ความลับแห่งจินเหลียน 83 เป้าหมายอยู่ที่ไหน?

Now you are reading ความลับแห่งจินเหลียน Chapter 83 เป้าหมายอยู่ที่ไหน? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จ่านมู่ฮวาและซีเหมินจินเหลียนพูดคุยกันอีกนิดหน่อย ซีเหมินจินเหลียนก็ยิ้มขึ้น “คุณไปจัดการธุระของคุณเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันนั่งรอได้” ในนี้มีดอกกล้วยไม้มากมาย เธอสามารถเดินชมได้สักรอบ เมื่อครู่นี้ที่พูดถึงกล้วยไม้ป่าก็เพราะอยากจะดูถูกจ่านมู่ฮวาเฉยๆ แต่ในใจของเธอก็ชอบดอกกล้วยไม้พันธุ์ดีมากกว่าเหมือนกัน 

 

จะว่าไปวันนี้ก็เป็นวันเกิดของคุณพ่อจ่านมู่ฮวา เมื่อเป็นลูกเขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะยืดเยื้อนั่งคุยอยู่กับเธออยู่ที่นี่ เขาควรจะไปห้องรับแขกข้างในเพื่อทักทายแขกทุกคน 

 

เมื่อจ่านมู่ฮวาเดินออกไปแล้ว เขาก็ถามว่า “มีเรื่องอะไร” 

 

“คุณหนูจางมาแล้ว กำลังตามหาคุณชายอยู่ครับ” ผู้จัดการบ้านร่างอ้วนพลีวัยกลางคนกระซิบพูดขึ้น “ผมคงเรียนเธอไม่ได้ว่าคุณกำลังอยู่กับคุณหนูท่านนี้” 

 

“ก็ให้เธอไปคุยเล่นกับมู่หงก่อนสิ บอกว่าผมไม่ว่าง!” จ่านมู่ฮวาขมวดคิ้ว จางต่งเอ๋อร์ตอนนี้เป็นดาราที่กำลังโด่งดังอยู่ในโทรทัศน์ ทั้งคู่เคยพบกันที่งานเลี้ยงโดยบังเอิญครั้งหนึ่ง จ่านมู่ฮวากลับรู้สึกเฉยๆ เขาพบเจอผู้หญิงสวยมาก็มากมาย ทำให้เขามีภูมิคุ้มกันกับสาวสวยมาตั้งแต่แรก แต่สำหรับผู้หญิงสวยที่เข้ามาหาเขาเอง เขาก็ไม่สนใจหากจะเล่นกับความรู้สึกของเธอ 

 

“คุณชาย คุณไปดูหน่อยเถอะครับ ดูเหมือนคุณหนูจางจะอารมณ์ร้อนอยู่นะครับ” ผู้จัดการบ้านอ้วนวัยกลางคนพูด 

 

จ่านมู่ฮวาได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นแล้วพูดว่า “คุณช่วยผมดูแลคุณซีเหมินด้วย ผมไปเดี๋ยวเดียวแล้วจะกลับมา อย่าให้ใครมารังแกเธอล่ะ!” 

 

สายตาของผู้ดูแลบ้านร่างอ้วนฉายความแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็รีบพยักหน้าพูดขึ้น “คุณชายวางใจได้ครับ” 

 

เมื่อจ่านมู่ฮวาเพิ่งเดินออกไป ผู้จัดการบ้านร่างอ้วนวัยกลางคนก็เดินเข้ามาเสิร์ฟชาผลไม้และของหวานให้กับซีเหมินจินเหลียนและดูแลต้อนรับเธอ “คุณซีเหมิน ถ้าหากมีเรื่องอะไร เรียกใช้ผมได้ตลอดนะครับ ข้างนอกมีคนคอยเฝ้าอยู่” 

 

“อ่อ…ไม่เป็นไรค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนยังรู้สึกไม่คุ้นเคยกับความหรูหราของคฤหาสน์แบบนี้ เมื่อมองชายอ้วนผู้ดูแลบ้านถอยหลังเดินออกไปแล้ว เธอก็นั่งพิงบนเก้าอี้อย่างขี้เกียจ ชื่นชมดอกกล้วยไม้ในห้องทั้งหมด  

 

เวลาสามสิบนาทีผ่านไปโดยไม่รู้ตัว ความอดทนของซีเหมินจินเหลียนนับว่าไม่เลวนัก แต่อย่างไรเธอก็ยังรู้สึกเบื่ออยู่ดี ทำไมจ่านป๋ายถึงยังไม่มาอีกนะ? งานเลี้ยงที่น่าเบื่อแบบนี้ เมื่อไหร่ถึงจะเริ่ม 

 

ในระหว่างที่ซีเหมินจินเหลียนกำลังรู้สึกเบื่ออยู่พอดีนั้น จู่ๆ ที่ด้านนอกก็มีเสียงของเด็กผู้หญิงดังขึ้นมา ไม่นานประตูกระจกก็ถูกผลักเข้ามา คนแรกเป็นเด็กผู้หญิงที่สวมใส่ชุดเดรสสีแดง หน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์ แต่สายตาของซีเหมินจินเหลียนไม่ได้ตกไปอยู่ที่เด็กผู้หญิงคนนั้น แต่เป็นคนด้านหลังที่สวมใส่เดรสกระโปรงยาวสีดำ ผมยาวสลวยที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทัดดอกกล้วยไม้สีม่วงไว้ข้างหู ท่าทางสวยสง่างาม 

 

สายตาของซีเหมินจินเหลียนตกไปอยู่บนหน้าตาที่แสนเพอร์เฟคของเธอ ในใจรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย เด็กผู้หญิงคนนี้ก็สวยจริงๆ แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงแต่เธอก็ยังรู้สึกใจเต้น ถ้าหากเป็นผู้ชายคงไม่ต้องพูดถึงเลย 

 

โดยเฉพาะดวงตากลมโตคู่นั้นที่มาพร้อมกับขนตางอนยาว มีเธออยู่เด็กผู้หญิงที่เหลือก็เป็นได้แค่ตัวประกอบเท่านั้น เหมือนกับดวงดาวล้อมรอบดวงจันทร์ก็ไม่ปาน 

 

ซีเหมินจินเหลียนเองก็ถือว่าเป็นคนที่โดดเด่นท่ามกลางผู้คน ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นผู้หญิงสวยมาก่อน อย่างหลินเซียนเอ๋อร์น้องสาวของหลินเสวียนหลาน แม้ว่านิสัยจะร้ายไปสักหน่อย แต่ใบหน้ารูปไข่ก็ไร้ผู้ใดเปรียบได้ อวิ๋นเจียลูกพี่ลูกน้องของฉินเฮ่าเองก็ยิ่งเป็นผู้หญิงสวยที่หาตัวจับได้ยาก แต่ว่าพวกเธอก็สู้ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ที่ทำให้คนรู้สึกไม่กล้าสบตามองเข้าไปตรงๆ ไม่ได้อย่างน่าประหลาด 

 

“สวยมากเลย” ซีเหมินจินเหลียนหาคำมานิยามสามคำได้เจอ  

 

“คุณเป็นใครคะ” คนที่ถูกมองก็รู้สึกประหลาดใจ เด็กผู้หญิงคนแรกเลยถามขึ้นมาก่อน 

 

“ซีเหมินจินเหลียนค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนบอกชื่อของตัวเองออกไปตรงๆ ความสนใจที่เหลือตกไปอยู่ที่พวกเธอทั้งสองคน ดูแล้วน่าจะอายุราวยี่สิบปี สวยสดใส คนทางซ้ายใบหน้ากลม น่ารักสดใสเป็นธรรมชาติ ส่วนคนด้านขวาใบหน้าเรียวยาว หน้าตาขาวใสสวยสง่า 

 

ซีเหมินจินเหลียนได้แต่แอบถอนหายใจ คนที่มีเงินก็ไม่เหมือนกัน แม้แต่ลูกสาวก็ต้องสวยกว่าลูกสาวของคนธรรมดา แต่ละคนก็มีการศึกษาและหน้าตาที่ดี นี่เป็นข้อดีที่เหนือกว่าคนอื่นสินะ? 

 

 คิดไปก็ถูก กษัตริย์ในอดีตก็มักจะเลือกผู้หญิงที่สวยก่อนเป็นอันดับแรก และหลังจากการสืบทอดหลายชั่วอายุต่อมา ถึงแม้ว่าตอนแรกจะเฉยๆ แต่ต่อมามันก็ได้รับผลกระทบจากยีนพันธุกรรม องค์ชายและองค์หญิงเธอเป็นคนที่เพียบพร้อมรูปโฉมสง่างาม คนมีเงินก็เป็นเช่นนี้ เมื่อมีเงินก็อยากได้ภรรยาที่สวยจากนั้นก็มีลูกที่น่ารัก… 

 

“ทำไมเธอถึงมาอยู่ห้องดอกไม้ของพี่ชายฉันได้ อ้อ ฉันคือจ่านมู่หง!” เด็กผู้หญิงคนแรกพูดขึ้น 

 

ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า จ่านมู่หงน่าจะเป็นน้องสาวของจ่านมู่ฮวา ดูจากสายตาที่มีความคล้ายคลึงกันแล้ว แต่หน้าตายังไม่โดดเด่นเท่ากับจ่านมู่ฮวา 

 

“จ่านมู่ฮวาพาฉันเข้ามา” ซีเหมินจินเหลียนพูด 

 

เด็กผู้หญิงสวยส่งสายตามองอย่างประหลาดใจ ก่อนจะกวาดมองไปที่ซีเหมินจินเหลียนตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยไม่ได้พูดอะไรออกมา ส่วนจ่านมู่หงก็ตกใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยิ้มถามขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ คุณซีเหมินก็นั่งเถอะ พวกเรามาดูดอกกล้วยไม้กัน คุณซีเหมินพอจะมีความรู้เรื่องดอกกล้วยไม้หรือเปล่า” 

 

“ไม่ค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้า เธอแทบจะแยกชนิดของพันธุ์ดอกกล้วยไม้ไม่ออกด้วยซ้ำ ว่ามีแหล่งกำเนิดมาจากที่ไหน และมีชื่อเรียกว่าอะไร เธอแค่รู้สึกว่าสวยก็เท่านั้น ส่วนที่เหลือก็ไม่มีอะไรที่สำคัญ 

 

“ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่มู่ฮวาถึงพาเธอเข้ามาดูดอกกล้วยไม้ได้” เด็กผู้หญิงหน้าเรียวยาวถามอย่างสงสัย 

 

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” ซีเหมินจินเหลียนปัดมืออย่างเบื่อหน่าย จ่านมู่ฮวามีท่าทางแปลกๆ แต่ประโยคนี้เธอไม่กล้าพูดออกมา 

 

“คุณดูนี่สิ นี่เป็นเอื้องกะเรกะร่อน” จ่านมู่หงเดินไปข้างๆ ซีเหมินจินเหลียนและชี้ไปทางดอกกล้วยไม้สีเขียวดอกเล็กแล้วยิ้ม 

 

“เป็นกล้วยไม้พันธุ์ดีอย่างที่คิด หรูหราตามที่เห็น” เด็กผู้หญิงสุดสวยปริปากพูดขึ้น เสียงก็น่าฟัง 

 

ซีเหมินจินเหลียนพูดจากใจ แม้ว่าจะเป็นดอกกล้วยไม้พันธุ์ดีแต่ก็เทียบไม่ได้กับความสวยในตัวเธอ เด็กผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆ ถึงจะนั่งอยู่บนเก้าอี้แต่สายตาของเธอก็ยังอยู่ที่เด็กผู้หญิงสวยๆ คนนั้น ชื่นชมอย่างละเอียดก็สงสัยว่าทำไมเด็กผู้หญิงคนนี้ถึงได้ดูหน้าตาคุ้นๆ? เธอรับประกันได้ว่าเธอไม่เคยเห็นเด็กผู้หญิงที่สวยขนาดนี้มาก่อน ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ลืมง่ายๆ 

 

“คุณซีเหมิน ขอโทษทีที่ทำให้คุณรอนานนะครับ” จ่านมู่ฮวาปรากฏตัวขึ้น เขาผลักประตูกระจกเข้ามาด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย แต่เมื่อสายตาของเขาหันไปเห็นเด็กผู้หญิงทั้งสองคนนั่นสีหน้าก็แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย 

 

“มู่ฮวา คุณไปไหนมาคะ” เด็กผู้หญิงสวยคนนั้นเรียกด้วยความสนิทสนม จากนั้นก็รีบเดินเข้าไปคล้องแขนจ่านมู่ฮวาเอาไว้ 

 

ซีเหมินจินเหลียนเงยหน้าขึ้นมามองพวกเขาทั้งคู่ ชายหล่อหญิงสวยช่างเหมาะสมอย่างไร้ที่ติ มีความสุขใจจริงๆ  

 

แต่ไม่มีเวลาให้ซีเหมินจินเหลียนได้ชื่นชมนาน จ่านมู่ฮวาก็รีบขยับตัวออกจากผู้หญิงสวยคนนั้น ปฏิกิริยาดูรุนแรงไปหน่อย 

 

“มู่หง ใครให้เธอเข้ามาในห้องดอกไม้นี่?” จ่านมู่ฮวาถามด้วยน้ำเสียงตำหนิ 

 

ซีเหมินจินเหลียนที่กำลังมองอยู่ไม่เพียงแต่ขมวดคิ้ว น้องสาวของตัวเองแท้ๆ ทำไมถึงได้โกรธขนาดนี้นะ? ส่วนจ่านมู่หงเห็นได้ชัดว่ากลัวจ่านมู่ฮวา เมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้น ปากเล็กๆ ก็พูดออกมา “ฉันพาพี่สาวมาดูดอกกล้วยไม้” 

 

“ถ้าอย่างนั้นพวกเธอก็ดูต่อไปเถอะ!” จ่านมู่ฮวาแค่นเสียงออกมา ในน้ำเสียงมีความระแคะระคายและหันไปพูดกับซีเหมินจินเหลียนว่า “พวกเราไปหาที่อื่นนั่งกันเถอะครับ” 

 

“แล้วเสี่ยวป๋ายล่ะ?” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้วขึ้น รู้สึกว่าจ่านมู่ฮวาเป็นคนที่เข้าถึงยาก น้องสาวพาเพื่อนมาชมดอกกล้วยไม้ของเขาแต่ทำไมถึงได้ดูเหมือนทำผิดขนาดนั้น? 

 

เสี่ยวป๋ายๆ ในใจของเธอก็คิดถึงแต่จ่านมู่หรงคนนั้น จ่านมู่ฮวาคิดเจ็บแค้นอยู่ในใจแต่ก็อธิบายว่า “คุณพ่อมีเรื่องที่จะคุยกับเขา คงไม่เสร็จเร็วขนาดนั้น งานเลี้ยงจะเริ่มแล้วพวกเราออกไปดูข้างนอกกันเถอะครับ?” 

 

 “ฉันไม่ไปค่ะ ฉันจะรอเสี่ยวป๋าย” ซีเหมินจินเหลียนนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง คิดจะหาข้ออ้างให้เธอไปร่วมงานเลี้ยงกับเขาสินะ เธอจะรอให้เสี่ยวป๋ายมาแล้วก็จะบอกลาแล้วจากไป นี่ก็ถือว่ามาร่วมงานแล้วไม่ได้ผิดคำสัญญาอะไร 

 

จ่านมู่ฮวาไม่รู้จะทำอย่างไรกับเธอดี ส่วนผู้หญิงสุดสวยและจ่านมู่หงก็ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร ยังคงอยู่ในห้องแต่ก็ถามว่า “คุณคงจะไม่นั่งรอที่นี่ไปตลอดหรอกใช่ไหม?” 

 

“ถ้าอย่างนั้นจะให้ไปรอที่ไหน” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้วถาม 

 

“คุณรับปากกับผมว่าวันนี้คุณจะมาเป็นคู่เต้นรำของผม” จ่านมู่ฮวายิ้ม “คุณจะรอเขาไปเพื่ออะไร?” 

 

สีหน้าของเด็กผู้หญิงคนสวยเปลี่ยนไป สายตามองไปที่ซีเหมินจินเหลียนอย่างเยือกเย็น ซีเหมินจินเหลียนมองเด็กผู้หญิงสุดสวยคนนั้นอย่างแปลกใจแล้วยิ้ม “คุณมีคู่เต้นรำที่เหมาะสมที่สุดอยู่แล้ว” 

 

“คุณซีเหมิน นั่นเป็นเรื่องของผม คุณรับปากกับผมแล้วจะกลับคำไม่ได้!” จ่านมู่ฮวายิ้มแล้วเดินไปข้างหน้าเธอ ลากเก้าอี้มานั่งแล้วพูด “คุณดูนี่ เพื่อที่จะได้เข้ากับคุณ ผมเลยเปลี่ยนเสื้อสูท” 

 

ซีเหมินจินเหลียนถึงเริ่มฉุกคิดได้ว่า จ่านมู่ฮวาเปลี่ยนเป็นเสื้อสูทสีน้ำเงินจริง กับชุดเดรสสีน้ำเงินของเธอดูเข้ากันเป็นอย่างดี แต่มันก็ไม่ได้บ่งบอกว่าคนจะเข้ากันด้วย 

 

“คุณจ่านมู่ฮวา ฉันไปรับปากคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าจะเป็นคู่เต้นรำด้วย? ฉันจำได้ว่าวันนั้นมีแต่คุณที่พูดเองอยู่คนเดียว” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้า “ยิ่งไปกว่านั้น คุณผู้หญิงคนนี้สวยขนาดนี้ เธอน่าจะคู่ควรที่จะเป็นคู่เต้นรำของคุณมากกว่าฉัน” 

 

พูดพลางเธอก็ลุกขึ้นยืนมองไปที่จ่านมู่หง “คุณหนูจ่าน…” 

 

จ่านมู่หงที่ฟังอย่างมึนงงอยู่ตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมาปฏิเสธพี่ชายของเธอ เป็นไปได้อย่างไรกัน? เมื่อได้ยินซีเหมินจินเหลียนเรียกเธอ เธอก็ตอบกลับไปตามสัญชาตญาณ 

 

“คุณหนูจ่าน ขอถามหน่อยได้ไหมคะว่าห้องสมุดของบ้านไปทางไหน หรือไม่ก็รบกวนคุณช่วยไปบอกจ่านมู่หรงพี่รองของคุณว่าฉันรอเขาอยู่ได้ไหม” ซีเหมินจินเหลียนพูด ดูแล้วจ่านมู่ฮวากำลังปกปิดเธอ ตั้งใจเอาจ่านป๋ายออกไป 

 

“พี่รองกลับมาแล้วเหรอ?” จ่านมู่หงตกใจมาก 

 

“เขากลับบ้านมาเป็นเพื่อนกับคุณซีเหมิน เธอไปดูเถอะ ให้เขามาห้องดอกไม้” จ่านมู่ฮวาพูดอย่างเหนื่อยหน่ายใจ 

 

“อ๋อ…ได้ค่ะ!” จ่านมู่หงได้ยินเช่นนั้นก็รับปากแล้วเดินหันหน้ารีบวิ่งไปข้างนอก 

 

ซีเหมินจินเหลียนนั่งลงอีกครั้ง ในใจได้แต่สงสัย จ่านมู่ฮวาคนนี้ต้องการที่จะทำอะไรกันแน่? งานเลี้ยงแบบนี้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องให้เธอมาร่วมเสียด้วยซ้ำ? แล้วไม่ใช่ว่าตัวเองจะไม่มีคู่ควงเสียหน่อย มีผู้หญิงสวยขนาดนี้มาตามติดเขา ทำไมยังไม่พอใจอีก? 

 

อยากจะหาคู่ควง เขาเลยโกหก? แต่ซีเหมินจินเหลียนก็ไม่เข้าใจ เขาจะทำไปเพื่ออะไรกัน จ่านป๋ายหรือ? หรือว่าเป้าหมายของเขาคือจ่านป๋าย 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด