Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 178 นักเวทเมอร์ด็อก

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 178 นักเวทเมอร์ด็อก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มวลน้ำกรดและไฟหายไปพร้อมๆ กัน วินาทีต่อมา ลูเซียนเรียกใช้รูปแบบเวทมนตร์ในวิญญาณตามสัญชาตญาณ และยิง ‘กระสุนระเบิดเวท’ สีดำสองนัดใส่เมอร์ล็อกที่ถือไม้เท้าปะการังตัวนั้น ก่อนที่เขาจะกระโดดไปอีกฝั่งด้วยความรวดเร็วประดุจเงา

ทันทีที่ ‘กระสุนระเบิดเวท’ เข้าใกล้เมอร์ล็อก ทันใดนั้น พวยน้ำโปร่งแสงก็ปรากฏขึ้นรอบตัวมัน และพวยน้ำนั้นก็ดูดซับกระสุนระเบิดเวทเข้าไปจนหมด

เวทมนตร์ระดับสอง ‘เวทต้านทานพลัง’

อาคมนี้ช่วยให้ผู้ร่ายเวทต้านทานพลังโจมตีได้ระดับหนึ่ง เมอร์ล็อกที่ยืนอยู่ตรงหน้าลูเซียนเป็นนักเวท

ด้วยความรวดเร็วของลูเซียน นักเวทเมอร์ล็อกยกไม้เท้าปะการังของมันขึ้นหาตำแหน่งที่ซ่อนตัวของลูเซียน

ทันใดนั้น ลูเซียนหัวเราะลั่นออกมาอย่างหยุดไม่ได้ การหัวเราะรุนแรงจนลูเซียนสั่นไปทั้งตัว

นักเวทคัวโทนตัวนี้ระบุตำแหน่งของเขาด้วยพลังวิญญาณ

พลังวิญญาณของลูเซียนเริ่มหมดและอ่อนแรง เพราะการหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของเขา เขาไม่สามารถร่ายคาถาหรือเรียกใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ได้ทั้งนั้น เท้าและแขนของเขาเริ่มอ่อนแรงและความเร็วของเขาตกลงอย่างน่าใจหาย

แม้ว่ายังหัวเราะเหมือนคนบ้า ลูเซียนกำลังกังวลสุดขีด เขารู้ว่าถ้าเขาไม่ตอบโต้ให้ได้ผล การจู่โจมระลอกต่อไปนักเวทเมอร์ล็อกตัวนี้จะสังหารเขาได้ง่ายๆ

ลูเซียนกำหมัดซ้ายแน่นเพื่อสัมผัสถึงความเย็นของแหวน ‘แหวนอาฆาตเหมันต์’

สูดหายใจลึกเข้าเต็มปอด เขาส่งความรู้สึกเย็นจากแหวนไปยังวิญญาณและพลังวิญญาณของเขาเพื่อระงับการหัวเราะสุดแสนอันตรายนี้ลงให้ได้

ทันทีที่ลูเซียนรู้สึกว่าเขาขยับตัวได้ เขาม้วนตัวไปกับพื้นถอยให้ห่างจากเมอร์ล็อก

เพียงแค่ครึ่งวินาทีต่อมา มวลพลังสายฟ้าปะทะเข้ากับจุดที่ลูเซียนกำลังหัวเราะอยู่เมื่อครู่และระเบิด จนห้องใต้ท้องเรือของนักเวทฝึกหัดกลายเป็นซากปรักหักพังไม่เหลือชิ้นดี

เส้นพลังสายฟ้าเล็กๆ ยังคาอยู่ระหว่างเส้นทางการวิ่งของมวลพลังสายฟ้า ลูเซียนก็ได้บาดเจ็บ เขารู้สึกทั้งเจ็บปวดทั้งชามหาศาล ผมของเขาตั้งตรง

อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดจากมวลพลังสายฟ้าทำให้ลูเซียนฟื้นสติจากการหัวเราะ เขาใช้โอกาสนี้เรียกใช้ ‘กำไลเชือกอัคคี’ ปล่อยลูกไฟทรงพลังพุ่งตรงใส่นักเวทเมอร์ล็อก

ลูเซียนต้องรอดตายให้ได้ก่อน เขาไม่มีเวลาคิดเรื่องการจัดการกับร่องรอยการต่อสู้ที่เกิดจากลูกไฟในตอนนี้

แม้ว่าพลังของลูกไฟจะทรงพลังจนน่าขนลุก แต่นักเวทเมอร์ล็อกยังมีท่าทีใจเย็นมาก มันยกไม้เท้าปะการังขึ้นอีกครั้ง เมอร์ล็อกสร้างตัวมันเองขึ้นมาอีกตัว

ตัวที่ถูกสร้างขึ้นมาเหมือนกับเมอร์ล็อกเจ้าของร่างทุกกระเบียดนิ้ว ทั้งสองตัวมีไม้เท้าปะการัง ทั้งสองตัวมีดวงตาสีเงินที่เยือกเย็น และทั้งสองตัวมีร่างที่เต็มไปด้วยเกล็ดเปล่งแดงสีแดง

เมื่อลูกไฟปะทะเข้ากับร่างของเมอร์ล็อกที่ลูเซียนเล็งเป้าไว้ตอนแรก ภาพสะท้อนของนักเวทเมอร์ล็อกแตกร้าวราวกับกระจกและสลายไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม นักเวทเมอร์ล็อกตัวจริงกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้ยืนอยู่ข้างๆ เจ้าตัวปลอม ภายในการคุ้มกันของ ‘เวทต้านทานพลัง’ และพวยน้ำขนาดใหญ่

ลูเซียนรู้สึกสิ้นหวังไปเสี้ยววินาที เขาไม่อยากเชื่อสายตาว่าอาคมโจมตีที่รุนแรงที่สุดจองเขาถูกนักเวทเมอร์ล็อกจัดการอย่างง่ายดาย!

นั่นคือเวทมนตร์ระดับสอง ‘กระจก’ ซึ่งสามารถสร้างภาพสะท้อนของผู้ร่ายเวทขึ้นมาหลายภาพเพื่อย้ายตัวผู้ร่ายเวทจากเป้าหมายการโจมตี ก่อนที่ภาพสะท้อนจะถูกทำลาย ผู้ร่ายเวทตัวจริงจะไม่ได้รับบาดเจ็บ

บางครั้งในการต่อสู้ ระดับเวทมนตร์อย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ขึ้นอยู่กับการใช้เวทอย่างถูกต้องถูกเวลาด้วย

ลูเซียนไม่มีทางเลือก การสิ้นหวังเอาตอนนี้หมายถึงความตาย ดังนั้น เขาเริ่มเคลื่อนที่ไปรอบๆ ด้วยความรวดเร็วอีกครั้ง เมื่อนักเวทเมอร์ล็อกยังฟื้นฟูพลังอยู่จากการร่ายคาถาครั้งที่ผ่านมา

ตอนลูเซียนกำลังเคลื่อนที่ไป เขาเรียกใช้รูปแบบเวทมนตร์อีกหนึ่งรูปแบบในวิญญาณ

เวทมนตระดับหนึ่ง ‘เวทสร้างความกลัว’

เงาถูกเรียกมา และเงาก็กระโจนเข้าใส่เมอร์ล็อกอย่างรวดเร็ว

ลูเซียนหวังว่าอาคมนี้จะมีผลต่อเมอร์ล็อกบ้าง เพื่อให้ลูเซียนได้มีโอกาสในการร่ายคาถาหรือล่าถอย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเงาจะปะทะเข้ากับนักเวทคัวโทนอย่างจัง เมอร์ล็อกดูเหมือนจะสามารถต้านทานอาคมบทนี้ ดวงตาสีเงินของมันเยือกเย็นและสงบนิ่ง ราวกับกำลังยืนดูการต่อสู้ของคนอื่น

ลูเซียนเห็นแสงแปลบปลาบผ่านดวงตาสีเงินของนักเวทเมอร์ล็อก แล้วเขาก็เห็นรูปแบบสีน้ำเงินซับซ้อนมากที่เป็นปริศนาและดึงดูดลูเซียนไว้ไม่ให้ละสายตา

ณ ตอนนั้น ‘ดาวหลักแห่งเทวลิขิต’ ของลูเซียนเริ่มเปล่งแสงสว่างจ้า นั่นเป็นสัญญาบอกและกระตุ้นลูเซียนให้รู้ว่าอันตรายกำลังมาถึง

พลังดวงดาวของลูเซียนเชื่อมโยงกับ ‘แหวนอาฆาตเหมันต์’ บนมือซ้ายของลูเซียน ลูเซียนรู้สึกถึงความกลัวที่คืบคลานเข้ามา ทันใดนั้น เขาเรียกสติคืนมาและดึงพลังจากกำไลและใช้ ‘โล่เพลิง’ ในทันที

ลูเซียนถูกควบคุมโดยเวทมนตร์ระดับสอง ‘วิญญาณสะกดจิต’! ของนักเวทเมอร์ล็อก

มวลน้ำก้อนใหญ่พลัดใส่คลุมตัวลูเซียน เขารู้สึกถึงแรงดันมหาศาลในน้ำ และเพลิงรอบตัวของเขาค่อยๆ มอด

เวทมนตร์ระดับสองอีกบท ‘ฟองอากาศถ่วงน้ำ’

เมื่อลูเซียนกำลังจะหมดสติอยู่ในฟองอากาศขนาดใหญ่นั้น เพลิงที่เขาเรียกมาเผามวลน้ำจนระเหยกลายเป็นไอเกือบหมดและทำลายอาคมนั้นลงได้ ขณะที่เพลิงและฟองอากาศหายไปพร้อมกัน ลูเซียนถลาม้วนตัวไปกับพื้นอีกครั้งทั้งๆ ที่ยังไม่มีโอกาสได้หายใจเต็มปอด ก็เพราะมีมวลพลังสายฟ้าถูกซัดใส่เขาอีกระลอก!

ลูเซียนไม่เคยรู้สึกหมดหวังขนาดนี้มาก่อน เขาตระหนักแล้วว่าเขาโชคดีขนาดไหนแล้วที่เอาชนะ ‘ฮันต์’ นักเวทศาสตร์มืดมาได้

ในสถานการณ์นี้ การเลือกร่ายอาคมมีความสำคัญมาก หากเลือกผิดนั่นอาจหมายถึงการจบชีวิตง่ายๆ

ลูเซียนสังเกตว่าดูเหมือนนักเวทเมอร์ล็อกร่ายเวทระดับสองที่เรียกว่า ‘จิตกล’ ใส่ตัวเอง ดังนั้น เวทมนตร์ที่จ้องเล่นงานสภาพจิตยังไม่ได้ผล

การร่ายเวท ‘จิตกล’ สามารถเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตที่มีอารมณ์ให้กลายเป็นสิ่งกลไก เช่น โกเล็มเหล็ก ดังนั้น จึงสามารถต้านทานเวทหลายๆ บทที่จ้องเล่นงานสภาพจิตของฝ่ายตรงข้าม

ลูเซียนรู้ว่านักเวทเมอร์ล็อกเชี่ยวชาญในการใช้เวทป้องกัน ดังนั้น ค่อนข้างเป็นไปที่การใช้เวทโจมตีของเขาหลายต่อหลายครั้ง หากไม่วางแผนอย่างรอบคอบ อาจสูญเปล่าเมื่อต้องเจอกับอสูรกายเช่นนี้

เมื่อคิดอย่างรวดเร็ว ลูเซียนวางแผนกลยุทธ์ที่เป็นไปได้ขึ้นมา

พอเมอร์ล็อกกำลังจะฟื้นพลังจากการร่ายเวทครั้งล่าสุดอีกครั้ง ลูเซียนวางแผนใช้ระเบิดจากลูกไฟคอยคุ้มกันเขา เพื่อกระโดดลงไปในน้ำหาโอกาสอันน้อยนิดที่จะรอดชีวิต

นอกจากนี้ ลูเซียนรู้สึกว่ากำลังเสริมของอัศวินกำลังจะมาถึงในไม่ช้า

‘เดี๋ยว’

ความคิดวูบหนึ่งโผล่ขึ้นมาในหัวลูเซียน

‘หลักของเวท “จิตกล” คือการฝังการทำงานตามกลไกลเข้าในสิ่งมีชีวิต ในกรณีนี้ จะไม่มีการผลิตฮอร์โมน และคลื่นสมองของสิ่งมีชีวิตก็กลายเป็นสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าบริสุทธิ์ เพราะฉะนั้น ผู้ใช้เวทนี้ยังต้านทานเวทที่จ้องเล่นงานสภาพจิต’ ลูเซียนคิดกับตัวเองอย่างรวดเร็ว ‘ว่ากันว่าวิญญาณของสิ่งมีชีวิตไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเท่ากับผู้ควบคุมของชีวิตที่ถูกเล่นแร่แปรธาตุ’

ลูเซียนรู้สึกถึงความหวังเล็กๆ ดังนั้น เขายกเลิกแผนที่จะหนีเพื่อคว้าโอกาสดีกว่าที่จะรอดชีวิต

เขาแฝงกายเข้ากับเงาและเริ่มจู่โจมนักเวทเมอร์ล็อกอีกครั้ง

คลื่นพลังที่มองไม่เห็นแผ่นออกจากวิญญาณของลูเซียน และสร้างเป็นคลื่นเวทมนตร์ทรงพลัง

เวทมนตร์ระดับหนึ่ง ‘เวทลวงใจคน’ ไม่เพียงใช้ได้ผลกับมนุษย์เท่านั้น แต่ยังเล่นงานสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์แบบนี้ได้ด้วย!

นักเวทเมอร์ล็อกมีรอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนหน้า

‘ไม่มีทางที่ “เวทลวงใจคน” จะใช้ได้ผล’ เมอร์ล็อกคิด

อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้น มันรู้สึกว่าลูเซียน มนุษย์ผู้ยืนอยู่ตรงหน้ามัน เป็นเจ้าแห่งมหาสมุทรที่มันเคารพบูชา

เมอร์ล็อกผ่อนการเคลื่อนพลังวิญญาณและหยุดร่ายคาถาเวทมนตร์ระดับสอง ‘ฟองอากาศถ่วงน้ำ’ โดยไม่ทันยั้งคิด

นักเวทเมอร์ล็อกตระหนักได้ในทันทีว่านี่มันไม่ถูกต้อง

แม้ว่าพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งของนักเวทเมอร์ล็อกจะป้องกันตัวมันจากเวทบทต่อไปของลูเซียนได้สักพัก แต่ด้วยความรู้สึกที่ทิ่มแทงอยู่ในในที่เกิดจากเวทมนตร์ของลูเซียน เมอร์ล็อกสูญเสียสมาธิไปชั่วขณะ

‘เวทลวงใจคน’ รูปแบบนี้ลูเซียนพัฒนาขึ้นเอง โดยเน้นผลกระทบของเวทมนตร์ต่อวิญญาณของบุคคล แต่ลดพลังความรุนแรงจากการแทรกแซงคลื่นสมอง ดังนั้น จึงเป็นผลดีกว่าในการใช้เล่นงานนักเวท!

ความล้มเหลวในการร่ายคาถา ‘เวทลวงใจคน’ ใส่นักเวทเมอร์ล็อกทำให้ลูเซียนมีผลตีกลับเช่นกัน ดังนั้น เขาจึงรู้สึกหน้ามืดอยู่เป็นวินาที แต่ก็ไม่สามารถห้ามลูเซียนจากการเรียกใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ของเขา

ลูกไฟขนาดเท่าศีรษะมนุษย์ปรากฏขึ้นกลางอากาศและพุ่งเข้าใส่นักเวทเมอร์ล็อก

ตอนนี้ เมอร์ล็อกเหลือเพียงการคุ้มภัยจาก ‘เวทต้านทานพลัง’ และฟองอากาศ จ้องมองลูกไฟพุ่งเข้ามาใส่ เมอร์ล็อกดูยอมรับสภาพและหมดหวัง

สายเกินไปที่จะร่ายคาถาหรือเรียกใช้อุปกรณ์เวทมนตร์

ตู้ม!

ลูกไฟระเบิด

ชิ้นส่วนของนักเวทเมอร์ล็อกระเบิดกระจัดกระจายเป็นเศษเนื้อ บางชิ้นดำเป็นตอตะโก

อย่างไรก็ตาม แขนขาของเมอร์ล็อกยังคงขยับอยู่บนพื้นเรือ ตะเกียกตะกายกลับไปหาส่วนลำตัว

แน่นอน ลูเซียนคงไม่ปล่อยให้มันกลับมาได้อีกครั้ง

ลูเซียนถือ ‘ดาบอะเลิร์ต’ ในมือขวา และ ‘กริชดูดพลัง’ ในมือซ้าย เขากระโดดเข้าทำลายอวัยวะสำคัญที่เหลือของเมอร์ล็อก

แสงคมกริบวูบผ่าน หัวของเมอร์ล็อกขาดกระเด็น

ณ ตอนนี้ มีคนเดินลงบันไดลงมา เขาเห็นร่างเมอร์ล็อกที่ไร้วิญญาณและเห็นลูเซียนเช่นกัน

“เจ้าฆ่ามันหรือ!?” ทอมไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

ทอมสู้กับเมอร์ล็อกตัวนี้บนดาดฟ้าเรือก่อนหน้านี้ และเขารู้ดีว่ามันเป็นนักเวทระดับสองที่แข็งแกร่งมาก

ตอนที่ทอมรีบวิ่งลงบันไดมาข้างล่าง เขาไม่เพียงลงมาคุ้มกัน ‘หินคลื่น’ เท่านั้น แต่ลงมาช่วยลูเซียนกับนักเวทฝึกหัดด้วย

อย่างไรก็ตาม ภายในหนึ่งนาที นักเวทเมอร์ล็อกก็ถูกลูเซียนสังหารได้แล้ว

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 178 นักเวทเมอร์ด็อก

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 178 นักเวทเมอร์ด็อก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มวลน้ำกรดและไฟหายไปพร้อมๆ กัน วินาทีต่อมา ลูเซียนเรียกใช้รูปแบบเวทมนตร์ในวิญญาณตามสัญชาตญาณ และยิง ‘กระสุนระเบิดเวท’ สีดำสองนัดใส่เมอร์ล็อกที่ถือไม้เท้าปะการังตัวนั้น ก่อนที่เขาจะกระโดดไปอีกฝั่งด้วยความรวดเร็วประดุจเงา

ทันทีที่ ‘กระสุนระเบิดเวท’ เข้าใกล้เมอร์ล็อก ทันใดนั้น พวยน้ำโปร่งแสงก็ปรากฏขึ้นรอบตัวมัน และพวยน้ำนั้นก็ดูดซับกระสุนระเบิดเวทเข้าไปจนหมด

เวทมนตร์ระดับสอง ‘เวทต้านทานพลัง’

อาคมนี้ช่วยให้ผู้ร่ายเวทต้านทานพลังโจมตีได้ระดับหนึ่ง เมอร์ล็อกที่ยืนอยู่ตรงหน้าลูเซียนเป็นนักเวท

ด้วยความรวดเร็วของลูเซียน นักเวทเมอร์ล็อกยกไม้เท้าปะการังของมันขึ้นหาตำแหน่งที่ซ่อนตัวของลูเซียน

ทันใดนั้น ลูเซียนหัวเราะลั่นออกมาอย่างหยุดไม่ได้ การหัวเราะรุนแรงจนลูเซียนสั่นไปทั้งตัว

นักเวทคัวโทนตัวนี้ระบุตำแหน่งของเขาด้วยพลังวิญญาณ

พลังวิญญาณของลูเซียนเริ่มหมดและอ่อนแรง เพราะการหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของเขา เขาไม่สามารถร่ายคาถาหรือเรียกใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ได้ทั้งนั้น เท้าและแขนของเขาเริ่มอ่อนแรงและความเร็วของเขาตกลงอย่างน่าใจหาย

แม้ว่ายังหัวเราะเหมือนคนบ้า ลูเซียนกำลังกังวลสุดขีด เขารู้ว่าถ้าเขาไม่ตอบโต้ให้ได้ผล การจู่โจมระลอกต่อไปนักเวทเมอร์ล็อกตัวนี้จะสังหารเขาได้ง่ายๆ

ลูเซียนกำหมัดซ้ายแน่นเพื่อสัมผัสถึงความเย็นของแหวน ‘แหวนอาฆาตเหมันต์’

สูดหายใจลึกเข้าเต็มปอด เขาส่งความรู้สึกเย็นจากแหวนไปยังวิญญาณและพลังวิญญาณของเขาเพื่อระงับการหัวเราะสุดแสนอันตรายนี้ลงให้ได้

ทันทีที่ลูเซียนรู้สึกว่าเขาขยับตัวได้ เขาม้วนตัวไปกับพื้นถอยให้ห่างจากเมอร์ล็อก

เพียงแค่ครึ่งวินาทีต่อมา มวลพลังสายฟ้าปะทะเข้ากับจุดที่ลูเซียนกำลังหัวเราะอยู่เมื่อครู่และระเบิด จนห้องใต้ท้องเรือของนักเวทฝึกหัดกลายเป็นซากปรักหักพังไม่เหลือชิ้นดี

เส้นพลังสายฟ้าเล็กๆ ยังคาอยู่ระหว่างเส้นทางการวิ่งของมวลพลังสายฟ้า ลูเซียนก็ได้บาดเจ็บ เขารู้สึกทั้งเจ็บปวดทั้งชามหาศาล ผมของเขาตั้งตรง

อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดจากมวลพลังสายฟ้าทำให้ลูเซียนฟื้นสติจากการหัวเราะ เขาใช้โอกาสนี้เรียกใช้ ‘กำไลเชือกอัคคี’ ปล่อยลูกไฟทรงพลังพุ่งตรงใส่นักเวทเมอร์ล็อก

ลูเซียนต้องรอดตายให้ได้ก่อน เขาไม่มีเวลาคิดเรื่องการจัดการกับร่องรอยการต่อสู้ที่เกิดจากลูกไฟในตอนนี้

แม้ว่าพลังของลูกไฟจะทรงพลังจนน่าขนลุก แต่นักเวทเมอร์ล็อกยังมีท่าทีใจเย็นมาก มันยกไม้เท้าปะการังขึ้นอีกครั้ง เมอร์ล็อกสร้างตัวมันเองขึ้นมาอีกตัว

ตัวที่ถูกสร้างขึ้นมาเหมือนกับเมอร์ล็อกเจ้าของร่างทุกกระเบียดนิ้ว ทั้งสองตัวมีไม้เท้าปะการัง ทั้งสองตัวมีดวงตาสีเงินที่เยือกเย็น และทั้งสองตัวมีร่างที่เต็มไปด้วยเกล็ดเปล่งแดงสีแดง

เมื่อลูกไฟปะทะเข้ากับร่างของเมอร์ล็อกที่ลูเซียนเล็งเป้าไว้ตอนแรก ภาพสะท้อนของนักเวทเมอร์ล็อกแตกร้าวราวกับกระจกและสลายไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม นักเวทเมอร์ล็อกตัวจริงกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้ยืนอยู่ข้างๆ เจ้าตัวปลอม ภายในการคุ้มกันของ ‘เวทต้านทานพลัง’ และพวยน้ำขนาดใหญ่

ลูเซียนรู้สึกสิ้นหวังไปเสี้ยววินาที เขาไม่อยากเชื่อสายตาว่าอาคมโจมตีที่รุนแรงที่สุดจองเขาถูกนักเวทเมอร์ล็อกจัดการอย่างง่ายดาย!

นั่นคือเวทมนตร์ระดับสอง ‘กระจก’ ซึ่งสามารถสร้างภาพสะท้อนของผู้ร่ายเวทขึ้นมาหลายภาพเพื่อย้ายตัวผู้ร่ายเวทจากเป้าหมายการโจมตี ก่อนที่ภาพสะท้อนจะถูกทำลาย ผู้ร่ายเวทตัวจริงจะไม่ได้รับบาดเจ็บ

บางครั้งในการต่อสู้ ระดับเวทมนตร์อย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ขึ้นอยู่กับการใช้เวทอย่างถูกต้องถูกเวลาด้วย

ลูเซียนไม่มีทางเลือก การสิ้นหวังเอาตอนนี้หมายถึงความตาย ดังนั้น เขาเริ่มเคลื่อนที่ไปรอบๆ ด้วยความรวดเร็วอีกครั้ง เมื่อนักเวทเมอร์ล็อกยังฟื้นฟูพลังอยู่จากการร่ายคาถาครั้งที่ผ่านมา

ตอนลูเซียนกำลังเคลื่อนที่ไป เขาเรียกใช้รูปแบบเวทมนตร์อีกหนึ่งรูปแบบในวิญญาณ

เวทมนตระดับหนึ่ง ‘เวทสร้างความกลัว’

เงาถูกเรียกมา และเงาก็กระโจนเข้าใส่เมอร์ล็อกอย่างรวดเร็ว

ลูเซียนหวังว่าอาคมนี้จะมีผลต่อเมอร์ล็อกบ้าง เพื่อให้ลูเซียนได้มีโอกาสในการร่ายคาถาหรือล่าถอย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเงาจะปะทะเข้ากับนักเวทคัวโทนอย่างจัง เมอร์ล็อกดูเหมือนจะสามารถต้านทานอาคมบทนี้ ดวงตาสีเงินของมันเยือกเย็นและสงบนิ่ง ราวกับกำลังยืนดูการต่อสู้ของคนอื่น

ลูเซียนเห็นแสงแปลบปลาบผ่านดวงตาสีเงินของนักเวทเมอร์ล็อก แล้วเขาก็เห็นรูปแบบสีน้ำเงินซับซ้อนมากที่เป็นปริศนาและดึงดูดลูเซียนไว้ไม่ให้ละสายตา

ณ ตอนนั้น ‘ดาวหลักแห่งเทวลิขิต’ ของลูเซียนเริ่มเปล่งแสงสว่างจ้า นั่นเป็นสัญญาบอกและกระตุ้นลูเซียนให้รู้ว่าอันตรายกำลังมาถึง

พลังดวงดาวของลูเซียนเชื่อมโยงกับ ‘แหวนอาฆาตเหมันต์’ บนมือซ้ายของลูเซียน ลูเซียนรู้สึกถึงความกลัวที่คืบคลานเข้ามา ทันใดนั้น เขาเรียกสติคืนมาและดึงพลังจากกำไลและใช้ ‘โล่เพลิง’ ในทันที

ลูเซียนถูกควบคุมโดยเวทมนตร์ระดับสอง ‘วิญญาณสะกดจิต’! ของนักเวทเมอร์ล็อก

มวลน้ำก้อนใหญ่พลัดใส่คลุมตัวลูเซียน เขารู้สึกถึงแรงดันมหาศาลในน้ำ และเพลิงรอบตัวของเขาค่อยๆ มอด

เวทมนตร์ระดับสองอีกบท ‘ฟองอากาศถ่วงน้ำ’

เมื่อลูเซียนกำลังจะหมดสติอยู่ในฟองอากาศขนาดใหญ่นั้น เพลิงที่เขาเรียกมาเผามวลน้ำจนระเหยกลายเป็นไอเกือบหมดและทำลายอาคมนั้นลงได้ ขณะที่เพลิงและฟองอากาศหายไปพร้อมกัน ลูเซียนถลาม้วนตัวไปกับพื้นอีกครั้งทั้งๆ ที่ยังไม่มีโอกาสได้หายใจเต็มปอด ก็เพราะมีมวลพลังสายฟ้าถูกซัดใส่เขาอีกระลอก!

ลูเซียนไม่เคยรู้สึกหมดหวังขนาดนี้มาก่อน เขาตระหนักแล้วว่าเขาโชคดีขนาดไหนแล้วที่เอาชนะ ‘ฮันต์’ นักเวทศาสตร์มืดมาได้

ในสถานการณ์นี้ การเลือกร่ายอาคมมีความสำคัญมาก หากเลือกผิดนั่นอาจหมายถึงการจบชีวิตง่ายๆ

ลูเซียนสังเกตว่าดูเหมือนนักเวทเมอร์ล็อกร่ายเวทระดับสองที่เรียกว่า ‘จิตกล’ ใส่ตัวเอง ดังนั้น เวทมนตร์ที่จ้องเล่นงานสภาพจิตยังไม่ได้ผล

การร่ายเวท ‘จิตกล’ สามารถเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตที่มีอารมณ์ให้กลายเป็นสิ่งกลไก เช่น โกเล็มเหล็ก ดังนั้น จึงสามารถต้านทานเวทหลายๆ บทที่จ้องเล่นงานสภาพจิตของฝ่ายตรงข้าม

ลูเซียนรู้ว่านักเวทเมอร์ล็อกเชี่ยวชาญในการใช้เวทป้องกัน ดังนั้น ค่อนข้างเป็นไปที่การใช้เวทโจมตีของเขาหลายต่อหลายครั้ง หากไม่วางแผนอย่างรอบคอบ อาจสูญเปล่าเมื่อต้องเจอกับอสูรกายเช่นนี้

เมื่อคิดอย่างรวดเร็ว ลูเซียนวางแผนกลยุทธ์ที่เป็นไปได้ขึ้นมา

พอเมอร์ล็อกกำลังจะฟื้นพลังจากการร่ายเวทครั้งล่าสุดอีกครั้ง ลูเซียนวางแผนใช้ระเบิดจากลูกไฟคอยคุ้มกันเขา เพื่อกระโดดลงไปในน้ำหาโอกาสอันน้อยนิดที่จะรอดชีวิต

นอกจากนี้ ลูเซียนรู้สึกว่ากำลังเสริมของอัศวินกำลังจะมาถึงในไม่ช้า

‘เดี๋ยว’

ความคิดวูบหนึ่งโผล่ขึ้นมาในหัวลูเซียน

‘หลักของเวท “จิตกล” คือการฝังการทำงานตามกลไกลเข้าในสิ่งมีชีวิต ในกรณีนี้ จะไม่มีการผลิตฮอร์โมน และคลื่นสมองของสิ่งมีชีวิตก็กลายเป็นสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าบริสุทธิ์ เพราะฉะนั้น ผู้ใช้เวทนี้ยังต้านทานเวทที่จ้องเล่นงานสภาพจิต’ ลูเซียนคิดกับตัวเองอย่างรวดเร็ว ‘ว่ากันว่าวิญญาณของสิ่งมีชีวิตไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเท่ากับผู้ควบคุมของชีวิตที่ถูกเล่นแร่แปรธาตุ’

ลูเซียนรู้สึกถึงความหวังเล็กๆ ดังนั้น เขายกเลิกแผนที่จะหนีเพื่อคว้าโอกาสดีกว่าที่จะรอดชีวิต

เขาแฝงกายเข้ากับเงาและเริ่มจู่โจมนักเวทเมอร์ล็อกอีกครั้ง

คลื่นพลังที่มองไม่เห็นแผ่นออกจากวิญญาณของลูเซียน และสร้างเป็นคลื่นเวทมนตร์ทรงพลัง

เวทมนตร์ระดับหนึ่ง ‘เวทลวงใจคน’ ไม่เพียงใช้ได้ผลกับมนุษย์เท่านั้น แต่ยังเล่นงานสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์แบบนี้ได้ด้วย!

นักเวทเมอร์ล็อกมีรอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนหน้า

‘ไม่มีทางที่ “เวทลวงใจคน” จะใช้ได้ผล’ เมอร์ล็อกคิด

อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้น มันรู้สึกว่าลูเซียน มนุษย์ผู้ยืนอยู่ตรงหน้ามัน เป็นเจ้าแห่งมหาสมุทรที่มันเคารพบูชา

เมอร์ล็อกผ่อนการเคลื่อนพลังวิญญาณและหยุดร่ายคาถาเวทมนตร์ระดับสอง ‘ฟองอากาศถ่วงน้ำ’ โดยไม่ทันยั้งคิด

นักเวทเมอร์ล็อกตระหนักได้ในทันทีว่านี่มันไม่ถูกต้อง

แม้ว่าพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งของนักเวทเมอร์ล็อกจะป้องกันตัวมันจากเวทบทต่อไปของลูเซียนได้สักพัก แต่ด้วยความรู้สึกที่ทิ่มแทงอยู่ในในที่เกิดจากเวทมนตร์ของลูเซียน เมอร์ล็อกสูญเสียสมาธิไปชั่วขณะ

‘เวทลวงใจคน’ รูปแบบนี้ลูเซียนพัฒนาขึ้นเอง โดยเน้นผลกระทบของเวทมนตร์ต่อวิญญาณของบุคคล แต่ลดพลังความรุนแรงจากการแทรกแซงคลื่นสมอง ดังนั้น จึงเป็นผลดีกว่าในการใช้เล่นงานนักเวท!

ความล้มเหลวในการร่ายคาถา ‘เวทลวงใจคน’ ใส่นักเวทเมอร์ล็อกทำให้ลูเซียนมีผลตีกลับเช่นกัน ดังนั้น เขาจึงรู้สึกหน้ามืดอยู่เป็นวินาที แต่ก็ไม่สามารถห้ามลูเซียนจากการเรียกใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ของเขา

ลูกไฟขนาดเท่าศีรษะมนุษย์ปรากฏขึ้นกลางอากาศและพุ่งเข้าใส่นักเวทเมอร์ล็อก

ตอนนี้ เมอร์ล็อกเหลือเพียงการคุ้มภัยจาก ‘เวทต้านทานพลัง’ และฟองอากาศ จ้องมองลูกไฟพุ่งเข้ามาใส่ เมอร์ล็อกดูยอมรับสภาพและหมดหวัง

สายเกินไปที่จะร่ายคาถาหรือเรียกใช้อุปกรณ์เวทมนตร์

ตู้ม!

ลูกไฟระเบิด

ชิ้นส่วนของนักเวทเมอร์ล็อกระเบิดกระจัดกระจายเป็นเศษเนื้อ บางชิ้นดำเป็นตอตะโก

อย่างไรก็ตาม แขนขาของเมอร์ล็อกยังคงขยับอยู่บนพื้นเรือ ตะเกียกตะกายกลับไปหาส่วนลำตัว

แน่นอน ลูเซียนคงไม่ปล่อยให้มันกลับมาได้อีกครั้ง

ลูเซียนถือ ‘ดาบอะเลิร์ต’ ในมือขวา และ ‘กริชดูดพลัง’ ในมือซ้าย เขากระโดดเข้าทำลายอวัยวะสำคัญที่เหลือของเมอร์ล็อก

แสงคมกริบวูบผ่าน หัวของเมอร์ล็อกขาดกระเด็น

ณ ตอนนี้ มีคนเดินลงบันไดลงมา เขาเห็นร่างเมอร์ล็อกที่ไร้วิญญาณและเห็นลูเซียนเช่นกัน

“เจ้าฆ่ามันหรือ!?” ทอมไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

ทอมสู้กับเมอร์ล็อกตัวนี้บนดาดฟ้าเรือก่อนหน้านี้ และเขารู้ดีว่ามันเป็นนักเวทระดับสองที่แข็งแกร่งมาก

ตอนที่ทอมรีบวิ่งลงบันไดมาข้างล่าง เขาไม่เพียงลงมาคุ้มกัน ‘หินคลื่น’ เท่านั้น แต่ลงมาช่วยลูเซียนกับนักเวทฝึกหัดด้วย

อย่างไรก็ตาม ภายในหนึ่งนาที นักเวทเมอร์ล็อกก็ถูกลูเซียนสังหารได้แล้ว

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+