ความลับแห่งจินเหลียน 275 – 1 ผ่าหยก

Now you are reading ความลับแห่งจินเหลียน Chapter 275 - 1 ผ่าหยก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หูชีเยี่ยนหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องครัว เริ่มศึกษาความอร่อยของเขาต่อไป ส่วนสวี่อี้หรานนั่งเบื่อหน่ายเอือมระอาอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกเพื่อรอคอยให้ซีเหมินจินเหลียนกลับมา

 

 

 แต่ไม่รู้ว่าเขามาเร็วเกินไปหรือเปล่า ไปเผชิญหน้ากับตาลุงไกลปืนเที่ยงที่ให้ความรู้สึกว่าหนึ่งวันเหมือนหนึ่งปีดีกว่า เพราะอย่างไรเขาก็นั่งมาพักใหญ่จนเริ่มเบื่อแล้ว เขาถอนหายใจพึมพำก่อนจะเดินไปยังห้องครัว…

 

 

“คุณครับ คุณแซ่อะไรเหรอครับ?” สวี่อี้หรานยืนอยู่หน้าประตูและยิ้มถาม เฮ้อ มีคนคุยด้วยก็ดีกว่ารอแห้งเ**่ยวอยู่คนเดียว การรอใครสักคนมันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อจริงๆ เลย

 

 

“ฉันแซ่หู!” หูชีเยี่ยนหันหน้ามามองเขาแวบหนึ่ง

 

 

“หู[1]จากคำว่าเหลวไหลน่ะเหรอครับ?” สวี่อี้หรานขมวดคิ้วพูด

 

 

“หูจากคำว่าเหลวไหลนั่นแหละ!” หูชีเยี่ยนพยักหน้าพูด

 

 

สวี่อี้หรานจ้องมองใบหน้าของเขา เขาไม่ได้แก่จริงๆ ถ้าไม่ได้แต่งตัวเชยเฉิ่ม เขาน่าจะอายุไม่เกินสามสิบด้วยซ้ำ หรือไม่อาจจะหนุ่มกว่านั้น?

 

 

 “คุณอายุเท่าไหร่เหรอครับ” สวี่อี้หรานถามอีกครั้ง

 

 

ครั้งนี้หูชีเยี่ยนขี้เกียจพูดอะไรออกมาแล้ว เขานำไก่ตุ๋นเห็ดต้นชาไปตุ๋นต่อด้วยไฟอ่อน ในใจบ่นพึมพำว่า  เฒ่าปีศาจคนนั้นรับลูกศิษย์มาดีนี่  สำนักของพวกเขาแต่ไหนแต่ไรไม่คบค้าสมาคมกับพวกคนรวยไม่ใช่เหรอ? หรือครั้งนั้นจะทำให้พวกเขากลัว? แต่คิดดูแล้วก็มีความเป็นไปได้ แม้แต่เฒ่าปีศาจครั้งนั้นดวงก็เกือบถึงฆาต ถ้าไม่ใช่ใช้วิธีแกล้งตาย สำนักนี้ก็คงต้องสิ้นซากไปแล้ว สิ้นซากก็สิ้นซากสิ สำนักแบบพวกเขาไม่ควรจะมีอยู่ตั้งแต่ตอนแรกแล้ว

 

 

“ฮะ…คุณเกี่ยวข้องอะไรกับคุณซีเหมินเหรอครับ” สวี่อี้หรานถามอีกครั้ง คฤหาสน์ของซีเหมินจินเหลียนปกติแล้วจะไม่ชอบต้อนรับคนนอกเข้ามา แต่นี่กลับเชิญเชฟมาทำกับข้าว? ถ้าเธอเชิญเชฟมาทำกับข้าวจริงๆ คงเชิญมาตั้งนานแล้ว ทำไมต้องรอถึงวันนี้ด้วย?

 

 

“เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับนายเรอะ?” หูชีเยี่ยนถามกลับ

 

 

สวี่อี้หรานปิดปากลงอย่างว่าง่าย แต่สายตาก็ยังคงมองไปที่ใบหน้าของหูชีเยี่ยน ทำไมคนคนนี้พลังหยินถึงได้มากขนาดนี้นะ?

 

 

“ผู้อาวุโสต้องการความช่วยเหลือไหมครับ” สวี่อี้หรานพูดพลาง อีกมือก็กดนิ้วลงไปจับชีพจรของหูชีเยี่ยน

 

 

ปฏิกิริยาตอบกลับของหูชีเยี่ยนไวกว่าที่เขาคิด ฝ่ามือพลิกกลับมาและส่งพลังดีดไปที่กระดูกฝ่ามือของเขา สวี่อี้หรานตกใจรีบถอยหลังหนึ่งก้าว ผู้อาวุโสท่านนี้ฝีมือร้ายกาจจริงๆ ไร้ความปราณี เมื่อสักครู่ถ้าเขาดีดตรงนิ้วจริงๆ นิ้วมือของเขาทั้งสองนิ้วคงต้องเจ็บหนักไปไม่ต่ำกว่าครึ่งเดือน

 

 

“นายจะทำอะไร?” หูชีเยี่ยนถาม

 

 

“คุณลุง ความจริงผมเป็นหมอครับ!” สวี่อี้หรานยังคงไม่ล้มเลิกความคิด ใบหน้าเปื้อนยิ้มพูดออกไป “ผมดูจากสีหน้าของคุณไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่ ให้ผมจับชีพจรให้ดีไหมครับ ผมก็จะไม่รับเงินแม้แต่น้อย”

 

 

“จินเหลียนพูดไม่ผิด นายก็คือหมอมองโกลคนนั้น!” หูชีเยี่ยนยิ้มเยือกเย็น

 

 

“ผมไม่ใช่สัตว์แพทย์นะครับ!” สวี่อี้หรานรีบอธิบายออกไปในทันที

 

 

หูชีเยี่ยนกลอกตาขาวใส่เขา “เจรจาอะไรกันสักอย่างเป็นอย่างไร?”

 

 

“ขอให้คุณบอกมาเถอะครับ!” สวี่อี้หรานไม่ได้โง่ คนคนนี้ไม่ได้ง่าย เขาไม่กล้าทำอะไรหุนหันพลันแล่น

 

 

“ช่วยฉันหลอกจินเหลียนหน่อย แล้วฉันจะบอกนายว่าเธอชอบดอกไม้อะไร เป็นอย่างไร?” หูชีเยี่ยนยิ้ม

 

 

“หา…” สวี่อี้หรานคิดอยู่นานแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา “ท่านก็อายุปูนนี้แล้ว ยังต้องหลอกลูกสาวอีกเหรอครับ”

 

 

“อีกเดี๋ยวถ้าเธอถามนาย นายก็บอกไปว่าฉันปกติทุกอย่างเป็นไง?” หูชีเยี่ยนพูด นี่เป็นเป้าหมายที่ซีเหมินจินเหลียนเรียกสวี่อี้หรานมาทานมื้อเย็นที่บ้านในวันนี้

 

 

“ข้อตกลงนี้ผมไม่ทำครับ!” สวี่อี้หรานส่ายหน้าพูด “แม้ว่าผมอยากจะจีบเธอ แต่ผมก็ไม่สามารถหลอกเธอได้ นอกเสียจาก…”

 

 

“นอกเสียจากอะไร?” หูชีเยี่ยนถาม

 

 

“คุณจะให้ผมจับชีพจรจริงจัง!” สวี่อี้หรานสีหน้าเคร่งขรึม

 

 

“ถ้าอย่างนั้น เปลี่ยนข้อตกลงใหม่?” หูชีเยี่ยนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

 

 

“ผมไม่รู้ว่าระหว่างเราจะมีข้อตกลงไหนที่ดี?” สวี่อี้หรานพูด

 

 

 “ซีเหมินเวิ่นเสวี่ย” หูชีเยี่ยนยิ้มเยือกเย็น

 

 

สวี่อี้หรานได้ยินใบหน้าก็พลันถอดสีอย่างเห็นได้ชัด รีบก้าวถอยหลังไปหลายก้าวและใช้กรอบประตูช่วยค้ำยันตัวเอง คิดอยู่นานถึงพูดขึ้น “คุณ…คุณเป็นใคร?”

 

 

“นายไม่เคยถามจินเหลียนเหรอว่าทำไมเธอถึงแซ่ซีเหมิน?” หูชีเยี่ยนยิ้มเย็น และเดินเข้าไปใกล้เขาทีละก้าว…

 

 

สวี่อี้หรานอ้าปากกว้างหายใจหอบ รู้สึกว่าหายใจลำบากขึ้นมา พลังหยินที่แผ่กระจายออกมาบนตัวเขาในตอนนี้ทำให้เขาไม่สามารถสูดลมหายใจรับออกซิเจนได้เลย คนคนนี้…เป็นใครกันแน่?

 

 

ทำไมซีเหมินจินเหลียนถึงแซ่ซีเหมิน? เอ่อ…ในโลกใบนี้ก็มีคนแซ่เหมือนกันตั้งเยอะไม่ใช่เหรอ สวี่อี้หรานเงยหน้ามองเขาด้วยความสับสน…

 

 

“ซีเหมินน่งเย่ว์ยังไม่ได้ตายใช่ไหม?” หูชีเยี่ยนถาม

 

 

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ห่วงใยครับ อาจารย์…สบายดี!” สวี่อี้หรานกลืนน้ำลายอึกใหญ่และพยักหน้าพูด

 

 

“บอกเขาว่าซ่อนตัวให้ดีล่ะ ไม่อย่างนั้นไม่ช้าหรือเร็วข้าต้องเอาเขามาป่นกระดูกเป็นผงอัฐิแน่!” หูชีเยี่ยนกัดฟันกรอด

 

 

“ชีเยี่ยนชังอู…คุณคือหูชีเยี่ยน…” สวี่อี้หรานรีบวิ่งล้มลุกคลุกคลานไปที่ห้องรับแขก ขาทั้งสองข้างอ่อนปวกเปียกและฟุบลงบนโซฟา พระเจ้า! ไม่ใช่ว่าเขาตายไปแล้วเหรอ? ตอนนั้นที่อาจารย์เป็นพันธมิตรกับตระกูลอวิ๋น สมัครใจร่วมมือกัน…ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด นี่ไม่เหมือนกับวิธีแกล้งตายที่อาจารย์ใช้ปกติ เขาไม่น่าจะมีชีวิตอยู่ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?

 

 

“คุณหู!” สวี่อี้หรานลุกขึ้นยืนและส่ายศีรษะพูด “ผมไม่ค่อยรู้เรื่องราวในตอนนั้น แต่หวังว่าหากท่านมีความแค้นอะไรก็มาลงกับผมเถอะครับ คุณซีเหมินเป็นคนนอก เธอไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น” เขาจะให้เรื่องราวในตอนนั้นมาเอี่ยวโยงกับซีเหมินจินเหลียนไม่ได้ แต่ปัญหาก็คือทำไมซีเหมินจินเหลียนถึงแซ่ซีเหมินล่ะ?

 

 

“ซีเหมินเวิ่นเสวี่ยอยู่ที่ไหน?” หูชีเยี่ยนถาม

 

 

“อาจารย์งูน่าจะอยู่ที่เซี่ยงไฮ้เหมือนกันครับ!”

 

 

“ดี นายช่วยถ่ายทอดคำพูดฉันไปให้เขาด้วย จะให้เขาออกมาด้วยตัวเอง หรือจะให้ฉันเชิญออกมา?” หูชีเยี่ยนขมวดคิ้วพูด

 

 

“คุณจะให้เขามาที่นี่?” สวี่อี้หรานถาม

 

 

สวี่อี้หรานพยักหน้า “ฉันให้เวลาเขาหนึ่งวัน ให้เขามาด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไร้ความปราณี ตอนนั้นซีเหมินน่งเย่ว์ทำอะไรกับฉันไว้ ฉันจะแก้แค้นคืนที่นายเป็นหลายเท่า!” พูดจบเขาก็หมุนตัวเดินเข้าไปในห้องครัว

 

 

สวี่อี้หรานไม่พูดจาว่ากล่าวสักประโยค ชีวิตคนเราเต็มไปด้วยความแปรผันไม่มีที่สิ้นสุด! เขาไปหาเรื่องใครไว้? ทำไมโทษนี้ถึงมาคิดบัญชีที่เขา ช่างเถอะ มาลงที่เขายังดีกว่าต้องมาลงที่ซีเหมินจินเหลียน แต่น่าแปลก…ทำไมเธอถึงแซ่ซีเหมินอย่างนั้นหรือ?

 

 

กริ่งประตูดังขึ้น ไม่นานซีเหมินจินเหลียนเดินเข้ามาเห็นสวี่อี้หราน จึงยิ้มทักทายเขา “คุณมาเร็วเชียว ฉันนึกว่าต้องให้เลยหกโมงก่อนคุณถึงมา!”

 

 

สวี่อี้หรานถอนหายใจ ถ้ารู้ตั้งแต่แรกเขาคงรอให้เลยหกโมงก่อนแล้วค่อยมา!

 

 

“จินเหลียนกลับมาแล้วเหรอ ซื้ออะไรมาบ้าง” หูชีเยี่ยนโผล่หน้าออกมาในห้องครัว

 

 

“ซื้อมาให้คุณทั้งนั้นแหละครับ” จ่านป๋ายเดินตามซีเหมินจินเหลียนอยู่ด้านหลัง ในมือของเขาถือถุงน้อยใหญ่หลายใบ “พนักงานที่ห้างวันนี้ยิ้มจนปากหุบไม่ลงแล้ว…”

 

 

“ฉันไม่ได้คิดที่จะอยู่เซี่ยงไฮ้นานสักหน่อย” หูชีเยี่ยนถอนหายใจพูดขึ้น ของบางอย่างถึงเธอจะซื้อมา เขาก็ไม่ได้ใช้

 

 

“คุณเอากลับไปใช้ก็ได้นี่คะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม “แม้ว่าคุณจะไม่ขาดเหลือของพวกนี้ แต่ของที่คุณมีก็คือของของคุณ ที่ฉันซื้อแสดงว่าเป็นของฉัน”

 

 

หูชีเยี่ยนไม่ได้พูดอะไร นำมันกลับไป? เอากลับไปที่ไหน?

 

 

“ยังมีอีกนะครับ คุณลุงหู วันนี้ผมขอพูดหน่อยเถอะ คุณช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ไหมครับ เธอดูแล้วไม่สบายใจเลย” จ่านป๋ายพูดในห้องครัว

 

 

 “เสื้อผ้าตัวนี้ของฉันตั้งใจทำเป็นพิเศษเลยนะ” หูชีเยี่ยนพูด “ต้องรู้ว่าเสื้อผ้าใหม่ทำง่าย แต่ถ้าจะทำให้เสื้อผ้าใหม่กลายเป็นเก่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย…”

 

 

“คุณตั้งใจเอาเสื้อใหม่มาทำให้เก่าเหรอคะ?” ซีเหมินจินเหลียนไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ดี คนประเภทไหนกันเนี่ย?

 

 

หูชีเยี่ยนยิ้ม และกำชับกับจ่านป๋ายว่า “ช่วยเอาของพวกนี้ไปไว้ในห้องฉันด้วย จากนั้นก็เข้ามาช่วยในครัว”

 

 

 

 

[1] หู (胡) เป็นแซ่หนึ่งของคนจีน โดยที่เวลาแนะนำตัว คนจีนมักจะอธิบายเพิ่มเติมว่าแซ่ของตนเองใช้อักษรตัวไหน โดยการอธิบายว่ามาจากคำว่าอะไร เนื่องจากหลายๆ คำถึงแม้จะออกเสียงเดียวกัน แต่เขียวต่างกัน คำว่าหูในที่นี้ ตัวละครยกคำว่า 胡说 ที่แปลว่าพูดเหลวไหลหรือไร้สาระ มาอธิบาย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด