Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง 1642 เพื่อนร่วมงานเก่า

Now you are reading Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง Chapter 1642 เพื่อนร่วมงานเก่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลายวันต่อมา 

 

 

ข่าวการกลับมาของจางจื่ออันแพร่สะพัดไปในกลุ่มเพื่อนแล้ว ลูกค้าเก่าที่เหมือนจ้าวฉีบางคนก็พาเพื่อนสนิทที่อยากซื้อสัตว์เลี้ยงมา แม้แฟนคลับของเฟยหม่าซือจะน้อยลงกว่าช่วงที่ภาพยนตร์ได้รับความนิยม แต่จากช่วงที่ฉาย ‘ยอดสุนัขพิทักษ์สมรภูมิ’ อยู่เรื่องเดียว และการฉายไปบนแพล็ตฟอร์มอินเทอร์เน็ต ก็มีแฟนคลับใหม่ไม่น้อยที่มาจากแดนไกลพันลี้เพื่อถ่ายรูปคู่กับมัน คนที่ร้านขายสัตว์เลี้ยงจึงร้อนเหมือนอากาศด้านนอก 

 

 

แต่ถึงแม้มีช่วงอากาศร้อนหลังจากฤดูใบไม้ผลิ แต่ฤดูกาลนี้จะไม่ร้อนจนหายใจไม่ออกเหมือนในฤดูร้อนแล้ว 

 

 

การเปลี่ยนจากฤดูร้อนเป็นฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงที่มีไต้ฝุ่นตามทะเลสูงมาก ก่อนเขาไปอเมริกาก็กังวลว่าไต้ฝุ่นจะขึ้นมาที่เมืองปินไห่หรือเปล่า ดีที่ก่อนหน้านี้ไต้ฝุ่นลูกนั้นเปลี่ยนทิศทางไปในที่สุด 

 

 

ไต้ฝุ่นอาจจะทำให้น้ำไม่ไหลและไฟดับ ร้านสัตว์เลี้ยงยังดีอยู่ หลังจากน้ำไม่ไหลและไฟดับอย่างมากก็มีกลิ่นเหม็นเล็กน้อย แต่พอพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเกิดน้ำไม่ไหลขึ้นมา ถ้าหากไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า สัตว์ทะเลที่อาศัยสภาพแวดล้อมอุณหภูมิต่ำพวกนั้นอาจจะประสบกับหายนะ 

 

 

ตอนนี้เขาต้องนั่งอยู่หน้าโทรทัศน์เวลาเดิมทุกเย็น เพื่อดูพยากรณ์อากาศกับเหล่าฉา 

 

 

เมื่อวานเย็นเขายกชามขนาดใหญ่มาพุ้ยบะหมี่เย็นเข้าปากไปด้วย ดูพยากรณ์อากาศไปด้วย เห็นผู้ประกาศสวยเพียบพร้อมดึงภาพแผนที่ไปยังน่านน้ำทะเลทางใต้อย่างที่คาดเอาไว้ บอกว่ามีกลุ่มก้อนเมฆความกดอากาศต่ำเขตร้อนกำลังเคลื่อนที่ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 

 

 

เผชิญหน้าพายุลูกเห็บที่น่าประหลาดในป่าเรดวูดมาแล้วครั้งหนึ่ง เขากลับมาบรรยายภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นให้คนอื่นฟัง บอกว่ามีลูกเห็บขนาดใหญ่เท่าเก้าอี้กระแทกลงมาดังโครม คนอื่นต่างก็ไม่เชื่อทั้งนั้น คิดว่าเขาเล่นลูกไม้อีกแล้ว น่าเสียดายที่ตอนนั้นเขาลืมถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ คำพูดไม่มีหลักฐาน เปลี่ยนเป็นเขาฟังคนอื่นพูดอย่างนี้ก็คงจะไม่เชื่อเหมือนกัน 

 

 

ผ่านเรื่องพวกนี้มาแล้ว เขาก็หวาดกลัวต่อสภาพอากาศอย่างยิ่ง คิดจะถือโอกาสก่อนที่ไต้ฝุ่นจะมาจริงๆ เสริมความแข็งแรงให้ประตูและหน้าต่าง และทำหลังคาซ้อนอีกชั้นบนหลังคา ถึงอย่างไรก็เป็นบ้านเก่าแล้ว 

 

 

หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จแล้วก็ไม่มีอะไรทำ เขาจึงเดินไปคิดเรื่องนี้ข้างนอก คิดดูว่าจัดการอย่างไรดีกว่ากัน 

 

 

วันนี้ฟ้าครึ้ม ไม่นับว่าร้อน ความแรงลมประมาณสามถึงสี่ระดับ นับเป็นอากาศดีที่เหมาะกับการออกไปข้างนอก ขอแค่ฝนไม่ตกหนักก็พอ 

 

 

“พ่อหนุ่มจาง ปรับแต่งบ้านอยู่เหรอ” 

 

 

เสียงหนักเหมือนระฆังใหญ่เสียงหนึ่งพลันดังมาจากด้านหลัง 

 

 

จางจื่ออันหันกลับไปมอง เห็นแค่ชายวัยกลางคนมีชีวิตชีวาสองคนจับรถและใช้เท้ายันยืนอยู่ข้างถนน คนหนึ่งขี่จักรยานไฟฟ้า คนหนึ่งขี่จักรยานธรรมดา นั่นคือช่างเชื่อมจ้าวและช่างไฟฟ้าอู๋ที่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ที่ทักทายเขาก็คือช่างเชื่อมจ้าว แม้จะตัวเตี้ย แต่เสียงดัง ฟังแค่เสียงอย่างเดียวยังคิดว่าเป็นชายชาตรีที่ห้าวหาญ 

 

 

“สวัสดีเสี่ยวจาง! ไม่เจอกันนานเลย” ช่างไฟฟ้าอู๋ก็โบกมือให้เขา 

 

 

“โอ้ ที่แท้ก็คุณจ้าวกับคุณอู๋นี่เอง! เข้าไปนั่งข้างในร้านไหมครับ ข้างในเปิดแอร์นะครับ เย็นสบายเลย” จางจื่ออันเชิญอย่างมีมารยาท 

 

 

ครั้งก่อนที่เจอสองคนนี้ เกิดเรื่องในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ ต้นฤดูร้อน ตอนนั้นช่างเชื่อมจ้าวเพิ่งรอดชีวิตจากการเก็บพาลีทอกซินกลับมา ด้วยเขาเห็นแก่ของถูก ซื้อสัตว์น้ำจำนวนหนึ่งมาจากร้านขายสัตว์น้ำที่ถูกการอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ตรวจสอบเพื่อที่จะอายัดเพราะขายเพราะขายดอกไม้ทะเลมีพิษ ผลสุดท้ายทำให้ปลาบลูแทงค์หลายตัวตกอยู่ในอันตราย เป็นจางจื่ออันที่ตอบรับคำเชิญของช่างไฟฟ้าอู๋ พาวลาดิเมียร์ไปพบเขาถึงที่บ้าน 

 

 

ที่จริงร้านขายสัตว์น้ำร้านนั้นก็เสียเปรียบทีเดียว เพราะขั้นตอนการนำเข้าของร้านขายสัตว์น้ำไม่เหมือนกับร้านขายสัตว์เลี้ยงทั่วไป หลายๆ ครั้งนำเข้าตามน้ำหนักตู้ โดยเฉพาะสัตว์น้ำที่พบเห็นได้ง่ายพวกนั้น ต่างก็ขายปริมาณมากในราคาต่ำทั้งนั้น เพื่อให้สะดวกต่อการคิดเงินตามน้ำหนัก ไม่มีเวลาตรวจสอบละเอียดว่ามีปลาหรือกุ้งอย่างละกี่ตัว จึงเลี่ยงแขกที่ลักลอบเข้ามาได้ยาก 

 

 

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของจางจื่ออันไม่คิดอย่างนี้ สัตว์น้ำในร้านของเขาเป็นสัตว์ที่เขาเก็บมาจากริมทะเลด้วยมือตัวเองทั้งนั้น ไม่ได้ซื้อขายเป็นปริมาณมากในราคาถูก ยอมขาดแคลนดีกว่ามีของด้อยคุณภาพ อย่างน้อยก็แน่ใจว่าที่ตัวเองขายคืออะไร 

 

 

ช่างไฟฟ้าอู๋กับช่างเชื่อมจ้าวตัวติดกันอยู่ตลอด ก่อนหน้านี้เป็นเพื่อนร่วมงานกันมาหลายปี หลังจากปลดเกษียณแล้วก็ไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ ได้ยินว่าหลังจากนั้นพวกเขามาที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของจางจื่ออันอยู่หลายครั้ง แต่จางจื่ออันบังเอิญอยู่ข้างนอกหรือไปต่างประเทศพอดี จึงไม่ได้เจอกันเลย ถึงอย่างไรพวกเขาก็ว่างงาน แค่มาดูว่าในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมีของแปลกมาใหม่หรือเปล่า พอวิจารณ์อย่างพอใจแล้วก็ไปพูดโม้กับเพื่อนคนอื่นๆ 

 

 

“ไม่ล่ะๆ พวกเราผ่านมาเฉยๆ เห็นเสี่ยวจางกำลังเหม่ออยู่ ก็เลยทักทาย ไม่อยากเข้าไปรบกวนหรอก” ช่างไฟฟ้าอู๋ยิ้ม 

 

 

จางจื่ออันสังเกตเห็นว่า ข้างหลังของพวกเขาสะพายกระเป๋าเก็บของทรงยาวใบหนึ่ง ดูจากรูปทรงก็บอกได้ว่าเป็นของใช้ออกกำลังประเภทไม้ตีกอล์ฟ แน่นอนว่าด้วยความขี้เหนียวของช่างเชื่อมจ้าว เขาไม่มีทางทุ่มเงินมากมายเล่นกอล์ฟแน่นอน นั่นเป็นกีฬาชั้นสูงของคนรวยและอภิสิทธิ์ชน 

 

 

ช่างเชื่อมจ้าวทำหน้าบึ้ง แล้วพูดอย่างไม่เข้าใจ “อะไรเรียกว่ารบกวน? พวกเรากับเจ้าหนุ่มจางไม่ใช่คนแปลกหน้ากันสักหน่อย พวกเรามีมิตรภาพที่ดีต่อกัน เรียกว่ารบกวนได้เหรอ? ต่อไปฉันอาจจะแนะนำผู้หญิงให้ไอ้หนุ่มสักคนก็ได้!” 

 

 

“นายลืมไปซะเถอะ! นี่เรียกว่ามีมิตรภาพต่อกันได้ด้วย? นายอย่าทำขายหน้าหน่อยเลย!” ช่างไฟฟ้าอู๋ส่ายหน้าอย่างจนใจให้จางจื่ออัน 

 

 

จางจื่ออันก็เข้าใจความขี้เหนียวของช่างเชื่อมจ้าว พฤติกรรมป่าเถื่อนและก้าวร้าว โดยเฉพาะการพูดโม้ ไม่หวาดหวั่นสิ่งใด ปากไม่มีหูรูด ไม่ว่าพูดอะไรต้องลดความน่าเชื่อถือลงสองส่วน ที่จริงคนนิสัยแบบนี้คบหาง่ายทีเดียว มีเรื่องอะไรก็พูดได้ตรงๆ เล่นสกปรกไม่ได้ 

 

 

เพื่อนร่วมงานเก่าสองคนนี้ผลัดกันพูดไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน ดูเหมือนกันโกรธมากจนแทบจะต่อยหน้ากันได้ตลอดเวลา แต่ความจริงกลับไม่มีใครเก็บมาใส่ใจ เป็นเพียงการล้อเล่นทั้งนั้น แค่ดึงดูดสายตาของคนเดินถนนที่ไม่รู้ความจริงเท่านั้นเอง 

 

 

“ทั้งสองคนจะไปเดินเล่นที่ไหนเหรอครับ” จางจื่ออันพูดแทรกขัดจังหวะพวกเขา ไม่ให้คนเดินถนนคิดว่าคนแก่สองคนนี้กำลังทะเลาะกันอยู่จริงๆ แล้วถ่ายคลิปวิดีโอโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่ 

 

 

ช่างเชื่อมจ้าวพลิกมือตีกระเป๋าเก็บของข้างหลัง แล้วแย่งตอบว่า “วันนี้อากาศใช้ได้ เลยนัดเพื่อนสองสามคนไปตกปลาริมทะเลด้วยกันน่ะ!” 

 

 

“อ๋อ!” 

 

 

จางจื่ออันเพิ่งจะเข้าใจ ที่แท้พวกเขาสะพายคันเบ็ดตกปลานี่เอง แต่ตกปลาริมทะเลมีแค่คันเบ็ดตกปลาคงจะไม่ได้ แถมไม่ใช่การตกปลาแบบเจียงไท่กงที่ใช้คันเบ็ดไม่มีตะขอตกปลา อย่างน้อยต้องมีเหยื่อล่อปลา แต่เห็นพวกเขามามือเปล่า หรือว่าถึงชายทะเลแล้วค่อยขุดดินหาไส้เดือน? นี่ก็อาจจะเป็นไปได้ ดูจากด้วยความขี้เหนียวของช่างเชื่อมจ้าวแล้ว เขาคงทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ 

 

 

ช่างเชื่อมจ้าวเดาได้ว่าเขาจะถามอะไร จึงพูดเสริมทันที “เพื่อนฉันพวกนั้นน่าจะมีรถ ขนของได้สะดวก พวกเขาบอกให้พวกฉันสองคนเอาคันเบ็ดตกปลาไปก็พอ ของอย่างอื่นพวกเขาจะเตรียมเอง” 

 

 

ช่างไฟฟ้าอู๋รีบเกทับ “เสี่ยวจาง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนั้นหรอก ทุกคนรู้กันดีว่าเหล่าจ้าวเขาเป็นคนยังไง เขาตัดใจซื้อคันเบ็ดตกปลาของตัวเองก็โชคดีมากแล้ว ทุกคนตั้งใจกำชับเบอร์ไม้ตกปลาด้วย ให้เขาซื้อจากร้านขายอุปกรณ์ประมงหรือบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ห้ามเอาท่อนไม้มาเหลาเอง…” 

 

 

แม้ว่าช่างเชื่อมจ้าวจะหน้าหนา แต่ได้ยินคำพูดนี้แล้วก็แอบโกรธ “ไร้สาระ! นายคนตระกูลจ้าวอย่างฉันเป็นคนยังไง? ลืมมิตรภาพหลายปีมานี้ของพวกเราซะ! เลิกคบ! ต่อไปพวกเราเลิกคบกันไปเลย!” 

 

 

เท่าที่จางจื่ออันเคยสัมผัสมา เขาก็คิดว่าช่างเชื่อมจ้าวเป็นคนแบบนั้นจริงๆ 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด