Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง 1625 น้ำแข็งเทพจากฟากฟ้า

Now you are reading Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง Chapter 1625 น้ำแข็งเทพจากฟากฟ้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เชี่ย! อะไรวะเนี่ย” 

 

 

จางจื่ออันกับพวกภูตสัตว์เลี้ยงเพิ่งเดินมาถึงด้วยการนำทางของเหล่าฉา เขาก็รู้สึกว่ากล้องส่องวัตถุในตอนกลางคืนสว่างขึ้นมาก เพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกตาของสุนัขส่องแสงมา เขาจึงรีบเคลื่อนกล้องออกจากตา 

 

 

จากนั้นเขาก็เห็นฉากอันน่าเหลือเชื่อ ลำแสงตรงสายหนึ่งผ่าทะลุชั้นเมฆตรงขอบฟ้าทางตะวันออก ส่องลงไปในป่าที่ไม่ไกลข้างหน้าราวกระบี่อันคมกริบ แต่ท้องฟ้าตรงส่วนอื่นยังมีเมฆดำปกคลุม มืดเหมือนก้นหม้อ 

 

 

ช่องว่างตรงชั้นเมฆเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ลำแสงก็กำลังเปลี่ยนรูปร่างไม่หยุดหย่อน ไอน้ำที่ปกคลุมหนาทึบถูกลำแสงสาดส่อง เกิดปรากฏการณ์ทินดอลล์ราวกับจินตนาการขึ้นอีกครั้ง ในลำแสงคล้ายกับมีเทวดานับไม่ถ้วนกำลังโบยบิน 

 

 

หลังจากมาถึงป่าเรดวูด เขาเคยเห็นปรากฏการณ์แสงที่เรียกว่าแสงพระเยซูแบบนี้มากกว่าหนึ่งครั้ง ปรากฏการณ์แบบนี้ไม่ได้หาชมยากเมื่ออยู่ในป่า แต่แบบนี้ไม่บ่อยเกินไปเหรอ? 

 

 

ในบรรดาแสงพระเยซูต่างๆ ที่ช่างภาพทั่วโลกถ่ายเอาไว้ได้ ยังแพ้ให้กับความมหัศจรรย์ของปรากฏการณ์ในครั้งนี้ 

 

 

พวกภูตสัตว์เลี้ยงก็ถูกเรื่องปาฏิหาริย์ของธรรมชาติทำให้ตกตะลึงจนพูดไม่ออก 

 

 

“มารดาคุณสิ สุดยอดมาก! แค่เห็นลำแสงนี้ก็คุ้มค่ากับการเดินทางครั้งนี้แล้ว” 

 

 

เขาจุ๊ปากชม ถ้ามีเวลา เขาอยากชื่นชมทิวทัศน์งดงามให้มากกว่านี้สักหน่อย แม้แต่จิตใจก็เปิดกว้างขึ้นมา แต่เขาร้อนใจที่จะไปตามหาฟราเทอร์ แสงสว่างนี้ช่วยเขาได้พอดี 

 

 

“เมี๊ยว” 

 

 

เขาเพิ่งก้าวขาไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ซิงไห่ก็ขวางทางไป แถมกำลังกะพริบดวงตาสีเทาเงินมองเขาด้วย 

 

 

“ทำไมเหรอซิงไห่” 

 

 

เขารู้สึกว่าซิงไห่อยากจะพูดบางอย่าง จึงหยุดเดิน 

 

 

ซิงไห่หันหน้าไปราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ มันมองลำแสงจากป่าข้างหน้า แล้วก็หันกลับมามองเขาอีกครั้ง 

 

 

“เมี๊ยว พักอยู่ที่นี่แป๊บหนึ่งเถอะ” มันพูด จากนั้นก็นั่งลงก่อน 

 

 

“เอ๋?” จางจื่ออันตะลึงงัน “ซิงไห่เหนื่อยเหรอ ถ้านายเหนื่อย งั้นนายก็พักก่อน พวกเราจะไปตามหาฟราเทอร์ ถ้าเสียเวลามากกว่านี้ ฉันกลัวว่ามันจะเกิดอันตราย พอนายพักพอแล้วก็ค่อยตามพวกฉันไป หรือนายจะกลับไปพักผ่อนในมือถือก็ได้…” 

 

 

เขาไม่ค่อยวางใจให้ซิงไห่อยู่คนเดียว 

 

 

ที่จริงพายก็เหนื่อยแล้ว แต่มันยันกระบองไม้ช่วยค้ำร่างกายเพื่อแบ่งเบาน้ำหนัก จึงยังไหวอยู่ 

 

 

“เมี๊ยว” ซิงไห่กลับส่ายหน้า “ทุกคนหยุดพักก่อนเถอะ อย่าเพิ่งเดินไปข้างหน้าเลย” 

 

 

“เอ่อ…” 

 

 

จางจื่ออันกับเหล่าฉาได้ยินแล้วก็ประหลาดใจ ฝ่ายหลังใช้สายตาบ่งบอกว่าตอนนี้ยังไม่พบอันตรายอะไร 

 

 

“ทำไมถึงยังไม่ให้เดินต่อล่ะ ข้างหน้ามีเรื่องอะไรเหรอ” เขาถาม 

 

 

ซิงไห่กะพริบตา ก่อนจะเอียงคอมองไปข้างหน้า แล้วพูดจริงจัง “ข้างหน้ามีการต่อสู้ของเทพ ไม่ใช่อาณาเขตที่พวกเราจะเหยียบเท้าเข้าไปได้แล้ว” 

 

 

“…” 

 

 

จางจื่ออันกับเหล่าฉามองหน้ากัน 

 

 

“ถ้าฟีน่ากับวลาดิเมียร์อยู่ที่นี่ก็คงทำอะไรได้บ้าง แต่พวกเรา…เมี๊ยว พวกเราพักหน่อยดีกว่า!” ซิงไห่หาวอย่างสบายอารมณ์ 

 

 

คำพูดนี้…จางจื่ออันรู้สึกว่าตัวเองเหมือนโดนดูถูก เหมือนกำลังบอกว่าอาบน้ำนอนเถอะ ทั้งที่ยังมีเรื่องอัดอั้นตันใจอยู่ 

 

 

เหล่าฉาไม่เชื่อเรื่องพระเจ้า กลับยอมที่จะเชื่อมันสักครั้ง จึงหัวเราะเสียงใสแล้วพูดว่า “จื่ออัน พวกเจ้าหยุดพักผ่อนที่นี่เถอะ ไม่ว่าข้างหน้าจะเป็นเทพหรือปิศาจ ข้าก็อยากจะ…เอ๋?” 

 

 

ยังพูดไม่ทันจบ เหล่าฉาก็มองเห็นสิ่งของกึ่งโปร่งแสงบางอย่างผ่านตาไปอย่างรวดเร็ว จึงเผลอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว 

 

 

ปัง! 

 

 

ลูกเห็บขนาดใหญ่เท่าไข่เป็ดลูกหนึ่งตกลงบนก้อนหิน แล้วแตกเสียงดังโครม น้ำแข็งเย็นเยียบพลันแตกกระจายออกมานับไม่ถ้วน 

 

 

เหล่าฉายกแขนเสื้อชุดคลุมขึ้นมาบังหน้าทันที เพื่อกันไม่ให้แผ่นน้ำแข็งแหลมๆ กระเด็นถูกหน้า 

 

 

จากนั้น ลูกเห็บก็ตกลงมาจากท้องฟ้ามากขึ้น 

 

 

“แกว๊กๆ!” 

 

 

“เจี๊ยกๆ!” 

 

 

“ฉิบหาย! หาที่หลบเร็ว!” 

 

 

จางจื่ออันใช้มือกุมหัว แล้วเรียกพวกภูตสัตว์เลี้ยงให้หลบลูกเห็บ 

 

 

พายก็โยนกระบองไม้ทิ้ง แล้วยกมือขึ้นกุมหัวเลียนแบบท่าทางของเขา  

 

 

“แกว๊ก! แกว๊ก! ไอ้บ้านี่ใจร้ายจัง! ช่วยข้าบังด้วยสิ!” ริชาร์ดร้องโหยหวน 

 

 

“เมี๊ยว ตรงนั้นมีหินก้อนใหญ่” 

 

 

ซิงไห่ชี้วิ่งไปข้างๆ พวกเขาก็เห็นหินก้อนยักษ์รูปร่างแปลกๆ อยู่ตรงนั้น มันมีความสูงมากกว่าผู้ชายโตเต็มวัยเสียอีก ด้านหนึ่งของก้อนหินมีหลุมเว้าคล้ายกับบันไดพับ ใช้หลบหินได้พอดี 

 

 

ทุกคนก็ไม่มีเวลามาเรื่องมาก พากันรีบวิ่งไปทางหินก้อนยักษ์อย่างสุดชีวิต ก่อนจะขดตัวเรียงกันอยู่ในหลุมเว้าเป็นแถว หลบลูกเห็บที่จู่โจมมาเหมือนพายุฝน เสียงลูกเห็บกระทบหินยักษ์แล้วแตกดังก้องอยู่ในหูไม่หยุด 

 

 

พวกเขาหาที่หลบเรียบร้อยแล้ว ลูกเห็บก็ตกรุนแรงขึ้น 

 

 

ลูกเห็บมาอย่างรุนแรง ตกเป็นบริเวณกว้างเกินจินตนาการ อาจด้วยไอน้ำที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเป็นตัวเพิ่มกระสุนลูกเห็บพวกนี้ จางจื่ออันมีชีวิตมานานขนาดนี้แล้วยังไม่เคยเห็นลูกเห็บที่รุนแรงขนาดนี้เลยจริงๆ 

 

 

อย่าว่าแต่เขาเลย เหล่าฉาเคยเห็นหิมะถล่มที่ร้อยปียากจะเกิดสักครั้งในป่าลึก ระหว่างทางส่งตัวเจ้าสาวเคยเจอพายุฝนเทลงมาและน้ำท่วมราวกับเขื่อนแตก แต่ลูกเห็บที่ตกอย่างบ้าคลั่งแบบนี้ มันไม่เคยได้ยินมาก่อน 

 

 

ทีแรกขนาดของลูกเห็บใหญ่พอๆ กับไข่ไก่หรือไข่เป็ด พอจะนับได้ว่าปกติ แต่เกือบจะเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งใหญ่เท่าอิฐถล่มลงมาภายในพริบตา ก้อนน้ำแข็งมหึมากลมโตลูกหนึ่งยังตกลงไปในโคลนต่อหน้าต่อตาพวกเขา ถ้านี่กระแทกถูกคนเข้า คาดว่าคงพอๆ กับกระสุนปืนใหญ่ยิงตรงเป้าเลยทีเดียว… 

 

 

มีบันทึกลูกเห็บก้อนใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัม แต่มีข่าวลือจากหลายๆ ที่บอกว่าเคยมีลูกเห็บขนาดใหญ่เท่าฐานหินกลมรองรับตัวโม่ด้วย ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ และไม่รู้ว่าลูกเห็บหนักขนาดนั้นก่อตัวขึ้นบนชั้นบรรยากาศได้อย่างไร ไม่สามารถใช้หลักฟิสิกส์มาอธิบายได้จริงๆ แต่อย่างน้อยตอนนี้จางจื่ออันก็ได้เห็นลูกเห็บยักษ์น้ำหนักเกินหนึ่งกิโลกรัมแล้ว 

 

 

ลูกเห็บลูกแล้วลูกเล่าทำลายสถิติไม่หยุด นอกจากคำว่า “เชี่ย” ที่ปล่อยออกมาเรื่อยๆ เขาก็หมดคำจะพูด สงสัยว่าเป็นตู้เย็นแบบเก่าของเทพเจ้าองค์ไหนกำลังละลายน้ำแข็งหรือเปล่า 

 

 

อำนาจน่าเกรงขามของธรรมชาติอยู่เบื้องหน้า พลังของเขาเล็กจ้อยร่อยเกินไป ลูกเห็บตกลงมาเร็วมากจนแมวยังมองตามไม่ทัน ถึงเป็นเหล่าฉาก็ไม่กล้ารับประกันว่าตัวเองจะหลบลูกเห็บทุกลูกได้ 

 

 

ในสถานการณ์แบบนี้ จางจื่ออันเป็นห่วงฟราเทอร์ที่สุด ไม่รู้ว่าฟราเทอร์จะหาที่หลบลูกเห็บได้หรือเปล่า แต่ก็เกินกำลังที่เขาจะช่วยเหลือได้จริงๆ ออกจากที่กำบังหินก็เท่ากับฆ่าตัวตาย ไม่เพียงช่วยฟราเทอร์ไม่ได้ อาจจะต้องจบชีวิตตัวเองด้วย 

 

 

ลูกเห็บครั้งนี้กะทันหันและแปลกประหลาด หรือว่า…นี่ก็คือสงครามเทพที่ซิงไห่พูดถึง? 

 

 

จางจื่ออันค่อนข้างเชื่อว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ แต่ขนาดของลูกเห็บยังเกินจริงเลย 

 

 

ริมสนามรบยังอันตรายขนาดนี้ อย่างนั้นพื้นที่ใจกลางสนามรบ…คงจะพอๆ กับนรกเลยสินะ 

 

 

ได้ยินว่าขั้นตอนที่ซุนหงอคงในเรื่อง ‘ไซอิ๋ว’ จัดการกับปิศาจได้เยี่ยมยอดกว่าผู้อยู่เบื้องหลังคนไหนๆ ยามเจอปิศาจที่ไร้ผู้ติดตามก็จะฆ่าให้ตายทันที เจอปิศาจที่มีผู้อยู่เบื้องหลังแข็งแกร่งก็ทำได้แค่เคลื่อนพลทหารมาช่วย งั้นเขาก็ได้แค่หวังว่าผู้อยู่เบื้องหลังของฟราเทอร์จะแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่าย 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด