ความลับแห่งจินเหลียนตอนพิเศษ 11 วิชาลับจินเหลียน

Now you are reading ความลับแห่งจินเหลียน Chapter ตอนพิเศษ 11 วิชาลับจินเหลียน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทว่าร่างกายที่อ่อนแอของหูชีเยี่ยนสู้การกระทำอันธพาลของเขาไม่ได้เลย หลังจากที่โดนฟาดไปสี่ห้าสิบครั้ง เขาก็เจ็บจนสลบไป ซีเหมินน่งเยว่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากสั่งให้คนไปเอาน้ำเย็นมาสาดเขาให้ตื่น

 

 

“โสมกับรังนกเยอะขนาดนั้น เอาไปให้หมากินหมดแล้วรึไง” ซีเหมินน่งเยว่ก่นด่าออกมา “ถ้าทนเจ็บไม่ได้นายก็บอกมาสะดีๆ”

 

 

“น้องสาวนายสิ ฉันมีเงินซื้อโสมกับรังนกกิน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย?” หูชีเยี่ยนด่าออกมาอย่างเดือดดาล

 

 

“ได้ นายด่ามาเลย ยังไงน้องสาวฉันก็เป็นของนายไปแล้ว เรามาเล่นอะไรที่ไม่เสียประสาทดีกว่า ไปเอาหัวแร้งมา ฉันไม่เชื่อว่าคราวนี้นายจะยังปากแข็งได้อยู่” ซีเหมินน่งเยว่ยิ้มเยาะพูด

 

 

ตอนที่หัวแร้งถูกเผาจนเป็นสีแดงทาบลงบนตัวของหูชีเยี่ยน เขาก็ถึงกับกระอักเลือดสดออกมา แล้วก็สลบไปอีกครั้ง…ความเจ็บในระดับนี้ อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้เป็นพวกที่ผ่านการสู้รบมานับร้อยครั้ง ก็ทนความเจ็บแบบนี้ไม่ไหวหรอก

 

 

ซีเหมินน่งเยว่ทรมานเขามาสองชั่วโมงเต็ม ใช้ทุกวิธีจนครบแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ยอมปริปากบอก ตอนแรกโดนตีก็ด่ากลับไปบ้าง แต่หลังๆ เขาก็ไม่ยอมพูดอะไรทั้งนั้น

 

 

งูผีเคยบอกว่า ร่างกายของหูชีเยี่ยนอ่อนแอมาก จึงต้องไปหาพวกสมุนไพรแปลกๆ มาเพื่อรักษา ทำให้ซีเหมินน่งเยว่ต้องระวังอย่างมาก ไม่กล้าใช้พวกวิธีทรมานที่แท้จริง ด้วยกลัวว่าจะพลากชีวิตเขาไปจริงๆ ตนก็เสียแรงเปล่า

 

 

แต่เขากลับปากแข็งมาก โดนถึงขนาดนี้แล้ว กลับยังทำหน้าสบายใจได้ ทุกครั้งที่ถูกเขาเอาน้ำเย็นสาดแล้วรู้สึกตัวขึ้นมา ก็จะพูดกระแนะกระแหนเขา ทำให้ซีเหมินน่งเยว่โมโหจนกัดฟันกร่อน

 

 

“ฉันว่านะไอ้แก่เจ้าเลห์ ไหนๆ นายก็ทนความเจ็บปวดพวกนี้ไม่ได้ เรามาคุยกันดีๆ ดีไหม?” ซีเหมินน่งเยว่เสยคางของหูชีเยี่ยนขึ้นมา แล้วถอนหายใจก่อนจะพูดว่า ”นายดูสิ คนที่งดงามอ่อนโยนเหมือนหยกคนหนึ่ง ถูกฉันทรมานจนกลายเป็นแบบนี้ ฉันก็อดสงสารไม่ได้จริงๆ”

 

 

“ฉันไม่สนใจนายเลยสักนิด…” หูชีเยี่ยนเพิ่งพูดได้ประโยคเดียว กลับไออย่างรุนแรงอย่างกลั้นไม่อยู่ มุมปากก็มีเลือดพรูไหลออกมาไม่หยุด “ฉันว่านะ คงไม่ใช่ว่างูผีแอบรักฉันหรอก น่าจะเป็นนายมากกว่าที่สนใจฉัน บอกตรงๆ เลยว่า ฉันสนใจแค่น้องสาวนายเท่านั้น…”

 

 

เสียง ‘เพี๊ยะ’ ดังลั่นซีเหมินน่งเยว่ตบเข้าที่หน้าของเขา แล้วกลับมาจับคางเขาไว้อีกครั้ง ก่อนพูดอย่างเดือดดาลว่า “ถ้านายไม่อยากให้ฉันลงมือเหลียนเฟิง นายก็บอกมาซะดีๆ…”

 

 

“นายจะให้ฉันพูดอะไร?” หูชีเยี่ยนเงยหน้าขึ้นมา แล้วไอเป็นเลือดออกมาอีกครั้ง แต่ในดวงตาของเขาก็ยังส่องประกายระยิบระยับ แม้แต่สีหน้าของเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย

 

 

“เคล็ดวิชาหลอมหยก” ซีเหมินน่งเยว่ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

 

 

“ฉันพูด นายเขียน…” หูชีเยี่ยนพูดเสียงต่ำ

 

 

“คิดได้แล้วหรอ?” ซีเหมินน่งเยว่ยิ้มพูด

 

 

“นายพูดถูก ฉันทนความเจ็บปวดพวกนี้ไม่ไหว ความจริง ฉันอยากบอกตั้งนานแล้ว แต่นายไม่ได้ถาม…” หูชีเยี่ยนกลับหัวเราะเบาๆ

 

 

“นาย…“ ซีเหมินน่งเยว่โกรธจนแทบกระอักเลือด

 

 

“ อย่าตีฉันนะ สมองฉันไม่ค่อยดี… ตีจนเป็นอะไรขึ้นมา ฉันก็ไม่กล้ารับประกันว่าฉันจะจำได้……” หูชีเยี่ยนพูดนิ่งๆ

 

 

ไม่นาน ซีเหมินน่งเยว่ก็หากระดาษกับปากกามา หูชีเยี่ยนพูดช้าๆ ทีละคำๆ แต่อักษรพวกนั้นกลับเข้าใจยากมาก มีชื่อเฉพาะต่างๆ ที่ต่อให้ซีเหมินน่งเยว่จะเป็นด็อกเตอร์ ก็เป็นการยากที่จะเข้าใจในเวลาอันสั้นนี้ได้

 

 

ตัวอักษรสามร้อยกว่าตัว ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ ซีเหมินน่งเยว่เขียนไปพลาง อดไม่ได้ที่จะให้เขาอธิบายเรื่องต่างๆ ไปพลาง จนหลังๆ หูชีเยี่ยนอดโมโหไม่ได้ “เรื่องประหลาดๆ พันธุ์นี้ คนที่เป็นหมอมองโกลอย่างนายยังรับมือไม่ไหว แล้วฉันจะไปเข้าใจได้ยังไง?”

 

 

“หรือนายไม่เข้าใจ?” ซีเหมินน่งเยว่ถามอย่างไม่สบอารมณ์

 

 

“ไร้สาระ…ฉันใช้เวลาเกือบสามปี ค้นหาหนังสือโบราณมากมาย กว่าจะแปลออกมาได้ ส่วนความหมายที่แฝงอยู่ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ **ตีฉันให้ตายก็ไม่มีประโยชน์” หูชีเยี่ยนอันธพาลมาก

 

 

“ดีมาก แล้วหินห้าสีล่ะ?” ซีเหมินน่งเยว่ถามต่อ

 

 

“อีกสามวันเดี๋ยวฉันพานายไปดู…แต่ฉันก็รู้แค่ตำแหน่งคร่าวๆ ส่วนเรื่องที่ว่าจะหาเจอหรือไม่ ก็ต้องดูโชคชะตาแล้วล่ะ” หูชีเยี่ยนจงใจพูด

 

 

“ทำไมต้องรอสามวัน?” ซีเหมินน่งเยว่เสยคางเขาขึ้นมาอีกครั้ง พลันยิ้มเยาะ “นายอย่ามาเล่นตุกติกกับฉันจะดีกว่า…นายอย่าลืมว่า เหลียนเฟิงยังอยู่ในมือฉัน”

 

 

หูชีเยี่ยนก่นด่าเสียงต่ำที พลันถามกลับว่า “นายก็ลองดูสภาพฉันสิ ฉันเดินไหวเหรอ? ด้วยความสามารถทางการแพทย์ของนาย ทำให้ฉันดีขึ้นสักหกสิบเปอร์เซ็นต์ ภายในสามวันคงไม่ใช่ปัญหาหรอกใช่มั้ย?”

 

 

“นายก็ช่างกล้าพูดแบบนี้” ซีเหมินน่งเยว่อยิ้มเยาะพลางพูด “นายคิดว่าฉันเป็นงูผีหรือไง ที่จะมียาวิเศษมากมายมาเสียกับคนไร้ประโยชน์อย่างนาย?”

 

 

“แล้วแต่นาย สามวันไม่ได้งั้นก็สามเดือน หรือไม่ก็สามปี…” หูชีเยี่ยนหลับตาลง พูดอย่างเรียบๆ ว่า “ยังไงสภาพฉันตอนนี้ก็เดินไม่ไหว นายอย่าลงมืออีกเลยจะดีกว่า ไม่อย่างนั้น ถ้านายตีฉันจนตาย ก็อย่าหวังว่าจะหาหินห้าสีเจอ”

 

 

“มีหินห้าสีจริงๆ หรอ?” ซีเหมินน่งเยว่ยังคงสงสัย หรือว่าจะมีของในตำนานแบบนั้นจริงๆ?

 

 

“ที่คุณท่านของนายยอมอยู่กับแม่ฉันในป่าลึก ประการแรกเพราะกลัวแม่นายแก้แค้น ประการที่สองก็เพราะสิ่งนี้แหละ ไม่อย่างนั้นด้วยความทะเยอทะยานของเขา จะยอมได้อย่างไร?” หูชีเยี่ยนพูดเสียงเรียบ “เพียงแต่แม่ฉันไม่ได้โง่ก็เท่านั้น”

 

 

“แต่น่าเสียดายที่นายโง่” ซีเหมินน่งเยว่หัวเราะเย้ย

 

 

หูชีเยี่ยนเพียงยิ้มอย่างเรียบเฉย โง่งั้นเหรอ? ในสังคมแบบนี้ใครจะโง่?

 

 

“เอาตัวมันลงมา แล้วทำแผลให้มันซะ” ซีเหมินน่งเยว่ออกคำสั่ง

 

 

ไม่นาน หูชีเยี่ยนถูกขังอยู่ในคุกห้องหนึ่ง แม้จะดูเป็นห้องธรรมดา แต่ก็มีคนเฝ้าอย่างแน่นหนา ซีเหมินน่งเยว่ยังคงไม่วางใจ การที่เขาจับตัวหูชีเยี่ยนมา คนที่เขากลัวที่สุดไม่ใช่ใครอื่น คืองูผี ประลองกันหลายครั้ง เขาก็ไม่เคยชนะเลยสักครั้ง

 

 

โชคดีที่งูผีไปอเมริกา และเขาก็ยังปิดข่าว ทุกอย่างยังคงเป็นปกติ ขอเพียงไม่มีอะไรที่เหนือความคาดหมาย ย่อมสามารถลงมือก่อนที่งูผีจะกลับมาได้อย่างแน่นอน

 

 

ส่วนเหลียนเฟิงนั้น…เก็บเธอไว้เพราะยังพอมีประโยชน์อยู่ สามารถเอามาเป็นตัวห้ามงูผีได้

 

 

ไม่สิ ซีเหมินน่งเยว่ส่ายหัว หูชีเยี่ยนเก่งเรื่องการวางแผน ครั้งนี้ก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะง่ายเกินไป ไม่แน่ว่าไอ้หมอนั่นกำลังเล่นตุกติกอะไร แต่ว่า ตอนนี้เขาตกอยู่ในกำมือของตัวเอง โดนทรมานต่างๆ นานา แล้วก็ยังยอมบอกเคล็ดวิชาหลอมหยกแล้วด้วย พอคิดไปคิดมา ก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติเลยนี่นา

 

 

อย่างไรก็ต้องระวังไว้ หูชีเยี่ยนไม่เก่งเรื่องศิลปะการต่อสู้ ก็คงไม่ต้องกลัวว่าเขาจะบินหนีออกไป

 

 

สามวันหลังจากนั้น แม้ว่าซีเหมินน่งเยว่จะไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องเอายาหลินจือที่เก็บไว้ใต้กล่องมาเพื่อทำแผลให้เขา ด้วยเหตุนี้ อาการของหูชีเยี่ยนดีขึ้นมากจากเดิมประมาณห้าหกสิบเปอร์เซนแล้ว และถูกซีเหมินน่งเยว่พาตัวมาถึงเหมืองหยกที่อยู่ระหว่างชายแดนพม่าและลาว

 

 

ที่นี่เป็นเหมืองหยกส่วนตัวของหูชีเยี่ยน…ซีเหมินน่งเยว่จึงไม่กล้าประมาท

 

 

“เอามือถือมาให้ฉัน” หูชีเยี่ยนพูดเรียบๆ

 

 

“ นายจะทำอะไร?” ซีเหมินน่งเยว่ถามอย่างระแวง

 

 

“ฉันจะสั่งให้ทุกคนออกจากเหมืองหยก จากนั้น ฉันค่อยพานายเข้าไป….” หูชีเยี่ยนพูดเสียงเรียบ “หรือนายอยากแบ่งปันสถานการณ์อันยิ่งใหญ่นี้กับคนอื่น? อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะ ข้างล่างมีทหารเฝ้าอยู่อย่างหนาแน่น ถ้าไม่ให้พวกเขาถอนกำลังออกไป นายมั่นใจเหรอว่าจะฆ่าปิดปากฉัน แล้วเอาหินห้าสีออกไปได้?”

 

 

“นายดูจะคิดแทนฉันไปหมดเลยนะ” ซีเหมินน่งเยว่แค่นเสียงขึ้นจมูกที เหตุใดจึงรู้สึกเหมือนมีอะไรผิดปกติ ทว่าเขาก็วางแผนสำรองไว้แล้ว จึงไม่ได้กลัวหูชีเยี่ยน อีกอย่าง ที่เขาพูดก็มีเหตุผล ในเหมืองหยกแห่งนี้ หูชีเยี่ยนคือผู้มีอำนาจสูงสุด ทุกคนต่างเคารพเขา ถ้ามีคนรู้ว่าเขาโดนจับตัวมา ก็คงจะควบคุมสถานการณ์ยากแน่

 

 

หูชีเยี่ยนไม่ใช่พวกคนรวยที่ไม่มีคุณธรรม จึงมีคนมากมายยอมทำงานถวายชีวิตให้เขา

 

 

ซีเหมินน่งเยว่ยื่นมือถือให้หูชีเยี่ยน หูชีเยี่ยนกดโทรหาหมายเลขหนึ่ง ก่อนสั่งเสียงเรียบว่า “เม่ยอิ่งถอนกำลังคนออกจากเหมืองหยก ฉันมีเรื่องต้องจัดการ…”

 

 

ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น คนงานขุดเหมืองทั้งหมด รวมถึงทหารที่อยู่รอบๆ ก็ถอนกำลังออกทั้งหมด หูชีเยี่ยนจึงพาซีเหมินน่งเยว่เดินเข้าเหมืองหยกไป

 

 

เพียงแต่จนถึงตอนนี้ ซีเหมินน่งเยว่ก็ค้นพบอย่างตะลึงว่า เหมืองหยกแห่งนี้มีทางเข้าแค่ทางเดียว และยังเป็นทางภูเขา…

 

 

พวกเขาสวมหมวกคนงานเหมืองและเครื่องแบบเช่นเดียวกับคนอื่นๆ และหูชีเยี่ยนยังคงอยู่ในชุดคลุมสีดำ ทุกคนต่างค่อยๆ เคลื่อนตัวลงเหมืองด้วยบันไดเลื่อน รอบข้างมืดสนิท มีเพียงไฟฉายคนงานบนศีรษะของซีเหมินน่งเยว่ ก็จะกะพริบไฟอ่อนๆ…

 

 

จนกระทั่งบันไดเลื่อนมาถึงข้างล่างแล้ว หูชีเยี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ และเดินนำเข้าไปโดยไม่รอให้ซีเหมินน่งเยว่พูดอะไร

 

 

“ไอ้แก่เจ้าเล่ห็ ฉันเตือนไว้ก่อนนะ เหลียนเฟิงก็อยู่ที่นี่ด้วย อยู่ที่เขตเหมืองที่สอง ถ้านายคิดจะทำอะไรฉัน ฉันจะฆ่าเธอเป็นคนแรก” ซีเหมินน่งเยว่ยิ้มเยาะ

 

 

ตามคาดหูชีเยี่ยนชะงักฝีเท้าทันทีพลันถามว่า “เธอมาได้ยังไง?”

 

 

“ใครๆ ก็รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงของนาย การที่เธอจะเข้ามาในเหมืองหยก จะยากอะไร?” ซีเหมินน่งเยว่พูดพลางหัวเราะเย้ย

 

 

“อืม…” หูชีเยี่ยนเพียงตอบรับไปส่งๆ แล้วเดินหน้าต่อ ยิ่งเดินเข้าไป ก็ยิ่งลึกและหนาวเย็น ซีเหมินน่งเยว่รู้สึกผิดปกติ จึงตะเบ็งเสียง “นายจะพาพวกฉันไปที่ไหนกันแน่?”

 

 

“ในเมื่อนายทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว งั้นก็ตรงนี้เลยแล้วกัน” หูชีเยี่ยนหมุนตัวกลับมามองซีเหมินน่งเยว่ แล้วยิ้มอย่างเรียบเฉย จากนั้นนิ้วของเขาปรากฏข้อนิ้วอันสลับทับซ้อน ดอกบัวสีทองดอกหนึ่งค่อยๆ บานออก…

 

 

“นี่คือ…” ซีเหมินน่งเยว่หรี่ตาลง จินเหลียนวิชาลับ? อานุภาพไร้ขีดจำกัด เขาถอยหลังอย่างรวดเร็ว แสงสีทองส่องผ่าน สะท้อนเต็มตา…

 

 

ข้างหูของซีเหมินน่งเยว่ กลับมีเสียงร้องโอดครวญของบอดี้การ์ดสองคนดังมา สองคนนี้เป็นยอดฝีมือที่อยู่ในประเทศลาวมาหลายปี ยังต้านทานอานุภาพของจินเหลียนไม่ได้

 

 

แม้ว่าซีเหมินน่งเยว่จะหลบไปอย่างว่องไว แต่สุดท้ายก็ไม่วายจะเจ็บหนัก อ้าปากกระอักเลือดสีสด อานุภาพแห่งจินเหลียนนี้ช่างแข็งแกร่งไร้เทียมทานจริงๆ

 

 

แต่หูชีเยี่ยนกลับอาการสาหัส ไอไม่หยุด ทั้งยังมีเลือดสดไหลออกจากปากอย่างต่อเนื่อง

 

 

“ฮ่าๆ” ในที่สุดซีเหมินน่งเยว่ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมงูผีต้องหาสมุนไพรหายากพวกนั้นเพื่อมารักษาเขา ที่แท้ก็เพราะเขาบกพร่องตั้งแต่เกิด ถึงแม้เขาจะรู้เทคนิคการต่อสู้ และฝึกจนบรรลุวิชาลับขั้นสูงสุด แต่ร่างกายกลับรับไม่ไหว ทำร้ายคนอื่นที ตนก็ต้องสูญเสียไม่ต่างกัน

 

 

วิชาลับระดับนี้ ต้องรวมพลังแห่งวายุและวารีเข้ากับอานุภาพแห่งฟ้าดิน หลอมเข้ากับเทคนิคการต่อสู้ เมื่อสำแดงออกมา จะมีอานุภาพที่สามารถทลายหินตะลึงสวรรค์ แต่นั่นต้องยืมพลังจากฟ้าดิน แต่ตอนนี้หูชีเยี่ยนใช้เพียงกำลังของตัวเองในการเรียกใช้วิชาลับนี้ อานุภาพย่อมด้อยลงไปมาก แต่ก็มองข้ามไม่ได้เช่นกัน

 

 

และทันทีที่หูชีเยี่ยนโจมตี แม้จะทำให้ซีเหมินน่งเยว่บาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็ไม่มีกำลังที่จะลงมืออีกครั้ง เวลากระชั้นชิดมาก ไม่พอให้มานั่งคิดมาก เขาพลันเคลื่อนไหวราวกับเงาดำ ลอยไปหาเหลียนเฟิงที่เขตเหมืองที่สอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ความลับแห่งจินเหลียนตอนพิเศษ 11 วิชาลับจินเหลียน

Now you are reading ความลับแห่งจินเหลียน Chapter ตอนพิเศษ 11 วิชาลับจินเหลียน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทว่าร่างกายที่อ่อนแอของหูชีเยี่ยนสู้การกระทำอันธพาลของเขาไม่ได้เลย หลังจากที่โดนฟาดไปสี่ห้าสิบครั้ง เขาก็เจ็บจนสลบไป ซีเหมินน่งเยว่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากสั่งให้คนไปเอาน้ำเย็นมาสาดเขาให้ตื่น

 

 

“โสมกับรังนกเยอะขนาดนั้น เอาไปให้หมากินหมดแล้วรึไง” ซีเหมินน่งเยว่ก่นด่าออกมา “ถ้าทนเจ็บไม่ได้นายก็บอกมาสะดีๆ”

 

 

“น้องสาวนายสิ ฉันมีเงินซื้อโสมกับรังนกกิน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย?” หูชีเยี่ยนด่าออกมาอย่างเดือดดาล

 

 

“ได้ นายด่ามาเลย ยังไงน้องสาวฉันก็เป็นของนายไปแล้ว เรามาเล่นอะไรที่ไม่เสียประสาทดีกว่า ไปเอาหัวแร้งมา ฉันไม่เชื่อว่าคราวนี้นายจะยังปากแข็งได้อยู่” ซีเหมินน่งเยว่ยิ้มเยาะพูด

 

 

ตอนที่หัวแร้งถูกเผาจนเป็นสีแดงทาบลงบนตัวของหูชีเยี่ยน เขาก็ถึงกับกระอักเลือดสดออกมา แล้วก็สลบไปอีกครั้ง…ความเจ็บในระดับนี้ อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้เป็นพวกที่ผ่านการสู้รบมานับร้อยครั้ง ก็ทนความเจ็บแบบนี้ไม่ไหวหรอก

 

 

ซีเหมินน่งเยว่ทรมานเขามาสองชั่วโมงเต็ม ใช้ทุกวิธีจนครบแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ยอมปริปากบอก ตอนแรกโดนตีก็ด่ากลับไปบ้าง แต่หลังๆ เขาก็ไม่ยอมพูดอะไรทั้งนั้น

 

 

งูผีเคยบอกว่า ร่างกายของหูชีเยี่ยนอ่อนแอมาก จึงต้องไปหาพวกสมุนไพรแปลกๆ มาเพื่อรักษา ทำให้ซีเหมินน่งเยว่ต้องระวังอย่างมาก ไม่กล้าใช้พวกวิธีทรมานที่แท้จริง ด้วยกลัวว่าจะพลากชีวิตเขาไปจริงๆ ตนก็เสียแรงเปล่า

 

 

แต่เขากลับปากแข็งมาก โดนถึงขนาดนี้แล้ว กลับยังทำหน้าสบายใจได้ ทุกครั้งที่ถูกเขาเอาน้ำเย็นสาดแล้วรู้สึกตัวขึ้นมา ก็จะพูดกระแนะกระแหนเขา ทำให้ซีเหมินน่งเยว่โมโหจนกัดฟันกร่อน

 

 

“ฉันว่านะไอ้แก่เจ้าเลห์ ไหนๆ นายก็ทนความเจ็บปวดพวกนี้ไม่ได้ เรามาคุยกันดีๆ ดีไหม?” ซีเหมินน่งเยว่เสยคางของหูชีเยี่ยนขึ้นมา แล้วถอนหายใจก่อนจะพูดว่า ”นายดูสิ คนที่งดงามอ่อนโยนเหมือนหยกคนหนึ่ง ถูกฉันทรมานจนกลายเป็นแบบนี้ ฉันก็อดสงสารไม่ได้จริงๆ”

 

 

“ฉันไม่สนใจนายเลยสักนิด…” หูชีเยี่ยนเพิ่งพูดได้ประโยคเดียว กลับไออย่างรุนแรงอย่างกลั้นไม่อยู่ มุมปากก็มีเลือดพรูไหลออกมาไม่หยุด “ฉันว่านะ คงไม่ใช่ว่างูผีแอบรักฉันหรอก น่าจะเป็นนายมากกว่าที่สนใจฉัน บอกตรงๆ เลยว่า ฉันสนใจแค่น้องสาวนายเท่านั้น…”

 

 

เสียง ‘เพี๊ยะ’ ดังลั่นซีเหมินน่งเยว่ตบเข้าที่หน้าของเขา แล้วกลับมาจับคางเขาไว้อีกครั้ง ก่อนพูดอย่างเดือดดาลว่า “ถ้านายไม่อยากให้ฉันลงมือเหลียนเฟิง นายก็บอกมาซะดีๆ…”

 

 

“นายจะให้ฉันพูดอะไร?” หูชีเยี่ยนเงยหน้าขึ้นมา แล้วไอเป็นเลือดออกมาอีกครั้ง แต่ในดวงตาของเขาก็ยังส่องประกายระยิบระยับ แม้แต่สีหน้าของเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย

 

 

“เคล็ดวิชาหลอมหยก” ซีเหมินน่งเยว่ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

 

 

“ฉันพูด นายเขียน…” หูชีเยี่ยนพูดเสียงต่ำ

 

 

“คิดได้แล้วหรอ?” ซีเหมินน่งเยว่ยิ้มพูด

 

 

“นายพูดถูก ฉันทนความเจ็บปวดพวกนี้ไม่ไหว ความจริง ฉันอยากบอกตั้งนานแล้ว แต่นายไม่ได้ถาม…” หูชีเยี่ยนกลับหัวเราะเบาๆ

 

 

“นาย…“ ซีเหมินน่งเยว่โกรธจนแทบกระอักเลือด

 

 

“ อย่าตีฉันนะ สมองฉันไม่ค่อยดี… ตีจนเป็นอะไรขึ้นมา ฉันก็ไม่กล้ารับประกันว่าฉันจะจำได้……” หูชีเยี่ยนพูดนิ่งๆ

 

 

ไม่นาน ซีเหมินน่งเยว่ก็หากระดาษกับปากกามา หูชีเยี่ยนพูดช้าๆ ทีละคำๆ แต่อักษรพวกนั้นกลับเข้าใจยากมาก มีชื่อเฉพาะต่างๆ ที่ต่อให้ซีเหมินน่งเยว่จะเป็นด็อกเตอร์ ก็เป็นการยากที่จะเข้าใจในเวลาอันสั้นนี้ได้

 

 

ตัวอักษรสามร้อยกว่าตัว ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ ซีเหมินน่งเยว่เขียนไปพลาง อดไม่ได้ที่จะให้เขาอธิบายเรื่องต่างๆ ไปพลาง จนหลังๆ หูชีเยี่ยนอดโมโหไม่ได้ “เรื่องประหลาดๆ พันธุ์นี้ คนที่เป็นหมอมองโกลอย่างนายยังรับมือไม่ไหว แล้วฉันจะไปเข้าใจได้ยังไง?”

 

 

“หรือนายไม่เข้าใจ?” ซีเหมินน่งเยว่ถามอย่างไม่สบอารมณ์

 

 

“ไร้สาระ…ฉันใช้เวลาเกือบสามปี ค้นหาหนังสือโบราณมากมาย กว่าจะแปลออกมาได้ ส่วนความหมายที่แฝงอยู่ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ **ตีฉันให้ตายก็ไม่มีประโยชน์” หูชีเยี่ยนอันธพาลมาก

 

 

“ดีมาก แล้วหินห้าสีล่ะ?” ซีเหมินน่งเยว่ถามต่อ

 

 

“อีกสามวันเดี๋ยวฉันพานายไปดู…แต่ฉันก็รู้แค่ตำแหน่งคร่าวๆ ส่วนเรื่องที่ว่าจะหาเจอหรือไม่ ก็ต้องดูโชคชะตาแล้วล่ะ” หูชีเยี่ยนจงใจพูด

 

 

“ทำไมต้องรอสามวัน?” ซีเหมินน่งเยว่เสยคางเขาขึ้นมาอีกครั้ง พลันยิ้มเยาะ “นายอย่ามาเล่นตุกติกกับฉันจะดีกว่า…นายอย่าลืมว่า เหลียนเฟิงยังอยู่ในมือฉัน”

 

 

หูชีเยี่ยนก่นด่าเสียงต่ำที พลันถามกลับว่า “นายก็ลองดูสภาพฉันสิ ฉันเดินไหวเหรอ? ด้วยความสามารถทางการแพทย์ของนาย ทำให้ฉันดีขึ้นสักหกสิบเปอร์เซ็นต์ ภายในสามวันคงไม่ใช่ปัญหาหรอกใช่มั้ย?”

 

 

“นายก็ช่างกล้าพูดแบบนี้” ซีเหมินน่งเยว่อยิ้มเยาะพลางพูด “นายคิดว่าฉันเป็นงูผีหรือไง ที่จะมียาวิเศษมากมายมาเสียกับคนไร้ประโยชน์อย่างนาย?”

 

 

“แล้วแต่นาย สามวันไม่ได้งั้นก็สามเดือน หรือไม่ก็สามปี…” หูชีเยี่ยนหลับตาลง พูดอย่างเรียบๆ ว่า “ยังไงสภาพฉันตอนนี้ก็เดินไม่ไหว นายอย่าลงมืออีกเลยจะดีกว่า ไม่อย่างนั้น ถ้านายตีฉันจนตาย ก็อย่าหวังว่าจะหาหินห้าสีเจอ”

 

 

“มีหินห้าสีจริงๆ หรอ?” ซีเหมินน่งเยว่ยังคงสงสัย หรือว่าจะมีของในตำนานแบบนั้นจริงๆ?

 

 

“ที่คุณท่านของนายยอมอยู่กับแม่ฉันในป่าลึก ประการแรกเพราะกลัวแม่นายแก้แค้น ประการที่สองก็เพราะสิ่งนี้แหละ ไม่อย่างนั้นด้วยความทะเยอทะยานของเขา จะยอมได้อย่างไร?” หูชีเยี่ยนพูดเสียงเรียบ “เพียงแต่แม่ฉันไม่ได้โง่ก็เท่านั้น”

 

 

“แต่น่าเสียดายที่นายโง่” ซีเหมินน่งเยว่หัวเราะเย้ย

 

 

หูชีเยี่ยนเพียงยิ้มอย่างเรียบเฉย โง่งั้นเหรอ? ในสังคมแบบนี้ใครจะโง่?

 

 

“เอาตัวมันลงมา แล้วทำแผลให้มันซะ” ซีเหมินน่งเยว่ออกคำสั่ง

 

 

ไม่นาน หูชีเยี่ยนถูกขังอยู่ในคุกห้องหนึ่ง แม้จะดูเป็นห้องธรรมดา แต่ก็มีคนเฝ้าอย่างแน่นหนา ซีเหมินน่งเยว่ยังคงไม่วางใจ การที่เขาจับตัวหูชีเยี่ยนมา คนที่เขากลัวที่สุดไม่ใช่ใครอื่น คืองูผี ประลองกันหลายครั้ง เขาก็ไม่เคยชนะเลยสักครั้ง

 

 

โชคดีที่งูผีไปอเมริกา และเขาก็ยังปิดข่าว ทุกอย่างยังคงเป็นปกติ ขอเพียงไม่มีอะไรที่เหนือความคาดหมาย ย่อมสามารถลงมือก่อนที่งูผีจะกลับมาได้อย่างแน่นอน

 

 

ส่วนเหลียนเฟิงนั้น…เก็บเธอไว้เพราะยังพอมีประโยชน์อยู่ สามารถเอามาเป็นตัวห้ามงูผีได้

 

 

ไม่สิ ซีเหมินน่งเยว่ส่ายหัว หูชีเยี่ยนเก่งเรื่องการวางแผน ครั้งนี้ก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะง่ายเกินไป ไม่แน่ว่าไอ้หมอนั่นกำลังเล่นตุกติกอะไร แต่ว่า ตอนนี้เขาตกอยู่ในกำมือของตัวเอง โดนทรมานต่างๆ นานา แล้วก็ยังยอมบอกเคล็ดวิชาหลอมหยกแล้วด้วย พอคิดไปคิดมา ก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติเลยนี่นา

 

 

อย่างไรก็ต้องระวังไว้ หูชีเยี่ยนไม่เก่งเรื่องศิลปะการต่อสู้ ก็คงไม่ต้องกลัวว่าเขาจะบินหนีออกไป

 

 

สามวันหลังจากนั้น แม้ว่าซีเหมินน่งเยว่จะไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องเอายาหลินจือที่เก็บไว้ใต้กล่องมาเพื่อทำแผลให้เขา ด้วยเหตุนี้ อาการของหูชีเยี่ยนดีขึ้นมากจากเดิมประมาณห้าหกสิบเปอร์เซนแล้ว และถูกซีเหมินน่งเยว่พาตัวมาถึงเหมืองหยกที่อยู่ระหว่างชายแดนพม่าและลาว

 

 

ที่นี่เป็นเหมืองหยกส่วนตัวของหูชีเยี่ยน…ซีเหมินน่งเยว่จึงไม่กล้าประมาท

 

 

“เอามือถือมาให้ฉัน” หูชีเยี่ยนพูดเรียบๆ

 

 

“ นายจะทำอะไร?” ซีเหมินน่งเยว่ถามอย่างระแวง

 

 

“ฉันจะสั่งให้ทุกคนออกจากเหมืองหยก จากนั้น ฉันค่อยพานายเข้าไป….” หูชีเยี่ยนพูดเสียงเรียบ “หรือนายอยากแบ่งปันสถานการณ์อันยิ่งใหญ่นี้กับคนอื่น? อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะ ข้างล่างมีทหารเฝ้าอยู่อย่างหนาแน่น ถ้าไม่ให้พวกเขาถอนกำลังออกไป นายมั่นใจเหรอว่าจะฆ่าปิดปากฉัน แล้วเอาหินห้าสีออกไปได้?”

 

 

“นายดูจะคิดแทนฉันไปหมดเลยนะ” ซีเหมินน่งเยว่แค่นเสียงขึ้นจมูกที เหตุใดจึงรู้สึกเหมือนมีอะไรผิดปกติ ทว่าเขาก็วางแผนสำรองไว้แล้ว จึงไม่ได้กลัวหูชีเยี่ยน อีกอย่าง ที่เขาพูดก็มีเหตุผล ในเหมืองหยกแห่งนี้ หูชีเยี่ยนคือผู้มีอำนาจสูงสุด ทุกคนต่างเคารพเขา ถ้ามีคนรู้ว่าเขาโดนจับตัวมา ก็คงจะควบคุมสถานการณ์ยากแน่

 

 

หูชีเยี่ยนไม่ใช่พวกคนรวยที่ไม่มีคุณธรรม จึงมีคนมากมายยอมทำงานถวายชีวิตให้เขา

 

 

ซีเหมินน่งเยว่ยื่นมือถือให้หูชีเยี่ยน หูชีเยี่ยนกดโทรหาหมายเลขหนึ่ง ก่อนสั่งเสียงเรียบว่า “เม่ยอิ่งถอนกำลังคนออกจากเหมืองหยก ฉันมีเรื่องต้องจัดการ…”

 

 

ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น คนงานขุดเหมืองทั้งหมด รวมถึงทหารที่อยู่รอบๆ ก็ถอนกำลังออกทั้งหมด หูชีเยี่ยนจึงพาซีเหมินน่งเยว่เดินเข้าเหมืองหยกไป

 

 

เพียงแต่จนถึงตอนนี้ ซีเหมินน่งเยว่ก็ค้นพบอย่างตะลึงว่า เหมืองหยกแห่งนี้มีทางเข้าแค่ทางเดียว และยังเป็นทางภูเขา…

 

 

พวกเขาสวมหมวกคนงานเหมืองและเครื่องแบบเช่นเดียวกับคนอื่นๆ และหูชีเยี่ยนยังคงอยู่ในชุดคลุมสีดำ ทุกคนต่างค่อยๆ เคลื่อนตัวลงเหมืองด้วยบันไดเลื่อน รอบข้างมืดสนิท มีเพียงไฟฉายคนงานบนศีรษะของซีเหมินน่งเยว่ ก็จะกะพริบไฟอ่อนๆ…

 

 

จนกระทั่งบันไดเลื่อนมาถึงข้างล่างแล้ว หูชีเยี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ และเดินนำเข้าไปโดยไม่รอให้ซีเหมินน่งเยว่พูดอะไร

 

 

“ไอ้แก่เจ้าเล่ห็ ฉันเตือนไว้ก่อนนะ เหลียนเฟิงก็อยู่ที่นี่ด้วย อยู่ที่เขตเหมืองที่สอง ถ้านายคิดจะทำอะไรฉัน ฉันจะฆ่าเธอเป็นคนแรก” ซีเหมินน่งเยว่ยิ้มเยาะ

 

 

ตามคาดหูชีเยี่ยนชะงักฝีเท้าทันทีพลันถามว่า “เธอมาได้ยังไง?”

 

 

“ใครๆ ก็รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงของนาย การที่เธอจะเข้ามาในเหมืองหยก จะยากอะไร?” ซีเหมินน่งเยว่พูดพลางหัวเราะเย้ย

 

 

“อืม…” หูชีเยี่ยนเพียงตอบรับไปส่งๆ แล้วเดินหน้าต่อ ยิ่งเดินเข้าไป ก็ยิ่งลึกและหนาวเย็น ซีเหมินน่งเยว่รู้สึกผิดปกติ จึงตะเบ็งเสียง “นายจะพาพวกฉันไปที่ไหนกันแน่?”

 

 

“ในเมื่อนายทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว งั้นก็ตรงนี้เลยแล้วกัน” หูชีเยี่ยนหมุนตัวกลับมามองซีเหมินน่งเยว่ แล้วยิ้มอย่างเรียบเฉย จากนั้นนิ้วของเขาปรากฏข้อนิ้วอันสลับทับซ้อน ดอกบัวสีทองดอกหนึ่งค่อยๆ บานออก…

 

 

“นี่คือ…” ซีเหมินน่งเยว่หรี่ตาลง จินเหลียนวิชาลับ? อานุภาพไร้ขีดจำกัด เขาถอยหลังอย่างรวดเร็ว แสงสีทองส่องผ่าน สะท้อนเต็มตา…

 

 

ข้างหูของซีเหมินน่งเยว่ กลับมีเสียงร้องโอดครวญของบอดี้การ์ดสองคนดังมา สองคนนี้เป็นยอดฝีมือที่อยู่ในประเทศลาวมาหลายปี ยังต้านทานอานุภาพของจินเหลียนไม่ได้

 

 

แม้ว่าซีเหมินน่งเยว่จะหลบไปอย่างว่องไว แต่สุดท้ายก็ไม่วายจะเจ็บหนัก อ้าปากกระอักเลือดสีสด อานุภาพแห่งจินเหลียนนี้ช่างแข็งแกร่งไร้เทียมทานจริงๆ

 

 

แต่หูชีเยี่ยนกลับอาการสาหัส ไอไม่หยุด ทั้งยังมีเลือดสดไหลออกจากปากอย่างต่อเนื่อง

 

 

“ฮ่าๆ” ในที่สุดซีเหมินน่งเยว่ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมงูผีต้องหาสมุนไพรหายากพวกนั้นเพื่อมารักษาเขา ที่แท้ก็เพราะเขาบกพร่องตั้งแต่เกิด ถึงแม้เขาจะรู้เทคนิคการต่อสู้ และฝึกจนบรรลุวิชาลับขั้นสูงสุด แต่ร่างกายกลับรับไม่ไหว ทำร้ายคนอื่นที ตนก็ต้องสูญเสียไม่ต่างกัน

 

 

วิชาลับระดับนี้ ต้องรวมพลังแห่งวายุและวารีเข้ากับอานุภาพแห่งฟ้าดิน หลอมเข้ากับเทคนิคการต่อสู้ เมื่อสำแดงออกมา จะมีอานุภาพที่สามารถทลายหินตะลึงสวรรค์ แต่นั่นต้องยืมพลังจากฟ้าดิน แต่ตอนนี้หูชีเยี่ยนใช้เพียงกำลังของตัวเองในการเรียกใช้วิชาลับนี้ อานุภาพย่อมด้อยลงไปมาก แต่ก็มองข้ามไม่ได้เช่นกัน

 

 

และทันทีที่หูชีเยี่ยนโจมตี แม้จะทำให้ซีเหมินน่งเยว่บาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็ไม่มีกำลังที่จะลงมืออีกครั้ง เวลากระชั้นชิดมาก ไม่พอให้มานั่งคิดมาก เขาพลันเคลื่อนไหวราวกับเงาดำ ลอยไปหาเหลียนเฟิงที่เขตเหมืองที่สอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+