Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง 1649 ยาปฏิชีวนะ

Now you are reading Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง Chapter 1649 ยาปฏิชีวนะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จางจื่ออันกับพวกพนักงานร้านส่งคุณลุงสองคนออกไปข้างนอกแล้ว ก่อนจะมองส่งแท็กซี่ของพวกเขาจากไป คราวนี้ถึงจะกลับเข้าไปในร้าน 

 

 

ลูกค้าสองสามคนฟังแล้วก็รู้สึกกลัว ปกติใช้ชีวิตอยู่ริมทะเลกินอาหารทะเลไม่น้อย และเป็นอาหารทะเลสดๆ ที่เพิ่งจับมาจากในทะเลทั้งนั้น เพราะราคาถูกและมีคุณประโยชน์ ทุกที่บอกว่าผลิตภัณฑ์จากทะเลมีประโยชน์ต่อสุชภาพต่างๆ นานา จึงไปกินที่ร้านอาหารน้อยมาก เวลาส่วนใหญ่ซื้อกลับมาลงมือทำเองที่บ้าน ถูกเงี่ยงปลาและกุ้งแทงมือก็เป็นเรื่องปกติ ตอนนี้พอนึกขึ้นมาแล้วก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย 

 

 

จางจื่ออันมองความกังวลของพวกเขาออก จึงปลอบใจว่า “อย่ากลัวไปเลยครับ ยังไม่แน่ใจว่าช่างเชื่อมจ้าวติดเชื้อได้ยังไง ติดเชื้อตอนถูกปลาบาดมือ หรือติดเชื้อตอนใช้น้ำทะเลล้างแผล หรือเพราะทั้งสองอย่าง…แต่ขอถ้าคอยออกกำลังกาย โดยเฉพาะรักษาตับอย่างดี พยายามกินเหล้าให้น้อยๆ โอกาสที่คนทั่วไปจะติดเชื้อแบคทีเรียแบบนี้ก็น้อยมาก” 

 

 

“งั้นก็ดี ถ้าไม่ให้ฉันกินอาหารทะเล งั้นเอาชีวิตฉันไปดีกว่า…” มีคนถอนหายใจ 

 

 

หลี่คุณก็กลัวมากทีเดียว “อาจารย์ให้พวกผมจัดการอาหารทะเลตลอด…ไม่ใช่สิ ตอนจัดการสัตว์เลี้ยงทะเลต้องใส่ถุงมือยาง หรือว่าก็เป็นเพราะเหตุผลนี้?” 

 

 

ทุกครั้งที่จางจื่ออันเก็บสัตว์ทะเลหายากมาจากชายทะเลเพื่อจัดแสดงเพิ่มในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ งานที่เหลือจะให้พวกพนักงานร้านมาทำต่อจนเสร็จ แต่พวกพนักงานร้านไม่ค่อยชอบใส่ถุงมือยาง เพราะมันร้อนมากและไม่สะดวก แต่เขาก็เน้นย้ำว่าจำเป็นต้องใส่อยู่เสมอ 

 

 

“พวกนายคิดมากเกินไปแล้ว นี่เป็นแค่การป้องกันไม่ให้ถูกสัตว์มีพิษแทงจริงๆ เท่านั้น” จางจื่ออันมองบนใส่พวกเขาครั้งหนึ่ง ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นวัยรุ่นร่างกายแข็งแรง ตั้งใจป้องกันไว้ก่อนก็เพราะกลัวว่าจะติดเชื้อ เป็นเรื่องที่เกิดได้ยากยิ่งกว่าถูกรถชนเสียอีก 

 

 

“อาจารย์ ยาที่อาจารย์ให้คุณลุงจ้าวตอนสุดท้ายคือยาอะไรครับ ใช่ยาเซียนที่อาจารย์หลอมขึ้นมาเองหรือเปล่า แต่ท่าทางเหมือนยาแผนปัจจุบันนะ” ที่หวางเฉียนสนใจที่สุด คันปากอยากถามนานแล้ว ในที่สุดก็สบโอกาสเสียที 

 

 

“ไม่ใช่ยาหายากอะไร ก็แค่ไซโปรฟลอกซาซิน*ธรรมดา” จางจื่ออันอธิบาย 

 

 

“ไซโปรฟลอกซาซิน…ควบคุมแบคทีเรียวิบริโอวัลนิฟิคัสได้เหรอครับ” 

 

 

ทุกคนต่างก็สนใจคำถามนี้มาก ถ้าหลังจากนี้เจอสถานการณ์ที่คล้ายกับการติดเชื้อ อย่างน้อยก็ไม่ถึงกับไร้หนทาง 

 

 

ลูกค้าก็พูดว่า “บ้านฉันก็มีไซโปรฟลอกซาซิน ครั้งหน้าตอนจัดการปลาแล้วบาดมือ ฉันจะกินไซโปรฟลอกซาซินสองเม็ดกันไว้ก่อน…” 

 

 

ไซโปรฟลอกซาซินเป็นยาปฏิชีวนะที่พบเห็นได้ง่ายและใช้กันทั่วไปอย่างมาก ตอนเป็นหวัด ตัวร้อน หรือร่างกายเกิดการอักเสบ โรงพยาบาลก็มักจะสั่งยาชนิดนี้ให้ผู้ป่วย ทุกคนเลยเก็บยาที่กินไม่หมดเอาไว้ ครั้งหน้าตอนเป็นไข้ไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาล กินยาเองสักหน่อยก็ผ่านไปได้แล้ว หลายๆ คนก็ทำแบบนั้น 

 

 

แต่ทว่าใช้ยาปฏิชีวนะในทางที่ผิดเป็นปัญหาร้ายแรงที่เกิดขึ้นมานานแล้ว หลายๆ ครั้งเป็นสถานการณ์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะเลยด้วยซ้ำ อย่างเช่น เป็นหวัดเล็กน้อยถึงปานกลาง ให้ระบบภูมิคุ้มกันของตัวเองต่อสู้กับไวรัสหวัดร้อยเปอร์เซ็นต์เลยก็ได้ แต่เพื่อให้ผู้ป่วยดีขึ้นโดยเร็วที่สุด โรงพยาบาลก็จะให้ผู้ป่วยใช้ยาปฏิชีวนะ บางครั้งโรงพยาบาลไม่สั่งยาปฏิชีวนะให้ ผู้ป่วยก็จะขอให้สั่งยาเอง 

 

 

นี่เป็นเรื่องที่น่าจำใจมาก สังคมปัจจุบันกดดันมากเกินไป โดยเฉพาะประเทศจีนยุคปัจจุบันที่ลาหยุดบ่อยๆ เรียนเสริม และทำงานเก้าโมงเช้า เลิกงานหกโมงเย็นตลอดหกวัน เป็นหวัดไม่กินยาจะนอนพักอยู่บนเตียงได้กี่วันกัน? 

 

 

ฝันไปเถอะ! 

 

 

คุณครูยอมไหม? ห่างจากการสอบเข้ามัธยมปลายและมหาวิทยาลัยกี่วัน? 

 

 

เถ้าแก่ตกลงไหม? งานที่กองสะสมเท่าภูเขาตกลงไหม? เดือนนี้ใบรับสินค้าและใบส่งสินค้าที่ยังทำไม่เสร็จตกลงไหม? 

 

 

ถ้าป่วยหนักก็ช่างเถอะ เพราะแค่เป็นหวัดเล็กน้อยก็ลาหยุดสองสามวัน หรือเป็นหวัดไม่หายสักทีจึงเวียนศีรษะส่งผลกระทบต่อการเรียนและการทำงาน คุณครูกับเถ้าแก่คงจะไม่ตกลง จึงทำได้แค่ใช้ปฏิชีวนะฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็ว 

 

 

คนป่วยแล้วใช้ยาปฏิชีวนะยังพอนับว่ามีเหตุผลได้ แต่ผู้เพาะเลี้ยงบางคน ไม่ว่าจะผู้เพาะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงหรือผู้เพาะเลี้ยงกุ้ง เพื่อให้สัตว์ที่ตนเองเลี้ยงป่วยน้อยลง ก็มักจะเติมยาปฏิชีวนะลงไปในอาหารสัตว์ นี่ช่างเป็นวิธีที่ไร้ศีลธรรม 

 

 

ยาปฏิชีวนะหมุนเวียนอยู่ในร่างกายของคนและสัตว์ สุดท้ายยังตกลงไปอยู่ในมหาสมุทร ผลลัพธ์คือแบคทีเรียในทะเลค่อยๆ เกิดการดื้อยา 

 

 

แบคทีเรียวิบริโอวัลนิฟิคัสถูกค้นพบตั้งแต่ปี 1976 เกิดการดื้อยาปฏิชีวนะอย่างเจนตามัยซิน เสตรปโตมัยซิน และเตตราไซคลีนแล้ว โชคดีที่ยาปฏิชีวนะซึ่งรวมถึงไซโปรฟลอกซาซินยังใช้ต่อต้านแบคทีเรียชนิดนี้ได้ แต่ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป…เกรงว่าอนาคตคงจะมีเรื่องให้กลุ้มใจแล้ว 

 

 

แบคทีเรียทีกระจายตัวอยู่ในทะเล และเป็นแบคทีเรียที่หลังจากติดเชื้อแล้วมีโอกาสตายมากกว่าสี่สิบเปอร์เซ็นต์ เกิดวิวัฒนาการดื้อยาก่อนที่มนุษย์จะมีความสามารถในการต่อต้าน ก็จำต้องพูดว่าเป็นการเยาะเย้ยมนุษย์อย่างหนึ่ง 

 

 

อย่างที่ลูกค้าคนเมื่อครู่พูด ด้วยความกังวลที่เหมือนสงสัยเงาสะท้อนคันธนูเป็นงู เพราะตอนจัดการอาหารทะเลถูกปลาบาดฝ่ามือก็ต้องกินไซโปรฟลอกซาซินป้องกันไว้สองเม็ด เท่ากับว่าใช้ยาปฏิชีวนะในทางที่ผิด หากร่างกายแข็งแรงก็ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้เลย 

 

 

ถึงจะเป็นอย่างนั้น จางจื่ออันก็ไม่ได้บอกว่าห้ามกินไซโปรฟลอกซาซินหรือห้ามใช้ยาปฏิชีวนะในทางที่ผิด เพราะสำหรับทุกคนแล้วก็มีอยู่แค่ชีวิตเดียว ไม่ว่าหวงแหนแค่ไหนก็รักษาไว้ไม่ได้ ระหว่างคุณธรรมสูงส่งและผลประโยชน์ส่วนตัว ใครๆ ก็เลือกข้อหลังทั้งนั้น สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องปกติมาก และไซโปรฟลอกซาซินสามารถควบคุมแบคทีเรียที่น่ากลัวชนิดนี้ได้จริงๆ อย่างน้อยก็ชั่วคราว 

 

 

เรื่องห้ามใช้ยาปฏิชีวนะในทางที่ผิดเป็นหน้าที่ของประเทศ สังคม และโรงพยาบาล ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าของร้านจิ๊บจ๊อยอย่างเขาจะต้องกังวลใจ เพราะกังวลไปก็ไม่มีประโยชน์ คิดมากไปก็จะหัวล้านเอา เรื่องที่เกี่ยวข้องกับประเทศและประชาชน มอบให้คนตำแหน่งอื่นคิดแทนดีกว่า 

 

 

เรื่องไปกินข้าวกลางวันที่ร้านอาหารก่อนหน้านี้เป็นอันต้องยกเลิก เขาจึงสั่งข้าวกล่องกับพวกพนักงานร้าน 

 

 

เหล้าสองขวดที่คิดจะให้ช่างเชื่อมจ้าวก็ยังไม่ได้ให้ เขาจึงคิดว่าควรจะเปลี่ยนของขวัญขอบคุณเป็นอย่างอื่นแทนหรือไม่ 

 

 

หลังจากช่างไฟฟ้าอู๋พาช่างเชื่อมจ้าวไปส่งถึงโรงพยาบาลแล้ว ขณะที่กำลังรายงานแผนกฉุกเฉินและติดต่อครอบครัวของช่างเชื่อมจ้าวไปด้วย พูดโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงอู้อี้ บอกว่าช่างเชื่อมจ้าวเป็นโรคปัจจุบันทันด่วน เลยต้องรีบมาแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลบางแห่ง 

 

 

เป็นอย่างที่จางจื่ออันคิดไว้ ทีแรกส่วนผู้ป่วยนอกและพยาบาลเข้าเวรไม่รู้จักแบคทีเรียแปลกหน้าชนิดนี้ จึงแนะนำให้ช่างไฟฟ้าอู๋ไปแผนกผู้ป่วยนอกธรรมดา อย่าคาดคะเนไปเองว่าตัวเองเป็นโรคอะไร สุดท้ายช่างไฟฟ้าอู๋เลยระเบิดอารมณ์ ถ่ายทอดคำพูดของจางจื่ออันคร่าวๆ รอบหนึ่ง คราวนี้พยาบาลถึงได้เห็นเป็นเรื่องด่วน แต่ตอนนี้ช่างเชื่อมจ้าวเริ่มไข้ขึ้นสูงและมีเหงื่อเย็นๆ ออกทั่วตัวแล้ว 

 

 

หลังจากช่างเชื่อมจ้าวได้รับการรักษา ครอบครัวของเขาก็มาถึง ช่างไฟฟ้าอู๋จึงต้องอธิบายอย่างปากเปียกปากแฉะ 

 

 

ดีที่ครอบครัวของเขาชินกับการก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวันของช่างเชื่อมจ้าวแล้ว ได้ยินว่ารักษาทันเวลาและไม่มีอันตรายอะไรมาก พวกเขาก็สบายใจขึ้นมาก 

 

 

ช่างไฟฟ้าอู๋ติดต่อกับจางจื่ออันผ่านโทรศัพท์มือถืออยู่ตลอด มีเรื่องอะไรที่เขาอธิบายไม่รู้เรื่องก็ขอให้จางจื่ออันอธิบายทางโทรศัพท์ สำหรับโรงพยาบาลที่ไม่เคยรักษาโรคแบบนี้แล้วก็ช่วยเหลือได้มาก ไม่นานก็จัดยาปฏิชีวนะที่ถูกต้องตามวิธีรักษาจนได้ ไม่อย่างนั้นถึงตอนนี้ไปตรวจข้อมูลก็อาจจะถ่วงเวลาของโรค 

 

 

ทางโรงพยาบาลคาดว่า ช่างเชื่อมจ้าวยังไม่ถึงกับต้องตัดแขนขา แต่ต้องตัดชิ้นเนื้อตรงฝ่ามือทิ้ง 

 

 

ทีแรกช่างเชื่อมจ้าวกลัวมาก แต่เสียหน้าต่อหน้าคนในครอบครัวไม่ได้ ส่วนหัวใจก็เต้นตึกตัก สีหน้ากลับยังใจเย็น ถึงขนาดบอกว่านี่เป็นการได้รับโชคดีจากโชคร้าย ต่อไปตอนต้องเจอกับสัตว์น้ำอีก ทีนี้ร่างกายของตัวเองก็จะมีภูมิคุ้มกันแล้ว 

 

 

ส่วนรอยแผลเป็นบนฝ่ามือ พวกคนแก่ไม่ใส่ใจอยู่แล้ว! 

 

 

ถ้าตอนที่เขาพูดจากล้าหาญแล้วไม่ได้เอาแต่เช็ดเหงื่อที่ไหลย้อยลงมาจากหน้าผาก ก็อาจจะน่าเชื่อถือมากกว่านี้ 

 

 

 

 

 

 

 

 

*ไซโปรฟลอกซาซิน เป็นยาปฏิชีวนะกลุ่มควิโนโลน (Quinolones) ที่ช่วยรักษาหรือป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด