Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 218 คลังสมบัติในมิติพิเศษ

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 218 คลังสมบัติในมิติพิเศษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สุดปลายทางเดินชั้นที่สิบสามของ ‘หอคอยเวทมนตร์แห่งราชสำนักโฮล์ม’ มีประตูเหล็กสีเทาดูหนักอยู่บานหนึ่ง เมื่อร็อดแฮมขยับกลไกเปิดมัน ลูเซียนกลับมองสิ่งที่อยู่เบื้องหลังเงามืดนั้นได้เพียงเลือนราง

“ที่นี่เป็นของ ‘เจตจำนงแห่งธาตุ’ กับ ‘สถาบันเวทมนตร์ราชสำนักโฮล์ม’ หารกันครึ่งๆ” ลาซาร์บอกให้ลูเซียนทราบ “ข้าได้ยินมาว่าหอคอยเวทมนตร์ของท่านผู้หญิงแฮททาเวย์ ก็เป็นมิติพิเศษเช่นกัน”

ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุ ลาซาร์จึงเคยมาที่นี่แล้ว

แม้ว่าลูเซียนจะพยายามมองฝ่าม่านหมอกด้วยสายตาเฉียบคมของเขาจากพลังของพร เขาก็ยังไม่สามารถระบุอะไรได้

“เชิญขอรับ ท่านอีวานส์” ร็อดแฮมเอ่ยขึ้นพลางผายมือบอกทางด้วยความเคารพนบน้อม ชัดเจนว่าเขาได้รับการฝึกฝนมาดีมาก

ลูเซียนพยักหน้า จากนั้นจึงเดินผ่านประตูเข้าไป

ท้องนภาพร่างพราวซ้อนตัวอยู่หลังม่านหมอกหนา แสงจากดวงดาวมากมายส่องลอดเพดานแก้วใสลงมายังคลังสมบัติแสนกว้างใหญ่ ซึ่งไกลสุดลูกหูลูกตาของลูเซียนเลยทีเดียว

แต่ว่า ไม่มีสิ่งใดอยู่ในนั้นสักอย่าง จนกระทั่งลูเซียน ลาซาร์และร็อดแฮมก้าวเท้าเข้าไป ฉับพลันนั้นคลังสมบัติก็คล้ายกับจะมีชีวิตขึ้นมา

“ร็อดแฮม เจ้ามาทำอะไรที่นี่” เสียงเย็นชาไร้อารมณ์ดังมาจากทั่วทุกมุมของคลังสมบัติ ทำให้บรรยากาศโดยรอบของที่แห่งนี้ดูเคร่งขรึมและชวนอึดอัด ราวกับว่าจะมีบทลงโทษเลวร้ายกับพวกเขาทันทีหากว่าร็อดแฮมพูดอะไรพลาดไป

ร็อดแฮมหยิบเหรียญตราหน้าตาลึกลับที่มีสัญลักษณ์ของธาตุมากมายจากสมัยจักรวรรดิเวทมนตร์โบราณออกมา “ท่านไซเดอร์แมน นี่คือเหรียญตราจากท่านมอร์ริสขอรับ และมันมีคำสั่งถึงท่านโดยตรง นอกจากนี้แล้ว ข้าเชื่อว่าท่านย่อมเห็นแหวนบนมือขวาของท่านลูเซียนได้อย่างง่ายดาย นั่นเป็นแหวนจากรางวัล ‘มงกุฎแห่งโฮล์ม’ ขอรับ”

“โอ้?” เสียงเย็นชาตอบกลับมา แล้วเหรียญตราในมือร็อดแฮมก็พลันอันตทานหายไป ลูเซียนไม่รู้เลยว่าไซเดอร์แมนทำเช่นนั้นได้อย่างไร แต่มันดูเหมือนกับว่าการทำอะไรในคลังสมบัตินี้เป็นเรื่องง่ายดายอย่างยิ่งสำหรับเขา

หากให้พูดตามตรง ลูเซียนที่มีห้องสมุดห้วงจิตกับองค์ความรู้จากโลกเดิมนั้น บางครั้งเขาก็ไม่ค่อยเคารพนับถือนักเวทที่นี่เสียเท่าไร แต่ว่า ณ เวลานี้ จู่ๆ เขาก็ค้นพบว่าตนเองกำลังเฝ้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลังสมบัตินี้ด้วยความหวั่นเกรง ลูเซียนรู้ว่าตัวเขายังใหม่มากในเรื่องของเวทมนตร์ และเขาก็ไม่ควรยโสโอหังและมั่นใจในตนเองจนเกินไป

แต่แน่นอนว่า ลูเซียนจะยังเดินหน้าเปลี่ยนองค์ความรู้จากโลกเดิมมาเป็นอาร์คานาศาสตร์และเวทมนตร์ให้ได้ เพราะ อย่างไรเสียนี่ก็เป็นสิ่งเดียวที่เขาทำได้ดี และคงมีเพียงคนโง่เท่านั้นที่จะปล่อยโอกาสนี้ไป นอกจากนี้แล้ว ลูเซียนก็อยากศึกษาเกี่ยวกับจิตวิญญาณ ความสามารถทางจิตใจ และพลังวิญญาณเช่นเดียวกัน เพื่อที่เขาจะได้เป็นนักเวทที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

“เหรียญตราได้รับการยืนยันแล้ว เอาล่ะ ท่านอีวานส์ ท่านสามารถเลือกอะไรก็ได้จากที่นี่ นั่นรวมถึงน้ำยา วัตถุดิบ อุปกรณ์เวทมนตร์ กับดักวงแหวนเวท ตำราหายาก และอื่นๆ โดยห้ามเกินสองพันคะแนนอาร์คานา” ขณะที่ไซเดอร์แมนอธิบาย แสงจากดวงดาวก็ค่อยๆ เปิดเผยชั้นวางของแต่ละแถวๆ ที่มีตัวเลขกำกับไว้ และในแต่ละชั้นก็อัดแน่นไปด้วยข้าวของนับไม่ถ้วน และจากทั้งหมดนั้น บางอันก็ดูหน้าตาธรรมดาๆ บางอันก็ดูชวนตะลึงและเปล่งประกายวูบวาบชวนฝัน…

ลูเซียนยิ่งรู้สึกตื่นเต้นกว่าตอนที่เขาเข้าไปในห้องทดลองของมัสเคลินย์เสียอีก เพราะว่าในห้องทดลองมีแต่วัตถุดิบกับส่วนประกอบเวทมนตร์เท่านั้น

ขณะเดินตามลาซาร์กับร็อดแฮมเข้าไป ลูเซียนก็พยายามอย่างที่สุดเพื่อให้ตนเองใจเย็นลง และไม่นานเขาก็มาหยุดอยู่หน้าชั้นวางของแรกที่มีผ้าคลุมเวทมนตร์ เสื้อคลุมไม่มีแขน และหมวกจำนวนนับไม่ถ้วน

‘เสื้อคลุมเดวีย์ (จำลอง): จำลองจากเสื้อคลุมเวทมนตร์ระดับตำนานของเดวีย์ โรเดล ระดับเก้าขั้นสูง ลดเวลาการรอร่ายคาถาลงสามวินาที ทำให้ผู้สวมได้รับพลังป้องกันเทียบเท่าระดับอัศวินนภาขั้นที่หก และเพิ่มความทนทานต่อพลังเวทจนถึงมนตราระดับเก้าให้กับผู้สวม เงื่อนไข: พลังวิญญาณของผู้สวมต้องมีอย่างน้อยระดับเจ็ด มิเช่นนั้นจะกลายเป็นคนเบาปัญญาไปเสีย’

‘เดวีย์ โรเดล: แม้ว่าจะเป็นเพียงรูปแบบจำลอง มันก็ยังมีมูลค่ามาก ผู้ที่มีกำลังมากพอ (มูลค่าสิบล้านคะแนนอาร์คานาหรือราชรัฐหรือเขตการปกครองหนึ่ง) ก็สมควรได้มันไป’

เดวีย์ โรเดล คือสมาชิกสภาสูงสุด

ลูเซียนไม่อาจละสายตาไปจากเสื้อคลุมเวทมนตร์สีดำรูปแบบจักรวรรดิเวทมนตร์โบราณตัวนี้ได้เลย นี่คือเสื้อคลุมเวทมนตร์ที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา! ลดเวลาการรอร่ายคาถาลงสามวินาทีหมายถึงผู้สวมใส่จะร่ายคาถาที่ต่ำกว่าระดับหกได้อย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด ทำให้ผู้สวมสามารถสังหารศัตรูได้ราวกับพายุอันทรงพลัง นี่จะต้องเป็นเสื้อคลุมที่นักเวทส่วนใหญ่เฝ้าฝันถึงเป็นแน่!

ทว่า ราคาของมันนั้นเหนือจินตนาการของลูเซียนไปไกล ตามที่ลูเซียนรู้ แม้แต่ตระกูลไวโอเล็ตก็ยังมีรายได้ต่อปีทั้งหมดเพียงแปดแสนธาเล แต่เสื้อคลุมตัวนี้กลับมีราคาสูงถึงสิบล้านคะแนนอาร์คานา

ในตอนนั้นเอง ลูเซียนก็เหลือบไปเห็นเสื้อคลุมระดับเจ็ดอีกตัวที่สามารถสะท้อนการโจมตีเป้าหมายเดียวจากระยะไกลได้ แต่เขาก็ไม่มีคะแนนพอจะใช้มันได้เช่นกัน

หลังจากนั้นครู่ใหญ่ ในที่สุดเขาก็พบสองตัวเลือกที่น่าจะเหมาะกับเขา ตัวหนึ่งคือ ‘นางไม้’ และอีกตัวคือ ‘จำแลง’ ตัวอื่นๆ ถ้าไม่แพงเกินไปก็ไม่ใช่แบบที่ลูเซียนต้องการ

ลูเซียนตรวจดู ‘นางไม้’ ซึ่งมีราคาหนึ่งพันห้าร้อยคะแนน มีเวทมนตร์สองบทที่เรียกใช้ได้คือ ‘ลวงตา’ กับ ‘มหาเสน่ห์’ และยังมอบการป้องกันระดับอัศวินขั้นที่สามให้กับผู้สวมอีกด้วย

‘ไม่ว่าผู้สวมใส่จะเป็นชายหรือหญิงก็จะมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นมหาศาล และเสน่ห์นี้ก็จะส่งผลทุกเพศ ผู้สวมใส่จะได้รับส่วนลดมากมาย และยังกระทั่งได้รับของฟรี! คำเตือน ผู้ที่ตามติดท่านอาจคลุ้มคลั่งได้!’

ลูเซียนตัวสั่นเล็กน้อยหลังจากอ่านคำบรรยายนี้ ก่อนจะรีบวางมันลง จากนั้นจึงหยิบเสื้อคลุมอีกตัวที่ชื่อ ‘จำแลง’ ขึ้นมา

‘เสื้อคลุมเวทมนตร์ระดับสามขั้นกลาง สามารถเรียกใช้เวท ‘แปลงกาย’ มอบการป้องกันระดับอัศวินขั้นที่สองและต้านทานเวทมนตร์เทียบเท่านักเวทระดับสาม ผู้สวมจะสามารถจำแลงกายเป็นหนู นกฮูก และโทรลได้วันละครั้งเท่านั้น’

‘อัสซุนเซา ฟิลิเป: แปลงกาย มิใช่ใจ’

เสื้อคลุมตัวนี้มีมูลค่าหนึ่งพันเก้าร้อยหกสิบคะแนนอาร์คานา ถือว่าแพงกว่าเสื้อคลุมตัวอื่นๆ ในระดับเดียวกัน แต่ลูเซียนก็ยังเลือกมัน เพราะว่าเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับศาสตร์แห่งการแปลงร่างเลย แม้ว่าลูเซียนจะรู้เกี่ยวกับกายวิภาคซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเรียนศาสตร์แห่งการแปลงร่าง แต่ลูเซียนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าการแปลงร่างนั้นมีกลไกการทำงานอย่างไร

ลูเซียนมีความรู้สึกว่าเสื้อคลุมตัวนี้จะต้องมีประโยชน์กับเขาอย่างมากในสักช่วงเวลาหนึ่งในอนาคตนี้แน่

หลังจากบอกไซเดอร์แมนกับร็อดแฮมว่าเขาเลือกอะไร ลูเซียนก็ร่ายเวท ‘ปลดผนึก’ แล้วทิ้งสัญลักษณ์พลังวิญญาณไว้ในเสื้อคลุม ก่อนจะสวมมัน หลังจากเพ่งฌานสมาธิส่งพลังวิญญาณไปบนเสื้อคลุม ลูเซียนก็เปลี่ยนมันให้เป็นชุดสูทสีดำดูภูมิฐานกับรองเท้าหนังคู่หนึ่ง

ลูเซียนใช้คะแนนอาร์คานาอีกสี่สิบคะแนนเพื่อซื้อน้ำยาสีม่วงเข้มที่มีชื่อว่า ‘น้ำอมฤตแห่งฟลอเรนเซีย’ มาสิบขวด เขาวางแผนไว้ว่าจะใช้น้ำยานี้ที

ละขวดเป็นเวลาสิบเดือนต่อจากนี้เพื่อให้เขารับมือได้ดีกับความเร็วในการเข้าฌานที่พัฒนาขึ้นมากเพราะแหวน ‘เวทธาตุ’

เพียงเท่านี้ สองพันคะแนนอาร์คานาก็หมดลง เมื่อลูเซียนกำลังจะจากไปพร้อมกับลาซาร์และร็อดแฮม ไซเดอร์แมนก็พูดกับเขาว่า “ท่านอีวานส์ ในฐานะผู้ชนะรางวัล ‘มงกุฎแห่งโฮล์ม’ และเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของ ‘สถาบันเวทมนตร์ราชสำนักโฮล์ม’ ท่านจึงจะได้รับของขวัญเป็นตำราเล่มหนึ่งขอรับ”

ทันใดนั้น ตำราที่หุ้มปกอย่างดีก็ปรากฏขึ้นในมือลูเซียน มันคือตำรา ‘จับคู่อุปกรณ์เวทมนตร์’ โดยฟลอเรนเซีย แรนกา คอนสแตนติน

ลูเซียนเปิดดูผ่านๆ ตา หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการป้องกันการสวมใส่อุปกรณ์เวทมนตร์สองอย่างไม่ให้เกิดการข่มกันเวลาอยู่ใกล้กันเกินไป เช่น ถ้าลูเซียนอยากจะสวมแหวนไว้ทั้งสิบนิ้ว เขาก็จำเป็นจะต้องจัดเรียงมันให้เหมาะสม หรือสวมแหวนที่ส่งเสริมป้องกันไว้ระหว่างแหวนที่มีฤทธิ์ข่มกันเพื่อให้ปัญหาเบาบางลง แต่มันมักจะแพงเกินไป และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนักเวทส่วนใหญ่ถึงสวมแหวนมากสุดเพียงสองวง

หลังจากกวาดตามองคลังสมบัติเป็นครั้งสุดท้าย ลูเซียนก็จากไปพร้อมกับลาซาร์และร็อดแฮม

เช้าตรู่วันต่อมา สถานีดาวหกแฉก

ลูเซียนกับลาซาร์ที่สวมชุดสูทกระดุมสองแถวตัวยาวรูปแบบคล้ายกัน กำลังรอให้รถไฟเข้ามาเทียบจอดยังชานชลาด้วยมือที่สอดไว้ในกระเป๋าทั้งสองข้าง

เสียงหวูดดังแหลม แล้วรถไฟสีฟ้าเข้มก็ค่อยๆ มาหยุดอยู่ตรงหน้าทั้งสอง

ชายวัยกลางคนที่แต่งตัวดูภูมิฐานลงมาจากรถไฟ หลังจากจ้องมองลูเซียนหนึ่งวินาที เขาก็รีบเดินจากไปพร้อมกับคนอื่นๆ

ลูเซียนกับลาซาร์ขึ้นไปบนรถไฟแล้วเลือกสองที่นั่งติดกับหน้าต่าง

หลังออกมาจากชานชลา ชายวัยกลางคนก็ยิ่งสับเท้าเร็วขึ้น เมื่อเขาเข้ามาในตรอกเงียบสงบห่างไกล ก็หยิบเอาม้วนกระดาษออกมาแล้วทาบเข้ากับใบหน้าตน

แสงสว่างบริสุทธิ์เปล่งออกมาจากม้วนกระดาษ ฉับพลันนั้นชายวัยกลางคนก็คล้ายกับกำลังเจ็บปวดอย่างมาก แต่เขากลับไม่ส่งเสียงใดๆ เมื่อแสงสว่างหายไป ในมือเขาก็กลายเป็น ‘กระดาษ’ สีใสแผ่นหนึ่งที่มีรูปภาพของลูเซียนอยู่บนนั้น!

มนตราศักดิ์สิทธิ์นี้ดึงความทรงจำของเขาออกมาและบรรยายในสิ่งที่เขาเห็น!

จากนั้น ชายวัยกลางคนก็ตรงไปยังโบสถ์ที่อยู่ห่างไกลพร้อมกับกระดาษแผ่นนั้น เขานั่งลงบนเก้าอี้แถวหน้า และเริ่มสวดภาวนาเงียบๆ

หลังจากนั้นเขาก็เดินออกไปจากโบสถ์ แต่กลับทิ้งกระดาษแผ่นนั้นไว้บนที่นั่ง

บาทหลวงผู้หนึ่งเดินมาหยิบมันไป

กระดาษแผ่นนั้นส่งต่อไปอีกหลายทอดและในที่สุดก็ส่งมาถึงมือฟิลิเบลล์ พระคาร์ดินัลประจำสังฆมณฑลโฮล์ม

“ลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์. ผู้ชนะรางวัล ‘มงกุฎแห่งโฮล์ม’ คนล่าสุด ดูยังเยาว์วัยนัก” เขาพึมพำ

จากนั้นเขาก็หันไปมองพระคาร์ดินัลคนอื่นๆ และหัวหน้าคณะไต่สวน “ยกระดับขึ้นเป็น ‘ต้องกำจัด’ เมื่อใดที่สบโอกาส จงส่งผู้พิทักษ์ราตรีไปจัดการเขาเสีย แล้วข้าจะรีบส่งข้อมูลไปให้ทาง ‘หอจำรัส’“

แม้ว่าลูเซียนจะเป็นผู้ชนะรางวัล ‘มงกุฎแห่งโฮล์ม’ แต่เขาหาใช่ผู้แข็งแกร่งและทรงอิทธิพลมากพอจะอยู่ใน ‘รายชื่อชำระล้าง’ แม้แต่ฟิลิเป ผู้ชนะรางวัล ‘บัลลังก์นิรันดร’ ก็ไม่มีชื่อในรายชื่อนี้จนกระทั่งเขาไปหยามหน้าศาสนจักรเข้าจังๆ

“ความปรารถนาของท่านคือเจตจำนงของเราขอรับ” เจนดอนตอบอย่างนอบน้อม “แต่ข้าเกรงว่าการมองหาโอกาสเช่นนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างแรกก็คือ นักเวทอนาคตไกลอย่างเขาคงจะไม่ออกจากนครอัลลินง่ายๆ และสอง ผู้พิทักษ์ราตรีระดับกลางส่วนใหญ่คงถูกแหวนของเขากำจัดแน่ เว้นแต่ว่าจะส่งคนที่เก่งจริงๆ ไป แต่ถ้าเป็นแบบนั้น ‘เจตจำนงแห่งธาตุ’ และสภาเวทมนตร์จะต้องแก้แค้นอย่างหนักแน่นอนขอรับ หากสบโอกาส ข้าจึงอยากประยุกต์ใช้อนุสรณ์ศักดิ์สิทธิ์ขอรับ”

อำนาจของสังฆมณฑลโฮล์มนั้นมีมากกว่าสังฆมณฑลไวโอเล็ตนัก มิเช่นนั้นพวกเขาคงจะถูกสภาเวทมนตร์กวาดล้างไปนานแล้ว พวกเขามีกำลังมากพอจะต้านทานจนกว่าจะเปิดประตูมิติเพื่อให้ทาง ‘นครศักดิ์สิทธิ์’ ส่งกำลังเสริมมาได้”

ฟิลิเบลล์พยักหน้าแล้วถอนหายใจ “สภาเวทมนตร์ไม่เคยขาดคนหนุ่มสาวมากสามารถ แม้แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เราโชคดีที่บรรดาพระสันตะปาปาต่างเน้นย้ำเรื่องการพัฒนาเวทศักดิ์สิทธิ์ เราจึงไม่ทิ้งห่างจากพวกนั้น”

ได้ยินเช่นนั้น พระคาร์ดินัลคนอื่นๆ และหัวหน้าคณะไต่สวนทุกคนก็พยักหน้าด้วยความสะเทือนอารมณ์ พวกเขาต่างรู้สึกทั้งกังวลและโชคดี

นครอัลลิน สำนักงานใหญ่สภาเวทมนตร์บนชั้นที่สามสิบห้า

สมาชิกสภาสูงสุดสิบเก้าคนจากทั้งหมดยี่สิบสี่คน มหาจอมเวททั้งหมดเจ็ดท่าน และผู้วิเศษระดับตำนานทั้งแปดจากสิบเอ็ดท่านต่างมาร่วมการประชุม

“จากข้อมูลที่มัลฟิวเรียนบอกกับทางเรา มีผู้เฒ่าชาวดรูอิดหลายคนที่จะไม่ร่วมงานกับเรา ดังนั้น ในหมู่ชาวดรูอิดที่กำลังจะมาเยือนอัลลิน บางคนอาจมาจากกลุ่ม ‘กบฏธรรมชาติ’ ที่ต้องการจะก่อกวนโครงการของเรา แต่ด้วยมีบางคนที่มาจากราชวงศ์ของเผ่าพันธุ์เอล์ฟ มัลฟิวเรียนจึงทำได้เพียงแสร้งไม่รู้เห็นอันใด และเขาต้องการให้เราจัดการกับเรื่องนี้” ชายชราผมขาว ดวงตาสีฟ้าสดใสเป็นผู้เอ่ย เขาเป็นชายชราตัวสูงที่ร่างกายยังดูดีแข็งแรง และสวมชุดสูทสีดำผูกโบว์ไท

“ท่านประทานดักลาส ท่านเรียกพวกเรามาเพียงเพราะเรื่องนี้เช่นนั้นหรือ”

ผู้ที่เอ่ยถามเสียงห้วนหาเรื่องเป็นชายชราท่าทางภูมิฐานตัวเล็กสวมเสื้อคลุมสีแดงสด เส้นผมของเขามีทั้งสีดำและขาว และนัยน์ตาสีแดงของเขาก็ดูวาวโรจน์คมกริบ

……………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 218 คลังสมบัติในมิติพิเศษ

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 218 คลังสมบัติในมิติพิเศษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สุดปลายทางเดินชั้นที่สิบสามของ ‘หอคอยเวทมนตร์แห่งราชสำนักโฮล์ม’ มีประตูเหล็กสีเทาดูหนักอยู่บานหนึ่ง เมื่อร็อดแฮมขยับกลไกเปิดมัน ลูเซียนกลับมองสิ่งที่อยู่เบื้องหลังเงามืดนั้นได้เพียงเลือนราง

“ที่นี่เป็นของ ‘เจตจำนงแห่งธาตุ’ กับ ‘สถาบันเวทมนตร์ราชสำนักโฮล์ม’ หารกันครึ่งๆ” ลาซาร์บอกให้ลูเซียนทราบ “ข้าได้ยินมาว่าหอคอยเวทมนตร์ของท่านผู้หญิงแฮททาเวย์ ก็เป็นมิติพิเศษเช่นกัน”

ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุ ลาซาร์จึงเคยมาที่นี่แล้ว

แม้ว่าลูเซียนจะพยายามมองฝ่าม่านหมอกด้วยสายตาเฉียบคมของเขาจากพลังของพร เขาก็ยังไม่สามารถระบุอะไรได้

“เชิญขอรับ ท่านอีวานส์” ร็อดแฮมเอ่ยขึ้นพลางผายมือบอกทางด้วยความเคารพนบน้อม ชัดเจนว่าเขาได้รับการฝึกฝนมาดีมาก

ลูเซียนพยักหน้า จากนั้นจึงเดินผ่านประตูเข้าไป

ท้องนภาพร่างพราวซ้อนตัวอยู่หลังม่านหมอกหนา แสงจากดวงดาวมากมายส่องลอดเพดานแก้วใสลงมายังคลังสมบัติแสนกว้างใหญ่ ซึ่งไกลสุดลูกหูลูกตาของลูเซียนเลยทีเดียว

แต่ว่า ไม่มีสิ่งใดอยู่ในนั้นสักอย่าง จนกระทั่งลูเซียน ลาซาร์และร็อดแฮมก้าวเท้าเข้าไป ฉับพลันนั้นคลังสมบัติก็คล้ายกับจะมีชีวิตขึ้นมา

“ร็อดแฮม เจ้ามาทำอะไรที่นี่” เสียงเย็นชาไร้อารมณ์ดังมาจากทั่วทุกมุมของคลังสมบัติ ทำให้บรรยากาศโดยรอบของที่แห่งนี้ดูเคร่งขรึมและชวนอึดอัด ราวกับว่าจะมีบทลงโทษเลวร้ายกับพวกเขาทันทีหากว่าร็อดแฮมพูดอะไรพลาดไป

ร็อดแฮมหยิบเหรียญตราหน้าตาลึกลับที่มีสัญลักษณ์ของธาตุมากมายจากสมัยจักรวรรดิเวทมนตร์โบราณออกมา “ท่านไซเดอร์แมน นี่คือเหรียญตราจากท่านมอร์ริสขอรับ และมันมีคำสั่งถึงท่านโดยตรง นอกจากนี้แล้ว ข้าเชื่อว่าท่านย่อมเห็นแหวนบนมือขวาของท่านลูเซียนได้อย่างง่ายดาย นั่นเป็นแหวนจากรางวัล ‘มงกุฎแห่งโฮล์ม’ ขอรับ”

“โอ้?” เสียงเย็นชาตอบกลับมา แล้วเหรียญตราในมือร็อดแฮมก็พลันอันตทานหายไป ลูเซียนไม่รู้เลยว่าไซเดอร์แมนทำเช่นนั้นได้อย่างไร แต่มันดูเหมือนกับว่าการทำอะไรในคลังสมบัตินี้เป็นเรื่องง่ายดายอย่างยิ่งสำหรับเขา

หากให้พูดตามตรง ลูเซียนที่มีห้องสมุดห้วงจิตกับองค์ความรู้จากโลกเดิมนั้น บางครั้งเขาก็ไม่ค่อยเคารพนับถือนักเวทที่นี่เสียเท่าไร แต่ว่า ณ เวลานี้ จู่ๆ เขาก็ค้นพบว่าตนเองกำลังเฝ้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลังสมบัตินี้ด้วยความหวั่นเกรง ลูเซียนรู้ว่าตัวเขายังใหม่มากในเรื่องของเวทมนตร์ และเขาก็ไม่ควรยโสโอหังและมั่นใจในตนเองจนเกินไป

แต่แน่นอนว่า ลูเซียนจะยังเดินหน้าเปลี่ยนองค์ความรู้จากโลกเดิมมาเป็นอาร์คานาศาสตร์และเวทมนตร์ให้ได้ เพราะ อย่างไรเสียนี่ก็เป็นสิ่งเดียวที่เขาทำได้ดี และคงมีเพียงคนโง่เท่านั้นที่จะปล่อยโอกาสนี้ไป นอกจากนี้แล้ว ลูเซียนก็อยากศึกษาเกี่ยวกับจิตวิญญาณ ความสามารถทางจิตใจ และพลังวิญญาณเช่นเดียวกัน เพื่อที่เขาจะได้เป็นนักเวทที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

“เหรียญตราได้รับการยืนยันแล้ว เอาล่ะ ท่านอีวานส์ ท่านสามารถเลือกอะไรก็ได้จากที่นี่ นั่นรวมถึงน้ำยา วัตถุดิบ อุปกรณ์เวทมนตร์ กับดักวงแหวนเวท ตำราหายาก และอื่นๆ โดยห้ามเกินสองพันคะแนนอาร์คานา” ขณะที่ไซเดอร์แมนอธิบาย แสงจากดวงดาวก็ค่อยๆ เปิดเผยชั้นวางของแต่ละแถวๆ ที่มีตัวเลขกำกับไว้ และในแต่ละชั้นก็อัดแน่นไปด้วยข้าวของนับไม่ถ้วน และจากทั้งหมดนั้น บางอันก็ดูหน้าตาธรรมดาๆ บางอันก็ดูชวนตะลึงและเปล่งประกายวูบวาบชวนฝัน…

ลูเซียนยิ่งรู้สึกตื่นเต้นกว่าตอนที่เขาเข้าไปในห้องทดลองของมัสเคลินย์เสียอีก เพราะว่าในห้องทดลองมีแต่วัตถุดิบกับส่วนประกอบเวทมนตร์เท่านั้น

ขณะเดินตามลาซาร์กับร็อดแฮมเข้าไป ลูเซียนก็พยายามอย่างที่สุดเพื่อให้ตนเองใจเย็นลง และไม่นานเขาก็มาหยุดอยู่หน้าชั้นวางของแรกที่มีผ้าคลุมเวทมนตร์ เสื้อคลุมไม่มีแขน และหมวกจำนวนนับไม่ถ้วน

‘เสื้อคลุมเดวีย์ (จำลอง): จำลองจากเสื้อคลุมเวทมนตร์ระดับตำนานของเดวีย์ โรเดล ระดับเก้าขั้นสูง ลดเวลาการรอร่ายคาถาลงสามวินาที ทำให้ผู้สวมได้รับพลังป้องกันเทียบเท่าระดับอัศวินนภาขั้นที่หก และเพิ่มความทนทานต่อพลังเวทจนถึงมนตราระดับเก้าให้กับผู้สวม เงื่อนไข: พลังวิญญาณของผู้สวมต้องมีอย่างน้อยระดับเจ็ด มิเช่นนั้นจะกลายเป็นคนเบาปัญญาไปเสีย’

‘เดวีย์ โรเดล: แม้ว่าจะเป็นเพียงรูปแบบจำลอง มันก็ยังมีมูลค่ามาก ผู้ที่มีกำลังมากพอ (มูลค่าสิบล้านคะแนนอาร์คานาหรือราชรัฐหรือเขตการปกครองหนึ่ง) ก็สมควรได้มันไป’

เดวีย์ โรเดล คือสมาชิกสภาสูงสุด

ลูเซียนไม่อาจละสายตาไปจากเสื้อคลุมเวทมนตร์สีดำรูปแบบจักรวรรดิเวทมนตร์โบราณตัวนี้ได้เลย นี่คือเสื้อคลุมเวทมนตร์ที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา! ลดเวลาการรอร่ายคาถาลงสามวินาทีหมายถึงผู้สวมใส่จะร่ายคาถาที่ต่ำกว่าระดับหกได้อย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด ทำให้ผู้สวมสามารถสังหารศัตรูได้ราวกับพายุอันทรงพลัง นี่จะต้องเป็นเสื้อคลุมที่นักเวทส่วนใหญ่เฝ้าฝันถึงเป็นแน่!

ทว่า ราคาของมันนั้นเหนือจินตนาการของลูเซียนไปไกล ตามที่ลูเซียนรู้ แม้แต่ตระกูลไวโอเล็ตก็ยังมีรายได้ต่อปีทั้งหมดเพียงแปดแสนธาเล แต่เสื้อคลุมตัวนี้กลับมีราคาสูงถึงสิบล้านคะแนนอาร์คานา

ในตอนนั้นเอง ลูเซียนก็เหลือบไปเห็นเสื้อคลุมระดับเจ็ดอีกตัวที่สามารถสะท้อนการโจมตีเป้าหมายเดียวจากระยะไกลได้ แต่เขาก็ไม่มีคะแนนพอจะใช้มันได้เช่นกัน

หลังจากนั้นครู่ใหญ่ ในที่สุดเขาก็พบสองตัวเลือกที่น่าจะเหมาะกับเขา ตัวหนึ่งคือ ‘นางไม้’ และอีกตัวคือ ‘จำแลง’ ตัวอื่นๆ ถ้าไม่แพงเกินไปก็ไม่ใช่แบบที่ลูเซียนต้องการ

ลูเซียนตรวจดู ‘นางไม้’ ซึ่งมีราคาหนึ่งพันห้าร้อยคะแนน มีเวทมนตร์สองบทที่เรียกใช้ได้คือ ‘ลวงตา’ กับ ‘มหาเสน่ห์’ และยังมอบการป้องกันระดับอัศวินขั้นที่สามให้กับผู้สวมอีกด้วย

‘ไม่ว่าผู้สวมใส่จะเป็นชายหรือหญิงก็จะมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นมหาศาล และเสน่ห์นี้ก็จะส่งผลทุกเพศ ผู้สวมใส่จะได้รับส่วนลดมากมาย และยังกระทั่งได้รับของฟรี! คำเตือน ผู้ที่ตามติดท่านอาจคลุ้มคลั่งได้!’

ลูเซียนตัวสั่นเล็กน้อยหลังจากอ่านคำบรรยายนี้ ก่อนจะรีบวางมันลง จากนั้นจึงหยิบเสื้อคลุมอีกตัวที่ชื่อ ‘จำแลง’ ขึ้นมา

‘เสื้อคลุมเวทมนตร์ระดับสามขั้นกลาง สามารถเรียกใช้เวท ‘แปลงกาย’ มอบการป้องกันระดับอัศวินขั้นที่สองและต้านทานเวทมนตร์เทียบเท่านักเวทระดับสาม ผู้สวมจะสามารถจำแลงกายเป็นหนู นกฮูก และโทรลได้วันละครั้งเท่านั้น’

‘อัสซุนเซา ฟิลิเป: แปลงกาย มิใช่ใจ’

เสื้อคลุมตัวนี้มีมูลค่าหนึ่งพันเก้าร้อยหกสิบคะแนนอาร์คานา ถือว่าแพงกว่าเสื้อคลุมตัวอื่นๆ ในระดับเดียวกัน แต่ลูเซียนก็ยังเลือกมัน เพราะว่าเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับศาสตร์แห่งการแปลงร่างเลย แม้ว่าลูเซียนจะรู้เกี่ยวกับกายวิภาคซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเรียนศาสตร์แห่งการแปลงร่าง แต่ลูเซียนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าการแปลงร่างนั้นมีกลไกการทำงานอย่างไร

ลูเซียนมีความรู้สึกว่าเสื้อคลุมตัวนี้จะต้องมีประโยชน์กับเขาอย่างมากในสักช่วงเวลาหนึ่งในอนาคตนี้แน่

หลังจากบอกไซเดอร์แมนกับร็อดแฮมว่าเขาเลือกอะไร ลูเซียนก็ร่ายเวท ‘ปลดผนึก’ แล้วทิ้งสัญลักษณ์พลังวิญญาณไว้ในเสื้อคลุม ก่อนจะสวมมัน หลังจากเพ่งฌานสมาธิส่งพลังวิญญาณไปบนเสื้อคลุม ลูเซียนก็เปลี่ยนมันให้เป็นชุดสูทสีดำดูภูมิฐานกับรองเท้าหนังคู่หนึ่ง

ลูเซียนใช้คะแนนอาร์คานาอีกสี่สิบคะแนนเพื่อซื้อน้ำยาสีม่วงเข้มที่มีชื่อว่า ‘น้ำอมฤตแห่งฟลอเรนเซีย’ มาสิบขวด เขาวางแผนไว้ว่าจะใช้น้ำยานี้ที

ละขวดเป็นเวลาสิบเดือนต่อจากนี้เพื่อให้เขารับมือได้ดีกับความเร็วในการเข้าฌานที่พัฒนาขึ้นมากเพราะแหวน ‘เวทธาตุ’

เพียงเท่านี้ สองพันคะแนนอาร์คานาก็หมดลง เมื่อลูเซียนกำลังจะจากไปพร้อมกับลาซาร์และร็อดแฮม ไซเดอร์แมนก็พูดกับเขาว่า “ท่านอีวานส์ ในฐานะผู้ชนะรางวัล ‘มงกุฎแห่งโฮล์ม’ และเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของ ‘สถาบันเวทมนตร์ราชสำนักโฮล์ม’ ท่านจึงจะได้รับของขวัญเป็นตำราเล่มหนึ่งขอรับ”

ทันใดนั้น ตำราที่หุ้มปกอย่างดีก็ปรากฏขึ้นในมือลูเซียน มันคือตำรา ‘จับคู่อุปกรณ์เวทมนตร์’ โดยฟลอเรนเซีย แรนกา คอนสแตนติน

ลูเซียนเปิดดูผ่านๆ ตา หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการป้องกันการสวมใส่อุปกรณ์เวทมนตร์สองอย่างไม่ให้เกิดการข่มกันเวลาอยู่ใกล้กันเกินไป เช่น ถ้าลูเซียนอยากจะสวมแหวนไว้ทั้งสิบนิ้ว เขาก็จำเป็นจะต้องจัดเรียงมันให้เหมาะสม หรือสวมแหวนที่ส่งเสริมป้องกันไว้ระหว่างแหวนที่มีฤทธิ์ข่มกันเพื่อให้ปัญหาเบาบางลง แต่มันมักจะแพงเกินไป และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนักเวทส่วนใหญ่ถึงสวมแหวนมากสุดเพียงสองวง

หลังจากกวาดตามองคลังสมบัติเป็นครั้งสุดท้าย ลูเซียนก็จากไปพร้อมกับลาซาร์และร็อดแฮม

เช้าตรู่วันต่อมา สถานีดาวหกแฉก

ลูเซียนกับลาซาร์ที่สวมชุดสูทกระดุมสองแถวตัวยาวรูปแบบคล้ายกัน กำลังรอให้รถไฟเข้ามาเทียบจอดยังชานชลาด้วยมือที่สอดไว้ในกระเป๋าทั้งสองข้าง

เสียงหวูดดังแหลม แล้วรถไฟสีฟ้าเข้มก็ค่อยๆ มาหยุดอยู่ตรงหน้าทั้งสอง

ชายวัยกลางคนที่แต่งตัวดูภูมิฐานลงมาจากรถไฟ หลังจากจ้องมองลูเซียนหนึ่งวินาที เขาก็รีบเดินจากไปพร้อมกับคนอื่นๆ

ลูเซียนกับลาซาร์ขึ้นไปบนรถไฟแล้วเลือกสองที่นั่งติดกับหน้าต่าง

หลังออกมาจากชานชลา ชายวัยกลางคนก็ยิ่งสับเท้าเร็วขึ้น เมื่อเขาเข้ามาในตรอกเงียบสงบห่างไกล ก็หยิบเอาม้วนกระดาษออกมาแล้วทาบเข้ากับใบหน้าตน

แสงสว่างบริสุทธิ์เปล่งออกมาจากม้วนกระดาษ ฉับพลันนั้นชายวัยกลางคนก็คล้ายกับกำลังเจ็บปวดอย่างมาก แต่เขากลับไม่ส่งเสียงใดๆ เมื่อแสงสว่างหายไป ในมือเขาก็กลายเป็น ‘กระดาษ’ สีใสแผ่นหนึ่งที่มีรูปภาพของลูเซียนอยู่บนนั้น!

มนตราศักดิ์สิทธิ์นี้ดึงความทรงจำของเขาออกมาและบรรยายในสิ่งที่เขาเห็น!

จากนั้น ชายวัยกลางคนก็ตรงไปยังโบสถ์ที่อยู่ห่างไกลพร้อมกับกระดาษแผ่นนั้น เขานั่งลงบนเก้าอี้แถวหน้า และเริ่มสวดภาวนาเงียบๆ

หลังจากนั้นเขาก็เดินออกไปจากโบสถ์ แต่กลับทิ้งกระดาษแผ่นนั้นไว้บนที่นั่ง

บาทหลวงผู้หนึ่งเดินมาหยิบมันไป

กระดาษแผ่นนั้นส่งต่อไปอีกหลายทอดและในที่สุดก็ส่งมาถึงมือฟิลิเบลล์ พระคาร์ดินัลประจำสังฆมณฑลโฮล์ม

“ลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์. ผู้ชนะรางวัล ‘มงกุฎแห่งโฮล์ม’ คนล่าสุด ดูยังเยาว์วัยนัก” เขาพึมพำ

จากนั้นเขาก็หันไปมองพระคาร์ดินัลคนอื่นๆ และหัวหน้าคณะไต่สวน “ยกระดับขึ้นเป็น ‘ต้องกำจัด’ เมื่อใดที่สบโอกาส จงส่งผู้พิทักษ์ราตรีไปจัดการเขาเสีย แล้วข้าจะรีบส่งข้อมูลไปให้ทาง ‘หอจำรัส’“

แม้ว่าลูเซียนจะเป็นผู้ชนะรางวัล ‘มงกุฎแห่งโฮล์ม’ แต่เขาหาใช่ผู้แข็งแกร่งและทรงอิทธิพลมากพอจะอยู่ใน ‘รายชื่อชำระล้าง’ แม้แต่ฟิลิเป ผู้ชนะรางวัล ‘บัลลังก์นิรันดร’ ก็ไม่มีชื่อในรายชื่อนี้จนกระทั่งเขาไปหยามหน้าศาสนจักรเข้าจังๆ

“ความปรารถนาของท่านคือเจตจำนงของเราขอรับ” เจนดอนตอบอย่างนอบน้อม “แต่ข้าเกรงว่าการมองหาโอกาสเช่นนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างแรกก็คือ นักเวทอนาคตไกลอย่างเขาคงจะไม่ออกจากนครอัลลินง่ายๆ และสอง ผู้พิทักษ์ราตรีระดับกลางส่วนใหญ่คงถูกแหวนของเขากำจัดแน่ เว้นแต่ว่าจะส่งคนที่เก่งจริงๆ ไป แต่ถ้าเป็นแบบนั้น ‘เจตจำนงแห่งธาตุ’ และสภาเวทมนตร์จะต้องแก้แค้นอย่างหนักแน่นอนขอรับ หากสบโอกาส ข้าจึงอยากประยุกต์ใช้อนุสรณ์ศักดิ์สิทธิ์ขอรับ”

อำนาจของสังฆมณฑลโฮล์มนั้นมีมากกว่าสังฆมณฑลไวโอเล็ตนัก มิเช่นนั้นพวกเขาคงจะถูกสภาเวทมนตร์กวาดล้างไปนานแล้ว พวกเขามีกำลังมากพอจะต้านทานจนกว่าจะเปิดประตูมิติเพื่อให้ทาง ‘นครศักดิ์สิทธิ์’ ส่งกำลังเสริมมาได้”

ฟิลิเบลล์พยักหน้าแล้วถอนหายใจ “สภาเวทมนตร์ไม่เคยขาดคนหนุ่มสาวมากสามารถ แม้แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เราโชคดีที่บรรดาพระสันตะปาปาต่างเน้นย้ำเรื่องการพัฒนาเวทศักดิ์สิทธิ์ เราจึงไม่ทิ้งห่างจากพวกนั้น”

ได้ยินเช่นนั้น พระคาร์ดินัลคนอื่นๆ และหัวหน้าคณะไต่สวนทุกคนก็พยักหน้าด้วยความสะเทือนอารมณ์ พวกเขาต่างรู้สึกทั้งกังวลและโชคดี

นครอัลลิน สำนักงานใหญ่สภาเวทมนตร์บนชั้นที่สามสิบห้า

สมาชิกสภาสูงสุดสิบเก้าคนจากทั้งหมดยี่สิบสี่คน มหาจอมเวททั้งหมดเจ็ดท่าน และผู้วิเศษระดับตำนานทั้งแปดจากสิบเอ็ดท่านต่างมาร่วมการประชุม

“จากข้อมูลที่มัลฟิวเรียนบอกกับทางเรา มีผู้เฒ่าชาวดรูอิดหลายคนที่จะไม่ร่วมงานกับเรา ดังนั้น ในหมู่ชาวดรูอิดที่กำลังจะมาเยือนอัลลิน บางคนอาจมาจากกลุ่ม ‘กบฏธรรมชาติ’ ที่ต้องการจะก่อกวนโครงการของเรา แต่ด้วยมีบางคนที่มาจากราชวงศ์ของเผ่าพันธุ์เอล์ฟ มัลฟิวเรียนจึงทำได้เพียงแสร้งไม่รู้เห็นอันใด และเขาต้องการให้เราจัดการกับเรื่องนี้” ชายชราผมขาว ดวงตาสีฟ้าสดใสเป็นผู้เอ่ย เขาเป็นชายชราตัวสูงที่ร่างกายยังดูดีแข็งแรง และสวมชุดสูทสีดำผูกโบว์ไท

“ท่านประทานดักลาส ท่านเรียกพวกเรามาเพียงเพราะเรื่องนี้เช่นนั้นหรือ”

ผู้ที่เอ่ยถามเสียงห้วนหาเรื่องเป็นชายชราท่าทางภูมิฐานตัวเล็กสวมเสื้อคลุมสีแดงสด เส้นผมของเขามีทั้งสีดำและขาว และนัยน์ตาสีแดงของเขาก็ดูวาวโรจน์คมกริบ

……………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+