Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 526

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 526 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 526 ความรู้สึกลึก ๆ

เมื่อโดนหวงหลวนจุมพิตอย่างกะทันหัน ตอนนี้ความคิดของเจี้ยนเฉินว่างเปล่า เขายืนนิ่งค้างอยู่เป็นเวลานาน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาโดนผู้หญิงทำแบบนี้กับเขาตั้งแต่เขาเกิดมา

ปลายจมูกของเขายังคงได้กลิ่นของหวงหลวนอยู่ในขณะที่สัมผัสถึงสิ่งที่เขาไม่เคยรู้สึกได้มาก่อนได้ มันทำให้จิตใจของเขาปั่นป่วน ในตอนนั้นเจี้ยนเฉินไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

บางทีนี่อาจเป็นเพราะหวงหลวนได้แสดงความรู้สึกของนางสำหรับที่มีต่อเจี้ยนเฉินที่มีมาแสนนาน อยู่ดี ๆ มันก็พรั่งพรูออกมาราวกับภูเขาไฟระเบิด ความรู้สึกนั้นมันรุนแรงยิ่งกว่าเดิมจนยากที่จะหยุดได้ ร่างกายของนางได้ปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดที่มีผ่านจุมพิตนี้ มันได้ปลดปล่อยความกังวลที่นางมีในจิตใจของนางอกมา

นี่เป็นครั้งแรกที่เจี้ยนเฉินเผชิญกับสิ่งแบบนี้ เขาไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อนและตอนนี้เขาถึงกับตะลึง แม้ว่าจะตระหนักได้หลังจากนั้นว่าเกิดอะไรขึ้นแต่หัวใจของเจี้ยนเฉินนั้นยังคงสั่นระรัวหลังจากที่รู้สึกได้ถึงลิ้นอันนุ่มนวลของหวงหลวนที่เข้ามาในปากเข้า นั่นมันทำให้ลมหายใจของเขาติดขัด

แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะไม่เคยคิดเรื่องรักใคร่แต่อย่างไรเสียเขาก็เป็นผู้ชาย หวงหลวนเองก็งดงาม อันที่จริงแล้วนางงดงามมาก ภายใต้สวรรค์นางนั้นโดดเด่นเป็นอย่างมาก และเมื่อหญิงสาวที่งดงามเช่นนั้นจุมพิตเขาแม้แต่เจี้ยนเฉินเองก็ไม่สามารถสงบจิตใจของตนเองได้ ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในตัวเจี้ยนเฉินได้พรั่งพรูออกมาและบังคับให้เจี้ยนเฉินหลับตาของตนเอง

แขนทั้งสองข้างของเจี้ยนเฉินได้เอื้อมออกไปคว้าร่างอันนุ่มของหวงหลวนเข้ามากอดแนบแน่นกับร่างกายของเขา แม้ว่าจะมีเสื้อผ้าบาง ๆ ของหวงหลวนคั่นไว้อยู่ แต่เจี้ยนเฉินก็สามารถสัมผัสได้ถึงหัวใจเต้นรัวจากร่างกายของนาง มันทำให้หัวใจเขาสั่นไหวยิ่งกว่าเดิม

ด้วยการจุมพิตนั้นทำให้ตัวของเขาทั้งคู่ติดกัน เจี้ยนเฉินนั้นเร่าร้อนขึ้นเพราะการกระทำของหวงหลวน ตอนนั้นเขาได้ตอบรับความรู้สึกตัวเอง เขาโยนเรื่องทุกอย่างทิ้งและดื่มด่ำกับความสุขในช่วงเวลานั้น

ช่วงเวลาดี ๆ นั้นดำเนินไปสักพักก่อนที่ทั้งสองจะแยกออกจากกัน หวงหลวนนั้นยังคงอยู่ในอ้อมแขนของเจี้ยนเฉิน แต่หัวของนางนั้นยังคงแนบชิดกับใบหน้าอันหล่อเหลาของเจี้ยนเฉิน นางค่อย ๆ ซบหน้ามาบนไหล่ของเจี้ยนเฉินพร้อมกับหลับตา รับรู้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเขา

เจี้ยนเฉินถอนหายใจยาว ๆ ออกมาเพื่อสงบสติอารมณ์ตนเอง เขาปล่อยให้หวงหลวนนั้นซบลงที่ไหล่ของเขา จากนั้นเขาจึงเอาหน้าของเขาไปแนบกับหัวของสาวสวยคนนี้ที่ซึ่งกำลังหลับตาพร้อมกับแสดงอารมณ์อันซับซ้อนออกมา

หลังจากนั้นสักพักเจี้ยนเฉินก็ได้ถอนหายใจออกมาอีกครั้งและพูดขึ้น “หลวนเอ๋อ นี่เจ้าไม่รู้สึกผิดกลับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือ ? ข้าเหมาะสมจะเป็นคนรักของเจ้าจริงหรือ ? “

ดวงตาของหวงหลวนค่อย ๆ ลืมขึ้นมาและจ้องมองเจี้ยนเฉินอย่างรักใคร่ นางส่ายหน้าของนางแล้วพูดขึ้น “ข้าไม่เคยรู้สึกเช่นนั้นมาก่อน ข้าจะไม่รู้สึกผิดหวังสักนิด”

“เจี้ยนเฉิน บอกข้าที ข้านั้นอยู่ในหัวใจของเจ้าจริงหรือ ? ” หวงหลวนจ้องมองอย่างคาดคั้น

เจี้ยนเฉินถอนหายใจและมองมาที่หวงหลวนด้วยสายตาที่ซับซ้อน เขาเงียบไปสักพักก่อนที่จะตอบกลับมา “หลวนเอ๋อ ข้ายังให้คำตอบเจ้าตอนนี้ไม่ได้ ตอนแรกข้าไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นเช่นนี้ นี่มันมากเกินไป ความกดดันที่ข้าต้องเผชิญเองนั้นก็มากด้วยเช่นกัน ที่ข้าต้องการตอนนี้คือต้องการแข็งแกร่งขึ้น”

หวงหลวนส่ายหน้า “เจี้ยนเฉิน เรื่องนั้นไม่สำคัญอะไร หลวนเอ๋อจะรอ ข้าจะรอเจ้า ! ตลอดไป ข้าจะรอเจ้าตลอดไป ! “

เจี้ยนเฉินผงะ ในตอนนี้ความคิดของเขาปั่นป่วน เขาไม่เคยตระหนักได้เลยว่าความรู้สึกของหวงหลวนที่มีต่อเขานั้นจะมากมายถึงเพียงนี้

แต่เขาก็ไม่ได้ตอบสิ่งใดกลับไป เขาค่อย ๆ เอามือเอื้อมไปกอดหวงหลวนและเริ่มสูดกลิ่นที่มาจากร่างกายของนาง วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใกล้ชิดกับผู้หญิง และวันนี้เป็นวันแรกที่เขาได้กอดร่างกายอันยั่วยวนของหญิงสาว ความรู้สึกนั้นยังคงส่งผลกระทบต่อเจี้ยนเฉิน ความรู้สึกอันสวยงามนี้อัดแน่นลงไปในวิญญาณของเจี้ยนเฉินและสลักความรู้สึกนี้ไว้ในจิตใจของเขา เขาจะไม่มีวันลืมความรู้สึกในตอนนี้

ถ้าเป็นแบบนั้นเขาจะเพิ่มความรู้สึกนี้ให้มันมากขึ้นกว่าเดิม

เมื่อทั้งสองอยู่ในห้องเพียงลำพัง ความรู้สึกที่ทั้งสองมีได้พัฒนาขึ้น เวลาในตอนนี้ได้ถูกสองคนนี้ลืมเลือนไปเพราะความสุข

หลังจากอยู่อย่างนั้นสักพักก็ได้มีเสียงเท้าดังขึ้น จากนั้นก็ได้มีเสียงอันเร่งรีบของชายวัยกลางคนดังขึ้นตามมา “หลวนเอ๋อ เจ้าอยู่หรือไม่ ? พ่อของเจ้ามีข่าวดีจะบอกกับเจ้า”

เมื่อได้ยินดังนั้นทั้งสองคนเริ่มกระโดดออกจากกันเหมือนดังกระต่าย พวกเขาจัดชุดของตนเองและปรับสีหน้าให้เป็นปกติ พวกเขาจะพยายามทำทีเหมือนว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

หัวหน้าตระกูล หวงฉิงหลานเดินเข้ามายังศาลานั่นพร้อมกับชุดสีขาว ในตอนที่เจี้ยนเฉินและหวงหลวนเห็นเขา เขายิ้มออกมาและพูดขึ้น “หลวนเอ๋อ พ่อของเจ้ามีข่าวดีจะบอกเจ้า หลังจากได้ยินเรื่องนี้แล้วเจ้าจะ….” – ในตอนที่เขากำลังพูดอยู่นั้น ทันใดนั้นเองหัวหน้าตระกูลก็ได้เห็นว่าเจี้ยนเฉินเองก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาตกตะลึงจนหยุดพูดกลางคัน

“ท่านหวง ! ” เจี้ยนเฉินป้องมือพร้อมกับยิ้มออกมา

หัวหน้าตระกูลนั้นยังคงสีหน้าเคร่งขรึมไว้ได้และยิ้มออกมากว้างกว่าเดิม เขาป้องมือกลับและพูดขึ้น ” ข้าไม่คิดว่าผู้พิทักษ์จักรพรรดิจะอยู่ที่นี่ด้วย เรื่องนี้ต้องขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ทำให้หลวนเอ๋อเป็นอิสระเสียที”

“ท่านพูดเกินไป หลวนเอ๋อนั้นเพียงแค่มีสหายที่ดี ถ้านางเจอปัญหาใดเข้า ข้าผู้นี้จะต้องช่วยเหลืออย่างแน่นอน” เจี้ยนเฉินตอบ

หัวหน้าตระกูลยิ้มแต่สายตาของเขายังคงมองไปที่เจี้ยนเฉินและหวงหลวนสลับกัน แม้ว่าทั้งสองจะแกล้งทำทีว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น แต่จากประสบการณ์จากลูกผู้ชายอย่างเขาแล้ว เขาสามารถเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างได้ และสิ่งที่ทำให้ชายคนนี้ดีใจยิ่งกว่าเดิมก็คือสายตาของเจี้ยนเฉินตอนนี้ได้เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง พวกเขาได้เปลี่ยนสายตาที่มองกันใหม่ เหมือนกับลูกเขยกำลังมองพ่อตาและพ่อตากำลังมองไปที่ลูกเขย

“ข้าเดาว่าผู้พิทักษ์จักรพรรดินั้นได้บอกข่าวกับหลวนเอ๋อแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นข้าก็ไม่จำเป็นต้องพูดสิ่งใด” ชายคนนี้ได้หันไปมองที่หวงหลวน “หลวนเอ๋อ ผู้พิทักษ์จักรพรรดินั้นได้ลงแรงในเรื่องนี้ไปไม่น้อย แม้แต่บรรพชนของเรายังลงมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง เจ้าต้องขอบคุณเขา”

“ลูกของท่านเข้าใจแล้ว ! ” หวงหลวนพูดด้วยน้ำเสียงเบาอย่างกับยุง

“พูดคุยกันตามสบาย ข้ามีบางเรื่องต้องไปจัดการ งั้นข้าไปก่อนล่ะ” หวงฉิงหลานไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ให้นานกว่านี้ เขารีบออกจากศาลาไป

หลังจากหวงฉิงหลานจากไปแล้ว มีเพียงเจี้ยนเฉินแหละหวงหลวนที่อยู่ที่นั่น ทั้งสองไม่พูดคุยกันสักพักซึ่งนั่นทำให้เกิดบรรยากาศอันน่ากระอักกระอ่วน

และหลังจากนั้นสักพักก็เป็นหวงหลวนเองที่เป็นฝ่ายพูดขึ้น “เจี้ยนเฉิน เจ้าเอาอาณาจักรฉินหวงมายุ่งเกี่ยวในครั้งนี้ แล้วพวกเขาจะช่วยเจ้าจริง ๆ หรือ?”

“อย่ากังวล อาณาจักรฉินหวงนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว ข้าได้รับการช่วยเหลือจากผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งมาจัดการปัญหานี้ ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสผู้นี้นั้นแข็งแกร่งกว่าอาณาจักรฉินหวง ดังนั้นบรรพชนของเจ้าเลยยิ่งกว่ายินดีที่จะเห็นด้วยในการยกเลิกการหมั้น” เจี้ยนเฉินพูด

หัวใจของหวงหลวนเต้นรัวอีกครั้ง นางรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากแค่ไหนที่จะเชิญผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งมาปรากฏตัวเพื่อสะสางปัญหาให้ นอกจากว่าจะมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกัน ไม่งั้นพวกเขาคงไม่คิดจะลงมาช่วยแน่ ๆ

เจี้ยนเฉินยังคงอยู่ในห้องของหวงหลวนสักพักก่อนที่จะจากไป ในงานฉลองของบรรพชนตระกูลหวง เขาได้ไปที่นั่นในวันต่อมา ในวันต่อมาเขาและหมิงตงได้ร่ำลาหวงหลวนและบรรพชนเพื่อกลับไปยังอาณาจักรเกอซุน

“สหายเจี้ยนเฉินและสหายหมิงตง ผู้เฒ่าคนนี้รู้ถึงความขัดแย้งของพวกเจ้ากับนิกายพยัคฆ์มังกร ข้าจะให้หยกแฝด 2 ชิ้นนี้กับพวกเจ้า ถ้าเซียนผู้คุมกฎทำสิ่งใด เจ้าแค่ทำลายหยกนี้แล้วชายชราผู้นี้จะไปช่วยเหลือเจ้าให้เร็วที่สุด ! ” บรรพชนส่งหยก 2 ชิ้นขนาดเท่ากำปั้นให้กับเจี้ยนเฉินและหมิงตง หลังจากที่เขารู้ว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์กับผู้อาวุโสสูงสุดแห่งเมืองทหารรับจ้าง บรรพชนผู้นี้ต้องพยายามเอาอกเอาใจทั้งสองให้ดีที่สุด ด้วยวิธีนี้จะทำให้ตระกูลหวงนั้นอาจจะได้เป็นตระกูลใหญ่ได้โดยการที่ผู้อาวุโสสูงสุดมาช่วยเหลือหรือว่าบางทีอาจจะได้รับการปฏิบัติจากตระกูลโบราณดีขึ้นอย่างที่เคยเป็นเมื่อแต่ก่อน

“ขอบคุณท่านมากสำหรับน้ำใจครั้งนี้ ข้าจะจำครั้งนี้ไว้ ! ” เจี้ยนเฉินหยิบหยกนั่นไปด้วยความสุข หลังจากวันนั้นผ่านมาเซียนผู้คุมกฎของนิกายพยัคฆ์มังกรนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในความคิดของเจี้ยนเฉิน ตอนนี้บรรพชนจะช่วยเขาในการหยุดเซียนผู้คุมกฎของนิกายนั้น นี่เป็นเรื่องดีอย่างมากในการแก้ไขปํญหาที่ยุ่งยากของเขา

“ฮ่าฮ่าฮ่า สหายเจี้ยนเฉินสุภาพเกินไป ถ้ามีอะไรที่ตระกูลหวงช่วยได้โปรดบอกได้เลย ตระกูลของเราจะทำอย่างสุดความสามารถ” บรรพชนหัวเราะออกมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 526

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 526 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 526 ความรู้สึกลึก ๆ

เมื่อโดนหวงหลวนจุมพิตอย่างกะทันหัน ตอนนี้ความคิดของเจี้ยนเฉินว่างเปล่า เขายืนนิ่งค้างอยู่เป็นเวลานาน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาโดนผู้หญิงทำแบบนี้กับเขาตั้งแต่เขาเกิดมา

ปลายจมูกของเขายังคงได้กลิ่นของหวงหลวนอยู่ในขณะที่สัมผัสถึงสิ่งที่เขาไม่เคยรู้สึกได้มาก่อนได้ มันทำให้จิตใจของเขาปั่นป่วน ในตอนนั้นเจี้ยนเฉินไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

บางทีนี่อาจเป็นเพราะหวงหลวนได้แสดงความรู้สึกของนางสำหรับที่มีต่อเจี้ยนเฉินที่มีมาแสนนาน อยู่ดี ๆ มันก็พรั่งพรูออกมาราวกับภูเขาไฟระเบิด ความรู้สึกนั้นมันรุนแรงยิ่งกว่าเดิมจนยากที่จะหยุดได้ ร่างกายของนางได้ปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดที่มีผ่านจุมพิตนี้ มันได้ปลดปล่อยความกังวลที่นางมีในจิตใจของนางอกมา

นี่เป็นครั้งแรกที่เจี้ยนเฉินเผชิญกับสิ่งแบบนี้ เขาไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อนและตอนนี้เขาถึงกับตะลึง แม้ว่าจะตระหนักได้หลังจากนั้นว่าเกิดอะไรขึ้นแต่หัวใจของเจี้ยนเฉินนั้นยังคงสั่นระรัวหลังจากที่รู้สึกได้ถึงลิ้นอันนุ่มนวลของหวงหลวนที่เข้ามาในปากเข้า นั่นมันทำให้ลมหายใจของเขาติดขัด

แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะไม่เคยคิดเรื่องรักใคร่แต่อย่างไรเสียเขาก็เป็นผู้ชาย หวงหลวนเองก็งดงาม อันที่จริงแล้วนางงดงามมาก ภายใต้สวรรค์นางนั้นโดดเด่นเป็นอย่างมาก และเมื่อหญิงสาวที่งดงามเช่นนั้นจุมพิตเขาแม้แต่เจี้ยนเฉินเองก็ไม่สามารถสงบจิตใจของตนเองได้ ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในตัวเจี้ยนเฉินได้พรั่งพรูออกมาและบังคับให้เจี้ยนเฉินหลับตาของตนเอง

แขนทั้งสองข้างของเจี้ยนเฉินได้เอื้อมออกไปคว้าร่างอันนุ่มของหวงหลวนเข้ามากอดแนบแน่นกับร่างกายของเขา แม้ว่าจะมีเสื้อผ้าบาง ๆ ของหวงหลวนคั่นไว้อยู่ แต่เจี้ยนเฉินก็สามารถสัมผัสได้ถึงหัวใจเต้นรัวจากร่างกายของนาง มันทำให้หัวใจเขาสั่นไหวยิ่งกว่าเดิม

ด้วยการจุมพิตนั้นทำให้ตัวของเขาทั้งคู่ติดกัน เจี้ยนเฉินนั้นเร่าร้อนขึ้นเพราะการกระทำของหวงหลวน ตอนนั้นเขาได้ตอบรับความรู้สึกตัวเอง เขาโยนเรื่องทุกอย่างทิ้งและดื่มด่ำกับความสุขในช่วงเวลานั้น

ช่วงเวลาดี ๆ นั้นดำเนินไปสักพักก่อนที่ทั้งสองจะแยกออกจากกัน หวงหลวนนั้นยังคงอยู่ในอ้อมแขนของเจี้ยนเฉิน แต่หัวของนางนั้นยังคงแนบชิดกับใบหน้าอันหล่อเหลาของเจี้ยนเฉิน นางค่อย ๆ ซบหน้ามาบนไหล่ของเจี้ยนเฉินพร้อมกับหลับตา รับรู้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเขา

เจี้ยนเฉินถอนหายใจยาว ๆ ออกมาเพื่อสงบสติอารมณ์ตนเอง เขาปล่อยให้หวงหลวนนั้นซบลงที่ไหล่ของเขา จากนั้นเขาจึงเอาหน้าของเขาไปแนบกับหัวของสาวสวยคนนี้ที่ซึ่งกำลังหลับตาพร้อมกับแสดงอารมณ์อันซับซ้อนออกมา

หลังจากนั้นสักพักเจี้ยนเฉินก็ได้ถอนหายใจออกมาอีกครั้งและพูดขึ้น “หลวนเอ๋อ นี่เจ้าไม่รู้สึกผิดกลับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือ ? ข้าเหมาะสมจะเป็นคนรักของเจ้าจริงหรือ ? “

ดวงตาของหวงหลวนค่อย ๆ ลืมขึ้นมาและจ้องมองเจี้ยนเฉินอย่างรักใคร่ นางส่ายหน้าของนางแล้วพูดขึ้น “ข้าไม่เคยรู้สึกเช่นนั้นมาก่อน ข้าจะไม่รู้สึกผิดหวังสักนิด”

“เจี้ยนเฉิน บอกข้าที ข้านั้นอยู่ในหัวใจของเจ้าจริงหรือ ? ” หวงหลวนจ้องมองอย่างคาดคั้น

เจี้ยนเฉินถอนหายใจและมองมาที่หวงหลวนด้วยสายตาที่ซับซ้อน เขาเงียบไปสักพักก่อนที่จะตอบกลับมา “หลวนเอ๋อ ข้ายังให้คำตอบเจ้าตอนนี้ไม่ได้ ตอนแรกข้าไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นเช่นนี้ นี่มันมากเกินไป ความกดดันที่ข้าต้องเผชิญเองนั้นก็มากด้วยเช่นกัน ที่ข้าต้องการตอนนี้คือต้องการแข็งแกร่งขึ้น”

หวงหลวนส่ายหน้า “เจี้ยนเฉิน เรื่องนั้นไม่สำคัญอะไร หลวนเอ๋อจะรอ ข้าจะรอเจ้า ! ตลอดไป ข้าจะรอเจ้าตลอดไป ! “

เจี้ยนเฉินผงะ ในตอนนี้ความคิดของเขาปั่นป่วน เขาไม่เคยตระหนักได้เลยว่าความรู้สึกของหวงหลวนที่มีต่อเขานั้นจะมากมายถึงเพียงนี้

แต่เขาก็ไม่ได้ตอบสิ่งใดกลับไป เขาค่อย ๆ เอามือเอื้อมไปกอดหวงหลวนและเริ่มสูดกลิ่นที่มาจากร่างกายของนาง วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใกล้ชิดกับผู้หญิง และวันนี้เป็นวันแรกที่เขาได้กอดร่างกายอันยั่วยวนของหญิงสาว ความรู้สึกนั้นยังคงส่งผลกระทบต่อเจี้ยนเฉิน ความรู้สึกอันสวยงามนี้อัดแน่นลงไปในวิญญาณของเจี้ยนเฉินและสลักความรู้สึกนี้ไว้ในจิตใจของเขา เขาจะไม่มีวันลืมความรู้สึกในตอนนี้

ถ้าเป็นแบบนั้นเขาจะเพิ่มความรู้สึกนี้ให้มันมากขึ้นกว่าเดิม

เมื่อทั้งสองอยู่ในห้องเพียงลำพัง ความรู้สึกที่ทั้งสองมีได้พัฒนาขึ้น เวลาในตอนนี้ได้ถูกสองคนนี้ลืมเลือนไปเพราะความสุข

หลังจากอยู่อย่างนั้นสักพักก็ได้มีเสียงเท้าดังขึ้น จากนั้นก็ได้มีเสียงอันเร่งรีบของชายวัยกลางคนดังขึ้นตามมา “หลวนเอ๋อ เจ้าอยู่หรือไม่ ? พ่อของเจ้ามีข่าวดีจะบอกกับเจ้า”

เมื่อได้ยินดังนั้นทั้งสองคนเริ่มกระโดดออกจากกันเหมือนดังกระต่าย พวกเขาจัดชุดของตนเองและปรับสีหน้าให้เป็นปกติ พวกเขาจะพยายามทำทีเหมือนว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

หัวหน้าตระกูล หวงฉิงหลานเดินเข้ามายังศาลานั่นพร้อมกับชุดสีขาว ในตอนที่เจี้ยนเฉินและหวงหลวนเห็นเขา เขายิ้มออกมาและพูดขึ้น “หลวนเอ๋อ พ่อของเจ้ามีข่าวดีจะบอกเจ้า หลังจากได้ยินเรื่องนี้แล้วเจ้าจะ….” – ในตอนที่เขากำลังพูดอยู่นั้น ทันใดนั้นเองหัวหน้าตระกูลก็ได้เห็นว่าเจี้ยนเฉินเองก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาตกตะลึงจนหยุดพูดกลางคัน

“ท่านหวง ! ” เจี้ยนเฉินป้องมือพร้อมกับยิ้มออกมา

หัวหน้าตระกูลนั้นยังคงสีหน้าเคร่งขรึมไว้ได้และยิ้มออกมากว้างกว่าเดิม เขาป้องมือกลับและพูดขึ้น ” ข้าไม่คิดว่าผู้พิทักษ์จักรพรรดิจะอยู่ที่นี่ด้วย เรื่องนี้ต้องขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ทำให้หลวนเอ๋อเป็นอิสระเสียที”

“ท่านพูดเกินไป หลวนเอ๋อนั้นเพียงแค่มีสหายที่ดี ถ้านางเจอปัญหาใดเข้า ข้าผู้นี้จะต้องช่วยเหลืออย่างแน่นอน” เจี้ยนเฉินตอบ

หัวหน้าตระกูลยิ้มแต่สายตาของเขายังคงมองไปที่เจี้ยนเฉินและหวงหลวนสลับกัน แม้ว่าทั้งสองจะแกล้งทำทีว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น แต่จากประสบการณ์จากลูกผู้ชายอย่างเขาแล้ว เขาสามารถเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างได้ และสิ่งที่ทำให้ชายคนนี้ดีใจยิ่งกว่าเดิมก็คือสายตาของเจี้ยนเฉินตอนนี้ได้เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง พวกเขาได้เปลี่ยนสายตาที่มองกันใหม่ เหมือนกับลูกเขยกำลังมองพ่อตาและพ่อตากำลังมองไปที่ลูกเขย

“ข้าเดาว่าผู้พิทักษ์จักรพรรดินั้นได้บอกข่าวกับหลวนเอ๋อแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นข้าก็ไม่จำเป็นต้องพูดสิ่งใด” ชายคนนี้ได้หันไปมองที่หวงหลวน “หลวนเอ๋อ ผู้พิทักษ์จักรพรรดินั้นได้ลงแรงในเรื่องนี้ไปไม่น้อย แม้แต่บรรพชนของเรายังลงมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง เจ้าต้องขอบคุณเขา”

“ลูกของท่านเข้าใจแล้ว ! ” หวงหลวนพูดด้วยน้ำเสียงเบาอย่างกับยุง

“พูดคุยกันตามสบาย ข้ามีบางเรื่องต้องไปจัดการ งั้นข้าไปก่อนล่ะ” หวงฉิงหลานไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ให้นานกว่านี้ เขารีบออกจากศาลาไป

หลังจากหวงฉิงหลานจากไปแล้ว มีเพียงเจี้ยนเฉินแหละหวงหลวนที่อยู่ที่นั่น ทั้งสองไม่พูดคุยกันสักพักซึ่งนั่นทำให้เกิดบรรยากาศอันน่ากระอักกระอ่วน

และหลังจากนั้นสักพักก็เป็นหวงหลวนเองที่เป็นฝ่ายพูดขึ้น “เจี้ยนเฉิน เจ้าเอาอาณาจักรฉินหวงมายุ่งเกี่ยวในครั้งนี้ แล้วพวกเขาจะช่วยเจ้าจริง ๆ หรือ?”

“อย่ากังวล อาณาจักรฉินหวงนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว ข้าได้รับการช่วยเหลือจากผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งมาจัดการปัญหานี้ ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสผู้นี้นั้นแข็งแกร่งกว่าอาณาจักรฉินหวง ดังนั้นบรรพชนของเจ้าเลยยิ่งกว่ายินดีที่จะเห็นด้วยในการยกเลิกการหมั้น” เจี้ยนเฉินพูด

หัวใจของหวงหลวนเต้นรัวอีกครั้ง นางรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากแค่ไหนที่จะเชิญผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งมาปรากฏตัวเพื่อสะสางปัญหาให้ นอกจากว่าจะมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกัน ไม่งั้นพวกเขาคงไม่คิดจะลงมาช่วยแน่ ๆ

เจี้ยนเฉินยังคงอยู่ในห้องของหวงหลวนสักพักก่อนที่จะจากไป ในงานฉลองของบรรพชนตระกูลหวง เขาได้ไปที่นั่นในวันต่อมา ในวันต่อมาเขาและหมิงตงได้ร่ำลาหวงหลวนและบรรพชนเพื่อกลับไปยังอาณาจักรเกอซุน

“สหายเจี้ยนเฉินและสหายหมิงตง ผู้เฒ่าคนนี้รู้ถึงความขัดแย้งของพวกเจ้ากับนิกายพยัคฆ์มังกร ข้าจะให้หยกแฝด 2 ชิ้นนี้กับพวกเจ้า ถ้าเซียนผู้คุมกฎทำสิ่งใด เจ้าแค่ทำลายหยกนี้แล้วชายชราผู้นี้จะไปช่วยเหลือเจ้าให้เร็วที่สุด ! ” บรรพชนส่งหยก 2 ชิ้นขนาดเท่ากำปั้นให้กับเจี้ยนเฉินและหมิงตง หลังจากที่เขารู้ว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์กับผู้อาวุโสสูงสุดแห่งเมืองทหารรับจ้าง บรรพชนผู้นี้ต้องพยายามเอาอกเอาใจทั้งสองให้ดีที่สุด ด้วยวิธีนี้จะทำให้ตระกูลหวงนั้นอาจจะได้เป็นตระกูลใหญ่ได้โดยการที่ผู้อาวุโสสูงสุดมาช่วยเหลือหรือว่าบางทีอาจจะได้รับการปฏิบัติจากตระกูลโบราณดีขึ้นอย่างที่เคยเป็นเมื่อแต่ก่อน

“ขอบคุณท่านมากสำหรับน้ำใจครั้งนี้ ข้าจะจำครั้งนี้ไว้ ! ” เจี้ยนเฉินหยิบหยกนั่นไปด้วยความสุข หลังจากวันนั้นผ่านมาเซียนผู้คุมกฎของนิกายพยัคฆ์มังกรนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในความคิดของเจี้ยนเฉิน ตอนนี้บรรพชนจะช่วยเขาในการหยุดเซียนผู้คุมกฎของนิกายนั้น นี่เป็นเรื่องดีอย่างมากในการแก้ไขปํญหาที่ยุ่งยากของเขา

“ฮ่าฮ่าฮ่า สหายเจี้ยนเฉินสุภาพเกินไป ถ้ามีอะไรที่ตระกูลหวงช่วยได้โปรดบอกได้เลย ตระกูลของเราจะทำอย่างสุดความสามารถ” บรรพชนหัวเราะออกมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+