Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง 1628 สัญลักษณ์ประจำเผ่า

Now you are reading Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง Chapter 1628 สัญลักษณ์ประจำเผ่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

 

ฟราเทอร์ผิดหวังมาก ในใจโหวงเหวงเหมือนเหวลึก ไม่ใช่เพราะหมาป่าที่ออกมาช่วยมันเพียงช่วงสั้นๆ แล้วก็จากไปทันที และไม่ใช่เพราะเพิ่งทำลายศัตรูตัวฉกาจที่มันเอาชนะด้วยตัวมันเองไม่ได้เท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้นคือมันสับสนงงงวยในโชคชะตาของตัวเอง 

 

 

ตั้งแต่มาปรากฏตัวบนโลกใบนี้ มันมีเป้าหมายที่ชัดเจน นั่นคือชำระป่าเรดวูดให้บริสุทธิ์ ขับไล่ปิศาจที่อยู่ในป่า 

 

 

มันไม่แน่ใจว่าเป้าหมายนี้เข้ามาในหัวของมันอย่างไร คิดแค่ว่านี่เป็นการชี้นำจากเทพเท่านั้น เทพชี้นำให้มันมาจากซานฟรานซิสโกจนถึงป่าเรดวูด และชี้นำให้มันเจอกับจางจื่ออัน ตอนนี้มันทำหน้าที่ได้ด้วยการช่วยเหลือของเขาและภูตสัตว์เลี้ยงตัวอื่น แต่กลับไม่ได้รับการชี้นำต่อ ว่าหลังจากนี้มันต้องไปที่ไหน มันจึงรู้สึกสับสนในตัวเอง 

 

 

มันต้องตามหาหนทางของตัวเอง ก็เหมือนพี่น้องมนุษย์ของมัน เขาผ่านวัยเด็กและวัยรุ่นที่ไม่แตกต่างอะไรกับคนธรรมดาแล้ว และเจอกับความสับสนในช่วงวัยรุ่น แต่เขาก็ตามหาหนทางของตัวเองเจอในที่สุด เป็นหนทางที่คนอื่นไม่เข้าใจ แต่กลับมุ่งสู่เกียรติยศสูงสุด 

 

 

เสียงพรวดพราดดังขึ้นจากในป่า มีคนเหยียบกิ่งไม้และใบไม้ที่ร่วงลงบนพื้นเกิดเป็นเสียงดัง เดินฝ่าพุ่มไม้หนามและต้นไม้เตี้ย ขณะเดียวกันยังหลบหลีกลูกเห็บใต้เท้าด้วยความระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้ลื่น 

 

 

“ฉิบหาย ลูกเห็บตรงนี้ใหญ่กว่าอีก!” 

 

 

“ฉันก็เคยได้ยินนะ ว่าชายฝั่งตะวันตกของอเมริกามีอาณาเขตติดกับเขตรอยเลื่อน และยังมีภูเขาไฟเยลโลสโตนที่คล้ายระเบิดเวลา ไม่ช้าก็เร็วต้องเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมากกว่าระดับแปดเข้าสักวัน แผ่นดินไหวเมื่อกี้เกือบทำฉันกลัวจนฉี่ราด คิดว่าวันโลกแตกแล้วซะอีก…” 

 

 

จางจื่ออันข้ามต้นไม้ที่ไม่รู้ว่าถูกลูกเห็บกระแทกล้มหรือล้มระหว่างแผ่นดินไหว ก่อนจะมองเห็นฟราเทอร์ที่บาดเจ็บทั่วตัว จึงรีบถามว่า “ฟราเทอร์ นายโอเคไหม ทำไมแผลเยอะขนาดนี้” 

 

 

ฟราเทอร์ก้มหน้ามองตัวเอง “พวกนี้เป็นแผลภายนอก ไม่ร้ายแรงมาก” 

 

 

จางจื่ออันวางใจแล้ว “งั้นก็ดี แต่ก็ต้องรีบฆ่าเชื้อโดยเร็ว เพื่อกันไม่ให้แผลติดเชื้อ จริงสิ แมวตัวนั้นล่ะ?” 

 

 

เขากำไฟฉาย พร้อมกับหันหน้ามองไปรอบๆ ด้วยความเคร่งเครียด แม้ท้องฟ้าจะสว่างขึ้นมาแล้ว แต่ถึงอย่างไรไฟฉายก็เป็นอาวุธเพียงอย่างเดียวของเขา 

 

 

“แมวตัวนั้น…ลงนรกไปแล้ว” ฟราเทอร์พูด 

 

 

“เอ๋? เจ๋งขนาดนั้นเลย?” จางจื่ออันทั้งตกใจ ทั้งนับถือมัน เมื่อครู่มีลูกเห็บและเกิดแผ่นดินไหว ทำให้เขาคิดจริงๆ ว่าโลกจะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ยังคิดไปว่านี่อาจจะเป็นเทพที่แท้จริงทำลายมนุษย์ด้วยภัยพิบัติ แต่คิดไม่ถึงว่าฟราเทอร์จะมีชีวิตรอดจาการต่อสู้เหนือจินตนาการครั้งนี้และฆ่าศัตรูได้ แมวปิศาจฆ่าไม่ตายที่มีเก้าชีวิตตัวนั้น ไม่ได้เจ๋งจริงสินะ? 

 

 

ฟราเทอร์มองสีหน้าของเขา รู้ว่าเขาเข้าใจผิดแล้ว มันพูดถึงนรกตรงตัวตามความหมาย ไม่ได้บอกว่าแมวตัวนั้นตายแล้ว แต่ให้อธิบายก็ยุ่งยากเกินไป โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่เชื่อในเรื่องภูตผีปิศาจ มันจึงตัดสินใจไม่แก้ความเข้าใจผิดของเขา 

 

 

“ข้าไม่ได้เก่งกาจขนาดนั้น แต่มีหมาป่าอีกตัวหนึ่งช่วยข้าไว้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้ที่นอนอยู่ที่นี่คงเป็นข้าเอง” ฟราเทอร์ชี้ทางที่หมาป่าตัวนั้นจากไป 

 

 

“เอ๋?” 

 

 

ครางนี้จางจื่ออันตะลึงหนักกว่าเดิม แต่เขาก็คิดว่านั่นเป็นแค่หมาป่าธรรมดาอีกตัวหนึ่งเท่านั้น จึงพูดในใจว่าหมาป่าตัวนั้นโชคดีจริงๆ วิ่งฝ่าลูกเห็บหนาแน่นขนาดนั้นเข้ามาได้ 

 

 

“ที่จริงพวกเขาอยากมาช่วยนาย แต่ลูกเห็บรุนแรงมากเกินไป พวกเราไม่มีทางเข้าใกล้ได้เลย…” เขาอธิบาย “แมวอีกตัวก็เจ็บหนักจากการสู้กับเหล่าฉา จากนั้นก็ถูกหมาป่าตัวหนึ่งฉีกเป็นชิ้นๆ…แต่น่าจะไม่ใช่หมาป่าตัวเดียวกันที่นายพูดถึง รู้สึกว่าหมาตัวนั้นได้รับผลกระทบจากบางอย่าง อยู่ๆ ก็คลั่งขึ้นมาก” 

 

 

“ไม่เป็นไร จบเรื่องแล้ว” ฟราเทอร์เดาว่าหมาป่าตัวที่ฉีกเอเมียร์เป็นชิ้นๆ น่าจะได้รับสัญญาณจากภูตสัตว์เลี้ยงหมาป่าที่ยังไม่สมบูรณ์ตัวนั้น ถึงอย่างไรพวกมันก็เป็นหมาอเมริกาเหนือ 

 

 

“งั้นพวกเรากลับไปพักที่หมู่บ้านหน่อยเถอะ แผลของนายก็ต้องฆ่าเชื้อนะ” 

 

 

ไม่มีใครปฏิเสธข้อเสนอนี้ ทุกคนอยากพักผ่อนกันทั้งนั้น และจางจื่ออันก็เป็นห่วงสภาพการฟื้นตัวของ วลาดิเมียร์ด้วย 

 

 

ตอนกลับมาถึงหมู่บ้าน พระอาทิตย์ก็ขึ้นแล้ว อากาศวันนี้มีเมฆมาก มีลมเอื่อย ทำให้คนสบายใจมาก 

 

 

เฟยหม่าซือรออยู่ที่หน้าหมู่บ้านแล้ว พอเห็นทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัยกันถ้วนหน้า มันก็มีท่าทางดีใจอย่างยิ่ง 

 

 

“เฟยหม่าซือ นายไม่เป็นไรเหรอ พวกวลาดิเมียร์เป็นยังไงบ้าง?” จางจื่ออันถาม 

 

 

เฟยหม่าซือแอบไม่พอใจเรื่องที่เขาไม่พามันไปต่อสู้ด้วย มันแค่ต้องพักผ่อนนิดหน่อย แต่ก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว พอตื่นแล้วก็พบว่าเขากับภูตสัตว์เลี้ยงสองสามตัวไปกันหมดแล้ว 

 

 

ทีแรกมันอยากตามไป แต่ก็ห่วงว่าพวกที่เหลือจะถูกศัตรูถือโอกาสเข้าจู่โจม จึงได้แค่อยู่อย่างกระวนกระวาย ต่อมามันมองเห็นปรากฏการณ์จากท้องฟ้า ลำแสง ลูกเห็บ และแผ่นดินไหว มันจึงยิ่งเป็นห่วง จนต้องวิ่งออกมารอที่หน้าหมู่บ้าน 

 

 

วลาดิเมียร์ฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี สีหน้าดีขึ้นมากแล้ว เมแกนเพิ่งถ่ายเลือดให้มันเสร็จ เธอก็เหนื่อยมากเหมือนกัน เลยเพิ่งหลับไป” มันตอบ 

 

 

“อย่างนี้นี่เอง…” จางจื่ออันวางใจแล้ว 

 

 

“กว่าพวกเขาจะได้นอนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเรารออยู่ข้างนอกสักพักแล้วกัน อย่าปลุกพวกเขาเลย แผลของข้าไม่เป็นไร” ฟราเทอร์เสนอ 

 

 

“ก็ได้ งั้นรอสักครึ่งชั่วโมงค่อยเข้าไป ตอนนั้นพวกเขาน่าจะหลับลึกแล้ว” 

 

 

จางจื่ออันกับพวกภูตสัตว์เลี้ยงต่างก็นั่งพักอยู่บนพื้น 

 

 

“ฟราเทอร์ จากนี้นายคิดจะทำอะไร อยู่ในป่าต่อเหรอ” เฟยหม่าซือถาม 

 

 

แต่ฟราเทอร์ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ 

 

 

ขณะที่มันกำลังกลุ้มใจว่าต้องตอบคำถามของเฟยหม่าซืออย่างไร อยู่ๆ มันก็มองเห็นใบหน้าหนึ่ง จึงลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้น และจ้องมองไปที่ใบหน้านั้น 

 

 

พูดให้ถูกต้อง นั่นเป็นใบหน้าที่ใช้ไม้แกะสลักออกมา ไม่ใช่หน้าคน แต่เป็นหน้าหมาป่า และร่างกายก็เป็นหมาป่า กำลังนั่งอยู่บนยอดเสาไม้ตรงหน้าหมู่บ้านพร้อมสีหน้าดุร้าย 

 

 

ใบหน้านั้นทาสีเป็นเส้นๆ เต็มไปหมด บนหัวมีขนนกยาวๆ เสียบอยู่รอบหนึ่ง ขนนกก็เป็นไม้แกะสลัก ดังนั้นเจอกับลมฝนแล้วก็ยังคงเดิม ถ้าเป็นขนนกจริง ก็คงหลุดร่วงจนเกลี้ยงแล้ว 

 

 

เหมือนกับใบหน้าของหมาป่าที่มันเห็นแวบหนึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีผิดเพี้ยน 

 

 

แน่นอนว่าหน้าหมาป่าไม้แกะสลักถูกลมโกรกและตากฝนมานานปี สีทาหน้าส่วนใหญ่ซีดจางแล้ว แต่จากสีทาหน้าที่ยังเหลือก็ยังคงจินตนาการหน้าตาตอนเพิ่งแกะสลักเสร็จได้ 

 

 

เสาไม้นั้นแกะสลักจากต้นไม้ทั้งต้น ทาสีสันต่างๆ เอาไว้ แต่สีก็ซีดจางมากแล้ว ถ้าไม่สนใจรายละเอียด ก็คงคิดว่าเป็นต้นไม้ตายต้นหนึ่ง อีกทั้งต้นไม้นี้ยังสูงทีเดียว ด้วยเหตุนี้ก่อนหน้านี้พวกเขาจึงมองข้ามหน้าหมาป่าบนเสาไม้ไป ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครเงยหน้ามอง และตอนมาถึงหมู่บ้านก็เป็นตอนกลางคืน แสงสว่างไม่เพียงพอ 

 

 

“นั่นคือ…” ฟราเทอร์ร้องขึ้นอย่างตกใจ 

 

 

จางจื่ออันคิดว่าเกิดเรื่องอะไรไม่คาดคิดอีก จึงรีบคว้าไฟฉาย และเดินตามเสียงไป 

 

 

พอเห็นเสาไม้และหมาป่าแกะสลักชัดเจน เขาก็สบายใจในทันที “อ๋อ เอ่อ…ถ้าฉันเดาไม่ผิด นั่นน่าจะเป็นเสาสัญลักษณ์ประจำเผ่าของชาวอินเดียแดง ส่วนใหญ่พวกเขาศรัทธาหมาป่า” 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด