Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 799 เทียนเจี้ยนยื่นมือช่วย

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 799 เทียนเจี้ยนยื่นมือช่วย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 799 เทียนเจี้ยนยื่นมือช่วย

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้างูตัวน้อย คิดรึว่าจะหนีข้าไปได้ ? ยอมมอบแกนพลังของเจ้าให้ข้าซะโดยดี”

ทันทีที่นูบิสพูดจบ เสียงทุ้มใหญ่ดังขึ้นมาทันควัน ชายร่างท้วมในชุดคลุมสีทองปรากฏตัวขึ้นมาอย่างไร้ร่องรอยขวางทางเจี้ยนเฉินกับนูบิสไว้

ใบหน้าของนูบิสบิดเบี้ยว ก่อนร้องตะโกนอย่างโกรธแค้น “ที่นี่อยู่ใกล้เมืองทหารรับจ้าง หากเจ้ากล้าโจมตี รับรองว่าบรรดายอดฝีมือที่เมืองย่อมรับรู้แน่ หากเป็นเช่นนั้นเจ้าเองก็ไม่รอดเช่นกัน ต่อให้เจ้าอยู่ในระดับ 8 ก็ตามเถอะ”

“ฮี่ฮี่ เจ้างูน้อย เจ้าฉลาดไม่เบาที่รู้ว่าทั้งทวีปนี้น้อยคนนักที่ต่อกรข้าได้ ถึงได้หนีมาเมืองทหารรับจ้าง แต่เจ้าใช้ทักษะลับหนีมาโดยไม่ระวังตัว ยามนี้เจ้าไร้ซึ่งพลังที่จะมาต่อกรกับข้าแล้ว เพียงแค่นิ้วเดียวของข้าก็เพียงพอที่จะฆ่าเจ้าได้โดยไม่มีใครรับรู้” ชายคนนั้นหัวเราะเยาะก่อนยื่นมือมาทางนูบิส มือที่ยืดออกมา ตลอดทางที่มันผ่านมีพลังคอยเปิดมิติ ดูเรียบง่าย แต่ภายในเต็มไปด้วยพลังที่มากพอถล่มภูเขาได้

ยามนี้ เจี้ยนเฉินและนูบิสเหมือนหนูติดจั่นโดนพลังของอีกฝ่ายข่มไว้ ไม่สามารถหลีกหนีได้ ทำได้แค่มองมือที่ค่อย ๆ ตรงเข้ามาอย่างไร้ทางสู้เพราะไม่มีพลังมากพอทะลวงพลังของสัตว์อสูรระดับ 8 ที่ข่มอยู่ได้

“เป็นแค่สัตว์อสูรแต่กล้าเข้ามาในทวีปเทียนหยวนของข้า ต้องกล้าขนาดไหนเชียว ? “

ฉับพลันเสียงเย็นชาดังขึ้นทั่วท้องฟ้า เทียนเจี้ยนในชุดคลุมสีขาวปรากฏขึ้นตรงหน้าเจี้ยนเฉินและนูบิส เพียงแค่ชี้นิ้วตรงไป มิติตรงหน้าก็สั่นคลอน มือที่ตรงเข้ามาหวังจะทำร้ายเจี้ยนเฉินโดนเจาะเป็นรูทะลวง

พลังของเทียนเจี้ยนทะลุมือสัตว์อสูร ตรงไปยังอก กลายเป็นรูขนาด 1 นิ้วอยู่ตรงนั้นด้วย

ร่างอันแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าของสัตว์อสูรระดับ 8 เมื่ออยู่ตรงหน้าปลายนิ้วของเทียนเจี้ยนแล้วกลับโดนทะลุทะลวงราวกับเต้าหู้

สัตว์อสูรระดับ 8 ตรงหน้าครางด้วยความเจ็บปวดก่อนมองเทียนเจี้ยนอย่างตกตะลึง ยามเห็นว่าเทียนเจี้ยนเป็นใคร ความหวาดกลัวเข้ามาแทนที่ความตกตะลึงไปสิ้น มันไม่เหลือความต้องการจะต่อสู้อีกต่อไป ก่อนจะเร่งหายตัวไปอย่างไม่ลังเลด้วยทักษะลับอย่างไม่คิดชีวิต

เทียนเจี้ยนยืนนิ่งไม่ไหวติง พูดเบา ๆ “ทักษะลับเทพเจ้าทั้งเก้า ปิดผนึกโลกา”

พื้นที่รอบข้างรัศมีหลายพันกิโลเมตรฉับพลันหยุดนิ่งไม่ไหวติง ราวกับถูกปิดพลังด้วยพลังอันลึกลับยิ่งใหญ่ ไม่เพียงแต่ทางกายภาพเท่านั้นที่ถูกผนึก แม้แต่เวลาก็ราวกับถูกผนึกไปด้วย อากาศและเวลาโดยรอบหยุดนิ่ง ทุกอย่างกลายเป็นเงียบสงัด

ร่างของสัตว์อสูรปรากฏขึ้นห่างไปหลายร้อยกิโลเมตร มันถูกตรึงไว้กลางอากาศไม่สามารถขยับตัวได้ ใบหน้าหวาดกลัวสุดขีด

เทียนเจี้ยนขยับเพียงก้าวเดียว ผ่ามิติกว่าร้อยกิโลเมตรไปตรงหน้าสัตว์อสูร แล้วค่อย ๆ วางมือลงเหนือหัวมันอย่างสบาย ๆ

ร่างสัตว์อสูรระดับ 8 สั่นเบา ๆ แววตากลับกลายเป็นขมุกขมัว กลายเป็นเพียงร่างไร้วิญญาณในชั่วพริบตา ฝ่ามือของเทียนเจี้ยนเผาวิญญาณของมันไม่ปล่อยโอกาสให้มันได้โต้ตอบแม้แต่น้อย

ทันทีที่สัตว์อสูรตัวนั้นตาย มิติรอบข้างกลับมาเป็นปกติเช่นเดิม เทียนเจี้ยนกลับมาปรากฏตัวหน้าเจี้ยนเฉินในชั่วพริบตาเดียว ถือร่างสัตว์อสูรไว้ข้างกาย “ข้าไม่เคยว่าสัตว์อสูรระดับ 8 จะลอบเข้าทวีปของเราได้ โชคดีที่ข้ามาพบมันเข้าก่อน ไม่งั้น ด้วยระดับพลังอย่างมัน น้อยคนนักที่จะต่อกรมันได้”

ทั้งเจี้ยนเฉินและนูบิสต่างยืนตะลึงมองร่างอสรพิษในร่างมนุษย์ในมือเทียนเจี้ยน เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ความตะลึงขึ้นไประดับสูงสุด

สัตว์อสูรระดับ 8 แถมยังเป็นอสรพิษทองริ้วเงิน สัตว์อสูรสายโบราณถูกเทียนเจี้ยนสังหารลงอย่างง่ายดายเช่นนั้น พลังที่เทียนเจี้ยนแสดงออกมาทำให้ทั้งคู่ถึงกับพูดไม่ออก

ทั้งสองไม่เคยคิดว่าสัตว์อสูรระดับ 8 มีพลังระดับเซียนราชาจะถูกฆ่าลงได้อย่างง่ายดายเช่นนี้

สังหารสัตว์อสูรระดับ 8 ได้โดยไม่ต่างอะไรกับการทานอาหารสำหรับเทียนเจี้ยน เขาไม่ได้มีท่าทีอะไรจากสิ่งสุดยอดที่ตัวเองพึ่งทำลงไปแม้แต่น้อย ทุกอย่างดูปกติและไม่สำคัญสำหรับเขา เทียนเจี้ยนมายืนตรงหน้าเจี้ยนเฉิน มองหน้าเขาอย่างสงบแล้วถามขึ้น “จัดการทุกอย่างเสร็จแล้วหรือ ? “

เจี้ยนเฉินสูดลมหายใจเฮือกใหญ่แล้วชำเลืองมองร่างสัตว์อสูรระดับ 8 ในมือของเทียนเจี้ยน อย่างระงับความตื่นตระหนกเมื่อครู่ไม่ค่อยได้ แล้วพูดขึ้นอย่างยากลำบาก “ผู้อาวุโส ผู้เยาว์จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราสามารถออกเดินทางกันได้เลย”

“เราไม่สามารถเสียเวลาไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว รีบไปกับข้าเลย” เทียนเจี้ยนสะบัดมือผ่ามิติออก การเปิดประตูมิติเป็นหนึ่งในพลังของเซียนราชา

“เจี้ยนเฉิน เจ้าจะไปไหนกัน ? โอ้ จริงสิ หลายวันก่อนข้ารู้สึกได้ว่ามียอดฝีมือจากทวีปสัตว์เทวะปรากฏตัวขึ้นไม่น้อย พวกสัตว์อสูรเหล่านั้นมายังทวีปเทียนหยวนรึ ? ” นูบิสเองก็หายตกตะลึงแล้ว ก่อนถามขึ้นอย่างสงสัย หลายวันที่ผ่านเขาหนีการตามล่าจากอสรพิษแก่ตัวนั้น ไม่มีโอกาสติดต่อใครได้ ทำให้ไม่รู้ว่าข่าวคราวเกี่ยวกับพยัคฆ์ปีกเทวะนั้นรั่วไหลออกมาแล้ว

เจี้ยนเฉินพยักหน้า “ยอดฝีมือพวกนั้นมาตามหาพยัคฆ์ปีกเทวะ ข่าวหลุดออกไป ยามนี้ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบกำลังตามหาตัวข้าทั่วทั้งทวีป มันไม่ปลอดภัยอีกแล้วที่ข้าจะอยู่ที่นี่ต่อไป ข้าจะลี้ภัยไปอยู่กับพวกเผ่าพันธุ์ทะเล”

“เผ่าพันธุ์ทะเล ! ” นูบิสดูตกใจเล็กน้อย ก่อนคิดอยู่ชั่ววูบหนึ่งแล้วพูดขึ้น “ข้ายังไม่รู้ว่ามียอดฝีมือที่มีสายพันธุ์เดียวกับข้ามายังทวีปนี้อีกหรือไม่ ในเมื่อพวกมันเข้ามาในทวีปเทียนหยวนกันเช่นนี้แล้ว มันก็ไม่ปลอดภัยสำหรับข้าที่จะอยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน หากมีสัตว์อสูรสายพันธุ์เดียวกันพบข้าขึ้นมา จะเป็นปัญหาใหญ่เอาได้ ท้ายที่สุดแล้วข้าก็ยังเป็นสัตว์อสูรอยู่ ยอดฝีมือมนุษย์ไม่มีทางยื่นมือเข้ามาช่วยข้าเป็นแน่ คงหวังให้พวกข้าฆ่ากันเองเสียด้วยซ้ำ เจี้ยนเฉิน ข้าว่าข้าไปกับเจ้าจะดีกว่า”

อสรพิษทองริ้วเงินเป็นสัตว์อสูรโบราณ แต่ก็เป็นเชื้อสายป่าเถื่อน พวกมันต้องการเพิ่มพลังและวิวัฒนาการตัวเอง จึงต้องสังหารพวกเดียวกันเองเพื่อดูดซึมแกนพลังในร่างของคนอื่น

“เป็นเช่นนั้นจะดีมาก ผู้อาวุโสเทียนเจี้ยน พานูบิสไปด้วยกันดีหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินหันไปร้องขอ

“ใช่แล้ว หากมีเจ้าสองคน โอกาสรอดชีวิตนับว่ามีสูงขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ข้ายังต้องเตือนเจ้า พลังและสถานการณ์ของเผ่าพันธุ์ทะเลนั้นไม่มีใครรู้ เทพเจ้าแห่งท้องทะเลเองก็ยังมีชีวิตอยู่ พวกมันอาจทรงพลังมากกว่าทวีปเทียนหยวนของเรา เมื่อไปถึงแล้วพวกเจ้าต้องระวังตัวเองให้มาก”

“ผู้อาวุโสไม่ต้องกังวล เราจะระวังตัว”

จากนั้นเทียนเจี้ยนก็หันไปหานูบิส แล้วยื่นร่างสัตว์อสูรไปให้ ก่อนพูดขึ้น “อสรพิษเงินริ้วทองตัวนี้อยู่ชั้นสวรรค์ที่ 4 ในเมื่อมันเป็นสายพันธุ์เดียวกับเจ้า หากเจ้าดูดซับกลิ่นอายของมัน น่าจะช่วยเพิ่มพลังให้เจ้าไม่น้อย เจ้าควรได้รับมัน”

นูบิสดูตื่นเต้นขึ้นมา ก่อนรีบรับซากนั้นอย่างอดใจไม่ไหว ของขวัญชิ้นนี้มีค่ามากจนข่มเสียงตัวเองให้หยุดสั่นไม่ได้ “ข้าขอบคุณผู้อาวุโส ผู้เยาว์ไม่มีวันลืมบุญคุณครั้งนี้ ผู้เยาว์จะจดจำและตอบแทนท่านในอนาคตยามที่มีโอกาส” สำหรับนูบิส ร่างสัตว์อสูรระดับ 8 ที่เทียนเจี้ยนยกให้นั้นไม่ต่างกับมอบสมบัติล้ำค่าให้แม้แต่น้อย ร่างสัตว์อสูรตัวนี้อยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 4 หากดูดซับแกนพลังภายในร่างนี้ พลังของนูบิสจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว บางทีอาจถึงขั้นวิวัฒนาการก็เป็นได้

หลังจากเทียนเจี้ยนจากไป ชายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างไร้สุ่มเสียง มองช่องมิติที่พึ่งปิดตัวลง ก่อนพึมพำ “เจี้ยนเฉินมีเซียนอยู่ข้างกายเป็นแน่ ดูท่าทางอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งจนน่ากลัวทีเดียว สังหารสัตว์อสูรระดับ 8 ได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ข้าจะทำได้ด้วยตัวเองด้วยซ้ำ”

“ทักษะที่ผนึกพื้นที่โดยรอบทั้งหมดนั้นย่อมเป็นทักษะการต่อสู้ระดับเซียน ดูเหมือนจะเป็นทักษะลับของเมืองทหารรับจ้าง ทักษะลับเทพเจ้าทั้งเก้า ตามคำเล่าลือ มันถูกทิ้งไว้โดยโมเทียนหยุนหลายปีก่อน มีทั้งหมด 9 รูปแบบ หนึ่งในนั้นคือผนึกโลกา มีพลังแบบเดียวกับที่เราพบเจอ บางทีคนที่อยู่กับเจี้ยนเฉินจะเป็นยอดฝีมือจากเมืองทหารรับจ้างก็เป็นได้”

คน ๆ นี้คือบรรพชนตระกูลคารา

หลังจากที่เจี้ยนเฉินกับนูบิสปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งหมดลอยอยู่เหนือปราสาทที่เจี้ยนเฉินพบกับเทียนเจี้ยนเป็นครั้งแรกในงานชุมนุมทหารรับจ้างทั้งหมด

หลังจากเข้ามาภายในปราสาท เจี้ยนเฉินลังเลก่อนป้องมือแล้วพูดกับเทียนเจี้ยน “ผู้อาวุโส ผู้เยาว์มีคำขอร้องที่ไม่เหมาะสมนักจะขอ ข้าอยากขอฝากร่างของพ่อแม่ไว้ที่เมืองทหารรับจ้าง การที่ข้าจากไปครานี้ ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเมื่อไหร่ หากข้าไม่สามารถกลับมาได้ ข้าหวังว่าผู้อาวุโสจะช่วยหาทางชุบชีวิตท่านพ่อท่านแม่แทนข้าด้วย”

หลังครุ่นคิดครู่หนึ่ง เทียนเจี้ยนพยักหน้าเบา ๆ

เจี้ยนเฉินตัดสินใจไม่นำร่างของบิดามารดาติดตัวไปด้วย เขาไม่รู้ว่าทางภายภาคหน้ามีอันตรายใหญ่หลวงอะไรรออยู่ หรือแม้กระทั่งไม่รู้ว่าจะเอาชีวิตตนเองรอดกลับมาได้ไหม หากเขาเกิดพลาดท่าเสียที ความหวังที่จะชุบชีวิตทั้งสองก็จะสูญเปล่า ดังนั้นจึงฝากร่างทั้งสองไว้ที่เมืองทหารรับจ้างแทน

“ฮืมมม พี่ใหญ่ ในที่สุดท่านก็มาหาเสี่ยวหลิง เสี่ยวหลิงคิดถึงท่านมากเลยนะ” ทันใดนั้นเอง เสียงใสกระจ่างดังขึ้นมา ทันใดนั้นร่างของเสี่ยวหลิงก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น”

“พี่ใหญ่เกิดอะไรขึ้น ? ท่านเจออะไรมาถึงทำให้ท่านดูไม่มีความสุขเช่นนี้ ? เสียวหลิงรู้สึกนะว่าพี่ใหญ่ไม่มีความสุข ฮี่ฮี่ แต่ไม่เป็นไรหรอก พี่ใหญ่เห็นข้าแล้วพี่ใหญ่จะยิ้มเอง ใช่หรือไม่พี่ใหญ่ ? ยิ้มหน่อยนะ” เสี่ยวหลิงเดินมาอยู่ข้างเจี้ยนเฉิน ก่อนเกาะแขนแล้วเขย่าเบา ๆ

การได้พบเสี่ยวหลิงช่วยลดความรู้สึกแย่ภายในใจของเจี้ยนเฉินที่จะต้องเดินทางจากบ้านเกิดเมืองนอนลงไปไม่น้อย รอยยิ้มแปลกปรากฏบนใบหน้า “เสี่ยวหลิง พี่ใหญ่ต้องเดินทางไปที่ไกลแสนไกลอีกไม่นานนี้ พี่ใหญ่ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาอีกเมื่อไร ในอนาคตพี่ใหญ่อาจจะไม่ได้พบเจ้าอีกนานแสนนาน”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 799 เทียนเจี้ยนยื่นมือช่วย

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 799 เทียนเจี้ยนยื่นมือช่วย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 799 เทียนเจี้ยนยื่นมือช่วย

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้างูตัวน้อย คิดรึว่าจะหนีข้าไปได้ ? ยอมมอบแกนพลังของเจ้าให้ข้าซะโดยดี”

ทันทีที่นูบิสพูดจบ เสียงทุ้มใหญ่ดังขึ้นมาทันควัน ชายร่างท้วมในชุดคลุมสีทองปรากฏตัวขึ้นมาอย่างไร้ร่องรอยขวางทางเจี้ยนเฉินกับนูบิสไว้

ใบหน้าของนูบิสบิดเบี้ยว ก่อนร้องตะโกนอย่างโกรธแค้น “ที่นี่อยู่ใกล้เมืองทหารรับจ้าง หากเจ้ากล้าโจมตี รับรองว่าบรรดายอดฝีมือที่เมืองย่อมรับรู้แน่ หากเป็นเช่นนั้นเจ้าเองก็ไม่รอดเช่นกัน ต่อให้เจ้าอยู่ในระดับ 8 ก็ตามเถอะ”

“ฮี่ฮี่ เจ้างูน้อย เจ้าฉลาดไม่เบาที่รู้ว่าทั้งทวีปนี้น้อยคนนักที่ต่อกรข้าได้ ถึงได้หนีมาเมืองทหารรับจ้าง แต่เจ้าใช้ทักษะลับหนีมาโดยไม่ระวังตัว ยามนี้เจ้าไร้ซึ่งพลังที่จะมาต่อกรกับข้าแล้ว เพียงแค่นิ้วเดียวของข้าก็เพียงพอที่จะฆ่าเจ้าได้โดยไม่มีใครรับรู้” ชายคนนั้นหัวเราะเยาะก่อนยื่นมือมาทางนูบิส มือที่ยืดออกมา ตลอดทางที่มันผ่านมีพลังคอยเปิดมิติ ดูเรียบง่าย แต่ภายในเต็มไปด้วยพลังที่มากพอถล่มภูเขาได้

ยามนี้ เจี้ยนเฉินและนูบิสเหมือนหนูติดจั่นโดนพลังของอีกฝ่ายข่มไว้ ไม่สามารถหลีกหนีได้ ทำได้แค่มองมือที่ค่อย ๆ ตรงเข้ามาอย่างไร้ทางสู้เพราะไม่มีพลังมากพอทะลวงพลังของสัตว์อสูรระดับ 8 ที่ข่มอยู่ได้

“เป็นแค่สัตว์อสูรแต่กล้าเข้ามาในทวีปเทียนหยวนของข้า ต้องกล้าขนาดไหนเชียว ? “

ฉับพลันเสียงเย็นชาดังขึ้นทั่วท้องฟ้า เทียนเจี้ยนในชุดคลุมสีขาวปรากฏขึ้นตรงหน้าเจี้ยนเฉินและนูบิส เพียงแค่ชี้นิ้วตรงไป มิติตรงหน้าก็สั่นคลอน มือที่ตรงเข้ามาหวังจะทำร้ายเจี้ยนเฉินโดนเจาะเป็นรูทะลวง

พลังของเทียนเจี้ยนทะลุมือสัตว์อสูร ตรงไปยังอก กลายเป็นรูขนาด 1 นิ้วอยู่ตรงนั้นด้วย

ร่างอันแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าของสัตว์อสูรระดับ 8 เมื่ออยู่ตรงหน้าปลายนิ้วของเทียนเจี้ยนแล้วกลับโดนทะลุทะลวงราวกับเต้าหู้

สัตว์อสูรระดับ 8 ตรงหน้าครางด้วยความเจ็บปวดก่อนมองเทียนเจี้ยนอย่างตกตะลึง ยามเห็นว่าเทียนเจี้ยนเป็นใคร ความหวาดกลัวเข้ามาแทนที่ความตกตะลึงไปสิ้น มันไม่เหลือความต้องการจะต่อสู้อีกต่อไป ก่อนจะเร่งหายตัวไปอย่างไม่ลังเลด้วยทักษะลับอย่างไม่คิดชีวิต

เทียนเจี้ยนยืนนิ่งไม่ไหวติง พูดเบา ๆ “ทักษะลับเทพเจ้าทั้งเก้า ปิดผนึกโลกา”

พื้นที่รอบข้างรัศมีหลายพันกิโลเมตรฉับพลันหยุดนิ่งไม่ไหวติง ราวกับถูกปิดพลังด้วยพลังอันลึกลับยิ่งใหญ่ ไม่เพียงแต่ทางกายภาพเท่านั้นที่ถูกผนึก แม้แต่เวลาก็ราวกับถูกผนึกไปด้วย อากาศและเวลาโดยรอบหยุดนิ่ง ทุกอย่างกลายเป็นเงียบสงัด

ร่างของสัตว์อสูรปรากฏขึ้นห่างไปหลายร้อยกิโลเมตร มันถูกตรึงไว้กลางอากาศไม่สามารถขยับตัวได้ ใบหน้าหวาดกลัวสุดขีด

เทียนเจี้ยนขยับเพียงก้าวเดียว ผ่ามิติกว่าร้อยกิโลเมตรไปตรงหน้าสัตว์อสูร แล้วค่อย ๆ วางมือลงเหนือหัวมันอย่างสบาย ๆ

ร่างสัตว์อสูรระดับ 8 สั่นเบา ๆ แววตากลับกลายเป็นขมุกขมัว กลายเป็นเพียงร่างไร้วิญญาณในชั่วพริบตา ฝ่ามือของเทียนเจี้ยนเผาวิญญาณของมันไม่ปล่อยโอกาสให้มันได้โต้ตอบแม้แต่น้อย

ทันทีที่สัตว์อสูรตัวนั้นตาย มิติรอบข้างกลับมาเป็นปกติเช่นเดิม เทียนเจี้ยนกลับมาปรากฏตัวหน้าเจี้ยนเฉินในชั่วพริบตาเดียว ถือร่างสัตว์อสูรไว้ข้างกาย “ข้าไม่เคยว่าสัตว์อสูรระดับ 8 จะลอบเข้าทวีปของเราได้ โชคดีที่ข้ามาพบมันเข้าก่อน ไม่งั้น ด้วยระดับพลังอย่างมัน น้อยคนนักที่จะต่อกรมันได้”

ทั้งเจี้ยนเฉินและนูบิสต่างยืนตะลึงมองร่างอสรพิษในร่างมนุษย์ในมือเทียนเจี้ยน เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ความตะลึงขึ้นไประดับสูงสุด

สัตว์อสูรระดับ 8 แถมยังเป็นอสรพิษทองริ้วเงิน สัตว์อสูรสายโบราณถูกเทียนเจี้ยนสังหารลงอย่างง่ายดายเช่นนั้น พลังที่เทียนเจี้ยนแสดงออกมาทำให้ทั้งคู่ถึงกับพูดไม่ออก

ทั้งสองไม่เคยคิดว่าสัตว์อสูรระดับ 8 มีพลังระดับเซียนราชาจะถูกฆ่าลงได้อย่างง่ายดายเช่นนี้

สังหารสัตว์อสูรระดับ 8 ได้โดยไม่ต่างอะไรกับการทานอาหารสำหรับเทียนเจี้ยน เขาไม่ได้มีท่าทีอะไรจากสิ่งสุดยอดที่ตัวเองพึ่งทำลงไปแม้แต่น้อย ทุกอย่างดูปกติและไม่สำคัญสำหรับเขา เทียนเจี้ยนมายืนตรงหน้าเจี้ยนเฉิน มองหน้าเขาอย่างสงบแล้วถามขึ้น “จัดการทุกอย่างเสร็จแล้วหรือ ? “

เจี้ยนเฉินสูดลมหายใจเฮือกใหญ่แล้วชำเลืองมองร่างสัตว์อสูรระดับ 8 ในมือของเทียนเจี้ยน อย่างระงับความตื่นตระหนกเมื่อครู่ไม่ค่อยได้ แล้วพูดขึ้นอย่างยากลำบาก “ผู้อาวุโส ผู้เยาว์จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราสามารถออกเดินทางกันได้เลย”

“เราไม่สามารถเสียเวลาไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว รีบไปกับข้าเลย” เทียนเจี้ยนสะบัดมือผ่ามิติออก การเปิดประตูมิติเป็นหนึ่งในพลังของเซียนราชา

“เจี้ยนเฉิน เจ้าจะไปไหนกัน ? โอ้ จริงสิ หลายวันก่อนข้ารู้สึกได้ว่ามียอดฝีมือจากทวีปสัตว์เทวะปรากฏตัวขึ้นไม่น้อย พวกสัตว์อสูรเหล่านั้นมายังทวีปเทียนหยวนรึ ? ” นูบิสเองก็หายตกตะลึงแล้ว ก่อนถามขึ้นอย่างสงสัย หลายวันที่ผ่านเขาหนีการตามล่าจากอสรพิษแก่ตัวนั้น ไม่มีโอกาสติดต่อใครได้ ทำให้ไม่รู้ว่าข่าวคราวเกี่ยวกับพยัคฆ์ปีกเทวะนั้นรั่วไหลออกมาแล้ว

เจี้ยนเฉินพยักหน้า “ยอดฝีมือพวกนั้นมาตามหาพยัคฆ์ปีกเทวะ ข่าวหลุดออกไป ยามนี้ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบกำลังตามหาตัวข้าทั่วทั้งทวีป มันไม่ปลอดภัยอีกแล้วที่ข้าจะอยู่ที่นี่ต่อไป ข้าจะลี้ภัยไปอยู่กับพวกเผ่าพันธุ์ทะเล”

“เผ่าพันธุ์ทะเล ! ” นูบิสดูตกใจเล็กน้อย ก่อนคิดอยู่ชั่ววูบหนึ่งแล้วพูดขึ้น “ข้ายังไม่รู้ว่ามียอดฝีมือที่มีสายพันธุ์เดียวกับข้ามายังทวีปนี้อีกหรือไม่ ในเมื่อพวกมันเข้ามาในทวีปเทียนหยวนกันเช่นนี้แล้ว มันก็ไม่ปลอดภัยสำหรับข้าที่จะอยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน หากมีสัตว์อสูรสายพันธุ์เดียวกันพบข้าขึ้นมา จะเป็นปัญหาใหญ่เอาได้ ท้ายที่สุดแล้วข้าก็ยังเป็นสัตว์อสูรอยู่ ยอดฝีมือมนุษย์ไม่มีทางยื่นมือเข้ามาช่วยข้าเป็นแน่ คงหวังให้พวกข้าฆ่ากันเองเสียด้วยซ้ำ เจี้ยนเฉิน ข้าว่าข้าไปกับเจ้าจะดีกว่า”

อสรพิษทองริ้วเงินเป็นสัตว์อสูรโบราณ แต่ก็เป็นเชื้อสายป่าเถื่อน พวกมันต้องการเพิ่มพลังและวิวัฒนาการตัวเอง จึงต้องสังหารพวกเดียวกันเองเพื่อดูดซึมแกนพลังในร่างของคนอื่น

“เป็นเช่นนั้นจะดีมาก ผู้อาวุโสเทียนเจี้ยน พานูบิสไปด้วยกันดีหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินหันไปร้องขอ

“ใช่แล้ว หากมีเจ้าสองคน โอกาสรอดชีวิตนับว่ามีสูงขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ข้ายังต้องเตือนเจ้า พลังและสถานการณ์ของเผ่าพันธุ์ทะเลนั้นไม่มีใครรู้ เทพเจ้าแห่งท้องทะเลเองก็ยังมีชีวิตอยู่ พวกมันอาจทรงพลังมากกว่าทวีปเทียนหยวนของเรา เมื่อไปถึงแล้วพวกเจ้าต้องระวังตัวเองให้มาก”

“ผู้อาวุโสไม่ต้องกังวล เราจะระวังตัว”

จากนั้นเทียนเจี้ยนก็หันไปหานูบิส แล้วยื่นร่างสัตว์อสูรไปให้ ก่อนพูดขึ้น “อสรพิษเงินริ้วทองตัวนี้อยู่ชั้นสวรรค์ที่ 4 ในเมื่อมันเป็นสายพันธุ์เดียวกับเจ้า หากเจ้าดูดซับกลิ่นอายของมัน น่าจะช่วยเพิ่มพลังให้เจ้าไม่น้อย เจ้าควรได้รับมัน”

นูบิสดูตื่นเต้นขึ้นมา ก่อนรีบรับซากนั้นอย่างอดใจไม่ไหว ของขวัญชิ้นนี้มีค่ามากจนข่มเสียงตัวเองให้หยุดสั่นไม่ได้ “ข้าขอบคุณผู้อาวุโส ผู้เยาว์ไม่มีวันลืมบุญคุณครั้งนี้ ผู้เยาว์จะจดจำและตอบแทนท่านในอนาคตยามที่มีโอกาส” สำหรับนูบิส ร่างสัตว์อสูรระดับ 8 ที่เทียนเจี้ยนยกให้นั้นไม่ต่างกับมอบสมบัติล้ำค่าให้แม้แต่น้อย ร่างสัตว์อสูรตัวนี้อยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 4 หากดูดซับแกนพลังภายในร่างนี้ พลังของนูบิสจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว บางทีอาจถึงขั้นวิวัฒนาการก็เป็นได้

หลังจากเทียนเจี้ยนจากไป ชายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างไร้สุ่มเสียง มองช่องมิติที่พึ่งปิดตัวลง ก่อนพึมพำ “เจี้ยนเฉินมีเซียนอยู่ข้างกายเป็นแน่ ดูท่าทางอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งจนน่ากลัวทีเดียว สังหารสัตว์อสูรระดับ 8 ได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ข้าจะทำได้ด้วยตัวเองด้วยซ้ำ”

“ทักษะที่ผนึกพื้นที่โดยรอบทั้งหมดนั้นย่อมเป็นทักษะการต่อสู้ระดับเซียน ดูเหมือนจะเป็นทักษะลับของเมืองทหารรับจ้าง ทักษะลับเทพเจ้าทั้งเก้า ตามคำเล่าลือ มันถูกทิ้งไว้โดยโมเทียนหยุนหลายปีก่อน มีทั้งหมด 9 รูปแบบ หนึ่งในนั้นคือผนึกโลกา มีพลังแบบเดียวกับที่เราพบเจอ บางทีคนที่อยู่กับเจี้ยนเฉินจะเป็นยอดฝีมือจากเมืองทหารรับจ้างก็เป็นได้”

คน ๆ นี้คือบรรพชนตระกูลคารา

หลังจากที่เจี้ยนเฉินกับนูบิสปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งหมดลอยอยู่เหนือปราสาทที่เจี้ยนเฉินพบกับเทียนเจี้ยนเป็นครั้งแรกในงานชุมนุมทหารรับจ้างทั้งหมด

หลังจากเข้ามาภายในปราสาท เจี้ยนเฉินลังเลก่อนป้องมือแล้วพูดกับเทียนเจี้ยน “ผู้อาวุโส ผู้เยาว์มีคำขอร้องที่ไม่เหมาะสมนักจะขอ ข้าอยากขอฝากร่างของพ่อแม่ไว้ที่เมืองทหารรับจ้าง การที่ข้าจากไปครานี้ ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเมื่อไหร่ หากข้าไม่สามารถกลับมาได้ ข้าหวังว่าผู้อาวุโสจะช่วยหาทางชุบชีวิตท่านพ่อท่านแม่แทนข้าด้วย”

หลังครุ่นคิดครู่หนึ่ง เทียนเจี้ยนพยักหน้าเบา ๆ

เจี้ยนเฉินตัดสินใจไม่นำร่างของบิดามารดาติดตัวไปด้วย เขาไม่รู้ว่าทางภายภาคหน้ามีอันตรายใหญ่หลวงอะไรรออยู่ หรือแม้กระทั่งไม่รู้ว่าจะเอาชีวิตตนเองรอดกลับมาได้ไหม หากเขาเกิดพลาดท่าเสียที ความหวังที่จะชุบชีวิตทั้งสองก็จะสูญเปล่า ดังนั้นจึงฝากร่างทั้งสองไว้ที่เมืองทหารรับจ้างแทน

“ฮืมมม พี่ใหญ่ ในที่สุดท่านก็มาหาเสี่ยวหลิง เสี่ยวหลิงคิดถึงท่านมากเลยนะ” ทันใดนั้นเอง เสียงใสกระจ่างดังขึ้นมา ทันใดนั้นร่างของเสี่ยวหลิงก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น”

“พี่ใหญ่เกิดอะไรขึ้น ? ท่านเจออะไรมาถึงทำให้ท่านดูไม่มีความสุขเช่นนี้ ? เสียวหลิงรู้สึกนะว่าพี่ใหญ่ไม่มีความสุข ฮี่ฮี่ แต่ไม่เป็นไรหรอก พี่ใหญ่เห็นข้าแล้วพี่ใหญ่จะยิ้มเอง ใช่หรือไม่พี่ใหญ่ ? ยิ้มหน่อยนะ” เสี่ยวหลิงเดินมาอยู่ข้างเจี้ยนเฉิน ก่อนเกาะแขนแล้วเขย่าเบา ๆ

การได้พบเสี่ยวหลิงช่วยลดความรู้สึกแย่ภายในใจของเจี้ยนเฉินที่จะต้องเดินทางจากบ้านเกิดเมืองนอนลงไปไม่น้อย รอยยิ้มแปลกปรากฏบนใบหน้า “เสี่ยวหลิง พี่ใหญ่ต้องเดินทางไปที่ไกลแสนไกลอีกไม่นานนี้ พี่ใหญ่ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาอีกเมื่อไร ในอนาคตพี่ใหญ่อาจจะไม่ได้พบเจ้าอีกนานแสนนาน”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+