ความลับแห่งจินเหลียน 344 เทพธิดาหนี่วาซ่อมฟ้า

Now you are reading ความลับแห่งจินเหลียน Chapter 344 เทพธิดาหนี่วาซ่อมฟ้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซีเหมินจินเหลียนระงับความโกรธและหวาดกลัวในใจ ถามไปอย่างแปลกใจว่า “คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”

 

 

“คุณจินเหลียน ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น ไม่มีอะไรหรอก” ซีเหมินน่งเยว่ยิ้มลำพองใจ อีกทั้งยังลูบศีรษะเล็กน้อยและส่ายไปมาพลันถอนหายใจพูด “ถ้ารู้ตั้งแต่แรก ฉันน่าจะไปหาช่างทำผมมาทำผมให้ดีกว่านี้หน่อย อย่างน้อยพอขึ้นกล้องแล้วก็ต้องดูดีหน่อยใช่ไหมล่ะ? คุณจินเหลียน?”

 

 

“อาจาย์…” สวี่อี้หรานแย่งหูฟังอีกข้างหนึ่งแล้วชิงพูด

 

 

“แหะๆ แกอยู่ที่นั่นจริงๆ ด้วยสินะ?” ซีเหมินน่งเยว่ยิ้มเย็น “แกไม่ต้องมาเรียกฉันว่าอาจารย์เลยตอนนั้นฉันก็ไม่ได้มีเจตนาดีอยู่แล้ว การอุ้มแกมาก็เพื่อขมขู่พ่อแกเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นด้วยอารมณ์ของพ่อแกแล้วจะปล่อยฉันมาจนถึงวันนี้เรอะ”

 

 

สวี่อี้หรานนั่งพิงบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง เขาเติบโตมาจากการเลี้ยงดูของซีเหมินน่งเยว่

 

 

“ซีเหมินน่งเยว่ คุณคิดจะทำอะไร?” จ่านป๋ายรีบร้อนถาม

 

 

“ใช่ๆๆ ถือว่าคุณจ่านพูดถูก พูดให้มากความก็เปล่าประโยชน์ พวกเรามาเน้นปฏิบัติกันเถอะ” ซีเหมินน่งเยว่ยิ้มได้ใจอยู่หน้ากล้อง “คุณจินเหลียนวางใจได้ครับ ตากล้องของฉันฝีมืออันดับหนึ่ง ฉันรับรองได้เลยว่าสิ่งที่คุณจะได้เห็นต้องยอดเยี่ยมที่สุด”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนกำลังเอ่ยปากพูด แต่เวลาถัดมาเธอกลับพูดอะไรไม่ออก กล้องตัดไปอีกมุม ไม่ได้ถ่ายไปที่ซีเหมินน่งเยว่แล้ว แต่กลับถ่ายหูชีเยี่ยน

 

 

“พ่อคะ…” ซีเหมินจินเหลียนพึมพำ

 

 

บนตัวของหูชีเยี่ยนยังคงสวมใส่ชุดฉางเผ่ายาวสีดำ เพียงแต่ผมเผ้าพะรุงพะรัง ใบหน้าครึ่งหนึ่งถูกบดบังไว้อยู่ ส่วนใบหน้าที่เปิดเผยให้เห็นมีรอยแผลช้ำบวมอย่างเห็นได้ชัด ข้อมือและข้อเท้าถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กหนาเท่าแขน นี่มันเหมือนกับการล่ามสัตว์ป่าดุร้ายชัดๆ

 

 

ซีเหมินจินเหลียนเจ็ดปวดในใจและรีบถามไปว่า “ซีเหมินน่งเยว่ คุณต้องการอะไรกันแน่ คุณอยากจะตามหาหินซ่อมฟ้า ฉันไปกับคุณก็ได้แล้ว”

 

 

กล้องตัดภาพมาอีกครั้ง ทำให้ผู้ที่รับชมเห็นชัดเจนว่านั่นน่าจะเป็นห้องทรมานห้องหนึ่ง ผนังนั้นถูกแขวนด้วยโซ่เหล็ก กุญแจมือ แส้ ไม้เท้าและเครื่องมือทรมานอื่นๆ

 

 

“ตามหาหินซ่อมฟ้ามันเป็นเรื่องแน่อยู่แล้ว แต่ถ้าฉันไม่เตือนเธอดีๆ เสียหน่อย เธอคงไม่ร่วมมือกับฉันอย่างว่านอนสอนง่ายหรอก ฉันโดนพ่อของเธอหลอกจนระแวงแล้ว ดังนั้น…” ซีเหมินน่งเยว่ยิ้มเย็น “ยิ่งไปกว่านั้น ฉันเกลียดเขามาตั้งหลายปี ตอนนี้สบโอกาส เธอคิดว่าฉันจะปล่อยเขาเหรอ?”

 

 

“คุณจะเอายังไงกันแน่?” ซีเหมินจินเหลียนถามอย่างโมโห

 

 

“เธอรู้หรือไม่ว่าในสมัยโบราณจัดการกับพวกโจรชั่วช้าสามานย์ทั่วยุทธจักรยังไง?” ซีเหมินน่งเยว่ยิ้มชวนหัวลุก

 

 

“อาจารย์ ขอร้องท่านล่ะ อย่าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าเลยครับ” สวี่อี้หรานพรวดพราดมาที่หน้าคอมพร้อมเปล่งเสียงเป็นเดือดเป็นร้อน

 

 

จ่านป๋ายพยายามจับมือซีเหมินจินเหลียนให้แน่น แต่กลับรู้สึกว่ามือของเธอสั่นคลอนไปหมด เสียงของซีเหมินน่งเยว่ส่งมาอีกครั้ง “สำหรับพวกชั่วช้าสามานย์ แม้แต่หลักฐานมัดตัวกลับไม่ยอมสารภาพ คนสมัยก่อนนี่ช่างฉลาดจริงๆ คิดการลงโทษที่โหดร้ายแต่ทรมานอย่างช้าๆ เมื่อเทียบกันแล้วกับเครื่องมือทรมานสมัยนี้ยังขาดความคิดสร้างสรรค์ให้มันโชกเลือด เฮ้อ…”

 

 

“คุณมันไม่ใช่คนเลยสักนิด” ซีเหมินจินเหลียนควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่แล้ว

 

 

“เพี๊ยะ” เสียงดังฟังชัด ซีเหมินจินเหลียนเห็นชัดเจนว่าซีเหมินน่งเยว่กำลังตบหูชีเยี่ยนอย่างดุเดือด

 

 

“ฉันเคยบอกแล้ว คุณจินเหลียน ทางที่ดีอย่าด่าดีกว่า ไม่เช่นนั้นฉันจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ อืม ในบรรดาทัณฑวิธีห้า เธอสามารถเลือกให้พ่อของเธอเป็นคนลองได้เหมือนกัน” ซีเหมินน่งเยว่ส่งเสียงเย็นยะเยือกเข้ามาอีกครั้ง

 

 

ในใจของจ่านป๋ายทนไม่ไหวแล้ว หันหน้ากลับมาเห็นซีเหมินจินเหลียนกัดริมฝีปากจนถลอกปอกเปลือก เลือดสดไหลหยดลงมาที่มุมปากทีละนิด

 

 

“จินเหลียน ปิดคอมเดี๋ยวนี้” เสียงที่แน่นิ่งของหูชีเยี่ยนดังแว่วมา “ลูกอย่าดู อย่าไปสนใจเขา นี่ก็ดึกมากแล้ว ลูกควรนอนได้แล้ว…”

 

 

“พ่อคะ” ซีเหมินจินเหลียนพยายามสะกดกลั้นไม่ให้ร้องออกมา

 

 

“ขืนเธอกล้าปิดคอมพิวเตอร์ดูสิ ฉันสัญญาก่อนรุ่งอรุณ ฉันจะให้แกได้ลิ้มรสทรมานจากการลงโทษด้วยเครื่องบีบนิ้วโบราณไปจนถึงเก้าอี้ไฟฟ้าประหารชีวิตในปัจจุบันไม่ให้ขาดตกบกพร่องสักแดงเดียวเลย จากนั้นฉันจะให้คนถ่ายภาพยนตร์เอาไว้แล้วใส่ลงแผ่นดิสก์ส่งให้เธอทางไปรษณีย์”

 

 

ซีเหมินน่งเยว่พูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา “เธอมีสิทธิ์เลือกอย่างอิสระว่าจะปิดคอมตอนนี้เลยหรือเปล่า”

 

 

“แม่มึงสิ มีเรื่องอะไรก็มาลงที่กู มึงหาเรื่องกูก็พอแล้ว ทำไมต้องบีบบังคับให้จินเหลียนดูด้วย?” หูชีเยี่ยน สบถด่าคำหยาบ

 

 

ซีเหมินน่งเยว่ตบไปที่บ้องหูชีเยี่ยนอย่างหนักอีกครั้งและพูดว่า “แกก็ไม่ต้องมายั่วฉัน ฉันไม่ฆ่าแกหรอก ถ้าฆ่าแกแบบนี้มันก็ดูถูกแกเกินไป ในเมื่อลูกสาวแกยังตัดสินใจเลือกไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นในบรรดา ทัณฑวิธีห้าก็เริ่มจากเครื่องบีบนิ้วและไม้หนีบขาก่อนแล้วกัน เหมือนว่าทั้งสองชนิดนี้จะใช้บ่อยในละครโทรทัศน์นี่ ทุกคนคุ้นเคยกันทั้งนั้น มาๆๆ พวกเธอทุกคนจัดแจงตำแหน่งกันให้ดี ปกติที่ชอบดูโทรศัพท์รู้ใช่ไหมว่าควรถ่ายยังไง?”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกว่าร่างกายของเธออ่อนปวกเปียกไปหมด แม้แต่ยืนยังยืนไม่ไหว เลยได้แต่นั่งอยู่บนพื้นไปอย่างนั้น เป็นดั่งที่ซีเหมินน่งเยว่พูดไว้ ช่างภาพที่เขาจ้างมามีฝีมือไม่เบา ทำให้เธอเห็นกระบวนการ ทุกอย่างชัดเจน พวกผู้ชายร่างกำยำที่สวมใส่ชุดทหารลายพรางต่างก็มีพลังชี่พิฆาต เมื่อเห็นอย่างรวดเร็วก็รู้ว่าไม่ใช่พวกที่ดูเป็นมิตร น่าจะมาจากประเทศลาว ปกติพวกเขามักจะใจดำอำมหิต สำหรับวิธีลงโทษที่ทรมานพวกนี้เป็นของถนัดอยู่แล้ว

 

 

เครื่องบีบนิ้วและไม้หนีบขานำมาใช้พร้อมกัน ฉากนี้ดำเนินไปด้วยเวลาถึงสิบนาทีเต็มๆ สุดท้ายหูชีเยี่ยนล้มลงกับพื้นอย่างไม่ได้สติ ซีเหมินน่งเยว่เลยสั่งคนให้หยุดไว้ แล้วพูดเสียดแทงอย่างเยือกเย็นว่า “นี่พึ่งแค่เก้านาทีกับอีกยี่สิบแปดวินาที ฉันยังเตรียมตัวที่จะเล่นยันฟ้าสว่าง แกนี่มันใจไม่สู้เลยจริงๆ”

 

 

นิ้วมือทั้งสิบของหูชีเยี่ยนเลือนรางไปด้วยเลือด ข้อเท้าของเขาดูเหมือนว่าจะหัก เจ็บปวดจนทุรนทุราย แต่เขายังเงยหน้าขึ้นมาและยิ้มยั่วจนซีเหมินน่งเยว่โกรธมาก เตะไปที่เอวเขาอย่างเ**้ยมพร้อมด่า “กูเกลียดที่สุดเวลามึงหัวเราะ”

 

 

ตลอดชีวิตของเขาตกอยู่ในความเกลียดชังต่อหูชีเยี่ยน เมื่อเขายังเป็นเด็กถูกแม่ปลูกฝังจิตสำนึกความแค้นเอาไว้ว่าคนคนนี้แย่งพ่อของเขาไป ทำให้เขาต้องพลัดถิ่นอยู่อย่างยากลำบากและถูกคนอื่นเหยียดหยามรังแก

 

 

ต่อมามีเรื่องต้องประมือกับหูชีเยี่ยนอยู่หลายครั้ง เขาไม่เพียงแต่ไม่ได้เรื่อง กลับกันยังดูอ่อนแอกว่าเขาอีก โดยเฉพาะซีเหมินเวิ่นเสว่ เดิมทีควรจะเป็นน้องชายแท้ๆ ของเขา แต่กลับช่วยเหลือหูชีเยี่ยนซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนคนนี้…มีอะไรดี?

 

 

จนกระทั่งเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เขายอมวางแผนควักดวงตาทั้งสองข้างของเขาด้วยมือเขาเอง และใช้ก้อนหินทุบกระดูกนิ้วมือของเขาจนแหลกละเอียดและโยนเขาไปในเหมืองหยกพร้อมระเบิดเหมืองหยกให้สิ้นซากถึงได้สบายใจ แต่วิญญาณของเขาคนนี้ยังคงไม่ไปไหน ยี่สิบปีต่อมาเขาก็กลับมาอีกครั้ง

 

 

ไม่เพียงแต่เขายังมีชีวิตอยู่ ดวงตาทั้งคู่ของเขาก็กลับมาเปล่งประกาย มือเท้าของเขาก็ฟื้นสภาพ…การปรากฏตัวของหูชีเยี่ยน จุดประกายความแค้นในตัวเขาขึ้นมาอีกครั้ง อีกอย่างเขารู้แก่ใจดี แม้ว่าเขาจะไม่ลงมือ ไม่ช้าหรือเร็วหูชีเยี่ยนก็ต้องมาคิดบัญชีกับเขาแน่นอน

 

 

ตอนที่เข็มเจ็ดดาวปักเข้าไปบนศีรษะของหูชีเยี่ยน เขาก็ลำพองใจเป็นอย่างมาก คนคนนี้…แม้จะผ่านไปยี่สิบปี แต่เขาก็ยังตกเป็นรองในน้ำมือของเขา ครั้งนี้เขาจะให้มันได้รับรสการทรมานจนตาย และตายต่อหน้าเขาให้จนได้

 

 

เขาคิดไว้หมดแล้วว่าสุดท้ายจะฆ่าหั่นศพเขา ให้เขาได้ลิ้มลองการประหารชีวิตด้วยการตัดมือและเท้า แต่ก่อนที่ยังไม่ได้ฆ่าเขา คนคนนี้ก็ยังมีประโยชน์อยู่บ้าง

 

 

เพื่อหินซ่อมฟ้าในตำนาน เพื่อเคล็ดวิชาหลอมหยกม้วนนั้น…ตอนนี้เขายังเอาชีวิตมันไปไม่ได้ ในเมื่อเป็นศัตรูก็ไม่อาจให้มันตายได้ง่ายๆ หรอก

 

 

“คุณจินเหลียน ต่อมาพวกเราเล่นอะไรกันดีล่ะ?” ซีเหมินน่งเยว่จัดการกับหูฟังให้เข้าที่แล้วยิ้มยียวน ไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นกว่านี้แล้ว ยามที่หูชีเยี่ยนถูกทรมานจนสาหัส ลูกสาวสุดที่รักของเขาก็นั่งดูอยู่ข้างๆ ด้วยความร้อนอกร้อนใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

 

 

แน่นอนต้องขอบคุณเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

 

 

“ซีเหมินน่งเยว่ ฉันจะลงโทษคุณด้วยวิธีฆ่าหั่นศพ” ซีเหมินจินเหลียนพูดอย่างขุ่นเคือง

 

 

“จุ๊ๆ…” ซีเหมินน่งเยว่ส่ายศีรษะ “เหมือนกันเลย ฉันก็อยากทำเหมือนกัน เอาพ่อของเธอมาลองเป็นยังไงล่ะ?” ในระหว่างที่ปากลั่นวาจาออกไปเขาก็กระชากผมของหูชีเยี่ยนขึ้นและตบไปที่ใบหน้าของเขาถึงสองหน ยิ้มเย็นพูด “ที่ลูกสาวแกพูด อีกเดี๋ยวพวกเรามาเล่นเกมฆ่าหั่นศพกันดีไหม?”

 

 

หูชีเยี่ยนได้ฟังแล้วยิ้มเยือกเย็น “แกทำใจฆ่าฉันได้ลงคอเหรอ?”

 

 

“ใช่ ฉันทำใจไม่ได้ ดังนั้นเกมฆ่าหั่นศพเก็บไว้สุดท้ายแล้วกัน ฉันเคยบอกแล้วว่าจะให้แกต้องทนทุกข์ทรมานไปจนตาย…ถ้าฆ่าแกงแกแบบนี้มันก็หลบลู่แกเกินไป” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มเยือกเย็น “เด็กๆ เข้ามานี่หน่อย หยิบไม้ตะพดมาให้ฉันแล้วตีให้หนัก”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนมองอย่างไม่คลาดสายตา ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ระยะทางหลายพันไมล์…แม้ตอนนี้เธอรีบตามไปก็ไม่ทันอยู่ดี

 

 

แส้ ไม้ตะพด หัวแร้ง…เมื่อเห็นว่าหูชีเยี่ยนเจ็บจนเป็นลมทุกครั้ง ในที่สุดซีเหมินน่งเยว่ก็มีวิธีที่จะปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมา เวลาล่วงเลยถึงตีหนึ่งแล้ว เขาจะทรมานไปถึงเมื่อไหร่?

 

 

ซีเหมินจินเหลียนไม่กล้าวางสายวิดีโอคอลและไม่กล้าดู เธอกลัว…กลัวจนจะบ้าตาย เธอรู้ดีขอแค่เธอปิดวิดีโอคอลไป ไม่รู้ว่าหูชีเยี่ยนจะรับโทษยามมีชีวิตอะไรอีกก็ไม่รู้

 

 

จ่านป๋ายกับสวี่อี้หรานก็มองหน้ากันไปมา วิธีแบบนี้เกรงว่านอกจากซีเหมินน่งเยว่โรคจิตคนนี้แล้ว คงไม่มีใครคิดออกมาได้

 

 

“คุณจินเหลียน คลิปแบบนี้ครบเครื่องดีไหม ตื่นเต้นพอหรือเปล่า?” เสียงเย็นชาชั่วร้ายของซีเหมินน่งเยว่ดังผ่านลำโพง

 

 

ซีเหมินจินเหลียนกัดริมฝีปากจนถลอกไปหมดแล้ว เสียงก็แห้งกร้าน ในเวลานี้ไม่รู้จะทำยังไงดี เธอไม่กล้าด่าคน เธอรู้ขอแค่เธอพูดจาไม่น่าฟัง คนที่ได้รับโทษก็คือหูชีเยี่ยน

 

 

“วิดีโอน่าตื่นเต้นขนาดนี้ คุณจินเหลียนคงยังไม่นอนหรอกใช่ไหม? ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ คืนพรุ่งนี้เอาแบบนี้อีกครั้งไหมล่ะ?” ซีเหมินน่งเยว่หัวเราะพิลึกกึกกือ

 

 

“อย่า…” ซีเหมินจินเหลียนรีบเด้งตัวขึ้นถามอย่างตกใจ “คุณบอกมา คุณจะเอายังไง?”

 

 

“พาหยกแสงอาทิตย์มาที่พม่า พิกัดสถานที่คิดว่าเธอคงรู้แล้ว หูหวังที่แก่แล้วไม่รู้จักตายนั่นคงบอกเธอ แม้ว่าหูหวังจะไม่รู้ ปีศาจงูก็รู้” ซีเหมินน่งเยว่ยิ้มเย็น

 

 

“ตกลง” ซีเหมินจินเหลียนใช้มือกำหมัดแน่น “แต่หยกสีเขียวถูกขโมยไป ส่วนหยกอีกก้อนฉันก็ไม่รู้ที่มาที่ไป ฉันมีแค่ห้าก้อนเท่านั้นนะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด