซียนก็มั่นใจมากขึ้น ‘เรายังพอมีหวัง!’

ลูเซียนหันกลับไปและวิ่งไปยังห้องของตัวเอง ขณะที่เขาวิ่ง ลูเซียนย่อเข่าและกระโดดสูงขึ้นกลางอากาศด้วยแรงจากเคลื่อนที่ หมัดขวาของเขาชกทะลุเพดานไม้อย่างจัง

“เปรี้ยง!”

หลังจากแผ่นไม้ร่วงลงพื้น ก็มีรูขนาดใหญ่บนเพดานเตี้ยๆ นั้น

“พวกเจ้า ปีนขึ้นไปในรูนี้ ซ่อนตัวใกล้กับห้องลูกเรือ!” ลูเซียนบอกกับเหล่านักเวทฝึกหัดที่ตื่นตะลึง

แม้น้ำเสียงของเขาเคร่งเครียด แต่ลูเซียนไม่ได้ตื่นตระหนก

ตั้งแต่ทอมทิ้งให้พวกเขาอยู่ข้างล่างนี่ ลูเซียนค่อนข้างมั่นใจว่าคนที่อยู่ชั้นข้างบนน่าจะเป็นคนที่ทอมไว้ใจ มิฉะนั้นเสียงของพวกนักเวทฝึกหัดจะทำให้โดนจับตัวได้โดยง่าย

หากเป้าหมายของคัวโทนไม่ใช่การสังหาร แต่เป็นการปล้น การซ่อนตัวในห้องลูกเรือน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี และพวกเขาก็สามารถซ่อนตัวจากบาทหลวงและอัศวินได้ด้วย

ลูเซียนดึงดาบ ‘อะเลิร์ต’ ออกมา และวิ่งไปยังห้องใต้ท้องเรือเพื่อหยุดพวกเมอร์ล็อก ถ่วงเวลาให้พวกนักเวทฝึกหัดรีบขึ้นไป

“แอนนิค ออยมอส… เจ้าสองคนดูแลเพื่อนๆ ด้วย อย่าแตกตื่น” ในวินาทีสุดท้าย ลูเซียนสั่งการกับนักเวทฝึกหัดอย่างเด็ดขาดโดยไม่มองกลับหลัง

เขาต้องสังหารพวกคัวโทน มิฉะนั้นพวกมันจะตามนักเวทฝึกหัดขึ้นไปชั้นบนได้

“ขอรับ ท่านอีวานส์” นักเวทฝึกหัดทั้งสองคนตอบพร้อมกัน แม้ว่าออยมอสค่อนข้างตื่นกลัว เขาพยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ขณะที่แอนนิคซึ่งได้รับการฝึกจากลูเซียนมาสักระยะ เดินตามรอยความสงบนิ่งของลูเซียนและเริ่มคิดว่าหาวิธีขึ้นไปยังชั้นบนผ่านรูบนเพดาน

นักเวทฝึกหัดทั้งสองคนมองหน้ากันและคิดแผนออกมาเหมือนกัน “ใช้เปล… กับ ‘เวทมือนักเวท’ แล้วก็ร่ายเวทเพิ่มความว่องไวและการทรงตัว…”

แล้วออยมอสก็เริ่มเก็บเปลมารวมกันอย่างรวดเร็ว และแคทรีน สปรินต์ เลย์เรีย และไฮดี้ต่างช่วยเขาอีกแรง หรือไม่ก็ช่วยปลอบใจนักเวทฝึกหัดคนอื่นๆ

ในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ นักเวทฝึกหัดรวมพลังกันได้ภายใต้การนำของลูเซียน

ภายนอกห้องใต้ท้องเรือ เมื่อลูเซียนซึ่งกำลังถือดาบอัศวินด้วยมือทั้งสองข้าง กำลังจะอยู่ตรงหน้าคัวโทน ทันใดนั้นก็มีคลื่นสีเขียวพุ่งออกจากตัวเขา

คลื่นสีเขียวก็เข้าถึงตัวคัวโทนอย่างรวดเร็ว และพวกมันส่วนใหญ่ความเร็วลดลงทันทีที่สัมผัสกับคลื่น เสียการทรงตัวและสลบลงกับพื้น แม้แต่หัวหน้าเมอร์ล็อกก็ไม่พ้นพลังจากคลื่นสีเขียวนั้น ในวินาทีต่อมา มันก็รู้สึกหมดแรงและง่วงนอน

อย่างไรก็ตาม อาคมระดับหนึ่ง ‘เวทนิทรา’ ไม่ได้มีพลังรุนแรงพอที่จะทำให้ตัวใหญ่หลับลงได้ และตอนนั้นเอง เวทนี้ได้ผลเฉพาะกับคนี่ยังไม่ถึงระดับอัศวินตัวจริง

ทางเดินทั้งหมดเงียบลงทีละนิดๆ เหลือเพียงลูเซียน หัวหน้าคัวโทนและเหล่าเมอร์ล็อกที่กำลังหลับใหลอยู่บนพื้นท้องเรือ

เมื่อหัวหน้าเมอร์ล็อกรู้ตัวว่ากำลังเผชิญหน้ากับมนุษย์ที่เป็นนักเวทตัวจริง แทนที่จะเป็นอัศวินแม้ว่าเข้าจะใช้ดาบ มันก็ร่ายคาถาของพวกมัน ‘วงแหวนน้ำ’

หัวหน้าเมอร์ล็อกรวบรวมสติกลับมาได้เมื่อมีวงแหวนคลื่นอยู่รอบตัว ลูเซียนรู้สึกว่าหายใจยากลำบากยิ่งกว่าเดิม ราวกับเข้ากำลังจมอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากอากาศเต็มไปด้วยความชื้นสูงอย่างรวดเร็ว จนลูเซียนรู้สึกว่าเข้ากำลังสูดเอาเม็ดน้ำทะเลเข้าจมูกเข้าปอด

อย่างไรก็ตาม ลูเซียนไม่ตื่นตระหนก เขากลั้นหายใจและปล่อยพลังคมดาบน้ำแข็งใส่เมอร์ล็อกสามเล่ม

แม้ว่าหัวหน้าเมอร์ล็อกดูเหมือนมีพลังไม่ต่างจากอัศวินระดับธรรมดา ลูเซียนก็เรียกใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ เนื่องจากเขาต้องการจัดการอสูรกายพวกนี้โดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม พลังจาก ‘กำไลเชือกอัคคี’ รุนแรงเกินไปสำหรับลูเซียนที่จะใช้ตอนนี้

ขณะเดียวกัน ลูเซียนกระโจนหลับไปอีกทางเพื่อหลบสามง่ามที่เมอร์ล็อกตัวนั้นซัดเข้าใส่

ทันทีที่ลูเซียนตั้งหลักยืนได้มั่นคงแล้ว เขาร่ายคาถาเรียกใช้รูปแบบเวทมนตร์ในวิญญาณของเขา

เม็ดน้ำในอากาศไม่สามารถทำอะไรลูเซียนได้อีกต่อไป เนื่องจากเขามีเกราะบางๆ ที่มองไม่เห็นหุ้มทั้งร่าง ซึ่งป้องกันไม่ให้น้ำเข้าถึงตัวเขา

เวทมนตร์ระดับหนึ่ง ‘เวททานทนธาตุ’

แม้ว่าเวทมนตร์ไม่ได้ผลดีนัก เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีจากธาตุโดยตรง แต่ก็ยังค่อนข้างมีประโยชน์เมื่อจัดการกับสภาพแวดล้อมที่ธาตุไม่สมดุล เช่น พื้นใต้ท้องเรือลำนี้ซึ่งถูกควบคุมด้วย ‘วงแหวนคลื่น’

อากาศเย็นยะเยือกจาก ‘เวทดาบน้ำแข็งพาล์เมรา’ ทำให้คลื่นรอบตัวเมอร์ล็อกกลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งช่วยกักตัวมันไว้ภายใน และมันก็บาดเจ็บสาหัสจากคมดาบน้ำแข็งทั้งสาม

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีเลือดสีน้ำเงินเข้มไหลออกมากจาหัว หน้าอก และแขน แผลของมันเยียวยาตัวเองด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ชัด

พลังเยียวยาของคัวโทนไม่เป็นรองโทรลล์ แต่แขนขาของมันไม่สามารถงอกได้ใหม่เหมือนกับโทรลล์

ตอนนั้น แสงที่คมกริบพุ่งไปยังพอของหัวหน้าเมอร์ล็อก ในวินาทีต่อมา หัวของมันก็ร่วงลงบนพื้นเรือ

นั่นเป็น ‘ดาบอะเลิร์ต’ ดาบอัศวินของลูเซียน ที่ฟันซ้ำเข้าแผลบริเวณคอที่เกิดจากคมดาบน้ำแข็ง

ทันทีที่ถูก ‘เวทนิทรา’ เล่นงาน คัวโทนก็ตกเป็นรองในการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักเวทที่หัวหน้าเมอร์ล็อกเผชิญหน้ามีอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เหนือกว่าคัวโทนส่วนใหญ่

แน่นอน ข้อแตกต่างก็คือระดับอุปกรณ์เวทมนตร์ของลูเซียน แทนที่จะเป็นอุปกรณ์ของเขาเอง ลูเซียนยังคงสวมรองเท้าธรรมดาซึ่งได้รับความเสียหายง่ายๆ เสมอ จากความเร็วของเขา และนอกจากนี้ เขายังไม่มีเสื้อคลุมเวท หรือแม้แต่ไม้เท้าซึ่งเป็นสัญลักษณ์พื้นฐานของนักเวท

ลูเซียนกระโดดไปข้างหน้าเพียงไม่กี่ก้าวก็มาอยู่ข้างหลังเมอร์ล็อก เมื่อเขากำลังจะร่ายคาถาอื่น เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างในห้องโกดังสินค้าหลัก

ความรู้สึกเหมือนคลื่นพลังรุนแรงในมหาสมุทร

‘ไม่มีใครอยู่โกดังสินค้าหลัก ความรู้สึกนี้ไม่ได้มาจากการต่อสู้ บางที… อาจเป็นสิ่งที่คัวโทนกำลังตามหา…’ ลูเซียนคิดกับตัวเองแบบเร็วๆ

ความรู้สึกแปลกๆ แต่ก็คุ้นเคย ลูเซียนรู้สึกว่าเขาเคยอ่านเจออะไรแบบนี้ในหนังสือสักเล่ม

“หิน… คลื่น…” ลูเซียนพึมพำ “หินคลื่น!”

หินคลื่นเป็นวัตถุเวทมนตร์ชนิดหนึ่งที่แม้ไม่ได้หายาก แต่ก็มีค่ามาก ซึ่งลูเซียนเคยอ่านเจอในหนังสือ ‘ภาพประกอบวัตถุเกี่ยวกับเวทมนตร์ทั่วไป’ สามารถใช้ในการสร้างอุปกรณ์และอาวุธเวทมนตร์ที่สูงกว่าระดับสาม เพื่อบรรจุพลังเวทมนตร์ลงในอุปกรณ์ต่างๆ เช่น การหายใจในน้ำ การทำลายธาตุน้ำ และการร่ายคาถา เช่น ‘พายุ’ และ ‘พายุน้ำแข็ง’

นอกจากนี้ ‘หินคลื่น’ คุณภาพดีที่สุดสามารถใช้การการสร้างอุปกรณ์ที่ทรงพลังรุนแรง และสามารถใช้กับยาวิเศษต่างๆ เพื่อพัฒนาการเติบโตของสัตว์น้ำนานาชนิด

ลูเซียนเดาว่า เนื่องจากพลังที่เขาสัมผัสได้นั้นรุนแรง จึงน่าจะมี ‘หินคลื่น’ จำนวนมากบนเรือ หรือเป็นหินคลื่นคุณภาพสูง ซึ่งน่าจะมีค่าอย่างน้อยหลายหมื่นธาเล

ตามที่ลูเซียนคิด เนื่องจาก ‘หินคลื่น’ เป็นวัตถุเวทมนตร์ชนิดหนึ่ง เป็นไปได้ว่ามันจะถูกส่งไปยังเมืองอัลลิน แต่เราไม่รู้ว่านี่เป็นการลักลอบขนส่งภายใต้การจัดการของเกรนนิวฟ์หรือไม่ หรือเป็นการอนุญาตของศาสนจักร และหากไม่ใช่ทั้งสองทาง กองเรือจะมีปัญหาแน่นอนในการขนส่งวัตถุเวทมนตร์จำนวนมากขนาดนี้ และถือเป็นความเสี่ยงสูงมากที่ลูเซียนจะถูกพบตัว ทอมและนักเวทฝึกหัดคนอื่นก็เช่นกัน เนื่องจากศาสนจักรจะต้องตรวจสอบเรือโดยละเอียดแน่นอน

อีกเรื่องหนึ่งที่ลูเซียนมั่นใจคือคนที่จะลงมาที่นี่คนแรกน่าจะเป็นทอมกับลูกเรือที่เขาไว้ใจ

ขณะเขากำลังคิด ลูเซียนยังไม่ได้หยุดร่ายคาถา เขาบริกรรมอาคมที่ซับซ้อนและแปลกๆ แล้วก็ผลักมือทั้งสองไปข้างหน้า

กระแสลมรุนแรงที่มองไม่เห็นถูกเรียกมา แล้วพวกเมอร์ล็อกที่กำลังหลับและร่างของหัวหน้าคัวโทนก็ถูกพัดกลับสู่มหาสมุทรอีกครั้ง

เวทมนตร์ระดับหนึ่ง ‘คลื่นกระแทก’

ลูเซียนยังไม่ได้สร้างรูปแบบเวทมนตร์ของ ‘คลื่นกระแทก’ ในวิญญาณของเขา ดังนั้น เขาจึงจำเป็นต่อร่ายคาถาออกมา

ตอนนั้นเอง นักเวทฝึกหัดมทั้งหมดก็ขึ้นไปถึงชั้นบนและซ่อนตัวในห้องของลูกเรือใกล้ๆ เรียบร้อยแล้ว

หลังจากลูเซียนเก็บกวาดหลักฐานการต่อสู้อย่างรวดเร็ว และกำลังงจะขึ้นไปชั้นบนเช่นกัน ใจของเขาพลันหล่นไปอยู่ตาตุ่มเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงอันตราย

กำไลที่ลูเซียนสวมเปล่งแสงสีแดงและเพลิงถูกเรียกมาคุ้มครองตัวลูเซียน

หลังจากนั้น มวลน้ำขนาดเท่าศีรษะคนก็พุ่งเพลิงรอบตัวลูเซียน น้ำและไฟหายไปพร้อมๆ กัน

ตรงทางแยกทางเดินใต้ท้องเรือ เมอร์ล็อกอีกตัวซึ่งเกล็ดเปล่งแสงสีแดงกำลังจ้องลูเซียนตาเขม็งอย่างเยือกเย็น

ต่างจากเมอร์ล็อกที่ถือสามง่าม เมอร์ล็อกตัวนี้กำลังถือไม้เท้าปะการังสีสันฉูดฉาด

ฟ้าร้องหยุดคำรามไปชั่วขณะ ลูเซียนได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ จำนวนมากบนดาดฟ้าเรือ

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+