Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 529

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 529 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 529 กลับไปสำนักคากัต

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นผู้อาวุโสเฟิงและผู้อาวุโสหยุนก็ได้ออกมาจากตระกูลหวงกู่ หัวหน้าตระกูลยังคงจับตาดูพวกนั้นด้วยสายตาที่คมกริบ ไม่นานเขาก็ได้ขึ้นไปบนชั้นสูงสุดของหอคอย ตระกูลหวงกู่นั้นได้ตีค่าหวงหลวนเอาไว้มาก แม้แต่บรรพชนของตระกูลพวกเขาเองยังสนใจในตัวนางและอยากจะดึงนางเข้าร่วมตระกูลของพวกเขา เมื่อมีการยกเลิกการหมั้นแบบนั้น เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องแจ้งแก่บรรพชนของเขา

ชายผู้นั้นเดินขึ้นไปยังชั้นสูงสุดก่อนที่จะหยุดอยู่ที่หน้าประตูบานหนึ่ง เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนอบน้อม ” ลูกหลานเจี้ยงเต๋ามาที่นี่เพื่อรายงานกับท่านบรรพชน”

หลังจากเงียบไปสักพักน้ำเสียงของผู้อาวุโสผู้นั้นก็ดังขึ้นจากอีกด้านของประตู ” พูด ! “

“ท่านบรรพชน ตระกูลหวงนั้นได้ยกเลิกการหมั้นระหว่างหวงหลวนและตระกูลหวงกู่ของเรา และได้เลือกผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวงมาแทนตำแหน่งของเรา” เจี้ยงเต๋าตอบกลับด้วยความเคารพ

“อะไรนะ? ยกเลิกเพื่อผู้พิทักษ์ของอาณาจักรฉินหวงเช่นนั้นหรือ ? ! ” น้ำเสียงของบรรพชนที่อยู่อีกด้านของประตูนั้นดูโกรธเคือง

เมื่อได้ยินน้ำเสียงเช่นนั้น เจี้ยงเต๋าก็สับสนเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขารู้ดีว่าบรรพชนนั้นได้ตีค่าหวงหลวนเอาไว้สูง แต่เขาไม่คิดว่าบรรพชนจะหงุดหงิดเรื่องนางขนาดนี้

แม้ว่าเขาจะสับสนแต่เขาก็ไม่กล้าไถ่ถามถึงเรื่องนั้น เขาตอบกลับไปแทน “ขอรับ ท่านบรรพชน ชายจากตระกูลหวงเพิ่งได้นำข่าวนี้มาแจ้ง”

บรรพชนได้เงียบอยู่สักพัก และได้พูดขึ้นมา “ดีมาก ข้ารับทราบเรื่องนี้แล้ว เจ้ากลับไปได้ ! ” ครั้งนี้น้ำเสียงของบรรพชนนั้นฟังดูสงบ

“ขอรับ ท่านบรรพชน ! ลูกหลานเจี้ยงเต๋าขอลา ! ” เจี้ยงเต๋าคารวะก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับไป

หลังจากที่เจี้ยงเต๋าได้ออกไปแล้ว ประตูก็ค่อย ๆ เปิดออกช้า ๆ เผยให้เห็นผู้อาวุโสผู้ซึ่งสวมชุดสีฟ้าและมีใบหน้าที่มืดหม่น ในขณะที่เขาก้าวออกมาจากประตูนั้น คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันเรื่อย ๆ

“ตระกูลหวงได้จับคู่หวงหลวนกับผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวง รึว่าผู้พิทักษ์นั้นจะรู้ว่าเด็กสาวผู้นี้ครอบครองจิตวิญญาณน้ำในร่างกายของนาง ? ไม่ นั่นไม่มีทาง ถ้าเขาไม่ได้ฝึกฝนคัมภีร์ทานตะวัน เขาไม่มีทางที่จะรู้ความลับเรื่องนี้ได้” บรรพชนพึมพำกับตัวเอง หลังจากลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดเขาก็กัดปากของตัวเอง “ไม่ จิตวิญญาณน้ำในร่างกายนางมันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ข้าต้องสืบสวนในเรื่องนี้” บรรพชนได้หายไปในเสี้ยวพริบตาจากตำแหน่งนั้น โดยที่เขาได้ออกจากหอคอยและมุ่งหน้าเข้าไปยังป่าหมอก

ที่ชายขอบของอาณาจักรเกอซูน เจี้ยนเฉินที่บินมาพร้อมกับหมิงตงเป็นระยะทางกว่าพันกิโลเมตรก่อนที่พวกเขาจะได้มาถึงจุดหมายของพวกเขา – สำนักคากัต

พวกเขาร่อนลงที่บริเวณใกล้ ๆ สำนักคากัต จากนั้นทั้งสองก็ได้เดินเข้าไปยังสำนัก ไม่นานในตอนที่พวกเขากำลังจะเดินผ่านประตู ยามที่ประตูก็ทำการขวางทางพวกเขาทันที

“ใต้เท้า โปรดพิสูจน์ว่าท่านเป็นศิษย์ของที่นี่ ไม่อย่างนั้นแล้วข้าคงให้ท่านเข้าไปไม่ได้ นั่นเป็นกฎของสถาบัน” ยามบอกได้เลยว่าบุคคลทั้งสองที่สวมชุดหรูหรานี้เป็นคนสำคัญมาก ดังนั้นพวกเขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม

เจี้ยนเฉินยิ้มก่อนที่จะหยิบเข็มกลัดจากแหวนจัดเก็บของเขาออกมา “พวกเราเข้าไปได้หรือยัง ? ” ในอดีตนั้นเจี้ยนเฉินเคยเป็นศิษย์ของสำนักคากัต ดังนั้นเรื่องการพิสูจน์และกฎนี่นั้นเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขา

“เชิญเข้าไปเถิด ใต้เท้า” เมื่อเห็นแบบนั้นยามทั้งสองก็ไม่ได้ขัดขวางพวกเขาทั้งคู่แต่อย่างใด ยามพวกนั้นผายมือออกพร้อมกับรอยยิ้ม

เมื่อไม่ปัญหาใด ๆ เจี้ยนเฉินและหมิงตงก็ได้เดินเข้าไปในสำนักคากัต แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะจากไปนาน แต่สำนักคากัตนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปสักนิดเลย การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคงจะเป็นต้นไม้ที่โตขึ้นหลังจากที่ผ่านมาหลายปี

ข้างในสถาบันนั้นค่อนข้างมีชีวิตชีวา มีศิษย์จำนวนมากมายที่กำลังพูดคุยและหัวเราะกันอยู่ทั่วทั้งบริเวณสำนัก พวกนั้นส่วนมากก็อายุได้ประมาณ 18-19 ปี และก็มีบางคนที่อายุมากกว่านั้น

“เจี้ยนเฉิน นี่คือสำนักที่เจ้าร่ำเรียนมาอย่างนั้นหรือ ? นี่ดูไม่ดีเท่าไหร่เลย มีศิษย์น้อยนิดที่เข้าถึงได้ในระดับเซียนเท่านั้น — บางคนยังไม่มีอาวุธเซียนเลยด้วยซ้ำ ! ” หมิงตงพูดขึ้นด้วยท่าทีไม่เชื่อเมื่อเขามองไปรอบ ๆ บริเวณนั้น

เจี้ยนเฉินหัวเราะ “เจ้าคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนเจ้างั้นหรือ และได้เป็นเซียนปฐพีด้วยอายุเช่นเจ้างั้นหรือ ? แม้ว่าจะมีอัจฉริยะหลายคนบนทวีปเทียนหยุน แต่อาณาจักรเกอซุนนั้นมีเพียงน้อยนิดเท่านั้น แค่คนสองคนนั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์แล้ว แล้วจะเป็นไปได้ยังไงที่ที่นี่จะมีพวกนั้นอยู่ ? “

หมิงตงเห็นว่าคำพูดของเจี้ยนเฉินนั้นดูมีเหตุผลและเขาก็เห็นด้วย “นั่นก็จริง แต่เจี้ยนเฉิน ใครกันที่เจ้าพาข้ามาพบในวันนี้ ? รึว่าคน ๆ นั้นเตะตาเจ้า ? “

“เจ้าจะรู้ในไม่ช้า ไปหาอาจารย์ใหญ่กันเถอะ เขารู้ว่าจะข้าจะหาสหายผู้นั้นได้ที่ไหน สหายผู้นี้ของข้านั้นมีพรสวรรค์น้อยนิด แต่ดูเหมือนเขาจะได้รับพร ด้วยร่างกายของเขาเป็นสิ่งที่ข้านั้นชื่นชมอย่างมาก” เจี้ยนเฉินยอมรับ

“ฮ่าฮ่า ถ้าเจ้าพูดเช่นนั้น ข้าล่ะอยากเห็นเพื่อนของเจ้าคนนั้นเสียจริง ๆ” หมิงตงหัวเราะพร้อมกับทำท่าทีสนใจ

ทั้งสองได้เดินต่อไปยังหอคอยที่อยู่ใจกลางสถาบัน หอคอยนี้เป็นที่ที่เปล่งพลังมากที่สุดในสถาบันนี้และเป็นที่ที่อาจารย์ใหญ่สำนักคากัตพำนักอยู่

และทันใดนั้นก็ได้มีเสียงโห่ร้องดังขึ้น

“ทุกคนรีบมาที่นี่เร็วเข้า ! ศิษย์อันดับสองจะท้าทายศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดด้วยการต่อสู้ ! นี่เป็นการต่อสู้ที่น่าทึ่งซึ่งพวกเราจะพลาดไม่ได้ !”

“ห๊ะ ? กาดิหยุนท้าทายเพื่อตำแหน่งอันดับหนึ่งงั้นหรือ ? ไม่ใช่ว่าหลิงเจิ้งเทียนนั้นได้ตัดผ่านเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญเมื่อครึ่งปีก่อนแล้วไม่ใช่หรือ? กาดิหยุนอยู่เพียงระดับเซียนระดับสูงขั้นสูงมิใช่หรือ ? ไม่ใช่ว่าเขาจะทำให้ตัวเองอับอายจากการท้าทายครั้งนี้หรอกหรือ?”

“เจ้าจะไปรู้อะไร ? จากข่าวลือ กาดิหยุนนั้นได้ตัดผ่านเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญเมื่อครึ่งเดือนก่อน ความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้นั้นเทียบเท่าได้กับหลิงเจิ้งเทียน ! “

“นั่นเป็นไปไม่ได้ กาดิหยุนนั้นตัดผ่านเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญได้จริงหรือ ? อัตราความก้าวหน้าในการฝึกฝนของเขาจะเร็วเกินไปแล้ว เขาอายุน้อยกว่าหลิงเจิ้งเทียน 2 ปี แล้วเขาจะเข้าถึงระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญได้อย่างไร ? นั่นจะถือได้ว่าเขาเป็นคนที่มีการเติบโตที่เร็วที่สุดในสำนักคากัต ! “

“บ๊ะ ใครกันที่เป็นคนพูดว่ากาดิหยุนนั้นเป็นผู้ที่ฝึกตนเร็วที่สุดในสำนักคากัต ? นี่เจ้าไม่เคยได้ยินถึงบุตรชายคนโตของตระกูลเจียงหยาง เจียงหยางหู่ ? เขานั้นเป็นศิษย์รุ่นเดียวกับพวกเราได้เข้าถึงระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญเมื่อปีที่แล้ว เขาได้ออกจากสำนักคากัตหลังจากนั้น ไม่อย่างนั้นแล้วคงไม่มีศิษย์คนไหนที่พอจะเทียบเคียงเขาได้และคงไม่มีอาจารย์คนไหนคอยสั่งสอนเขาได้”

“ชิ ! ใครจะสนเจียงหยางหู่กัน ? นี่เจ้าไม่เคยได้ยินถึงนายน้อยสี่ของตระกูลเดียวกันงั้นหรือ เจียงหยางเซียงเทียน? ข้าได้ยินมาว่าเขาเคยศึกษาอยู่ที่สำนักคากัตของเรา ไม่นานตอนเขาได้เข้ามาเข้าได้เป็นอันดับหนึ่งของศิษย์ที่เข้ามาในปีนั้น ความแข็งแกร่งของเขานั้นเกินกว่าที่คิดไว้มาก และข้าพนันได้เลยว่าไม่มีผู้ใดในสำนักจะสามารถทัดเทียมเขาได้ “

“เจียงหยางเซียงเทียน ? ไอ้หยา ข้ารู้จักเขา ! ” เด็กสาวอายุ 18 ปีคึกคักเมื่อได้ยินชื่อของเจียงหยางเซียงเทียน “ข้ารู้จักเจียงหยางเซียงเทียน ตอนนี้เขาได้เป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรเกอซุนของเรา นั่นหมายความว่าตำแหน่งของเขาตอนนี้สูงยิ่งกว่าอาจารย์ใหญ่ซะอีก ! ข้าได้ยินมาว่าเขาตัดผ่านเป็นเซียนสวรรค์แล้วด้วย นั่นยิ่งกว่ามหัศจรรย์เสียอีก ! เขาเพิ่งอายุได้ 20 ปีเอง ! “

“อะไรนะ ? แค่อายุเพียง 20 ปีก็เข้าถึงระดับเซียนสวรรค์แล้วงั้นหรือ อีกทั้งยังเป็นถึงผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรเกอซุนของเราอีกด้วยงั้นหรือ ? เจ้าฝันแน่ ๆ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ? แม้แต่ผู้ที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดยังไม่สามารถเข้าถึงระดับเซียนสวรรค์ด้วยอายุเพียง 20 ปีได้” ศิษย์ชายคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าไม่เชื่อกับคำพูดนั้น

ศิษย์รอบ ๆ เริ่มมองไปที่ศิษย์คนที่พูดและก็ได้มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “สหาย นี่เจ้ายังไม่ออกจากกะลาอีกงั้นหรือ? นี่เจ้าไม่รู้จักชื่อของเจียงหยางเซียงเทียนได้อย่างไรกัน เขาเป็นถึงนายน้อยสี่ของตระกูลเจียงหยาง ? แค่ความจริงเรื่องนั้นก็เป็นสิ่งพิสูจน์แล้วว่าทุกอย่างมันเป็นจริง”

อีกคนได้พูดแทรกขึ้นมา “ข้าได้ยินมาว่าเจียงหยางเซียงเทียนนั้นเป็นคู่อริกับกาดิหยุนตอนที่เขาเข้ามาในสำนักนี้ตอนแรก ข้าไม่รู้ว่านั่นเป็นความจริงหรือไม่”

“นั่นถูกต้องแล้ว นั่นเกิดขึ้นจริง ๆ” หนึ่งในนักเรียนที่อายุมากกว่าพูดขึ้นด้วยความมั่นใจพร้อมกับเอามือทาบปาก “ข้าเห็นเจียงหยางเซียงเทียนเข้ามายังสำนักนี้ ในตอนที่แข่งขันกันของผู้มาใหม่ เจียงหยางเซียงเทียนนั้นเอาชนะกาดิเหลียงและกาดิซิ่วหลีและคว้าอันดับที่หนึ่งไปครอง ทั้งกาดิเหลียงและกาดิซิ่วหลีนั้นไม่ยอมรับความพ่ายแพ้และไปท้าทายเจียงหยางเซียงเทียนอีกครั้ง แต่พวกเขาก็ยังพ่ายแพ้เช่นเดิม ในที่สุดแม้แต่กาดิหยุนผู้ซึ่งมีอาวุธเซียนไปท้าทายเขาก็ยังได้รับความพ่ายแพ้กลับมา ข้าได้ยินมาว่าตอนนั้นเจียงหยางเซียงเทียนนั้นอยู่ในระดับเซียนขั้นแปดที่มีอาวุธเซียนอยู่เท่านั้น”

“หือ…นั่นจริงหรือไม่ ? เจียงหยางเซียงเทียนจะมหัศจรรย์เกินไปแล้ว..” ศิษย์ทุกคนรอบ ๆ ส่งเสียงออกมาด้วยความแปลกใจหลังจากได้ยินคำพูดนั้น

“นี่พวกเจ้ากำลังพูดถึงสิ่งใดกัน ? ! ” ทันใดนั้นน้ำเสียงเยือกเย็นก็ดังขึ้นพร้อมกับมีเด็กสาวสวมกระโปรงสีฟ้ามองอย่างเย็นชามาที่ทุกคน

ผู้หญิงคนนี้นั้นสวยเป็นอย่างมาก แม้ว่านางจะไม่สวยจนจะทำให้ทั้งอาณาจักรก้มหัวให้ แต่นางก็เป็นผู้หญิงที่สวยซึ่งยากจะพบเจอ ที่ข้าง ๆ ผู้หญิงคนนั้นชายหนุ่มหล่อเหลาผู้ซึ่งอายุประมาณ 22-23 ปียืนอยู่

ในขณะที่ชายและหญิงสาวผู้นั้นกำลังเดินเข้ามาหาฝูงชน ศิษย์ทุกคนที่กระซิบกระซาบกันก่อนหน้านี้ก็เงียบลงทันที พวกเขาเริ่มทำการทักทายสองคนผู้มาใหม่

“นี่คือกาดิซิ่วหลีและศิษย์พี่กาดิเหลียง ! “

“ศิษย์น้องกาดิซิ่วหลีและศิษย์พี่กาดิเหลียง ! “

ในตอนนั้นเองลูกหลานของตระกูลกาดิทั้งสามผู้มีชื่อเสียงในสำนักคากัตก็ปรากฏตัวขึ้น ศิษย์ทุกคนในสำนักแห่งนี้รู้อยู่แล้วว่าทั้งสามคนนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก กาดิหยุนนั้นอยู่ในระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสถาบัน กาดิซิ่วหลีและกาดิหยุนนั้นอยู่ในระดับเดียวกัน พวกเขาเป็นเซียนระดับสูงขั้นสุดยอด อีกแค่นิดเดียวก็จะได้เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญ จากลำดับหนึ่งในสิบของผู้ที่แข็งแกร่งของสำนักแห่งนี้ ทั้งสามคนนั้นถือครองเอาไปถึงสามตำแหน่ง

“น้องสาม อย่าไปสนใจพวกเขาเลย การแข่งขันของพี่ใหญ่นั้นกำลังจะเริ่มขึ้น พวกเราควรรีบไปดูการต่อสู้นั่น” กาดิเหลียงพูดกับกาดิซิ่วหลีที่อยู่ข้าง ๆ เขา จากนั้นเขาก็ดึงกาดิซิ่วหลีไปยังทิศทางที่สนามต่อสู้อยู่ ทั้งสองออกไปด้วยสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่บนใบหน้าของพวกเขา

เมื่อกาดิซิ่วหลีถูกดึง รอยยิ้มที่ไม่พึงพอใจก็ได้ปรากฏบนใบหน้าของนาง ในความคิดของนางแล้วนางยังไม่ลืมเกี่ยวกับความแค้นที่เจียงหยางเซียงเทียนสร้างไว้เมื่อหลายปีก่อน พี่น้องทั้งสองคนนั้นรู้ความเป็นไปของโลกภายนอก แต่นางแทบจะเชื่อไม่ได้เลยว่านางและพี่ของนางนั้นเคยสู้กับคนที่มีความสามารถเช่นนั้นด้วย

เซียนสวรรค์นั้นเป็นบางอย่างที่ทั้งสามได้แต่ใฝ่ฝันที่จะเป็นเท่านั้น

ศิษย์ที่กำลังถกเถียงกันอยู่ตามทั้งสองคนนั้นไปยังสนามต่อสู้ ไม่กี่เมตรห่างออกไป เจี้ยนเฉินและหมิงตงกำลังรับฟังสิ่งที่พวกนั้นพูดกันทั้งหมดอยู่

“เจี้ยนเฉิน ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นผู้มีอิทธิพลขนาดนี้ ชิ ๆ เจ้าจะสุดยอดถึงเพียงใดเมื่อสามารถเอาชนะเซียนที่มีอาวุธเซียนซึ่งในตอนนั้นเจ้ายังอยู่ในขั้นแปดเท่านั้น นั่นดีกว่าข้าตอนอายุเท่านั้นเสียอีก” หมิงตงคอยเย้าแหย่เจี้ยนเฉินจากข้าง ๆ

เมื่อได้ยินแบบนั้นเจี้ยนเฉินนึกย้อนกลับไปพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย “ตอนนั้นก็แค่เป็นการละเล่นของเด็กเท่านั้น ในอดีตพี่น้องทั้งสามนั่นกับข้านั้นมีเรื่องน่าสนใจเกิดขึ้น แต่หลายปีผ่านมานี้ ข้าไม่คิดว่าทั้งสามจะยังอยู่ที่สำนักแห่งนี้อยู่ มาเถอะ ไปดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 529

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 529 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 529 กลับไปสำนักคากัต

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นผู้อาวุโสเฟิงและผู้อาวุโสหยุนก็ได้ออกมาจากตระกูลหวงกู่ หัวหน้าตระกูลยังคงจับตาดูพวกนั้นด้วยสายตาที่คมกริบ ไม่นานเขาก็ได้ขึ้นไปบนชั้นสูงสุดของหอคอย ตระกูลหวงกู่นั้นได้ตีค่าหวงหลวนเอาไว้มาก แม้แต่บรรพชนของตระกูลพวกเขาเองยังสนใจในตัวนางและอยากจะดึงนางเข้าร่วมตระกูลของพวกเขา เมื่อมีการยกเลิกการหมั้นแบบนั้น เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องแจ้งแก่บรรพชนของเขา

ชายผู้นั้นเดินขึ้นไปยังชั้นสูงสุดก่อนที่จะหยุดอยู่ที่หน้าประตูบานหนึ่ง เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนอบน้อม ” ลูกหลานเจี้ยงเต๋ามาที่นี่เพื่อรายงานกับท่านบรรพชน”

หลังจากเงียบไปสักพักน้ำเสียงของผู้อาวุโสผู้นั้นก็ดังขึ้นจากอีกด้านของประตู ” พูด ! “

“ท่านบรรพชน ตระกูลหวงนั้นได้ยกเลิกการหมั้นระหว่างหวงหลวนและตระกูลหวงกู่ของเรา และได้เลือกผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวงมาแทนตำแหน่งของเรา” เจี้ยงเต๋าตอบกลับด้วยความเคารพ

“อะไรนะ? ยกเลิกเพื่อผู้พิทักษ์ของอาณาจักรฉินหวงเช่นนั้นหรือ ? ! ” น้ำเสียงของบรรพชนที่อยู่อีกด้านของประตูนั้นดูโกรธเคือง

เมื่อได้ยินน้ำเสียงเช่นนั้น เจี้ยงเต๋าก็สับสนเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขารู้ดีว่าบรรพชนนั้นได้ตีค่าหวงหลวนเอาไว้สูง แต่เขาไม่คิดว่าบรรพชนจะหงุดหงิดเรื่องนางขนาดนี้

แม้ว่าเขาจะสับสนแต่เขาก็ไม่กล้าไถ่ถามถึงเรื่องนั้น เขาตอบกลับไปแทน “ขอรับ ท่านบรรพชน ชายจากตระกูลหวงเพิ่งได้นำข่าวนี้มาแจ้ง”

บรรพชนได้เงียบอยู่สักพัก และได้พูดขึ้นมา “ดีมาก ข้ารับทราบเรื่องนี้แล้ว เจ้ากลับไปได้ ! ” ครั้งนี้น้ำเสียงของบรรพชนนั้นฟังดูสงบ

“ขอรับ ท่านบรรพชน ! ลูกหลานเจี้ยงเต๋าขอลา ! ” เจี้ยงเต๋าคารวะก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับไป

หลังจากที่เจี้ยงเต๋าได้ออกไปแล้ว ประตูก็ค่อย ๆ เปิดออกช้า ๆ เผยให้เห็นผู้อาวุโสผู้ซึ่งสวมชุดสีฟ้าและมีใบหน้าที่มืดหม่น ในขณะที่เขาก้าวออกมาจากประตูนั้น คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันเรื่อย ๆ

“ตระกูลหวงได้จับคู่หวงหลวนกับผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวง รึว่าผู้พิทักษ์นั้นจะรู้ว่าเด็กสาวผู้นี้ครอบครองจิตวิญญาณน้ำในร่างกายของนาง ? ไม่ นั่นไม่มีทาง ถ้าเขาไม่ได้ฝึกฝนคัมภีร์ทานตะวัน เขาไม่มีทางที่จะรู้ความลับเรื่องนี้ได้” บรรพชนพึมพำกับตัวเอง หลังจากลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดเขาก็กัดปากของตัวเอง “ไม่ จิตวิญญาณน้ำในร่างกายนางมันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ข้าต้องสืบสวนในเรื่องนี้” บรรพชนได้หายไปในเสี้ยวพริบตาจากตำแหน่งนั้น โดยที่เขาได้ออกจากหอคอยและมุ่งหน้าเข้าไปยังป่าหมอก

ที่ชายขอบของอาณาจักรเกอซูน เจี้ยนเฉินที่บินมาพร้อมกับหมิงตงเป็นระยะทางกว่าพันกิโลเมตรก่อนที่พวกเขาจะได้มาถึงจุดหมายของพวกเขา – สำนักคากัต

พวกเขาร่อนลงที่บริเวณใกล้ ๆ สำนักคากัต จากนั้นทั้งสองก็ได้เดินเข้าไปยังสำนัก ไม่นานในตอนที่พวกเขากำลังจะเดินผ่านประตู ยามที่ประตูก็ทำการขวางทางพวกเขาทันที

“ใต้เท้า โปรดพิสูจน์ว่าท่านเป็นศิษย์ของที่นี่ ไม่อย่างนั้นแล้วข้าคงให้ท่านเข้าไปไม่ได้ นั่นเป็นกฎของสถาบัน” ยามบอกได้เลยว่าบุคคลทั้งสองที่สวมชุดหรูหรานี้เป็นคนสำคัญมาก ดังนั้นพวกเขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม

เจี้ยนเฉินยิ้มก่อนที่จะหยิบเข็มกลัดจากแหวนจัดเก็บของเขาออกมา “พวกเราเข้าไปได้หรือยัง ? ” ในอดีตนั้นเจี้ยนเฉินเคยเป็นศิษย์ของสำนักคากัต ดังนั้นเรื่องการพิสูจน์และกฎนี่นั้นเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขา

“เชิญเข้าไปเถิด ใต้เท้า” เมื่อเห็นแบบนั้นยามทั้งสองก็ไม่ได้ขัดขวางพวกเขาทั้งคู่แต่อย่างใด ยามพวกนั้นผายมือออกพร้อมกับรอยยิ้ม

เมื่อไม่ปัญหาใด ๆ เจี้ยนเฉินและหมิงตงก็ได้เดินเข้าไปในสำนักคากัต แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะจากไปนาน แต่สำนักคากัตนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปสักนิดเลย การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคงจะเป็นต้นไม้ที่โตขึ้นหลังจากที่ผ่านมาหลายปี

ข้างในสถาบันนั้นค่อนข้างมีชีวิตชีวา มีศิษย์จำนวนมากมายที่กำลังพูดคุยและหัวเราะกันอยู่ทั่วทั้งบริเวณสำนัก พวกนั้นส่วนมากก็อายุได้ประมาณ 18-19 ปี และก็มีบางคนที่อายุมากกว่านั้น

“เจี้ยนเฉิน นี่คือสำนักที่เจ้าร่ำเรียนมาอย่างนั้นหรือ ? นี่ดูไม่ดีเท่าไหร่เลย มีศิษย์น้อยนิดที่เข้าถึงได้ในระดับเซียนเท่านั้น — บางคนยังไม่มีอาวุธเซียนเลยด้วยซ้ำ ! ” หมิงตงพูดขึ้นด้วยท่าทีไม่เชื่อเมื่อเขามองไปรอบ ๆ บริเวณนั้น

เจี้ยนเฉินหัวเราะ “เจ้าคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนเจ้างั้นหรือ และได้เป็นเซียนปฐพีด้วยอายุเช่นเจ้างั้นหรือ ? แม้ว่าจะมีอัจฉริยะหลายคนบนทวีปเทียนหยุน แต่อาณาจักรเกอซุนนั้นมีเพียงน้อยนิดเท่านั้น แค่คนสองคนนั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์แล้ว แล้วจะเป็นไปได้ยังไงที่ที่นี่จะมีพวกนั้นอยู่ ? “

หมิงตงเห็นว่าคำพูดของเจี้ยนเฉินนั้นดูมีเหตุผลและเขาก็เห็นด้วย “นั่นก็จริง แต่เจี้ยนเฉิน ใครกันที่เจ้าพาข้ามาพบในวันนี้ ? รึว่าคน ๆ นั้นเตะตาเจ้า ? “

“เจ้าจะรู้ในไม่ช้า ไปหาอาจารย์ใหญ่กันเถอะ เขารู้ว่าจะข้าจะหาสหายผู้นั้นได้ที่ไหน สหายผู้นี้ของข้านั้นมีพรสวรรค์น้อยนิด แต่ดูเหมือนเขาจะได้รับพร ด้วยร่างกายของเขาเป็นสิ่งที่ข้านั้นชื่นชมอย่างมาก” เจี้ยนเฉินยอมรับ

“ฮ่าฮ่า ถ้าเจ้าพูดเช่นนั้น ข้าล่ะอยากเห็นเพื่อนของเจ้าคนนั้นเสียจริง ๆ” หมิงตงหัวเราะพร้อมกับทำท่าทีสนใจ

ทั้งสองได้เดินต่อไปยังหอคอยที่อยู่ใจกลางสถาบัน หอคอยนี้เป็นที่ที่เปล่งพลังมากที่สุดในสถาบันนี้และเป็นที่ที่อาจารย์ใหญ่สำนักคากัตพำนักอยู่

และทันใดนั้นก็ได้มีเสียงโห่ร้องดังขึ้น

“ทุกคนรีบมาที่นี่เร็วเข้า ! ศิษย์อันดับสองจะท้าทายศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดด้วยการต่อสู้ ! นี่เป็นการต่อสู้ที่น่าทึ่งซึ่งพวกเราจะพลาดไม่ได้ !”

“ห๊ะ ? กาดิหยุนท้าทายเพื่อตำแหน่งอันดับหนึ่งงั้นหรือ ? ไม่ใช่ว่าหลิงเจิ้งเทียนนั้นได้ตัดผ่านเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญเมื่อครึ่งปีก่อนแล้วไม่ใช่หรือ? กาดิหยุนอยู่เพียงระดับเซียนระดับสูงขั้นสูงมิใช่หรือ ? ไม่ใช่ว่าเขาจะทำให้ตัวเองอับอายจากการท้าทายครั้งนี้หรอกหรือ?”

“เจ้าจะไปรู้อะไร ? จากข่าวลือ กาดิหยุนนั้นได้ตัดผ่านเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญเมื่อครึ่งเดือนก่อน ความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้นั้นเทียบเท่าได้กับหลิงเจิ้งเทียน ! “

“นั่นเป็นไปไม่ได้ กาดิหยุนนั้นตัดผ่านเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญได้จริงหรือ ? อัตราความก้าวหน้าในการฝึกฝนของเขาจะเร็วเกินไปแล้ว เขาอายุน้อยกว่าหลิงเจิ้งเทียน 2 ปี แล้วเขาจะเข้าถึงระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญได้อย่างไร ? นั่นจะถือได้ว่าเขาเป็นคนที่มีการเติบโตที่เร็วที่สุดในสำนักคากัต ! “

“บ๊ะ ใครกันที่เป็นคนพูดว่ากาดิหยุนนั้นเป็นผู้ที่ฝึกตนเร็วที่สุดในสำนักคากัต ? นี่เจ้าไม่เคยได้ยินถึงบุตรชายคนโตของตระกูลเจียงหยาง เจียงหยางหู่ ? เขานั้นเป็นศิษย์รุ่นเดียวกับพวกเราได้เข้าถึงระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญเมื่อปีที่แล้ว เขาได้ออกจากสำนักคากัตหลังจากนั้น ไม่อย่างนั้นแล้วคงไม่มีศิษย์คนไหนที่พอจะเทียบเคียงเขาได้และคงไม่มีอาจารย์คนไหนคอยสั่งสอนเขาได้”

“ชิ ! ใครจะสนเจียงหยางหู่กัน ? นี่เจ้าไม่เคยได้ยินถึงนายน้อยสี่ของตระกูลเดียวกันงั้นหรือ เจียงหยางเซียงเทียน? ข้าได้ยินมาว่าเขาเคยศึกษาอยู่ที่สำนักคากัตของเรา ไม่นานตอนเขาได้เข้ามาเข้าได้เป็นอันดับหนึ่งของศิษย์ที่เข้ามาในปีนั้น ความแข็งแกร่งของเขานั้นเกินกว่าที่คิดไว้มาก และข้าพนันได้เลยว่าไม่มีผู้ใดในสำนักจะสามารถทัดเทียมเขาได้ “

“เจียงหยางเซียงเทียน ? ไอ้หยา ข้ารู้จักเขา ! ” เด็กสาวอายุ 18 ปีคึกคักเมื่อได้ยินชื่อของเจียงหยางเซียงเทียน “ข้ารู้จักเจียงหยางเซียงเทียน ตอนนี้เขาได้เป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรเกอซุนของเรา นั่นหมายความว่าตำแหน่งของเขาตอนนี้สูงยิ่งกว่าอาจารย์ใหญ่ซะอีก ! ข้าได้ยินมาว่าเขาตัดผ่านเป็นเซียนสวรรค์แล้วด้วย นั่นยิ่งกว่ามหัศจรรย์เสียอีก ! เขาเพิ่งอายุได้ 20 ปีเอง ! “

“อะไรนะ ? แค่อายุเพียง 20 ปีก็เข้าถึงระดับเซียนสวรรค์แล้วงั้นหรือ อีกทั้งยังเป็นถึงผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรเกอซุนของเราอีกด้วยงั้นหรือ ? เจ้าฝันแน่ ๆ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ? แม้แต่ผู้ที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดยังไม่สามารถเข้าถึงระดับเซียนสวรรค์ด้วยอายุเพียง 20 ปีได้” ศิษย์ชายคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าไม่เชื่อกับคำพูดนั้น

ศิษย์รอบ ๆ เริ่มมองไปที่ศิษย์คนที่พูดและก็ได้มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “สหาย นี่เจ้ายังไม่ออกจากกะลาอีกงั้นหรือ? นี่เจ้าไม่รู้จักชื่อของเจียงหยางเซียงเทียนได้อย่างไรกัน เขาเป็นถึงนายน้อยสี่ของตระกูลเจียงหยาง ? แค่ความจริงเรื่องนั้นก็เป็นสิ่งพิสูจน์แล้วว่าทุกอย่างมันเป็นจริง”

อีกคนได้พูดแทรกขึ้นมา “ข้าได้ยินมาว่าเจียงหยางเซียงเทียนนั้นเป็นคู่อริกับกาดิหยุนตอนที่เขาเข้ามาในสำนักนี้ตอนแรก ข้าไม่รู้ว่านั่นเป็นความจริงหรือไม่”

“นั่นถูกต้องแล้ว นั่นเกิดขึ้นจริง ๆ” หนึ่งในนักเรียนที่อายุมากกว่าพูดขึ้นด้วยความมั่นใจพร้อมกับเอามือทาบปาก “ข้าเห็นเจียงหยางเซียงเทียนเข้ามายังสำนักนี้ ในตอนที่แข่งขันกันของผู้มาใหม่ เจียงหยางเซียงเทียนนั้นเอาชนะกาดิเหลียงและกาดิซิ่วหลีและคว้าอันดับที่หนึ่งไปครอง ทั้งกาดิเหลียงและกาดิซิ่วหลีนั้นไม่ยอมรับความพ่ายแพ้และไปท้าทายเจียงหยางเซียงเทียนอีกครั้ง แต่พวกเขาก็ยังพ่ายแพ้เช่นเดิม ในที่สุดแม้แต่กาดิหยุนผู้ซึ่งมีอาวุธเซียนไปท้าทายเขาก็ยังได้รับความพ่ายแพ้กลับมา ข้าได้ยินมาว่าตอนนั้นเจียงหยางเซียงเทียนนั้นอยู่ในระดับเซียนขั้นแปดที่มีอาวุธเซียนอยู่เท่านั้น”

“หือ…นั่นจริงหรือไม่ ? เจียงหยางเซียงเทียนจะมหัศจรรย์เกินไปแล้ว..” ศิษย์ทุกคนรอบ ๆ ส่งเสียงออกมาด้วยความแปลกใจหลังจากได้ยินคำพูดนั้น

“นี่พวกเจ้ากำลังพูดถึงสิ่งใดกัน ? ! ” ทันใดนั้นน้ำเสียงเยือกเย็นก็ดังขึ้นพร้อมกับมีเด็กสาวสวมกระโปรงสีฟ้ามองอย่างเย็นชามาที่ทุกคน

ผู้หญิงคนนี้นั้นสวยเป็นอย่างมาก แม้ว่านางจะไม่สวยจนจะทำให้ทั้งอาณาจักรก้มหัวให้ แต่นางก็เป็นผู้หญิงที่สวยซึ่งยากจะพบเจอ ที่ข้าง ๆ ผู้หญิงคนนั้นชายหนุ่มหล่อเหลาผู้ซึ่งอายุประมาณ 22-23 ปียืนอยู่

ในขณะที่ชายและหญิงสาวผู้นั้นกำลังเดินเข้ามาหาฝูงชน ศิษย์ทุกคนที่กระซิบกระซาบกันก่อนหน้านี้ก็เงียบลงทันที พวกเขาเริ่มทำการทักทายสองคนผู้มาใหม่

“นี่คือกาดิซิ่วหลีและศิษย์พี่กาดิเหลียง ! “

“ศิษย์น้องกาดิซิ่วหลีและศิษย์พี่กาดิเหลียง ! “

ในตอนนั้นเองลูกหลานของตระกูลกาดิทั้งสามผู้มีชื่อเสียงในสำนักคากัตก็ปรากฏตัวขึ้น ศิษย์ทุกคนในสำนักแห่งนี้รู้อยู่แล้วว่าทั้งสามคนนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก กาดิหยุนนั้นอยู่ในระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสถาบัน กาดิซิ่วหลีและกาดิหยุนนั้นอยู่ในระดับเดียวกัน พวกเขาเป็นเซียนระดับสูงขั้นสุดยอด อีกแค่นิดเดียวก็จะได้เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญ จากลำดับหนึ่งในสิบของผู้ที่แข็งแกร่งของสำนักแห่งนี้ ทั้งสามคนนั้นถือครองเอาไปถึงสามตำแหน่ง

“น้องสาม อย่าไปสนใจพวกเขาเลย การแข่งขันของพี่ใหญ่นั้นกำลังจะเริ่มขึ้น พวกเราควรรีบไปดูการต่อสู้นั่น” กาดิเหลียงพูดกับกาดิซิ่วหลีที่อยู่ข้าง ๆ เขา จากนั้นเขาก็ดึงกาดิซิ่วหลีไปยังทิศทางที่สนามต่อสู้อยู่ ทั้งสองออกไปด้วยสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่บนใบหน้าของพวกเขา

เมื่อกาดิซิ่วหลีถูกดึง รอยยิ้มที่ไม่พึงพอใจก็ได้ปรากฏบนใบหน้าของนาง ในความคิดของนางแล้วนางยังไม่ลืมเกี่ยวกับความแค้นที่เจียงหยางเซียงเทียนสร้างไว้เมื่อหลายปีก่อน พี่น้องทั้งสองคนนั้นรู้ความเป็นไปของโลกภายนอก แต่นางแทบจะเชื่อไม่ได้เลยว่านางและพี่ของนางนั้นเคยสู้กับคนที่มีความสามารถเช่นนั้นด้วย

เซียนสวรรค์นั้นเป็นบางอย่างที่ทั้งสามได้แต่ใฝ่ฝันที่จะเป็นเท่านั้น

ศิษย์ที่กำลังถกเถียงกันอยู่ตามทั้งสองคนนั้นไปยังสนามต่อสู้ ไม่กี่เมตรห่างออกไป เจี้ยนเฉินและหมิงตงกำลังรับฟังสิ่งที่พวกนั้นพูดกันทั้งหมดอยู่

“เจี้ยนเฉิน ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นผู้มีอิทธิพลขนาดนี้ ชิ ๆ เจ้าจะสุดยอดถึงเพียงใดเมื่อสามารถเอาชนะเซียนที่มีอาวุธเซียนซึ่งในตอนนั้นเจ้ายังอยู่ในขั้นแปดเท่านั้น นั่นดีกว่าข้าตอนอายุเท่านั้นเสียอีก” หมิงตงคอยเย้าแหย่เจี้ยนเฉินจากข้าง ๆ

เมื่อได้ยินแบบนั้นเจี้ยนเฉินนึกย้อนกลับไปพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย “ตอนนั้นก็แค่เป็นการละเล่นของเด็กเท่านั้น ในอดีตพี่น้องทั้งสามนั่นกับข้านั้นมีเรื่องน่าสนใจเกิดขึ้น แต่หลายปีผ่านมานี้ ข้าไม่คิดว่าทั้งสามจะยังอยู่ที่สำนักแห่งนี้อยู่ มาเถอะ ไปดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+