ความลับแห่งจินเหลียน 329 ยาเป่า

Now you are reading ความลับแห่งจินเหลียน Chapter 329 ยาเป่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

รอยัล คาสิโนชั้นห้า ภายในห้องพักรับรองเดี่ยว หูชีเยี่ยนนั่งไขว้ห่างกระดิกขาจุดบุหรี่จงฮวามวนหนึ่ง จ่านป๋ายเยาะเย้ยถามว่าอยากลองซิการ์หรือเปล่า ผลสุดท้ายหูชีเยี่ยนกลอกตาขาวใส่เขาพร้อมบอกว่ายาสูบของจีนดีที่สุดแล้ว

 

 

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หูชีเยี่ยนมองสายที่โทรมาพลันขมวดคิ้วเล็กน้อยและกดปุ่มสีเขียวรับสาย

 

 

“สือโถว แกตายแล้วหรือยัง?” ลุงงูส่งเสียงกัดฟันกรอดผ่านมาทางสาย

 

 

“แกยังไม่ตาย ฉันจะยอมตายได้ยังไง?” หูชีเยี่ยนนั่งพิงโซฟาดับก้นบุหรี่ถาม “เป็นอะไร โกรธขนาดนั้นเลย?”

 

 

“ลูกสาวบุญธรรมที่แกยอมรับนักหนา ลอบฆ่าจินเหลียน แกไม่รู้เหรอไง?” ลุงงูแผดเสียงใส่ “ฉันบอกแกตั้งแต่แรกแล้ว ผู้หญิงนมใหญ่ไร้สมองไม่ได้เรื่องทั้งนั้น เหอะ”

 

 

“เดิมทีก็ไม่รู้ ตอนนี้รู้แล้วล่ะ” หูชีเยี่ยนพูดอย่างไม่สนใจใยดี “เรื่องแค่นี้ แกต้องโกรธขนาดนี้เลย?”

 

 

“แม่มึง” ลุงงูสบถด่าคำหยาบออกมาหนึ่งคำ “ในเมื่อแกไม่สนใจ แล้วทำไมแกต้องรับเลี้ยงแม่สาวนั่นด้วย แกว่าถ้าผู้หญิงชั้นต่ำคนนั้นเกิดทำร้ายจินเหลียนขึ้นมาจริงๆ ฉันจะคอยดูว่าแกจะทำยังไง?”

 

 

“ผู้หญิงคนนั้นทำร้ายจินเหลียนได้?” หูชีเยี่ยนยิ้มนิ่ง “ฉันเลอะเลือน หรือแกที่เลอะเลือน แกลืมไปแล้วหรือไง จินเหลียนเป็นคนที่พ่อเฒ่าของแกอบรมสั่งสอนมากับมือ คนทั่วไปจะทำร้ายเธอได้งั้นเหรอ? ส่วน ผู้หญิงคนนั้น ตอนแรกก็คิดจะให้เธอมีอนาคตกับเขาบ้าง ขอแค่เธอมีความก้าวหน้า พวกเราก็ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายไปหาซีเหมินน่งเยว่ วิธีการของตาเฒ่านั่นเ**้ยมโหดเกินไป ฉันก็กลัวเหมือนกัน”

 

 

“ผู้หญิงคนนี้ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว” ลุงงูพูดตรงไปตรงมา “ฉันว่า ปล่อยไปเถอะ”

 

 

“แกว่าปล่อยก็ปล่อย อย่าให้จินเหลียนรู้ก็พอ” หูชีเยี่ยนยิ้มอ่อน “เวลามีไม่มากแล้ว ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ใช้ไม่ได้ เรื่องที่เหลือแกก็จัดการแล้วกัน”

 

 

“ชีเยี่ยน แกแน่ใจนะ?” ลุงงูลังเลเล็กน้อยพร้อมถาม “ให้เป็นแบบนี้จะดีจริงๆ เหรอ?”

 

 

“แกจัดการให้สะอาดหน่อย อย่าให้จินเหลียนรู้ ไม่อย่างนั้นถ้าเธอเข้าใจผิด ผลที่ตามมาจะจัดการยาก” หูชีเยี่ยนถอนหายใจพูด “ฉันไม่อยากให้เธอต้องขุ่นเคืองกับแกในภายหลัง”

 

 

“ใช่แล้ว ฉันรักจินเหลียนมากกว่าแก เหอะ ตอนเธอยังเด็กใช้ให้แกไปจับนก แกก็ยังจับไม่ได้เลย เป็นคนแบบไหนกัน?” ลุงงูสบถด่า

 

 

“เธอเป็นเด็กผู้หญิงจะให้จับนกทำไม?” หูชีเยี่ยนยิ้มกว้าง

 

 

ลุงงูด่าพ้อไปอีกประโยคและวางสายไป

 

 

ในห้องพักรับรองอีกห้องที่ถูกปิดสนิทเหมือนกัน จ่านป๋ายถอดหูฟังออก ขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อยๆ เฒ่าหงส์คนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่? รู้ทั้งรู้ว่าลูกสาวบุญธรรมมีนิสัยแปลกประหลาด

 

 

แต่เขาคิดจะทำอะไรกันแน่? ลุงงูก็อยู่ที่ลาสเวกัสงั้นเหรอ? เขารักใคร่เอ็นดูจินเหลียนขนาดนั้น แต่ทำไมถึงไม่มาหาเธอล่ะ? 

 

 

จ่านป๋ายรู้สึกว่าด้วยความที่ลุงงูไม่มีลูกสืบสกุล ดังนั้นเขาเลยเลี้ยงจินเหลียนเหมือนเป็นลูกของตัวเอง หูชีเยี่ยนก็รักเอ็นดูลูกมาก แต่…พวกเขาพยายามปิดบังเธอทำอะไรอยู่กันแน่?

 

 

เสี่ยงอันตรายไปหาซีเหมินน่งเยว่? หูชีเยี่ยนกับซีเหมินน่งเยว่เป็นศัตรูที่ร้ายกาจอย่างสมบูรณ์แบบ?

 

 

จ่านป๋ายคิดๆ ดูไปมา แล้วต่อสายโทรไปหาสายหนึ่ง เสียงโทรศัพท์ดังอยู่นานถึงมีคนรับสาย

 

 

อีกด้านจ่านมู่ฮวาใช้โอกาสนี้โอ้อวดน้ำใจไมตรี “จินเหลียน ถ้าคุณดูเสร็จแล้ว ผมช่วยจ่ายเงินให้ดีไหม?”

 

 

“ไม่ต้อง ฉันจ่ายเองค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม “การพนันหินมีกฎกติกามาแต่ไหนแต่ไร ไม่ให้คนอื่นจ่ายเงินให้ ไม่อย่างนั้นถ้าผ่าออกมาแล้วชนะจะพูดกันยาก”

 

 

“ผมดูเป็นคนประเภททำเพื่อผลประโยชน์เหรอ?” จ่านมู่ฮวาสีหน้าเศร้าเสียใจ

 

 

ซีเหมินจินเหลียนมองเขาพร้อมพยักหน้า “เหมือนมาก”

 

 

จ่านมู่ฮวาลูบจมูกป่อยๆ และปิดปากไม่พูดไม่จาอย่างเจียมตัว ซีเหมินจินเหลียนเห็นแล้วหัวเราะเสียงดังถามขึ้น “แฟนของคุณล่ะ?”

 

 

“หา?” จ่านมู่ฮวาถามด้วยความมึนงง “ก็คุณยืนอยู่ตรงหน้าผมแล้วนี่ไง?”

 

 

“คุณนี่…” ซีเหมินจินเหลียนแอบยิ้ม “ฉันกลายเป็นแฟนของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่? ที่ฉันถาม หมายถึงดาราสาวอย่างคุณจางต่งเอ๋อร์ต่างหากล่ะ?”

 

 

“เธอมีถ่ายละคร ขึ้นเครื่องกลับไปวันนี้” จ่านมู่ฮวาไม่ได้ปิดบังและไม่อธิบายอะไร พูดตรงไปตรงมา “ถ่ายภาพยนตร์เทพธิดาหนี่วาซ่อมฟ้าครั้งนี้ เธอถึงกับต้องยกเลิกการถ่ายละครกับสองบริษัท นักข่าวสำนักพิมพ์เล็กๆ ต่างดูถูกเธอ บอกว่าการที่เธอมาร่วมงานกับพวกเราเท่ากับดิ้นรนหาที่ตาย”

 

 

“ทำไมล่ะ?” ซีเหมินจินเหลียนไม่เข้าใจ พวกเขาใช้เงินลงทุนก้อนใหญ่เพื่อเทพธิดาหนี่วาซ่อมฟ้า ตั้งแต่ผู้กำกับไปจนถึงนักแสดงก็เป็นที่หนึ่งในระดับโลกทั้งนั้น เสื้อผ้าเครื่องประดับก็ไม่ใช่แบบสุกเอาเผากิน

 

 

“มีสาเหตุหลายอย่าง” จ่านมู่ฮวาค่อนข้างเข้าใจวงการบันเทิงเป็นอย่างดี ส่ายศีรษะพูด “คุณลืมไปแล้วเหรอ เริ่มแรกพวกเราเตรียมตัวให้ดาราชายชื่อเสียงโด่งดังมาเป็นพระเอก แต่ดารามากท่าคนนั้นชอบอู้งาน คุณเลยให้ผมเป็นนักแสดงเสียเอง ดังนั้นข่าวลือเลยแพร่สะพัดออกไป”

 

 

“ไม่มีใครแสดงเก่งได้เท่าคุณแล้ว” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มกรุ้มกริ่ม “ฉันรู้ว่าฉันมองคนไม่ผิด ยิ่งไปกว่านั้น คุณหล่อเหลาขนาดนี้”

 

 

“ประโยคนี้ของคุณคือความหมายทางลบใช่ไหม?” จ่านมู่ฮวายิ้มๆ “ความจริงที่คุณด่าผมว่าปีศาจก็ไม่ใช่หนสองหนแล้ว…” พูดถึงเท่านี้เขาก็ถอนหายใจรัว “ความจริง หน้าตาแบบนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของผม อีกอย่างตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจรูปลักษณ์ภายนอกขนาดนั้น แต่ตั้งแต่ที่รู้จักคุณ ผมก็กังวลมากขึ้น ถ้าวันหนึ่งผมแก่ไปจะทำยังไง?”

 

 

“หา…คนเราต้องแก่กันทั้งนั้น” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจเบาๆ “คุณจะกังวลทำไม?”

 

 

“คุณแค่สนใจในใบหน้านี้ของผมใช่ไหม?” จ่านมู่ฮวายิ้ม

 

 

ซีเหมินจินเหลียนตกใจ เธอยอมรับว่าเธอสนใจแค่รูปลักษณ์ภายนอกอันหล่อเหลาของจ่านมู่ฮวา แถมคนๆ นี้ยังคบค้าสมาคมได้ไม่ยาก และยังชอบถูกคนอื่นทารุณ

 

 

จ่านมู่ฮวาเห็นสีหน้าท่าทางของเธอก็รู้คำตอบ ส่ายศีรษะยิ้มขื่นๆ “ความจริงนี่เป็นการหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ ผมกล้าพูดเลยว่าผมเองก็ไม่รู้ว่าทิ้งผู้หญิงไปมากเท่าไหร่ และผู้ชายเวลามองผู้หญิง ก็มองแค่ว่าใบหน้าสวยไม่สวย ผลสุดท้ายตอนนี้ผมก็โดนคนอื่นจับผิด”

 

 

“ฉันไม่ได้จับผิดคุณซะหน่อย” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มๆ “แค่มองคุณแล้วเจริญหูเจริญตา”

 

 

“จริงเหรอ?” จ่านมู่ฮวายิ้มถาม “หล่อกว่าหลินเสวียนหลานอีก?”

 

 

“ไม่รู้” ซีเหมินจินเหลียนแม้แต่คิดก็ไม่คิด พูดออกไปตรงๆ “คนเราเทียบกันไม่ได้ ฉันจะขึ้นไปดูหินหยกดิบด้านบน ไม่อยากดูผู้ชายหน้าตาดีแล้ว”

 

 

ก่อนที่จะขึ้นไปดูด้านบน ซีเหมินจินเหลียนดิ่งตรงไปที่ชั้นห้า เริ่มไปดูหินหยกดิบที่ยาเป่า จ่านมู่ฮวาเร่งตามเธอและกระซิบข้างหูถามว่า “จินเหลียน ผมตามลมได้ไหม?”

 

 

“คุณจะตามลมเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนกัดริมฝีปากพร้อมกระซิบถาม

 

 

“อืม” จ่านมู่ฮวาพูดจริงจัง “ผมเตรียมจะพนันแค่เงินเดิมพันต่ำสุดเท่านั้น

 

 

“จินเหลียน คุณไม่นำแล้วจะเล่นยังไง” จ่านมู่ฮวาใบหน้าไม่รับบุญ เขาเดาทางได้อยู่แล้ว ถ้าเขาลงตามลม ซีเหมินจินเหลียนอาจจะเล่นงานให้เขาแพ้จนไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน

 

 

ซีเหมินจินเหลียนหันหน้ากลับไปมองและแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน จ่านมู่ฮวายิ้มเจ้าเล่ห์ “จินเหลียน พวกเราปรึกษาหารืออะไรกันหน่อยไหม?”

 

 

“ปรึกษาอะไร?” ซีเหมินจินเหลียนถาม

 

 

“คุณลองดู ผมยาเป่าเอง กำไรสี่ต่อหกเป็นไง?” จ่านมู่ฮวายิ้ม “คุณหก ผมสี่”

 

 

“เงินครั้งที่แล้ว ดูเหมือนว่าคุณยังไม่ได้ให้ฉันหมดใช่ไหม?” ซีเหมินจินเหลียนยื่นมือไปข้างหน้าเขา “อยากจะร่วมมือกัน เพียงแต่ว่า…”

 

 

“เงินนั่นผมกลับไปเอาให้คุณ หุ้นของบริษัทหมิงฮุย จิวเวลนี่ ผมยังไม่เห็นด้วยที่จะขายออกไป” จ่านมู่ฮวาพูด

 

 

“หุ้นนั้นยังไงก็ได้ ส่วนเรื่องเงินคุณต้องเอามาให้ฉัน” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม

 

 

“อืม” จ่านมู่ฮวาพยักหน้า หลังจากที่งานนิทรรศการหยกครั้งที่แล้วสิ้นสุดลง ซีเหมินจินเหลียนชนะเยอะมากเหลือเกิน เงินสดที่เขาและเธอร่วมมือกันยังมีอีกหลายสิบล้านที่ยังไม่ได้โอนให้เธอ ซีเหมินจินเหลียนไม่ถาม เขาเลยแกล้งตีเนียน คิดไม่ถึงว่าเวลานี้เธอจะถามขึ้น

 

 

“ร่วมมือกันครั้งนี้ก็ได้” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม “เงินเดิมพันคุณออก ถ้าสุดท้ายพวกเราชนะ ก็โอนเข้าในบัญชีฉันก่อน สามต่อเจ็ด ฉันเจ็ด” เธอพูดพลางทำมือประกอบ

 

 

จ่านมู่ฮวาสีหน้าอมทุกข์ สามต่อเจ็ด? โหดไปมั้ย? แต่ในเมื่อซีเหมินจินเหลียนเสนอออกมาแล้ว เขาก็ไม่กล้าพูดอะไร ยิ่งไปกว่านั้นครั้งที่แล้วเป็นเขาเองที่ไม่ซื่อสัตย์

 

 

“ได้ คำไหนคำนั้น” จ่านมู่ฮวาพยักหน้าพูด

 

 

“คุณได้กำไรในการตามลม อย่าเที่ยวทำหน้าเหมือนถูกคนแกล้ง ไม่ได้ใช้ให้คุณมาร่วมมือกับฉันสักหน่อย” ซีเหมินจินเหลียนเห็นท่าทางของเขาแล้วอยากจะหัวเราะ

 

 

“จินเหลียน พวกเราพนันหนักๆ หน่อย มากสุดก็แค่ทำให้บริษัทชิงซื่อ จิวเวลรี่ล้มละลาย” จ่านมู่ฮวากระซิบพูด

 

 

“เกรงว่าจะไม่ได้มั้ง?” ซีเหมินจินเหลียนส่ายศีรษะพูด “ได้ยินว่าบริษัทชิงซื่อ จิวเวลรี่มีประวัติมายาวนานตั้งสามร้อยกว่าปีแล้ว กำลังทรัพย์หนาแน่น ดูจากงานพนันของชิงซื่อครั้งนี้ก็รู้แล้ว อีกอย่างยาเป่านี้ถ้าเงินเดิมพันของพวกเราเกินจากที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ ฉันว่าพวกเขาคงได้เล่นไม่ซื่อแน่ ตอนนั้นบริษัทหมิงฮุย จิวเวลรี่ก็เล่นแบบนี้”

 

 

จ่านมู่ฮวานิ่งอยู่นานถึงพูด “ดูจากขนาดและความอลังการ คงอยากจะเคลื่อนตัวเข้าอุตสาหกรรมหยกแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้น เกรงว่าการเผยแพร่สู่ตลาดโลกของบริษัทจินเหลียน จิวเวลรี่คงได้รับผลกระทบมากเหมือนกัน”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนทำได้แค่ยิ้มๆ มีการแข่งขันถึงได้มีแรงผลักดัน บริษัทชิงซื่อ จิวเวลรี่อยากใช้วิธีที่ไม่ถูกต้องใสสะอาดมาขจัดบริษัทจินเหลียน จิวเวลรี่ให้ล้ม ไม่มีทางเป็นไปได้เหมือนกัน

 

 

ซีเหมินจินเหลียนรับผิดชอบดูหินหยกดิบ ส่วนจ่านมู่ฮวาออกทุนยาเป่า ทั้งคู่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เดินรอบชั้นห้าหนึ่งรอบ จ่านมู่ฮวาลงไปห้าสิบล้านดอลลาร์ คิดว่าถ้าสามารถถูกได้ทั้งหมด คืนนี้เขาก็ร่ำรวยแล้ว

 

 

แต่ผิดคาดจากที่เขาคิดไว้ ซีเหมินจินเหลียนไม่อยากดูผลปาเป่า แต่ไปดูหินหยกดิบที่ชั้นสี่ต่อ เวลาห้าทุ่มโดยประมาณ เธอก็บอกว่าง่วงและอยากกลับไปพักผ่อนแล้ว

 

 

ไม่รู้ว่าจ่านป๋ายยุ่งอยู่กับอะไร ไม่อยู่ที่นี่ตลอด จ่านมู่ฮวาคิดๆ ดูแล้วเสนอตัวกลับไปส่งเธอ และบอกกับเธอว่าตนก็เช่าตึกอยู่ด้านหลังของเธอ และอยู่ด้วยกันกับหลินเสวียนหลาน

 

 

 ซีเหมินจินเหลียนโทรไปหาหูชีเยี่ยนบอกว่าตนเองรู้สึกง่วงแล้ว ขอกลับไปพักผ่อนก่อน และอวยพรให้เขาโชคดี ส่วนจ่านป๋ายเธอก็รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าตัวเขาหายไปที่ไหนทั้งคืน? สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกก็คือ หลินเสวียนหลานกับจ่านมู่ฮวาอยู่ด้วยกัน? ผู้ชายหน้าตาดีทั้งสองอยู่ด้วยกันนี่นะ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด