Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 179 ผลกำไร

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 179 ผลกำไร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เศษไม้แตกหักกระจ่ายไปทั่วบริเวณ ห้องใต้ท้องเรือครึ่งหนึ่งถูกทำลายด้วยไฟและสายฟ้า มีการต่อสู้อย่างดุเดือดอย่างชัดเจน

ทอมแปลกใจมากที่เห็นภาพนี้ เขาคิดว่าลูเซียนคงจะมีอุปกรณ์เวทมนตร์ทรงอานุภาพ หรือคิดไปถึงขั้นลูเซียนเลื่อนขั้นเป็นนักเวทระดับสองแล้ว ถ้าเป็นไปตามที่เขารู้ นั่นแทบเป็นไปไม่ได้สำหรับนักเวทที่ไม่ได้เข้าร่วม ‘สภาเวทมนตร์’ และศึกษาอาร์คานา

เมื่อทอมดึงสติกลับมาได้แล้ว เขาพูดกับลูเซียนอย่างเด็ดขาด “ท่านมีเวลายี่สิบวินาทีในการจัดการสภาพยุ่งเหยิงนี้ ไปดูเด็กๆ ที่เหลือข้าจัดการเอง”

สองวินาทีต่อมา ทอมรีบหันกลับไปแล้ววิ่งไปทางห้องโกดังสินค้าหลัก ซึ่งมีเสียงแผ่นไม้แตกหัก ดูเหมือนคัวโทนถอนกำลังกลับโดยพังลำเรือทะลุออกไป

ลูเซียนพยักหน้า เขาเข้าใจคำสั่งของทอม

เนื่องจากเขาเป็นคนทำให้เกิดสภาพยุ่งเหยิงนี้ เขาควรรับผิดชอบการเก็บกวาดบริเวณใต้ท้องเรือนี้ให้เรียบร้อย และภายในยี่สิบวินาที เขาน่าจะขึ้นไปชั้นบนและซ่อนตัวกับนักเวทฝึกหัดด้วย เพื่อหลบอัศวินและอัศวินฝึกหัดที่กำลังลงมาตรวจตรา

และทอมจะเป็นคนจัดการเรื่องที่เหลือเอง

แสงสีแดงบนเกล็ดนักเวทเมอร์ล็อกยังทิ้งร่องรอยไว้บนเกล็ดของมัน จนตอนนี้กลายเป็นสีแดงเหมือนสีเลือด ลูเซียนรู้ว่ามันน่าจะเป็นส่วนประกอบชั้นดีสำหรับกับเกราะหรือเสื้อคลุมเวทมนตร์ เพื่อเพิ่มระดับพลังการป้องกันและความว่องไวภายใต้ให้กับผู้สวมใส่

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีเวลาจำกัด ลูเซียนไม่มีเวลาลอกเอาเกล็ดมันออกหรือเก็บ ‘น้ำเหลือง’ ของเมอร์ล็อกจากตัวมัน

ลูเซียนรีบคว้าไม้เท้าปะการังและถุงใส่ของเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้เกล็ดชิ้นใหญ่ของตัวนักเวทเมอร์ล็อก

หลังจากนั้น ลูเซียนร่ายเวท ‘คลื่นกระแทก’ ให้ซัดร่างกายของเมอร์ล็อกออกไปจากเรือลงสู่ก้นมหาสมุทรอันลึกเหลือคณานับ

หลังจากนั้น ลูเซียนวิ่งกลับไปยังห้องของตนเองและมองไปรอบๆ พื้นที่เล็กๆ อย่างเยือกเย็น ด้วยการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างเขากับเมอร์ล็อก จึงไม่หลงเหลือร่องรอยว่าเคยมีคนอยู่ที่นี่ แล้วเขาก็กระโดดคว้าขอบของเพดานที่แตกเป็นรูด้วยมือ และปีนขึ้นไปชั้นบน

ลูเซียนเริ่มเก็บเศษไม้และแผ่นเหล็กมาซ่อมแซมพื้นบริเวณดังกล่าว

เวทมนตร์ระดับฝึกหัด ‘เวทซ่อมแซม’

ท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ รูโหว่ระหว่างพื้นไม้ที่แตกหักค่อยๆ หายไป ในฐานะนักเวทตัวจริง ลูเซียนสามารถซ่อมรอยแตกหักที่ใหญ่กว่านี้ได้สบาย ยี่สิบวินาทีเกือบหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม อาคมบทนี้ต้องใช้เวลามากกว่านี้

ขณะเดียวกัน มีเสียงระเบิดดังมาจากข้างนอกห้องใต้ท้องเรือ ซึ่งช่วยกลบเสียงที่เกิดจากเวทซ่อมแซมของลูเซียน

พร้อมกับความเงียบงันฉับพลันในวินาทีต่อมา กลุ่มคนจำนวนหนึ่งลงบันไดมาแล้วรีบวิ่งไปยังห้องโกดังสินค้าหลัก โดยไม่สำรวจห้องใต้ท้องเรือซึ่งลูเซียนกับนักเวทฝึกหัดทั้งหลายกำลังซ่อนตัวอยู่อย่างละเอียดถี่ถ้วน

เมื่อเปรียบเทียบกับห้องโกดังสินค้าหลักที่ ‘หินคลื่น’ ทั้งหมดเก็บอยู่ ฝั่งนี้ของห้องใต้ท้องเรือก็ไม่มีอะไรให้พวกเขาสนใจ

ณ ชั้นบนถัดขึ้นมาจากใต้ท้องเรือ รูโหว่ที่แตกหักซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว ลูเซียนพร้อมซ่อนตัวแล้ว เขาคิดอยู่ในตัวเองว่าเหตุการณ์นี้ต้องสร้างความเสียหายใหญ่หลวงกับเกรนนิวฟ์ ขณะเขากำลังคิด ลูเซียนเห็นประตูห้องลูกเรือลอบเปิดแง้มออกมา มีดวงตาหลายคู่อยู่หลังประตู

“ท่านอีวานส์ ทางนี้” แอนนิค เลย์เรีย และไฮดี้ พูดกับเขาพร้อมกัน เสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความดีใจและโล่งอก

ลูเซียนรีบเข้าไปในห้องลูกเรือขนาดเล็กและลั่นดาลประตูจากข้างใน

“เจ้าสามคนทำได้ดีมาก โดยเฉพาะเจ้า แอนนิค” ลูเซียนพยักหน้าให้พวกเขา

หน้าแอนนิคแดงเล็กน้อยจากคำชมของลูเซียน

“เราเก็บกระเป๋าของท่านมาด้วย ท่านอีวานส์” ไฮดี้พูดอย่างภูมิใจ หนุ่มสาวพวกนี้กำลังรอให้ลูเซียนชื่นชมพวกเขาอีกรอบ

ลูเซียนยิ้ม “พวกเจ้าช่างมีน้ำใจ ตอนนี้เรายังอยู่ในอันตราย และเราทุกคนยังต้องระวังตัวสูง ตอนนี้ข้าต้องวิเคราะห์ไม้เท้าด้ามนี้ก่อน ขอข้าใช้สมาธิสักพักนะ”

ลูเซียนนั่งลงท่ามกลางเตียงที่ยุ่งเหยิง เขาเริ่มตรวจไม้เท้าปะการังที่เก็บมาจากร่างของนักเวทเมอร์ล็อก

เมื่อไม่รู้ว่าไวเคาตน์และพวกบาทหลวงจะปราบเหล่าเมอร์ล็อกได้ไหม และไม่รู้ว่าเรือลำนี้จะจมลงหรือไม่ ลูเซียนต้องคว้าทุกโอกาสเพื่อพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น ไม้เท้าด้ามนี้อาจเป็นของที่ช่วยชีวิตเขาได้ในวินาทีสุดท้ายก็เป็นได้

นักเวทฝึกหัดสามคนพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง พวกเขารู้สึกถึงความรับผิดชอบที่พวกเขากำลังปกป้องอาจารย์อยู่ในตอนนี้

เสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่าค่อยๆ หายไปช้าๆ และดูเหมือนการต่อสู้ยุติลงแล้ว

ลูเซียนลืมตาขึ้นมา

เขาใช้เวลาเพียงไม่นานในการวิเคราะห์ไม้เท้า เนื่องเข้าประสบความสำเร็จในการวิเคราะห์เวทมนตร์ระดับสองมาแล้วหลายบท ตอนนี้ไม้เท้านี้เป็นของเขาแล้ว

ไม้เท้าปะการังเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ระดับสองชั้นสูง มีชื่อว่า ‘แอมบูลา’ ผู้ใช้ไม้เท้าสามารถหายใจใต้น้ำและร่ายคาถา ‘เวทมวลพลังสายฟ้า’ และ ‘ฟองอากาศพิษ’ ซึ่งเป็นเวทมนตร์ระดับสองทั้งสองบท สามารถใช้ได้วันละสามครั้ง นอกจากนี้ ไม้เท้ายังช่วยให้เจ้าของมีสมาธิสะสมพลังวิญญาณของเขาหรือนางขณะร่ายคาถาอีกด้วย รวมถึงสามารถระบุตำแหน่งของศัตรู โดยเฉพาะเมื่อศัตรูใช้ร่ายเวทควบคุมจิต

ไม้เท้าด้ามนี้สร้างมาจากปะการังที่โตขึ้นใกล้กับบริเวณที่ แอมบูลา ‘เจ้าแห่งมหาสมุทร’ และเป็นไม้เท้าสำหรับคัวโทนทุกตัว

“ผู้ที่ได้รับพรจาก ‘เจ้าแห่งมหาสมุทร’ จะมีพลังแห่งน้ำ” ลูเซียนพึมพำกับตัวเอง เมื่อเสร็จสิ้นการวิเคราะห์อุปกรณ์เวทมนตร์ นี่เป็นข้อความที่ผู้สร้างไม้เท้าทิ้งไว้

ลูเซียนถือไม้เท้าไว้ในมือ เขาสังเกตว่าพลังวิญญาณของเขามั่นคงขึ้นมาก เขาดีใจไม่น้อยที่ในที่สุดก็มีไม้เท้าในฐานะนักเวทเสียที

และหากเรือจมลงจริงๆ เขาก็จะสามารถหายใจใต้น้ำได้

ณ ตอนนั้นเอง มีเสียงดังลงมาจากดาดฟ้าเรือ

“พวกเมอร์ล็อกแตกกระเจิง เหล่าอัศวินและทหาร อย่าปล่อยให้พวกมันรอดไปได้สักตัว บาทหลวง รีบซ่อมแซมเรือ”

นั่นเสียงของไวเคานต์ไรต์สั่งการ

แม้ว่าเขากำลงพูดเพื่อเรียกขวัญคนบนเรือ มีเพียงเข้าและพระคาร์ดินัลเท่านั้นที่รู้ว่าพวกเมอร์กล็อกถูกตีจนแตกพ่ายหรือพวกมันหนีไปเองหลังจากได้ ‘หินคลื่น’ ไปแล้ว

นักเวทฝึกหัดทั้งสามถอนหายใจยาว

ลูเซียนอารมณ์ดีขึ้นมา เขาเปิดถุงเล็กๆ สีเทาที่เก็บมาจากร่างของนักเวทเมอร์ล็อก

ทันทีที่เปิดถุงใบนั้นออก สัมผัสแห่งพลังมหาสมุทรก็พรั่งพรูออกมา ลูเซียนเห็นอัญมณีสีน้ำเงินเข้มหกชิ้นในนั้น แต่ละชิ้นขนาดประมาณปลายนิ้วก้อย อัญมณีทั้งหกชิ้นประกายแสงปกคลุมทั่ว

อัญมณีพวกนี้คือ ‘หินคลื่น’ คุณภาพสูง มีค่ามากกว่าหินคลื่นธรรมดาๆ ถึงสิบเท่า แม้หินคลื่นไม่เพียงใช้เป็นวัตถุหลักในการสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ชั้นกลาง แต่ยังสามารถสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ชั้นสูงได้อีก หินพวกนี้ อัญมณีพวกนี้เหมือนเป็นรางวัลสำหรับเขา ลูเซียนดีใจทีเดียว

ในขณะนั้น เขาสังเกตว่ามีข้อความทิ้งไว้ก้นถุง

“อะไรเนี่ย…” ลูเซียนพึมพำ

หลังจากบอกให้นักเวทฝึกหัดทั้งสามคนคอยดูต้นทาง ลูเซียนก็เปิดกระดาษข้อความออกมา

“เก็บ ‘หินคลื่น’ มาให้ได้มากที่สุด แล้วนำมายังบริเวณมหาสมุทรหมอง เราต้องใช้วงเวทขนาดใหญ่เพื่อเปิดมัน”

ภายใต้แถวข้อความนี้ มีแผนที่ชี้ทางไปยงบริเวณที่เรียกว่ามหาสมุทร ‘หมอง’

ข้อความในกระดาษถูกคัดลอกลงในห้องสมุดห้วงจิตของลูเซียนแล้ว เขารีบทำลายกระดาษทิ้ง

ลูเซียนไม่เคยได้ยินเรื่องอะไรเกี่ยวกับพื้นที่มหาสมุทรหมองมาก่อน ดูเหมือนตัวนักเวทเมอร์ล็อกเองก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนเหมือนกัน

ตามแผนที่ ดูเหมือนบริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ‘แหลมสตอร์ม’

อย่างไรก็ตาม ลูเซียนไม่แน่ใจ เนื่องจากกระดาษข้อความถูกเขียนด้วยภาษาของเมอร์ล็อกเอง และลูเซียนเข้าใจเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

“ท่านอีวานส์ การต่อสู้หยุดแล้วขอรับ” แอนนิคแจ้งข่าวกับอีวานส์

ลูเซียนคว้าไม้เท้าและพยักหน้าตอบรับ “เราต้องรอให้ทอมบอกว่าเราต้องทำอะไร”

ทันทีที่เขาปิดถุง ลูเซียนสังเกตว่าพลังจาก ‘หินคลื่น’ ก็หายไปเช่นกัน

เขาสงสัยว่าถุงใบนี้ก็เป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ด้วย ลูเซียนจึงลองร่ายคาถา ‘เวทระบุตัวตน’ ลงบนถุง

ปรากฏว่าถุงเล็กๆ ใบนี้เป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ระดับฝึกหัด เรียกว่า ‘ถุงคัวโทน’ ซึ่งสามารถผนึกคลื่นเวทมนตร์ได้

ลูเซียนผิดหวังนิดหน่อย เขาคิดว่าน่าจะเป็นมีอะไรพิเศษกว่านี้

“พวกเจ้าทำอะไรที่นี่?”

เสียงของทอมดัง และดังด้วยความตั้งใจ

“พระคาร์ดินัลให้เราลงมาตรวจสอบห้องใต้ท้องเรือเพื่อซ่อมแซมวงพลังเทพ” เสียงตอบเจือปนความอวดดี

หน้าของนักเวททั้งสามคนซีดเป็นไก่ต้ม และทุกคนต้องกลับมาวิตกกังวลอีกแล้ว

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา 179 ผลกำไร

Now you are reading Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา Chapter 179 ผลกำไร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เศษไม้แตกหักกระจ่ายไปทั่วบริเวณ ห้องใต้ท้องเรือครึ่งหนึ่งถูกทำลายด้วยไฟและสายฟ้า มีการต่อสู้อย่างดุเดือดอย่างชัดเจน

ทอมแปลกใจมากที่เห็นภาพนี้ เขาคิดว่าลูเซียนคงจะมีอุปกรณ์เวทมนตร์ทรงอานุภาพ หรือคิดไปถึงขั้นลูเซียนเลื่อนขั้นเป็นนักเวทระดับสองแล้ว ถ้าเป็นไปตามที่เขารู้ นั่นแทบเป็นไปไม่ได้สำหรับนักเวทที่ไม่ได้เข้าร่วม ‘สภาเวทมนตร์’ และศึกษาอาร์คานา

เมื่อทอมดึงสติกลับมาได้แล้ว เขาพูดกับลูเซียนอย่างเด็ดขาด “ท่านมีเวลายี่สิบวินาทีในการจัดการสภาพยุ่งเหยิงนี้ ไปดูเด็กๆ ที่เหลือข้าจัดการเอง”

สองวินาทีต่อมา ทอมรีบหันกลับไปแล้ววิ่งไปทางห้องโกดังสินค้าหลัก ซึ่งมีเสียงแผ่นไม้แตกหัก ดูเหมือนคัวโทนถอนกำลังกลับโดยพังลำเรือทะลุออกไป

ลูเซียนพยักหน้า เขาเข้าใจคำสั่งของทอม

เนื่องจากเขาเป็นคนทำให้เกิดสภาพยุ่งเหยิงนี้ เขาควรรับผิดชอบการเก็บกวาดบริเวณใต้ท้องเรือนี้ให้เรียบร้อย และภายในยี่สิบวินาที เขาน่าจะขึ้นไปชั้นบนและซ่อนตัวกับนักเวทฝึกหัดด้วย เพื่อหลบอัศวินและอัศวินฝึกหัดที่กำลังลงมาตรวจตรา

และทอมจะเป็นคนจัดการเรื่องที่เหลือเอง

แสงสีแดงบนเกล็ดนักเวทเมอร์ล็อกยังทิ้งร่องรอยไว้บนเกล็ดของมัน จนตอนนี้กลายเป็นสีแดงเหมือนสีเลือด ลูเซียนรู้ว่ามันน่าจะเป็นส่วนประกอบชั้นดีสำหรับกับเกราะหรือเสื้อคลุมเวทมนตร์ เพื่อเพิ่มระดับพลังการป้องกันและความว่องไวภายใต้ให้กับผู้สวมใส่

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีเวลาจำกัด ลูเซียนไม่มีเวลาลอกเอาเกล็ดมันออกหรือเก็บ ‘น้ำเหลือง’ ของเมอร์ล็อกจากตัวมัน

ลูเซียนรีบคว้าไม้เท้าปะการังและถุงใส่ของเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้เกล็ดชิ้นใหญ่ของตัวนักเวทเมอร์ล็อก

หลังจากนั้น ลูเซียนร่ายเวท ‘คลื่นกระแทก’ ให้ซัดร่างกายของเมอร์ล็อกออกไปจากเรือลงสู่ก้นมหาสมุทรอันลึกเหลือคณานับ

หลังจากนั้น ลูเซียนวิ่งกลับไปยังห้องของตนเองและมองไปรอบๆ พื้นที่เล็กๆ อย่างเยือกเย็น ด้วยการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างเขากับเมอร์ล็อก จึงไม่หลงเหลือร่องรอยว่าเคยมีคนอยู่ที่นี่ แล้วเขาก็กระโดดคว้าขอบของเพดานที่แตกเป็นรูด้วยมือ และปีนขึ้นไปชั้นบน

ลูเซียนเริ่มเก็บเศษไม้และแผ่นเหล็กมาซ่อมแซมพื้นบริเวณดังกล่าว

เวทมนตร์ระดับฝึกหัด ‘เวทซ่อมแซม’

ท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ รูโหว่ระหว่างพื้นไม้ที่แตกหักค่อยๆ หายไป ในฐานะนักเวทตัวจริง ลูเซียนสามารถซ่อมรอยแตกหักที่ใหญ่กว่านี้ได้สบาย ยี่สิบวินาทีเกือบหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม อาคมบทนี้ต้องใช้เวลามากกว่านี้

ขณะเดียวกัน มีเสียงระเบิดดังมาจากข้างนอกห้องใต้ท้องเรือ ซึ่งช่วยกลบเสียงที่เกิดจากเวทซ่อมแซมของลูเซียน

พร้อมกับความเงียบงันฉับพลันในวินาทีต่อมา กลุ่มคนจำนวนหนึ่งลงบันไดมาแล้วรีบวิ่งไปยังห้องโกดังสินค้าหลัก โดยไม่สำรวจห้องใต้ท้องเรือซึ่งลูเซียนกับนักเวทฝึกหัดทั้งหลายกำลังซ่อนตัวอยู่อย่างละเอียดถี่ถ้วน

เมื่อเปรียบเทียบกับห้องโกดังสินค้าหลักที่ ‘หินคลื่น’ ทั้งหมดเก็บอยู่ ฝั่งนี้ของห้องใต้ท้องเรือก็ไม่มีอะไรให้พวกเขาสนใจ

ณ ชั้นบนถัดขึ้นมาจากใต้ท้องเรือ รูโหว่ที่แตกหักซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว ลูเซียนพร้อมซ่อนตัวแล้ว เขาคิดอยู่ในตัวเองว่าเหตุการณ์นี้ต้องสร้างความเสียหายใหญ่หลวงกับเกรนนิวฟ์ ขณะเขากำลังคิด ลูเซียนเห็นประตูห้องลูกเรือลอบเปิดแง้มออกมา มีดวงตาหลายคู่อยู่หลังประตู

“ท่านอีวานส์ ทางนี้” แอนนิค เลย์เรีย และไฮดี้ พูดกับเขาพร้อมกัน เสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความดีใจและโล่งอก

ลูเซียนรีบเข้าไปในห้องลูกเรือขนาดเล็กและลั่นดาลประตูจากข้างใน

“เจ้าสามคนทำได้ดีมาก โดยเฉพาะเจ้า แอนนิค” ลูเซียนพยักหน้าให้พวกเขา

หน้าแอนนิคแดงเล็กน้อยจากคำชมของลูเซียน

“เราเก็บกระเป๋าของท่านมาด้วย ท่านอีวานส์” ไฮดี้พูดอย่างภูมิใจ หนุ่มสาวพวกนี้กำลังรอให้ลูเซียนชื่นชมพวกเขาอีกรอบ

ลูเซียนยิ้ม “พวกเจ้าช่างมีน้ำใจ ตอนนี้เรายังอยู่ในอันตราย และเราทุกคนยังต้องระวังตัวสูง ตอนนี้ข้าต้องวิเคราะห์ไม้เท้าด้ามนี้ก่อน ขอข้าใช้สมาธิสักพักนะ”

ลูเซียนนั่งลงท่ามกลางเตียงที่ยุ่งเหยิง เขาเริ่มตรวจไม้เท้าปะการังที่เก็บมาจากร่างของนักเวทเมอร์ล็อก

เมื่อไม่รู้ว่าไวเคาตน์และพวกบาทหลวงจะปราบเหล่าเมอร์ล็อกได้ไหม และไม่รู้ว่าเรือลำนี้จะจมลงหรือไม่ ลูเซียนต้องคว้าทุกโอกาสเพื่อพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น ไม้เท้าด้ามนี้อาจเป็นของที่ช่วยชีวิตเขาได้ในวินาทีสุดท้ายก็เป็นได้

นักเวทฝึกหัดสามคนพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง พวกเขารู้สึกถึงความรับผิดชอบที่พวกเขากำลังปกป้องอาจารย์อยู่ในตอนนี้

เสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่าค่อยๆ หายไปช้าๆ และดูเหมือนการต่อสู้ยุติลงแล้ว

ลูเซียนลืมตาขึ้นมา

เขาใช้เวลาเพียงไม่นานในการวิเคราะห์ไม้เท้า เนื่องเข้าประสบความสำเร็จในการวิเคราะห์เวทมนตร์ระดับสองมาแล้วหลายบท ตอนนี้ไม้เท้านี้เป็นของเขาแล้ว

ไม้เท้าปะการังเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ระดับสองชั้นสูง มีชื่อว่า ‘แอมบูลา’ ผู้ใช้ไม้เท้าสามารถหายใจใต้น้ำและร่ายคาถา ‘เวทมวลพลังสายฟ้า’ และ ‘ฟองอากาศพิษ’ ซึ่งเป็นเวทมนตร์ระดับสองทั้งสองบท สามารถใช้ได้วันละสามครั้ง นอกจากนี้ ไม้เท้ายังช่วยให้เจ้าของมีสมาธิสะสมพลังวิญญาณของเขาหรือนางขณะร่ายคาถาอีกด้วย รวมถึงสามารถระบุตำแหน่งของศัตรู โดยเฉพาะเมื่อศัตรูใช้ร่ายเวทควบคุมจิต

ไม้เท้าด้ามนี้สร้างมาจากปะการังที่โตขึ้นใกล้กับบริเวณที่ แอมบูลา ‘เจ้าแห่งมหาสมุทร’ และเป็นไม้เท้าสำหรับคัวโทนทุกตัว

“ผู้ที่ได้รับพรจาก ‘เจ้าแห่งมหาสมุทร’ จะมีพลังแห่งน้ำ” ลูเซียนพึมพำกับตัวเอง เมื่อเสร็จสิ้นการวิเคราะห์อุปกรณ์เวทมนตร์ นี่เป็นข้อความที่ผู้สร้างไม้เท้าทิ้งไว้

ลูเซียนถือไม้เท้าไว้ในมือ เขาสังเกตว่าพลังวิญญาณของเขามั่นคงขึ้นมาก เขาดีใจไม่น้อยที่ในที่สุดก็มีไม้เท้าในฐานะนักเวทเสียที

และหากเรือจมลงจริงๆ เขาก็จะสามารถหายใจใต้น้ำได้

ณ ตอนนั้นเอง มีเสียงดังลงมาจากดาดฟ้าเรือ

“พวกเมอร์ล็อกแตกกระเจิง เหล่าอัศวินและทหาร อย่าปล่อยให้พวกมันรอดไปได้สักตัว บาทหลวง รีบซ่อมแซมเรือ”

นั่นเสียงของไวเคานต์ไรต์สั่งการ

แม้ว่าเขากำลงพูดเพื่อเรียกขวัญคนบนเรือ มีเพียงเข้าและพระคาร์ดินัลเท่านั้นที่รู้ว่าพวกเมอร์กล็อกถูกตีจนแตกพ่ายหรือพวกมันหนีไปเองหลังจากได้ ‘หินคลื่น’ ไปแล้ว

นักเวทฝึกหัดทั้งสามถอนหายใจยาว

ลูเซียนอารมณ์ดีขึ้นมา เขาเปิดถุงเล็กๆ สีเทาที่เก็บมาจากร่างของนักเวทเมอร์ล็อก

ทันทีที่เปิดถุงใบนั้นออก สัมผัสแห่งพลังมหาสมุทรก็พรั่งพรูออกมา ลูเซียนเห็นอัญมณีสีน้ำเงินเข้มหกชิ้นในนั้น แต่ละชิ้นขนาดประมาณปลายนิ้วก้อย อัญมณีทั้งหกชิ้นประกายแสงปกคลุมทั่ว

อัญมณีพวกนี้คือ ‘หินคลื่น’ คุณภาพสูง มีค่ามากกว่าหินคลื่นธรรมดาๆ ถึงสิบเท่า แม้หินคลื่นไม่เพียงใช้เป็นวัตถุหลักในการสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ชั้นกลาง แต่ยังสามารถสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ชั้นสูงได้อีก หินพวกนี้ อัญมณีพวกนี้เหมือนเป็นรางวัลสำหรับเขา ลูเซียนดีใจทีเดียว

ในขณะนั้น เขาสังเกตว่ามีข้อความทิ้งไว้ก้นถุง

“อะไรเนี่ย…” ลูเซียนพึมพำ

หลังจากบอกให้นักเวทฝึกหัดทั้งสามคนคอยดูต้นทาง ลูเซียนก็เปิดกระดาษข้อความออกมา

“เก็บ ‘หินคลื่น’ มาให้ได้มากที่สุด แล้วนำมายังบริเวณมหาสมุทรหมอง เราต้องใช้วงเวทขนาดใหญ่เพื่อเปิดมัน”

ภายใต้แถวข้อความนี้ มีแผนที่ชี้ทางไปยงบริเวณที่เรียกว่ามหาสมุทร ‘หมอง’

ข้อความในกระดาษถูกคัดลอกลงในห้องสมุดห้วงจิตของลูเซียนแล้ว เขารีบทำลายกระดาษทิ้ง

ลูเซียนไม่เคยได้ยินเรื่องอะไรเกี่ยวกับพื้นที่มหาสมุทรหมองมาก่อน ดูเหมือนตัวนักเวทเมอร์ล็อกเองก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนเหมือนกัน

ตามแผนที่ ดูเหมือนบริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ‘แหลมสตอร์ม’

อย่างไรก็ตาม ลูเซียนไม่แน่ใจ เนื่องจากกระดาษข้อความถูกเขียนด้วยภาษาของเมอร์ล็อกเอง และลูเซียนเข้าใจเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

“ท่านอีวานส์ การต่อสู้หยุดแล้วขอรับ” แอนนิคแจ้งข่าวกับอีวานส์

ลูเซียนคว้าไม้เท้าและพยักหน้าตอบรับ “เราต้องรอให้ทอมบอกว่าเราต้องทำอะไร”

ทันทีที่เขาปิดถุง ลูเซียนสังเกตว่าพลังจาก ‘หินคลื่น’ ก็หายไปเช่นกัน

เขาสงสัยว่าถุงใบนี้ก็เป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ด้วย ลูเซียนจึงลองร่ายคาถา ‘เวทระบุตัวตน’ ลงบนถุง

ปรากฏว่าถุงเล็กๆ ใบนี้เป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ระดับฝึกหัด เรียกว่า ‘ถุงคัวโทน’ ซึ่งสามารถผนึกคลื่นเวทมนตร์ได้

ลูเซียนผิดหวังนิดหน่อย เขาคิดว่าน่าจะเป็นมีอะไรพิเศษกว่านี้

“พวกเจ้าทำอะไรที่นี่?”

เสียงของทอมดัง และดังด้วยความตั้งใจ

“พระคาร์ดินัลให้เราลงมาตรวจสอบห้องใต้ท้องเรือเพื่อซ่อมแซมวงพลังเทพ” เสียงตอบเจือปนความอวดดี

หน้าของนักเวททั้งสามคนซีดเป็นไก่ต้ม และทุกคนต้องกลับมาวิตกกังวลอีกแล้ว

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+