Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง 1634 กรุ๊ปเลือด

Now you are reading Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง Chapter 1634 กรุ๊ปเลือด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หวางเฉียนกับหลี่คุนเพิ่งยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้แตงโมเสร็จ พวกเขาก็เห็นฟราเทอร์แล้วเหมือนกัน แต่พวกเขาไม่ได้ประหลาดใจนัก เพราะชินกับการที่จางจื่ออันพาสัตว์แปลกๆ กลับมาทุกครั้งที่ไปต่างประเทศแล้ว ส่วนใหญ่ก็แค่พูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนชายที่เป็นคนรักสัตว์ในต่างประเทศ 

 

 

ส่วนเรื่องจริงที่ว่าฟราเทอร์เป็นหมาป่า พวกเขาที่ไม่ช่างสังเกตยิ่งดูไม่ออก เดิมทีก็แยกหมาป่ากับสุนัขได้ยากอยู่แล้ว หมาป่าและสุนัขบางสายพันธุ์ ถึงเป็นผู้เชี่ยวชาญสัตว์ป่าก็แยกยาก เสี่ยวฉินไช่เพิ่งพูดออกมาสบายๆ แบบเด็กน้อยที่ไม่มีเจตนาร้ายเท่านั้น แม้แต่ผู้ใหญ่มีความรู้ทั่วไปมากกว่า ก็ยังคิดว่านั่นเป็นสุนัขตัวหนึ่ง 

 

 

นอกจากแตงโม พวกเขาเป็นห่วงเรื่องของฝากที่สุด อินทผลัมและเครื่องรางทอง 18K ที่นำกลับมาจากอียิปต์ครั้งก่อนทำให้พวกเขาภูมิใจมาก จึงคาดหวังกับการเดินทางไปอเมริกาในครั้งนี้ 

 

 

ครั้งนี้จางจื่ออันไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรจริงจัง ของที่ขายในตลาดอเมริกาก็ผลิตในประเทศจีนทั้งนั้น ของในป่าก็เอากลับมาไม่ได้ จะมีของฝากอะไรที่ไหนกัน แต่พวกเขาจะเอาให้ได้ เขาก็ทำได้แค่รับปากว่าจะส่งของขวัญไปให้พวกเขาที่หอพัก 

 

 

ขนแกะส่งมาแสนไกล น้ำหนักเบาแต่มีคุณค่า* เขาคิดจะใช้ซองจดหมายใส่แผ่นซีดีขาวบวกดำให้พวกเขาเป็นของฝาก ยังแบ่งกันดูที่หอพักได้ด้วย 

 

 

เพิ่งจัดการเรื่องของขวัญเสร็จ หวางเฉียนกับหลี่คุนก็หยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดเริ่มทำความสะอาดด้วยความดีใจ ตอนนี้ได้ยินเสียงแมวร้องอย่างอ่อนแรงแล้ว ถึงจะมองเห็นว่ามีกล่องรองเท้ากล่องหนึ่งวางอยู่บนเคาน์เตอร์เก็บเงิน ในกล่องรองเท้าเป็นลูกแมวตัวหนึ่ง 

 

 

“โอ้ อเมริกาก็มีแมวส้มด้วยเหรอ” หวางเฉียนอย่างสงสัย “แต่แมวส้มอเมริกันตัวนี้เหมือนกับแมวส้มจีนมากเลยไม่ใช่เหรอ” 

 

 

“แมวส้มกระจายอยู่ทั่วโลก มีอยู่ทุกที่นั่นแหละ อีกอย่างนี่ก็คือแมวส้มจีน อาจจะเป็นแมวส้มที่เกิดและโตในเมืองปินไห่ด้วย ฉันเจออยู่ที่หน้าร้านเมื่อเช้า น่าจะมีคนทิ้งมาไว้” จางจื่ออันพูด 

 

 

“หนูกับพี่ชายเจ้าของร้านเจอพร้อมกันค่ะ!” เสี่ยวฉินไช่ยกมือ 

 

 

“โอ้ เสี่ยวฉินไช่มาอีกแล้ว” หลี่คุนสังเกตเห็นว่าบนหน้าของเธอยังมีเม็ดแตงโมติดอยู่ จึงพูดด้วยความขมขื่น “ที่แท้เธอก็เป็นตัวการร่วมทำร้ายแตงโมของพวกเรานี่เอง!” 

 

 

“จะทำยังไงกับแมวตัวนี้ครับ? คงไม่มีใตรมาซื้อแมวส้มที่ร้านขายสัตว์เลี้ยงใช่ไหม” หวางเฉียนเกาหัว “ต้องส่งมันไปหาพี่เสี่ยวเมิ่งไหม? อาจจะมีคนที่เจ็บปวดเพราะเพิ่งเสียแมวไปรับเลี้ยงมันก็ได้ ถึงยังไงคนก็รับลูกแมวได้ง่ายกว่า” 

 

 

ในคลินิกสัตว์เลี้ยงมีแมวและสุนัขที่ถูกเจ้าของทิ้งไว้เพราะป่วยจำนวนหนึ่ง บางคนพาสัตว์เลี้ยงไปที่นั่นและจ่ายเงินค้ำประกันแล้ว แต่พอไปก็ไม่กลับมาอีก และจำนวนเงินค้ำประกันยังไม่พอใช้เป็นค่าใช้จ่ายหลังจากนั้นเลย และมีบางคนทำเหมือนที่ทำกับลูกแมวส้มตัวนี้ ถือโอกาสตอนเช้าตรู่หรือกลางดึกที่คลินิกทุกแห่งยังไม่เปิดกิจการ แอบผูกสัตว์เลี้ยงไว้ที่หน้าคลินิก ก่อนจะกลับไปลำพัง ไม่ว่าสัตว์เลี้ยงร้องเรียกอย่างไรก็ไม่หันกลับไป 

 

 

ตอนพวกแรกจ่ายเงินค้ำประกันก็จะเซ็นสัญญาฉบับหนึ่ง ระบุว่าหากไม่รับสัตว์เลี้ยงไปภายในเวลาที่กำหนด คลินิกมีสิทธิ์ที่จะจัดการสัตว์เลี้ยงอย่างเต็มที่ ส่วนพวกหลังค่อนข้างจัดการยาก เงินค่ารักษาส่วนหนึ่งก็ไม่ได้ ยังต้องเลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยที่ไม่มีค่าตอบแทบไปตลอด เผื่อเจ้าของกลับมาขอคืน 

 

 

สัตว์เลี้ยงที่ถูกทิ้งพวกนี้ ที่พักพิงที่ดีที่สุดย่อมเป็นลูกค้าที่ถูกใจและรับเลี้ยงไป แต่การรับเลี้ยงของคนส่วนใหญ่คือชอบเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็ก เพราะกลัวว่าโตแล้วจะเลี้ยงไม่เชื่อง แต่สัตว์เลี้ยงที่ถูกทิ้งส่วนใหญ่โตกันหมดแล้ว 

 

 

ข้อเสนอของหวางเฉียนก็เป็นวิธีที่ดี แต่รับเลี้ยงลูกแมวค่อนข้างลำบาก และอาจจะไม่เจอลูกค้าที่อยากรับเลี้ยงมัน แต่ถ้าทิ้งมันไว้ที่คลินิก ก็จะเพิ่มปริมาณงานให้คนอื่นมากยิ่งขึ้น 

 

 

ขณะคุยกันอยู่ หลู่อี๋อวิ๋นก็สะพายกระเป๋าและหนีบกราฟฟิคแท็ปเล็ตมาทำงานที่ร้านพร้อมกับเจี่ยงเฟยเฟย พวกเธอเห็นจางจื่ออันกลับมาแล้ว ทั้งประหลาดใจ ทั้งดีใจ แต่พวกเธอไม่ได้ขอของฝากเหมือนกับแรงงานราคาถูกสองคนนั้น และสังเกตเห็นลูกแมวตัวนี้ทันที 

 

 

หลู่อี๋อวิ๋นอุ้มโม่ลี่ออกมาจากในกระเป๋าสะพาย พอเห็นลูกแมวร้องเหมียวๆ น่าสงสาร เธอก็รู้ว่ามันหิวแล้ว จึงไปผสมนมแพะมาให้มันกิน 

 

 

“เดี๋ยวก่อนเสี่ยวอวิ๋น” เจี่ยงเฟยเฟยกลับดึงเธอไว้ แล้วเสนอว่า “มีแมวอะบิสซีเนียนตัวหนึ่งคลอดลูกแมวแล้วเพิ่งหยุดให้นมไปไม่นานนี่ ลองดูสิว่าจะสับเปลี่ยนเสือดาวเป็นรัชทายาทได้ไหม ฉันดูข่าวอยู่บ่อยๆ บอกว่าลูกเสือสมัยนี้ได้นมแมวเลี้ยงจนโต หรือในทางกลับกัน…เสือทำแบบนั้น แมวเหมือนกันก็ไม่น่าจะมีปัญหามั้ง?” 

 

 

ความคิดนี้ได้รับการยินยอมเป็นเอกฉันท์ของทุกคน ถ้าได้ล่ะก็ น่าจะลดทอนความยุ่งยากไปได้มากมาย 

 

 

หวางเฉียนตบหัวครั้งหนึ่ง “ถูกต้อง! ถูกต้อง! ทำไมฉันคิดไม่ถึงเนี่ย…ไม่ใช่สิ ฉันคิดออก แค่พูดออกมาช้าไปก้าวเดียว! ตอนเพื่อนบ้านฉันลงไปเดินเล่นข้างล่าง ก็เคยเก็บลูกแมวกลับมาตัวหนึ่ง แม่แมวที่บ้านเขาเพิ่งคลอดลูกได้ไม่นานพอดี เขาเลยป้ายฉี่ของแม่แมวบนตัวลูกแมวเล็กน้อย แล้วยัดลูกแมวเข้าไปในอ้อมอกของแม่แมวได้สำเร็จ แถมยังกินนมกับแมวตัวอื่นด้วย!” 

 

 

จางจื่ออันกลับโบกมือ “ไม่ได้ แบบนี้อันตรายเกินไป” 

 

 

“อะไรอันตรายเหรอครับ กลัวแม่แมวจะกินมันเหรอ” หลี่คุนถาม 

 

 

พวกเขาฟังจางจื่ออันคอยกระซิบสั่งสอนทุกวัน และได้รู้ความรู้ต่างๆ อย่างเช่น อาหารที่ชอบเป็นชีวิตจิตใจ น่าเสียดายที่ไม่รู้จักนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน 

 

 

“ไม่ขนาดนั้นหรอก แม่แมวจะกินลูกแมวได้ง่ายแค่ตอนเพิ่งคลอดลูกเท่านั้น ตอนนี้แมวอะบิสซีเนียนตัวนั้นหยุดให้นมแล้ว จะเหมือนกันได้ยังไง” จางจื่ออันอธิบาย “หลักๆ คือพวกเราไม่รู้กรุ๊ปเลือดของแมวตัวนี้ด้วย” 

 

 

“อะไรนะ?” 

 

 

พวกพนักงานร้านตะลึงกันทั้งหมด “ให้นมเกี่ยวอะไรกับกรุ๊ปเลือด” 

 

 

หวางเฉียนร้อนใจ “ไม่หรอกครับ เพื่อนบ้านผมก็ทำแบบนี้ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย!” 

 

 

จางจื่ออันถลึงตาใส่เขาครั้งหนึ่ง “นายข้ามถนนตอนไฟแดงทุกวันไม่เป็นไร นายกล้ารับประกันว่าวิ่งตอนไฟแดงแล้วจะรอดไปตลอดไหม?” 

 

 

ตอนวลาดิเมียร์ได้รับบาดเจ็บ จางจื่ออันจำใจต้องใช้เลือดของเฟยหม่าซือถ่ายให้มัน เพราะไม่รู้กรุ๊ปเลือดของมัน รวมถึงกรุ๊ปเลือดของภูตสัตว์เลี้ยงแมวตัวอื่น และเพราะเขาไม่กล้าเสี่ยงดวง 

 

 

นอกจากในสถานการณ์ที่ไม่รู้กรุ๊ปเลือด และความรู้ที่ไม่เป็นที่นิยมอย่างสามารถถ่ายเลือดสุนัขให้แมวในสถานการณ์คับขันได้ ยังมีปัญหาที่มักจะถูกมองข้ามอีกอย่างหนึ่งก็คือ ยัดลูกแมวตัวหนึ่งให้แม่แมวที่อยู่ในช่วงให้นมเรื่อยเปื่อยไม่ได้ 

 

 

คนหรือสัตว์อื่นที่กรุ๊ปเลือดต่างกันถ่ายเลือดให้กันไม่ได้ นี่แทบจะเป็นความรู้ที่ทุกคนรู้กันถ้วนทั่ว เพราะในเลือดมีปฏิกิริยาต่อต้านกรุ๊ปเลือดอื่น ถ่ายเลือดมั่วซั่วอาจถึงตายได้ 

 

 

แต่นอกจากเลือดแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่เลือดต่อต้านเช่นกัน นั่นก็คือนมแมว 

 

 

จางจื่ออันไม่รู้เรื่องทางการแพทย์ของคน ไม่แน่ใจสภาพของคน อย่างเช่น แม่ที่มีเลือดกรุ๊ปเอคนหนึ่งให้นมลูกที่มีเลือดกรุ๊ปบีได้ไหม แต่แมวมีอันตรายแน่นอนในด้านนี้ เดิมทีภูมิคุ้มกันของลูกแมวก็ต่ำอยู่แล้ว เมื่อดื่มนมแม่ของแม่แมวที่มีกรุ๊ปเลือดแตกต่างกัน แอนติบอดี้กรุ๊ปเลือดในนมแม่จะจู่โจมระบบภูมิคุ้มกันของลูกแมว และเกิดการแตกทำลายของเม็ดเลือดแดงในกระแสโลหิตกับสัตว์ที่เกิดใหม่เช่นกัน 

 

 

 

 

 

 

 

 

*ขนแกะส่งมาแสนไกล น้ำหนักเบาแต่มีคุณค่า หมายถึง ของขวัญไม่ได้มีค่าอะไร แต่มีความหมายที่ความรู้สึกต่างหาก 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด