ความลับแห่งจินเหลียน 288 รสจูบงู

Now you are reading ความลับแห่งจินเหลียน Chapter 288 รสจูบงู at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หูชีเยี่ยนแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ “คุณชาย นายเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? เมื่อวานพ่อของนายบอกว่าไม่รู้จักฉันไม่ใช่เหรอ ในเมื่อไม่รู้จักฉัน เรื่องระหว่างเราก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก อีกอย่างพ่อของนายเจ็บป่วยก็ไปให้หมอดูอาการนู่น ไม่ไปโรงพยาบาลแต่มาหาฉันที่นี่ทำไม? แต่ถ้านายอยากจะตามจีบลูกสาวของฉัน ฉันก็ไม่ได้คัดค้านอะไรนะ…”

 

 

“คุณหูครับ…” ในใจของจ่านมู่ฮวากระวนกระวายไปหมด จะให้หูชีเยี่ยนพูดจาเหลวไหลต่อไป สายตาก็มองไปยังพ่อที่เจ็บปวดอยู่บนพื้นอย่างทุรนทุราย ไม่รู้ว่าจะทนไปได้ถึงเมื่อไหร่…แม้คนคนนั้นจะบอกว่าแค่เจ็บปวดไม่ถึงกับตาย แต่วิธีเจ็บปวดแบบนี้สู้ตายไปยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่เสียอีก

 

 

แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี เพราะอย่างไรเรื่องในตอนนั้นเขาก็รู้แค่ผิวเผิน แค่พอจะรู้อยู่บ้างว่าตระกูลพวกเขาทำเรื่องไว้กับหูชีเยี่ยนก่อน แล้วพวกเขาจะมีหน้าไปโทษว่าหูชีเยี่ยนไม่ดีได้อย่างไร?

 

 

พ่อของเขาก็เกินไปจริงๆ เมื่อวานเจอหูชีเยี่ยนน่าจะพูดคุยกันให้ดีๆ ทำไมต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกันด้วย?

 

 

“จินเหลียน!” จ่านมู่ฮวาเมื่อเห็นสีหน้าพ่อของตนเริ่มจะซีดเซียว และคิดว่าคนอย่างหูชีเยี่ยนก็คงไม่มีทางที่จะพูดคุยกันได้ด้วยเหตุผล ทันใดนั้นเขาจึงคุกเข่าและหันไปขอร้องซีเหมินจินเหลียนแทน “จินเหลียน ขอร้องคุณเถอะ ช่วยพูดกับพ่อคุณให้หน่อยเถอะนะ ขอแค่คุณหูยอมช่วย ต่อไปชีวิตของผมจ่านมู่ฮวาก็เป็นของคุณแล้ว”

 

 

“เอ่อ…” ซีเหมินจินเหลียนทำตัวไม่ถูก หันไปขอความช่วยเหลือจากหูชีเยี่ยน

 

 

ในใจของจ่านมู่ฮวายิ่งร้อนรน จับมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อย ซีเหมินจินเหลียนตื่นตกใจ ด้วยสัญชาตญาณจึงออกแรงสะบัดมือของเขาออก แต่เหมือนว่าจะใช้แรงมากเกินไปจนทำให้มือของตัวเองไปกระแทกเข้ากับโต๊ะจนต้องส่งเสียงร้องโอ๊ยอย่างเจ็บปวด

 

 

หูชีเยี่ยนพลันง้างมือตบเข้าที่ใบหน้าของจ่านมู่ฮวาอย่างรุนแรง

 

 

ซีเหมินจินเหลียนเห็นจ่านมู่ฮวาถูกหูชีเยี่ยนตบจนเซลงบนพื้น เวลาหูชีเยี่ยนลงมือก็ค่อนข้างหนักเอาการ ในใจจึงทนไม่ไหว อดไม่ได้ที่จะเรียกขึ้น “พ่อคะ…”

 

 

“ถ้าลูกทนดูไม่ได้ ก็ขึ้นไปรอข้างบน!” หูชีเยี่ยนพูด

 

 

ซีเหมินจินเหลียนจึงปิดปากลงอย่างเจียมตัว นิสัยยโสโอหังของหูชีเยี่ยนนั้นเธอรู้ดี อีกอย่างหูชีเยี่ยนเป็นคนบอกเองว่านิสัยของเขาไม่ได้ดีเลิศวิเศษวิโส แต่โอนอ่อนกับเธอไปเยอะก็เพราะว่าเธอเป็นลูกสาวของเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงตบหน้าเธอด้วยสักครั้ง

 

 

“คุณหู…ไม่สิ…นายท่านครับ…จ่านอิ๋นผิดไปแล้ว…ขอร้องท่านล่ะ…” จ่านอิ๋นทนพิษความเจ็บปวดไม่ไหว บนศีรษะมีหลอดเลือดดำใต้ผิวหนังโป่งขึ้นเห็นได้ชัด เมื่อเห็นจ่านมู่ฮวาถูกตีเพราะเขาก็ยิ่งเจ็บปวดใจ และคุกเข่าโขกหัวขอความเมตตา

 

 

“นายเรียกฉันว่าอะไรนะ?” หูชีเยี่ยนแสยะยิ้มเยือกเย็น

 

 

“นายท่าน จ่านอิ๋นสำนึกผิดแล้ว จ่านอิ๋นไม่น่าเชื่อคำพูดของคนอื่น ทรยศนายท่าน…” จ่านอิ๋นรีบพูด

 

 

หูชีเยี่ยนย่อตัวลงและจับศีรษะของจ่านอิ๋นพลางถามขึ้น “เรื่องในตอนนั้น นายก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยใช่ไหม? ฉันไม่ได้ทำอะไรแก…”

 

 

“ใช่ครับ! เรื่องเหมืองหยกที่พม่าในปีนั้น ตระกูลจ่านของพวกเราจับมือกับผู้เฒ่าเทวดาตระกูลฉิน ขายนายท่านให้กับคุณซีเหมิน…” จ่านอิ๋นรีบพูด

 

 

“ซีเหมินน่งเย่ว์?” หูชีเยี่ยนถาม

 

 

จ่านอิ๋นรีบพยักหน้า ความเจ็บปวดรวดร้าวที่รุนแรงทำให้เขาคิดทบทวนสถานการณ์อยู่ไม่ตก ไม่สิ เขาครุ่นคิดทบทวนถึงเรื่องอะไรไม่ได้แล้ว โลกของเขาเหลือไว้แค่ความเจ็บปวดโดยที่ไม่มีเวลาหยุดพัก

 

 

“ทำไม?” หูชีเยี่ยนถาม “ตอนนั้นฉันก็ไม่ได้ไปหาเรื่องอะไรพวกแกสักหน่อย?”

 

 

“เดือนสี่ครานั้นพวกเราหลายตระกูลเคยเอาชีวิตไปเดิมพันร่วมสาบานเลือด ตราบใดที่ตระกูลหูยังมีลมหายใจ ก็ยังคงเป็นทาสไปตลอดชีวิต โดยไม่สามารถทรยศหักหลังได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกทรมานด้วยความเจ็บปวดไม่รู้สิ้น อยากมีชีวิตรอดก็ไม่มีทางรอด” จ่านอิ๋นยิ้มฝืดเฝื่อน หรือนี่จะเป็นจุดสิ้นสุดการทรยศ? แต่นี่มันยุคไหนแล้ว เป็นทาสอย่างนั้นเหรอ? เขาทำไม่ได้หรอก…

 

 

ซีเหมินจินเหลียนสงสัยเป็นอย่างมาก เพื่อคำสาบานพวกนี้หรือ? ทำให้คนเข่นฆ่าทำร้ายกัน? ยุคนี้แล้วจะมีใครอยากเป็นทาสใครด้วยเหรอ? พวกเขาแค่เมินเฉยหูชีเยี่ยน แต่จากเหตุการณ์ที่ปรากฏขึ้น ตอนนั้นหูชีเยี่ยนน่าจะไม่ได้คิดที่จะหาเรื่องพวกเขา

 

 

“ตอนนี้คนที่อยากจะตายก็ไม่ได้ตาย อยากจะมีชีวิตอยู่ก็ไม่ได้อยู่ก็คือฉัน!” หูชีเยี่ยนได้ยินแล้วขุ่นเคือง ยกเท้าขึ้นไปถีบบนตัวของจ่านอิ๋นอย่างแรง

 

 

“พ่อ…” จ่านมู่ฮวาตกใจรีบกระโจนเข้ามากอดจ่านอิ๋น ขาของหูชีเยี่ยนเหยียบลงไปบนหลังเขาอย่างเ**้ยมโหด จ่านมู่ฮวาส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด นี่ก็ไม่ได้เหมือนเวลาปกติที่เล่นกับซีเหมินจินเหลียน แม้อยากจะเฆี่ยนตี แต่เขาก็เจ็บปวดเกินจะบรรยายแล้ว

 

 

“ลูกชายนายกตัญญูดีนี่!” หูชีเยี่ยนแสยะยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น

 

 

“คุณหู ขอร้องท่านเถอะครับ! ท่านอย่าทรมานพ่อผมอีกเลย ผมยินยอมจะเป็นทาส…” จ่านมู่ฮวาลุกลี้ลุกลน รีบแก้ปัญหาที่เร่งด่วนที่อยู่ตรงหน้านี้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน เรื่องหลังจากนี้ค่อยวางแผนกันใหม่

 

 

“จ่านอิ๋น ฉันขอถามแกประโยคสุดท้าย” หูชีเยี่ยนพูด “แกรู้จักซีเหมินเวิ่นเสวี่ยหรือเปล่า?”

 

 

สำหรับคำถามนี้ซีเหมินจินเหลียนเองก็รู้สึกกังวลขึ้นมาและจ้องมองไปที่จ่านอิ๋น กลัวว่าเขาจะพูดคำว่ารู้จักออกมา ตั้งแต่เล็กเธอกับลุงงูสนิทสนมกันมาก บางทีอาจจะสนิทมากกว่าหูชีเยี่ยนด้วยซ้ำ เธอไม่ได้คาดหวังให้ลุงงูกับหูชีเยี่ยนกลายเป็นศัตรูบาดหมางกัน  อีกทั้งเธอก็ยังยืนอยู่ตรงกลางระหว่างเรื่องพวกนี้อีก

 

 

จ่านอิ๋นส่ายหน้า ก่อนจะพยักหน้าอีกครั้ง ลังเลอยู่นานถึงเอ่ยขึ้น “เขาเป็นน้องชายแท้ๆ ของคุณซีเหมิน”

 

 

“ที่แท้นายก็รู้จักนี่?” หูชีเยี่ยนแสยะยิ้มเย็นมองไปที่ซีเหมินจินเหลียนปราดหนึ่ง

 

 

ซีเหมินจินเหลียนตัวเย็นเฉียบไปทั้งร่าง นั่งหมดแรงอยู่บนโซฟา ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ ทำไมลุงงูถึงรู้จักพวกเขา? หรือว่าตอนนั้นลุงงูสมคบคิดกับพวกเขาทำร้ายพ่อ?

 

 

“จินเหลียน…จินเหลียน…” หูชีเยี่ยนเรียกเธอถึงสองครั้ง ซีเหมินจินเหลียนถึงได้สติขึ้นมาได้ หยดน้ำตาไหลระรื้นอยู่ในขอบตา มองเขาด้วยความเวทนา

 

 

“ทำไมถึงร้องไห้อีกแล้ว?” หูชีเยี่ยนถอนหายใจ “ลูกจะช่วยเขาไหม?” พูดจบเขาก็ชี้ไปทางจ่านอิ๋น

 

 

จะช่วยจ่านอิ๋นดีไหม? คนคนนี้ตอนนั้นเคยทำร้ายพ่อของเธอ ถ้าจะว่าตามจริงแล้วความเป็นความตายของเขากับเธอคงไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ถ้าหากจ่านอิ๋นตายเพราะเรื่องนี้ ถ้าอย่างนั้นจ่านป๋ายยังจะคงไปมาหาสู่กับเธอเหมือนเดิมหรือเปล่า?

 

 

“จินเหลียน ขอร้องคุณล่ะ!” จ่านมู่ฮวาได้ยินว่าน้ำเสียงของหูชีเยี่ยนมีท่าทีผ่อนคลายลง ตอนนี้อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ซีเหมินจินเหลียน เขาจึงรีบกระโจนแบกหน้าขอร้องเธอ

 

 

ซีเหมินจินเหลียนมองจ่านมู่ฮวาด้วยความสับสน ปีศาจผู้ชายหน้าหล่อ ตอนนี้ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือด ใบหน้าและลำตัวมีแต่รอยแผล…ไม่เหมือนใบหน้าที่สง่าผ่าเผยเหมือนครั้งแรกที่เคยเจอ

 

 

“พ่อคะ พอเถอะค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มเฝื่อน “ชีวิตพวกเราอาภัพเอง พ่อปล่อยพวกเขาไปเถอะค่ะ”

 

 

“ได้” หูชีเยี่ยนยิ้ม “ลูกว่าอะไรก็ว่าตามนั้น ความจริงจะรักษาอาการปวดท้องแบบไม่ทราบสาเหตุอย่างนี้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือให้นางพญางูขาวกัดสักที”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วก็เบิกตาโตอย่างตกใจ ให้นางพญางูขาวกัด แล้วจ่านอิ๋นจะยังมีชีวิตอยู่อย่างนั้นหรือ?

 

 

“จินเหลียน พ่อไม่ได้ล้อเล่น มันคือเรื่องจริง” หูชีเยี่ยนยิ้ม “ถ้าลูกอยากจะช่วยจ่านมู่ฮวา ลูกก็เรียกนางพญางูขาวออกมาให้มันกัดจ่านอิ๋นก็ได้แล้ว”

 

 

“จริงเหรอคะ?” ซีเหมินจินเหลียนสงสัย แม้บนตัวของจ่านอิ๋นจะถูกหูชีเยี่ยนเล่นงานจริง แต่วิธีช่วยเหลือแบบนี้ก็ไม่น่าจะเป็นการให้นางพญางูขาวกัดหรือเปล่า? นางพญางูขาวเป็นสัตว์เลี้ยงของลุงงูเชียวนะ

 

 

“เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่ ถึงอย่างไรพ่อก็ไม่มีทางให้คนมาตายที่บ้านลูกหรอก” หูชีเยี่ยนยิ้มน้อยๆ

 

 

“ค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า นิ้วมือแนบไว้ข้างปากพร้อมผิวปากส่งเสียง

 

 

จ่านมู่ฮวามองไปที่งูตัวเล็กสีขาวที่โผล่มาจากใต้โซฟาอย่างน่าอัศจรรย์ ให้ตายเถอะ อย่าบอกนะว่างูตัวนี้อยู่ใต้โซฟามาตลอด? ซีเหมินจินเหลียนกวักมือเรียก งูตัวนั้นก็พลันเลื้อยเข้ามาหาและคล้องรัดบนข้อมือของเธอ

 

 

จ่านมู่ฮวาพลันคิดขึ้นมาได้ ครั้งแรกที่เขาเจอเธอ งูตัวนี้ก็มีแรงดึงดูดเขาอย่างประหลาด ความจริงผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สวยเกินไป แต่เธอมีความน่ารักสงบในตัวเอง เป็นเด็กผู้หญิงตามฉบับโบราณ…แต่ด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์แบบนี้มันเลยมีเสน่ห์เย้ายวนอย่างประหลาด ขอแค่ได้มองแวบหนึ่งชีวิตนี้ก็ยากที่จะลืม

 

 

“กัดตรงไหนคะ?” ซีเหมินจินเหลียนเดินไปข้างหน้าจ่านอิ๋นและย่อตัวนั่งลงกับพื้น เงยหน้าไปถาม หูชีเยี่ยน

 

 

“ลูกลองให้นางพญางูขาวดูแล้วกันว่าตรงไหนเหมาะสมก็กัดตรงนั้น” สายตาของหูชีเยี่ยนมองบนร่างของจ่านอิ๋นไปทั่ว ทำให้จ่านอิ๋นขนพองสยองเกล้า

 

 

“โอเคค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนตอบรับ แล้วพูดพึมพำกับนางพญางูขาวไปสองสามประโยค งูตัวเล็กสีขาวก็จ้องเขม็งไปทางจ่านอิ๋นอย่างรวดเร็ว จากนั้นมันก็ไม่ได้กัดตามอำเภอใจ เพียงเลื้อยไปทั่วเรือนร่างของเขา

 

 

ทั้งร่างของจ่านอิ๋นสั่นเทิ้มไปหมด เมื่อสักครู่อาการปวดท้องผ่านไปแล้ว แต่งูตัวนี้…ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปเกรงว่าคงไม่มีทางปล่อยให้งูมาเลื้อยตามตัวไหม? ทั้งร่างของเขาขนลุกซู่ไปหมด แม้แต่หนังหัวยังลุกชัน

 

 

“โอ๊ย…” จู่ๆ จ่านอิ๋นก็ร้องเสียงดัง สองมือจับไปที่ก้น จากนั้นเด้งตัวขึ้นจากพื้น

 

 

แม้แต่ซีเหมินจินเหลียนยังคิดไม่ถึงว่านางพญางูขาวจะกัดไปตรงบริเวณก้นของจ่านอิ๋น…

 

 

จ่านมู่ฮวามองไปที่ซีเหมินจินเหลียน ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าติดๆ กัน เรื่องแบบนี้ไม่มีทางที่เธอจะสั่งได้ เธอแค่กำชับให้นางพญางูขาวหาที่ที่เนื้อเยอะหน่อยแล้วกัดลงไป โดยปกติส่วนที่เนื้อเยอะเมื่อกัดแล้วจะทำให้ไม่รู้สึกเจ็บปวด

 

 

เมื่อย้อนกลับไปคิดแล้วก็ตกใจยกใหญ่ บริเวณส่วนก้นมีเนื้อมากที่สุดเหรอ?

 

 

นางพญางูขาวเลื้อยลงบนพื้น ก่อนจะม้วนตัวขดดูท่าทางหดหู่ ซีเหมินจินเหลียนผิวปากเรียกอีกครั้งจนทำให้มันเลื้อยกลับเข้าไปใต้โซฟาอย่างรวดเร็ว

 

 

“งูสีขาวตัวน้อยน่ารักจริง เลี้ยงดูมาตั้งกี่ปีก็ใหญ่ขึ้นมาแค่นิดเดียว” หูชีเยี่ยนจ้องมองไปที่งูตัวขาวและยิ้ม

 

 

“ใหญ่กว่านี้คงเลี้ยงไม่ได้แล้วค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจ

 

 

“ใช่ อย่างน้อยก็ไม่สามารถรัดรอบข้อมือเวลาออกไปข้างนอกได้ อีกอย่างคงได้ทำให้คนหวาดกลัวแน่” หูชีเยี่ยนหัวเราะลั่นและมองไปที่จ่านอิ๋น “เสร็จแล้ว นายไปได้แล้วใช่ไหม?”

 

 

“เสร็จ…แล้วจริงๆ หรือครับ?” จ่านอิ๋นมองไปที่หูชีเยี่ยนอย่างหวาดกลัวเล็กน้อย ถูกงูกัดแค่ครั้งเดียวก็เสร็จแล้วเหรอ?

 

 

“ถ้าอาการกำเริบอีกครั้ง นายก็มาให้งูกัดอีกรอบก็ได้แล้ว!” หูชีเยี่ยนยิ้ม “อย่างไรเสียก็ไม่มีหนทางให้เลือกมาก แต่นายห้ามไปให้งูตัวอื่นกัดตามอำเภอใจล่ะ กัดไปแล้วถึงแก่ชีวิต ฉันก็ไม่รับผิดชอบนะ”

 

 

จ่านมู่ฮวามองซีเหมินจินเหลียน หวังจะให้เธอพูดอะไรสักอย่าง เพราะคำพูดของหูชีเยี่ยนฟังแล้วดูไม่น่าเชื่อถือ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด