ความลับแห่งจินเหลียน 195 ฉันไม่เชื่อเรื่องอาถรรพ์

Now you are reading ความลับแห่งจินเหลียน Chapter 195 ฉันไม่เชื่อเรื่องอาถรรพ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซีเหมินจินเหลียนพูด “คุณป้าจะว่าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ ก่อนที่หินหยกก้อนหนึ่งจะผ่าออกมา ใครจะยืนยันได้ว่ามันจะเป็นหินจริงๆ?”

“แต่มันก็เป็นหินจริงๆ!” คุณแม่หนิงยิ้มขมขื่น “ชุ่ยฉินไม่ได้บอกกับหนูเหรอจ๊ะ? หากหินนี่สะดุดตาใครจริงก็คงต้องถูกคนขโมยไปแล้ว แต่นี่เหลือไว้ก้อนหนึ่งไม่มีใครซื้อ ป้าเลยเก็บไว้เป็นที่ระลึก”

“ถ้าหนูขอดูได้ไหมคะ” ซีเหมินจินเหลียนพูด

“ถ้าหนูอยากดูก็ดูได้ตามสบายเลยเลยจ้ะ” คุณแม่หนิงยิ้มอ่อนโยนและลุกขึ้นเดินไปทางห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็น ในเวลาเดียวกันก็เน้นย้ำให้หนิงชุ่ยฉินคอยดูแลแขก

ซีเหมินจินเหลียนเห็นคุณแม่หนิงเดินไปทางห้องครัวก็เลยรีบสอยเท้าออกไปข้างนอก เธอสนใจหินหยกขนาดใหญ่พิเศษเช่นนี้เป็นอย่างมาก

เมื่อยืนอยู่ใต้ต้นทับทิมในรั้วบ้าน ซีเหมินจินเหลียนก็รู้สึกสงสัยเหลือเกินทำไมคุณแม่หนิงและทุกคนต่างก็คิดว่าหินหยกที่พ่อของหนิงชุ่ยฉินซื้อกลับมาพวกนั้นเป็นแค่หินก่อสร้างที่ไม่มีราคา? นี่น่าประหลาดใจมาก ไม่ว่าใครก็ต่างพูดไว้ว่าเทพเจ้ายังยากที่จะตัดสินหยก ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก่อนที่จะทำการเจียระไนหินออกมา ทำไมถึงได้ไปตัดสินข้างเดียวว่ามันเป็นหินไร้ค่า?

แม้กระทั่งที่พ่อของหนิงชุ่ยฉินตายไปก็เพราะเหตุผลนี้?

“คุณซีเหมิน คุณอย่าดูเลย มันก็เป็นหินจริงๆ นะ” หนิงชุ่ยฉินพูด “ฉันพาคุณมากินข้าวที่บ้านไม่ใช่เพราะจะนำหินหยกก้อนนี้มาขายให้คุณ ฉันก็บอกได้เลยว่าแม่ของฉันก็ไม่ขายหรอกค่ะ”

“ทำไมล่ะ” ซีเหมินจินเหลียนถามแปลกใจ “แม่ของเธอก็บอกว่าอยากขายไม่ใช่หรอกเหรอ?”

“ตอนนั้นฉันกำลังเรียนอยู่…ที่บ้านเลยไม่มีเงิน แม่เลยคิดที่จะขายหินหยกก้อนนั้น แต่คิดไม่ถึงว่าพอไปหาลุงกับอาของฉันให้มาดู คุณรู้ไหมพวกเขาตีราคายังไง?” หนิงชุ่ยฉินแค่นเสียงใส่ด้วยใบหน้าไม่พอใจ

“อ้อ?” จ่านป๋ายพูด “เขาคงไม่คิดจะซื้อในราคาหินก่อสร้างหรอกใช่ไหม?”

“เหอะ!” หนิงชุ่ยฉินพูด “พวกเขาให้ราคาเหมือนหินห่อสร้าง หินหยกก้อนใหญ่ขนาดนี้ถึงไม่มีลักษณะของผิวอะไรปรากฏให้เห็น แต่อย่างน้อยก็ควรจะให้ราคาสักห้าพันหยวนใช่ไหมล่ะ? จากนั้นอาสามของฉันก็ทนดูไม่ไหวนำเงินมาส่งเสียฉันให้ไปเรียนแทน แม่บอกกับฉันว่าหินหยกก้อนนี้หากราคาต่ำกว่าหนึ่งล้าน เธอจะไม่ยอมขายเด็ดขาด”

ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วก็ได้แต่ยิ้ม หากเผยสีเขียวออกมาจริง หินหยกก้อนใหญ่เท่านี้ราคาคงไม่ต่ำถึงขนาดหนึ่งล้านหยวนแน่ นี่เป็นแค่คำพูดของคุณแม่หนิงตอนโกรธและพลั้งปากพูดออกไปทั้งนั้น

“ฉันขอดูหน่อยนะ” ซีเหมินจินเหลียนพูดและพยายามหยิบแว่นขยายและไฟฉายออกมาจากในกระเป๋า เธอเอื้อมมือไปสัมผัสผิวหินหยก ไม่แปลกใจเลยที่ไม่มีใครต้องการ ผิวของมันก็หยาบกร้านกว่าที่คิด ผิวสีเหลืองแดงไม่เป็นที่สะดุดตาใคร แต่สิ่งที่เธอแปลกใจก็คือในเวลานี้เธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่าแหล่งกำเนิดของหินหยกก้อนนี้มาจากที่ไหน

“คุณหนิง ตอนนั้นพ่อของเธอไปซื้อหินก้อนใหญ่ขนาดนี้มาจากที่ไหนเหรอ” ซีเหมินจินเหลียนถามออกไปตรงๆ โดยที่ไม่อยากคิดเองให้มากความ

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” หนิงชุ่ยฉินส่ายหน้าพูด “ตอนนั้นฉันยังเด็ก เหมือนว่าจะไม่ได้มาจากแหล่งที่มาที่ถูกต้องอะไร ได้ยินว่าสินค้าไม่ได้ถูกต้องตามกฎหมาย น่าจะเป็นหินหยกที่แอบลักลอบเข้ามา”

“ไม่ใช่ว่าพ่อของคุณไปซื้อสินค้าที่พม่าหรอกเหรอ?” จ่านป๋ายถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “แล้วไปซื้อสินค้าลักลอบมาได้ยังไง”

“ฉันเคยได้ยินลุงของฉันพูดว่า เป็นเพราะพ่อเห็นแก่ราคาถูกเลยคิดว่าหินก่อสร้างของคนอื่นเป็นของดีและซื้อกลับมา พวกลุงของฉันไม่ได้ชอบอะไรมันมากหรอก แต่พ่อของฉันไม่ฟัง จากนั้นมีคนในแนะนำลูกค้าให้มาดูสินค้า เริ่มแรกลูกค้ามาดูแค่ไม่กี่คน ส่วนใหญ่มาดูเสร็จก็จากไป ภายหลังมีลูกค้าคนหนึ่งมาดู ดูไปดูมาจึงพูดกับคนในว่า…คุณไม่อยากทำก็พูดมาตรงๆ อย่ามาแนะนำสินค้าแบบนี้ให้ผม” หนิงชุ่ยฉินส่ายหน้าพูด

“อ้อ?” จ่านป๋ายขมวดคิ้ว ลูกค้ารายนี้ก็เกินไป ถึงจะไม่ซื้อก็ไม่น่าจะไปจู่โจมคนถึงขนาดนี้

หนิงชุ่ยฉินครุ่นคิดไปมาและพยายามรวบรวมคำพูด “ตอนนั้นพ่อของฉันเลยไปเช่าร้านที่ถนนหยกโบราณแทน มีเครื่องเจียระไนเสร็จสรรพ ได้ยินคำพูดแบบนั้นแล้วทนไม่ไหว เขาเลยนำหินหยกก้อนที่ซื้อมาดีที่สุดเจียระไนต่อหน้าคนอื่น ขอแค่เผยสีเขียวออกมาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีใครซื้อ”

“ไอเดียดี!” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า

หนิงชุ่ยฉินส่ายหน้าพูด “ดีอะไรกันล่ะ? ผลของการเจียระไนต่างพิสูจน์ให้ผู้คนเห็นว่าสิ่งที่พ่อฉันซื้อมาทั้งหมดนั้นเป็นแค่หินก่อสร้าง และหินหยกที่เขาว่าดีที่สุดยังไม่มีแม้แต่สีเขียวเลย มันก็เป็นแค่หิน…”

ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจออกมา นี่เป็นโศกนาฏกรรมอย่างไม่ต้องสงสัย…แต่แค่หินหยกก้อนเดียวก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าหินหยกทั้งหมดในนี้เป็นหินก่อสร้างที่ไม่ใช่ของดี

“เพราะเป็นการเจียระไนต่อหน้าผู้คน ต่อมาธุรกิจก็ยิ่งย่ำแย่ตกต่ำลง เงินที่บ้านหดหาย ตอนนั้นยืมเงินมาไม่น้อย เจ้าหนี้ส่วนมากต่างมาทวงเงิน…” หนิงชุ่ยฉินพูดอีกครั้ง

“เฮ้อ…” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจ

“พ่อเลยตกอยู่ในสถานการณ์กดดัน ได้แต่เจียระไนหินหยกติดต่อกันถึงสิบกว่าก้อน เป็นหินที่เขาชอบพอและซื้อมาด้วยเงินก้อนโตทั้งนั้น แต่ราวเหมือนเห็นผี หินหยกทั้งหมดหลังจากที่เจียระไนเสร็จเป็นแค่หินสีขาวเปล่าๆ ในนั้นมีก้อนหนึ่งเผยสีเขียวและแต่ก็เป็นแค่สีเขียวติดเปลือก…” หนิงชุ่ยฉินพูด “เรื่องหลังจากนั้นฉันคงไม่ต้องพูดหรอกนะ พวกคุณก็น่าจะรู้”

“พ่อรับไม่ได้กับความกดดันที่เกิดขึ้นเลยจากไป เหลือพวกเราสองแม่ลูก พร้อมกับหนี้ก้อนโต” หนิงชุ่ยฉินพูดต่อ

“คนแบบนี้มีเยอะ ชอบซื้อตามกระแส ความจริงนี่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าหินหยกที่พ่อของเธอซื้อกลับมาจะเป็นหินก่อสร้างทั้งหมด” ซีเหมินจินเหลียนกล้ำกลืนพูดขึ้น หากเปลี่ยนเป็นเธอ เธอคงได้นำหินหยกทั้งหมดมาเจียระไนดูให้รู้ไปเลย บางทีหากเขาเจียระไนเพิ่มขึ้นอีกก้อน อาจจะเผยสีเขียวก็ได้

“ไม่เพียงเท่านี้นะ” หนิงชุ่ยฉินส่ายหน้าพูด “ฉันได้ยินอาของฉันบอกว่า ลุงของฉันไม่เชื่อเรื่องชั่วร้ายนี้ หลังจากที่พ่อจากไปแล้ว แม่ฉันก็เลยอยากจะใช้หนี้ ได้แต่นำหินหยกที่เหลือทั้งหมดขายออกไปด้วยราคาต่ำ อา คุณปู่และคุณลุงเลือกไปบางก้อน อาของฉันสุ่มเจียระไนหินหยกที่ดูลักษณะดีไปสิบกว่าก้อน…แต่ผลสุดท้ายก็ไม่ผิดไปจากที่คาดไว้ ทั้งหมดต่างเป็นหิน”

ซีเหมินจินเหลียนเข้าใจดี ในเมื่อเป็นอย่างนี้พ่อของหนิงชุ่ยฉินเลยเก็บหินหยกพวกนั้นให้เสมือนกับหินก่อสร้างตามข้างทาง ไม่มีใครต้องการ

ไม่แปลกใจเลยว่าวันนี้ตอนที่หนิงชุ่ยฉินเห็นเธอซื้อหินหยกก้อนนั้น ก็เลยดื้อรันคิดว่าเธอถูกอากลั่นแกล้ง…ที่แท้ก็มีช่วงเวลาแบบนี้นี่เอง ความจริงแล้วหินหยกเหล่านี้ถึงแม้จะไม่มีก้อนไหนที่เผยสีเขียวออกมาเลยก็ช่างเถอะ แต่นี่ยังสร้างกับดักให้ใครก็ต่างกลัว เลยไม่มีใครต้องการ

“ฉันไม่เชื่อในอาถรรพ์ ฉันจะลองดู” ซีเหมินจินเหลียนพูดขึ้น เมื่อเห็นหินหยกก้อนใหญ่ก้อนนี้ เธอก็มีความรู้สึกแปลกๆ อะไรบางอย่างที่ทำให้เธอคิดถึงตอนแรกที่เคยดูสินค้าที่ร้านเถ้าแก่โจว…หินหยกที่เคยขายชั่งตามกิโลพวกนั้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด