Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง 1656 กินฟรี

Now you are reading Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง Chapter 1656 กินฟรี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จางจื่ออันเข้าใจแล้ว ลั่วชิงอวี่เอาใจและหลอกล่อนักศึกษาใหม่กลุ่มหนึ่งมาเป็นแบบถ่ายรูปของเขา พวกรุ่นน้องสาวๆ ที่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยได้ยินว่าประธานชมรมถ่ายรูปจะถ่ายรูปให้เธอด้วยมือตัวเอง พวกเธอต้องดีใจมากแน่นอน ใครไม่อยากเก็บช่วงเวลาวัยเยาว์อันแสนงดงามไว้ในอัลบั้มรูปบ้างล่ะ แต่ฝีมือของลั่วชิงอวี่…อืมมม 

 

 

ทั้งยอดเขาเงียบสงบ ได้ยินแต่เสียงพวกเขาโหวกเหวกโวยวาย 

 

 

พวกผู้หญิงเห็นฟราเทอร์ก็กลัวเล็กน้อย แต่ฟราเทอร์กลิ้งอย่างซุกซนบนพื้นทั้งที ไม่นานก็หยอกเย้าพวกเธอได้แล้ว แถมยังระวังตัวน้อยลงด้วย ถึงอย่างไรมันก็ถูกล่ามอยู่ 

 

 

หญิงสาวใจกล้าคนหนึ่งยังลองเข้าใกล้มัน เห็นมันอ่อนโยนผิดปกติ ไม่มีเจตนาร้ายเลยสักนิด จึงเล่นกับมันอย่างสนุกสนาน 

 

 

ลั่วชิงอวี่ยุ่งอยู่กับการจัดท่าโพสให้สาวๆ พวกรุ่นน้องในชมรมเลือกมุม บางครั้งเข้ามาลงมือจัดการเอง ยุ่งจนเหนื่อยล้าไปหมด 

 

 

หญิงสาวสองคนเพิ่งถ่ายรูปเสร็จ ขณะที่นั่งพักอยู่บนก้อนหิน พวกเธอก็หันหน้าไปมองโรงน้ำชาอิ่นอู้ด้วยสีหน้าอิจฉา แล้วออดอ้อนลั่วชิงอวี่เชิงล้อเล่น “รุ่นพี่! รุ่นพี่! พวกเราโพสท่าเหนื่อยมากเลย เมื่อยหน้าไปหมดแล้ว หิวน้ำด้วย เลี้ยงน้ำชาพวกเราหน่อยนะคะ!” 

 

 

“นั่นสิคะ รุ่นพี่ พวกเราไปถ่ายรูปในโรงน้ำชากันนะ เอาแต่ถ่ายอยู่ข้างนอกน่าสนุกยังไงกัน” หญิงสาวคนอื่นถือโอกาสโน้มน้าวด้วย 

 

 

ลั่วชิงอวี่มองไปบนแผ่นป้ายไม้ที่เขียนราคาเอาไว้ครั้งหนึ่ง แล้วขู่พวกเธอว่า “ร้านนี้เป็นโรงเตี๊ยมชั่วร้ายเลื่องชื่อ ได้ยินว่าชาข้างในตรวจพบยาฆ่าหญ้าด้วย เห็นแก่สุขภาพของพวกเธอ…กินน้ำดีกว่านะ!” 

 

 

ขณะพูด เขาก็ควักน้ำแร่สองขวดออกมาจากกระเป๋าสะพายแล้วส่งให้พวกเธอ ยี่ห้อไอซ์ดิว ราคาหนึ่งขวดคือหนึ่งหยวน ยังสู้แมวในร้านของจางจื่ออันไม่ได้เลย 

 

 

พวกสาวๆ สมัยนี้ฉลาดเป็นกรด จะถูกคำโกหกห่วยๆ แบบนี้หลอกได้อย่างไร แต่พวกเธอก็บุ้ยปากเปิดขวดไอซ์ดิว 

 

 

ถึงจางจื่ออันมีความทรงจำเลวร้ายในโรงน้ำชาอู้อิ่น แต่ก็ไม่ฟังพวกข้างๆ แล้ว เพราะชมรมถ่ายภาพและพวกสาวๆ ต่างก็อาศัยโรงน้ำชาเป็นแบ็คกราวด์ แต่ดันไปใส่ร้ายร้านเขาแบบนี้อีก 

 

 

ลั่วชิงอวี่ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงบ่นของพวกสาวๆ ถึงอย่างไรเขาก็หลอกพวกเธอมาถ่ายรูป อย่างมากกลับไปแล้วค่อยเปลี่ยนหญิงสาวอีกกลุ่ม นักศึกษาใหม่เยอะจะตาย ต้องมีสักสองสามคนมาติดกับอยู่ดีนั่นแหละ 

 

 

“จริงสิ รุ่นพี่ลั่ว เมื่อกี้นายเห็นเด็กผู้หญิงมัธยมต้นไหม” จางจื่ออันสอบถาม 

 

 

“เห็น…เดี๋ยวก่อน! คุณอย่าเรียกผมว่ารุ่นพี่ลั่วเพราะผมหน้าแก่สิ!” ลั่วชิงอวี่เพิ่งเอ่ยปาก เขาก็รู้ตัวทันที “ผมไม่ใช่รุ่นพี่ของคุณนะ!” 

 

 

“เห็นค่ะ! เห็น! เป็นสาวน้อยหน้าตาสวยมากเลยค่ะ! อย่างกับตุ๊กตากระดาษแน่ะ!” 

 

 

กลับเป็นสาวๆ ที่อยู่ด้านข้างพูดต่อ 

 

 

“เอ๋? เธอเข้าไปในโรงน้ำชาเหรอ” จางจื่ออันถาม 

 

 

“ใช่ค่ะ! รุ่นพี่ลั่วยังอยากขอเธอถ่ายรูปอยู่เลย แต่เธอไม่สนใจเขาเลยสักนิด เขายังบอกอีกว่าจะเลี้ยงน้ำชาเธอด้วยนะคะ แต่สุดท้ายเธอก็เดินเข้าไปในโรงน้ำชาคนเดียว” 

 

 

พวกผู้หญิงจ้องลั่วชิงอวี่ด้วยสีหน้าตำหนิติเตียน ถ้าสายตาฆ่าคนได้ ลั่วชิงอวี่ก็คงพลัดตกจากยอดเขาไปแล้ว 

 

 

ลั่วชิงอวี่ถามด้วยความสงสัย “คุณถามถึงเด็กผู้หญิงทำไม คุณมีแผนอะไร” 

 

 

“นายมีแผนอะไรล่ะ? นายก็ขวางเธอเพราะอยากถ่ายรูปไม่ใช่เหรอ…” จางจื่ออันย้อนถาม 

 

 

ลั่งชิงอวี่มีเหตุผลพอที่จะพูดอย่างเต็มที่ “แสวงหาศิลปะและความสวยงาม ผิดด้วยเหรอ?” 

 

 

จางจื่ออันเงียบแล้วคิด “เอาล่ะ นายพูดถูก ฉันรู้จักเด็กผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่ง รอเธอขึ้นมัธยมต้นแล้วจะแนะนำให้นายรู้จักนะ…จริงสิ เธอชื่อหวางหย่าหนิง” 

 

 

“หวางเหย่าหยิงเหรอ ได้ ผมจะจำชื่อนี้ไว้” 

 

 

จางจื่ออันไว้อาลัยแทนเขาสองสามวินาที นึกออกเลยว่าต่อไปเขาจะออกจากมหาวิทยาลัยด้วยรูปแบบของการติดคุก… 

 

 

พอไม่ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์อะไรจากลั่วชิงอวี่ จางจื่ออันจึงขยิบตาให้เหล่าฉาครั้งหนึ่ง แล้วเดินเข้าไปในโรงน้ำชาท่ามกลางสายตาอิจฉาของพวกเธอ 

 

 

เขาผลักประตูโรงน้ำชา กลิ่นดอกไม้และสมุนไพรปนกันสายหนึ่งก็ค่อยๆ ฟุ้งออกมา เขากับเหล่าฉาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ โดยพร้อมเพรียง ตอนเขาดื่มชาก็สวาปามเหมือนวาฬ ดื่มเหมือนวัว สำหรับเขาแล้วชิมใบชาดีกับใบชาแย่แล้วไม่รู้สึกต่างกัน แต่นี่ก็พิสูจน์ว่าใบชาที่เขาดื่มยังดีไม่พอ ไม่อย่างนั้นขอแค่เป็นคนที่มีลิ้นก็แยกความแตกต่างได้ทั้งนั้น 

 

 

ในโรงน้ำชามืดเล็กน้อย แล้วก็เงียบมาก มีลูกค้าแค่คนเดียว ก็คือเด็กผู้หญิงวัยมัธยมต้นคนนั้น เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่งเพียงลำพัง กำลังเท้าคางรอชามาเสิร์ฟร ส่ายหน้าเล็กน้อย มองฝีมือการชงชาของเจ้าของร้านราวกับสนใจอย่างมาก 

 

 

เธอหันหน้าเข้าหาเคาน์เตอร์ จางจื่ออันยังคงมองไม่เห็นหน้าเธอจากข้างหลัง และเขาก็ไม่ได้สนใจจะรู้หน้าตาของเธอ จึงหาโต๊ะว่างนั่งลงตามใจชอบ 

 

 

“ยินดีต้อนรับค่ะ มากี่ท่านค่ะ” 

 

 

เสี่ยวเอ้อร์เดินเข้ามาด้วยฝีเท้าเบาหวิว กำลังจะยื่นส่งเมนูให้จางจื่ออัน แต่อยู่ๆ ก็จ้องหน้าของเขาด้วยท่าทางสงสัย พลางตกตะลึง 

 

 

“คุณ…คุณอีกแล้ว! คนกินฟรี!” 

 

 

ในที่สุดเธอก็นึกออกแล้ว ก่อนจะชี้หน้าเขาแล้วร้องด้วยความโกรธเคือง 

 

 

จางจื่ออัน “…” 

 

 

คิดถึงว่าเจอกันแค่ครั้งเดียวเมื่อเกือบหนึ่งปีก่อน เธอยังจำเขาได้ คงไม่ได้ให้เขาขึ้นบัญชีดำตอนที่เขาไม่รู้เรื่องหรอกใช่ไหม? 

 

 

เสี่ยวเอ้อร์ยกเมนูไว้ตรงหน้าอกราวกับโล่ป้องกัน แล้วมองเขาพร้อมเตรียมป้องกัน “คุณมาทำไมอีก ยังอยากกินฟรีอีกเหรอ” 

 

 

“เฮ้อ! พูดแบบนี้ไม่ได้นะ ครั้งก่อนเถ้าแก่เนี้ยร้านคุณไม่คิดเงินผมแท้ๆ ไม่ได้กินฟรีดื่มฟรีสักหน่อย…” จางจื่ออันแก้ไขด้วยความไม่พอใจ 

 

 

ตอนเขามาครั้งก่อน ร้านขายสัตว์เลี้ยงยังมีหลายอย่างต้องทำ เงินทุกหยวนที่หามาได้ก็ต้องใช้อย่างประหยัด ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายในสถานที่หรูหราแบบนี้ไม่ได้ ตอนนี้ก็เกือบหนึ่งปีแล้ว แม้เขาจะยังนับไม่ได้ว่าเป็นเศรษฐี แต่การใช้จ่ายเงินระดับนี้เขาก็จ่ายไหวแล้ว ดังนั้นคราวนี้เขามาใช้บริการจริงๆ 

 

 

สายตาของเสี่ยวเอ้อร์กลับกำลังพูดอย่างเห็นได้ชัดว่า ‘ผีสิถึงจะเชื่อคุณ! ครั้งก่อนคุณหลอกพวกเราเอาไว้มาก ครั้งนี้อย่าหวังเลยว่าพวกเราจะติดกับ!’ 

 

 

“อันซิน! พูดกับลูกค้าแบบนั้นได้ยังไง” 

 

 

เมื่อครู่เถ้าแก่เนี้ยแซ่เย่กำลังตั้งอกตั้งใจชงชาให้เด็กสาวมัธยมต้น ในที่สุดตอนนี้ก็ว่างแล้ว เธอทำหน้าบึ้งตำหนิเสี่ยวเอ้อร์ 

 

 

“พี่เย่ พี่จำเขาไม่ได้เหรอคะ คนน่ารังเกียจที่มากินฟรีร้านเราเมื่อปี่ที่แล้ว…” เสี่ยวเอ้อร์ชี้หน้าจางจื่ออันด้วยความคับแค้น 

 

 

“ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้ว ว่าเข้ามาในร้านก็เป็นลูกค้าทั้งนั้น! ทำเรื่องที่เธอควรทำ ขอโทษลูกค้าซะ!” เถ้าแก่เนี้ยขึ้นเสียง 

 

 

เสี่ยวเอ้อร์โมโหจนกัดฟันกรอด อยากจะพุ่งเข้าไปกัดเขาใจจะขาด ไม่คิดจะขอโทษด้วยซ้ำ 

 

 

“แฮ่ม! ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ผมรู้ว่าเธอกำลังล้อเล่น…ฮ่าๆ! เอาเมนูมาให้ผมดูหน่อยสิครับ พวกคุณเพิ่มเมนูใหม่อะไรหรือเปล่า” จางจื่ออันเอ่ยปากไกล่เกลี่ยเอง 

 

 

เสี่ยวเอ้อร์แย่งพูดว่า “น้ำเปล่าใส่น้ำแข็งไม่มีแล้ว คุณลูกค้าช่วยสั่งอะไรที่มันเหนือชั้นกว่านั้นหน่อยแล้วกัน!” 

 

 

“ผมมาดื่มชา น้ำเปล่าใส่น้ำแข็งมันคืออะไรกัน” จางจื่ออันเข้าใจแต่แสร้งไม่รู้เรื่อง หรือว่าโรงน้ำชาแห่งนี้เพิ่มน้ำเปล่าใส่น้ำแข็งลงไปในเมนูจากเรื่องครั้งก่อนแล้ว? 

 

 

“เฮอะ! ฉันอยากดูว่าครั้งนี้คุณจะเล่นลูกไม้อะไรอีก!” 

 

 

เสี่ยวเอ้อร์เห็นเถ้าแก่เนี้ยจะโมโหแล้ว คราวนี้ถึงโยนเมนูลงบนโต๊ะของเขาด้วยท่าทางไม่พอใจ 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด