Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 559

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 559 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 559: การแข่งขันประมูล (1)

ยามเมื่อตระหนักได้ว่า เจี้ยนเฉินเตรียมพร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อไม้ชิ้นหนึ่งด้วยเงิน 30,000 เหรียญม่วง เจ้าของร้านก็ตกอยู่ในความตื่นตะลึง ภายในเขตเมืองเฟิงหยาง น้อยคนนักที่จะสามารถซื้อมันด้วยราคานี้สำหรับสิ่งนี้ ไม่มีใครที่จะซื้อเพียงแค่ชิ้นส่วนของไม้สลักไว้เพื่อประดับตกแต่งภายในบ้าน อย่างน้อยชิ้นส่วนของไม้นี้มันได้อยู่ภายในร้านมาหลายปีและดึงดูดสายตาของผู้คนมากมาย อย่างไรก็ตาม ยามเมื่อได้ยินราคา ทุกคนต่างก็หวาดกลัวมันและตื่นตระหนก

เงิน 30,000 เหรียญม่วงนั้นไม่ใช่เป็นเงินจำนวนเพียงเล็กน้อย ด้วยเงินจำนวนนี้ มันสามารถที่จะเพิ่มอำนาจของตระกูลได้อย่างมหาศาล หากเทียบกับการจ่ายเงินให้กับไม้ไร้ประโยชน์ เหตุใดจึงไม่ใช้มันเพิ่มอำนาจให้กับกองทัพหรือตระกูลกันเล่า

ด้วยความไม่อาจเชื่อ เจ้าของร้านมองดูเจี้ยนเฉิน ก่อนจะตั้งคำถามกับตัวเองด้วยเสียงสั่น “เจ้าต้องการซื้อไม้นี้จริงหรือไม่ ด้วยราคาถึง 30,000 เหรียญม่วง” เจ้าของร้านกลัวว่าเจี้ยนเฉินจะได้ยินผิด เขาเน้นราคาอีกครั้ง

หยิบบัตรสีม่วงออกจากแหวนมิติของเขา เจี้ยนเฉินกล่าวว่า “นี่คือการจ่ายเงิน จากนี้ ไม้นี้เป็นของข้า”

ดวงตาของเจ้าของร้านยังคงมองแหวนมิติของเจี้ยนเฉิน ที่ซึ่งเขาหยิบบัตรสีม่วงจากภายในนั้น “แหวนมิติ” เขากล่าวออกมาในความตกตะลึง เขามองเจี้ยนเฉินด้วยแววตาที่ต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แหวนมิตินั้นเป็นที่จัดเก็บของที่มีค่ามากกว่าเข็มขัดมิติ และมันก็หายากยิ่งกว่า มีเพียงเฉพาะคนที่แข็งแกร่งและมีชาติตระกูลที่มีอิทธิพลเท่านั้นที่จะสามารถสวมแหวนมิติเช่นนี้ได้ ซึ่งน้อยคนนักในเมืองเฟิงหยาง มีเพียง 4 คนเท่านั้นที่จะสามารถสวมแหวนมิติได้ แต่ละคนต่างก็เป็นคนที่มีความสำคัญและมีอิทธิพลมาก — คนหนึ่งเป็นเจ้าเมืองเฟิงหยาง และอีก 3 คนเป็นผู้นำตระกูล

จากแหวนนี้ เจ้าของร้านนั้นเดาได้ว่า ชายหนุ่มคนนี้จะต้องมีตัวตนที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เขาจะสามารถจินตนาการได้

แหวนมิตินั้นเป็นนั้นเป็นวิธีที่น่าเชื่อถือมาก เพื่อที่จะระบุตัวตน มากกว่าบัตรสีม่วง ผู้ที่ถือครองแหวนมิตินั้นไม่มีใครที่จะกล้ามองอย่างดูแคลน

ภายในเวลาชั่วขณะ ท่าทีของเจ้าของร้านต่อเจี้ยนเฉินนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ด้วยรอยยิ้มกว้างฉาบทั่วใบหน้าของเจ้าของร้าน ขณะที่คุยกับลูกค้าของเขา

เหรียญม่วง 30,000 เหรียญนั้นได้ถูกจ่ายออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากชำระเงิน บัตรสีม่วงส่งกลับไปให้เจี้ยนเฉิน ชายชรายิ้มออก “นายท่าน นี่คือบัตรของท่าน และไม้ชิ้นนี้เป็นของท่านแล้ว”

รับเอาบัตรสีม่วงกลับมา ด้วยท่าทีไร้อารมณ์ เจี้ยนเฉินหยิบเอาไม้และเก็บลงในแหวนมิติของเขาพร้อมกับบัตร

“เจี้ยนเฉิน เจ้า เจ้าจริง ๆ แล้ว ซื้อไม้นี้ด้วยเงินถึง 30,000 เหรียญม่วง ? ” สายตาของเถี่ยต้าจ้องมองเขาอย่างตกตะลึง เขาแทบจะหัวใจวายเมื่อเห็นเจี้ยนเฉินจ่ายเงิน 30,000 เหรียญม่วงซื้อไม้ชิ้นนี้

การมีวัตถุดิบสำหรับสร้างกระบี่สีม่วง-ฟ้า เพิ่มขึ้นอีกอย่าง ด้วยไม้มังกรที่มีในมือ ทำให้เขาก้าวเข้าไปใกล้การสร้างกระบี่ มันทำให้เขายินดีเป็นอย่างมาก “ไม้ชิ้นนี้คือสิ่งที่ข้าต้องการ มันมีค่าสำหรับข้ามากกว่าที่เจ้าจะจินตนาการ” เขายิ้ม เจี้ยนเฉินไม่ใส่ใจที่จะซ่อนความจริงของไม้มังกร เนื่องจากมันปลอดภัยในมือของเขา

“นายน้อย ดูเหมือนว่าท่านจะรู้อะไรบางสิ่งบางอย่างและท่านอาจรู้ประวัติของไม้ชิ้นนี้ ข้าค่อนข้างอยากรู้เกี่ยวกับมันอย่างแท้จริง มันเป็นไปได้หรือไม่ สำหรับที่ท่านจะอธิบายเกี่ยวกับการใช้มันสักอย่างหรือสองอย่าง เพื่อเพิ่มพูนความรู้ของข้า” ชายคนนั้นถามขึ้นด้วยน้ำเสียงวิงวอน

เจี้ยนเฉินหัวเราะ ก่อนจะตอบออก “เถ้าแก่ ท่านกล่าวเองไม่ใช่หรือว่าไม้ชิ้นนี้ถูกนำออกจากป่าแห่งหนึ่ง ท่านรู้อยู่แล้ว”

“นั่น… นั่น… ข้า… เจ้าของร้านได้แต่กล่าวออกมาอย่างตะกุกตะกัก เมื่อเขาได้กล่าวว่า ไม้นั้นมาจากสถานที่ลึกลับ มันมีความหมายเฉพาะเพื่อเพิ่มความขลังและราคาของไม้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะพบบางคนที่มีความรู้เกี่ยวกับมันกว่าเขา

พร้อมกับหัวเราะอย่างแห้ง ๆ ชายคนนั้นรีบเปลี่ยนเรื่อง “นายน้อย ยังมีประติมากรรมอีกหลากหลายที่ยอดเยี่ยมภายในร้านค้าของข้า ทำไมไม่ลองเดินดูมันเล่า นายท่านอาจจะพบกับสิ่งที่ต้องการ

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินเริ่มที่จะสื่อสารกับจิตวิญญาญกระบี่สีม่วง-ฟ้า “จือหยิง ฉิงโซว มีอะไรที่มีค่าหรือไม่ ? “

“มีเพียงไม้มังกรเท่านั้นที่ซึ่งมีค่า ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าทวีปเทียนหยวนจะมีมันอยู่ด้วย” จือหยิงกล่าวออก

ตอนนี้รู้ว่าไม้มังกรเป็นวัตถุที่ทรงคุณค่าที่นี่ เจี้ยนเฉินไม่อาจช่วยอะไรได้ ได้แต่รู้สึกผิดหวัง สูญเสียแรงจูงใจในการอยู่ที่นี่อีกต่อไป เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ที่เหลือจากไป สร้างความผิดหวังให้กับเจ้าของร้าน

“เจี้ยนเฉิน ข้าตระหนักดีว่าเจ้าจะไม่ซื้อสิ่งราคาแพงโดยไม่มีเหตุผล ไม้นี้แตกต่างกันอย่างไร ? ข้านั้นไม่อาจที่จะทำความเข้าใจกับมันได้เลยแม้แต่น้อย” ทันทีที่พวกเขาออกไป หมิงตงก็ถามขึ้นทันทีในคำถามของเขา

ไม้ชิ้นนี้เรียกว่าไม้มังกร ข้าไม่รู้ประวัติความเป็นมาของมัน แต่มันก็เป็นสินค้าที่มีค่าเหนือกว่าที่ใครคาดคิด มันเป็นสิ่งที่สามารถสร้างอาวุธ

อะไรนะ ? สร้างอาวุธ ? หมิงตงมึนงงมาก ราวกับได้ยินไม่ชัดเจน เขาถามขึ้นอีกครั้ง เจี้ยนเฉิน เจ้ากล่าวว่าอะไรนะ ? สร้างอาวุธ ? ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า จริง ๆ แล้วเจ้ายังต้องการอาวุธอันใดอีก ?

ทันใดนั้น โหยวเยว่และเถี่ยต้ามองไปที่เจี้ยนเฉินเช่นกัน การสร้างอาวุธนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากในทวีปเทียนหยวน

ในขณะนี้แล้ว มันไม่มีคำตอบของคำถามอย่างจริงจัง เราจะไม่พูดคุยเรื่องนี้ในตอนนี้ เราเดินไปดูว่า เราสามารถหาสมบัติสวรรค์ให้เสี่ยวไป๋ได้หรือไม่

หนึ่งในสามของตระกูลที่แข็งแกร่ง ตระกูลเฮมมิ่งแห่งเมืองเฟิงหยาง ในช่วงเวลานั้นเอง มันไม่มีชีวิตชีวา และมีเสียงรบกวนค่อนข้างมาก

ภายในห้องตกแต่งหรูหรา ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าที่ซีดขาวนอนอยู่บนเตียง หน้าผากของเขาทั้งหมดชุ่มโชกด้วยเหงื่อและใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ชายวัยกลางคนในชุดขาวถอนฝ่ามือจากชายหนุ่ม ด้วยคนที่จ้องมองไปที่ชายวัยกลางคนซึ่งยืนอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ท่านผู้นำตระกูลเฮมมิ่ง บาดแผลของลูกชายท่านค่อนข้างรุนแรง ข้าเป็นเพียงแค่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับต้น ข้านั้นไม่สามารถรักษาบาดแผลของเขา ในการลงมือเพียงแค่คราเดียว ข้าจะต้องใช้ความพยายามหลายครั้ง

ใบหน้าของชายผู้นั้นร้ายแรงเป็นอย่างมาก

หันศีรษะของเขา ซาเค่อ ไปพักผ่อนได้

หลังจากนั้น ซาเค่อได้จากไป ชายคนนั้นก้าวไปที่เตียงและถามด้วยเสียงขรึม “เจี้ยนเอ๋อ ใครทำอย่างนี้กับเจ้า ? “

ท่านพ่อ ท่านต้องแก้แค้นให้กับข้า… ชายหนุ่มเริ่มเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับรายละเอียดเพิ่มเติมเพิ่ม เช่น การสาดน้ำมันเข้ากองไฟ เพื่อให้เขาป้ายสีให้กับเจี้ยนเฉิน

ฟังที่บุตรชายของเขากล่าวออก หัวหน้าตระกูลเฮมมิ่งหรี่ตามอง ก่อนที่จะถอนหายใจ “การประมูลภายในโรงประมูลฟินิกซ์สวรรค์นั้นมีแกนอสูรระดับ 5 ถึง 2 อัน การประมูลนี้ทำให้เมืองทั้งเมืองตกอยู่ในความโกลาหล สำหรับตอนนี้ เราจะปล่อยวางปัญหานี้ จนกว่าจะจัดการเรื่องแกนอสูรเรียบร้อย ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้มาชุมนุมกันที่เมืองเฟิงหยาง มันจะดีที่สุดที่จะเก็บเงียบในตอนนี้และหลีกเลี่ยงปัญหา

ท่านพ่อ เราจะให้เจ้าคนสารเลวได้รับบทเรียนไป ข้าพบเห็นคนแปลกประหลาดจำนวนมาก ถ้าตระกูลเฮมมิ่งของเราถูกดูหมิ่นแล้ว เราจะมองหน้าผู้คนในเมืองเฟิงหยางได้อย่างไร แล้วเรายังจะมีชื่อเสียงเป็นสามตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในเมืองได้อย่างไร” ชายหนุ่มพ่นวาจาออกมาด้วยความไม่พอใจ

แค่นี้ ข้าจะเตรียมการ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาของมัน การกระทำอย่างบุ่มบ่ามนั้นมีแต่จะสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาเพิ่ม อยู่ที่นี่และพักฟื้น หลังจากนั้น ชายผู้นั้นก็จากไป

ภายในมีลานขนาดใหญ่ในส่วนอื่นของเมือง สตรีผู้สวมชุดกระโปรงสีแดงนั่งถัดจากหน้าต่าง ด้วยท่าทางครุ่นคิด “ใครกันที่เป็นคนประมูลแกนอสูรระดับ 5 ถึง 2 อัน ? มันจะต้องมีการต่อสู้แย่งชิงมันอย่างแน่นอน ครอบครัวหยุนจะไม่มีเวลาอีกต่อไป หนี้เลือดของมารดาข้าจะต้องได้รับการชำระ”

สตรีนางนั้นหวนกลับไปยังปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกลับที่โรงเตี้ยม “ข้าสงสัยว่าผู้คนเหล่านั้นคือใคร” นางพึมพำ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ใช่คนธรรมดา จะต้องมีคนจากตระกูลใหญ่มีตำแหน่งสูง ซึ่งตระกูลนั้นจะต้องแข็งแกร่งมาก หากพวกเขาไม่กลัวตระกูลเฮมมิ่ง ขณะที่นางพูดขึ้นอย่างฉับพลัน สิ่งที่ปรากฏในดวงตาของนางไม่หายไป

หลังจากเวลานาน หญิงสาวก็กระซิบกับตนเอง บางที ถ้าเป็นไปได้ ข้าจะสามารถยืมแรงของพวกเขาทำลายครอบครัวหยุน…

เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ยังคงเดินเล่นรอบเมือง ในขณะที่หลังจากพวกเขากลับไปยังที่พัก พวกเขาเดินทางไปถนนต่าง ๆ และร้านค้ามากมายวันนี้ นอกเหนือจากไม้มังกร เขานั้นไม่ได้พบสิ่งอื่นที่น่าสนใจแต่อย่างใด มีเพียงแค่สมบัติสวรรค์อายุ 500 ปีในเมือง

คืนนั้น เจี้ยนเฉินนั่งบนเตียงของเขา ทำสมาธิ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ใช้พลังงานจากแกนอสูรเพื่อบ่มเพาะพลังบรรพกาล กลับกันเขาได้พยายามทำความเข้าใจพลังงานของโลก ทำความเข้าใจเกี่ยวกับพลังงานนี้มันเป็นปฐมบทของเส้นทางที่จะย่างก้าวไปยังเซียนผู้คุมกฎ มันไม่มีทางลัดสำหรับเส้นทางนี้ได้ มีเพียงแค่ความเข้าใจมันในระดับสูงสุดเท่านั้นที่จะเข้าใจความลึกลับของโลกได้

เนื่องจากเจ้าตัวน้อยไม่มีสมบัติสวรรค์ที่จะให้ย่อย มันจึงไม่ได้หลับใหลในคืนนี้ และกลับกัน มันเดินวุ่นวายทั่วห้อง ฉีกผ้าห่มเพื่อบรรเทาความเบื่อ

ลูกอสูรก็หยุดเล่นทันที ดวงตาทั้งสองเริ่มที่จะส่องประกายไปหาหน้าต่างราวกับเทียนไข 2 แท่งในห้องมืด

โดยปราศจากเสียงอันใด หน้าต่างเปิดออก ก่อนจะมีเงาพุ่งตัวเข้ามา มันเงียบอยู่บนพื้น

อ๋าวววว… มันคำรามอย่างไม่พอใจ ราวกับว่ามันสูญเสียความสนใจในเงา เจ้าเสือน้อยกลิ้งไปมาอยู่บนเตียง

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 559

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 559 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 559: การแข่งขันประมูล (1)

ยามเมื่อตระหนักได้ว่า เจี้ยนเฉินเตรียมพร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อไม้ชิ้นหนึ่งด้วยเงิน 30,000 เหรียญม่วง เจ้าของร้านก็ตกอยู่ในความตื่นตะลึง ภายในเขตเมืองเฟิงหยาง น้อยคนนักที่จะสามารถซื้อมันด้วยราคานี้สำหรับสิ่งนี้ ไม่มีใครที่จะซื้อเพียงแค่ชิ้นส่วนของไม้สลักไว้เพื่อประดับตกแต่งภายในบ้าน อย่างน้อยชิ้นส่วนของไม้นี้มันได้อยู่ภายในร้านมาหลายปีและดึงดูดสายตาของผู้คนมากมาย อย่างไรก็ตาม ยามเมื่อได้ยินราคา ทุกคนต่างก็หวาดกลัวมันและตื่นตระหนก

เงิน 30,000 เหรียญม่วงนั้นไม่ใช่เป็นเงินจำนวนเพียงเล็กน้อย ด้วยเงินจำนวนนี้ มันสามารถที่จะเพิ่มอำนาจของตระกูลได้อย่างมหาศาล หากเทียบกับการจ่ายเงินให้กับไม้ไร้ประโยชน์ เหตุใดจึงไม่ใช้มันเพิ่มอำนาจให้กับกองทัพหรือตระกูลกันเล่า

ด้วยความไม่อาจเชื่อ เจ้าของร้านมองดูเจี้ยนเฉิน ก่อนจะตั้งคำถามกับตัวเองด้วยเสียงสั่น “เจ้าต้องการซื้อไม้นี้จริงหรือไม่ ด้วยราคาถึง 30,000 เหรียญม่วง” เจ้าของร้านกลัวว่าเจี้ยนเฉินจะได้ยินผิด เขาเน้นราคาอีกครั้ง

หยิบบัตรสีม่วงออกจากแหวนมิติของเขา เจี้ยนเฉินกล่าวว่า “นี่คือการจ่ายเงิน จากนี้ ไม้นี้เป็นของข้า”

ดวงตาของเจ้าของร้านยังคงมองแหวนมิติของเจี้ยนเฉิน ที่ซึ่งเขาหยิบบัตรสีม่วงจากภายในนั้น “แหวนมิติ” เขากล่าวออกมาในความตกตะลึง เขามองเจี้ยนเฉินด้วยแววตาที่ต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แหวนมิตินั้นเป็นที่จัดเก็บของที่มีค่ามากกว่าเข็มขัดมิติ และมันก็หายากยิ่งกว่า มีเพียงเฉพาะคนที่แข็งแกร่งและมีชาติตระกูลที่มีอิทธิพลเท่านั้นที่จะสามารถสวมแหวนมิติเช่นนี้ได้ ซึ่งน้อยคนนักในเมืองเฟิงหยาง มีเพียง 4 คนเท่านั้นที่จะสามารถสวมแหวนมิติได้ แต่ละคนต่างก็เป็นคนที่มีความสำคัญและมีอิทธิพลมาก — คนหนึ่งเป็นเจ้าเมืองเฟิงหยาง และอีก 3 คนเป็นผู้นำตระกูล

จากแหวนนี้ เจ้าของร้านนั้นเดาได้ว่า ชายหนุ่มคนนี้จะต้องมีตัวตนที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เขาจะสามารถจินตนาการได้

แหวนมิตินั้นเป็นนั้นเป็นวิธีที่น่าเชื่อถือมาก เพื่อที่จะระบุตัวตน มากกว่าบัตรสีม่วง ผู้ที่ถือครองแหวนมิตินั้นไม่มีใครที่จะกล้ามองอย่างดูแคลน

ภายในเวลาชั่วขณะ ท่าทีของเจ้าของร้านต่อเจี้ยนเฉินนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ด้วยรอยยิ้มกว้างฉาบทั่วใบหน้าของเจ้าของร้าน ขณะที่คุยกับลูกค้าของเขา

เหรียญม่วง 30,000 เหรียญนั้นได้ถูกจ่ายออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากชำระเงิน บัตรสีม่วงส่งกลับไปให้เจี้ยนเฉิน ชายชรายิ้มออก “นายท่าน นี่คือบัตรของท่าน และไม้ชิ้นนี้เป็นของท่านแล้ว”

รับเอาบัตรสีม่วงกลับมา ด้วยท่าทีไร้อารมณ์ เจี้ยนเฉินหยิบเอาไม้และเก็บลงในแหวนมิติของเขาพร้อมกับบัตร

“เจี้ยนเฉิน เจ้า เจ้าจริง ๆ แล้ว ซื้อไม้นี้ด้วยเงินถึง 30,000 เหรียญม่วง ? ” สายตาของเถี่ยต้าจ้องมองเขาอย่างตกตะลึง เขาแทบจะหัวใจวายเมื่อเห็นเจี้ยนเฉินจ่ายเงิน 30,000 เหรียญม่วงซื้อไม้ชิ้นนี้

การมีวัตถุดิบสำหรับสร้างกระบี่สีม่วง-ฟ้า เพิ่มขึ้นอีกอย่าง ด้วยไม้มังกรที่มีในมือ ทำให้เขาก้าวเข้าไปใกล้การสร้างกระบี่ มันทำให้เขายินดีเป็นอย่างมาก “ไม้ชิ้นนี้คือสิ่งที่ข้าต้องการ มันมีค่าสำหรับข้ามากกว่าที่เจ้าจะจินตนาการ” เขายิ้ม เจี้ยนเฉินไม่ใส่ใจที่จะซ่อนความจริงของไม้มังกร เนื่องจากมันปลอดภัยในมือของเขา

“นายน้อย ดูเหมือนว่าท่านจะรู้อะไรบางสิ่งบางอย่างและท่านอาจรู้ประวัติของไม้ชิ้นนี้ ข้าค่อนข้างอยากรู้เกี่ยวกับมันอย่างแท้จริง มันเป็นไปได้หรือไม่ สำหรับที่ท่านจะอธิบายเกี่ยวกับการใช้มันสักอย่างหรือสองอย่าง เพื่อเพิ่มพูนความรู้ของข้า” ชายคนนั้นถามขึ้นด้วยน้ำเสียงวิงวอน

เจี้ยนเฉินหัวเราะ ก่อนจะตอบออก “เถ้าแก่ ท่านกล่าวเองไม่ใช่หรือว่าไม้ชิ้นนี้ถูกนำออกจากป่าแห่งหนึ่ง ท่านรู้อยู่แล้ว”

“นั่น… นั่น… ข้า… เจ้าของร้านได้แต่กล่าวออกมาอย่างตะกุกตะกัก เมื่อเขาได้กล่าวว่า ไม้นั้นมาจากสถานที่ลึกลับ มันมีความหมายเฉพาะเพื่อเพิ่มความขลังและราคาของไม้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะพบบางคนที่มีความรู้เกี่ยวกับมันกว่าเขา

พร้อมกับหัวเราะอย่างแห้ง ๆ ชายคนนั้นรีบเปลี่ยนเรื่อง “นายน้อย ยังมีประติมากรรมอีกหลากหลายที่ยอดเยี่ยมภายในร้านค้าของข้า ทำไมไม่ลองเดินดูมันเล่า นายท่านอาจจะพบกับสิ่งที่ต้องการ

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินเริ่มที่จะสื่อสารกับจิตวิญญาญกระบี่สีม่วง-ฟ้า “จือหยิง ฉิงโซว มีอะไรที่มีค่าหรือไม่ ? “

“มีเพียงไม้มังกรเท่านั้นที่ซึ่งมีค่า ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าทวีปเทียนหยวนจะมีมันอยู่ด้วย” จือหยิงกล่าวออก

ตอนนี้รู้ว่าไม้มังกรเป็นวัตถุที่ทรงคุณค่าที่นี่ เจี้ยนเฉินไม่อาจช่วยอะไรได้ ได้แต่รู้สึกผิดหวัง สูญเสียแรงจูงใจในการอยู่ที่นี่อีกต่อไป เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ที่เหลือจากไป สร้างความผิดหวังให้กับเจ้าของร้าน

“เจี้ยนเฉิน ข้าตระหนักดีว่าเจ้าจะไม่ซื้อสิ่งราคาแพงโดยไม่มีเหตุผล ไม้นี้แตกต่างกันอย่างไร ? ข้านั้นไม่อาจที่จะทำความเข้าใจกับมันได้เลยแม้แต่น้อย” ทันทีที่พวกเขาออกไป หมิงตงก็ถามขึ้นทันทีในคำถามของเขา

ไม้ชิ้นนี้เรียกว่าไม้มังกร ข้าไม่รู้ประวัติความเป็นมาของมัน แต่มันก็เป็นสินค้าที่มีค่าเหนือกว่าที่ใครคาดคิด มันเป็นสิ่งที่สามารถสร้างอาวุธ

อะไรนะ ? สร้างอาวุธ ? หมิงตงมึนงงมาก ราวกับได้ยินไม่ชัดเจน เขาถามขึ้นอีกครั้ง เจี้ยนเฉิน เจ้ากล่าวว่าอะไรนะ ? สร้างอาวุธ ? ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า จริง ๆ แล้วเจ้ายังต้องการอาวุธอันใดอีก ?

ทันใดนั้น โหยวเยว่และเถี่ยต้ามองไปที่เจี้ยนเฉินเช่นกัน การสร้างอาวุธนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากในทวีปเทียนหยวน

ในขณะนี้แล้ว มันไม่มีคำตอบของคำถามอย่างจริงจัง เราจะไม่พูดคุยเรื่องนี้ในตอนนี้ เราเดินไปดูว่า เราสามารถหาสมบัติสวรรค์ให้เสี่ยวไป๋ได้หรือไม่

หนึ่งในสามของตระกูลที่แข็งแกร่ง ตระกูลเฮมมิ่งแห่งเมืองเฟิงหยาง ในช่วงเวลานั้นเอง มันไม่มีชีวิตชีวา และมีเสียงรบกวนค่อนข้างมาก

ภายในห้องตกแต่งหรูหรา ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าที่ซีดขาวนอนอยู่บนเตียง หน้าผากของเขาทั้งหมดชุ่มโชกด้วยเหงื่อและใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ชายวัยกลางคนในชุดขาวถอนฝ่ามือจากชายหนุ่ม ด้วยคนที่จ้องมองไปที่ชายวัยกลางคนซึ่งยืนอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ท่านผู้นำตระกูลเฮมมิ่ง บาดแผลของลูกชายท่านค่อนข้างรุนแรง ข้าเป็นเพียงแค่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับต้น ข้านั้นไม่สามารถรักษาบาดแผลของเขา ในการลงมือเพียงแค่คราเดียว ข้าจะต้องใช้ความพยายามหลายครั้ง

ใบหน้าของชายผู้นั้นร้ายแรงเป็นอย่างมาก

หันศีรษะของเขา ซาเค่อ ไปพักผ่อนได้

หลังจากนั้น ซาเค่อได้จากไป ชายคนนั้นก้าวไปที่เตียงและถามด้วยเสียงขรึม “เจี้ยนเอ๋อ ใครทำอย่างนี้กับเจ้า ? “

ท่านพ่อ ท่านต้องแก้แค้นให้กับข้า… ชายหนุ่มเริ่มเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับรายละเอียดเพิ่มเติมเพิ่ม เช่น การสาดน้ำมันเข้ากองไฟ เพื่อให้เขาป้ายสีให้กับเจี้ยนเฉิน

ฟังที่บุตรชายของเขากล่าวออก หัวหน้าตระกูลเฮมมิ่งหรี่ตามอง ก่อนที่จะถอนหายใจ “การประมูลภายในโรงประมูลฟินิกซ์สวรรค์นั้นมีแกนอสูรระดับ 5 ถึง 2 อัน การประมูลนี้ทำให้เมืองทั้งเมืองตกอยู่ในความโกลาหล สำหรับตอนนี้ เราจะปล่อยวางปัญหานี้ จนกว่าจะจัดการเรื่องแกนอสูรเรียบร้อย ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้มาชุมนุมกันที่เมืองเฟิงหยาง มันจะดีที่สุดที่จะเก็บเงียบในตอนนี้และหลีกเลี่ยงปัญหา

ท่านพ่อ เราจะให้เจ้าคนสารเลวได้รับบทเรียนไป ข้าพบเห็นคนแปลกประหลาดจำนวนมาก ถ้าตระกูลเฮมมิ่งของเราถูกดูหมิ่นแล้ว เราจะมองหน้าผู้คนในเมืองเฟิงหยางได้อย่างไร แล้วเรายังจะมีชื่อเสียงเป็นสามตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในเมืองได้อย่างไร” ชายหนุ่มพ่นวาจาออกมาด้วยความไม่พอใจ

แค่นี้ ข้าจะเตรียมการ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาของมัน การกระทำอย่างบุ่มบ่ามนั้นมีแต่จะสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาเพิ่ม อยู่ที่นี่และพักฟื้น หลังจากนั้น ชายผู้นั้นก็จากไป

ภายในมีลานขนาดใหญ่ในส่วนอื่นของเมือง สตรีผู้สวมชุดกระโปรงสีแดงนั่งถัดจากหน้าต่าง ด้วยท่าทางครุ่นคิด “ใครกันที่เป็นคนประมูลแกนอสูรระดับ 5 ถึง 2 อัน ? มันจะต้องมีการต่อสู้แย่งชิงมันอย่างแน่นอน ครอบครัวหยุนจะไม่มีเวลาอีกต่อไป หนี้เลือดของมารดาข้าจะต้องได้รับการชำระ”

สตรีนางนั้นหวนกลับไปยังปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกลับที่โรงเตี้ยม “ข้าสงสัยว่าผู้คนเหล่านั้นคือใคร” นางพึมพำ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ใช่คนธรรมดา จะต้องมีคนจากตระกูลใหญ่มีตำแหน่งสูง ซึ่งตระกูลนั้นจะต้องแข็งแกร่งมาก หากพวกเขาไม่กลัวตระกูลเฮมมิ่ง ขณะที่นางพูดขึ้นอย่างฉับพลัน สิ่งที่ปรากฏในดวงตาของนางไม่หายไป

หลังจากเวลานาน หญิงสาวก็กระซิบกับตนเอง บางที ถ้าเป็นไปได้ ข้าจะสามารถยืมแรงของพวกเขาทำลายครอบครัวหยุน…

เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ยังคงเดินเล่นรอบเมือง ในขณะที่หลังจากพวกเขากลับไปยังที่พัก พวกเขาเดินทางไปถนนต่าง ๆ และร้านค้ามากมายวันนี้ นอกเหนือจากไม้มังกร เขานั้นไม่ได้พบสิ่งอื่นที่น่าสนใจแต่อย่างใด มีเพียงแค่สมบัติสวรรค์อายุ 500 ปีในเมือง

คืนนั้น เจี้ยนเฉินนั่งบนเตียงของเขา ทำสมาธิ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ใช้พลังงานจากแกนอสูรเพื่อบ่มเพาะพลังบรรพกาล กลับกันเขาได้พยายามทำความเข้าใจพลังงานของโลก ทำความเข้าใจเกี่ยวกับพลังงานนี้มันเป็นปฐมบทของเส้นทางที่จะย่างก้าวไปยังเซียนผู้คุมกฎ มันไม่มีทางลัดสำหรับเส้นทางนี้ได้ มีเพียงแค่ความเข้าใจมันในระดับสูงสุดเท่านั้นที่จะเข้าใจความลึกลับของโลกได้

เนื่องจากเจ้าตัวน้อยไม่มีสมบัติสวรรค์ที่จะให้ย่อย มันจึงไม่ได้หลับใหลในคืนนี้ และกลับกัน มันเดินวุ่นวายทั่วห้อง ฉีกผ้าห่มเพื่อบรรเทาความเบื่อ

ลูกอสูรก็หยุดเล่นทันที ดวงตาทั้งสองเริ่มที่จะส่องประกายไปหาหน้าต่างราวกับเทียนไข 2 แท่งในห้องมืด

โดยปราศจากเสียงอันใด หน้าต่างเปิดออก ก่อนจะมีเงาพุ่งตัวเข้ามา มันเงียบอยู่บนพื้น

อ๋าวววว… มันคำรามอย่างไม่พอใจ ราวกับว่ามันสูญเสียความสนใจในเงา เจ้าเสือน้อยกลิ้งไปมาอยู่บนเตียง

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+