Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง 1665 พาลใส่คนอื่น

Now you are reading Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง Chapter 1665 พาลใส่คนอื่น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จวงเสี่ยวเตี๋ยเรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายจากความทรงจำของจางจื่ออัน ไม่เพียงภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ชีววิทยา และความรู้ทั่วไป ยังรวมถึงความรู้ในชีวิตประจำวันและความรู้จิปาถะที่เขาแอบสั่งสมมาตั้งแต่เกิด เยอะกว่าที่เธอจินตนาการเอาไว้มาก เทียบกับความรู้น้อยนิดอันน่าสงสารของคนโบราณก็เหมือนน้ำหยดหนึ่งในทะเล เธอต้องใช้เวลานานมากถึงจะย่อยและดูดซึมความรู้พวกนี้ได้

 

 

แต่เธอมีเวลา ขอเพียงปล่อยเวลาในความฝันให้ไหลไปอย่างเชื่องช้าก็พอ เธอจึงมั่นใจว่าจะเข้าใจความรู้ในโลกความจริงพวกนี้ภายในเวลาสั้นๆ ถึงขนาดมีกะใจไปเที่ยวเล่นในโลกจินตนาการของเฟยหม่าซือ ตอนอารมณ์ดีก็แอบเดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่อยู่ข้างหลังจางจื่ออัน พอเห็นท่าทางเดือดดาลของเขาแล้ว เธอก็ยิ่งอารมณ์ดี

 

 

จนกระทั่งเธอได้เจอกับปัญหาเรื่องเจตจำนงเสรีในทะเลแห่งความรู้

 

 

เธอมีเวลาอันไร้ขีดจำกัดในโลกความฝัน เวลาที่จางจื่ออันได้เรียนหนังสือก็แค่สิบกว่าปี ถึงเธอมีพื้นฐานย่ำแย่ ไม่มีคุณครูชี้แนะ เรียนรู้ช้า เวลาหนึ่งร้อยปีก็คงไม่พอ แต่หากเธอใช้เวลาสองร้อยปี สามร้อยปี ห้าร้อยปีมาเรียนรู้ได้…หรือใช้เวลามากกว่านั้นก็ไม่มีปัญหา

 

 

ด้วยเหตุนี้พูดด้วยความรู้ความสามารถทางวิทยาศาสตร์ เธอเหนือชั้นกว่าจางจื่ออันไปมาก เหนือกว่าคนส่วนใหญ่บนโลกไปมาก

 

 

อุปสรรคเดียวที่ขัดขวางระหว่างเธอกับนักวิทยาศาสตร์หัวกะทิ ก็คือเธอไม่มีเครื่องมือทดลองระดับสูงพวกนั้น ถึงอย่างไรก็พูดได้ว่าวิทยาศาสตร์ที่กำลังก้าวหน้าอยู่ในยุคปัจจุบันมีรากฐานมาจากการทดลอง จากกล้องจุลทรรศน์ควอนตัม ไปจนถึงเครื่องเร่งอนุภาคมิวออน เพราะในความทรงจำของจางจื่ออันขาดเครื่องมือทดลองพวกนี้และโครงสร้างหลักการ ด้วยเหตุนี้เธอจึงไม่สามารถสร้างโลกความฝันขึ้นได้โดยเริ่มจากศูนย์

 

 

ไม่มีผลการทดลองที่น่าเชื่อถือมาเป็นพื้นฐาน ถึงแม้ทุ่มเทวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากแค่ไหน ก็เหมือนเดินทางที่ผิดพลาดขึ้นเรื่อยๆ

 

 

ดังนั้น เธอจึงละทิ้งวิทยาศาสตร์ที่ต้องทดลองทุกอย่าง เริ่มค้นคว้าจากทฤษฎีคณิตศาสตร์และทฤษฎีฟิสิกส์ เพราะสองทฤษฎีนี้ไม่ต้องใช้เครื่องมือทดลอง แค่กระดาษหนึ่งแผ่นกับปากกาหนึ่งแท่งก็พอแล้ว

 

 

ไม่มีคุณครูคอยชี้แนะ ไม่มีเพื่อนช่วยค้นคว้า ไม่มีช่วงการศึกษาช่วยสนับสนุน ความยากลำบากมากมาย แต่ความยากลำบากพวกนี้ไม่ได้ยากจะควบคุมเหมือนเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เพราะเธอมีเวลา

 

 

จางจื่ออันมีความทรงจำอันยากลำบากเป็นศตวรรษ เขาเองก็ไม่เข้าใจ แต่เคยได้ยิน เจตจำนงเสรีไม่ได้โดดเด่นมากเท่ากับความยุ่งยากพวกนี้ เพราะอยู่ในมุมลึก และไม่ค่อยได้รับความสนใจในโลกมนุษย์ เพราะอย่างน้อยความยุ่งยากและการคาดคะเนอย่างอื่นก็มีทิศทางการยืนยัน ส่วนเรื่องนี้…เหมือนจะทำได้แค่คาดเดา

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น การพิสูจน์ว่าเจตจำนงเสรีมีอยู่หรือไม่ มันมีประโยชน์อะไรล่ะ

 

 

แถมไม่ได้เริ่มจากตื่นนอนทุกเช้า สับเปลี่ยนหมุนเวียนระหว่างบ้าน รถ ธนบัตร ลูก ภรรยาราวกับไฟจราจร มีความแตกต่างอะไรกัน สุดท้ายก็เข้านอนอย่างเหนื่อยล้าตอนกลางดึก ไม่ว่านี่เป็นสิ่งที่ชะตากำหนดหรือเอาแต่โทษตัวเอง แล้วมันต่างอะไรกัน พิสูจน์แล้วเปลี่ยนแปลงอะไรได้

 

 

ถึงแม้พิสูจน์ได้สำเร็จ แต่เรื่องที่ควรทำก็ต้องทำต่อไป ทั้งบ้าน รถ ธนบัตร ลูก หรือภรรยา ความจริงแล้วก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ อย่างน้อยก็เปลี่ยนไม่ได้ในแง่ของจิตใจ สู้นับถือนับถือศาสนาที่เชื่อในชาติหน้ายังดีกว่า อย่างน้อยก็ปลอบคุณว่าชีวิตนี้เกิดมาเป็นวัวควายเพื่อไถ่บาป ชาติต่อไปจะได้เกิดมาเป็นคน…

 

 

เพราะงั้นจะพิสูจน์เรื่องนี้ไปให้ได้อะไรขึ้นมา

 

 

อาจจะมีเพียงโอตาคุพวกนั้นที่วันๆ ไม่มีอะไรทำถึงจะสนใจปัญหานี้สินะ

 

 

แต่หลังจากจวงเสี่ยวเตี๋ยศึกษาปัญหานี้อย่างละเอียด เธอกลับหวาดกลัวขึ้นมา เพราะเธอมีเวลาเยอะกว่าพวกโอตาคุ ไม่ต้องกลุ้มใจกับเรื่องในชีวิตประจำวันอย่างเรื่องบ้าน รถ เงิน ลูก และภรรยา สิ่งที่เธอแสวงหาและหวังจะได้มาเป็นสิ่งอยู่ในโลกของจิตวิญญาณ และปัญหาเรื่องเจตจำนงเสรีก็เป็นหัวใจหลักของโลกจิตวิญญาณพอดี

 

 

เธอตั้งอกตั้งใจเรียนในโลกความฝัน เพื่อให้เหมือนตัวละครจอมยุทธในนิยาย ปิดสำนักกังฟูที่เปิดมาหลายปี และกลายเป็นผู้ไร้พ่ายในยุทธภพ

 

 

แต่ถ้าเจตจำนงเสรีไม่มีอยู่ นี่หมายความว่ายังไงล่ะ?

 

 

หมายความว่าไม่ว่าคนบนโลกหรือเธอ ต่างก็เป็นแค่คนธรรมดาในโลกนิยาย มีจุดจบกำหนดเอาไว้ตั้งแต่เกิดแล้ว ถึงระหว่างนั้นฝึกฝนจนไร้เทียมทานในใต้หล้า ก็เจอจุดหักมุมได้ทุกเมื่อ!

 

 

ตัวอย่างแบบนี้ในนิยายยังน้อยอยู่ใช่ไหม

 

 

พอคิดว่าการกระทำทุกอย่างอาจจะถูกด้ายแดงล่องหนชักจูงในความมืด ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็อาจจะไร้ความหมาย เธอกลุ้มใจจนไม่เป็นอันจะทำอะไรแล้ว

 

 

แน่นอนถ้าเจตจำนงเสรีมีอยู่จริงก็คงดี เธอจะได้เลิกกลุ้มใจ แล้วตั้งอกตั้งใจเรียนต่อไป

 

 

ถ้าเจตจำนงเสรีไม่อยู่จริง…เธอจะไม่ยอมรับชะตาชีวิต และจะพยายามหาใครมากำหนดโชคชะตา ไม่ว่าคน เทพ หรือการมีอยู่ของสิ่งที่ไม่อาจจินตนาการได้ เธอจะตามหาเขา จะตั้งใจเรียน แล้วเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเอง

 

 

สภาพกำกวมเพียงอย่างเดียวในปัจจุบัน ทำให้เธอแทบจะเป็นบ้าแล้ว

 

 

เธอหายไปจากโลกจินตนาการของเฟยหม่าซือแล้ว ไม่ได้เดี๋ยวมาผลุบๆ โผล่ๆ ข้างหลังจางจื่ออันอีก ขังตัวเองเอาไว้ในจุดที่ลึกที่สุดในโลกความฝัน ปล่อยปัญหาอย่างอื่นทิ้งไว้ แล้วครุ่นคิดหาทางแก้ไขเรื่องนี้อย่างหนัก

 

 

แต่ทว่า ถึงเธอแทบจะมีเวลาไร้ขีดจำกัด แต่นักวิทยาศาสตร์และนักปรัชญาผู้มีความสามารถทุ่มเทจิตวิญญาณเพื่อคิดปัญหานี้ก็มีไม่น้อยเลยในประวัติศาสตร์ มีความสามารถรอบรู้ขนาดนั้นยังต้องร่วมมือกันคิดและสิ้นหวังไปพร้อมกัน เธอคิดจะทำเรื่องที่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครทำได้เพียงลำพัง ก็ไม่ต่างอะไรกับคนโง่พูดเพ้อเจ้อ

 

 

ต่อมา เธอที่เดือดดาลอย่างบ้าคลั่งก็เอาความโกรธไปลงที่จางจื่ออัน ใครใช้ให้ในหัวสมองของเขามีเรื่องคิดหมกมุ่นกันล่ะ ไม่ให้โทษเขาแล้วจะไปโทษใคร

 

 

จางจื่ออันไม่เคยกลุ้มใจเรื่องนี้มาก่อน เขาไม่เหมือนกับคนทั่วไปตรงที่ในหัวคิดแต่เรื่องบ้าน รถ เงิน ลูก และภรรยา…เอาล่ะ สองข้อหลังยังไม่มี แต่พอเขามีแล้ว ก็คงจะไม่คิดถึงเรื่องเจตจำนงเสรีอีก

 

 

ดังนั้นเพื่อการแก้แค้น เธอจึงลากเขาเข้ามาในโลกความฝันอีก อย่างน้อยต้องให้เขาเรียนรู้ความเจ็บปวดส่วนหนึ่งของเธอ แต่ในใจของเธอกลับรู้สึกเป็นสุขที่ว่า ‘คุณก็มีวันนี้เหมือนกัน’ อาจจะเหมือนอย่างที่เขาคิด เธอมีแนวโน้มเป็นซาดิสม์นิดหน่อยจริงๆ แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม…

 

 

เธอเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจบแล้ว ความจริงภายใต้สีหน้าลอยชายไม่หวาดกลัวซ่อนไฟโกรธรุนแรงเอาไว้ และพร้อมจะระเบิดขึ้นมาได้ตลอดเวลา และยอมรับว่าเป้าหมายความโกรธอย่างรุนแรงของเธอมีแค่จางจื่ออันเท่านั้น

 

 

จางจื่ออันรู้สึกไม่เป็นธรรม  เธอถนัดบุกรุกเข้ามาในความทรงจำของฉันแท้ๆ วุ่นวายแค่ครั้งเดียวยังไม่เท่าไร แต่ใครใช้ให้ยั่วโมโหฉันไม่ได้ แล้วสุดท้ายกลับมาลงที่ฉัน?

 

 

นี่ก็เหมือนโจรบุกรุกเข้าไปในหมู่บ้าน ตอนขโมยของเผลอก้าวพลาด ยังขู่เข็ญเอาเงินจากเจ้าของบ้านราวกับพวกมีเหตุผล…แบบนี้ไม่พูดถึงเหตุผลได้เหรอ? ยังมีกฎหมายอยู่หรือเปล่า?

 

 

น้อยใจไปก็เท่านั้น เขาทำอะไรได้ล่ะ? ไม่พอใจก็ต้องอดทนเอาไว้

 

 

ในความฝัน เธอก็คือเหตุผล และเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด