ความลับแห่งจินเหลียน 330 ทำร้ายตัวเอง?

Now you are reading ความลับแห่งจินเหลียน Chapter 330 ทำร้ายตัวเอง? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซีเหมินจินเหลียนคิดๆ ดูแล้วเอ่ย “ไปที่คุณก่อน”

 

 

จ่านมู่ฮวาได้ยินแล้วหางคิ้วพลันยิ้มยินดีปรีดาถามไปว่า “เจ้านายที่เคารพรักครับ คุณจะสั่งสอนผมอีกเหรอ?”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนมีอาการขนลุกซู่ไปทั้งตัวพูดสบถด่า “ถ้าวันไหนที่คุณไม่โดนตีจะรู้สึกไม่สบายตัวหรือไง?”

 

 

“ชายโสดหญิงโสด กลางดึกกลางดื่นคุณไปที่ผม ผมก็ต้องเข้าใจผิดเป็นธรรมดา” จ่านมู่ฮวาพูดอย่างลำบากใจ

 

 

“ฉันจะไปดูพี่หลินต่างหาก ไม่รู้บาดแผลที่มือเขาร้ายแรงหรือเปล่า?” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจ

 

 

ในใจของจ่านมู่ฮวาด่าพ้อไปถึงบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของหลินเสวียนหลาน ซีเหมินจินเหลียนเห็นใบหน้าเขาเ**่ยวแห้งหน้าแข็งทื่อก็ปล่อยขำออกมากลั้นไว้ไม่อยู่

 

 

“ผมเกลียดหลินเสวียนหลาน เกลียดมาก” จ่านมู่ฮวาตบพวงมาลัยรถ

 

 

“คุณเกลียดเขาขนาดนั้น ทำไมถึงลากเขามาอยู่ด้วยกันล่ะ?” ซีเหมินจินเหลียนนั่งพิงบนเก้าอี้และถามไปโดยไม่ใส่ใจใยดีสักนิด

 

 

“ผม…” จ่านมู่ฮวาสับสน “คุณรู้ได้ยังไงว่าผมลากเขามาอยู่ด้วยกัน? ทำไมไม่คิดว่าเขาลากผมมาอยู่ด้วยกันล่ะ?”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนแค่ยิ้มๆ ภาพลักษณ์ภายนอกของหลินเสวียนหลานเป็นคนสุภาพอ่อนโยนกับทุกคนและคบหารู้จักกันง่าย แต่ความจริงแล้วนิสัยทองไม่รู้ร้อนอย่างเขากลับเป็นสิ่งที่ยากที่สุดเวลาอยู่รวมกันกับคนอื่น เว้นเสียแต่จ่านมู่ฮวาทำทุกวิถีทางลากเขาให้มาอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นเขายอมทนนอนอยู่กลางถนนอันกว้างใหญ่ ยังดีเสียกว่าออกตัวมานอนเบียดเสียดกับจ่านมู่ฮวา

 

 

“จินเหลียน ผมจะบอกคุณให้ คุณอย่าได้มองแต่ท่าทางสุภาพอ่อนโยนของหมอนั่น แต่ความจริงแล้วเขานั่นปลิ้นปล้อนเหมือนปีศาจ ผมถูกเขาหลอกเลยต้องจำใจลากเขามาอยู่ด้วย เขาจะได้ไม่หนีไป” จ่านมู่ฮวาพลันเหยียบคันเร่งพร้อมพูด

 

 

“เป็นเพราะร้านนั้นเหรอคะ?” ซีเหมินจินเหลียนถาม “คุณก็โดนคนอื่นหลอกได้เหมือนกันนี่ คุณก็หลอกฉันเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”

 

 

จ่านมู่ฮวาเงียบปากอย่างว่าง่าย อยากจะฟ้องร้องเรื่องหลินเสวียนหลานต่อหน้าซีเหมินจินเหลียน เขาช่างอ่อนปวกเปียกเหลือเกิน หาความเห็นใจกับการปลอบใจไม่เจอเลยสักนิด

 

 

รถจอดไว้ข้างหน้าคฤหาสน์ ซีเหมินจินเหลียนกวาดสายตาไปแวบหนึ่งก็เหอะเสียงใส่ “คฤหาสน์หลังนี้ดีกว่าของฉันอีก”

 

 

“ผมจองไว้ตั้งแต่ครึ่งเดือนที่แล้ว ไม่อย่างนั้นถ้ามาเมื่อวานคงไม่มีทางจองคฤหาสน์ส่วนตัวได้หรอก ผมไม่ชินกับห้องดีลักซ์หรูหรา” จ่านมู่ฮวาพูดจบก็เปิดประตูและเชิญให้ซีเหมินจินเหลียนเข้าไปข้างใน

 

 

“จินเหลียน คุณมาได้ยังไง?” ในห้องรับแขกมีทั้งหลินเสวียนหลานและสวี่อี้หรานอยู่พร้อมหน้ากัน

 

 

มือของหลินเสวียนหลานทายาสมานแผลและพันแผลไว้อย่างหนาแน่นดีเรียบร้อย ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม “พี่หลินคะ ฉันขอดูมือพี่หน่อยได้ไหม คืนวันนี้ต้องขอบคุณพี่มากจริงๆ นะคะ ถ้าไม่ใช่พี่ ใครจะไปรู้ว่า หูเยี่ยนอาจจะเอามีดมาแทงฉันตายแล้วก็ได้”

 

 

“ไม่มีทางหรอก” หลินเสวียนหลานโคลงศีรษะพูด “เมื่อกี้สวี่อี้หรานก็บ่นใส่ผมไม่หยุด หาว่าผมแส่หาเรื่องเอง ถ้าผมไม่ไปขวางไว้ หูเยี่ยนก็ทำร้ายอะไรคุณไม่ได้ ดูปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนใช้มีดไม่เป็น”

 

 

“จริงเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนอดไม่ได้ที่จะหันไปมองสวี่อี้หราน

 

 

“เรื่องมันก็เป็นแบบนั้นแหละ” สวี่อี้หรานพูดจริงจัง “คนที่อยากจะฆ่า จำเป็นต้องเล่นใหญ่ออกหน้าออกตาขนาดนั้นเลยเหรอ? นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ?”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนกลัวว่าเขาจะพูดอะไรไม่น่าฟังออกมา รีบส่ายหัวและแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินทันที สวี่อี้หรานเห็นว่าเธอไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้พลันยิ้มออกมา “จินเหลียน เมื่อกี้ผมได้ข่าวมาว่าหูเยี่ยนตายแล้ว”

 

 

“อะไรนะ?” ซีเหมินจินเหลียนสับสน ตายแล้ว? เป็นไปได้ยังไง? เมื่อกี้เธอถูกตำรวจพาตัวไปไม่ใช่เหรอ? อีกอย่างแม้ว่าหูเยี่ยนจะเจตนาฆ่า แต่ก็ทำไม่สำเร็จ แถมเธอยังเป็นคนจีนอีก ยังไงสุดท้ายแล้วก็ต้องถูกส่งตัว กลับจีนเพื่อไปพิพากษา เธอคาดการณ์ไว้ขอแค่เธอไม่เอาเรื่องเอาความ สุดท้ายคดีนี้มากสุดก็แค่ตัดสินให้จำคุกสามถึงห้าปีเท่านั้น ไม่มีทางถึงขั้นประหารชีวิตได้

 

 

คนคนหนึ่งอยู่ดีๆ แท้ๆ ทำไมถึงต้องมาตายกะทันหันแบบนี้? อีกอย่างจากที่เธอดูลักษณะรูปร่างหน้าตาของหูเยี่ยน ก็ไม่เหมือนคนป่วยเป็นโรคอะไร

 

 

“ผมพอรู้จักคนที่อเมริกาอยู่บ้าง เพราะคดีนี้เกี่ยวพันถึงคุณ เมื่อครู่หูเยี่ยนจึงถูกพาตัวไป ผมเลยลองโทรไปสอบถามข่าวคราวกับเพื่อนดู ให้เขาช่วยเป็นหูเป็นตาให้หน่อย ตอนแรกก็กังวลเผื่อว่าหูเยี่ยนยังมีผู้สมคบคิดทำร้ายคุณอีก แต่เมื่อสักครู่เขาโทรมาหาผม บอกว่าหูเยี่ยนตายแล้ว” สวี่อี้หรานอธิบาย

 

 

“ตายได้ยังไง?” ซีเหมินจินเหลียนถามอย่างไม่เข้าใจ

 

 

“จากการวินิจฉัยเบื้องต้นรายงานว่าตายเพราะกล้ามเนื้อหัวใจตาย” สวี่อี้หรานยิ้มมีเลศนัย “จินเหลียน คุณไม่รู้จริงๆ เหรอ?”

 

 

หลินเสวียนหลานทนฟังต่อไปไม่ไหว “คุณสวี่ คุณหมายความว่ายังไง หรือว่าคุณสงสัยจินเหลียนงั้นเหรอ?”

 

 

“หูเยี่ยนไม่มีทางกล้ามเนื้อหัวใจตายฉับพลัน ดังนั้น…เธอต้องตายเพราะถูกคนฆ่า” สวี่อี้หรานส่ายศีรษะพูด “ขอร้องล่ะ พวกคุณมีสมองก็ช่วยคิดหน่อยได้ไหม?”

 

 

จ่านมู่ฮวาหยิบเครื่องดื่มเข้ามาด้วยตัวเอง ฟังเรื่องแล้วยื่นไปให้ซีเหมินจินเหลียน แล้วก็หันไปพูดกับสวี่อี้หราน “คุณพูดถูกมาก หูเยี่ยนไม่มีทางตายเพราะกล้ามเนื้อหัวใจกำเริบ ดังนั้นในนี้ต้องมีปัญหาอยู่แน่ๆ อีกอย่างจากความฉลาดเป็นกรดของคุณหู ทำไมถึงได้ยอมรับเลี้ยงลูกสาวบุญธรรมด้วย?”

 

 

“ฉันได้ยินพ่อพูดว่า พ่อของหูเยี่ยนตอนนั้นถูกติดร่างแหกับเขาไปด้วย จึงถูกซีเหมินน่งเยว่ฆ่าตาย ดังนั้นแม่ของหูเยี่ยนเลยยืนกรานจะมอบหูเยี่ยนให้เป็นลูกบุญธรรมของเขา เขาเลยได้ยินยอมไป” ซีเหมินจินเหลียนพูด ความจริงเธอก็สงสัยมาก ถ้าบอกว่าหูเยี่ยนเป็นลูกสาวนอกสมรสของหูชีเยี่ยน เธอก็จะยอมรับ แต่เป็นลูกสาวบุญธรรมยังหาคำอธิบายไม่กระจ่าง นี่ไม่ใช่ลักษณะนิสัยของหูชีเยี่ยนแน่นอน

 

 

“คนที่ลงมือในคืนนี้ ฝีมือคล้ายคลึงกับอาจารย์มาก” สวี่อี้หรานยิ้มฝืน “แต่อาจารย์อยู่ที่ตงไห่ ดังนั้นคนที่สามารถฆ่าคนในลาสเวกัสได้อย่างง่ายดายมีอยู่คนหนึ่ง”

 

 

“ลุงงู” ซีเหมินจินเหลียนพ่นสองคำออกมาเบาๆ จากปาก

 

 

“ใช่แล้ว” สวี่อี้หรานยิ้มๆ “คุณซีเหมิน คุณลองคิดดู ทำไมพ่อคุณถึงต้องทำแบบนี้?”

 

 

“ฉันไม่รู้” ซีเหมินจินเหลียนโคลงศีรษะพูด

 

 

“คุณหูจัดการเรื่องราวลึกลับซับซ้อน ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราคาดคะเนได้” คนที่ไม่ได้พูดอะไรอย่างหลินเสวียนหลานเปิดปากมาอย่างแผ่วเบา “อีกอย่างผมเชื่อว่าคุณหูไม่มีทางให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาทำร้ายจินเหลียน แม้รู้แก่ใจว่าทำร้ายซีเหมินจินเหลียนไม่ได้ เขาก็ไม่มีทางทำแบบนี้”

 

 

“ใช่ค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้ายืนยัน การที่สงสัยหูชีเยี่ยนแบบนี้ ยกโทษให้ไม่ได้

 

 

“ที่ผมห่วงไม่ใช่จินเหลียน แต่เป็นคุณหูต่างหาก” สวี่อี้หรานส่ายศีรษะพูด “ผมรู้สึกว่าช่วงนี้มีอะไรไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะหูเยี่ยนปรากฎตัวมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย และตายอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเช่นกัน คุณหูคิดจะทำอะไรกันแน่?”

 

 

“ถ้าบอกว่ามีคนคิดทำร้ายพ่อฉัน ก็มีแค่อาจารย์ของคุณเท่านั้นล่ะ” ซีเหมินจินเหลียนเหลือบมองสวี่อี้หรานด้วยแววตาเย็นยะเยือก

 

 

สวี่อี้หรานพยักหน้าพูด “อาจารย์กลัวงูเป็นที่สุด ช่วงนี้อยู่แต่ตงไห่ไม่กล้าออกไปไหน เขาเห็นอาจารย์ลุงก็เหมือนเห็นผี ครั้งที่แล้วที่ถูกคุณชายจ่านหลอกไปรอบหนึ่งก็ถูกอาจารย์ลุงทำร้ายเขาเหมือนตายทั้งเป็นอย่างโหดเ**้ยมทารุณ ถ้าผมไม่อยู่เซี่ยงไฮ้ ไม่แน่อาจารย์ลุงอาจจะปลิดชีวิตเขาไปก็ได้ ดังนั้นขอแค่อาจารย์ลุงปรากฎตัวไปที่ไหน อาจารย์ก็จะ ถอยให้เก้าสิบลี้”

 

 

“งั้นคุณสงสัยอะไรล่ะคะ?” ซีเหมินจินเหลียนถาม “แม้ลุงงูจะฆ่าหูเยี่ยนจริงๆ ก็เป็นเพราะเธอหาเรื่องใส่ตัว”เธอต้องเข้าข้างอยู่แล้ว ลุงงูเป็นถึงคนใกล้ชิดของเธอ แม้ว่าเขาจะผิด เธอก็คิดว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น “อีกอย่างคุณก็ไม่มีหลักฐาน อย่าพูดจาเหลวไหล”

 

 

“ใช่แล้ว?” จ่านมู่ฮวานั่งพิงโซฟาอยู่เปล่งเสียงออกมา “ถ้าคุณกินอิ่มแล้วรู้สึกอึดอัด คุณก็ไปถอดเสื้อเปลือยตามถนนใหญ่ของลาสเวกัสนู่นไป รับรองกระแสดีแน่ ”

 

 

“แม่แกสิ” สวี่อี้หรานได้ยินแล้วเด้งตัวขึ้นม้วนแขนเสื้อเตรียมหาเรื่องทะเลาะกับจ่านมู่ฮวา

 

 

จ่านมู่ฮวาก็ถอดเสื้อนอกออกลุกขึ้นยืน ซีเหมินจินเหลียนพูด “อยากจะเปลือยทะเลาะกันก็ออกไปข้างนอก ฉันว่าคนส่วนมากคงชอบดูคนเปลือยกายทะเลาะกันแน่ โดยเฉพาะหนุ่มหล่อ ฉันจะได้ใช้โอกาสนี้รับตั๋วเข้างานหาเงินซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไป”

 

 

หลินเสวียนหลานหัวเราะยิ้มร่าบนความทุกข์ของคนอื่น สวี่อี้หรานจ้องมองจ่านมู่ฮวาอย่างเ**้ยมเกรียมแล้วนั่งลงบนโซฟา ส่วนจ่านมู่ฮวาเองก็มองเขาด้วยสายตาขุ่นเคืองและนั่งลงพูดต่อ “คุณชายสวี่ ถ้าไม่มีอะไร คุณก็กลับไปได้แล้ว ที่ผมไม่ต้อนรับคุณ”

 

 

แต่หน้าของสวี่อี้หรานหนายิ่งกว่าใครทั้งนั้น แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินและหันไปพูดกับซีเหมินจินเหลียน “จินเหลียน คุณต้องเชื่อผมนะ”

 

 

“คุณสวี่ คุณให้ฉันเชื่ออะไรคุณ?” ซีเหมินจินเหลียนพูด “คุณให้ฉันเชื่อคุณ คุณก็ต้องพูดอะไรมาสักหน่อยสิ?”

 

 

“ความเคลื่อนไหวของคุณหูช่วงนี้ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ ทางที่ดีคุณระวังหน่อยแล้วกัน” สวี่อี้หรานพูด

 

 

“ถึงคุณหูคิดจะทำอะไร เขาก็ไม่มีทางทำร้ายจินเหลียนเด็ดขาด” หลินเสวียนหลานพูดจริงจัง

 

 

“เขาไม่มีทางทำร้ายจินเหลียน แต่ผม…” สวี่อี้หรานขมวดคิ้ว ถ้าเขาพูดประโยคถัดไป เกรงว่าคงได้ถูกพวกเขาทั้งสามคนดูถูกดูแคลนแน่ ถือโอกาสหาว่าเขาเป็นโรคจิต แต่จากข้อมูลส่วนหนึ่งที่เขารู้มา รวมถึงความเคลื่อนไหวของหูชีเยี่ยนในช่วงนี้ เขาก็ทำอย่างนั้นจริงๆ

 

 

ถ้าบอกว่าเบื้องหลังทั้งหมดมีเป้าหมายอะไรบางอย่าง เขาก็ฉุกคิดไม่ออกเหมือนกัน

 

 

“คุณมีขี้อะไรก็รีบปล่อยออกมา” จ่านมู่ฮวาทนรอไม่ไหวแล้ว

 

 

สวี่อี้หรานไม่สนใจคำพูดเสียดสีของเขา พูดจริงจัง “ผมรู้ว่าคำพูดนี้มันดูไร้สาระมาก แต่ผมไม่พูดไม่ได้ ดูเหมือนว่าคุณหูคิดที่จะทำร้ายตัวเอง”

 

 

“พ่อฉันไม่ได้บ้า” ซีเหมินจินเหลียนหมดอารมณ์จะพูด ทำร้ายตัวเอง? ล้อเล่นบ้าบออะไร?

 

 

“จริงนะ” สวี่อี้หรานเห็นใบหน้าของพวกเขาเพิกเฉยไม่สนใจก็ถอนหายใจพูด “ผมรู้การมีตัวตนของหู เยี่ยนก่อนพวกคุณ ตัวตนของเขาก็เหมือนที่คุณหูว่าไว้ เป็นลูกที่ถูกเพื่อนทอดทิ้งไว้อย่างที่ว่า แต่ครึ่งเดือนก่อนหน้านี้ หูเยี่ยนคนนี้ก็ขายการติดต่อระหว่างคุณหูกับอาจารย์” “ขนาดคิดถึงเรื่องฆ่าซีเหมินจินเหลียนผู้หญิงคนนี้ยังคิดได้ ขายคุณหูก็ถือว่าปกติ ผมว่าเป้าหมายที่ผู้หญิงคนนี้เข้าใกล้คุณหูก็เพราะเงิน” หลินเสวียนหลานพูดวิเคราะห์

 

 

ซีเหมินจินเหลียนเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของหลินเสวียนหลาน เรื่องนี้สามารถเข้าใจได้ด้วยเหตุผล เพื่อนเก่าของพ่อคนหนึ่งร่ำรวยขึ้นมากะทันกัน และยังใช้ความสัมพันธ์กับพ่อในตอนนั้น จากนั้นวางแผนครอบครองทรัพย์สมบัติอื่นๆ นี่เป็นสภาวะปกติของจิตใจมนุษย์ ปกติมากเกินไปแล้ว

 

 

“คนที่รู้เบอร์โทรของอาจารย์บนโลกนี้ไม่มีทางเกินสิบคนแน่” สวี่อี้หรานพูดอีกครั้ง “พวกคุณว่า หูเยี่ยนรู้ ความแค้นระหว่างคุณหูกับอาจารย์ผมได้ยังไง คุณหูไม่มีทางเอาเรื่องนี้ไปบอกลูกเลี้ยงสาวที่พึ่งรับมาหรอกถูกไหม?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด