Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง 1654 ดวงตาพิเศษ

Now you are reading Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง Chapter 1654 ดวงตาพิเศษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ความจริงจางจื่ออันคิดถึงภูเขาอิ่นอู้นานแล้ว แต่ฤดูหนาวอากาศที่นี่หนาวเกินไป แถมทางขึ้นเขายังมีหิมะเกาะ ส่วนฤดูร้อนถ้าไม่ร้อนระอุ ก็มีพายุฝนเทลงมา ฤดูใบไม้ผลิสั้นมาก แถมต้นไม้บนภูเขาก็หัวโล้น พูดไปพูดมาก็มีเพียงช่วงเข้าฤดูใบไม้ร่วงที่เหมาะสมที่สุด 

 

 

ไม่ใช่เพราะที่นี่ใช้จ่ายเงินสูงหรอกนะ 

 

 

ประเด็นสำคัญที่สุดคือเขายุ่งเกินไป ถ้าไม่ยุ่งกับเรื่องในร้าน ก็ยุ่งกับเรื่องอื่น หรือไปต่างประเทศกับต่างถิ่น เวลาว่างน้อยเกินไป ถึงแม้ตอนว่างจะคิดเรื่องออกไปเที่ยวกันยกก๊วน ก็ต้องคิดถึงความคิดของทุกคน เลือกสถานที่ที่ทุกคนรับได้จะดีที่สุด 

 

 

เพราะวันนี้มีแค่เหล่าฉากับฟราเทอร์ เขาจึงเสนอที่นี่ขึ้นมา ถ้าทุกคนมาด้วยล่ะก็ กระเป๋าเงินคงจะต้องแห้งหมดแล้ว… 

 

 

สถานที่ที่มอบเงาดำในจิตใจให้กับเขาอย่างมาก ก็คงจะมีแต่ภูเขาอิ่นอู้นี่แหละ 

 

 

ถ้านับรวมในความฝันด้วย ก็มาที่นี่สองครั้งแล้ว 

 

 

เงาดำจิตใจแบบคูณสอง 

 

 

ที่นี่มีคนจูงสุนัขขึ้นเขาบ่อยๆ พวกพ่อค้าแผงลอบรอบๆ เห็นเขาจูงสุนัขตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ก็ไม่ได้ตกใจนัก แต่ตอนเขาเดินผ่านก็ถามเขาอย่างกระตือรือร้นว่าอยากได้น้ำไหม บอกว่าน้ำบนภูเขาราคาแพง ซื้อข้างล่างก่อนค่อยขึ้นเขาดีกว่า นักท่องเที่ยวหลายคนไม่ฟังคำเตือน สุดท้ายกระหายน้ำจนโมโห บ่นเรื่องทางเดินไปด้วย ลงเขาไปด้วย 

 

 

พอได้ยินคำพูดนี้ เขาก็รู้ว่าโรงน้ำชาอู้อิ่นยังไม่ได้ปิดตัวลง 

 

 

ความจริงแล้วไม่เพียงยังไม่ปิดตัวลง คะแนนวิจารณ์ของโรงน้ำชาอู้อิ่นบนแอปพลิเคชันให้คะแนนวิจารณ์ก็สูงขึ้นจนน่าตกใจ กลายเป็นสถานที่แนะนำของบรรดาเน็ตไอดอล น้ำชาชนิดต่างๆ และของว่างสวยงามทำให้คนน้ำลายสอ บทวิจารณ์สวยหรูฟุ้งเฟ้อเทียบได้กับบทกวี…จางจื่ออันเข้าใจแล้ว ถึงอย่างไรเงินก็งอกเงยมากขนาดนี้แล้ว ถึงไม่อร่อยก็ต้องทำเป็นอร่อย ไม่อย่างนั้นไม่กลายคนรวยแต่โง่เหรอ 

 

 

บางครั้งมีคนให้คำวิจารณ์ย่ำแย่แค่หนึ่งดาวเพราะราคาสูงเกินไป คนที่เคยมาเยี่ยมเยือนที่นี่คนอื่นก็แค่วิพากษ์วิจารณ์ ราคาแพงไม่ใช่ข้อด้อยของร้านนี้ แต่เป็นเพราะคุณไม่ดีเอง ก่อนจะบริโภคไม่ดูราคาก่อนเหรอ? 

 

 

เจ้าของโรงน้ำชาไม่เคยโต้ตอบคำวิจารณ์พวกนี้ ถึงอย่างไรท่าทางเย็นชาแบบนี้ก็ได้รับผู้สนับสนุนไม่น้อย 

 

 

จางจื่ออันว้าวุ่นใจมาก ด้านหนึ่งคือเจ้าของโรงน้ำชามีความสัมพันธ์กับแหล่งที่มาของเหล่าฉา อีกด้านหนึ่งคือเขาหวังให้โรงน้ำชาแห่งนี้รีบปิดตัวลง เขาก็จะได้ขึ้นเขาอย่างไม่มีภาระอะไรในจิตใจอีก 

 

 

พอเหยียบเข้าไปในทางขึ้นเขา เขาก็เดินขึ้นไปข้างบนทีละขั้น ทีแรกไม่รู้สึกว่ามีอะไร แต่พอนานเข้าก็รู้สึกจืดชืดลงอย่างเห็นได้ชัด ตามความสูงของทัศนวิสัยที่เพิ่มขึ้น ที่สะท้อนเข้ามาในม่านตาเป็นแค่ทิวทัศน์ธรรมดา ไม่ใช่ยอดเขาสูงมหัศจรรย์ น้ำพุร้อนพุ่งขึ้นสูง และการเติมแต่งของดอกไม้งามอื่นๆ นี่ตัดสินแล้วว่าภูเขาอิ่นอู้ไม่มีทางกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดัง และไม่คู่ควรที่จะเปิดใช้กระเช้าลอยฟ้า 

 

 

ใบไม้แซมสีเหลืองเล็กน้อย ตัดกับใบไม้สีแดงเต็มภูเขา 

 

 

ขณะเดินอยู่บนทางเดินขึ้นเขา เขาก็คิดถึงคนสองคน พูดให้ถูกต้องคือหนึ่งคนกับอะไรสักอย่างที่เขาไม่รู้จัก ซึ่งก็คือเสียวเสวี่ยกับจวงเสี่ยวเตี๋ย 

 

 

หลังจากเขาออกจากป่าเรดวูด เขาก็ส่งข้อความขอบคุณให้เสียวเสวี่ยที่ช่วยเขาแจ้งตำรวจแล้ว ถ้าไม่ได้เธอและความพยายามของแม่เมแกน เรื่องทั้งหมดอาจจะพบจุดจบอันย่ำแย่ 

 

 

ตอนนี้เสียวเสวี่ยยังอยู่ที่อเมริกา แต่อาจจะใกล้กลับมาแล้ว เธอบอกว่ารออาอากาศร้อนหมดไปก่อนแล้วค่อยกลับมา เธอไลฟ์สดนอกสถานที่ระหว่างอยู่ที่อเมริกาหลายครั้ง ส่วนใหญ่ก็เที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในซานฟรานซิสโกและรอบๆ อ่าวจนทั่วแล้ว 

 

 

เขาคิดถึงเธอเพราะเขาเจอเธอครั้งแรกตอนขึ้นเขา และเหตุผลที่คิดถึงจวงเสี่ยวเตี๋ยก็คล้ายกัน ในป่าข้างๆ ทางเดินมีผีเสื้อบินขึ้นลงอยู่ตลอด เพลิดเพลินกับช่วงเวลาแสนสบายของฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาถึง 

 

 

“จริงสิ ฟราเทอร์ นายเห็นข้างหลังหรือบนหัวฉันมีผีเสื้อบินอยู่หรือเปล่า” เขาถาม 

 

 

ฟราเทอร์ชื่นชมทิวทัศน์รอบๆ อยู่ตลอด พอได้ยินแล้วก็เดินไปดูข้างหลังเขา “ผีเสื้อหรือ? ไม่เห็นนะ” 

 

 

“งั้นก็ดี” 

 

 

จางจื่ออันถอนหายใจ ก่อนหน้านี้ผีเสื้อที่เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ทำเอาเขาหวาดกลัวไม่หาย 

 

 

“ผีเสื้อทำไมหรือ? มีผีเสื้อก็ปกติมากไม่ใช่หรือ” ฟราเทอร์เห็นท่าทางของเขาเหมือนกังวลใจ จึงถามต่อ 

 

 

“เรื่องมันยาวน่ะ…” 

 

 

จางจื่ออันยิ้มเจื่อน ถึงอย่างไรทางเดินขึ้นเขาก็น่าเบื่อมาก จึงเล่าเรื่องจวงเสี่ยวเตี๋ยให้ฟังคร่าวๆ 

 

 

“มีเรื่องพรรค์นี้ด้วย…” 

 

 

ฟราเทอร์ฟังจนเคลิบเคลิ้ม หลังจากฟังจบก็ตกตะลึงขึ้นเรื่อยๆ มันคิดขึ้นว่าตัวเองมาโลกตะวันออกเพื่อหาทางของตัวเองเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง ไม่อย่างนั้นไม่มีทางได้ฟังเรื่องที่ไม่น่าเชื่อแบบนี้ คิดไม่ถึงว่ายังมีภูตสัตว์เลี้ยงทำให้คนหลับใหล และขังให้อยู่ในโลกความฝันโดยที่ไม่มีใครรู้ได้ ช่างน่าตกตะลึงเสียจริง 

 

 

“ปัญหาคือ หลังจากจบเรื่อง ฉันคิดว่าเธอจะหายไปแล้ว แต่พวกภูตสัตว์เลี้ยงบอกอยู่ตลอดว่ามองเห็นผีเสื้อผลุบๆ โผล่ๆ วนเวียนอยู่รอบตัวฉัน แต่ฉันมองไม่เห็น…” เขาถอนหายใจ 

 

 

ฟราเทอร์คิดอย่างจริงจังพักหนึ่ง แล้วพูดว่า “เรื่องนี้กวนใจเจ้ามากหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น ข้าอธิษฐานต่อเทพได้ ขอให้เทพมอบดวงตาพิเศษคู่หนึ่งกับเจ้าชั่วคราว สามารถมองเห็นทุกอย่างที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า หากเธอเพียงแค่ซ่อนตัวเท่านั้น ก็อาจจะมองเห็นเธอได้ผ่านดวงตาพิเศษคู่นี้” 

 

 

ที่มันพูดถึงก็คือดวงตาแห่งการรู้แจ้ง แต่ถ้าไม่ใช่เวลาที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย มันก็ไม่อยากทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ มีเพียงในสถานการณ์สิ้นหวังที่เสียสละตัวเองแล้วยังไม่ลดละความพยายาม ถึงจะขอความช่วยเหลือได้ ดังนั้นมันจึงอยากรู้ว่ามีความจำเป็นหรือไม่ 

 

 

“เอ่อ…กวนใจมากก็จริง แต่ช่างมันเถอะ ทีแรกไม่ค่อยชิน เลยรู้สึกเสียวสันหลังอยู่ตลอด แต่หลังจากนั้นก็ชินแล้วแหละ…เพราะลืมเรื่องนี้ไปบ่อยๆ ถึงยังไงหลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้ปรากฏตัวในความฝันของฉันอีก” จางจื่ออันทำเป็นพูดอย่างสบายใจ “ไม่ต้องลำบากหรอก…” 

 

 

เขามองสีหน้าเคร่งเครียดของมันออก เดาว่าดวงตาพิเศษคู่นั่นอาจจะไม่จำเป็น ผีเสื้อที่เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ไม่ได้สร้างความเสียหายในความเป็นจริง งั้นก็ช่างมันเถอะ 

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น… 

 

 

ฟราเทอร์ยืมใช้ดวงตาพิเศษตามหาจวงเสี่ยวเตี๋ย ถ้าไม่เหนือความคาดหมายก็จะมีผลลัพธ์อยู่สองแบบ หนึ่งคือเธอไม่อยู่แล้ว สองคือเธอยังอยู่ 

 

 

แบบแรกไม่ต้องพูดหรอก ถ้าพิสูจน์แล้วเป็นแบบหลัง จะไม่ยิ่งกวนใจเหรอ? 

 

 

สู้หลอกตัวเองว่าเธอหายไปแล้วดีกว่า 

 

 

เธอที่ไม่มีตัวตนใช้กระบวนการทางฟิสิกส์อะไรรับมือไม่ได้ ก็เหมือนเป็นผีที่วลาดิเมียร์จัดการได้ยาก เธอที่ร่างกายอยู่ในโลกความฝันควบคุมได้แม้กระทั่งพลังของซิงไห่ ภูตสัตว์เลี้ยงตัวอื่นยิ่งจัดการเธอไม่ได้ ทำได้แค่กะพริบตามองเธอ เป็นเหมือนบั๊กเลยจริงๆ 

 

 

จางจื่ออันคิดไปคิดมา ก็ยังคิดวิธีกำจัดจวงเสี่ยวเตี๋ยให้อยู่หมัดไม่ได้ แต่ความจริงแล้วง่ายมาก เขามีการคาดเดาที่ใช้ได้ผล การมีอยู่ของเธอเหมือนจะอาศัยความฝันของเขา ถ้าเขาหายไป เธอก็จะเหมือนน้ำที่ไม่มีต้นน้ำ ต้องหายตัวตามไปด้วยแปดสิบเปอร์เซ็นต์ 

 

 

แต่วิธีนี้มีก็เหมือนไม่มี เขายังใช้ชีวิตไม่ทันคุ้มเลย ยังไม่อยากหายไปพร้อมกับเธอหรอก 

 

 

“ได้ หากเจ้าเปลี่ยนใจก็บอกข้าได้ทุกเมื่อ” ฟราเทอร์ไม่บังคับ 

 

 

เขาพูดไปด้วย เดินไปด้วยแบบนี้ จึงเข้าใกล้ยอดเขาขึ้นเรื่อยๆ แล้ว อากาศก็เย็นสบายมากยิ่งขึ้น รอบกายถูกหมอกจางๆ โอบล้อมเอาไว้แล้ว 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด