Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง 1578 กุญแจ

Now you are reading Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง Chapter 1578 กุญแจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ทุกคนแยกย้ายกันไปหาเถอะ ดูว่าหลังไหนพอพักได้ อย่างน้อยก็ไม่มีรูรั่ว คืนนี้พวกเราจะนอนในบ้านสักหลังนี่แหละ”

 

 

จางจื่ออันปลดกระเป๋าสะพายลง ก่อนจะนวดไหล่ที่ปวดเมื่อย

 

 

พวกภูตสัตว์เลี้ยงอยากรู้อยากเห็นกับหมู่บ้านห่างไกล ซึ่งเคยเป็นที่อยู่ของคนเลี้ยงม้าและคนเลี้ยงผึ้งแห่งนี้ ได้ยินแล้วก็พากันแยกย้ายเข้าไปสำรวจในหมู่บ้าน

 

 

เขาไม่แน่ใจว่าหมู่บ้านนี้ถูกทิ้งร้างเมื่อไหร่ ในเมื่อได้เห็นเชฟโรเล็ตสมัยยุคหกศูนย์คันหนึ่ง อย่างน้อยก็น่าจะหลังจากนั้น

 

 

เนื่องจากป่าอุดมสมบูรณ์ปกคลุมทั่วท้องฟ้าสร้างเกราะกำบังโดยธรรมชาติ ลมโหมพัดกระหน่ำและพายุฝนจะถูกต้นไม้ขวางและลดความรุนแรงลง แถมชาวอินเดียแดงยังมีฝีมือการสร้างบ้านอันเป็นเอกลักษณ์ ที่สำคัญที่สุดคือไม่มีเด็กดื้อก่อกวน เมื่อรวมปัจจัยนี้เข้าด้วยกัน หมู่บ้านนี้จึงยังค่อนข้างสมบูรณ์ เมื่อดูคร่าวๆ กระจกหน้าต่างส่วนใหญ่ยังดีอยู่เลย

 

 

ตอนคนเลี้ยงผึ้งกับคนเลี้ยงม้าทิ้งหมู่บ้านนี้ไป มีความเป็นไปได้สองอย่าง หนึ่งคือครั้งสุดท้ายที่มาที่นี่ นำข้าวของมีค่าติดตัวไปจนหมด สองคือรู้สึกว่าไม่ต้องมาเก็บของอีก จึงปล่อยทิ้งร้างเสียเลย

 

 

ถ้าเป็นอย่างหลัง อาจจะยังมีของที่ใช้ประโยชน์ได้อยู่ในหมู่บ้าน

 

 

หยิบของที่คนอื่นไม่ต้องการการแล้ว นี่น่าจะไม่นับว่าขโมยสินะ?

 

 

คิดไม่ถึงว่าเสี่ยวไป๋พาพวกหมาจรจัดเก็บขยะอยู่ที่ประเทศจีน แต่เขากลับมาเก็บขยะถึงอเมริกา…

 

 

“เจี๊ยกๆ! เจี๊ยกๆ!”

 

 

พายโบกกระบองไม้ มันวิ่งกลับมาเป็นตัวแรก ก่อนจะดึงชายเสื้อของจางจื่ออัน ทำไม้ ทำมือให้เขาตามมันไปด้วยสีหน้าตื่น

 

 

จางจื่ออันทิ้งกระเป๋าสะพายไว้ที่เดิม ถึงอย่างไรก็มีหมาป่าเฝ้าเยอะขนาดนั้น ไม่ต้องกลัวจะถูกคนขโมยไป

 

 

เขากับพายเดินมาถึงข้างหลังบ้านหลังหนึ่ง ข้างในมีต้นไม้โค่นแล้วอยู่ต้นหนึ่ง มันเกือบจะโค่นทับบ้านอยู่แล้ว

 

 

“เจี๊ยกๆ” พายชี้พื้นที่ระหว่างลำต้นกับบนพื้น

 

 

ต้นไม้ยังไม่ได้เอียงล้มลงบนพื้นเสยีทีเดียว แต่ยังเหลือระยะห่างเล็กๆ จากพื้น ราวกับถูกบางอย่างยันเอาไว้

 

 

จางจื่ออันนั่งยองๆ ลงสังเกตดู ก่อนจะพบบ่อน้ำหิน

 

 

“พายถอยออกไปหน่อย ฉันจะดันต้นไม้นี้ไปอีกด้านหนึ่ง”

 

 

เขาพิจารณาอยู่หลายครั้ง รู้สึกว่าต้นไม้ต้นนี้ไม่ได้หนามาก อาจจะลองดันได้

 

 

“เจี๊ยกๆ?”

 

 

พายทำสัญญาณมือด้วยความเป็นห่วง แล้วหันไปชี้ทางเข้าหมู่บ้าน ความหมายคือต้องไปตามหมาป่าพวกนั้นมาช่วยไหม เพราะต้นไม้ต้นนี้หนากว่าต้นไม้ที่ใช้เป็นสะพานก่อนหน้านี้มาก

 

 

“วางใจเถอะ ฉันคิดว่าไม่มีปัญหานะ” จางจื่ออันถกแขนเสื้อขึ้น แล้วหิ้วเก้าอี้เหล็กจากข้างๆ ขึ้นมาลองดู เหมาะมือทีเดียว “ฉันไม่ได้จะใช้แรงดัน นายคงรู้จักหลักการคานงัดสินะ? ส่งผู้หญิงให้ฉันคนหนึ่ง ฉันจะสร้าง…ไม่ใช่สิ ส่งจุดรองรับคานงัดให้ฉันอันหนึ่ง ฉันสั่นสะเทือนโลกได้เลยนะ!”

 

 

เขาสอดพนักพิงหลังของเก้าอี้เหล็กเข้าไปในซอกระหว่างบ่อน้ำหินกับลำต้น แล้วจับขาเก้าอี้ดันไปข้างหน้า เก้าอี้รูปตัวแอลจึงทำหน้าที่เป็นไม้งัด

 

 

ลำต้นหนักอึ้งเริ่มขยับแล้ว ทุกครั้งที่ยกก็จะเคลื่อนไปข้างๆ เล็กน้อย สุดท้ายก็ตกลงบนพื้นเสียงดังลั่น เผยให้เห็นปากบ่อน้ำมืดสนิท

 

 

จางจื่ออันหยิบไฟฉายส่องลงไปในบ่อน้ำ ก่อนจะเห็นแสงสะท้อนจากบนผิวน้ำ

 

 

เนื่องจากก่อนหน้านี้ลำต้นปิดปากบ่อน้ำไว้ บนผิวน้ำจึงมีใบไม้ร่วงลงไปไม่มาก ดูแล้วน้ำใสทีเดียว ถึงอย่างไรก็เป็นน้ำใต้ดิน

 

 

ภูตสัตว์เลี้ยงตัวอื่นได้ยินเสียงดังมาจากทางนี้ จึงพากันวิ่งมาดูสถานการณ์

 

 

“โชคดีที่ได้พาย หาแหล่งน้ำเจอแล้ว” เขาพูด “คืนนี้ไม่ต้องอดน้ำกันแล้ว”

 

 

“เจี๊ยกๆ” พายก้มหน้าลงอย่างขัดเขิน

 

 

สำหรับหมู่บ้านแล้ว ถึงเป็นหมู่บ้านที่เล็กกว่านี้ แต่ถ้าไม่มีน้ำเลยก็คงไม่สะดวก อย่างไรชาวอินเดียนแดงซึ่งเชี่ยวชาญด้านสร้างหมู่บ้านในป่าก็ต้องคิดถึงเรื่องนี้

 

 

ฝูงหมาป่าไม่รู้ว่ามีบ่อน้ำอยู่ เพราะปากบ่อน้ำถูกปิดเอาไว้

 

 

เมื่อหาแหล่งน้ำเจอแล้ว จางจื่ออันก็มั่นใจเต็มเปี่ยม

 

 

“แกว๊กๆๆๆ!”

 

 

เสียงร้องตกใจของริชาร์ดดังมาจากบ้านหลังหนึ่งที่ไม่ไกลออกไป

 

 

จางจื่ออันกับพวกภูตสัตว์เลี้ยงจึงวิ่งเข้าไปดู ก่อนจะสะดุ้งตกใจเหมือนกัน เห็นแค่สัตว์สีดำทมิฬฝูงหนึ่งเฮโลบินออกมาจากในบ้านที่เปิดประตูเอาไว้หลังหนึ่ง แล้วบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเหลืองอร่ามยามเย็นพร้อมเสียงร้องแหลมความถี่สูง ราวกับก้อนเมฆสีดำเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว

 

 

ค้างคาว

 

 

พวกมันบินเร็วมาก เขามองเห็นรูปร่างของพวกมันไม่ชัดเจน คาดว่าเป็นค้างคาวสีน้ำตาลที่พบเห็นได้ง่ายในอเมริกาเหนือ พวกมันเห็นบ้านหลังนั้นเป็นรังเสียแล้ว

 

 

“หนูบินได้พวกนี้ทำข้าตกใจแทบตาย!” ริชาร์ดยังอยู่ในอารามตกใจ ใช้ปีกลูบหน้าอกพร้อมกับร้องไปด้วย

 

 

“นายตาไม่ดี อย่ามัวแต่วุ่นวายทั้งวัน เดี๋ยวก็ได้ตายเข้าสักวัน” จางจื่ออันพูดเตือน

 

 

แม้ค้างคาวจะเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ แต่ร่างกายสกปรกมาก แพร่เชื้อโรคได้ง่าย เพราะงั้นเลิกคิดจะพักในบ้านหลังนี้ได้เลย ข้างในจะต้องมีมูลค้างคาวมากมายแน่นอน กลิ่นเหม็นหึ่งแน่ๆ

 

 

“จื่ออัน ข้าหาบ้านท่าทางยังใช้ได้และไม่เสียหายเจอหลังหนึ่ง” เหล่าฉาวิ่งเข้ามาพูด

 

 

“ไป เข้าไปดูกันเถอะ”

 

 

จางจื่ออันกับพวกภูตสัตว์เลี้ยงตามเหล่าฉามาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง แล้วพิจารณาอย่างละเอียด

 

 

บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ก่อฐานและผนังจากหิน แล้วใช้วัสดุไม้สร้างเป็นหลังคาบ้าน มีทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักเบา ต้องรู้ว่าชายฝั่งทะเลทางตะวันตกของอเมริกาเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแผ่นดินไหวร้ายแรง ถ้าเจอแผ่นดินไหว หลังคาหินอาจจะกระแทกคนตายทั้งบ้าน และกำแพงไม้ก็ยังกันหมีดำในป่าไม่ได้

 

 

ดูไปแล้วบ้านหลังนี้ค่อนข้างสมบูรณ์จริงๆ กระจกหน้าต่างไม่แตกเลยสักบาน ข้างในบ้านปิดผ้าม่านเอาไว้ครึ่งหนึ่ง ราวกับเจ้าของอาจจะกลับมาตลอดเวลา

 

 

“ข้างในมีใครอยู่ไหมครับ”

 

 

ถึงแม้ไม่น่าจะมีคนอยู่ในนั้น 99.99 เปอร์เซ็นต์ แต่เขาก็ยังเคาะประตู และตะโกนถามก่อน

 

 

“ใครน่ะ?”

 

 

เสียงแหลมเล็กและเต็มไปด้วยความมัวหมองเต็มเปี่ยมเสียงหนึ่งตอบกลับมา ฟังดูแล้วน่าขนลุกทีเดียว

 

 

เขากับพวกภูตสัตว์เลี้ยงต่างก็ตกตะลึง พร้อมใจกันถอยหลังไปครึ่งก้าว หลายวินาทีต่อมาถึงจะได้สติ มารดาคุณสิ ริชาร์ด เจ้านกชั่วตัวนี้เลียนเสียงคนตอบกลับมา

 

 

“แกว๊กๆ!” ริชาร์ดรู้ว่าตัวเองต้องถูกตี จึงรีบบินไปหลบในที่สูง

 

 

ตอนนี้จางจื่ออันไม่มีเวลาไปสนใจมัน เขาลองดันประตู แต่ประตูล็อกเอาไว้แน่นหนามาก

 

 

ช่วยไม่ได้ ดูท่าทางคงต้องทำลายหน้าต่างเข้าไปเท่านั้นแล้ว

 

 

เขากำลังคิดจะอ้อมด้านข้างไปทุบกระจก แล้วปลดล็อกหน้าต่างเข้าไปในบ้าน แต่อยู่ๆ ก็นึกถึงภาพยนตร์และซีรีย์อเมริกามากมาย บ่อยครั้งที่คนอเมริกาซ่อนกุญแจไว้ใกล้ๆ ประตูบ้าน อย่างเช่น ข้างใต้พรมหน้าบ้าน ข้างบนกรอบประตู หรือทับอยู่ข้างใต้กระถางต้นไม้บนหน้าต่าง…โดยเฉพาะบ้านตากอากาศขนาดเล็ก เจ้าของบ้านจะมาสักครั้งในรอบหลายเดือน หากนำกุญแจติดตัวไปด้วยก็ยิ่งทำหายได้ง่ายขึ้น

 

 

เขาฉุกคิดขึ้นได้ จึงควานหาบริเวณหน้าประตู ถึงอย่างไรลองดูก็ไม่เสียหาย หาไม่เจอจริงๆ ค่อยทุบหน้าต่างเข้าไปก็ยังไม่สาย

 

 

เมื่อทำลายความสมบูรณ์ของบ้านหลังนี้แล้ว อีกหน่อยก็คงจะกลายเป็นถ้ำของค้างคาว ต่อไปถ้ามีนักเดินป่ามาที่นี่ ก็ทำได้แค่กางเต็นท์กลางป่าอย่างสิ้นหวังแล้ว…

 

 

พยายามให้เขาคิดสักหน่อยจะดีกว่า

 

 

“แกว๊กๆ! เจ้าโง่เอ็งกำลังหาอะไรน่ะ?” ริชาร์ดอดถามไม่ได้

 

 

“ฉัน…”

 

 

จางจื่ออันยังไม่ได้คิดให้ดีว่าจะเอาคืนนกชั่วตัวนี้อย่างไร จึงถือโอกาสย้ายก้อนหินก้อนหนึ่งใต้ระเบียงหน้าประตูบ้าน และเห็นกุญแจเหล็กใต้ก้อนหินเข้าทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด