Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง 1622 ยากจะตัดสินแพ้ชนะ

Now you are reading Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง Chapter 1622 ยากจะตัดสินแพ้ชนะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ถึงอย่างไรหมาป่าหน้าประตูบ้านก็ไม่ใช่ภูตสัตว์เลี้ยง ความเข้าใจของมันมีจำกัด จางจื่ออันพูดพร้อมทำท่าทางอยู่หลายครั้ง มันเหมือนจะเพิ่งเข้าใจความหมายของเขา ถึงได้หันหน้าวิ่งเข้าไปในป่า 

 

 

มีเพียงซิงไห่ ริชาร์ด และพายที่ออกจากบ้านไปพร้อมกับจางจื่ออัน เป็นสัตว์สามตัวที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาภูตสัตว์เลี้ยง เสวี่ยซือจื่อเลือกอยู่กับฟีน่า นั่นก็ดีแล้ว จะได้มีใครคอยระวังหลังให้ 

 

 

ระหว่างที่เขาวิ่งสั้นๆ อยู่หลายก้าว ตอนกำลังจะออกจากหมู่บ้าน ความรู้สึกถูกจับตามองก็เกิดขึ้นอีกครั้ง 

 

 

ครึ่งหลังของการเดินทางในป่า ความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว บางครั้งแรง บางครั้งอ่อน ไม่มั่นคง บางครั้งรู้สึกได้ถึงสายตาทิ่มแทงจนเขาคิดว่าหากหมุนตัวไป ก็จะมองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของผู้จับตามอง แต่พอเขาหันไปข้างหลัง ก็ยังคงมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น 

 

 

เขาไม่อยากสร้างภาระทางจิตใจให้พวกภูตสัตว์เลี้ยงอีก ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย อีกอย่างก็ไม่ได้สร้างผลกระทบอะไร ทำไมต้องจินตนาการให้กลัวด้วย 

 

 

คล้ายกับการจับตามองของวลาดิเมียร์ตอนอยู่ในเมืองหลวงเล็กน้อย เขาไม่ได้รู้สึกถึงเจตนาร้ายจากสายตานั้น แน่นอนว่าไม่เหมือนการจับตามองวิเคราะห์นิสัยของวลาดิเมียร์ การจับตามองครั้งนี้เหมือนการสังเกตการณ์มากกว่า 

 

 

“เจี๊ยกๆ?” 

 

 

พายเห็นเขาผ่อนฝีเท้า จึงทำมือถาม 

 

 

“ไม่มีอะไร ไปกันเถอะ” เขายังซ่อนความสงสัยไว้ในใจ และแบกรับไว้เอง 

 

 

หมาป่าพาเขาเดินไปได้ช่วงหนึ่ง เขายิ่งเดิน ก็ยิ่งรู้สึกตึงเครียด พุ่มไม้แหลม หญ้ารก และพุ่มไม้เตี้ยโค่นลงมากน้อยต่างกันเป็นวงกว้าง บางที่เปื้อนคราบเลือดเล็กน้อย มีขนกระจายอยู่ทั่ว ทั้งขนหมาป่า ทั้งขนแมว เท่านี้ก็รู้ถึงความหนักหนาตอนฝูงหมาป่าคุ้มกันฟีน่าและวลาดิเมียร์ตีฝ่าวงล้อมออกไปได้ทีเดียว 

 

 

พวกเขาเข้าไปในที่ว่างในป่าขนาดเล็ก ที่นี่มีร่องรอยการต่อสู้หลงเหลืออยู่ชัดเจนมาก บนพื้นยังมีเลือดแห้งๆ กองหนึ่ง หยดเลือดชี้ไปยังทางที่พวกเขามาจากใหญ่ไปเล็ก 

 

 

เห็นได้ชัดว่าตรงนี้ก็คือสถานที่ที่วลาดิเมียร์ถูกลอบจู่โจม 

 

 

แต่ฟราเทอร์ เหล่าฉา แล้วก็ศัตรูไปที่ไหนแล้วล่ะ? 

 

 

หมาป่าดมกลิ่นไปมาอยู่บนพื้น กลิ่นของที่นี่มั่วซั่วเกินไป และมันไม่ได้รับการฝึกฝนด้านนี้มา ตามหากลิ่นของฟราเทอร์จากกลิ่นที่ซับซ้อนไม่ใช่เรื่องยาก แต่กลับไม่รู้ว่าตอนนี้มันไปทางไหนกันแน่ 

 

 

เมื่อครู่ริชาร์ดแสดงความเป็นวีรบุรุษ ตอนนี้มันกลับเสียใจเล็กน้อย ถึงอย่างไรตอนอยู่กับกลุ่มใหญ่มันก็เดินเตร่ได้ตามสบาย ฟ้าถล่มลงมามันก็ไม่ต้องต้านทาน ตอนนี้เหลือแค่กลุ่มเล็ก แถมแต่ละตัวยังเป็นไก่อ่อนอีกต่างหาก นี่ทำให้มันรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองเข้าขั้นอันตรายขึ้นทุกที 

 

 

พายก็เคร่งเครียดมาก จับกระบองไม้เอาไว้แน่นจนฝ่ามือซีดขาว 

 

 

ซิงไห่กลับเหมือนปกติ ราวกับไม่รู้สึกถึงความกลัวเลยสักนิด ถึงจะอยู่ในสนามรบเล็กๆ แห่งนี้ 

 

 

อยู่ๆ ก็มีเสียงหอนดังขึ้น 

 

 

บรู๋ววว บรู๋ววว บรู๋ววว 

 

 

เสียงหมาป่าหอนดังมาจากทางใดทางหนึ่งที่ไกลออกไป แต่ฟังดูแล้วไม่ได้ไกลมากนัก 

 

 

จางจื่ออันถอนหายใจ นี่น่าจะเป็นเสียงหอนของฟราเทอร์สินะ? 

 

 

“เฮ้!” เขาชี้นิ้วเรียกหมาป่าตัวนั้น “นี่เป็นเสียงเพื่อนนายใช่ไหม ใช่ฟราเทอร์ไหม” 

 

 

เขาฟังเสียงพูดของฟราเทอร์ออก แต่เสียงหมาป่าหอน…เขาฟังอย่างไรก็เหมือนกัน บางทีเซฮวาอาจจะแยกความต่างได้ แต่เธอไม่ได้อยู่ตรงนี้ 

 

 

หมาป่าขยับหู ท่าทางของมันดูลังเลเล็กน้อย ผ่านไปสองสามวินาทีถึงจะก้าวขาวิ่งไปทางนั้น แล้วมุดหัวเข้าไปในป่า 

 

 

เดินไปอีกพักหนึ่ง หมาป่าตัวนี้ก็เดินช้าลงเรื่อยๆ มันพยายามก้มเอาจมูกเข้าใกล้พื้นดินเพื่อตามหากลิ่น แต่สายตากับงุนงงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับ…หากลิ่นไม่เจอ 

 

 

แต่ทุกขณะที่ผ่านไปจะมีเสียงหมาป่าหอนดังมาจากข้างหน้าไกลๆ เสียงไม่ดัง อยู่ไม่ไกล ราวกับกำลังดึงดูดพวกเขาเข้าไป 

 

 

สถานการณ์แปลกๆ แบบนี้ทำให้จางจื่ออันฉุกคิดขึ้นมาได้ หรือว่าจะเป็นกับดัก? 

 

 

แต่เขาไม่มีวิธีอื่นที่จะตามหาเหล่าฉากับฟราเทอร์แล้ว ถึงแม้รู้ดีว่าเป็นกับดัก เขาก็ทำได้แค่ก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป 

 

 

เดินไปอีกสักพักหนึ่ง 

 

 

พรวด 

 

 

สวบๆ 

 

 

โครมๆ 

 

 

“เฮ่อ!” 

 

 

“ฮ่า!” 

 

 

เสียงต่อสู้อย่างดุเดือดดังมาจากข้างหน้าแว่วๆ รวมถึงเสียงเฮ่อฮ่าจากกระบวนท่าดุดันและการพ่นลมหายใจ 

 

 

ท่านผู้เฒ่าฉานี่! 

 

 

จางจื่ออันรวบรวมสติ ดูท่าทางไม่ใช่กับดัก เหล่าฉากำลังต่อสู้กับศัตรูอย่างดุเดือด แต่ไม่รู้ว่าฟราเทอร์กำลังทำอะไรอยู่ ไม่ได้ยินเสียงของฟราเทอร์เลย 

 

 

วันนี้เหล่าฉาเจอคู่ต่อสู้ที่สูสีอย่างหาได้ยาก พลังที่แท้จริงของมันอาจจะเหนือกว่าเอเมียร์เล็กน้อย แต่การต่อสู้ของเอเมียร์แปลกเกินไป แตกต่างจากกังฟูแบบจีน ใช้ความปราดเปรียวของโครงสร้างร่างกายและข้อต่อของแมวให้เป็นประโยชน์ ทุกครั้งที่จู่โจมด้วยมุมที่คาดไม่ถึง มันก็ไม่ได้ลื่นไหลอะไร 

 

 

อีกอย่างเหล่าฉายังเป็นห่วงสถานการณ์ของวลาดิเมียร์กับฟราเทอร์ มันเดาว่าเอเมียร์แยกมันกับฟราเทอร์ออกจากกันเพราะมีแผนการบางอย่าง ซาเมียลอาจจะควบคุมฟราเทอร์ในด้านใดด้านหนึ่ง ดังนั้นเพื่อเลี่ยงไม่ให้มันกับฟราเทอร์จับทางของพวกมันและร่วมมือกันได้ จึงพามันมาต่อสู้ที่นี่ แต่มันมาที่นี่แล้วถึงจะเข้าใจ อยากจะกลับไปก็ถูกเอเมียร์ขวางไว้ ดูท่าทางต้องจัดการเอเมียร์ให้เสร็จก่อนถึงจะไปรวมตัวกับซาเมียลได้ 

 

 

เอเมียร์เอาจริงเอาจัง กระบวนท่าแปลกประหลาด รูปร่างอ้วนท้วนแต่กลับปราดเปรียวอย่างยิ่ง แลกหมัดกันอยู่หลายร้อยกระบวนท่าก็ยังตัดสินแพ้ชนะไม่ได้ 

 

 

พวกมันไม่ได้แลกหมัดและลูกเตะอยู่บนพื้นเหมือนมนุษย์ สนามรบของพวกมันเป็นรูปทรงสามมิติ จากยอดต้นซีคัวญ่าสูงร้อยเมตร ไปจนถึงระหว่างก้อนหินที่ขรุขระและมืดมิด ทิ้งรอยกรงเล็บของพวกมันไว้เต็มไปหมด กิ่งไม้ ใบไม้ หญ้ารกราวกับถูกเครื่องตัดเนื้อเก็บเกี่ยว ขาดเป็นชิ้นๆ เนื้อเยื่อใบไม้และน้ำหล่อเลี้ยงต้นไม้รินไหลอยู่ทั่วบริเวณ กระจายกลิ่นฉุนจมูกออกมาด้วย 

 

 

สัตว์ทุกตัวแถวนี้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์กินเนื้อหรือสัตว์กินพืช ต่างก็หนีเตลิดไปจนเกลี้ยงแล้ว เพื่อยกสนามต่อสู้ให้กับปิศาจสองตัวนี้ 

 

 

หลังจากสู้กันสองร้อยกระบวนท่า เอเมียร์รู้ว่าไม่ว่าจะเป็นกังฟูหรือประสบการณ์ ตัวเองก็เทียบอีกฝ่ายไม่ได้ มันจะพ่ายแพ้เมื่อไรก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น มันจึงแกล้งก้าวพลาด ก่อนจะร้องตกใจขึ้นครั้งหนึ่ง แล้วตกลงจากต้นไม้เตี้ยๆ ต้นหนึ่ง 

 

 

เหล่าฉาอยากรีบไปสมทบกับฟราเทอร์ พอเห็นว่าใกล้จะชนะแล้วจึงจู่โจมต่อ อยากจะฟันกรงเล็บลงไปที่เอเมียร์ 

 

 

แต่เอเมียร์นอนตะแคงอยู่บนพื้น มันซ่อนอุ้งเท้าข้างหนึ่งไว้ใต้ร่างกาย แล้วขุดดิน เมื่อเห็นว่าเหล่าฉาเข้ามาใกล้ มันก็ยกอุ้งเท้าอย่างรวดเร็ว ทำให้หิน ทราย และดินกระเด็นไปปิดหน้าของเหล่าฉา 

 

 

“เลวทราม!” 

 

 

เหล่าฉาทั้งตกใจ ทั้งโกรธ กังฟูของอีกฝ่ายคล้ายกับปรมาจารย์สำนักหนึ่งทีเดียว แต่คิดไม่ถึงว่าจะใช้กลยุทธ์ทรายบังตาที่อันธพาลข้างถนนใช้กันบ่อยๆ แบบนี้ 

 

 

มันก้มหน้าลงทันที ทราย หิน และดินกระแทกบนหมวกไม้ไผ่สานของมันดังโครม แม้จะไม่เข้าตา แต่มันรู้ว่าศัตรูเล่นโกง การจู่โจมกลับที่ชั่วร้ายจะต้องตามมาอย่างแน่นอน ดังนั้นมันยังไม่ทันเงยหน้าก็ถอยกรูดไป อุ้งเท้าหน้ายกขึ้นกันด้านหน้าป้องกันไม่ให้หน้าอกบาดเจ็บบ 

 

 

“^*&$Y@%)(*&!” 

 

 

เป็นไปตามคาด เอเมียร์ใช้ภาษาที่เหล่าฉาฟังไม่รู้เรื่องตะโกนชื่อหนึ่งออกมาอย่างปีติยินดี แล้วใช้กระบวนท่าเดียวกับที่ลอบจู่โจมวลาดิเมียร์อีกครั้ง ยกนิ้วขนานเหมือนกระบี่ แล้วแทงไปที่หน้าอกของเหล่าฉา เป็นท่วงท่าอันมีชื่อเสียงของศาสตร์กังฟูแห่งภูเขาคุนหลุนทางตะวันตก แปลตรงตัวก็คือดัชนีแห่งศรัทธา 

 

 

เหล่าฉาเตรียมป้องกันไว้แล้ว แต่อุ้งเท้าสองข้างก็กันได้เพียงจำกัด และปกป้องตำแหน่งหน้าอกทั้งหมดไม่ได้ 

 

 

หูของเหล่าฉาได้ยินเสียงกระบี่แหวกลม ในใจรู้ว่าท่าไม่ดีแล้ว จึงทำใจ เปลี่ยนอุ้งเท้าทั้งสองข้างจากป้องกันเป็นจู่โจม ถ้าอีกฝ่ายไม่ถอนนิ้วไป ก็อาจจะบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย 

 

 

ตอนนี้เอง มันได้ยินจางจื่ออันเลียนเสียงท่าดัชนีของเอเมียร์ “เอ๋! แสงแห่งมารดาแกสิ!” 

 

 

เขากดเปิดไฟฉายส่องไปที่ตาของเอเมียร์ทันที 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด