Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง 1672 วันนี้ไม่เหมือนกับเมื่อวาน

Now you are reading Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง Chapter 1672 วันนี้ไม่เหมือนกับเมื่อวาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากหลี่หย่วนเฟยมาถึงอเมริกา เขาได้ชมโรงงานแปรรูปอาหารสุนัขภายใต้การจัดการของอีกฝ่าย เงื่อนไขด้านความสะอาดอนามัยยังพอใช้ได้ แต่ตอนถามถึงที่มาของเนื้อสัตว์ อีกฝ่ายกลับบอกปัดอย่างไม่ใส่ใจ จนเขารู้สึกสงสัยขึ้นมา และยืนกรานจะขอไปเยี่ยมชมโรงฆ่าสัตว์  

 

 

อีกฝ่ายไม่อยากเสียคู่ค้ารายใหญ่นี้ไป จึงจำต้องเชิญเขามาที่ป่าเรดวูด  

 

 

เขาเจอหลี่ผีเท่อที่ป่าเรดวูด แต่ที่ดึงดูดความสนใจของเขาไม่ใช่หลี่ผีเท่อ กลับเป็นชายในชุดคลุมสีขาวแก่และผอมสองคนที่มาพร้อมกับหลี่ผีเท่อ รวมถึงภูตสัตว์เลี้ยงของพวกเขา  

 

 

แมวของหลี่ผีเท่อไม่เหมาะกับการต่อสู้ อย่างมากก็สู้แบบประจัญบานไม่ได้ เมื่อเจอผู้เล่นคนอื่นโดยที่ไม่ได้ป้องกัน เขาจึงรู้สึกระแวงอย่างมาก  

 

 

ตอนนั้นชายในชุดคลุมสีขาวสองคนดูถูกเขามาก เพราะแมวสองตัวของพวกเขาฆ่าแมวของเขาตายได้ง่ายๆ ระหว่างที่พูดคุยกันก็เผยท่าทางเหยียดหยามออกมาไม่น้อย แต่เห็นแก่หน้าหลี่ผีเท่อจึงไม่ได้ลงมือ  

 

 

หลี่ผีเท่อที่ถูกดูแคลนก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร บวกกับเขาเห็นว่าที่มาของเนื้อสัตว์เหมือนจะเป็นกวางป่วย เดิมทีคิดจะสะบัดแขนเสื้อจากไป แต่อยู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าระหว่างทางตอนอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ เขาตรวจพบภูตสัตว์เลี้ยงที่ปรากฏขึ้นมาใหม่ในป่าเรดวูด แต่ลงจอดเฮลิคอปเตอร์ไม่ได้ จึงได้แค่ออกห่างจากภูตสัตว์เลี้ยงตัวนั้นอย่างน่าเสียดาย  

 

 

ตอนนั้นเขารู้ข่าวลือเรื่องโรคกวางบ้าแล้ว รู้ดีว่าถ้าเรื่องใช้กวางป่วยทำเป็นอาหารสุนัขแพร่งพรายออกไป จะต้องเกิดความโกลาหลใหญ่หลวงแน่นอน แม้แต่บริษัทของเขาก็หลุดพ้นจากร่างแหนี้ไปไม่ได้ ตามหลักการแล้วเขาควรจะกลับประเทศทันที และติดต่อขอยกเลิกการซื้ออาหารสุนัขเล็กซี่ทั้งหมดอย่างรวดเร็วที่สุด  

 

 

เขาลองครุ่นคิดดีๆ ในเมื่อภูตสัตว์เลี้ยงมีชีวิตอยู่ในป่าดงดิบได้ คาดว่าน่าจะเก่งกาจด้านการต่อสู้ ถ้าได้มันมา คนอื่นก็จะเลิกดูถูกเขาเสียที…เขาจึงคิดจะอยู่ในป่าอีกวันสองวัน ลองจับมัน ถึงอย่างไรเรื่องอาหารสุนัขเล็กซี่ก็ต้องแดงขึ้นอยู่ในวันยันค่ำ แต่ไม่ใช่วันสองวันนี้  

 

 

ชายในชุดคลุมสีขาวสองคนย่นจมูกให้กับความคิดของเขา พวกเขารู้ถึงการมีอยู่ของภูตสัตว์เลี้ยงตัวนั้นแล้ว แต่ไม่มีความสนใจที่จะจับมัน คิดแต่จะรอมันหายไปหรือหาโอกาสฆ่ามัน เพราะถ้าอุดมการณ์แตกต่างกันก็อย่ามาคบกันเลย  

 

 

ในเมื่อพวกเขาไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว หลี่หย่วนเฟยก็ยิ่งวางใจ รอถึงวันต่อไปค่อยเข้าไปจับภูตสัตว์เลี้ยงตัวนั้นในป่า จากนั้นก็กลับประเทศทันที จะไม่ให้เสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว  

 

 

ส่วนทางฝั่งหลี่ผีเท่อ หลี่หย่วนเฟยทำเป็นคล้อยตาม ปากตอบตกลงเรื่องการจัดซื้ออาหารสุนัขเล็กซี่ และแสดงท่าทางใจกว้าง เกิดเป็นภาพเจ้าภาพกับแขกคุยกันสนุกสนานมาก  

 

 

แต่กลับเกิดเรื่องในคืนวันนั้นเลย  

 

 

ชายในชุดคลุมสีขาวสองคนตั้งใจโอ้อวดความสามารถตรงหน้าเขา ส่งภูตสัตว์เลี้ยงของพวกเขาไปจัดการปัญหาแทนหลี่ผีเท่อด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม ภูตสัตว์เลี้ยงของพวกเขารู้ใจกันดีมาโดยตลอด และไม่เคยทำพลาด แต่วันนี้กลับไม่ได้กลับมา แม้แต่หลี่ผีเท่อก็ไม่กลับมา จนกระทั่งโทรศัพท์มือถือฝังทองแท้ของพวกเขาส่งข่าวภูตสัตว์เลี้ยงตายมา  

 

 

หลี่หย่วนเฟยรู้เรื่องของจางจื่ออันจากหลี่ผีเท่อแล้วเล็กน้อย บวกกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากมายในคืนนี้ เขาจึงฟันธงเลยว่าคนที่หลี่ผีเท่อเรียกว่าเจฟฟ์ จางจะต้องเป็นผู้เล่นเกมคนหนึ่งแน่ๆ แถมยังมีภูตสัตว์เลี้ยงที่แข็งแกร่งมากอีกด้วย  

 

 

เขาถือโอกาสตอนที่หลี่ผีเท่อไม่อยู่ แล้วตัดสินใจออกจากที่นี่ไปทันที ไม่อย่างนั้นทุกอย่างก็จะสายเกินไป แถมยังแนะนำให้ชายในชุดคลุมสองคนนั่งเฮลิคอปเตอร์บินออกไปด้วยกันก่อนที่ตำรวจจะมาถึง เหตุผลหลักๆ คือเขาอยากสอบถามสถานการณ์ของผู้เล่นคนอื่นจากชายแก่สองคนนี้สักหน่อย  

 

 

ชายในชุดคลุมสีขาวคนหนึ่งเจ็บปวดเสียใจ ส่วนอีกคนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่สถานการณ์ร้ายแรง มีแนวโน้มว่าจะย่ำแย่ลง ไม่พอใจอย่างไรก็รอถูกจับไม่ได้ จึงหนีไปกับเขาในคืนนั้นเลย  

 

 

หลังจากนั้นชายในชุดสีขาวรูปร่างอ้วนเตี้ยที่วางแผนจะกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ก็เปลี่ยนจากคนจองหองเป็นนอบน้อม อาศัยว่าตัวเองมีประโยชน์และคุณค่า หน้าด้านตามมาที่ประเทศจีนด้วย ส่วนชายในชุดคลุมสีขาวอีกคนหนึ่งกลับไปยังทะเลทราย  

 

 

หลี่หย่วนเฟยที่กลับถึงประเทศจีนแล้วพบว่าความขัดแย้งมาถึงตัวเองแล้ว เรื่องอาหารสุนัขเล็กซี่แดงขึ้นมาจนยากจะแก้ไข บริษัทกำลังเผชิญหน้ากับการร้องขอสิทธิ์จำนวนมากและการฟ้องร้องขึ้นศาล เรื่องนี้ใช้เงินไกล่เกลี่ยไม่ได้ เพราะถ้าใช้เงินชดใช้ได้อย่างง่ายดาย ก็จะมีคนกะล่อนอีกมากมายเก็บสุนัขตายมาแสร้งขอเงินตามใจชอบ  

 

 

เขาที่อยู่ในสภาพอึดอัดไม่สนใจการคัดค้านของลูกน้อง ยืนกรานเรียกรวมพลคนแปลกจำนวนหนึ่งมาเข้าร่วมการประชุมลับของเขา เพราะเขาแทบจะหมดหนทางแล้ว ถ้ากลายเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายของเกมนี้ได้ ก็อาจจะท้าทายกฎธรรมชาติและเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้  

 

 

สภาพจิตใจของเขาแตกต่างกับตอนที่เขาเริ่มสร้างทุกอย่างจากศูนย์ เขาที่สร้างตัวมาจากร้านขายสัตว์เลี้ยงร้านหนึ่งก็เคยเผชิญหน้ากับการจงใจกลั่นแกล้งและการขู่รีดเงินค่าชดใช้จากลูกค้า เขาในตอนนั้นอดทนปลอบโยนอารมณ์ของลูกค้าทุกคนได้ กดอารมณ์โมโห และอธิบายเหตุผล แต่เขาในตอนนี้ไม่ใช่เจ้าของร้านเล็กๆ ที่ขายสัตว์เลี้ยงได้วันละหนึ่งตัวก็รู้สึกดีใจมากคนนั้นอีก ตอนนี้เขาเคยชินกับการใช้สายตาดูถูกมองลูกค้าเสียแล้ว ให้เขากลับไปต่ำต้อยเหมือนเดิมคงไม่ได้  

 

 

คนที่อยู่ตรงนี้ไม่รู้ว่าเมืองปินไห่อยู่ส่วนไหน แต่เรื่องร่วมมือกันกำจัดคนแข็งแกร่งก่อนเหมาะกับสไตล์ของพวกเขามาก แม้กระทั่งคนที่ฉลาดและเจ้าเล่ห์ก็แอบคิดว่าจะแบ่งกันเฉือนภูตสัตว์เลี้ยงของคนคนนั้นอย่างไรดี  

 

 

“พรวด ฮ่าๆ!”  

 

 

เด็กสาวมัธยมต้นคนนั้นกลับพ่นโคล่าออกมา หัวเราะจนถึงขั้นสำลักเลยทีเดียว  

 

 

เสียงหัวเราะที่เหมือนน้ำแร่ไหลเย็นของเธอดังขึ้นในห้องประชุมอันแสนวุ่นวาย แถมยังหัวเราะไม่หยุดเหมือนน้ำแร่ไหลจ้อกๆ  

 

 

เส้นความอดทนในใจของหลี่หย่วนเฟยขาดผึง ก่อนจะพูดในใจว่าเด็กสาวคนนี้มาก่อนความวุ่นวายจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เธอกล้าแบบนี้?  

 

 

คนอื่นๆ ก็ใจเย็นลงแล้ว สายตาเฉียบแหลมจ้องมองไปยังเธอ ถึงปัญญาอ่อนแค่ไหนก็รู้ว่าอยู่ๆ เธอหัวเราะขึ้นมาอย่างนี้ต้องมีเรื่องแปลกแน่นอน จึงเตรียมป้องกันมากขึ้นอีก  

 

 

“สาวน้อย เธอหัวเราะอะไร? ถ้ามีอะไรอยากพูดก็พูดมาตรงๆ เลย” หลี่หย่วนเฟยเปิดอก  

 

 

หลังจากนั้นพักหนึ่ง เธอก็หยุดหัวเราะได้เสียที ก่อนจะเช็ดริมฝีปากแล้วพูดว่า “ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้อยากรบกวนพวกคุณ แต่หนูกลั้นไม่ไหวจริงๆ”  

 

 

หลี่หย่วนเฟยส่งสายตาให้คนอื่นๆ แล้วถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย “มีเรื่องอะไรน่าหัวเราะ? บอกพวกเราหน่อยได้ไหม? พวกเราก็อยากหัวเราะเหมือนกัน หัวเราะสักครั้ง เด็กลงสิบปี ถ้าหัวเราะแล้วสาวและสวยได้อย่างเธอก็คงดี”  

 

 

เธอกลับถอนหายใจ “ขอโทษนะคะ ต้องทำให้พวกคุณผิดหวังแล้ว ความจริงหนูกำลังหัวเราะตัวเองอยู่”  

 

 

“เอ๋? ทำไมล่ะ?” หลี่หย่วนเฟยยิ้มพลางถามต่อ  

 

 

เธอพูดพร้อมหน้าบึ้งตึงขมวดคิ้ว “พูดตรงๆ เลยนะคะ หนูเห็นน้ำผลไม้กับน้ำโคล่าของคนอ้วนก็ทนไม่ไหวแล้ว กินไปกินมาถึงนึกออก วันนี้หนูมีงานบ้านที่ยังไม่ได้ทำ กลับเอาแต่กิน…”  

 

 

ทำงานบ้าน?  

 

 

ทุกคนมองหน้ากัน ไม่เข้าใจว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อะไร  

 

 

เธอบ่น “เพราะหนูเก็บเงินแต๊ะเอียที่พ่อให้เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่พ่อของหนูขี้งกมาก ไม่เคยให้เงินแต๊ะเอียเฉยๆ ได้เงินก็ต้องทำงาน ไม่อย่างนั้นเขาก็จะบ่นกรอกหูไม่หยุดเหมือนฟังพระสวด สอนคนในบ้านเหมือนลูกหมาจริงๆ…”  

 

 

ทุกคนได้ยินแล้วยิ่งงุนงง นี่เป็นเรื่องของครอบครัวแบบไหนกัน?  

 

 

หลี่หย่วนเฟยทำเป็นพูดอย่างห่วงใย “งั้นเธอรีบกลับบ้านไปทำงานบ้านเถอะ จะได้ไม่ต้องถูกพ่อบ่น”  

 

 

เธอถอนหายใจ “แต่งานบ้านของหนูในวันนี้ต้องทำที่นี่ค่ะ เป็นงานทำความสะอาดครั้งใหญ่”  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด