ตอนที่ 2082: กลับไปที่ชั้นแปด

ปราณกระบี่ลึกซึ้งเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วมาก มันเร็วมากจนกงเจิ้งไม่สามารถตอบโต้มันได้ เขาทำได้เพียงจ้องมองเมื่อปราณกระบี่ขนาดเท่านิ้วพุ่งเข้าหาหน้าผากของเขาด้วยความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

ซวบ !

เช่นเดียวกับมีดร้อนที่ตัดเนย ปราณกระบี่ลึกซึ้งฉีกทะลุชั้นของการป้องกันของกงเจิ้งและแทงทะลุหน้าผาก โจมตีวิญญาณของเขา

กงเจิ้งก็ประสบกับความเจ็บปวดระทมทุกข์ในวิญญาณทันที เขาอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงกรีดร้องอันเจ็บปวด และเขาก็ยังพยายามดิ้นรนที่จะอยู่ต่อไป เขาดิ้นรนตลอดเวลาขณะที่เขาล้มลงกับพื้นโดยตรง กระแทกลงไปอย่างหนักหน่วง

กงเจิ้งเป็นสุดยอดราชาเทพจากบัลลังก์ราชาเทพ ความแข็งแกร่งของเขายอดเยี่ยม และวิญญาณของเขาก็ทรงพลังเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงไม่ตายหลังจากโดนแทงด้วยปราณกระบี่ลึกซึ้งของเจี้ยนเฉิน

อย่างไรก็ตามวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เขาไร้ความสามารถ

เดิมทีเจี้ยนเฉินต้องการไล่ล่าและฆ่ากงเจิ้งให้จบสิ้นเพราะสภาพในปัจจุบันกงเจิ้งไม่สามารถตอบโต้ได้ ไม่ต้องพูดถึงราชาเทพ แม้แต่ขั้นเหนือเทพก็สามารถฆ่าเขาได้

อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขามองไปที่พลังแห่งการมีอยู่อันทรงพลังของราชาเทพทั้งสามในระยะทางที่ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว เจี้ยนเฉินจึงล้มเลิกความคิดดังกล่าว การฆ่ากงเจิ้งจะใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที แต่เสี้ยววินาทีนั้นก็เป็นตัวกำหนดความเป็นความตาย

ใบหน้าของคังหยิงซีดเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นชะตากรรมของกงเจิ้งด้วยตัวเอง สายตาของเขาที่มีต่อเจี้ยนเฉินนั้นเต็มไปด้วยความกลัวอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตามในวินาทีต่อมา ดวงตาของคังหยิงก็หรี่แคบลง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวขณะที่เขาเห็นเส้นปราณกระบี่ลึกซึ้งอีกเส้นอยู่เหนือศีรษะของเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินมองไปข้างหน้าและปราณกระบี่ลึกซึ้งได้เล็งมาที่เขา

คังหยิงที่ได้เห็นชะตากรรมของกงเจิ้งนำเสนออยู่ตรงหน้าจึงตัวสั่น ความกลัวต่อปราณกระบี่ลึกซึ้งได้เพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่เขาเหงื่อไหลท่วมไปทั้งตัว เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินกำลังจะส่งปราณกระบี่ลึกซึ้งเส้นที่สองมาทางเขา เขาก็ถอยไปข้างหลังโดยไม่ลังเลเลย แสงสีฟ้าสั่นไหวรอบตัวเขาขณะที่เขาปลดปล่อยความเร็วเต็มพิกัด เขาถอยไปถึง 10,000 กิโลเมตรในระยะชั่วพริบตา เขามองเจี้ยนเฉินจากที่นั่นขณะที่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความกลัวและความระมัดระวัง เขาพร้อมที่จะหลบหนีได้ตลอดเวลา

เดิมทีเจี้ยนเฉินต้องการที่จะใช้ปรารณกระบี่ลึกซึ้งเส้นที่สองทำร้ายคังหยิง แต่เมื่อเห็นว่าเขาถอยห่างออกไปไกลกว่าหมื่นกิโลเมตรแล้ว เขาจึงไม่ได้อยู่ในเส้นทางของเจี้ยนเฉินอีกต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่เจี้ยนเฉินอยากเห็น เขาเก็บปราณกระบี่เส้นที่สองทันทีและรีบหนีไปกับไคยะ

เจี้ยนเฉินไม่ต้องการที่จะใช้ปราณกระบี่ลึกซึ้งหากเขาไม่จำเป็นต้องทำ เพราะทุกครั้งที่เขาใช้มันนั้นจะทำให้พลังวิญญาณของเขาหมดไปจำนวนมากและจะส่งผลต่อพลังในการต่อสู้ คังหยิงและปรมาจารย์ชูไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้คนกลุ่มเดียวของเขา เนื่องจากยังมีคนอื่นอีกหลายคนที่รวมตัวกันที่นี่เพื่อสมบัติของเขา

หากเขาสู้กับคังหยิงและปรมาจารย์ชู เขาต้องมีพลังเสริมไว้เพื่อการต่อสู้กับราชาเทพมากมายที่อยู่รอบ ๆ ด้วย

แต่ตอนนี้สุดยอดราชาเทพหลายคนรวมตัวกันที่นี่ ซึ่งทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกอันตรายอย่างยิ่ง เขาจำเป็นต้องใช้ปราณกระบี่ลึกซึ้งเพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่น

แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะใช้เพียงปราณกระบี่ลึกซึ้งเส้นเดียว แต่มันก็ใช้พลังวิญญาณของเขาถึงหนึ่งในสาม ทันใดนั้นเขารู้สึกเวียนศีรษะและอ่อนเพลีย

อย่างไรก็ตามพลังที่พร่องไปจากการใช้ปราณกระบี่ลึกซึ้ง 1 เส้นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเจี้ยนเฉินมากเกินไป เจี้ยนเฉินใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาชั่วคราวนี้ เขาและไคยะพุ่งไปในระยะไกล

ในเวลาเดียวกัน เจ้าของพลังแห่งการมีอยู่ที่แข้งแกร่งทั้งสามก็มาถึง ชั้นแสงหนาที่เกิดจากกฎล้อมรอบพวกเขา ปิดบังรูปลักษณ์ของพวกเขา มีเพียงร่างพร่ามัวเท่านั้นที่สามารถส่องผ่านแสงได้ พวกเขาเป็นผู้หญิง 2 คนและผู้ชาย 1 คน

ทันทีที่พวกเขามาถึง พลังแห่งการมีอยู่ที่น่าสะพรึงกลัวก็เกิดขึ้นรอบ ๆ ราชาเทพที่อ่อนแอกว่าหลายคนรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกราวกับก้อนหินถูกกดทับหน้าอกของพวกเขา

สามคนนั้นไม่อ่อนแอกว่าคังหยิงและกงเจิ้ง พวกเขายังเป็นสุดยอดราชาเทพที่ติดอันดับในบัลลังก์ราชาเทพ ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งมาก

ทันทีที่ราชาเทพชั้นยอดทั้งสามมาถึง พวกเขาจ้องกงเจิ้ง ผู้ซึ่งนอนดิ้นอยู่บนพื้นขณะที่เขาก้มศีรษะและร้องอย่างเจ็บปวด ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเมื่อเห็นภาพดังกล่าว

“วิญญาณของกงเจิ้งได้รับบาดเจ็บ ข้ารู้สึกได้ว่าอย่างน้อยครึ่งหนึ่งพังทลายลงมา มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหายจากอาการบาดเจ็บแบบนี้ในระยะเวลาอันสั้น” ผู้หญิงคนหนึ่งในสามคนกล่าว เสียงของนางเหมือนเสียงของธรรมชาติและน่าพึงพอใจมาก เพียงพอที่จะล่อลวงผู้คนให้อยากเห็นหน้าตาที่แท้จริงของนาง

“กงเจิ้งก็ลงมาจากชั้นที่ 10 ด้วย แม้ว่าเขาจะมาถึงที่นี่ก่อน เขาก็ไม่เร็วนัก ใครกันที่ทำร้ายกงเจิ้งจนเขาอาการสาหัสในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ ? ” ผู้หญิงคนที่สองถาม เสียงของนางเคร่งขรึม

“คนที่ทำให้กงเจิ้งบาดเจ็บชื่อเจี้ยนเฉิน” ในขณะนี้คังหยิงกลับมาจากระยะไกล ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดขณะที่เขาอธิบาย “เจี้ยนเฉินรู้ทักษะลับที่ทรงพลังอย่างยิ่ง เขาปล่อยปราณกระบี่ขนาดเท่านิ้วออกมา 1 เส้น มันมีประสิทธิภาพและรวดเร็วเป็นพิเศษในการกำหนดเป้าหมายวิญญาณของผู้คน มันเข้ามาโดยที่คู่ต่อสู้ไม่ทันไม่ระวัง กงเจิ้งได้รับบาดเจ็บเพราะทักษะลับนี้”

หลังจากนั้นคังหยิงก็เล่าข้อมูลพื้นฐานกับคนสามคนรวมถึงความจริงที่ว่าเสี่ยวม่าน ผู้ซึ่งได้รับการคุ้มครองจากโลกอยู่กับเจี้ยนเฉิน เขาไม่ได้ซ่อนความจริงนั้น

หลังจากเห็นพลังของปราณกระบี่ลึกซึ้งด้วยตัวเอง คังหยิงก็ได้เห็นความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินอย่างแท้จริง เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะจัดการกับเจี้ยนเฉินเพียงลำพังคนเดียว เป็นผลให้เขาต้องทำงานร่วมกับสุดยอดราชาเทพคนอื่น ๆ

“ทักษะลับของคนผู้นั้นมีประสิทธิภาพมากจริง ๆ เขาทำร้ายกงเจิ้งจนได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในการโจมตีครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม ยิ่งทักษะลับมีพลังมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีค่าตอบแทนมากเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ข้าสามารถอนุมานได้ว่าเขาไม่สามารถใช้ทักษะลับนี้ได้หลายครั้ง ตราบใดที่เราระวัง เราก็จะสามารถหลบมันได้” ชายผู้หนึ่งในบรรดาราชาเทพทั้งสามคนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ไม่ว่าคนที่ชื่อเจี้ยนเฉินจะทรงพลังแค่ไหน เราก็ต้องหยุดเขาและเอาผู้หญิงคนนั้นกลับคืนมา อย่างไรก็ตามไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการกับเจี้ยนเฉิน เราต้องร่วมมือกัน” ผู้หญิงที่พูดขึ้นมาเป็นคนแรกแนะนำ นางมองไปที่อีกสองคนที่มากับนางและคังหยิง

“แน่นอนเมื่อเราได้ตัวผู้หญิงคนนั้นมา เราสามารถแบ่งปันความลับด้วยกัน” ชายผู้นั้นกล่าว

ในไม่ช้าทั้งสี่คนก็บรรลุข้อตกลงในการทำงานร่วมกัน พวกเขามุ่งหน้าไปในทิศทางของเจี้ยนเฉินเพื่อติดตามตัวทั้งสองคน

ในช่วงเวลานี้ผู้คนจำนวนมากเริ่มเข้าร่วม ไม่เพียงแต่จะมีราชาเทพทั่วไปอยู่มากมาย แต่สุดยอดราชาเทพอีก 3 คนจากบัลลังก์ราชาเทพก็มาด้วยเช่นกัน

เป็นผลให้สุดยอดราชาเทพที่ไล่ล่าเจี้ยนเฉินและไคยะเพิ่มขึ้นไปตามเวลา จนตอนนี้มีถึง 7 คนด้วยกัน