Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง 1576 เจอภูเขาเปิดทาง เจอแม่น้ำสร้างสะพาน

Now you are reading Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง Chapter 1576 เจอภูเขาเปิดทาง เจอแม่น้ำสร้างสะพาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จางจื่ออันพอจะเข้าใจแล้ว ที่แท้ฟราเทอร์ไม่ได้หมายถึงลาซึ่งเป็นเพื่อนลา แต่เปรียบเทียบเขาเหมือนล่อ หรือตามคำพูดที่ใช้กันทั่วไปในหมู่คนจีนก็คือวัวที่มุมานะ 

 

 

คนตะวันตก…ไม่ใช่สิ หมาป่าตะวันตกชอบชมคนแบบนี้เหรอ? หรือจะบอกว่านี่เป็นวิธีชมคนของยุคโบราณ? 

 

 

อีกอย่าง ชำระบาปคือบ้าอะไร? 

 

 

เขาทำได้แค่นึกถึงคนธรรมดาชำระบาปในเทพนิยาย นิทานปรัมปรา และนิยายดาร์กแฟนตาซี แต่นั่นเป็นเรื่องไร้สาระอย่างเห็นได้ชัด 

 

 

“เมี๊ยวๆๆ! แม่เฒ่าจะบอกเจ้าให้ ชายเฮงซวยผู้นี้ ‘ชำระบาป’ แล้ว กลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งในชายโสดหกสิบล้านคนของประเทศจีน น่ายินดีเสียจริง!” 

 

 

เสวี่ยซือจื่อฉีกเนื้อบีเวอร์ชิ้นหนึ่งอย่างเชื่องช้า ยังไม่ลืมที่จะแฉเขา 

 

 

ฟราเทอร์ได้ยินแล้วก็ตะลึง “ประเทศจีนมีอริยะมากขนาดนั้นเชียว?” 

 

 

“เมี๊ยวๆๆ! มากกว่านั้นอีก! ยังมีมากกว่านั้น!” เสวี่ยซือจื่อบุ้ยปากพร้อมชำเลืองมองเขาครั้งหนึ่ง แล้วพูดว่า “ข้าเห็นว่าเอ็งสร้างความผาสุกสู้พี่น้องชายชาตรีไม่ได้ เปลี่ยนเป็นหญิงสาวให้พี่น้องได้สมดังใจ เป็นอย่างไร? ชายโสดหนึ่งคนเปลี่ยนเป็นหญิงสาว จำนวนของชายโสดก็จะลดลงสองคน คำนวนอย่างไรก็คุ้มค่า!” 

 

 

จางจื่ออันพุ้ยข้าวอยากหัวเสีย ภูตสัตว์เลี้ยงสองตัวนี้เหมือนไก่คุยกับเป็ดโดยแท้ อธิบายก็อธิบายไม่ชัดเจน ช่างมันแล้วกัน 

 

 

พอกินข้าวเสร็จ ภูตสัตว์เลี้ยงยังไม่นอนก็เดินเตร่ย่อยอาหาร เขาต้มน้ำชาอีกกาหนึ่ง หลังจากกินข้าวและดื่มน้ำจนอิ่มแล้ว ก็เดินทางต่อ 

 

 

เขาเก็บสิ่งของที่ควรเก็บก่อน พอแพ็คทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สุดท้ายเขาก็ไปตรวจดูเอ็นหางสองสามเส้นที่ผึ่งลมจนแห้งอยู่ในที่ร่ม 

 

 

เอ็นหางที่ตากแห้งแล้วหดตัวลงกว่าก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด ปรากฏสีขาวกึ่งโปร่งแสง กะด้วยตาแล้วความกว้างคร่าวๆ ยังไม่ถึงหนึ่งมิลลิเมตร 

 

 

เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน เขาเลือกทิ้งเอ็นหางสองชนิดไว้ ชนิดแรกคือเส้นที่ความยาวประมาณสิบห้าเซนติเมตร อีกชนิดคือเส้นที่ความยาวประมาณสามสิบเซนติเมตร ชนิดหลังยากที่จะดึงออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงมีเพียงเส้นเดียว 

 

 

เขาใช้ทิชชู่ห่อเอ็นหางหลายเส้นขึ้นมา แล้วใส่เข้าไปในกล่องปฐมพยาบาล เตรียมไว้ใช้ในทุกโอกาส แน่นอนว่าไม่มีโอกาสใช้จะดีที่สุด 

 

 

พอเก็บของเสร็จแล้ว เขากับพวกภูตสัตว์เลี้ยงก็ออกเดินทางต่อ เดินเลียบแม่น้ำย้อนไปทางต้นน้ำ 

 

 

ฝูงหมาป่าเหมือนได้ชิมของอร่อย จึงกระตือรือร้นในการตามหาร่องรอยของบีเวอร์ตลอดทาง ไม่มีอะไรทำก็ไปขุดตามชายฝั่งแม่น้ำ ไม่นานก็หาบีเวอร์ที่กระโดดไปมาได้หนึ่งรัง 

 

 

จางจื่ออันปวดหัวตลอด เพราะเขาต้องทำงานสกปรกอย่างลอกหนัง ควักอวัยวะของบีเวอร์ทั้งหมด ลำบากกว่าหุงข้าวเป็นไหนๆ แค่พอคิดว่านี่ประหยัดอาหารกระป๋องได้จริงๆ เขาก็ยอมทำให้พวกมัน 

 

 

ตามปกติแล้วทำร้ายสัตว์ป่าในอุทยานเรื่อยเปื่อยไม่ได้ แต่ฝูงหมาป่าต้องกินอยู่ตลอด นี่จึงเป็นเรื่องจนใจ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้ทำให้บีเวอร์พวกนี้ตาย 

 

 

เขาเดินเลียบแม่น้ำไปเจอทางที่ค่อนข้างแคบจุดหนึ่ง จึงเรียกให้พวกภูตสัตว์เลี้ยงหยุด คิดจะข้ามแม่น้ำตรงนี้ 

 

 

“เจี๊ยกๆ?” 

 

 

พายถือกระบองไม้ที่เขาตัดให้มัน มันยืนอยู่ริมแม่น้ำ ลองยื่นกระบองไม้ลงไปในแม่น้ำ กระบองไม้ไม่ได้เข้าไปในน้ำทั้งอัน แต่ปลายด้านหนึ่งที่มันถือเอาไว้กลับไม่ได้ยื่นลงไปใต้แม่น้ำ 

 

 

มันทำสัญญาณมือด้วยความเป็นห่วง ความหมายคือแม้ทางน้ำตรงนี้จะแคบ แต่ก็ลึกมาก ยากต่อการเดินลุยน้ำข้ามไป 

 

 

จางจื่ออันพยักหน้า ก่อนจะปลดกระเป๋าะพายลง แล้วชี้ต้นไม้ต้นหนึ่งพูดว่า “ฉันรู้ แต่พวกเราไม่ได้จะเดินลุยแม่น้ำไป ตอนนี้จะลองดูว่าสร้างสะพานได้ไหม” 

 

 

“แกว๊ก? เอ็งเนี่ยนะ? สร้างสะพานเหรอ?” ริชาร์ดใช้ปีกบังหน้าอก “ข้าเกือบจะหัวเราะเอ็งจนต้องทำบายพาสหัวใจแล้ว!” 

 

 

ทีแรกพวกภูตสัตว์เลี้ยงตัวอื่นก็ไม่เข้าใจว่าเขาคิดจะสร้างสะพานอย่างไร พอเดินไปมองต้นไม้ต้นนั้นดีๆ คราวนี้ถึงจะพบว่าระยะห่างจากรากต้นไม้สูงประมาณยี่สิบเซนติเมตร ต้นไม้ต้นนั้นหนาเท่าถังน้ำ คิดไม่ถึงว่าจะถูกสัตว์บางอย่างก้มหน้าก้มตาแทะจนขาดไปมากกว่าครึ่ง รากต้นไม้กับลำต้นแทบจะขาดออกจากกัน โงนเงนคล้ายจะโค่นลงทุกเมื่อ 

 

 

สายตาของทุกคนตกลงบนฟันหน้าทั้งแหลม ทั้งยาวของบีเวอร์ ตัวการหลักเป็นใครต่างก็รู้ดี 

 

 

เมื่อสัตว์อย่างบีเวอร์เอ่อล้นจนเป็นภัย มันจะทำลายป่าอย่างรุนแรง แต่พวกมันก็ไม่ได้ทำไปโดยไม่มีเหตุผลเสียทีเดียว เพราะพวกมันไม่ได้แทะต้นไม้เพราะจะกินต้นไม้ แค่เพื่อขัดฟันเท่านั้น 

 

 

นี่เป็นต้นไซเปรซต้นหนึ่ง เติบโตอยู่ริมแม่น้ำ เนื่องจากน้ำในแม่น้ำกัดเซาะท้องน้ำ รากส่วนหนึ่งของมันที่อยู่ในแม่น้ำจึงลอยไปตามการซัดสาดของน้ำในแม่น้ำ 

 

 

จางจื่ออันกะด้วยสายตา ถ้าดันต้นไซเปรสต้นนี้ไปยังทิศทางที่ถูกต้อง ยอดต้นไม้น่าจะพาดบนฝั่งตรงข้ามพอดี แล้วใช้มันเป็นสะพานข้ามไปได้ ถึงแม้เขาไม่ได้ดันต้นไม้ต้นนี้ให้โค่นลง มันก็อยู่ได้ไม่นานอยู่แล้ว 

 

 

ถึงจะเป็นช่วงกลางฤดูร้อน ในป่าลึกของอุทยานเรดวูดก็ยังมีอากาศมืดครึ้มและหนาวเย็น น้ำในแม่น้ำเย็นเฉียบ ถ้าจำเป็น เขาก็ไม่อยากลุยน้ำเหมือนกัน เพราะถ้าเสื้อผ้าเปียกแล้วก็ไม่มีที่ตาก 

 

 

อยากจะดันต้นไม้ที่หนาเท่าถังน้ำเป็นเรื่องยาก ถ้าเป็นต้นไม้ที่ไม่ได้เสียหายโดยสิ้นเชิง ก็คงขาดเลื่อยไฟฟ้าไปไม่ได้ แต่ดีที่บีเวอร์ทำงานส่วนใหญ่แทนเขาเสร็จแล้ว 

 

 

เขาให้พวกภูตสัตว์เลี้ยงกับฝูงหมาป่าหลบไป ป้องกันไม่ให้ถูกต้นไม้ที่จะโค่นลงกระแทกเข้า 

 

 

เขาถกแขนเสื้อขึ้น สองมือสัมผัสลำต้น ฝ่ามือรู้สึกได้ถึงความหยาบกระด้าง เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ครั้งหนึ่ง ลองใช้แรงแปดส่วนก่อน ช่วงเล็กๆ ที่เชื่อมระหว่างรากต้นไม้กับลำต้นส่งเสียงแตกเบาๆ ดังเปรี๊ยะ ใบไม้ที่แห้งเหลืองจากการขาดสารอาหารหล่อเลี้ยงก็ร่วงลงเหมือนฝนตก 

 

 

ดูท่าทางมีความหวัง 

 

 

เขาปรับมุมเล็กน้อย ขาทั้งสองข้างเหยียบลงบนริมแม่น้ำด้วยท่ายืนม้า สองเท้ายืนอย่างมั่นคง และสูดหายใจเข้าออกลึกๆ สองสามครั้ง จากนั้นก็หายใจออกอย่างแรงครั้งหนึ่ง แล้วรวมแรงกายทั้งหมดไว้บนฝ่ามือ 

 

 

“ฮ่า!” 

 

 

เขาหน้าแดง พ่นลมออกจากจมูกพร้อมส่งเสียงร้อง รองเท้าก็จมลงไปในดินลึกขึ้นเพราะแรงกดเท้า 

 

 

เปรี๊ยะ… 

 

 

เปรี๊ยะๆ… 

 

 

จุดเชื่อมเล็กๆ ที่เหลืออยู่ตรงรากต้นไม้กับลำต้นส่งเสียงแตกพรั่นพรึงออกมา แถมเสียงยังดังขึ้นเรื่อยๆ ด้วย 

 

 

เขาดันก่อน แล้วกอดลำต้นดึงมาข้างหลัง ระหว่างใช้แรงดันและดึงทำให้จุดที่เหลืออยู่เล็กๆ อ่อนแอขึ้นเรื่อยๆ 

 

 

ลำต้นบนหัวของเขาโยกแรงขึ้น พร้อมจะโค่นลงได้ทุกเมื่อ และเขาต้องโยกให้มันโค่นไปยังตำแหน่งที่ถูกต้อง อย่างน้อยที่สุดก็ทับตัวเองไม่ได้ 

 

 

สำเร็จไหมก็ต้องดูคราวนี้แหละ! 

 

 

แกรก… 

 

 

แกรกๆ… 

 

 

แกรกๆๆ… 

 

 

แต่ที่น่าโมโหคือลำต้นของต้นไซเปรซเอียงประมาณสี่สิบห้าถึงหงสิบองศาแล้วก็หยุดไป มีเพียงใบไม้ปลิวลงมาเต็มผิวน้ำ 

 

 

อีกแค่นิดเดียว ล้มเหลวเนื่องจากขาดความพยายามสุดท้าย จางจื่ออันมองตาปริบๆ ถ้าสายตาทำให้มันโค่นลงได้ มันก็คงโค่นลงนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว 

 

 

ดูท่าทางยังต้องดันและลากอีกครั้งหนึ่ง 

 

 

ต้องทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแล้วค่อนข้างยุ่งยาก เขากำลังครุ่นคิดว่าจะรักษาหน้าในขั้นตอนสุดท้ายนี้อย่างไร แต่เขาก็เห็นเงาสีเทาสายหนึ่ง ฟราเทอร์กระโดดขึ้นไปบนต้นไม้แล้ว และเดินขึ้นไปบนยอดต้นไม้ตามลำต้น 

 

 

จากนั้นฝูงหมาป่าตัวแล้วตัวเล่าก็เดินตามมันขึ้นไปบนยอดต้นไม้ 

 

 

ด้วยเพราะน้ำหนักของพวกมัน ในที่สุดต้นไซเปรซก็รับไม่ไหว จุดที่เชื่อมรากต้นไม้กับลำต้นหักเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น ยอดต้นไม้กระแทกบนฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำอย่างแรง 

 

 

พวกฝูงหมาป่ากระโดดลงจากยอดต้นไม้อย่างว่องไวแล้ว และตกลงบนพื้นดินฝั่งตรงข้าม 

 

 

สร้างสะพานเสร็จแล้ว 

 

 

วลาดิเมียร์ปรบมือกล่าวชม “หนึ่งสะพานบินขยายเหนือใต้ เปลี่ยนหุบเหวลึกเป็นทางสัญจร!” 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด