ความลับแห่งจินเหลียน 202 ดำขาวเข้ากันดี

Now you are reading ความลับแห่งจินเหลียน Chapter 202 ดำขาวเข้ากันดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซีเหมินจินเหลียนตื่นเต้นตกใจถามว่า “หมายความว่ายังไงที่ว่าแปลก?”

 

 

“ผมเองก็บอกไม่ถูก!” จ่านป๋ายพูด “คุณก็น่าจะรู้ว่าผมไม่รู้เรื่องหยกเลย เห็นได้ชัดว่าดวงล้วนๆ”  

 

 

“ดวงคุณก็ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย!” ซีเหมินจินเหลียนพูดพร้อมยิ้มออกมาน้อยๆ

 

 

“อืม!” จ่านป๋ายพูด “เพราะผมพึ่งใบบุญคุณต่างหาก คุณลองดูก้อนนี้เถอะ มันแปลกจริงๆ นะ!”

 

 

“อืม” ซีเหมินจินเหลียนพูดไปพลางส่งกระเป๋าของตัวเองที่อยู่ในมือพร้อมหินหยกสีแดงดอกท้อก้อนนั้นส่งให้เขา “ถ้ารู้แต่แรกว่าจะเป็นอย่างนี้ก็ไม่น่าเจียระไนหินเลย บานปลายใหญ่แล้ว!”

 

 

จ่านป๋ายสังเกตดูรอบๆ ก็พบว่าสายตาทุกคู่กำลังเพ่งมองมาทางพวกเขาสองคนอย่างอิจฉาตาร้อน ที่นี่ก็เหมือนที่อื่นๆ หากมีคนเจียระไนหินก็เริ่มแพร่กระจายข่าวทันที ตอนนั้นเขาก็สังหรณ์ใจไว้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ไม่ได้กลัว เพียงแต่เป็นห่วงซีเหมินจินเหลียน หินหยกหายแค่เรื่องเล็ก แต่ถ้าไม่ระวังไปทำให้เธอตกใจเข้านี่สิเรื่องใหญ่

 

 

ซีเหมินจินเหลียนนั่งยองๆ อยู่บนพื้นกวาดสายตาไปยังหินหยกที่ถูกจ่านป๋ายเรียกว่าหินแปลกประหลาด ขนาดไม่ใหญ่กึ่งรี ผิวทรายสีอีกาดำ จากความรู้สึกน่าจะมาจากแหล่งกำเนิดหมาเหมิง

 

 

พื้นผิวแน่นอนว่าไม่มีจุดหยกและเส้นลายหยก และยังถูกคนตัดมาดูเนื้อผิวแล้วด้วย เนื้อผิวราบเรียบลื่นไหล แต่เป็นแค่หินขาวว่างเปล่าเท่านั้น ไม่มีวี่แววเผยสีเขียว พูดตามตรงถ้าทิ้งหินหยกก้อนนี้ไว้ริมทางคงไม่มีใครคิดจะเก็บ

 

 

ซีเหมินจินเหลียนสงสัยไม่หยุด หินหยกแบบนี้หากดูแค่ผิวหินเฉยๆ เธอคงไม่คิดว่าแปลกอะไร

 

 

แต่เธอรู้ดีว่าจ่านป๋ายคงไม่ได้ว่างเกินจนไม่มีอะไรทำ ถึงขนาดเร่งเร้าให้เธอมาดู ดังนั้นที่เขาบอกว่าแปลกมันต้องมีส่วนที่แปลกของมันอยู่ในนั้น 

 

 

ซีเหมินจินเหลียนลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะยื่นมือไปแตะ…ผิวหินอีกาดำที่เลือนหายเข้าไปในตา สีสันที่สดใสข้างในนั้นค่อยๆ เผยออกมาในตาลุ่มลึก…

 

 

ที่แท้ก็คือชนิดเนื้อแก้วใสกระจ่าง และจากการวิเคราะห์ของเธอน่าจะไม่ผิด แหล่งที่มามาจากหมาเหมิง 

 

 

เธออดไม่ได้ที่จะคิดถึงตลับหยกที่จ่านป๋ายให้เธอ สีของหยกก้อนนั้นเป็นสีขาวไขมันแพะชนิดพิเศษ… สีขาวนวลความโปร่งใสสูงกว่าไขมันแพะชนิดอื่น แต่ก็ไม่ได้โปร่งใสเหมือนเนื้อแก้ว

 

 

สีหยกที่เธอเคยเห็นมีตั้งมาก แต่ไม่เคยเห็นสีไหนแปลกเท่านี้มาก่อน ดูแล้วอบอุ่นสบายตาแต่ไม่รู้ว่ามีใครต้องการหรือเปล่า? ไม่ว่าจะพูดยังไงอย่างน้อยมันก็เป็นชนิดเนื้อแก้ว

 

 

ซีเหมินจินเหลียนมองไปยังผู้คนที่รุมล้อม คนส่วนใหญ่เริ่มซื้อสินค้าจากพ่อค้าชราผู้นั้น… ร้านของชายชราท่านนี้แปลกจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะมีสีแปลกประหลาดแบบนี้เกิดขึ้นมาได้?

 

 

 ส่วนมากสีของหยกสีแดงมักจะเป็นสีเข้ม หยกสีไฟ หยกสีเลือด ไหนจะหยกสีแดงสด ต่างเป็นสีที่หายากแต่เธอโชคดีที่เคยเห็นสีแดงดอกกุหลาบมาก้อนหนึ่ง

 

 

สีแดงจางๆ ของดอกท้อยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ และหยกเมื่อสักครู่ที่จ่านป๋ายตัดมาก้อนนั้น ความสม่ำเสมอของสีช่างสดใส นับว่าเป็นของชั้นดีหายาก ก้อนสีขาวนวลของหินหยกก้อนนี้เป็นชนิดเนื้อแก้ว หากตัดออกมาทั้งหมดเกรงว่าจะทำให้คนอิจฉาตาร้อนเลยทีเดียว?

 

 

“เป็นยังไงบ้าง?” จ่านป๋ายถามอย่างสงสัย

 

 

“แปลกอย่างที่ว่า พวกเราไม่ต้องเจียระไนหินแล้ว ขนกลับไปแล้วค่อยว่ากันเถอะ” ซีเหมินจินเหลียนพูด

 

 

“อืม! ดวงของผมใช้ได้เลย!” จ่านป๋ายได้ยินเช่นนั้นแล้วสุดแสนจะดีใจ เขาเลื่อมใสพรสวรรค์ในการเดิมพันหินของเธออย่างไม่ลืมหูลืมตา ถ้าเธอบอกว่าดีแสดงว่ามันต้องดีจริงๆ

 

 

“คุณเก็บสองก้อนนี้ให้ดี ฉันว่าจะเลือกอีกสักสองก้อน” ซีเหมินจินเหลียนสงสัยเหลือเกิน หินหยกพวกนี้ของเฒ่าชราดูแล้วก็แค่หินก่อสร้างเกรดพื้นๆ ทั่วไป แต่กลับทำให้จ่านป๋ายจับผิดจนหาหยกชั้นดีมาได้สองก้อน? อีกทั้งสีของมันก็หายากมากด้วย?

 

 

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เธอก็ต้องเลือกให้ดีๆ แล้ว ดูสิว่ายังมีสีอื่นปรากฏตัวขึ้นมาอีกไหม

 

 

วันนี้จ่านป๋ายพูดประโยคหนึ่งขึ้นมาว่า อยากจะได้กำไลเจ็ดสี หากเป็นกำไลเจ็ดสีที่ทำมาจากหยกก้อนเดียวกันเธอคงทำให้ไม่ได้ แต่ถ้านำมาร้อยเป็นสร้อยลูกประคำหยกหลากสีน่าจะได้

 

 

“ครับ” จ่านป๋ายพยักหน้า ขอแค่ซีเหมินจินเหลียนไม่ได้อยากเห็นเขาขายหน้า เขาก็ยินดีที่จะสนับสนุน

 

 

ซีเหมินจินเหลียนเดินไปยังพ่อค้าเฒ่าท่านนั้นและยิ้มขึ้น “ท่านผู้อาวุโส…พอดีฉันเห็นว่าเพื่อนดวงดี ก็เลยอยากจะลองเสี่ยงโชคดูสักสองสามก้อนได้ไหมคะ”

 

 

ซื้อตามกระแสเป็นสิ่งที่พบเจอได้บ่อยในโลกเดิมพัน เพราะฉะนั้นชายชราก็ทำได้แค่ยิ้มกรุ้มกริ่มและพูดว่า “คุณผู้หญิงอยากจะซื้อทั้งที คนแก่อย่างกระผมต้องลดให้สักหน่อยสิ ผมยึดตามราคาเดิมแล้วกัน!”

 

 

“หนึ่งพันหยวนต่อก้อนเหรอคะ?” ซีเหมินจินเหลียนแปลกใจ

 

 

“อืม” พ่อค้าเฒ่าพยักหน้า

 

 

“นี่!” ลุงแก่ๆ ที่กำลังเลือกซื้อหินหยกอยู่นั้นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา “ผู้เฒ่า มีคนทำธุรกิจแบบท่านด้วยเหรอ?”

 

 

“สินค้าของเฒ่าชราอย่างผม อยากจะขายราคาไหนก็ขายราคานั้น ผมไม่ได้ขอร้องให้คุณซื้อสักหน่อย? ถ้าบ้านของคุณมีลูกสาวหน้าตาชดช้อยก็ว่าไปอย่าง ผมจะขายให้ในราคาหนึ่งพันหยวนเป็นไง?” เฒ่าชรายิ้มเหอะๆ ออกมา

 

 

ผู้คนได้ยินเช่นนั้นก็ไม่เพียงแต่หัวเราะครื้นเครง ซีเหมินจินเหลียนก็อมยิ้มด้วยความเคอะเขิน ที่แท้ผู้เฒ่าท่านนี้ไม่ได้เห็นแก่ที่จ่านป๋ายตัดออกมาเป็นหยกชั้นดี และทำให้การค้าของเขาเฟื่องฟูถึงลดให้เธอเป็นพิเศษ แต่เห็นกับที่เธอเป็นผู้หญิงต่างหาก

 

 

แต่ซีเหมินจินเหลียนก็ยังแคลงใจอยู่ดี จ่านป๋ายดูออกได้อย่างไรว่าหินหยกสีขาวนวลก้อนนั้นแปลก? เพราะเธออาศัยดูแค่ผิวหยกก็ยังดูไม่ออกว่าหินหยกก้อนนี้ควรค่าแก่การเดิมพัน

 

 

ทุกสิ่งทุกอย่างเหนือความคาดเดาของซีเหมินจินเหลียน เธอดูหินหยกติดต่อกันถึงสิบกว่าก้อนแต่ก็ยังคงเป็นแค่หิน ไม่มีก้อนไหนที่มีหยก หินหยกพวกนี้เหมือนจะเป็นหินก่อสร้างจริงๆ นั่นละ

 

 

ถ้าหากไม่ใช่จ่านป๋ายเป็นคนตัดเนื้อน้ำแข็งสีแดงดอกท้อออกมา เธอคงคิดไปแล้วจริงๆ ว่านี่เป็นของเหลือที่คนไม่เลือก ไม่มีค่าราคาอะไร พยายามดูต่อไปอีกหลายก้อน สุดท้ายก็เจอหยกสีเขียวอ่อนชนิดฝูหรง ซื้อกลับไปคงไม่ขาดทุนและได้กำไรมาหน่อย แต่ซีเหมินจินเหลียนก็วางทิ้ง

 

 

เธอไม่สามารถทำแบบนี้ได้ มีพลังวิเศษสามารถมองทะลุผ่านหินมันก็โกงมากพอแล้ว อย่างน้อยก็ต้องเหลือทางทำมาหากินให้คนอื่นบ้าง

 

 

หยกที่เธอชอบ ขอเพียงแค่เป็นหยกสีสันสดใส เธอเลยมีมาตรฐานสูงในการดูสี เมื่อสักครู่จ่านป๋ายบอกว่าเขาชอบของสวยงาม แต่เธอชอบสีหยกที่สดใสมากกว่าเขาซะอีก

 

 

ดูไปอีกหลายก้อน ซีเหมินจินเหลียนก็ตกตะลึง…หยกก้อนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับหยกสีขาวนวลก้อนนั้น นี่เป็นหยกหรือว่าเกลื้อนหยกกันแน่?

 

 

ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกว่าเรื่องราวหยกที่เคยร่ำเรียนมาเมื่อก่อนไม่เพียงพอกับเธออีกแล้ว ในหยกมีเกลื้อนมันเป็นเรื่องธรรมดา…เพราะถ้าเจอเกลื้อนหยกเมื่อไหร่ โอกาสในการเผยสีเขียวก็มีมากขึ้น

 

 

ดังนั้นถึงมีการเดิมพันรอยเกลื้อน รอยแตก รอยจุดขาวต่างๆ เกิดขึ้น

 

 

ความจริง รอยเกลื้อน…ก็คือจุดสีดำด่างในหินหยก กระทบเรื่องความสวยงามของหยกแค่นั้น

 

 

แต่จุดขาว…หมายถึงจุดสีขาวคั่นกลางระหว่างหยก สีดำสีขาวนี้หากดูไม่ดีคงได้กลืนกินและทำลายหยกชั้นดีแน่

 

 

ดังนั้นเมื่อสักครู่ที่เธอเห็นจ่านป๋ายบอกว่าหินหยกสีขาวนวลก้อนนั้นแปลก เธอเลยตกใจ นี่เป็นจุดสีขาวหรือว่าหยกสีขาวกันแน่?

 

 

เพราะถ้าเป็นจุดสีขาว แน่นอนว่าไร้ค่า เขวี้ยงทิ้งที่ไหนคงไม่มีใครเก็บ แต่ถ้ามันเป็นหยกสีขาวนวลและอบอุ่นสบายตาแบบนี้ ทำให้คนอดไม่ได้อยากจะสัมผัส มันสวยงามเหมือนหยกสีขาวไขมันแพะของหยกเนฟไฟรต์ มันมีความบริสุทธิ์ของหยกที่ใสสะอาด ไม่ให้ความรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่าแก่ผู้คน

 

 

สีของก้อนนี้เป็นสีดำกระจ่าง ดำสว่างใส ดำจนน่าแปลก ดำจนน่าขนลุก ดำจนน่าค้นหา

 

 

เป็นชนิดเนื้อแก้วเหมือนกัน และเป็นผิวสีดำอีกา จากที่เธอดูแล้วน่าจะเป็นหมาเหมิง แต่ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าข้างในหยกเจไดต์จะมีหยกดำหรือหยกขาวอยู่?

 

 

ข้างในหยกเนฟไฟรต์ เคยได้ยินเรื่องหยกสีดำ หรือว่าในหยกเจไดต์ก็มีอย่างนั้นเหรอ? หยกเจไดต์มักจะพูดถึงสีที่สว่างสดใสของมัน…สีดำแบบนี้จะมีใครชอบไหม?

 

 

สิ่งที่เธอยังคาดเดาไม่ได้ก็คือ นี่สามารถเรียกได้ว่าเป็นหยกสีดำเนื้อแก้ว หรือว่าเกลื้อนหยก?

 

 

ช่างเถอะ ซื้อกลับไปแล้วค่อยให้หลินเสวียนหลานช่วยดู ซีเหมินจินเหลียนยิ้มในใจ เพราะอย่างไรก็แค่หนึ่งพันหยวน

 

 

เธอเรียกผู้เฒ่าให้ขายของ พร้อมจ่ายเงินไปให้หนึ่งพันหยวน ให้จ่านป๋ายนำหินหยกสีดำโอบไว้อีกฝั่ง เฒ่าชรายิ้มกรุ้มกริ่ม “เจียระไนไหมครับ?”

 

 

“ผู้อาวุโส ร้านของคุณยังดูยุ่งๆ ฉันคงไม่เข้าไปวุ่นวายดีกว่าค่ะ ฉันดูตรงนี้ก็พอ” ซีเหมินจินเหลียนพูด

 

 

เมื่อสักครู่ที่เธอเลือกหินหยกก็มีคนเลือกอยู่กี่ก้อนและเริ่มเจียระไน คนคนนี้ก็คือลุงแก่ๆ คนที่ต้องการจะซื้อหยกสีแดงดอกท้อของจ่านป๋ายนั่นเอง

 

 

แม้ผู้อาวุโสจะขึ้นราคาสูง แต่เขาก็ซื้อไปไม่น้อย ซีเหมินจินเหลียนนับหินหยกที่กองไว้บริเวณเท้าของเขา สิบก้อนพอดี เงินสดก้อนใหญ่จ่ายไปห้าหมื่นหยวน ไม่รู้ว่าลุงแก่ๆ ท่านนี้เวลาออกจากบ้านพกเงินสดมาเท่าไหร่กัน

 

 

“จินเหลียน พวกเรายังจะดูพวกเขาอีกไหมครับ” จ่านป๋ายถาม “คุณเหนื่อยแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นพวกเรากลับไปเร็วสักหน่อยดีไหม?”

 

 

“ไม่เหนื่อยหรอก ยากที่จะเจอคนอื่นเจียระไนหินแบบนี้ เราถือโอกาสนี้ดูแล้วกัน” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม

 

 

“คุณไม่เหนื่อยก็ดีแล้ว” จ่านป๋ายยิ้ม

 

 

ดวงของลุงท่านนี้ใช้ได้เลย ก้อนแรกก็เป็นชนิดโหยวชิง แม้ไม่ได้ดีมาก แตกต่างจากเนื้อน้ำแข็งสีดอกท้อของจ่านป๋ายราวฟ้ากับดิน แต่เมื่อเห็นสิ่งที่น่าชมแบบนี้แล้วก็ทำให้คุณลุงท่านนี้ดีใจไม่หยุด

 

 

ถัดมาก้อนอื่นๆ ก็เป็นหินทั้งนั้น จนเมื่อเจียระไนถึงก้อนที่แปด เมื่อลงมีดแล้ว เนื้อผิวมีสีเขียวอ่อนๆ เผยออกมาให้เห็น สีไม่เข้มมาก แต่ที่หายากก็คือเขียวบริสุทธิ์ และยังเป็นชนิดเนื้อน้ำแข็ง

 

 

จ่านป๋ายกระซิบพูดกับซีเหมินจินเหลียนว่า “ดวงของเขาดีใช้ได้เลย”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่ส่ายหน้า ลุงท่านนี้ไม่เหมือนจ่านป๋ายที่เมื่อลงมีดเริ่มตัดจากตรงกลาง หินหยกแต่ละก้อนของเขาเริ่มตัดจากผิวส่วนที่ดีที่สุด…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด